หน้าหลัก / โรแมนติก / หวานใจนายเถื่อน / บทที่ 5 เจ้าของสวนปากร้าย II

แชร์

บทที่ 5 เจ้าของสวนปากร้าย II

“อันที่จริง ผมก็ไม่อยากรู้จักคนที่ทำงานไม่เป็นมืออาชีพหรอกนะ แล้วคนรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างคุณ ผมเห็นตายไปจากอาชีพเยอะแยะ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะคุณเพิ่งจะฟักออกมาจากไข่ เพิ่งหัดเดินแล้วดันมาเจอคนสวนมืออาชีพอย่างผมไง ความไฟแรงมันไม่ช่วยอะไร นอกจากทำให้องค์กรมอดไหม้ไปด้วย เจ้าสัวรู้จักผมเป็นอย่างดี ฉะนั้นฝากบอกท่านว่า ถ้าอยากให้การค้าของเราราบรื่นไปอีกสิบปียี่สิบปีข้างหน้าล่ะก็ อย่าเอาน้องใหม่มาติดต่องาน ผมไม่ชอบ” คำพูดทั้งหมดทั้งมวลเขาต่อว่าเธอชัดๆ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ปรี๊ดแตกได้อย่างไร

“นาย... นายว่าฉัน นายกล้าดียังไง นายไม่รู้เหรอว่าฉันเป็น...” เธอโมโหสุดขีด แต่เขายังคงยืนนิ่งชักสีหน้าเข้มใส่เธอ

“ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร ชาติ ส่งแขก” เขาแทรกขึ้นและออกปากไล่เสียเลย แต่เธอจะกลับได้อย่างไรหากกลับไปมือเปล่า เจ้าสัวบุญเสริมต้องต่อว่าเธอแน่ๆ อาจจะมีการลดตำแหน่งให้เธอไปทำงานอย่างอื่นแทนน่ะสิ

“ได้ครับนาย” ชาติชายรับคำแต่เธอไม่ยอมแพ้แน่ๆ

“ตกลงว่านายจะไม่คุยกับฉัน” เพราะอยากคุยกับเขาสินะถึงได้ยอมรอจนเกือบค่ำขนาดนี้ 

“ผมบอกคุณแล้วว่า ใจเย็นให้เป็นเสียก่อนเถอะแล้วเราค่อยคุยกัน” เขานี่มันเล่นตัวเสียจริง เธอคิดด้วยความโมโห

“นี่นายคิดว่าฉันใจร้อนอย่างนั้นเหรอ” เมื่อเธอเอ่ยเช่นนี้เขาจึงหันไปมองหน้าชาติชายและพยักหน้าเป็นเชิงไล่ จากนั้นก็หันมาทางพนักงานที่นั่งทำงานอยู่ ทุกคนเห็นดังนั้นแล้วจึงรีบเก็บของแล้วออกไปจากออฟฟิศทันที

“มาถึงคุณก็จะเอาลูกเดียว ชื่อคุณผมก็ยังไม่รู้จักเลย” นี่เธอลืมแนะนำตัวหรือเนี่ย เธอคิดถามตัวเอง

“หงส์หยก เป็น...” เธอกำลังจะพูดต่อแต่เขารู้ดีว่าจะพูดอะไรจึงแทรกขึ้นเพื่อตัดบท

“เป็นตัวแทนของโรงงาน ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณหงส์หยก เรารู้จักกันแล้วคุณกลับไปได้” 

“อ้าว! ดีตาบ้านี่ ตกลงจะเอายังไง ฉันมาติดต่องานกับนายนะ” น้ำเสียงของเธอไม่ทำให้เขาอยากจะคุยด้วยเลย เพราะมีแต่ความใจร้อนอย่างที่เขาบอกไม่มีผิด หากแต่เธอไม่รู้ตัวเลย

“ผมก็อยากจะคุยนะ แต่ไม่อยากคุยกับคุณ คุณมีแต่อยากได้ เอาแต่ใจตัวเอง” 

“อีตาบ้า ฉันเอาแต่ใจตัวเองตรงไหน” 

“ตรงนี้ไง ตรงที่จะเอาอย่างเดียว หวังแต่ผลประโยชน์เข้าตัวเอง ก่อนที่จะได้ไป คุณต้องเห็นว่าผมทำอะไรบ้าง กว่าจะได้แต่ละอย่างที่คุณกับเจ้าสัวต้องการน่ะ แดดร้อนนะคุณ ฉะนั้นถ้าคุณอยากเหมาสวนผมคุณก็ต้องเห็นผมทำงานบ้าง จะได้หยุดบ่น” 

“ฉันจำเป็นจะต้องเห็นนายทำงานทำไม ฉันมีหน้าที่รับซื้อเท่านั้น” 

“นั่นไง แล้วคุณจะรู้ได้ยังไงว่ากว่าผมจะได้ส้มแต่ละเข่งให้คุณน่ะมันยากแค่ไหน มาถึงแทนที่จะลงไปหากางร่มไปก็ได้ คนอื่นไม่เห็นจะบ่นเหมือนคุณเลย คิดว่าผมจะขึ้นมาหาคุณอย่างนั้นเหรอ ไม่ จนกว่างานจะเสร็จ”

“นายที่เล่นตัวเหลือเกินนะ แต่เจ้าสัวก็ยังง้อนายอยู่ได้ฉันไม่เข้าใจเลย”

“เพราะผมเป็นรายใหญ่ที่สุดในจังหวัดไง และคุณเองก็ต้องง้อผมด้วย” พูดจบเขาก็ยักคิ้วหลิ่วตาใส่เธอเหมือนกำลังเป็นต่อ

