“เอา พี่จะเอา จะเอาหยกตอนนี้ เดี๋ยวนี้” เขาบอกด้วยน้ำเสียงหื่นกระหายก่อนจะผงกศีรษะขึ้นแล้วขยี้จูบที่ปากอิ่มอีกครั้งอย่างเร่าร้อน ทำเอาปากบางแทบพังและแสบเพราะหนวดเคราถูไถ ขณะที่เรียวลิ้นร้อนส่งออกมาลากเลียไปตามเรียวปากแห้งผาก ก่อนจะสอดแทรกเข้าสู่โพรงปากนุ่มอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตวัดลิ้นเกาะและสูบกลืนลมหายใจกันเอาไว้ จูบดูดดื่มร้อนแรงจนทำให้กลางกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ท่อนเนื้อภายใต้กางเกงยีนส์มันกำลังดีดดิ้นและถูไถกับกลางลำตัวของเธอ กระตุ้นให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียนอย่างรุนแรงและจากมือที่เกาะกุมมือเธออยู่ค่อยๆ ปล่อยเคลื่อนลงมาตามลำคอ จนถึงเนินอกอวบ เขาบีบเค้นแรงๆ ขณะที่ปากยังคงบดขยี้จูบ ก่อนจะละเรียวปากขยับลงมาขบเม้มที่ซอกคอและดูดจนเป็นรอยแดงจ้ำ มือก็ขยำทรวงอกอย่างหนักหน่วง จากนั้นก็เลื่อนมืออีกข้างลงไปที่หน้าท้องแบนราบ กระทั่งถึงขอบกางเกง เขาจึงปลดกระดุม รูดซิบ ก่อนจะสอดฝ่ามือล้วงเข้าไปอย่างรวดเร็ว“อืม” เธอครางในลำคอเมื่อฝ่ามือหนาลูบไล้บนเนินสวาทแผ่วเบา พร้อมกับสอดแทรกนิ้วมือแกร่งแหวกว่ายหยอกเย้ากับกลีบสวาท กรีดกรายนิ้
“อืม” เขาครางออกอยู่ในลำคอเมื่อปากอิ่มบดขยี้จูบอย่างดูดดื่ม สิ่งที่เขาสอนเธอมาหลายครั้ง เธอจำแม่นและนำมาใช้กับเขา ซึ่งทำได้ดีจนเขาแทบคลั่งเลยทีเดียว แต่จูบได้ไม่นานนักเธอก็ถอนออกก่อนจะไล่เรียวปากจูบแก้มที่สากไปด้วยเครา ไล่มาที่ซอกคอและดูดเม้มแรงกว่าเขาด้วยซ้ำ“อืม แม่เสือสาว ร้อนแรงจัง” เขาครางและบอกอย่างพอใจอีกครั้ง พลางกัดฟันและยิ้มกับตัวเอง จากนั้นปากอิ่มก็จูบจนถึงแผงอกกว้างที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามแน่น ๆ ปลายลิ้นร้อนไร้เดียงสาของเธอถูกส่งออกมาโลมเลียตวัดไปมากระทั่งถึงยอดอก ครั้งนี้เธอจะเอาคืนบ้างจึงใช้ลิ้นเลียตรงยอดอกระรัว ทำให้เขาสะท้านและบิดเกร็งลำตัว“ซี๊ดดดด อ่า ดีจัง ดีมากเลย” เขาออกปากชมและครางด้วยความพอใจครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ลิ้นและเรียวปากอิ่มดูดเลียยอกอกอย่างร้อนแรง กลางลำตัวของเขาก็ดีดดิ้นขึงขัง แข็งจนอยากจะออกมาหายใจ เธอสัมผัสได้ว่ามันดิ้นเมื่อเนินสวาทถูไถไปมา“โอ้ว หยกจ๋า อ่า ช่วยพี่ที” คราวนี้เป็นทีของเขาที่จะต้องเอ่ยปากขอร้องบ้าง และเมื่อได้ยินดังนั้
