“อืม พะ พอ... พอแล้วค่ะ” เธอพยายามดันเขาออกได้สำเร็จพร้อมกับเบือนหน้าหนีเล็กน้อย แต่ใบหน้าหล่อเหลาที่สากไปด้วยเครากับอยู่ใกล้แก้มนุ่มไม่ยอมห่าง“หายกลัวบ้างไหม” เขากระซิบถามเสียงนุ่มกลายเป็นคนละคนกับนายปราบ สุริยะฉัตรกันเลยทีเดียว“เอ่อ พี่ปราบ มันไม่ควร... ไม่ เราเพิ่ง” เธอห้ามปรามด้วยน้ำเสียงอึกอัก แต่จะหลีกหนีอย่างไรก็ไม่พ้นเพราะแผ่นหลังติดพนักพิงแล้ว“ยังสั่นอยู่เลย ยังไม่หายกลัวใช่ไหม” เขากระซิบถามอีกครั้ง“คือ หยก กลัวพี่ปราบ” เธอเอ่ยออกมาตรงๆ เพราะไม่อย่างนั้นมีหวังเสียความเป็นตัวเองแน่ๆ พอพูดจบก็ก้มหน้าอีกครั้ง“พี่ทำอะไรให้กลัว ฮืม” เขายังมีหน้ามาถามเธออีก“ก็ทำ... ทำแบบนี้ไงคะ เอ่อ ถอยออกไปนิดนึงนะคะ หยกไม่...” ว่าแล้วเธอยกมือขึ้นดันแผงอกเขาให้ออกไปห่างๆ แต่เขากลับจับมือเธอเอาไว้แล้วรั้งให้เข้าไปหาเสียอย่างนั้น“เอ่อ หยกว่าเรา... พี่ปราบปล่อยหยก” น่าแปลกเหลือเกินที
หงส์หยก จึงตัดสินใจล้มตัวลงนอนพร้อมกับรั้งผ้าห่มขึ้นคลุมสะโพก ก่อนหน้านี้กลัวผี ตอนนี้ไร้ซึ่งความกลัวเพราะมีอารมณ์บางอย่างเข้ามาแทนที่ ให้ตายเถอะ นี่เธอมาติดต่องานแทนเจ้าสัวแต่ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ เธอชอบเขาเข้าแล้วอย่างนั้นหรือเนี่ย“บ้าจังหยก” เธอว่าให้ตัวเอง ทว่าผ่านไปเพียงไม่นานนัก ปราบก็กลับเข้ามาในห้องรับแขกอีกครั้งพร้อมกับผ้าห่มและหมอนอีกชุด จากนั้นเขาก็เดินมานั่งตรงข้ามกับเธอแล้วเอนตัวลงนอน ขณะที่ดวงตาคมกริบมองที่เธอด้วยแววตาแปลกๆ พลางขมวดคิ้วเล็กน้อยเหมือนถูกขัดใจ เธอเองก็ยังไม่ได้หลับ เรียกได้ว่าต่างคนต่างมองคล้ายกับมีสิ่งที่คั่งค้างต้องทำให้เสร็จ“ขอบคุณค่ะ” เธอบอกก่อนจะเป็นฝ่ายหลับตาก่อน ทว่าเขานี่สิที่เอาแต่มองเธออย่างไม่ลดละ และนอนไม่หลับเสียแล้วเมื่อทุกอย่างมันตื่นตัวและลุกโชนยากเกินจะดับขนาดนี้ ในใจของเขามันกำลังว้าวุ่น ครุ่นคิดไปหลายตลบว่าจะเอาอย่างไรดีกับคำพูดก่อนหน้านี้ของเจ้าสัวบุญเสริม จนส่งผลให้เกิดอารมณ์แปรปรวนอย่างที่เห็น“น้องเพิ่งเรียนจบ อาอยากให้ปราบฝึกงานให้น้อง เพื่อว่าวันข้างห
