หน้าหลัก / โรแมนติก / หวานใจนายเถื่อน / บทที่ 4 เจ้าของสวนปากร้าย I

แชร์

บทที่ 4 เจ้าของสวนปากร้าย I

จนกระทั่งเวลากว่าห้าโมงเย็น ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าของสวนจะขึ้นไปรับรองแขก เพราะเขายังเคลียร์งานไม่เสร็จ แต่คนที่กระวนกระวายเหมือนจะเป็นบ้าเห็นทีจะเป็นคนที่รอ เพราะหงส์หยกมาตั้งแต่สิบโมงเช้า เวลานี้กว่าห้าโมงเย็นเข้าไปแล้ว ไม่คิดว่าคนที่เจ้าสัวบุญเสริมบอกว่าสุดยอดจะปล่อยให้เธอรอได้ขนาดนี้

“ตกลงว่าเจ้าของสวนที่นี่ไม่อยากขายส้มให้กับเจ้าสัวบุญเสริมอีกแล้วใช่ไหม” หญิงสาวเริ่มโวยวายเสียงดัง พร้อมกับเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานของเลขาฯ หน้าห้อง

“เอ่อ เรื่องนี้เราไม่ทราบค่ะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นายบอกว่าจะไม่ขึ้นมาไม่ใช่เหรอคะ” เลขานุการสาวตอบเสียงสั่นเล็กน้อย

“แย่มากเลยนะที่ปล่อยให้ตัวแทนรอแบบนี้ ตกลงเขาจะไม่ขึ้นมาจริงๆ ใช่ไหม”

“ปกตินายจะไม่ขึ้นมาค่ะ วันนี้ต้องเอาส้มเข้าโรงงานด้วยเกรงว่าจะดึกด้วยซ้ำ” 

“ทำงานแบบนี้ไม่มีวันเจริญหรอกนะ ได้ยินมาว่าดีลกับโรงงานเจ้าสัวมาเป็นสิบปี แต่คราวนี้บอกได้เลยว่าฉันจะสั่งเจ้าสัวให้เลิกติดต่อกับที่นี่” ให้ตายแล้วหาเรื่องคอขาดบาดตายมาให้ทุกคนในสวนเสียแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นใครแต่ที่แน่ๆ มีอำนาจสั่งการแน่นอน

“เอ่อใจเย็นๆ นะคะ”

“ตั้งแต่มาถึงที่นี่คุณเห็นฉันใจร้อนอย่างนั้นเหรอ เย็นเกินจะเย็นแล้วด้วย” 

“แต่ก็ถือว่าคุณใจเย็นและอดทนมากเลยนะครับ” เสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นระหว่างสองสาว เมื่อได้ยินดังนั้นแล้วหงส์หยกจึงรีบหันขวับกลับไปหา พร้อมกับชักสีหน้าแบบโมโหสุดขีดใส่ชายที่เปิดประตูเข้ามาในออฟฟิศ

“นี่เหรอเจ้าของสวน นายนี่มันแย่มากนะ ไร้มารยาทที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา ให้ตัวแทนจากโรงงานใหญ่รออยู่ทั้งวัน แบบนี้เราควรเลิกติดต่อกันเลยดีไหม ฉันจะได้บอกเจ้าสัวแล้วจะได้หาสวนอื่นแทน หรือคิดว่าโรงงานผลไม้ของเราเป็นของตาย ยังไงก็ต้องซื้อจากนาย นายถึงได้เล่นตัวขนาดนี้” เธอต่อว่าด้วยความไม่พอใจจนคนฟังแทบเถียงไม่ทัน จะอ้าปากแก้ตัวหน่อยเธอก็ร่ายเสียยาวเหยียด

“ฟังผมก่อนนะ” เขาบอกแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อเธอก็ด่าอีก

“รู้ไหมว่าฉันต้องถ่อสังขารจากในเมืองมาจนถึงที่นี่มันหลายชั่วโมง แดดก็ร้อน ดื่มกาแฟรอนายทั้งวันจนตาแข็งหมดแล้ว กว่าจะกลับถึงบ้านจะไม่สามสี่ทุ่มหรือยังไง นี่ฉันเอาเวลาไร้สาระมาทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ แทนที่จะได้คุยงาน ฉันจะเรียกร้องค่าเสียเวลาและปรับพวกนาย” ให้ตายสิ หาเรื่องปรับกันเสียอย่างนั้น

“ถ้าเจ้าสัวใจร้อนนัก กลับไปบอกท่านว่า งวดนี้ผมไม่ขายให้ ไปติดต่อสวนอื่นได้เลย” ขณะที่เธอกำลังด่าชายที่อยู่ตรงหน้านั้น เสียงดุเข้มแข็งกระด้างก็ดังแทรกขึ้นมา ทำให้หญิงสาวถึงกับหุบปากเพราะคิดว่าด่าผิดคน จังหวะเดียวกันนั้น คนที่พูดก็เดินเข้ามาหาเธอช้าๆ แล้วชายที่เธอมองว่าเป็นเจ้าของสวน กับคนที่กำลังเดินมาช่างต่างกันโดยสิ้นเชิง 