สวนส้มสุริยะฉัตร เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในแม่ฮ่องสอน ปลูกส้มมากกว่าสิบสายพันธุ์ แต่รู้จักกันมากก็คือ ส้มสายน้ำผึ้งเพราะได้รับความนิยม วันนี้ทุกคนทำงานอย่างขะมักเขม้นเหมือนอย่างเคย เพราะมีคิวที่ต้องส่งส้มเข้าสู่โรงงานหนึ่ง ซึ่งทางโรงงานต่างๆ ต้องมารับเองตามที่รับปากกันเอาไว้ ทว่าบางที่มันไม่เป็นอย่างที่คิดส้มกำลังถูกลำเลียงใส่ในตะกร้าพลาสติกสีเขียวทรงสี่เหลี่ยม แล้วนำมาวางเรียงรายกันที่หน้าสวนเป็นจุดๆ คนงานค่อนข้างจะเครียดเพราะอากาศร้อน อีกทั้งมีหัวหน้ามายืนเฝ้ายิ่งเครียดกันไปอีกเพราะต้องเร่งมือทำ ขณะที่หัวหน้ากำลังยืนคุมอยู่นั้น คนงานคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาหา“หัวหน้าครับมีตัวแทนจากโรงงานของเจ้าสัวบุญเสริมมาขอพบครับ” คนงานรายงานด้วยเสียงเรียบปกติ“ฮืม ตัวแทนจากโรงงานเจ้าสัวเหรอ ทำไมไม่เข้ามาหาฉันที่นี่วะ เขารออยู่ไหน” ชาติชายซึ่งเป็นหัวหน้าถามพลางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย“รออยู่ออฟฟิศครับ” คนงานตอบ“ปกติมาที่นี่ไม่ใช่เหรอ ไหงไปรอที่ออฟฟิศ บอกนายหรือยังเนี่ย”“ยังไม่บอกครับ เธอเพิ่งมาถึงอีกอย่างผมก็ไม่เคยเห็นหน้าด้วย น่าจะเป็นตัวแทนของเจ้าสัวคนใหม่ล่ะมั้งครับ ท่าทางไฟแรงน่าดู ยังเด็กอยู่ด้วย”
ออฟฟิศของสวนส้มสุริยะฉัตรมีลักษณะคล้ายกับร้านกาแฟแต่ใหญ่กว่าหลายเท่า ตัวออฟฟิศเป็นกระจกหนารอบด้าน ทั้งหมดมีผ้าม่านสีขาวรอบด้านเช่นกัน ส่วนโครงสร้างเป็นไม้เชอร์ร่าสีดำ ภายในตกแต่งให้คล้ายร้านกาแฟคือมีเก้าอี้ไว้นั่งดื่ม รับแขก อีกทั้งเป็นโต๊ะทำงานของผู้ช่วยและเลขาฯ รวมถึงเจ้าหน้าที่แต่ละตำแหน่ง ห้องส่วนทำงานของปราบมีอีกห้องที่ต่อเติมเพิ่มนั่นเอง ส่วนแขกผู้มาเยือน นั่งรออยู่ที่โซฟารับแขก หงส์หยก เธอเป็นสาวสวย บุคลิกมีความมั่นใจสูง ภายนอกดูเหมือนหยิ่งจองหองจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ใบหน้าสวยเฉียวดึงดูดความสนใจของเหล่าพนักงานชายและหญิงได้เป็นอย่างดี ริมฝีปากหยักยิ้มเล็กน้อยคล้ายจะเย้ยหยันในที ทว่าเธอไม่ได้เย้ยหยันใคร เพียงแต่เป็นบุคลิกประจำตัวเท่านั้น หญิงสาวได้แต่จิบกาแฟสดไปอย่างเพลินใจ พร้อมกับรับความเย็นสบายจากอากาศภายนอกที่โกรกเข้ามาทางหน้าทางบานสไลด์เพราะไม่ได้เปิดแอร์แต่อย่างใดเนื่องจากอากาศค่อนข้างเย็น แต่ระหว่างที่หงส์หยกกำลังนั่งดื่มกาแฟและรอเจ้าของสวนอยู่นั้น คนงานคนเดิมที่เพิ่งจะมาต้อนรับเธอ ก็เดินเข้ามาพร้อมกับเอ่ยขึ้น “เอ่อขอโทษครับ นายขอให้คุณไปพบที่สวนตรงที่มีรถโรงงานจอดขนส้