“พี่ปราบ!” เธอตกใจพร้อมกับยกมือขึ้นปิดทรวงอกเอาไว้ ทว่าความอวบอิ่มล้นทะลักออกมานอกบราโชว์หราอวดสายตาเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาจึงจับมือทั้งสองข้างของเธอขึงเอาไว้ ก่อนจะก้มลงบดขยี้จูบที่กลีบปากนุ่มอีกครั้ง และเพียงชั่วอึดใจริมฝีปากร้อนผ่าวก็พรมจูบลงมาตามพวงแก้มหอมนุ่มจนถึงซอกคอ พลางใช้ปากขบเบาๆ และเพิ่มแรงด้วยการดูดเม้มประทั่งเป็นรอยเล็กน้อย“อืม พี่ปราบ” ไม่รู้ว่าจะเอ่ยทัดทานหรือเรียกร้องให้เขาทำตามใจปรารถนาดี สุดท้ายจึงได้แต่หลับตาปี๋เพื่อรับสัมผัสทุกอย่างที่เขามอบได้ แม้กระทั่งความเสียวซ่านก่อเกิดขึ้นเมื่อเรียวลิ้นถูกส่งออกมาแตะตรงเนินอก ก่อนจะใช้ปลายลิ้นโลมเลียสลับกันไปมามองทั้งสองข้าง และเพียงชั่วอึดใจเขาปล่อยมือเธอ แล้วสอดฝ่ามือลงไปใต้แผ่นหลังเพื่อปลดตะขอบรา จากนั้นจึงรั้งมันออกไปให้พ้นทางอย่างรวดเร็วทรวงอกอวบอิ่มเต่งตึงโผล่เผยยั่วสายตา พร้อมกับความเย็นเฉียบเข้าครอบคลุมร่างกายเมื่อมันเปลือยเปล่า เหลือไว้เพียงกางเกงขาก๊วยเท่านั้น เขาช้อนสายตามองปลายถันสีชมพูระเรืออย่างเสน่ห์หาระคนด้วยความหื่นกระหาย สองมือค่อยๆ ขย
“นะ... นะครับได้โปรด หยกพร้อมแล้ว”“ไม่ค่ะ อ่า... ซี๊ดดดด” เธอปฏิเสธอีกครั้งพร้อมกับเสียงครางแผ่วเบาและกัดริมฝีปากเอาไว้มั่น สุดท้ายแล้วเขาจึงขยับปลายนิ้วออก ลูบไล้ที่ร่องเสียวอีกครั้ง ก่อนจะเอามือออกมาข้างนอก ทว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น เขาเพียงแค่หมายจะถอดกางเกงขาก๊วยของเธอออกไปเท่านั้นเอง“อื้อ พี่ปราบ” เธอกำลังจะห้ามปรามและดันมือเขาออก เมื่อเขากำลังจะรั้งกางเกงลงไปจากเอว เขาจึงอาศัยจังหวะนี้ขยับตัวลงไปและพรมจูบตรงหน้าท้องแบนราบ ก่อนจะส่งปลายลิ้นออกมาลากเลียหยอกเย้ากับสะดือสวย หมุนวนไปมาให้เธอเสียวซ่าน กระทั่งปลายลิ้นแตะที่ขอบกางเกง มือหนาจึงรั้งกางเกงลงไปพร้อมกับพรมจูบไปด้วย“พะ พะ พี่ปราบ หยุด หยุดได้ไหมคะ” เธอขอร้องด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแผ่วเบา แทบจะฟังไม่ได้ยินเสียด้วยซ้ำ ร่างกายกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เสียให้ได้ ขณะที่ปลายลิ้นของเขาโลมเลียตรงของกางเกง จากนั้นกางเกงก็ถูกเขาสลัดออกไปพร้อมกับกางเกงชั้นในอย่างรวดเร็ว“อุ้ย! พี่ปราบ” ด้วยความตกใจเธอลืมตาขึ้นแล้วผงกศีรษะ
