เอวา เมื่อเก้าปีก่อน ฉันได้กระทำเรื่องอันผิดมหันต์ลงไป มันไม่ใช่หนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตฉัน แต่เมื่อโอกาสที่จะได้ครองคู่กับชายผู้เป็นที่รักตั้งแต่วันเยาว์มากองอยู่ มีหรือที่ฉันจะไม่ไขว่คว้าเอาไว้ เวลาพัดผ่านไปอย่างรวดเร็วหลายปีจนฉันสุดจะทนกับชีวิตคู่ซึ่งไร้รักเช่นนี้ มีใครบางคนบอกว่าหากรักคนคนนั้นจริง ก็ควรปล่อยให้เขาก้าวเดินต่อไป ฉันรู้ตัวดีมาตลอดว่าเขาไม่เคยมอบหัวใจให้หรือมองว่าฉันเป็นตัวเลือกเลยด้วยซ้ำ เขามีเพียงผู้หญิงคนนั้นอยู่เต็มทั้งสี่ห้องหัวใจและรังเกียจการทำผิดบาปของฉันยิ่งนัก แต่ฉันก็มีสิทธิ์ได้รับความรักเช่นกัน โรแวน เมื่อเก้าปีก่อน ผมตกหลุมรักจนตามืดบอด ผมเสียความรักนั้นด้วยการทำผิดพลาดที่สุดในชีวิตและระหว่างนั้นเอง ผมก็สูญเสียคนที่รักที่สุดในชีวิต ผมรู้ดีว่าต้องรับผิดชอบต่อความผิดนั้นด้วยการแต่งภรรยาที่ผมไม่ต้องการ อยู่กับผู้หญิงที่ไม่ใช่คนรัก ตอนนี้เธอปั่นปวนชีวิตผมอีกครั้ง ด้วยการหย่าร้างทุกอย่างมันวุ่นวายมากยิ่งขึ้นเมื่อหญิงผู้เป็นดั่งหัวใจของผมกลับมาที่เมืองนี้ คำถามหนึ่งผุดขึ้นมา หญิงคนไหนกันเล่าที่เป็นคนนั้นของหัวใจ? หญิงที่ผมหลงรักหัวปักหัวปำเมื่อหลายปีก่อน? หรือหญิงที่เป็นอดีตภรรยาของผม ผู้ที่ผมไม่เคยต้องการแต่กลับแต่งงานกับเธอ?
view more"นี่โรคะ" เอวาพูดเสียงดัง"ลูกจะต้องบริสุทธิ์และไร้เดียงสาไปจนถึงวันที่แก่และผมหงอกจนหมดหัวนั่นแหละ จบเรื่อง" พูดจบเขาก็เดินกระทืบเท้าออกไป ความคิดที่ว่าไอริสจะมีเซ็กส์ในวันหนึ่งเห็นได้ชัดว่ารบกวนจิตใจเขาไม่น้อยเอวาหันมาหาฉัน "ฉันไม่เข้าใจเลยนะ! กะอีแค่คิดว่าไอริสจะไปมีอะไรกับใครมันกวนใจเขามากขนาดนี้ได้ยังไง ขนาดเรายังมีอะไรกันตลอดเลย? ฉันก็เป็นลูกสาวของคนอื่นเหมือนกันนะและเขาก็ยังทำแบบนั้นกับฉันเลย!"ฉันหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะลูบแขนเธอเป็นการปลอบโยน "ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันคิดว่าผู้ชายน่ะ เวลาพูดถึงลูกสาวของตัวเองก็เป็นเหมือนกันหมดแหละ เกเบรียลก็พูดอะไรทำนองเดียวกันเกี่ยวกับลิลลี่เหมือนกันนะ... อีธานก็จะตอบสนองแบบเดียวกัน และรีเปอร์ก็จะเหมือนกันถ้ามีลูกสาว พ่อของฉันเคยพูดว่าเขาจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ฉันเลยด้วย และฉันพนันได้เลยว่าถ้าเธอถามพ่อตัวเอง เขาก็คงคิดแบบเดียวกันตอนที่เธอเกิดมานั่นแหละ ให้ตายสิ ฉันรู้ว่าเขาคงเกลียดความคิดที่ว่าเธอและโรแวนมีอะไรกัน ในหัวของเขา เขาคงอยากจะเชื่อว่าโนอากับไอริสถูกนกกระสาคาบมาส่งมากกว่าแหละ"เอวาหัวเราะ รอยขมวดคิ้วบนใบหน้าหายไป "ฉันเกือบลืมบอกเธอ
