“คู่หมั้นเหรอคะ!” เธอตกใจแทบช็อกเลยทีเดียว เรื่องราวมันพลิกเหลือเกิน “เพราะอย่างนี้พี่ปราบถึงคิดจะทำอะไรหยกก็ทำ ใช่ไหม แสดงความเป็นเจ้าของ ไม่ได้ทำเพราะรักหรือชอบหยกเลย” คิดไกลไปนั่น ให้ตายสิ "อย่าเพิ่งงอนสิ ถ้างอนพี่จะกินหยกอีกรอบนะเอาไหม” “อย่ามาหาเรื่องหยก” ว่าแล้วเธอก็ขยับตัวแล้วนั่งหันหลังให้ เขาจึงลุกขึ้นแล้วโน้มเข้าไปสวมกอดเอาไว้หลวมๆ “จะรักหรือชอบ หยกก็เป็นเมียพี่แล้ว อยู่เป็นนายหญิงของที่นี่นะ ส่วนเรื่องแต่งงาน เอาไว้ให้หยกมั่นใจก่อนว่าหยก... รักพี่ แล้วเราค่อยแต่ง” “แล้วถ้าหยกไม่ได้รักพี่ปราบล่ะ” เธอถามเพื่อหยั่งเชิงเท่านั้น “ถ้าไม่รัก ไม่ชอบพี่ แล้วหยกจะยอมเหรอ ฮืม พี่รู้ว่าหยกคิดเหมือนพี่ เพียงแต่จะพูดคำนั้นออกมาเมื่อไหร่เท่านั้นเอง”
ดูเพิ่มเติม“ถ้าไม่รัก ไม่ชอบพี่ แล้วหยกจะยอมเหรอ ฮืม พี่รู้ว่าหยกคิดเหมือนพี่ เพียงแต่จะพูดคำนั้นออกมาเมื่อไหร่เท่านั้นเอง” ดูเหมือนเขาจะมั่นใจเสียเหลือเกิน“ให้หยกพร้อมกว่านี้นะคะ”“พี่จะทำทุกๆ วัน ทุกๆ คืนให้หยกพร้อมที่จะพูด” พูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร เธอก็ใจขาดตายก่อนพอดี“เอ่อ ไม่ต้องทุกวันทุกคืนก็ได้ค่ะ หยกไม่อยากสำลัก ความสุขตายซะก่อน” เธอบอกอย่างเอียงอายพลางเบือนหน้าหนีเมื่อเขากำลังกดริมฝีปากลงไปตรงซอกคอ“ตกลงว่าอยู่กับพี่นะ ไม่ต้องไปไหนแล้ว ห้ามหนีด้วย” เขากระซิบเสียงนุ่ม“หยกมาแต่ตัวนะคะ ไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเลย”“พี่ต้องการแค่นี้แหละ เสื้อผ้ามันสำคัญตรงไหน เดี๋ยวก็ถอดอยู่ดี” ให้ตายสิน้ำเสียงของเขาฟังดูแล้วหื่นชอบกล“ให้หยกใส่เดินออกจากบ้านบ้างสิคะ”“ช่วงนี้กำลังหวง ขอขังเอาไว้ในห้องบนเตียงนี้อย่างเดียวได้หรือเปล่า ฮืม” พูดจบเขาก็กดจูบท
“พี่ปราบ... อ๊ะ! อ๊ะ! โอ้ว” เธอร้องครางเสียงดังลั่นเมื่อคว้าเอาจุดหมายไว้ได้ ร่างกายกระตุกเกร็งพร้อมทั้งจิกเล็บลงบนท่อนแขนของเขาอย่างแรงเพื่อระบายอารมณ์ เรือนกายส่วนนั้นกระตุกตอดเป็นจังหวะกระตุ้นให้เขาซอยถี่ๆ อีกเพียงไม่กี่ครั้งก็ตามเธอไปติดๆ“ซี๊ดดดด โอ้ว พี่เสร็จแล้ว” จบคำเขาก็กดสะโพกหนักๆ กับเนินสวาท แล้วโน้มตัวลงไปจูบเธอก่อนจะกอดเอาไว้แนบแน่น และปลดปล่อยน้ำอุ่นๆ เหนียวๆ หลั่งไหลออกมาผสมกัน ร่างกายทั้งคู่เบาหวิวล่องลอยราวกับขึ้นสวรรค์ ทว่าน้ำเสียงยังคงหอบพร่าเหมือนกับเพิ่งออกกำลังกายมาอย่างหนัก ริมฝีปากบดเคล้าจูบอย่างดูดดื่ม