เขาคนนี้หน้าตาคม มีหนวดเคราเข้ม รูปร่างสูงใหญ่กำยำ ผิวพรรณค่อนไปทางสีน้ำผึ้ง การแต่งตัวแบบสวมเสื้อยึดสีขาวด้านใน และเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสก็อตด้านนอก สวมกางเกงยีนส์ บุคลิกโดยรวมหล่อเหลือรับประทาน เกินกว่าจะเป็นลูกจ้าง เขาทำให้เธอหยุดด่าและตะลึงไปชั่วขณะ กระทั่งเขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าจ้องเธอตาเขม่ง จนเธอต้องเบือนสายตาไปทางอื่น

“คุณเหรอตัวแทนโรงงาน” ปราบถามเสียงเข้ม เธอจึงเรียกความกล้าเชิดหน้าขึ้นแล้วหันมาตอบ

“ใช่ นายเหรอเจ้าของสวน” หงส์หยกถาม แต่คนละน้ำเสียง อีกทั้งสีหน้าแววตาของเธอหยามหยันชอบกล คิดว่าเขาไม่ใช่เจ้าของสวนสินะ

“แล้วเจ้าสัวว่ายังไง ท่านบอกไหมว่าเจ้าของสวนที่นี่เป็นคนแบบไหน” ปราบว่าเสียงเข้มเช่นเดิม ก่อนจะเดินผ่านเธอแล้วหยุดยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม สั่งพนักงานชงกาแฟสดให้หนึ่งแก้ว

“เป็นคนไม่มีมารยาท” หงส์หยกว่าก่อนจะหันไปมองแผ่นหลังกว้างๆ ของเขาแบบประหม่า

“อันนี้คุณพูดเองล่ะมั้ง ว่าแต่ด่าเจ้าชาติแล้วทำให้ใจเย็นลงบ้างหรือยัง” ปราบแกล้งแซว ทว่าไม่ได้หันกลับมามองเธอ เพราะยังรอกาแฟอยู่ แต่กลับทำให้เธอรู้สึกหน้าแตกยังไงก็ไม่รู้ 

“ฉัน... ฉันจะด่าทุกคนที่เกี่ยวข้องนั่นแหละ ว่ายังไงฉันอุตสาห์รอ นายจะบอกง่ายๆ ว่าให้ไปซื้อที่อื่น เอาอย่างนั้นจริงๆ ใช่ไหม”

“คุณกล้าไหมล่ะ กล้าไปหาเจ้าสัวมือเปล่าไหม” ปราบถามพร้อมกับหันมาจ้องเธอตาเขม่งอีกครั้ง แต่คำพูดของเขาดูเหมือนจะมั่นใจเสียเหลือเกินว่าเธอจะยอมแพ้

“ฉันโทรบอกท่านแล้วว่านายทำอะไรไว้” 

“ตลอดสิบปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่มีการเก็บเกี่ยว คนของท่านจะไปติดต่อผมที่สวน เพราะมันเป็นเวลาทำงานของผม เห็นทีว่าคุณจะเป็นคนแรกที่ยอมรอที่นี่ และน่าจะเป็นคนแรกที่ทำงานล้มเหลว”

“นาย...” เธอไม่รู้จักชื่อของเขาอย่างเป็นทางการ และกำลังจะอ้าปากด่า ทว่าเขากลับแทรกขึ้น

“ปราบ ผมชื่อปราบ จำชื่อผมไว้ตราบใดที่คุณต้องดีลงานกับผม คุณต้องเรียกชื่อผมบ่อยขึ้น” 

“ฉันไม่เรียก” เธอตอบอย่างหนักแน่นพลางเชิดหน้าขึ้น

“งั้นเชิญครับ กลับไปเลย ถือเสียว่าเราไม่เคยคุยกัน และขอแสดงความเสียใจด้วยคุณกลับโรงงานมือเปล่า ผมรู้นะว่าเจ้าสัวทำโทษคนทำงานล้มเหลวยังไง” ไอ้คนบ้ารู้ทุกอย่างเลยให้ตายสิ เธอคิดพลางขึงตาใส่เขา  

“นายรู้จักฉันน้อยไป ถ้านายรู้ว่าฉันเป็นใคร นายจะไม่พูดกับฉันแบบนี้” เธออยากจะบอกเหลือเกินสินะว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน ซึ่งเขาไม่แคร์ต่อให้เธอเป็นถึงลูกสาวเจ้าของโรงงานก็ตาม เขาคิดก่อนจะเดินเข้าไปใกล้แล้วก้มหน้าลงเล็กน้อย

“ใช่ผมไม่รู้จักคุณ คนมีมารยาทก็ต้องแนะนำตัว” นี่เขาว่าเธอหรือเนี่ย

 

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status