“สะ สะ อูยยยย อ๊ะ! พี่ปราบ เสียวค่ะ ซี๊ดดดด” เธอตอบด้วยเสียงที่แหบพร่าแผ่วเบาดังเดิม ขณะที่เรียวปากของเขายังคงดูดเลียร่องเสียวเร็วๆ ความเสียวซ่านทำให้เธอเอื้อมมือมากดศีรษะของเขาให้แนบเรียวปากกับร่องเสียวมากยิ่งขึ้น พร้อมกับแอ่นเนินสวาทให้เขาละเลงเลียได้อย่างถนัดถนี่“อืม โอ้ว หยกไม่ไหวแล้วค่ะ อืม ใจจะขาดอยู่แล้ว” เสียงหายใจเริ่มหอบกระชั้นขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงครางที่ดังขึ้นเช่นกัน ความกระดากอายหายไปพาลกระตุ้นให้เขาเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้น“ไม่ไหวก็ปล่อยออกมาให้พี่สิ” เขาสั่งขณะที่เรียวลิ้นยังคงทำงานได้อย่างเร่าร้อน“อ๊ะ! ซี๊ดดดด พี่ปราบอย่า... อย่าเร่ง หยกเสียว” ยิ่งเธอบอกเขาก็ยิ่งเร่ง“พี่จะเร่ง พี่อยากกินหยก หยกหวานเหลือเกิน” ดูเหมือนว่าเขากำลังคลั่งอย่างหนัก ร่างกายของเขาแทบจะแตกเสี่ยงๆ เช่นกัน หากแต่ต้องกดกลั้นเพื่อจะได้นำพาเธอไปพบกับจุดหมายเสียก่อน“หยก... อ่า... โอ้วพี่ปราบ อื้อ! พี่... พี่ปราบ หยกไม่ไหว อ่า” เธอร้องครวญครางออกมาด้วยเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ความเสี
“อื้อ!” เธอครางอื้ออึงออกมาด้วยความเจ็บ แต่พยายามผ่อนคลายปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขา “พี่ปราบ! หยกไม่ไหว เจ็บมากค่ะ” เธอเบือนหน้าหนีแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหอบกระชั้น หัวใจเต้นแรงมากเพราะความเจ็บแสบ “ให้พี่ได้ไหมคนดี พี่ไม่ไหวแล้ว พี่ต้องการหยกมาก” คราวนี้เขาเอ่ยคำอ้อนวอนออกมาพร้อมกับแววตาที่น่าสงสาร หากเธอสั่งให้หยุดมีหวังเขาตายทั้งเป็นแน่ๆ “หยกก็... หยกก็ต้องการ แต่...” เธอเจ็บจนไม่กล้าให้เขาเข้าไป “งั้นให้พี่เข้าไป แล้วเราจะได้มีความสุขกัน” จบคำเขาก็ไม่รอให้อนุญาต จึงกดจูบที่ปากนุ่มเพื่อปิดเสียงห้ามปรามของเธอ พร้อมกับกดแทรกท่อนเนื้อเข้าสู่ทางสวาทช้าๆ และช้าที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น ความเจ็บทำให้เธอถึงกับครางอยู่ในลำคอ เกร็งไปทั้งตัว รู้สึกอึดอัดและแสบแต่ก็ต้องทน กระทั่งเนื้อกายของเขาจมหายเข้าไปเกินกว่าครึ่งและเพื่อความรวดเร็วเขาตัดสินใจกดสะโพก เพื่อพาท่อนเนื้อเข้าไปให้ได้ พรวดเดียวเท่านั้นแต่กลับรู้สึกถึงบางอย่างที่ขาดสะบั้นเปิดทางโล่งจนกระทั่งท่อนเนื้อจมหายเข้าไปสุดทาง เขารู้สึกอึดอัดอย่าง