ฮาร์เปอร์ฉันมองไปรอบ ๆ พยายามตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือเปล่า เราย้ายมาอยู่ที่บ้านใหม่วันนี้ และเราตัดสินใจจัดงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่กัน มันไม่ได้เป็นงานใหญ่โตอะไรมากนัก มีเพียงเพื่อนสนิทและครอบครัวเท่านั้น"ทุกอย่างพร้อมแล้วใช่ไหมคะ?" ฉันเอ่ยถามแม่ครัวของเราเธอตื่นตาตื่นใจกับบ้านหลังนี้มากและตกหลุมรักห้องครัวเข้าเต็มเปา เหมือนที่ฉันเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ห้องครัวเป็นความฝันของแม่ครัวทุกคน ถ้าไม่ใช่เพราะเธอต้องกลับบ้านไปหาครอบครัว ฉันสาบานได้เลยว่าเธอคงนอนอยู่ที่นี่ ฉันหมายถึงในห้องครัวเลย ไม่ใช่ในตัวบ้าน"ค่ะ" เธอส่งยิ้ม ดวงตาเป็นประกายด้วยความสุขและความตื่นเต้น "ทุกอย่างพร้อมแล้วค่ะ"อย่างที่ฉันบอก เราไม่ได้ต้องการงานเลี้ยงใหญ่โตขนาดนั้น มีเพียงพ่อแม่ของเกเบรียล โรแวนและเอวา ทราวิสและเล็ตตี้ คอนนี่และรีเปอร์ โนอา ไอริส กันเนอร์ และหนูเซียร่าเสียงกริ่งประตูดังขึ้น และฉันออกจากห้องครัวไปเปิดประตู ลิลลี่ยังแต่งตัวไม่เสร็จ และเกเบรียลหายตัวไปไหนก็ไม่ทราบได้เมื่อไม่กี่วันก่อน ฉันรวบรวมความกล้าและลองตรวจครรภ์ดู ทั้งสิบครั้งผลออกมาเป็นบวกทั้งหมด แต่ฉันยังไม่ได้บอกเกเบรี
ผมประสานมือวางบนเคาน์เตอร์ครัว ไม่รู้ว่าจะแสดงท่าทีหรือพูดอะไรตอบกลับลูกไปดี“แล้วลูกรู้สึกยังไงล่ะ?” ในที่สุด ผมก็ถามเขาหลังจากเงียบไปสักพัก"ผมไม่รู้ครับ ผมไปคุยกับโนอามาด้วยนะพ่อ และเขาเล่าว่าเธอขอโทษเขาเรื่องที่เข้าแทรกกลางระหว่างน้าโรแวนกับน้าเอวาน่ะครับ"นั่นเป็นข่าวใหม่สำหรับผมเลย ดูเหมือนว่าเอมม่ากำลังเดินสายขอโทษคนที่เธอทำผิดอยู่ รวมถึงพวกเด็ก ๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะมองข้ามไป"เมื่อสองสามอาทิตย์ก่อน เธอขอโทษพ่อด้วยเหมือนกันนะ" ผมสารภาพ“แล้วพ่อรู้สึกยังไงล่ะครับ”“นี่ลองเล่นเป็นพ่ออยู่เหรอไง?” ผมหัวเราะเล็กน้อย “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรานะ แต่พ่อเป็นห่วงลูกมากกว่าน่ะสิ”เขาถอนหายใจ "ผมไม่รู้ครับ ผมยังโกรธเธอและรู้สึกแย่มาก ๆ อยู่เลย หน้าอกมันรู้สึกเจ็บตอนคิดถึงความเจ็บปวดที่เคยรู้สึก ตอนผู้หญิงคนนั้นเขาไม่ได้ต้องการผม""พ่อเข้าใจนะลูก และลูกก็มีสิทธิ์ที่จะโกรธด้วย เรื่องที่ลูกเจ็บปวดมันไม่มีใครมาว่าลูกได้หรอกนะ เข้าใจไหม? แม้ว่าจะไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงก็ไม่เป็นไรหรอก อารมณ์อาจจะวุ่นวายและขัดแย้งกันได้ในบางครั้ง"ผมพยายามอธิบายให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมไม่อยากให้กันเนอ
ผมดูวิดีโอที่คินลีย์ส่งมาพร้อมหัวเราะเบา ๆ เพราะความตลก เธอส่งวิดีโอสัตว์ตลก ๆ เรื่อยเปื่อยมาให้ผม เพราะเธอรู้ว่ามันทำให้ผมหัวเราะออกมาได้ ไม่เคยมีวันไหนเลยที่จะนั่งว่าง ๆ โดยที่ไม่ได้รับวิดีโอจากเธอ ถ้าพูดตามตรง ผมตั้งตารอที่จะเห็นวิดีโอพวกนั้นในห้องแชทองเราความสัมพันธ์ระหว่างเราสมบูรณ์แบบมาก นอกจากเอมม่าแล้ว ผมไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน แน่นอนว่าสมัยมหาวิทยาลัย ผมก็เลือกจะก้าวไปข้างหน้าแต่มันกลายเป็นการนอนกับผู้หญิงไม่เลือกหน้ามากกว่าการตัดใจจากเอมม่าอย่ามองผมแบบนั้น ผู้หญิงทุกคนที่ผมนอนด้วยรู้สถานการณ์ต่าง ๆ ดี พวกเธอรู้ว่าไม่มีอะไรระหว่างเราได้ และมันเป็นแค่กิจกรรมฆ่าเวลา ผมทำให้มันชัดเจนมากก่อนขึ้นเตียงกับพวกเธอ พวกเธอเข้าใจและยอมรับ ชีวิตเรียบง่ายจนกระทั่งเอมม่ากับผมมาเจอกันอีกครั้งหลังจากนอนกับเอมม่าครั้งแรก ผมก็ยุติกิจกรรมแบบความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนไป จากนั้นเอมม่าก็ตั้งครรภ์และคุณก็รู้เรื่องที่เหลือ ผมไม่ได้อยู่กับผู้หญิงคนอื่นเลยนับตั้งแต่คืนแรกกับเธอ ผมรู้ว่ามันน่าสมเพช แต่ถ้าให้แก้ตัวแบบโง่ ๆ ก็คงเป็นเพราะผมกำลังมีความรักอยู่ ไม่ว่าหัวใจผมจะเจ็บปวดขนาดไหนแต่ผมค
"รู้สึกยังไงที่ได้เจอกันเนอร์คะ?" คุณหมอมีอาเอ่ยถาม ดวงตาเฉียบแหลมเช่นเคย เธอจ้องมองฉันราวกับว่าเธอสามารถมองทะลุเข้าไปในจิตวิญญาณได้เนื่องจากฉันกลับไปทำงานแล้ว เราจึงต้องปรับตารางเวลาให้เข้ากับตารางเวลาใหม่ของฉัน การเข้ารับบำบัดส่วนใหญ่จึงถูกกำหนดไว้ระหว่างสี่โมงครึ่งถึงหกโมงเย็นฉันรู้อยู่แล้วว่าคำตอบคืออะไร ฉันไม่ต้องคิดเกี่ยวกับมันเลย การคิดถึงวันนั้นกลับทำให้น้ำตาคลอเบ้าอีกครั้ง"ใจสลายค่ะ" ฉันแทบจะกระซิบคำพูดออกมารู้สึกเหมือนว่าพรั่งพรูออกมาจากภายใน