แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
โรแวน

ผมเห็นจังหวะที่อารมณ์ของเอวาเปลี่ยนเป็นเฉยชา วินาทีที่แสงแห่งความอบอุ่นก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นความหนาวเหน็บทำให้ผมรู้สึกสะท้านถึงขั้วหัวใจ

“คุณมาทำอะไรที่นี่?” น้ำเสียงของเธอปราศจากซึ่งอารมณ์ใด ขณะที่ผมฝืนแทรกตัวเข้าไปด้านในบ้าน

ราวกับว่าเอวากำลังสนทนากับชายแปลกหน้าอยู่ ราวกับว่าผมเป็นแค่ฝุ่นผงไร้ค่าสำหรับเธอไปเสียแล้ว ผมจ้องมองใบหน้านั้นโดยอ่านสิ่งใดไม่ออก ผมอยู่กับผู้หญิงคนนี้มาเกือบสิบปีแต่ตอนนี้กลับหาคำดี ๆ เพียงสักคำพูดกับเธอยังไม่ได้

ผมมองแขนของเธอที่ยังคล้องอยู่บนสายห้อย จุดประสงค์วันนี้คือมาตรวจดูอาการของเธอและรับโนอา เพราะนี่เป็นช่วงสุดสัปดาห์ซึ่งเป็นเวลาของผมกับลูกชาย

ภาพของชายหนุ่มก่อนหน้าที่เห็นว่าเดินออกไปผุดขึ้นมา ผมก็คิ้วกระตุก ต้องเป็นชายคนนี้แน่ที่เอวามอบรอยยิ้มให้ เมื่อตระหนักได้ดังนี้ ผมอดไม่ได้ที่กัดฟันกรอด

“ผู้ชายคนนั้นมาทำอะไรที่นี่?” ผมเอ่ยถามแทนที่จะตอบเธอพร้อมทั้งเก็บซ่อนอารมณ์เดือดดาลที่หาเหตุผลที่มาไม่ได้เอาไว้

ผมรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและยังเป็นคนที่เข้ามาช่วยชีวิตเอวาเอาไว้ แต่เขาก็ล้ำเส้นเกินไป ผมไม่ชอบผู้ชายคนนั้นและไม่ต้องการใ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
พอตอนเอวาไม่อยากหย่าก็ทำท่าทีเย็นชาใส่ พอเอวาขอหย่า กลับไม่อยากหย่าซะงั้น
goodnovel comment avatar
อาษิรญา อินทนนท์
สนุกสนุกมากมาก
goodnovel comment avatar
สุภาวดี เข็มทอง
อ่านกำลังสนุก และกำลังตื่นเต้นน่าค้นหา
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ธุลีใจ   บทที่ 9

    “แล้วคุณอยากให้ผมพูดอะไรละ? ในเมื่อผมไม่เคยหลอกลวงคุณเลย คุณเองก็รู้มาตลอดนี่ว่าผมรักเธอ” เอวาขว้างผ้าเช็ดจานด้วยความโกรธเกรี้ยว “รู้แบบนั้นแล้วก็กล้ามาแตะต้องร่างกายของฉันอีกหรือ? ให้ตายเถอะ ฉันโคตรจะเกลียดคุณเลย ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าคุณมีดีอะไรฉันถึงได้หลงคุณนักหนา ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าต้องมานั่งเสียเวลาชีวิตขนาดนี้ไปทำไมกัน”ผมกัดฟันกรอด แต่ละคำของเธอทวีความเดือดดาลของผมขึ้น แน่นอนเราทั้งสองหลับนอนด้วยกันช่วงแต่งงาน แต่นั่นเป็นความสุขและสนุกทางกายเท่านั้น ผมให้คำสัตย์สาบานไว้ตอนแต่งงาน แม้ว่าผมจะไม่ได้รักเธอแต่ผมก็ไม่ได้ผิดคำสัตย์สาบานด้วยการนอกใจเธอ“ผมไม่ได้มาคุยเรื่องอดีต ผมมาเพราะอยากคุยเรื่องโนอา” ผมพูดเปลี่ยนประเด็นเรื่องราวเริ่มเลยเถิดไปไกลแล้ว ผมจำเป็นต้องพูดประเด็นที่ผมเดินทางมาที่นี่ และรีบจากไปก่อนจะทำหรือพูดอะไรที่ผมต้องมานั่งเสียใจภายหลังชื่อของโนอาเสมือนเครื่องเตือนสติหญิงสาว ดังนั้นเอวาจึงไม่ตอบโต้กลับ เพียงเดินไปเปิดตู้และนำขวดยาออกมา เธอเปิดขวดยาด้วยมือเพียงข้างเดียวและกินยาเข้าไปสองเม็ดเมื่ออ่านฉลากยาผ่านสายตา ผมจึงตระหนักได้ว่านั่นคือยาบรรเทาอาการปวด“แขนคุ