“ซี๊ดดดด อ่า... พี่... ปราบ อ่า” ความกระดากอายหายไปจนหมด เหลือไว้แต่เพียงความต้องการ ที่อยากจะคว้าความสุขเอาไว้ให้เร็วที่สุด ด้วยการขยับสะโพกยกขึ้นรับจังหวะกระแทกกระทั้นของเขาที่เร่งขึ้นเรื่อยๆ โซฟาตัวยาวกลายเป็นสวรรค์เล็กๆ สำหรับทั้งสองทันที พร้อมกับเสียงร้องครวญครางลั่นห้องดังสลับกัน ขณะที่จังหวะรักหนักหน่วงรุนแรงจนเสียงดังให้ได้ยิน“โอ้วหยกจ๋า อ่า... พี่เสียว พี่จะเร่งแล้วนะ” เขาบอกเป็นสัญญาณเพื่อเร่งความเร็ว“อื้อ! หยกก็... อ่า ซี๊ดดดด หยกก็เสียว พี่ปราบขา เร่งให้หยกที” สิ้นคำของเธอเท่านั้นแหละเขาก็กระแทกกระทั้นสะโพกเข้าออกทางสวาทระรัวเร่ง จนกระทั่งร่างบางสั่นไหว เสียวซ่านจนต้องกอดเขาเอาไว้แน่น แอ่นกายและยกสะโพกขึ้นลงเร่าร้อนพร้อมกับเสียงครางซี๊ดซ๊าดไม่หยุดปาก“พี่จะแตกอยู่แล้วหยกจ๋า” น้ำเสียงของเขาหอบกระชั้นและไม่อาจรั้งรออีกต่อไป“หยกก็... ซี๊ดดดด พี่ปราบ... อ๊ะ! อ๊ะ! ยะ ยะ หยก... อื้อ! พี่ปราบขา หยก... เสร็จแล้ว” เธอร้องครวญครางลั่นและหลับตา
“ขยับสิครับ” เขาออกคำสั่งเสียงแผ่วเบาพลางซุกไซ้ใบหน้าหล่อเหลาลงไปที่ซอกคอ ขบกัดโลมเลียไปตามอารมณ์ ขณะที่เธอหลับตาพริ้ม“หยกทำไม่เป็น” เธอตอบเสียงพร่า สองมือโอบกอดรอบคอเขาเอาไว้แล้วแอ่นกายเหยียดเกร็งลำตัว“ขยับให้ตัวเองเสียวน่ะ เดี๋ยวก็เป็นจ้ะ” เขาบอกอีกครั้งซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยาก หากจะทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวเพื่อให้เสียวซ่าน เธอจึงขยับสะโพกขึ้นลงเสียดสีท่อนเนื้อเข้าออกทางสวาทช้าๆ กระทั่งรู้สึกเสียวซ่านจนขนลุกชูชัน เสียงร้องครวญครางเริ่มเปล่งออกมาจากปากของทั้งสอง“ซี๊ดดดด โอ้ว ใช่ หยกจ๋า ขยับแบบนี้แหละ” เขากระซิบบอกพลางเปล่งเสียงครางซี๊ดซ๊าดด้วยความพอใจ“อืม หยกยังเจ็บอยู่เลยค่ะ” แน่นอนว่าเพิ่งจะผ่านครั้งแรกมาได้ไม่นานก็ต้องเริ่มต้นอีกแล้ว ไม่เจ็บนี่สิแปลก“อีกนิดเดียวก็ไม่เจ็บแล้วจ้ะ” เขาปลอบใจด้วยเสียงหอบกระชั้น เสียวซ่านทุกครั้งที่เธอขยับตัว ขณะที่เขายกสะโพกขึ้นรับจังหวะเคลื่อนไหวขึ้นลงของเธอระรัวเร่ง สะโพกกลมกลึงกระแทกกระทั้นขึ้นลงอย่างหนักหน่วงเร่าร้อนขึ้นตามลำดับ&ld
“อืม” เขาครางออกอยู่ในลำคอเมื่อปากอิ่มบดขยี้จูบอย่างดูดดื่ม สิ่งที่เขาสอนเธอมาหลายครั้ง เธอจำแม่นและนำมาใช้กับเขา ซึ่งทำได้ดีจนเขาแทบคลั่งเลยทีเดียว แต่จูบได้ไม่นานนักเธอก็ถอนออกก่อนจะไล่เรียวปากจูบแก้มที่สากไปด้วยเครา ไล่มาที่ซอกคอและดูดเม้มแรงกว่าเขาด้วยซ้ำ“อืม แม่เสือสาว ร้อนแรงจัง” เขาครางและบอกอย่างพอใจอีกครั้ง พลางกัดฟันและยิ้มกับตัวเอง จากนั้นปากอิ่มก็จูบจนถึงแผงอกกว้างที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามแน่น