จากส่วนลึกที่สุดของจิตวิญญาณ ฉันพยายามบังคับเสียงสะอื้นที่เหมือนกำลังจะหลุดออกมา แต่มันไร้ประโยชน์ มันหลุดออกมาจากตัวฉันพร้อมความเจ็บปวด ทำให้ฉันหายใจไม่ออก"ยังไงคะ?" คุณหมอมีอาเอ่ยถามพร้อมกับยื่นกระดาษทิชชู่ให้ฉันฉันรับมันมาเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาบนใบหน้า มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยเพราะมันยังคงไหลเหมือนแม่น้ำเชี่ยว ฉันโกรธน้ำตานี้ที่ไหลออกมาไม่หยุด จึงขยำทิชชู่อย่างหงุดหงิดก่อนโยนมันลงในถังขยะ"ฉันเห็นมันในดวงตาของลูกค่ะ ว่าลูกเกลียดฉัน" ฉันเริ่มพูด ยอมพ่ายแพ้ปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้า "มีความโกรธมากมายสะท้อนอยู่ในดวงตาคู่นั้น มีคว
กันเนอร์โผล่ขึ้นมาจากทางเข้าเล็ก ๆ ที่ฉันไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน เขานิ่งไปเมื่อสายตามองเห็นฉันไม่มีเด็กคนไหนทำให้ฉันประหม่าขนาดนี้มาก่อน ฉันซวนเซเล็กน้อยเมื่อดวงตาที่เฉียบคมซึ่งคล้ายกับของฉัน จ้องมองฉันอยู่"คุณมาทำอะไรที่นี่?" เขาคำรามพร้อมคิ้วขมวดมุ่นพร้อมกำมือไว้ข้างลำตัว ฉันสั่นสะท้านกับสายตาไม่เป็นมิตรของเขา ซึ่งเต็มไปด้วยความโกรธและความขมขื่นฉันกำลังจะอ้าปากพูด แต่ไม่มีอะไรออกมา หัวใจเต้นแรงและฉันก็หายใจลำบากเนื่องจากรู้สึกเหมือนกำลังหายใจไม่ออก"กะ…กันเนอร์" ในที่สุดฉันก็เอ่ยชื่อเขาออกมา แต่คำพูดก็ไม่เป็นคำเลยเมื่อฉันพยายามหาอะไรมาพูดกับเขาเขาคิ้วขมวดเข้าหากันและกรามก็ขบแน่น ฉันจ้องมองเด็กชายที่มองฉันด้วยความขมขื่นมากมาย ทำให้รู้ว่าฉันทำร้ายเขามากแค่ไหน ฉันสร้างบาดแผลให้มากมายขนาดไหนไม่มีเด็กคนไหนควรเต็มไปด้วยความโกรธและความขมขื่นมากขนาดนี้ ฉันทำแบบนี้กับเขา การกระทำของฉันทำให้ความไร้เดียงสาและความบริสุทธิ์แปดเปื้อน ฉันเกลียดเสียจริง ฉันเกลียดการที่ได้เห็นอารมณ์เหล่านั้นปรากฎอยู่ภายในดวงตาของเด็กน้อยฉันลูบหน้าอกเมื่อความเจ็บปวดบีบคั้นเข้ามาในหัวใจดวงนี้จนล้น ฉันหายใจไ