ขณะที่ท่อนเนื้อแข็งแกร่งยังคงดุนดันดีดดิ้นและพุ่งพ่นน้ำรักออกมายังไม่หมด แต่ด้วยความที่อ่อนเพลียหมดแรงเมื่อจูบอย่างพอใจแล้วเขาจึงกอดเธอเอาไว้แล้วซบหน้าลงไปบนเนินอกเปลือยเปล่า ฟังเสียงหัวใจดวงน้อยเต้นถี่ๆ เธอยกมือขึ้นสอดไปที่เรือนผมของเขาแล้วหลับตาลงผ่อนลมหายใจเข้าออกด้วยความเหนื่อยล้านานจนรู้สึกว่าทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติ แต่ไม่รู้จะเริ่มคุยกันอย่างไรดี เขาจึงผงกศีรษะขึ้นแล้วจูบเบาๆ ต
“อืม” เขาครางออกอยู่ในลำคอเมื่อปากอิ่มบดขยี้จูบอย่างดูดดื่ม สิ่งที่เขาสอนเธอมาหลายครั้ง เธอจำแม่นและนำมาใช้กับเขา ซึ่งทำได้ดีจนเขาแทบคลั่งเลยทีเดียว แต่จูบได้ไม่นานนักเธอก็ถอนออกก่อนจะไล่เรียวปากจูบแก้มที่สากไปด้วยเครา ไล่มาที่ซอกคอและดูดเม้มแรงกว่าเขาด้วยซ้ำ“อืม แม่เสือสาว ร้อนแรงจัง” เขาครางและบอกอย่างพอใจอีกครั้ง พลางกัดฟันและยิ้มกับตัวเอง จากนั้นปากอิ่มก็จูบจนถึงแผงอกกว้างที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามแน่น ๆ ปลายลิ้นร้อนไร้เดียงสาของเธอถูกส่งออกมาโลมเลียตวัดไปมากระทั่งถึงยอดอก ครั้งนี้เธอจะเอาคืนบ้างจึงใช้ลิ้นเลียตรงยอดอกระรัว ทำให้เขาสะท้านและบิดเกร็งลำตัว“ซี๊ดดดด อ่า ดีจัง ดีมากเลย” เขาออกปากชมและครางด้วยความพอใจครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ลิ้นและเรียวปากอิ่มดูดเลียยอกอกอย่างร้อนแรง กลางลำตัวของเขาก็ดีดดิ้นขึงขัง แข็งจนอยากจะออกมาหายใจ เธอสัมผัสได้ว่ามันดิ้นเมื่อเนินสวาทถูไถไปมา“โอ้ว หยกจ๋า อ่า ช่วยพี่ที” คราวนี้เป็นทีของเขาที่จะต้องเอ่ยปากขอร้องบ้าง และเมื่อได้ยินดังนั้
“เอา พี่จะเอา จะเอาหยกตอนนี้ เดี๋ยวนี้” เขาบอกด้วยน้ำเสียงหื่นกระหายก่อนจะผงกศีรษะขึ้นแล้วขยี้จูบที่ปากอิ่มอีกครั้งอย่างเร่าร้อน ทำเอาปากบางแทบพังและแสบเพราะหนวดเคราถูไถ ขณะที่เรียวลิ้นร้อนส่งออกมาลากเลียไปตามเรียวปากแห้งผาก ก่อนจะสอดแทรกเข้าสู่โพรงปากนุ่มอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตวัดลิ้นเกาะและสูบกลืนลมหายใจกันเอาไว้ จูบดูดดื่มร้อนแรงจนทำให้กลางกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ท่อนเนื้อภายใต้กางเกงยีนส์มันกำลังดีดดิ้นและถูไถกับกลางลำตัวของเธอ กระตุ้นให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียนอย่างรุนแรงและจากมือที่เกาะกุมมือเธออยู่ค่อยๆ ปล่อยเคลื่อนลงมาตามลำคอ จนถึงเนินอกอวบ เขาบีบเค้นแรงๆ ขณะที่ปากยังคงบดขยี้จูบ ก่อนจะละเรียวปากขยับลงมาขบเม้มที่ซอกคอและดูดจนเป็นรอยแดงจ้ำ มือก็ขยำทรวงอกอย่างหนักหน่วง จากนั้นก็เลื่อนมืออีกข้างลงไปที่หน้าท้องแบนราบ กระทั่งถึงขอบกางเกง เขาจึงปลดกระดุม รูดซิบ ก่อนจะสอดฝ่ามือล้วงเข้าไปอย่างรวดเร็ว“อืม” เธอครางในลำคอเมื่อฝ่ามือหนาลูบไล้บนเนินสวาทแผ่วเบา พร้อมกับสอดแทรกนิ้วมือแกร่งแหวกว่ายหยอกเย้ากับกลีบสวาท กรีดกรายนิ้
แต่ในขณะเดียวกัน ชาติชายก็รีบโทรศัพท์บอกเจ้านายว่าตัวเองได้เผลอพูดความจริงออกไปแล้ว ทำให้ปราบต้องรีบตามหงส์หยกกลับไปที่บ้านทันที“ไอ้ชาติ ไอ้ตัวแสบ ฆ่าทิ้งดีไหมเนี่ย” ปราบบ่นพร้อมกับขับรถ ATV ออกจากสวนทันที เพื่อจะได้ตามหงส์หยกให้ทัน จากนั้นเขาก็ขับมาถึงหน้าออฟฟิศในเวลาอันรวดเร็ว แต่ไม่มีวี่แววว่าเธอจะอยู่ในบริเวณนี้ เขาจึงกระโดดลงจากรถแล้วเดินเท้าตามหา เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินเร็วกว่ารถที่เขาขับ“อยู่ที่บ้านเราหรือเปล่าวะ” เขาคิดถามตัวเองแต่คนโกรธแบบนั้นมีหรือจะกลับบ้านพัก ต้องกลับบ้านตัวเองสินะ“พวกเอ็งเห็นคุณหยกหรือเปล่า ผู้หญิงที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าน่ะ เดินมาทางนี้หรือไหม” ปราบถามด้วยความร้อนใจ“เสื้อเชิ้ตสีฟ้าเหรอครับนาย ผมเห็นหลังไวๆ เดินไปที่โรงจอดรถของคนงานน่ะครับ”“อะไรนะ! โรงจอดรถของคนงานอย่างนั้นเหรอ ให้ตายสิ” เมื่อฟังอย่างนั้นแล้วก็มีสิ่งเดียวคือเธออาจจะให้คนงานไปส่งก็เป็นได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วเขาจึงรีบว
แต่ในขณะเดียวกัน ชาติชายก็รีบโทรศัพท์บอกเจ้านายว่าตัวเองได้เผลอพูดความจริงออกไปแล้ว ทำให้ปราบต้องรีบตามหงส์หยกกลับไปที่บ้านทันที “ไอ้ชาติ ไอ้ตัวแสบ ฆ่าทิ้งดีไหมเนี่ย” ปราบบ่นพร้อมกับขับรถ ATV ออกจากสวนทันที เพื่อจะได้ตามหงส์หยกให้ทัน จากนั้นเขาก็ขับมาถึงหน้าออฟฟิศในเวลาอันรวดเร็ว แต่ไม่มีวี่แววว่าเธอจะอยู่ในบริเวณนี้ เขาจึงกระโดดลงจากรถแล้วเดินเท้าตามหา เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินเร็วกว่ารถที่เขาขับ “อยู่ที่บ้านเราหรือเปล่าวะ” เขาคิดถามตัวเองแต่คนโกรธแบบนั้นมีหรือจะกลับบ้านพัก ต้องกลับบ้านตัวเองสินะ “พวกเอ็งเห็นคุณหยกหรือเปล่า ผู้หญิงที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าน่ะ เดินมาทางนี้หรือไหม” ปราบถามด้วยความร้อนใจ “เสื้อเชิ้ตสีฟ้าเหรอครับนาย ผมเห็นหลังไวๆ เดินไปที่โรงจอดรถของคนงานน่ะครับ” “อะไรนะ! โรงจอดรถของคนงานอย่างนั้นเหรอ ให้ตายสิ” เมื่อฟังอย่างนั้นแล้วก็มีสิ่งเดียวคือเธออาจจะให้คนงานไปส่งก็เป็นได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วเขาจึงรีบวิ่งไปที่โรงจอดรถทันที แล้วก็ทันเส
“เต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ต้องไปด้วยกัน ดูให้รู้ว่าเราทำงานกันลำบากแค่ไหน แล้วก็คุยงานไปด้วย” เขานี่ก็ช่างแกล้งเธอเสียจริงทั้งที่เพิ่งจะส่งส้มเข้าโรงงานของเธอไปเมื่อเช้านี่เอง คิดแล้วก็นึกขัน“อ้าวนาย กลับมาเร็วจังครับ” ชาติชายทักขึ้นเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเดินมาพร้อมกับคู่ค้าคนเมื่อวาน แต่คราวนี้ดันจูงมือกันมาแบบนี้ชัดเจนแล้วว่าไม่ธรรมดา“จะรีบกลับมาพาคุณหยกดูงานน่ะ” พูดแล้วเขาก็ปรายตามองเธออีกครั้ง“ชุดนี้นะเหรอครับ ร้อนแย่ผิวสวยๆ ไหม้กันพอดี” ชาติชายบอกว่าผิวสวยๆ อย่างนั้นหรือ ไม่เกรงใจกันเลย“มีหน้าที่ทำงานก็ทำไป” ปราบว่าเสียงดุเข้ม ชาติชายจึงต้องก้มหน้าเล็กน้อยแล้วรีบปลีกตัวไปห่างๆ ทันที ขณะเดียวกันหงส์หยกก็สะบัดจากการเกาะกุมของเขาอีกครั้ง และก็เป็นผลเพราะเขาปล่อยเธอให้เป็นอิสระ จะเดินไปทางไหนก็ตามใจก็แล้วกัน จากนั้นเขาจึงเดินไปคุมลูกน้องขนส้มเพื่อส่งเข้าอีกโรงงานหนึ่ง อีกทั้งแอบบอกทุกคนแล้วว่าหงส์หยกเป็นใครหงส์หยกจึงอาศัยเวลานี้ลองไ
“มันก็เกี่ยว แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะพี่ไม่มีงานให้”“อะไรนะ! ในเมื่อไม่มีงานให้ จะพาหยกกลับไปทำไม ทำแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ”“ก็หยกหนีมา! พี่ไม่ชอบ และถ้าหนีมาอีกพี่จะ...”“จะอะไร... จะทำไมหยกอีก เท่านี้ยังไม่พอใจอีกเหรอคะ ศักดิ์ศรีไม่มีแล้ว” เรื่องนี้มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีอย่างนั้นหรือ เขาคิดว่าเธอรู้สึกเหมือนกับเขาเสียอีก“มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีเหรอเนี่ย เพิ่งรู้”“จะอะไรก็ตาม พาหยกกลับเถอะค่ะ” เธอบอกเสียงแข็งเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น“โกรธพี่เหรอ พี่ไม่ได้ทำให้มันเป็นอุบัตินะ ตั้งใจทำทั้งคืนเลย”“หยกจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก จอดรถค่ะ ปล่อยหยกลงตรงนี้ก็ได้”“หยกเป็นคนไปหาพี่เอง ฉะนั้นไปจัดการเรื่องของเราให้จบ”“ไม่! หยกบอกให้จอดรถไง” คราวนี้น้ำเสียงของเธอสั่นเครือคล้าย