ๆ ปลายลิ้นร้อนไร้เดียงสาของเธอถูกส่งออกมาโลมเลียตวัดไปมากระทั่งถึงยอดอก ครั้งนี้เธอจะเอาคืนบ้างจึงใช้ลิ้นเลียตรงยอดอกระรัว ทำให้เขาสะท้านและบิดเกร็งลำตัว“ซี๊ดดดด อ่า ดีจัง ดีมากเลย” เขาออกปากชมและครางด้วยความพอใจครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ลิ้นและเรียวปากอิ่มดูดเลียยอกอกอย่างร้อนแรง กลางลำตัวของเขาก็ดีดดิ้นขึงขัง แข็งจนอยากจะออกมาหายใจ เธอสัมผัสได้ว่ามันดิ้นเมื่อเนินสวาทถูไถไปมา“โอ้ว หยกจ๋า อ่า ช่วยพี่ที” คราวนี้เป็นทีของเขาที่จะต้องเอ่ยปากขอร้องบ้าง และเมื่อได้ยินดังนั้
“เอา พี่จะเอา จะเอาหยกตอนนี้ เดี๋ยวนี้” เขาบอกด้วยน้ำเสียงหื่นกระหายก่อนจะผงกศีรษะขึ้นแล้วขยี้จูบที่ปากอิ่มอีกครั้งอย่างเร่าร้อน ทำเอาปากบางแทบพังและแสบเพราะหนวดเคราถูไถ ขณะที่เรียวลิ้นร้อนส่งออกมาลากเลียไปตามเรียวปากแห้งผาก ก่อนจะสอดแทรกเข้าสู่โพรงปากนุ่มอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตวัดลิ้นเกาะและสูบกลืนลมหายใจกันเอาไว้ จูบดูดดื่มร้อนแรงจนทำให้กลางกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ท่อนเนื้อภายใต้กางเกงยีนส์มันกำลังดีดดิ้นและถูไถกับกลางลำตัวของเธอ กระตุ้นให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียนอย่างรุนแรงและจากมือที่เกาะกุมมือเธออยู่ค่อยๆ ปล่อยเคลื่อนลงมาตามลำคอ จนถึงเนินอกอวบ เขาบีบเค้นแรงๆ ขณะที่ปากยังคงบดขยี้จูบ ก่อนจะละเรียวปากขยับลงมาขบเม้มที่ซอกคอและดูดจนเป็นรอยแดงจ้ำ มือก็ขยำทรวงอกอย่างหนักหน่วง จากนั้นก็เลื่อนมืออีกข้างลงไปที่หน้าท้องแบนราบ กระทั่งถึงขอบกางเกง เขาจึงปลดกระดุม รูดซิบ ก่อนจะสอดฝ่ามือล้วงเข้าไปอย่างรวดเร็ว“อืม” เธอครางในลำคอเมื่อฝ่ามือหนาลูบไล้บนเนินสวาทแผ่วเบา พร้อมกับสอดแทรกนิ้วมือแกร่งแหวกว่ายหยอกเย้ากับกลีบสวาท กรีดกรายนิ้
แต่ในขณะเดียวกัน ชาติชายก็รีบโทรศัพท์บอกเจ้านายว่าตัวเองได้เผลอพูดความจริงออกไปแล้ว ทำให้ปราบต้องรีบตามหงส์หยกกลับไปที่บ้านทันที“ไอ้ชาติ ไอ้ตัวแสบ ฆ่าทิ้งดีไหมเนี่ย” ปราบบ่นพร้อมกับขับรถ ATV ออกจากสวนทันที เพื่อจะได้ตามหงส์หยกให้ทัน จากนั้นเขาก็ขับมาถึงหน้าออฟฟิศในเวลาอันรวดเร็ว แต่ไม่มีวี่แววว่าเธอจะอยู่ในบริเวณนี้ เขาจึงกระโดดลงจากรถแล้วเดินเท้าตามหา เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินเร็วกว่ารถที่เขาขับ“อยู่ที่บ้านเราหรือเปล่าวะ” เขาคิดถามตัวเองแต่คนโกรธแบบนั้นมีหรือจะกลับบ้านพัก ต้องกลับบ้านตัวเองสินะ“พวกเอ็งเห็นคุณหยกหรือเปล่า ผู้หญิงที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าน่ะ เดินมาทางนี้หรือไหม” ปราบถามด้วยความร้อนใจ“เสื้อเชิ้ตสีฟ้าเหรอครับนาย ผมเห็นหลังไวๆ เดินไปที่โรงจอดรถของคนงานน่ะครับ”“อะไรนะ! โรงจอดรถของคนงานอย่างนั้นเหรอ ให้ตายสิ” เมื่อฟังอย่างนั้นแล้วก็มีสิ่งเดียวคือเธออาจจะให้คนงานไปส่งก็เป็นได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วเขาจึงรีบว
แต่ในขณะเดียวกัน ชาติชายก็รีบโทรศัพท์บอกเจ้านายว่าตัวเองได้เผลอพูดความจริงออกไปแล้ว ทำให้ปราบต้องรีบตามหงส์หยกกลับไปที่บ้านทันที “ไอ้ชาติ ไอ้ตัวแสบ ฆ่าทิ้งดีไหมเนี่ย” ปราบบ่นพร้อมกับขับรถ ATV ออกจากสวนทันที เพื่อจะได้ตามหงส์หยกให้ทัน จากนั้นเขาก็ขับมาถึงหน้าออฟฟิศในเวลาอันรวดเร็ว แต่ไม่มีวี่แววว่าเธอจะอยู่ในบริเวณนี้ เขาจึงกระโดดลงจากรถแล้วเดินเท้าตามหา เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินเร็วกว่ารถที่เขาขับ “อยู่ที่บ้านเราหรือเปล่าวะ” เขาคิดถามตัวเองแต่คนโกรธแบบนั้นมีหรือจะกลับบ้านพัก ต้องกลับบ้านตัวเองสินะ “พวกเอ็งเห็นคุณหยกหรือเปล่า ผู้หญิงที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าน่ะ เดินมาทางนี้หรือไหม” ปราบถามด้วยความร้อนใจ “เสื้อเชิ้ตสีฟ้าเหรอครับนาย ผมเห็นหลังไวๆ เดินไปที่โรงจอดรถของคนงานน่ะครับ” “อะไรนะ! โรงจอดรถของคนงานอย่างนั้นเหรอ ให้ตายสิ” เมื่อฟังอย่างนั้นแล้วก็มีสิ่งเดียวคือเธออาจจะให้คนงานไปส่งก็เป็นได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วเขาจึงรีบวิ่งไปที่โรงจอดรถทันที แล้วก็ทันเส
“เต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ต้องไปด้วยกัน ดูให้รู้ว่าเราทำงานกันลำบากแค่ไหน แล้วก็คุยงานไปด้วย” เขานี่ก็ช่างแกล้งเธอเสียจริงทั้งที่เพิ่งจะส่งส้มเข้าโรงงานของเธอไปเมื่อเช้านี่เอง คิดแล้วก็นึกขัน“อ้าวนาย กลับมาเร็วจังครับ” ชาติชายทักขึ้นเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเดินมาพร้อมกับคู่ค้าคนเมื่อวาน แต่คราวนี้ดันจูงมือกันมาแบบนี้ชัดเจนแล้วว่าไม่ธรรมดา“จะรีบกลับมาพาคุณหยกดูงานน่ะ” พูดแล้วเขาก็ปรายตามองเธออีกครั้ง“ชุดนี้นะเหรอครับ ร้อนแย่ผิวสวยๆ ไหม้กันพอดี” ชาติชายบอกว่าผิวสวยๆ อย่างนั้นหรือ ไม่เกรงใจกันเลย“มีหน้าที่ทำงานก็ทำไป” ปราบว่าเสียงดุเข้ม ชาติชายจึงต้องก้มหน้าเล็กน้อยแล้วรีบปลีกตัวไปห่างๆ ทันที ขณะเดียวกันหงส์หยกก็สะบัดจากการเกาะกุมของเขาอีกครั้ง และก็เป็นผลเพราะเขาปล่อยเธอให้เป็นอิสระ จะเดินไปทางไหนก็ตามใจก็แล้วกัน จากนั้นเขาจึงเดินไปคุมลูกน้องขนส้มเพื่อส่งเข้าอีกโรงงานหนึ่ง อีกทั้งแอบบอกทุกคนแล้วว่าหงส์หยกเป็นใครหงส์หยกจึงอาศัยเวลานี้ลองไ
“มันก็เกี่ยว แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะพี่ไม่มีงานให้”“อะไรนะ! ในเมื่อไม่มีงานให้ จะพาหยกกลับไปทำไม ทำแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ”“ก็หยกหนีมา! พี่ไม่ชอบ และถ้าหนีมาอีกพี่จะ...”“จะอะไร... จะทำไมหยกอีก เท่านี้ยังไม่พอใจอีกเหรอคะ ศักดิ์ศรีไม่มีแล้ว” เรื่องนี้มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีอย่างนั้นหรือ เขาคิดว่าเธอรู้สึกเหมือนกับเขาเสียอีก“มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีเหรอเนี่ย เพิ่งรู้”“จะอะไรก็ตาม พาหยกกลับเถอะค่ะ” เธอบอกเสียงแข็งเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น“โกรธพี่เหรอ พี่ไม่ได้ทำให้มันเป็นอุบัตินะ ตั้งใจทำทั้งคืนเลย”“หยกจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก จอดรถค่ะ ปล่อยหยกลงตรงนี้ก็ได้”“หยกเป็นคนไปหาพี่เอง ฉะนั้นไปจัดการเรื่องของเราให้จบ”“ไม่! หยกบอกให้จอดรถไง” คราวนี้น้ำเสียงของเธอสั่นเครือคล้าย
“มาได้ยังไงคะ รู้จักที่นี่ด้วยเหรอ” เธอถามด้วยความแปลกใจแต่สีหน้าของเขาบอกบุญไม่รับเลย“บ้านเจ้าสัวบุญเสริมใครบ้างไม่รู้จัก” ปราบตอบเสียงเรียบเหมือนกำลังไม่พอใจ“เอ่อ... มาทำไมคะ” เธอถามพลางหลุบเปลือกตาลงไม่อยากสบตาเขาเลย“พี่ควรถามน้องมากกว่า ว่าน้องกลับมาทำไมไม่บอกพี่สักคำ และเรายังไม่ได้คุยอะไรกันเลย” น้องอย่างนั้นหรือ เรียกราวกับรู้จักมักคุ้นกันเสียเหลือเกิน แต่เธอก็รู้สึกดีไม่น้อย“หยก... มีงานต้องทำค่ะ เลยรีบมา แล้วจะให้คนอื่นไปติดต่องานแทน หยกคงไม่...” เธอตอบแล้วก้มหน้าเหมือนเดิม“คนอื่นเหรอ พูดง่ายดี ทำอะไรไว้ทำไมไม่รับผิดชอบให้มันจบ”“หยกทำอะไรคะ” เธอเริ่มเสียงสั่นขณะที่เขาทำเสียงดุเข้มใส่“ทำงาน ไปทำงานให้เสร็จ...” จบคำเขาก็คว้าแขนเธอให้เดินไปด้วยทันที“ไม่! หยกไม่ไปแล้ว หยกจะไม่ไป” เธอพยายามสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมของเขาทว่าไร้ผ