เอมม่าฉันลงจากรถด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้าและหมดแรง รองเท้าส้นสูงทำให้ฉันเจ็บเท้ามาก และฉันก็อยากจะถอดมันออกแล้วนอนลงบนโซฟาหรือเตียงเดี๋ยวนี้เลยวันนี้เป็นวันแรกของการกลับไปทำงาน และฉันบอกเลยว่ามันวุ่นวายมาก ฉันลืมไปแล้วว่าการเป็นทนายความต้องทำอะไรบ้าง ลืมไปแล้วว่ามันวุ่นวายแค่ไหน คุณยืนหรือนั่งอยู่บนเก้าอี้จมอยู่กับเอกสารที่คุณต้องอ่านเป็นชั่วโมง ๆ เลยก็ว่าได้ส่วนใหญ่แล้วฉันจะนั่งอ่านคดีของลูกค้าและหลักฐานต่าง ๆ จนกระทั่งอ่านจะหมด ฉันรู้สึกเหมือนจะเสียสติ เหมือนกับว่าฉันกำลังจะเป็นบ้าในที่สุดแม้ว่าวันแรกจะเหนื่อยล้าแค่ไหน การกลับไปทำงานก็เติมเต็มตัวตนของฉันด้วยพลังงานบางอย่างที่ฉันอธิบายไม่ได้จริง ๆ เป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่ฉันรู้สึกมีชีวิตชีวา รู้สึกสดชื่น รู้สึกเหมือนชิ้นส่วนที่ขาดหายไปภายในตัวฉันกำลังเข้าที่เข้าทางในที่สุดพูดตามตรงการได้กลับไปทำงานนั้นรู้สึกดีเป็นอย่างมากเลย ฉันคิดถึงการทำงานมาก ฉันไม่รู้เลยว่าฉันคิดถึงการเป็นทนายความมากแค่ไหนจนกระทั่งฉันกลับไปทำงานในวันนี้ฉันล็อครถ คันที่แม่ส่งมาให้ฉันหนึ่งวันหลังจากย้ายมาอยู่ที่นี่ ฉันเดินไปที่ประตูพร้อมความเหนื่อยล้า ม
ฉันรู้สึกขยะแขยงจริง ๆ ที่ได้ฟังเธอในตอนนี้ ใครกันที่กล้าทำแบบนี้กับคนอื่นได้ลงคอ? กาเบรียลเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกนะ สิ่งที่พวกเขาทำช่างโหดร้ายอย่างยิ่ง"ที่เหลือคุณก็รู้หมดแล้วล่ะค่ะ" เธอหยุดชะงักก่อนจะพูดต่อ "ตอนคุณขึ้นบัญชีดำฉันกับพอล ชีวิตก็ลำบากมาก พวกเราอยู่ที่นี่ไม่ได้เพราะหางานทำไม่ได้ ต้องหนีไปต่างประเทศแต่ก็เลิกกันหลังจากนั้นไม่นาน ฉันขอโทษจริง ๆ ค่ะเกบ ฉันขอโทษที่ฉันหลอกใช้คุณและไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่เราเคยมี หลังจากที่เราเลิกกัน ฉันถึงได้รู้ความรู้สึกที่มีต่อคุณ แต่มันสายเกินไปแล้ว คุณเกลียดฉันและไม่อยากเจอฉันอีก"หัวใจของฉันเต้นระรัวและลมหายใจก็เสียดแทงขึ้นทุกขณะ แม้ว่าอากาศจะหนาวเย็น แต่เหงื่อก็ไหลลงมาตามแผ่นหลัง ฉันกลัวเหลือเกินว่าเขาจะเลือกเธอ นี่เป็นโอกาสที่จะได้อยู่กับรักแรกของเขา ฉันพยายามควบคุมไม่ให้ร่างกายสั่นเทาขณะรอฟังว่าเขาจะพูดอะไร ฟังคำตอบของเขาที่มีต่อคำสารภาพของเธอ ยังไงซะรักแรกมันก็ยากที่จะลืม"เรื่องพวกนั้นไม่สำคัญแล้วครับ" เขาก็พูดหลังจากเงียบไปสักพักนั่นหมายความว่าอะไร? เขาหมายความว่ามันไม่สำคัญเพราะเขายังรักและอยากให้อภัยเธอแล้วหรือเปล่า?ฉ