“อะไรนะ! ไม่มาอย่างนั้นเหรอ แกไปบอกเขาว่ายังไง” เจ้านายขี้ยั้วถามอย่างหัวเสียเมื่อมะเดี่ยวกลับมารายงาน“ผมบอกอย่างงที่นายบอกเลยครับ แต่เธอไม่ยอมมา และจะไม่ยอมกลับด้วย จะรออยู่ออฟฟิศจนกว่านายจะขึ้นไป” “ก็ดี รอได้ก็ให้รอไป”“นายครับ จะดีเหรอครับคนของเจ้าสัวไปจะฟ้องเจ้าสัวเอาได้นะครับว่าเราไม่ยอม” ชาติชายเสริมขึ้นเพราะกลัวว่าความเย่อหยิ่งของเจ้านายจะพาลเสียงาน และยกเลิกการซื้อส้มจากที่นี่ไปเลยก็ได้“ปกติแล้วเรากับคนของเจ้าสัวไม่เคยมีปัญหากัน ทำไมให้เด็กใหม่มาทำงาน จองหองสิ้นดี ไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร” “ก็อาจจะไม่รู้ครับท่าทางเธอใหม่มาก” มะเดี่ยวแทรกขึ้น“เจ้าสัวไม่เคยให้ผู้หญิงมาติดต่อ แต่ทำไมคราวนี้...” “เขาว่าผู้หญิงเวลาเจรจางานการ ธุรกิจ หรือแม้แต่เจรจาศึก เขาว่าได้ผลดีนักแล ท่านเจ้าสัวอาจจะคิดแบบนี้ ยิ่งเจ้าของสวนเป็นพวกห่างไกลความเจริญ ป่าเถื่อน ดุ ไหนจะขี้ยั้วอีก แบบนี้ก็ต้องใช้ผู้หญิงมาเจรจาว่าความ จริงไหมครับ” ชาติชายอธิบายพร้อมกับแซวไม่ดูตาม้าตาเรือเอาเสียเลย“แกว่าใครว่าวะ ก็สวนผลไม้มันต้องอยู่ห่างไกลความเจริญอยู่แล้ว มึงบ้าหรือเปล่า” ปราบถามเสียงเรียบแต่ก็ไม่ได้โกรธเคือง “
จนกระทั่งเวลากว่าห้าโมงเย็น ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าของสวนจะขึ้นไปรับรองแขก เพราะเขายังเคลียร์งานไม่เสร็จ แต่คนที่กระวนกระวายเหมือนจะเป็นบ้าเห็นทีจะเป็นคนที่รอ เพราะหงส์หยกมาตั้งแต่สิบโมงเช้า เวลานี้กว่าห้าโมงเย็นเข้าไปแล้ว ไม่คิดว่าคนที่เจ้าสัวบุญเสริมบอกว่าสุดยอดจะปล่อยให้เธอรอได้ขนาดนี้“ตกลงว่าเจ้าของสวนที่นี่ไม่อยากขายส้มให้กับเจ้าสัวบุญเสริมอีกแล้วใช่ไหม” หญิงสาวเริ่มโวยวายเสียงดัง พร้อมกับเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานของเลขาฯ หน้าห้อง“เอ่อ เรื่องนี้เราไม่ทราบค่ะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นายบอกว่าจะไม่ขึ้นมาไม่ใช่เหรอคะ” เลขานุการสาวตอบเสียงสั่นเล็กน้อย“แย่มากเลยนะที่ปล่อยให้ตัวแทนรอแบบนี้ ตกลงเขาจะไม่ขึ้นมาจริงๆ ใช่ไหม”“ปกตินายจะไม่ขึ้นมาค่ะ วันนี้ต้องเอาส้มเข้าโรงงานด้วยเกรงว่าจะดึกด้วยซ้ำ” “ทำงานแบบนี้ไม่มีวันเจริญหรอกนะ ได้ยินมาว่าดีลกับโรงงานเจ้าสัวมาเป็นสิบปี แต่คราวนี้บอกได้เลยว่าฉันจะสั่งเจ้าสัวให้เลิกติดต่อกับที่นี่” ให้ตายแล้วหาเรื่องคอขาดบาดตายมาให้ทุกคนในสวนเสียแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นใครแต่ที่แน่ๆ มีอำนาจสั่งการแน่นอน“เอ่อใจเย็นๆ นะคะ”“ตั้งแต่มาถึงที่นี่คุณเห็นฉันใจร้อนอย่าง