  • ธุลีใจ   บทที่ 10

    เอวา“ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีครับแม่ว่าทำไมผมต้องไปด้วย อยู่กับแม่แบบนี้ไม่ได้หรือ?” โนอาบ่นอุบ ความบูดบึ้งปรากฎบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเด็กน้อยไม่พอใจตั้งแต่วินาทีที่ฉันอธิบายกับลูกว่าต้องไปอยู่กับคุณปู่คุณย่าช่วงหนึ่งลูกชายกระโดดโลดเต้นในแวบแรก และกลายเป็นหน้าหงอยเมื่อพบว่าทั้งพ่อและแม่ตนไม่ได้ไปด้วยทางโรงเรียนของโนอาเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี แม้แต่คุณครูก็เข้าใจเช่นกัน ดังนั้นจึงตั้งใจส่งบทเรียนและการบ้านผ่านทางแม่เพื่อให้เด็กชายไม่ห่างหายการเรียนนานจนเกินไป “แม่บอกแล้วนี่ลูก นี่เป็นวันหยุดพักผ่อนแบบปู่ย่ายายหลานไง…ดังนั้น ก็ต้องมีแค่ลูก คุณปู่ คุณย่าแล้วก็คุณยายไปไงจ๊ะ”หลังจากพูดคุยกับกับหัวหน้าทีมคุ้มกัน ได้รับการยืนยันว่าทุกคนจะไปเก็บซ่อนตัวแถบเมืองชายทะเล“ลูกจะไปเที่ยวทะเลด้วยนะ ลูกขอให้พ่อกับแม่พาไปเที่ยวไม่ใช่เหรอ?” ฉันเสริมคำบรรยายด้วยรอยยิ้มแสนหยอกเย้าคำว่า ‘ทะเล’ สามารถล่อซื้อจิตใจเด็กชายได้โดยง่าย คำบ่นอุบต่าง ๆ นานาก่อนหน้าเงียบลงทันตาโนอานั้นชื่นชอบทะเลและมหาสมุทรเป็นชีวิตจิตใจ เด็กน้อยชอบทะเลมากเสียจนครั้งหนึ่งเคยร้องไห้งอแงทั้งอาทิตย์ หล

  • ธุลีใจ   บทที่ 11

    โรแวนก้าวเข้ามาประชิดร่างฉัน แววตาเขาแผดเผาและรูจมูกขยับอย่างโมโหจัด ฉันยังคงยืนกรานไม่ยอมให้เขามาข่มขู่ฉันได้“ผมไม่ไป ยกเลิกอูเบอร์แล้วก็ย้ายก้นไปขึ้นรถผมเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มกัดฟันกรอด ราวมีพายุพัดโหมในแววตามือของฉันกำแน่นเป็นสัญญาณแห่ความเดือดดาลที่กำลังปะทุ ยามปกติฉันคงยอมถอยเพราะไม่ต้องการยั่วโทสะเขา แต่ตอนนี้ฉันไม่สนแล้ว“เลิกมั่นหน้ามั่นใจสักที…คิดว่าใหญ่มาจากไหนมิทราบ? ฉันไม่ใช่ลูกหมาที่คุณจะมาชี้นิ้วออกคำสั่งได้นะ” ฉันเริ่มขึ้นเสียงเพราะเดือดจัดหลายปีที่ผ่านมาฉันยอมให้เขาบงการฉันมาตลอด หลายปีที่ผ่านมาฉันยอมเงียบปากเพียงเพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีที่คิดว่าเราทั้งสองมีต่อกัน กระนั้นฉันได้รับสิ่งใดตอบแทนมาเล่า? ความอดทนและอดกลั้นช่วยนำสิ่งใดมาบ้าง? ไม่มีเลยเว้นเพียงความทุกข์กายและทุกข์ใจ“เอวา…” โรแวนเรียกชื่อฉันเพื่อเตือนสติ“พ่อกับแม่ทะเลาะกันอีกแล้วหรือครับ?” น้ำเสียงเล็กของโนอาสลายบรรยากาศตึงเครียดตรงหน้าฉันหันไปเจอกับสายตาแสนเศร้าของเด็กน้อย ให้ตายสิ! ฉันไม่ต้องการให้โนอาเห็นเราทั้งสองเป็นเช่นนี้ ลูกไม่ควรเห็นเราทะเลาะกันตลอดเวลา“เปล่าจ้ะ เราไม่ได้ทะเลาะกัน เราแค่