“มาได้ยังไงคะ รู้จักที่นี่ด้วยเหรอ” เธอถามด้วยความแปลกใจแต่สีหน้าของเขาบอกบุญไม่รับเลย“บ้านเจ้าสัวบุญเสริมใครบ้างไม่รู้จัก” ปราบตอบเสียงเรียบเหมือนกำลังไม่พอใจ“เอ่อ... มาทำไมคะ” เธอถามพลางหลุบเปลือกตาลงไม่อยากสบตาเขาเลย“พี่ควรถามน้องมากกว่า ว่าน้องกลับมาทำไมไม่บอกพี่สักคำ และเรายังไม่ได้คุยอะไรกันเลย” น้องอย่างนั้นหรือ เรียกราวกับรู้จักมักคุ้นกันเสียเหลือเกิน แต่เธอก็รู้สึกดีไม่น้อย“หยก... มีงานต้องทำค่ะ เลยรีบมา แล้วจะให้คนอื่นไปติดต่องานแทน หยกคงไม่...” เธอตอบแล้วก้มหน้าเหมือนเดิม“คนอื่นเหรอ พูดง่ายดี ทำอะไรไว้ทำไมไม่รับผิดชอบให้มันจบ”“หยกทำอะไรคะ” เธอเริ่มเสียงสั่นขณะที่เขาทำเสียงดุเข้มใส่“ทำงาน ไปทำงานให้เสร็จ...” จบคำเขาก็คว้าแขนเธอให้เดินไปด้วยทันที“ไม่! หยกไม่ไปแล้ว หยกจะไม่ไป” เธอพยายามสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมของเขาทว่าไร้ผ
สวนส้มสุริยะฉัตร เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในแม่ฮ่องสอน ปลูกส้มมากกว่าสิบสายพันธุ์ แต่รู้จักกันมากก็คือ ส้มสายน้ำผึ้งเพราะได้รับความนิยม วันนี้ทุกคนทำงานอย่างขะมักเขม้นเหมือนอย่างเคย เพราะมีคิวที่ต้องส่งส้มเข้าสู่โรงงานหนึ่ง ซึ่งทางโรงงานต่างๆ ต้องมารับเองตามที่รับปากกันเอาไว้ ทว่าบางที่มันไม่เป็นอย่างที่คิดส้มกำลังถูกลำเลียงใส่ในตะกร้าพลาสติกสีเขียวทรงสี่เหลี่ยม แล้วนำมาวางเรียงรายกันที่หน้าสวนเป็นจุดๆ คนงานค่อนข้างจะเครียดเพราะอากาศร้อน อีกทั้งมีหัวหน้ามายืนเฝ้ายิ่งเครียดกันไปอีกเพราะต้องเร่งมือทำ ขณะที่หัวหน้ากำลังยืนคุมอยู่นั้น คนงานคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาหา“หัวหน้าครับมีตัวแทนจากโรงงานของเจ้าสัวบุญเสริมมาขอพบครับ” คนงานรายงานด้วยเสียงเรียบปกติ“ฮืม ตัวแทนจากโรงงานเจ้าสัวเหรอ ทำไมไม่เข้ามาหาฉันที่นี่วะ เขารออยู่ไหน” ชาติชายซึ่งเป็นหัวหน้าถามพลางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย“รออยู่ออฟฟิศครับ” คนงานตอบ“ปกติมาที่นี่ไม่ใช่เหรอ ไหงไปรอที่ออฟฟิศ บอกนายหรือยังเนี่ย”“ยังไม่บอกครับ เธอเพิ่งมาถึงอีกอย่างผมก็ไม่เคยเห็นหน้าด้วย น่าจะเป็นตัวแทนของเจ้าสัวคนใหม่ล่ะมั้งครับ ท่าทางไฟแรงน่าดู ยังเด็กอยู่ด้วย” ...
ความคิดเห็น