“อันที่จริง ผมก็ไม่อยากรู้จักคนที่ทำงานไม่เป็นมืออาชีพหรอกนะ แล้วคนรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างคุณ ผมเห็นตายไปจากอาชีพเยอะแยะ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะคุณเพิ่งจะฟักออกมาจากไข่ เพิ่งหัดเดินแล้วดันมาเจอคนสวนมืออาชีพอย่างผมไง ความไฟแรงมันไม่ช่วยอะไร นอกจากทำให้องค์กรมอดไหม้ไปด้วย เจ้าสัวรู้จักผมเป็นอย่างดี ฉะนั้นฝากบอกท่านว่า ถ้าอยากให้การค้าของเราราบรื่นไปอีกสิบปียี่สิบปีข้างหน้าล่ะก็ อย่าเอาน้องใหม่มาติดต่องาน ผมไม่ชอบ” คำพูดทั้งหมดทั้งมวลเขาต่อว่าเธอชัดๆ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ปรี๊ดแตกได้อย่างไร“นาย... นายว่าฉัน นายกล้าดียังไง นายไม่รู้เหรอว่าฉันเป็น...” เธอโมโหสุดขีด แต่เขายังคงยืนนิ่งชักสีหน้าเข้มใส่เธอ“ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร ชาติ ส่งแขก” เขาแทรกขึ้นและออกปากไล่เสียเลย แต่เธอจะกลับได้อย่างไรหากกลับไปมือเปล่า เจ้าสัวบุญเสริมต้องต่อว่าเธอแน่ๆ อาจจะมีการลดตำแหน่งให้เธอไปทำงานอย่างอื่นแทนน่ะสิ“ได้ครับนาย” ชาติชายรับคำแต่เธอไม่ยอมแพ้แน่ๆ“ตกลงว่านายจะไม่คุยกับฉัน” เพราะอยากคุยกับเขาสินะถึงได้ยอมรอจนเกือบค่ำขนาดนี้ “ผมบอกคุณแล้วว่า ใจเย็นให้เป็นเสียก่อนเถอะแล้วเราค่อยคุยกัน” เขานี่มันเล่นตัวเสียจริง เธ
“คุณปล่อยให้ฉันรอจนค่ำ แล้วก็ไล่กลับอย่างนั้นเหรอ ฉันถ่อสังขารขับรถมาคนเดียวไม่รู้หรือไง” สิ้นคำของเธอเท่านั้นแหละ เขาก็ปรับสีหน้าตึงเครียดกว่าเดิมและขมวดคิ้วด้วยความสงสัย“พูดแบบนี้แปลว่าอยากนอนกับผม เอ่อไม่สิ อยากนอนที่นี่ ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก” ปราบมีสีหน้าเคร่งแต่แกล้งเย้าแหย่“ไอ้บ้า เพราะนายนั่นแหละ ขับรถไปส่งเลย”“ไม่!” ปราบตอบปฏิเสธพลางหัวเราะในลำคอเบาๆ“นี่! ฉันเป็นแขกนะ”“ช่วยไม่ได้ ใครบอกให้คุณมาคนเดียว ก็ต้องกลับไปคนเดียวนั่นแหละ แต่ถ้าไม่กลับ บ้านผมมีห้องรับแขกนะเดี๋ยวจัดให้นอนตรงโซฟา” จบคำเขาก็เดินเข้าบ้านไป แล้วเธอก็เดินตามอย่างเสียมิได้ และห้องแรกที่เจอคือห้องรับแขกจริงๆ ด้วย“ฉันจะบอกเจ้าสัวว่านายใจดำ ไม่มีน้ำใจ ไร้มารยาท”“ถ้าอยากให้ผมมีน้ำใจล่ะก็ ขึ้นไปนอนด้วยกันบนห้อง เอาไหมล่ะ” เขาเอ่ยและหันกลับมาหาเธอ พลางยักคิ้วหลิ่วตายั่วโมโหสุด