  • ธุลีใจ   บทที่ 12

    “แม่คุณถามถึงคุณอยู่นะ พักหลังมานี้ได้คุยกับท่านบ้างหรือเปล่า?”ฉันส่งเสียงรำคาญใจ “คุณพูดมากไม่หยุดจนประสาทฉันเริ่มกินแล้วนะโรแวน ช่วยทำเหมือนฉันไร้ตัวตนต่อไปเหมือนที่เคยทำมาตลอดได้ไหม?”มือชายหนุ่มกำพวงมาลัยแน่น ฉันเห็นเขาขบกรามเขม็ง รู้สึกได้เลยว่าเขาหัวเสียไม่น้อย อาจเป็นเพราะฉันไม่ได้เป็นลูกไก่ในกำมือเขาแล้วก็เป็นได้ กระดานพลิกแล้วและเขาไม่ชอบเลยสักนิดฉันเคยทุ่มสุดตัวเพื่อให้ชายหนุ่มมีความสุข พยายามเป็นอย่างที่เขาต้องการ พยายามเป็นเช่นเอมม่า ทำทุกอย่างเพื่อให้กลายเป็นดั่งศรีภรรยาที่เขาหมายปอง ตอนนี้ฉันไม่สวมบทบาทนั้นแล้วและดูเหมือนเขาจะไม่พอใจกับการที่ฉันเลิกเป็นเบี้ยล่างอย่างมาก ฉันยกยิ้มการปั่นประสาทชายหนุ่มทำให้บางสิ่งในจิตใจบรรเทาลงได้นับจากนั้นตลอดการเดินทางก็เป็นไปอย่างเงียบเชียบ เราทั้งสองนั่งนิ่งในเบาะนั่งของตนขณะที่โนอาหัวเราะกับการ์ตูนอย่างมีความสุข หนึ่งชั่วโมงให้หลังเราจึงเดินทางถึงสนามบิน ฉันจูงมือโนอาเอาไว้และโรแวนก็ทำหน้าที่พนักงานขนกระเป๋า“ผมตื่นเต้นอยากเห็นทะเลจังครับ” โนอาเอ่ยพร้อมกระโดดโลดเต้นอย่างเริงร่า“ถ้างั้นก็ไปเลยไหม…พวกเราไม่ถ่วงเวลาลูกแล้ว” โรแ

  • ธุลีใจ   บทที่ 13

    หนึ่งสัปดาห์แล้วที่โนอาเดินทางไป ฉันรู้สึกเหมือนจับต้นชนปลายถูกเมื่อไร้ลูกชายอยู่ข้างกาย หนึ่งสัปดาห์คงเป็นช่วงเวลายาวนานที่สุดแล้วที่เราสองแม่ลูกห่างกัน ฉันไม่อายเลยหากบอกว่ารับมือได้ไม่ดีนักโนอาเป็นดั่งต้นไม้ใหญ่ หากปราศจากเขา ฉันก็ไร้สิ่งค้ำจุนจิตใจ ราวกับเรือลำน้อยไหลไปตามกระแสน้ำเมื่อขาดสมอ ทุกวันฉันเฝ้ารอรับสายจากลูกเพราะเป็นสิ่งเดียวที่สงบจิตใจฉันได้ โทรศัพท์พร้อมเสียงหวานใสของลูกทำให้ฉันไม่สติแตกการติดต่อจากโรแวนขาดหายไปนับตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อนที่สนามบิน เศษเสี้ยวจิตใจฉันยังโหยหาเขาอยู่ แต่ฉันรู้ดีว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด ระหว่างเราไม่มีอนาคตใดและฉันคงทำใจใช้ชีวิตเคียงคู่กับชายที่ไม่มีใจให้ฉันไม่ได้ สรุปก็คือตอนนี้ทุกอย่างเงียบสงบ ไม่มีใครติดต่อมาเพื่อแจ้งข่าวสารใดกับฉันเลย เพราะก็ไม่มีเหตุยิงกันหรือว่าไม่ได้มีใครตายอีก ก็สบายใจได้เปราะหนึ่งว่ากลุ่มฆาตกรนั้นคงไปหลบซ่อนตัวแล้วทันใดนั้น ฉันเดินชนกับใครสักคนจนตื่นจากห้วงความคิด“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่ทันมองเห็นคุณ” ฉันกล่าวคำขอโทษออกไปพลางก้มเก็บหนังสือของตนที่หล่นเกลื่อนฉันเพิ่งเลิกงานและอยู่ในระหว่างทางกลับบ้าน วันน

  • ธุลีใจ   บทที่ 14

    เราทั้งสองยืนอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง ฉันยืนขยับเท้าไปมาอย่างทำตัวไม่ถูก อีธานจ้องมองฉันด้วยดวงตาสีฟ้าสดใสราวกับว่าจะมองทะลุไปถึงจิตวิญญาณก็มิปาน ฉันจึงหลบเลี่ยงสายตาจับจ้องคู่นั้น“อีธาน” เสียงเรียกของบางคนดังขึ้น ฉันจึงหันไปตามทิศทางนั้น พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกคนกำลังกวักมือเรียกอยู่“กำลังไป” อีธานตะโกนตอบรับ จากนั้นหันกลับมาหา “ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะครับคนสวย คงจะได้เจอกันอีกใช่ไหม?“ค่ะ” ฉันตอบด้วยเสียงแผ่วเบาจากนั้นชายหนุ่มจึงโอบกอดฉันโดยไม่ทันให้ได้ตั้งตัวก่อนเดินจากไป ฉันยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นได้แต่คิดว่าเมื่อครู่คืออะไรกันแน่ฉันใช้เวลาสักครู่หนึ่งดึงสติกลับมาและเริ่มก้าวเดินต่อไปพลางคิดว่าจำเป็นต้องซื้อของใช้เสียหน่อย ฉันจึงตัดสินใจเดินไปยังร้านขายของเพราะไม่ได้ห่างจากโรงเรียนมากนักตอนนี้ฉันไม่ได้ใช้ผ้าคล้องแขนเล้วแม้ว่าแขนข้างที่ได้รับบาดเจ็บจะรู้สึกเจ็บหรือปวดอยู่บ้าง แต่แขนก็ยังใช้งานได้ปกติ สิ่งของที่จำเป็นต้องซื้อแล่นเข้ามาในความคิดรวมถึงปฏิสัมพันธ์ระหว่างฉันกับอีธานวิธีที่เขาปฏิบัติต่อฉันช่างแตกต่างกับโรแวนอย่างที่ฉันไม่รู้จะบอกว่าอย่างไร ไม่เคยมีใครเอ่ยชมว่าฉันสวยสัก

  • ธุลีใจ   บทที่ 15

    “วันนี้เป็นไงบ้าง ลูกรัก?” ฉันเอ่ยถามโนอาโทรศัพท์ถูกหนีบอยู่ระหว่างหัวไหล่และกกหูขณะง่วนอยู่กับการทำความสะอาด ฉันพยายามคุยกับลูกชายให้ได้มากที่สุด แม้ว่าจะทุลักทุเลอยู่บ้างแต่หัวไหล่ของฉันก็อาการดีขึ้นมาก“อย่างเจ๋งเลยครับ!” เสียงตะโกนของเด็กน้อยส่งผ่านทางโทรศัพท์จนหูฉันแทบระเบิด “เราเพิ่งกินไอศกรีมกัน แล้วตอนนี้กำลังไปเล่นสไลเดอร์ครับ ที่นี่มีสไลเดอร์ด้วยมันยาวออกไปถึงทะเลเลยครับ”เสียงแสนตื่นเต้นของเด็กน้อยทำให้ฉันสุขใจเป็นอย่างยิ่ง เขามีความสุขฉันก็มีความสุข ขอเพียงแค่เขาปลอดภัยและสนุกสนานได้อย่างเต็มที่ก็เพียงพอแล้วสำหรับฉัน“เยี่ยมไปเลยใช่ไหมลูก…เห็นไหม แม่บอกแล้วไงว่าต้องสนุกแน่นอน”ฉันหยุดทำความสะอาดแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา คุยกับลูกให้เสร็จก่อนน่าจะดีกว่า“แล้วแม่ล่ะครับ วันหยุดเป็นยังไงบ้าง?”จะให้ฉันตอบยังไงดี? มันโคตรน่าเบื่อ ลูกชายวัยแปดขวบกำลังสนุกสนานมากกว่าฉัน คนไร้เพื่อนอย่างฉัน ไม่มีที่ให้ออกไป ไม่มีใครให้เที่ยวด้วย เพื่อนสมัยเรียนเคยชวนฉันออกไปเที่ยวอยู่บ้างแต่ก็ห่างหายกันไปหลังจากฉันเอาแต่ปฏิเสธ ลึก ๆ ในใจฉันรู้ว่าบรรดาเพื่อนชวนฉันไปเที่ยวเพียงเพราะมารยาท เพ

  • ธุลีใจ   บทที่ 16

    หลังจากอีธานวางสาย ฉันจึงรีบไปเลือกเสื้อผ้าเหมาะ ๆ มาใส่ เพราะว่าเราจะไปที่สนามฝึกซ้อมยิงปืน เสื้อผ้าที่สวมใส่แล้วดูคล่องตัวเป็นตัวเลือกที่ดี ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจเลือกกางเกงยีนส์ เสื้อยืดและรองเท้าส้นเตี้ยมาใส่ อีธานเดินทางมาถึงภายในสิบนาทีอย่างที่บอกไว้ และเราทั้งสองจึงออกเดินทางทันที“แล้วอะไรดลใจให้คุณกลายเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้ล่ะคะ?” ฉันหันหน้าไปถามชายหนุ่มบรรยากาศนั้นผ่อนคลายไม่น้อย ฉันรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่กับเขาเสมอ มันช่างดีเหลือเกิน ฉันไม่ได้สัมผัสความรู้สึกผ่อนคลายแบบนี้เมื่ออยู่กับคนอื่นมานานแล้ว“พ่อผมถูกตำรวจฆ่าตายน่ะครับ” เขาเอ่ยตอบพร้อมยักไหล่ฉันนิ่วหน้าอย่างประหลาดใจ “เจอแบบนี้คนส่วนมากคงไม่อยากจะเป็นตำรวจนะคะ” “ครับ แต่ว่าพ่อผมก็ไม่ใช่คนดีอะไร แถมเรียกว่าพ่อที่ดีไม่ได้ด้วยซ้ำ พูดกันตามจริงตอนที่เขาโดนตำรวจวิสามัญเพราะค้าอาวุธปืนเถื่อนผมกลับโล่งใจ ตอนที่เห็นว่าตำรวจจัดการสวะที่หลงคิดว่าไม่มีใครทำอะไรได้อย่างพ่อผม นี่เลยทำให้ผมตัดสินใจมาเป็นตำรวจ หวังว่าจะให้เมืองที่ผมอาศัยอยู่ปลอดภัย”อีธานเงียบไปหลังอธิบายจบแต่ฉันรับรู้ได้ว่ามันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น น้ำ