“ฉันไม่มีวันง้อนาย” เธอตอบด้วยความมั่นใจ 

“หึๆ แล้วที่รออยู่เนี่ย เรียกว่าง้อหรือเปล่า ตั้งแต่สิบโมงเช้าถึงห้าโมงเย็นนี่ก็เกือบจะหกโมงแล้วด้วย ฮืม ข้างนอกมืดแล้วนะคุณ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงเยาะหยันแต่ยังไม่ยอมยิ้มเลยแม้แต่นิดเดียว

“มืด! มืดแล้วอย่างนั้นเหรอ ตายล่ะ! กว่าจะกลับถึงบ้าน เป็นเพราะนายคนเดียว” เธอว่าพร้อมกับเดินไปที่กระจกเพื่อส่องดูด้านนอก ซึ่งก็มืดจริงๆ เพราะฤดูหนาวจะมืดเร็วกว่าปกติ

“หึๆ คุณกล้ากลับไปมือเปล่าด้วยเหรอ” ถามเสร็จเขาก็เดินออกไปจากออฟฟิศทันทีพร้อมกับในมือถือแก้วกาแฟด้วย เห็นดังนั้นเธอจึงกลับมาหยิบกระเป๋าถือแล้ววิ่งตามเขาไป

“ตกลงนายจะเอายังไง จะเล่นตัวไปถึงไหน” เธอตะโกนถามไล่หลัง 

“คุณยอมแพ้หรือยัง” เขาเดินไปพลางพูดไปพลาง

“ไม่ ฉันไม่ยอมแพ้” เธอยืนกรานเสียงแข็ง ลืมไปเสียสนิทว่าหากดื้ออยู่อย่างนี้ก็ไม่ได้งานกลับไป แทนที่จะได้ตกลงเรื่องซื้อขายก็ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย เจ้าสัวเป็นได้ด่าแน่ๆ

“ถึงจะไม่ยอมแพ้แต่คุณก็กลับไปซะ พรุ่งนี้ให้คนอื่นมาติดต่อแทนคุณ เพราะผมไม่ขายให้คุณ โอเคไหม” เขายืนกรานเสียงแข็งเช่นกัน 

“ไม่โอเค! นี่นายปราบ! ฉันมาติดต่องาน มาขอซื้อส้มจากนาย นายดีลกับเจ้าสัวมานาน จะยอมเสียชื่อตัวเองหรือยังไง จะยอมทิ้งเงินเหรอ ฉันอุตสาห์เอาเงินมากองไว้ตรงหน้านายแต่ไม่ยอมรับ แบบนี้หมายความว่ายังไง” 

“งวดงี้ผมส่งเจ้าอื่นก็ได้ครับ ส่วนเงินน่ะผมมีเยอะ” พูดจบเขาก็เดินจ้ำอ้าวจากไปทันที 

“ไอ้... ไอ้บ้าปราบ ดีล่ะฉันจะบอกเจ้าสัว บอกเครือข่ายโรงงานอื่นๆ ไม่ต้องรับจากนาย” เธอว่าและตะโกนไล่หลังซึ่งเขาได้ยินแหละ เพียงแต่ไม่แคร์เท่านั้นเอง

“นี่! ไอ้... อ้าย!” ดูเหมือนนายปราบคนนี้กำลังทำให้เธอรู้สึกเสียความเป็นตัวเองไป ผู้หญิงที่เอาแต่ใจและต้องชนะทุกอย่างแบบเธอ ต้องแพ้เขาหรือเนี่ย ทำยังไงเขาถึงจะยอมคุยกับเธอดีๆ เล่า เธอคิด และสุดท้ายจึงรีบเดินตามเขากระทั่งถึงบ้านหลังหนึ่งสไตล์รีสอร์ต รูปทรงคล้ายกับออฟฟิศแต่หลังใหญ่และสัดส่วนมากกว่า คาดว่าจะน่าเป็นบ้านของเขา

“ถ้าคุณยังเดินตามผม พร้อมกับตะโกนไล่หลังแบบนี้ คุณกลับไปดีกว่า แล้วส่งคนอื่นมาแทน” ปราบหันขวับกลับมาบอกตามด้วยประโยคแสนจะหยิ่งจองหองของเขานั่นแหละ

“ฉันจะไม่กลับไปมือเปล่าเป็นอันขาด”

“ทำไม กลัวตกงานเหรอ ก็น่าอยู่หรอกคนใจร้อนมักเสียงานนี่นะ” นี่เขากำลังเยาะเย้ยเธอหรือเนี่ย 

“นี่นายเลิกพูดว่าฉันใจร้อนซะทีได้หรือเปล่า คนใจร้อนที่ไหนจะรอคนไร้มารยาทได้นานขนาดนี้” 

“คุณจำเป็นต้องรอต่างหาก จากนั้นคุณด่าเอา ด่าเอา ลูกน้องผมขี้หูเต้นระบำแล้วมั้ง”

“เว่อร์” หงส์หยกว่าแต่เถียงไม่ได้เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ 

“ค่ำแล้วคุณกลับไปเถอะ ไม่ต้องมาตื้อผมเสียให้ยาก” ให้ตายเขาคิดว่าเธอตื้ออย่างนั้นหรือเนี่ย สำคัญตัวเอง เธอตื้อเพราะเรื่องงานหรอกน่า

“ไร้มารยาทแถมยังไร้น้ำใจอีก”

“ผมไร้น้ำใจตรงไหน”

 

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status