“อืม” เขาครางออกอยู่ในลำคอเมื่อปากอิ่มบดขยี้จูบอย่างดูดดื่ม สิ่งที่เขาสอนเธอมาหลายครั้ง เธอจำแม่นและนำมาใช้กับเขา ซึ่งทำได้ดีจนเขาแทบคลั่งเลยทีเดียว แต่จูบได้ไม่นานนักเธอก็ถอนออกก่อนจะไล่เรียวปากจูบแก้มที่สากไปด้วยเครา ไล่มาที่ซอกคอและดูดเม้มแรงกว่าเขาด้วยซ้ำ“อืม แม่เสือสาว ร้อนแรงจัง” เขาครางและบอกอย่างพอใจอีกครั้ง พลางกัดฟันและยิ้มกับตัวเอง จากนั้นปากอิ่มก็จูบจนถึงแผงอกกว้างที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามแน่น ๆ ปลายลิ้นร้อนไร้เดียงสาของเธอถูกส่งออกมาโลมเลียตวัดไปมากระทั่งถึงยอดอก ครั้งนี้เธอจะเอาคืนบ้างจึงใช้ลิ้นเลียตรงยอดอกระรัว ทำให้เขาสะท้านและบิดเกร็งลำตัว“ซี๊ดดดด อ่า ดีจัง ดีมากเลย” เขาออกปากชมและครางด้วยความพอใจครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ลิ้นและเรียวปากอิ่มดูดเลียยอกอกอย่างร้อนแรง กลางลำตัวของเขาก็ดีดดิ้นขึงขัง แข็งจนอยากจะออกมาหายใจ เธอสัมผัสได้ว่ามันดิ้นเมื่อเนินสวาทถูไถไปมา“โอ้ว หยกจ๋า อ่า ช่วยพี่ที” คราวนี้เป็นทีของเขาที่จะต้องเอ่ยปากขอร้องบ้าง และเมื่อได้ยินดังนั้
“เอา พี่จะเอา จะเอาหยกตอนนี้ เดี๋ยวนี้” เขาบอกด้วยน้ำเสียงหื่นกระหายก่อนจะผงกศีรษะขึ้นแล้วขยี้จูบที่ปากอิ่มอีกครั้งอย่างเร่าร้อน ทำเอาปากบางแทบพังและแสบเพราะหนวดเคราถูไถ ขณะที่เรียวลิ้นร้อนส่งออกมาลากเลียไปตามเรียวปากแห้งผาก ก่อนจะสอดแทรกเข้าสู่โพรงปากนุ่มอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตวัดลิ้นเกาะและสูบกลืนลมหายใจกันเอาไว้ จูบดูดดื่มร้อนแรงจนทำให้กลางกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ท่อนเนื้อภายใต้กางเกงยีนส์มันกำลังดีดดิ้นและถูไถกับกลางลำตัวของเธอ กระตุ้นให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียนอย่างรุนแรงและจากมือที่เกาะกุมมือเธออยู่ค่อยๆ ปล่อยเคลื่อนลงมาตามลำคอ จนถึงเนินอกอวบ เขาบีบเค้นแรงๆ ขณะที่ปากยังคงบดขยี้จูบ ก่อนจะละเรียวปากขยับลงมาขบเม้มที่ซอกคอและดูดจนเป็นรอยแดงจ้ำ มือก็ขยำทรวงอกอย่างหนักหน่วง จากนั้นก็เลื่อนมืออีกข้างลงไปที่หน้าท้องแบนราบ กระทั่งถึงขอบกางเกง เขาจึงปลดกระดุม รูดซิบ ก่อนจะสอดฝ่ามือล้วงเข้าไปอย่างรวดเร็ว“อืม” เธอครางในลำคอเมื่อฝ่ามือหนาลูบไล้บนเนินสวาทแผ่วเบา พร้อมกับสอดแทรกนิ้วมือแกร่งแหวกว่ายหยอกเย้ากับกลีบสวาท กรีดกรายนิ้