บทล่าสุด

  • ธุลีใจ   บทที่ 478

    ขณะที่เราคุยกัน ดวงตาของเอวาก็ยังคงมองกลับไปหาโรแวน คุณจะเห็นความรักในแววตาเธอ จากทุกสิ่งที่เขาทำกับเธอ เธอก็ยังคงให้โอกาสเขาอีกครั้งและแน่นอนดวงตาของโรแวนก็คอยมองไปที่ภรรยาของเขาเช่นกัน มันเหมือนกับว่าเขาไม่สามารถละสายตาจากเธอได้ รวมถึงมือของเขาด้วยเพราะเขาหาทางแตะเนื้อต้องตัวเธอตลอดฉันรู้จากเกเบรียลว่าโรแวนโหดร้ายกับเอวาขนาดไหนในช่วงสามปีของชีวิตแต่งงาน เขาปฏิบัติเหมือนเธอไร้ค่า แต่ตอนนี้เธอดูเหมือนจะเป็นโลกทั้งใบของเขา ความรักที่เขามีต่อเธอแสดงออกมาให้เห็นชัด ฉันไม่เคยคิดว่าเขาจะเปลี่ยนเพื่อเธอมากขนาดนี้ แต่หลักฐานการเปลี่ยนแปลงและความรักของเขาประจักษ์อยู่ตรงหน้าฉัน“มีอะไรกวนใจสิท่า” เอวากระซิบ ดึงฉันออกจากห้วงความคิดฉันหันหน้าไปหา ดวงตากวาดทั่วใบหน้าของเธอ "เธอให้อภัยโรแวนจริง ๆ เหรอ? ทำได้ยังไง? เธอปล่อยวางอดีตได้ไง?”ฉันเพียงแค่ไม่เข้าใจ และถ้าฉันจะพูดตามตรง ฉันกลัวที่จะก้าวเดินไปพร้อมกับเกเบรียลในอนาคตดวงตาเอวาเลื่อนไปมองสามีก่อนที่จะกลับมาที่ฉัน"ฉันยกโทษให้เขาแล้วนะและนั่นเป็นเรื่องง่ายที่สุดด้วย ส่วนเรื่องยากคือการปล่อยวางและลืมมันไป ฉันจะไม่โกหกเธอหรอกนะฮาร์เปอร์

  • ธุลีใจ   บทที่ 477

    “รีบไปกันก่อนจะสายเถอะค่ะ” ฉันบอกหลังจากที่เราหายใจหายคอกันทันแล้วเขาพยักหน้าขณะที่มือลูบไล้มือของฉันก่อนประสานนิ้วของเราเข้าด้วยกันและดึงฉันออกจากห้องนอน"คุณสวยมากเลยค่ะ คุณฮาร์เปอร์!" หนูเซียร่าร้องออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความยินดีเมื่อเธอเห็นฉัน"ใช่! แม่สวยมากเลยค่ะ" ลิลลี่กล่าวเสริมพร้อมกระโดดโลดเต้น“ขอบใจจ้ะ สาว ๆ”อีกครู่หนึ่งเซียร่าก็จะกลับบ้านเพราะต้องไปโรงเรียนวันพรุ่งนี้ เนื่องจากทั้งฉันและกาเบรียลไม่อยู่ที่นี่เพื่อรอส่งเธอกลับบ้าน เราจึงได้จัดเตรียมกับคนขับรถให้ไปส่งเธอ เขาจะดูแลให้เธอกลับบ้านอย่างปลอดภัย"ตอนนี้พวกลูกต้องทำตัวดี ๆ กับคุณชารอนด้วยนะ อย่าสร้างปัญหาให้เธอด้วย เข้าใจกันไหมเอ่ย?" ฉันหยอกล้อเชิงตักเตือน“ไม่สร้างปัญหาแน่นอนค่ะ” ทั้งสองพูดพร้อมกันตั้งแต่ที่สบตากับเซียร่า ฉันก็คอยจะมองเธอเสมอ อย่างที่ฉันบอกมีบางอย่างเกี่ยวกับเธอที่ดึงดูดฉัน บางสิ่งที่ดูคุ้นเคยหลังจากบอกลาเด็กหญิงทั้งสองคน เกเบรียลและฉันก็ออกเดินทาง ระหว่างทางเราไม่ได้พูดอะไรกันมากนัก แต่เขาจับมือฉันไว้ตลอดเวลาซึ่งทำให้ฉันรู้สึกสบายใจเราไปถึงสถานที่จัดงานในเวลาอันรวดเร็ว และฉันเริ่ม

  • ธุลีใจ   บทที่ 476

    “เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ”เพราะฉันหาชุดที่เหมาะกับโอกาสเช่นนี้ไม่ได้ เกเบรียลก็เลยให้ความช่วยเหลือ ทีมงานทั้งหมดมาถึงเมื่อประมาณสามชั่วโมงที่แล้วเพื่อช่วยฉันแต่งหน้าและแต่งตัวการแต่งหน้านั้นไร้ที่ติ ช่างแต่งหน้าเลือกใช้แนวหรูหรา ดวงตาแต่งแต้มด้วยอายแชโดว์อันนุ่มนวลแต่โดดเด่นซึ่งช่วยเพิ่มความลุ่มลึกของดวงตาเพิ่มด้วยขนตายาวหนา ทำให้แววตาน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น ช่างแตะแต้มสีทองระยิบระยับที่หัวตาทำให้ดวงตาดูสว่างขึ้นช่วยดึงดูดความสนใจมาที่ดวงตาแสนอบอุ่นนี้ ในขณะที่ทรงผมม้วนเป็นลอนหลวม เงางามเหมือนผ้าไหมภายใต้แสงอ่อนโยนเรื่องชุด เราเลือกชุดราตรีสีแดงยาวเพราะสีแดงกลายเป็นสีโปรดที่เกเบรียลชอบให้ฉันสวม ชุดราตรีเป็นการผสมผสานที่น่าทึ่งระหว่างความเย้ายวนและความสง่างาม ถักทอจากผ้าซาตินสีแดงทับทิมเข้มทิ้งตัวอย่างสวยงามไปตามส่วนโค้งเว้า คอเสื้อเว้าลงเล็กน้อยพอที่จะขับเสน่ห์ออกมา ในขณะที่รายละเอียดลูกไม้อันสลับซับซ้อนตามริมผ้าช่วยเพิ่มความหรูหรา เสื้อท่อนบนที่พอดีเน้นบริเวณเอว ตัวกระโปรงบานออกเล็กน้อยยาวพริ้วลากพื้นเมื่อฉันขยับ ผ้าจะเล่นแสง ส่องประกายเหมือนของผืนน้ำขณะที่เผยเรียวขาให้เห็นเพียงเล็ก

  • ธุลีใจ   บทที่ 475

    "เข้ามาได้" ในที่สุดเขาก็ตอบ ขณะฉันกำลังจะยอมแพ้คิดว่าเขายังหลับอยู่เมื่อเปิดประตูฉันก็เข้าไป ฉันพบเขานั่งอยู่บนเตียง เมื่อเขาเห็นฉัน เขาก็ขยับลงมานั่งอยู่ตรงขอบเตียง ฉันปิดประตูและเดินตรงไปหาเขา"วันของสาว ๆ เป็นยังไงบ้างครับ?" เขาเอ่ยถาม น้ำเสียงงัวเงีย“ว้าวมากค่ะ”“ยังไงครับ?”“ถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ? ช่วยสัญญาด้วยนะคะว่าจะพูดความจริง”เขาหันมาหาฉันอย่างเต็มที่ ตอนนี้เขาตื่นเต็มที่แล้ว ดวงตาจ้องมองมาที่ใบหน้าของฉันราวกับว่าเขากำลังพยายามคิดว่าฉันกำลังจะถามอะไร หลังจากนั้นสักครู่ เขาก็พยักหน้า"ฉันรู้ว่าพี่แอนดรูว์ต้องแบล็กเมล์คุณให้แต่งงานกับฉันในครั้งแรกแน่ พอคิดเรื่องที่คุณอกหักแล้ว คุณคงไม่เต็มใจจะแต่งงานในตอนนั้นแน่นอนค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับต้องมาแต่งงานผู้หญิงที่คุณแทบไม่รู้จัก ช่วยบอกทีได้ไหมคะว่าพี่เขาใช้อะไรบังคับคุณ?"ฉันบอกได้ว่าเขาไม่อยากทำจริง ๆ แต่ฉันต้องการคำตอบ ฉันอยากรู้ว่าพี่แอนดรูว์สามารถจัดการเรื่องแต่งงานระหว่างเราได้อย่างไร“ฮาร์เปอร์…”“นะคะ?”“พอโรแวนแต่งงานกับเอวา พี่เขาก็ดูแย่ลงจริง ๆ พี่เขาดูไม่ดีเลย แอนดรูว์ได้หลักฐานว่าโรแวนดื่มเหล้าและใช้ยาเส