เกเบรียลตัวแข็งทื่อ ยืนนิ่งอยู่กับที่ มือเขาบีบมือของฉันแน่นจนรู้สึกเจ็บไปหมด ฉันเงยหน้ามองเขาพบว่าดวงตาเขาเบิกกว้างพร้อมสีหน้าตื่นตกใจฉันมองข้ามไหล่ของเขาไป จากนั้นจึงพบหญิงสาวผมแดงกำลังจ้องมองเขาพร้อมน้ำตาคลอเบ้า ดูเหมือนเธอจะกำลังสะเทือนอารมณ์ ฉันไม่เข้าใจพฤติกรรมของเธอหรือของเกเบรียลเลยเกเบรียลค่อย ๆ คลายความแข็งทื่อและหันกลับมา แต่การเคลื่อนไหวยังค่อนข้างแข็งทื่อราวกับหุ่นยนต์"แอชลีย์?"คราวนี้ฉันเองที่เป็นฝ่ายยืนนิ่งอยู่กับที่ หัวใจเต้นแรงเมื่อชื่อของเธอดังเข้ามาปะทะโสตประสาทและประมวลผลในสมอง ฉันก้าวถอยหลังและพยายามดึงมือออกจากเกเบรียล แต่เขาไม่ปล่อยกลับบีบแน่นยิ่งขึ้นเรือนผมปล่อยของเธอลงมาด้านหลังเป็นลอนเงางามจนทำให้ฉันนึกถึงพระอาทิตย์ตกดิน ดวงตาสีเขียวเบิกกว้างและแสดงออกถึงอารมณ์มากมาย เธอมีขนตายาวที่เข้มกว่าสีผมล็กน้อย โหนกแก้มสูงและคมชัดโดดเด่น และริมฝีปากอวบอิ่มทำให้ใบหน้าดูโดดเด่น เธอสูงกว่าฉัน น่าจะสูงประมาณห้าฟุตแปดหรือเก้านิ้วได้ เธอมีรูปร่างเพรียวบาง เอวเล็กฉันจ้องมองความงามตรงหน้า ดื่มด่ำกับภาพลักษณ์ของเธอ ไม่แปลกใจเลยที่เกเบรียลเลือกเธอ ผู้หญิงคนนี้สวยมาก ค
ฉันก้าวลงมาจากรถพร้อมเดินมุ่งไปยังคฤหาสน์ตรงหน้า มือสั่นสะท้านและเหงื่อชุ่มร่างกายฉันเองยังทำใจเชื่อไม่ได้เลยว่าความสัมพันธ์เดินมาถึงจุดจบ ทำใจไม่ได้ว่าท้ายที่สุดฉันก็หย่าร้างกับเขา กระเป๋าข้างกายมีหลักฐานยืนยันการหย่าครั้งนี้ ฉันเดินทางมาที่นี่เพื่อนำเอกสารฉบับนี้มามอบให้เขาและรับโนอากลับขณะเดินเข้าไป ฉันเดินตามเสียงฟังไม่ได้ศัพท์ไปและยั้งฝีเท้าไว้เมื่อเข้าใกล้ห้องครัวตอนนี้เองฉันได้ยินเสียงนั้นถนัดหูและเนื้อความนั้นได้กระชากฉันลงไปสู่ห้วงเหวอันเย็นเยียบ“ผมยังไม่เข้าใจอยู่ดีครับ พ่ออยู่กับผมกับแม่ไม่ได้หรือครับ?” เจ้าหนูโนอาเอ่ยถามผู้เป็นพ่อฉันยกสั่นเทากุมหน้าอก หัวใจทลายลงเพราะเสียงแสนเศร้าของเด็กน้อย ไม่ว่าเป็นสิ่งใดฉันพร้อมจะทำให้เขาเสมอ แต่การหย่าร้างนี้กลับหลีกเลี่ยงไม่ได้การแต่งงานครั้งนี้เป็นสิ่งผิดพลาด ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเราเป็นสิ่งที่ผิดพลาดทั้งหมด เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ฉันได้ตาสว่างพร้อมเห็นความจริง“โนอา ลูกน่าจะรู้อยู่แล้ว แม่กับพ่อไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว” เสียงนุ่มของชายคนนั้นเอ่ยออกมาช่างน่าแปลกเสียจริง ตลอดช่วงเวลาที่เราครองคู่กัน เขาไม่เคยแม้แต่พูดจา...
Mga Comments