แต่ในขณะเดียวกัน ชาติชายก็รีบโทรศัพท์บอกเจ้านายว่าตัวเองได้เผลอพูดความจริงออกไปแล้ว ทำให้ปราบต้องรีบตามหงส์หยกกลับไปที่บ้านทันที“ไอ้ชาติ ไอ้ตัวแสบ ฆ่าทิ้งดีไหมเนี่ย” ปราบบ่นพร้อมกับขับรถ ATV ออกจากสวนทันที เพื่อจะได้ตามหงส์หยกให้ทัน จากนั้นเขาก็ขับมาถึงหน้าออฟฟิศในเวลาอันรวดเร็ว แต่ไม่มีวี่แววว่าเธอจะอยู่ในบริเวณนี้ เขาจึงกระโดดลงจากรถแล้วเดินเท้าตามหา เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินเร็วกว่ารถที่เขาขับ“อยู่ที่บ้านเราหรือเปล่าวะ” เขาคิดถามตัวเองแต่คนโกรธแบบนั้นมีหรือจะกลับบ้านพัก ต้องกลับบ้านตัวเองสินะ“พวกเอ็งเห็นคุณหยกหรือเปล่า ผู้หญิงที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าน่ะ เดินมาทางนี้หรือไหม” ปราบถามด้วยความร้อนใจ“เสื้อเชิ้ตสีฟ้าเหรอครับนาย ผมเห็นหลังไวๆ เดินไปที่โรงจอดรถของคนงานน่ะครับ”“อะไรนะ! โรงจอดรถของคนงานอย่างนั้นเหรอ ให้ตายสิ” เมื่อฟังอย่างนั้นแล้วก็มีสิ่งเดียวคือเธออาจจะให้คนงานไปส่งก็เป็นได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วเขาจึงรีบว
แต่ในขณะเดียวกัน ชาติชายก็รีบโทรศัพท์บอกเจ้านายว่าตัวเองได้เผลอพูดความจริงออกไปแล้ว ทำให้ปราบต้องรีบตามหงส์หยกกลับไปที่บ้านทันที “ไอ้ชาติ ไอ้ตัวแสบ ฆ่าทิ้งดีไหมเนี่ย” ปราบบ่นพร้อมกับขับรถ ATV ออกจากสวนทันที เพื่อจะได้ตามหงส์หยกให้ทัน จากนั้นเขาก็ขับมาถึงหน้าออฟฟิศในเวลาอันรวดเร็ว แต่ไม่มีวี่แววว่าเธอจะอยู่ในบริเวณนี้ เขาจึงกระโดดลงจากรถแล้วเดินเท้าตามหา เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินเร็วกว่ารถที่เขาขับ “อยู่ที่บ้านเราหรือเปล่าวะ” เขาคิดถามตัวเองแต่คนโกรธแบบนั้นมีหรือจะกลับบ้านพัก ต้องกลับบ้านตัวเองสินะ “พวกเอ็งเห็นคุณหยกหรือเปล่า ผู้หญิงที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าน่ะ เดินมาทางนี้หรือไหม” ปราบถามด้วยความร้อนใจ “เสื้อเชิ้ตสีฟ้าเหรอครับนาย ผมเห็นหลังไวๆ เดินไปที่โรงจอดรถของคนงานน่ะครับ” “อะไรนะ! โรงจอดรถของคนงานอย่างนั้นเหรอ ให้ตายสิ” เมื่อฟังอย่างนั้นแล้วก็มีสิ่งเดียวคือเธออาจจะให้คนงานไปส่งก็เป็นได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วเขาจึงรีบวิ่งไปที่โรงจอดรถทันที แล้วก็ทันเส