  • ธุลีใจ   บทที่ 474

    อย่างที่ฉันบอก ฉันให้อภัยเกเบรียลแล้ว แต่ทำไมฉันยังคงยึดติดกับอดีตอีก? ทำไมฉันยังคงเปรียบเทียบเขากับตัวตนที่เขาเคยเป็น? เห็นได้ชัดว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว แต่สมองยังคงสงสัยเขาคุณรู้จักคำกล่าวที่ว่า 'ถ้าเขาอยากทำ เขาคงทำไปแล้ว?' นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเกเบรียลในตอนนี้ ในตอนนั้นเขาไม่อยากทำ เขาไม่อยากรักฉัน เขาไม่อยากสนใจฉัน ให้ตายสิ เขาแค่ไม่อยากได้ฉันด้วยซ้ำ... และเพราะเขาไม่อยากได้ฉัน เขาเลยปฏิบัติกับฉันเหมือนไม่สำคัญอะไรลึกลงไปฉันเข้าใจเขาดี ถ้าฉันคิดไม่ผิด เขาแต่งงานกับฉันหนึ่งปีครึ่งหลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นหักอกเขา หากพี่แอนดรูว์รู้ พี่คงจะแบล็กเมล์เขาหรืออะไรบางอย่างเพื่อให้เกเบรียลแต่งงานกับฉันแน่ฉันไม่ได้คิดถึงมันตอนที่เราแต่งงานกัน อันที่จริงฉันไม่อยากคิดถึงมันเพราะมันจะทำลายภาพลวงตาที่ฉันสร้างว่าเขาแต่งงานกับฉันเพราะเขารู้สึกอะไรบางอย่างกับฉัน หลายปีต่อมาฉันยอมรับว่าเกเบรียลแต่งงานกับฉันเพราะเขาถูกบังคับให้ทำ ไม่ใช่เพราะเขาต้องการฉันทำได้แค่จินตนาการว่าเขารู้สึกอย่างไร เขาอาจจะยังไม่หายอกหักจากแฟนเก่า เขาโกรธและขมขื่น และอาจจะคิดว่าผู้หญิงทุกคนก็เหมือนกัน จากนั้นเขาถูกบังค

  • ธุลีใจ   บทที่ 473

    "ใช่เลย! เขาไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไปแล้ว" เธอเปล่งประกายความสุขและความตื่นเต้นแพร่กระจายไปทั่ว "เขาถึงกับขอแต่งงานอย่างไม่เป็นทางการแล้วด้วยนะ""หมายความว่ายังไงก่อนเรื่องขอแต่งงานแบบไม่เป็นทางการ?" ฉันถามด้วยความงงงวยเมื่อมองจากท่าทีของคนอื่น พวกเธอก็สับสนเช่นกัน ปกติก็มีแค่ขอกับไม่ได้ขอแต่งงาน ถูกขอแต่งงานอย่างไม่เป็นทางการมันคืออะไรกัน"คืองี้ตอนที่ฉันบอกเขาว่าท้องน่ะ เขาบอกว่าเขาตั้งใจจะขอแต่งงาน แต่ด้วยเจ้าตัวน้อยนี่มาเซอร์ไพรส์เราก่อน เขาเลยจะเลื่อนการขอแต่งงานขึ้นมาเพื่อให้เราแต่งงานกันก่อนที่ลูกจะเกิดไง" เธอตอบ ดวงตายังคงเปล่งประกายด้วยความปิติและความสุขอย่างแท้จริงนั่นสมเหตุสมผล ฉันเข้าใจว่าทำไมเธอถึงเรียกคำพูดนั้นว่าเป็นการขอแต่งงานอย่างไม่เป็นทางการมีเสียงกรีดร้องด้วยความยินดีดังขึ้นขณะที่เรากอดเธอและแสดงความยินดีอีกครั้ง การที่ผู้ชายของเธอกลับมามีผลกระทบอย่างมาก ตอนนี้เธอดูเหมือนเป็นอิสระ ภาระที่เธอแบกไว้เมื่อครั้งที่เราเจอกันไม่มีอีกต่อไป เธอเปล่งประกายหลังจากที่รีเปอร์กลับมาอยู่กับเธอ"แล้วเธอล่ะ เล็ตตี้?" ฉันหันไปหาเธอ "เธอคบกับทราวิสมานานแล้วนะ ทำไมเขายังไม่ขอแ

  • ธุลีใจ   บทที่ 472

    ฉันถอนหายใจและพยายามควบคุมลมหัวใจ นี่คือบทสนทนาหนึ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะได้คุยกับลิลลี่ในวัยนี้ สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกขอบคุณคือเธอไม่ได้ถามว่าเด็กทารกมาจากที่ไหนกันแน่ นั่นคงจะเป็นบทสนทนาที่ยากมาก“เดี๋ยวแม่ขอกลับไปห้องก่อนแล้วค่อยออกไปนะ” ฉันบอกพวกเขาและเพิกเฉยต่อการพูดคุยเกี่ยวกับเด็กทารกไปเลย“ยังไม่ได้บอกผมเลยว่าจะไปไหน” เกเบรียลถามย้ำฉันคงจะบอกเขาไปแล้วถ้าไม่ได้มัวแต่นึกปัดป้องตนเองอยู่ แต่เขาทำให้ฉันไขว้เขวไปหมด“ฉันจะออกไปกินข้าวกลางวันกับพวกเอวาค่ะ”ฉันรู้สึกอยากจะยกเลิกนัดกับพวกเธอแล้วนอนพักผ่อน แต่ฉันตัดสินใจไม่ทำแบบนั้น เอวาโทรมาสองสามวันก่อนที่เราจะออกจากโตเกียว เธอเอ่ยถามว่าฉันจะไปร่วมทานอาหารกลางวันกับพวกเธอในวันเสาร์ได้ไหม ฉันตอบตกลงทันทีโดยไม่ได้คิดว่าฉันจะเหนื่อยแค่ไหนหลังจากเที่ยวบินสิบสามชั่วโมงรอยยิ้มปรากฏบนริมฝีปากของเขา "ดีใจจริง ๆ ที่เห็นว่าคุณมีเพื่อน"“ค่ะพวกเธอเจ๋งมากเลย”"พูดถึงเพื่อน" ลิลลี่พูดแทรก "คืนนี้เซียร่ามานอนค้างที่บ้านเรานะคะ"“แม่จำได้จ้ะ ลูกรัก” ฉันเอ่ยตอบ “หนูมีอะไรฝากมาแม่ซื้อเตรียมตัวสำหรับคืนนี้บ้างไหมลูก?”เธอส่ายหัว “หนูขอขนมกับน