“แล้วเรามีปัญหาหรือขัดข้องอย่างนั้นเหรอ” ให้ตายสิ คำถามนี้เหมือนจะบังคับให้เขาแต่งงานกับลูกสาวตัวเองอย่างนั้นแหละ แต่เขาไม่ได้ปัญหาเสียหน่อย“เอ่อ คุณอาไม่หวงลูกสาวเลยเหรอครับเนี่ย” ปราบแสร้งถามยิ้มๆ“ก็หวงนะ แต่ลูกเขยอาต้องเป็นเจ้าของสวนสุริยะฉัตรเท่านั้น ถ้าขัดข้องนี่มีเรื่องแน่ๆ” ดูท่าทางเจ้าสัวจะมั่นใจเหลือเกินว่าปราบจะชอบลูกสาวตัวเอง“เอ่อ ผมไม่ได้ขัดข้อง แต่คุณอาต้องถามหยก เราเพิ่งเจอกัน ผมไม่รู้ว่าน้องจะ... จะโอเคกับผู้ชายอย่างผมหรือเปล่า”“อาถึงบอกให้สอนงานน้อง เขาจะได้รู้จักเราไง” รู้จักและรักกันอย่างนั้นสินะ“ผมไม่มั่นใจ แต่ขอบคุณมากครับคุณอา ที่ไว้ใจผมให้ดูแลน้อง แต่ตบมือข้างเดียวไม่ดังนะครับ ทำใจไว้รอเลยว่าอาจจะไม่เป็นอย่างที่คุณอาหวัง” ตอนนี้เหมือนหลงรักอีกฝ่ายข้างเดียว“เป็นหน้าที่ของเราแล้ว อาฝากน้องด้วยก็แล้วกัน”“ขอบคุณครับ ผมขอตัวนะครับ&rd
หลังจากที่ปราบ ปลีกตัวจากลูกน้องคนสนิทแล้ว เขาก็กลับมาที่ออฟฟิศเพื่อเอารถส่วนตัวออก ซึ่งรถของเขานั้นคือ Lexus ห้าประตูสีดำมันเงาสุดหรู เมื่อขึ้นรถได้เขาก็สตาร์ทและเหยียบคันเร่งออกจากหน้าออฟฟิศทันที เขาทำให้หลายคนแปลกใจไม่น้อยเพราะไม่มีผู้ติดตาม แถมการขับรถเหมือนคนฉุนเฉียวมากกว่าจะอารมณ์ดี ปราบมุ่งหน้าลงจากสวนส้มซึ่งเป็นเนินเขาไม่สูงมากนัก ตามเส้นทางมีต้นไม้ร่มรื่น และสวนส้มของเขานั่นเอง เพราะมันไกลสุดลูกหูลูกตานับร้อยไร่ เมื่อลงจากเส้นทางของสวนส้มได้แล้ว ก็มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองซึ่งมีโรงงานผลไม้กระป๋องตั้งอยู่ แต่ไม่ถึงตัวเมืองเสียทีเดียว คนทั่วไปใช้เวลาในการขับรถโดยปกติประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ แต่กับปราบ เขาใช้เวลาเพียงชั่วโมงครึ่ง เหยียบคันเร่งจนมิดยิ่งถนนโล่งก็ยิ่งไม่รีรอ เพราะหัวใจอยู่ที่โรงงานไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนรถบรรทุกซึ่งตามมาทีหลังจะถึงเมื่อไหร่ก็ช่าง เวลาต่อมาปราบมาถึงโรงงานผลไม้กระป๋อง ซึ่งเป็นโรงงานหลักที่เขาผูกขาดในการส่งมากว่าสิบปี วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขามาคนเดียว ทันทีที่จอดรถอยู่หน้าออฟฟิศของโรงงานก็ทำให้คนที่รู้จักนึกแปลกใจ &nb