“เต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ต้องไปด้วยกัน ดูให้รู้ว่าเราทำงานกันลำบากแค่ไหน แล้วก็คุยงานไปด้วย” เขานี่ก็ช่างแกล้งเธอเสียจริงทั้งที่เพิ่งจะส่งส้มเข้าโรงงานของเธอไปเมื่อเช้านี่เอง คิดแล้วก็นึกขัน“อ้าวนาย กลับมาเร็วจังครับ” ชาติชายทักขึ้นเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเดินมาพร้อมกับคู่ค้าคนเมื่อวาน แต่คราวนี้ดันจูงมือกันมาแบบนี้ชัดเจนแล้วว่าไม่ธรรมดา“จะรีบกลับมาพาคุณหยกดูงานน่ะ” พูดแล้วเขาก็ปรายตามองเธออีกครั้ง“ชุดนี้นะเหรอครับ ร้อนแย่ผิวสวยๆ ไหม้กันพอดี” ชาติชายบอกว่าผิวสวยๆ อย่างนั้นหรือ ไม่เกรงใจกันเลย“มีหน้าที่ทำงานก็ทำไป” ปราบว่าเสียงดุเข้ม ชาติชายจึงต้องก้มหน้าเล็กน้อยแล้วรีบปลีกตัวไปห่างๆ ทันที ขณะเดียวกันหงส์หยกก็สะบัดจากการเกาะกุมของเขาอีกครั้ง และก็เป็นผลเพราะเขาปล่อยเธอให้เป็นอิสระ จะเดินไปทางไหนก็ตามใจก็แล้วกัน จากนั้นเขาจึงเดินไปคุมลูกน้องขนส้มเพื่อส่งเข้าอีกโรงงานหนึ่ง อีกทั้งแอบบอกทุกคนแล้วว่าหงส์หยกเป็นใครหงส์หยกจึงอาศัยเวลานี้ลองไ
“มันก็เกี่ยว แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะพี่ไม่มีงานให้”“อะไรนะ! ในเมื่อไม่มีงานให้ จะพาหยกกลับไปทำไม ทำแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ”“ก็หยกหนีมา! พี่ไม่ชอบ และถ้าหนีมาอีกพี่จะ...”“จะอะไร... จะทำไมหยกอีก เท่านี้ยังไม่พอใจอีกเหรอคะ ศักดิ์ศรีไม่มีแล้ว” เรื่องนี้มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีอย่างนั้นหรือ เขาคิดว่าเธอรู้สึกเหมือนกับเขาเสียอีก“มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีเหรอเนี่ย เพิ่งรู้”“จะอะไรก็ตาม พาหยกกลับเถอะค่ะ” เธอบอกเสียงแข็งเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น“โกรธพี่เหรอ พี่ไม่ได้ทำให้มันเป็นอุบัตินะ ตั้งใจทำทั้งคืนเลย”“หยกจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก จอดรถค่ะ ปล่อยหยกลงตรงนี้ก็ได้”“หยกเป็นคนไปหาพี่เอง ฉะนั้นไปจัดการเรื่องของเราให้จบ”“ไม่! หยกบอกให้จอดรถไง” คราวนี้น้ำเสียงของเธอสั่นเครือคล้าย
“มาได้ยังไงคะ รู้จักที่นี่ด้วยเหรอ” เธอถามด้วยความแปลกใจแต่สีหน้าของเขาบอกบุญไม่รับเลย“บ้านเจ้าสัวบุญเสริมใครบ้างไม่รู้จัก” ปราบตอบเสียงเรียบเหมือนกำลังไม่พอใจ“เอ่อ... มาทำไมคะ” เธอถามพลางหลุบเปลือกตาลงไม่อยากสบตาเขาเลย“พี่ควรถามน้องมากกว่า ว่าน้องกลับมาทำไมไม่บอกพี่สักคำ และเรายังไม่ได้คุยอะไรกันเลย” น้องอย่างนั้นหรือ เรียกราวกับรู้จักมักคุ้นกันเสียเหลือเกิน แต่เธอก็รู้สึกดีไม่น้อย“หยก... มีงานต้องทำค่ะ เลยรีบมา แล้วจะให้คนอื่นไปติดต่องานแทน หยกคงไม่...” เธอตอบแล้วก้มหน้าเหมือนเดิม“คนอื่นเหรอ พูดง่ายดี ทำอะไรไว้ทำไมไม่รับผิดชอบให้มันจบ”“หยกทำอะไรคะ” เธอเริ่มเสียงสั่นขณะที่เขาทำเสียงดุเข้มใส่“ทำงาน ไปทำงานให้เสร็จ...” จบคำเขาก็คว้าแขนเธอให้เดินไปด้วยทันที“ไม่! หยกไม่ไปแล้ว หยกจะไม่ไป” เธอพยายามสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมของเขาทว่าไร้ผ