  • ธุลีใจ   บทที่ 471

    ฮาร์เปอร์ฉันมองตัวเองในกระจกเป็นครั้งสุดท้าย ฉันสวมกางเกงยีนส์เอวสูงและเสื้อผ้าไหม ผมมวยขึ้นเป็นมวยยุ่ง ๆ และนอกจากมาสคาร่าและคอนซีลเลอร์ ฉันไม่ได้แต่งหน้ามากนักเรากลับถึงบ้านประมาณสามทุ่มได้ ลิลลี่หลับไปแล้ว ดังนั้นเราจึงเข้านอนทันทีที่ถึงบ้านฉันหยิบกระเป๋าออกมาจากห้องขณะมองดูเวลา ฉันมีเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ฉันจะต้องไปที่ร้านอาหาร"จะไปไหนครับ?" เกเบรียลถามทันทีที่ฉันก้าวเข้าไปในห้องครัวให้ตายสิ ผู้ชายคนนี้ดูดีมากฉันรักเกเบรียลที่สวมใส่ชุดสูท เขาดูร้อนแรงมากในชุดสูทเสมอ แต่มันก็มีบางอย่างเวลาที่เขาแค่เท้าเปล่าพร้อมสวมเสื้อยืดรัดรูปและกางเกงวอร์ม แล้วก็เวลาที่เขาไม่ได้ใส่เสื้อแต่ใส่แค่กางเกงวอร์มเอวหลวม ๆ ด้วยไม่ว่าจะภาพลักษณ์แบบไหน ฉันก็เห็นมาทั้งหมดแล้ว และฉันยังตัดสินใจไม่ได้ว่าภาพลักษณ์ไหนที่ฉันชอบที่สุด ไม่แน่อาจเป็นตอนที่เขาไม่ใส่อะไรเลยก็ได้นะ "ฮาร์เปอร์?" เสียงขบขันของเขาดังขึ้น "น้ำลายไหลเยิ้มหมดแล้ว"ฉันหัวเราะเบา ๆ พยายามซ่อนความเขินอายไว้ "เยิ้มที่ไหนล่ะ"วันนี้เขาอยู่ในเสื้อยืดรัดรูปและกางเกงวอร์มตัวหนึ่งและเขาดูน่าอร่อยมาก ฉันอยากจะใช้ลิ้นตนเองทดสอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 470

    คอนนี่ฉันแทบจะยืนไม่อยู่ขณะที่ขึ้นลิฟต์ไปที่เพนท์เฮาส์ของฉัน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวันผ่านไป ที่ฉันทำงานล่วงเวลาจนเป็นเรื่องปกติเพื่อที่ตนเองจะได้ไม่ต้องกลับมาเจอกับห้องนอนที่ว่างเปล่าฉันคิดถึงรีเปอร์มากจริง ๆตอนที่ฉันได้เห็นเขาครั้งแรกที่โรงพยาบาลหลังจากที่เอวาถูกยิงครั้งนั้น ฉันไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับแรงดึงดูดที่ฉันรู้สึกต่อเขา แน่นอนว่าแรงดึงดูดนั้นเกิดขึ้นทันที และฉันแค่รู้สึกเหมือนจิตวิญญาณตนเองรู้จักเขา แต่เขาคือรีเปอร์เชียวนะ ชายคนเดียวกับที่เคยลักพาตัวเพื่อนสนิทของฉันไปถ้าพูดกันตามตรง ฉันไม่เคยรู้สึกกับผู้ชายคนไหนเหมือนที่ฉันรู้สึกกับรีเปอร์ในครั้งแรกนั้นเลย ฉันไม่เคยรู้สึกดึงดูดกับผู้ชายตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเห็นพวกเขา มันเป็นสิ่งที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเมื่อฉันได้รู้จักพวกเขามากขึ้น ทว่ากับรีเปอร์มันแตกต่างออกไป และนั่นทำให้ฉันกลัวแทบตายฉันคิดว่าการพบกันครั้งแรกนั้นจบแล้ว ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้เจอเขา และในไม่ช้าแรงดึงดูดก็จะจากหายไป และนั่นคือความตั้งใจที่เกิดขึ้น จนกระทั่งเขาปรากฏตัวที่หน้าห้องฉันในคืนหนึ่งฉันควรจะรู้สึกอับอายที่จะบอกว่าฉันยอมนอนกับเขาในคืนนั้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status