“แล้วเรามีปัญหาหรือขัดข้องอย่างนั้นเหรอ” ให้ตายสิ คำถามนี้เหมือนจะบังคับให้เขาแต่งงานกับลูกสาวตัวเองอย่างนั้นแหละ แต่เขาไม่ได้ปัญหาเสียหน่อย“เอ่อ คุณอาไม่หวงลูกสาวเลยเหรอครับเนี่ย” ปราบแสร้งถามยิ้มๆ“ก็หวงนะ แต่ลูกเขยอาต้องเป็นเจ้าของสวนสุริยะฉัตรเท่านั้น ถ้าขัดข้องนี่มีเรื่องแน่ๆ” ดูท่าทางเจ้าสัวจะมั่นใจเหลือเกินว่าปราบจะชอบลูกสาวตัวเอง“เอ่อ ผมไม่ได้ขัดข้อง แต่คุณอาต้องถามหยก เราเพิ่งเจอกัน ผมไม่รู้ว่าน้องจะ... จะโอเคกับผู้ชายอย่างผมหรือเปล่า”“อาถึงบอกให้สอนงานน้อง เขาจะได้รู้จักเราไง” รู้จักและรักกันอย่างนั้นสินะ“ผมไม่มั่นใจ แต่ขอบคุณมากครับคุณอา ที่ไว้ใจผมให้ดูแลน้อง แต่ตบมือข้างเดียวไม่ดังนะครับ ทำใจไว้รอเลยว่าอาจจะไม่เป็นอย่างที่คุณอาหวัง” ตอนนี้เหมือนหลงรักอีกฝ่ายข้างเดียว“เป็นหน้าที่ของเราแล้ว อาฝากน้องด้วยก็แล้วกัน”“ขอบคุณครับ ผมขอตัวนะครับ&rd
หลังจากที่ปราบ ปลีกตัวจากลูกน้องคนสนิทแล้ว เขาก็กลับมาที่ออฟฟิศเพื่อเอารถส่วนตัวออก ซึ่งรถของเขานั้นคือ Lexus ห้าประตูสีดำมันเงาสุดหรู เมื่อขึ้นรถได้เขาก็สตาร์ทและเหยียบคันเร่งออกจากหน้าออฟฟิศทันที เขาทำให้หลายคนแปลกใจไม่น้อยเพราะไม่มีผู้ติดตาม แถมการขับรถเหมือนคนฉุนเฉียวมากกว่าจะอารมณ์ดี ปราบมุ่งหน้าลงจากสวนส้มซึ่งเป็นเนินเขาไม่สูงมากนัก ตามเส้นทางมีต้นไม้ร่มรื่น และสวนส้มของเขานั่นเอง เพราะมันไกลสุดลูกหูลูกตานับร้อยไร่ เมื่อลงจากเส้นทางของสวนส้มได้แล้ว ก็มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองซึ่งมีโรงงานผลไม้กระป๋องตั้งอยู่ แต่ไม่ถึงตัวเมืองเสียทีเดียว คนทั่วไปใช้เวลาในการขับรถโดยปกติประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ แต่กับปราบ เขาใช้เวลาเพียงชั่วโมงครึ่ง เหยียบคันเร่งจนมิดยิ่งถนนโล่งก็ยิ่งไม่รีรอ เพราะหัวใจอยู่ที่โรงงานไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนรถบรรทุกซึ่งตามมาทีหลังจะถึงเมื่อไหร่ก็ช่าง เวลาต่อมาปราบมาถึงโรงงานผลไม้กระป๋อง ซึ่งเป็นโรงงานหลักที่เขาผูกขาดในการส่งมากว่าสิบปี วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขามาคนเดียว ทันทีที่จอดรถอยู่หน้าออฟฟิศของโรงงานก็ทำให้คนที่รู้จักนึกแปลกใจ &nb