“สะ สะ อูยยยย อ๊ะ! พี่ปราบ เสียวค่ะ ซี๊ดดดด” เธอตอบด้วยเสียงที่แหบพร่าแผ่วเบาดังเดิม ขณะที่เรียวปากของเขายังคงดูดเลียร่องเสียวเร็วๆ ความเสียวซ่านทำให้เธอเอื้อมมือมากดศีรษะของเขาให้แนบเรียวปากกับร่องเสียวมากยิ่งขึ้น พร้อมกับแอ่นเนินสวาทให้เขาละเลงเลียได้อย่างถนัดถนี่
“อืม โอ้ว หยกไม่ไหวแล้วค่ะ อืม ใจจะขาดอยู่แล้ว” เสียงหายใจเริ่มหอบกระชั้นขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงครางที่ดังขึ้นเช่นกัน ความกระดากอายหายไปพาลกระตุ้นให้เขาเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้น “ไม่ไหวก็ปล่อยออกมาให้พี่สิ” เขาสั่งขณะที่เรียวลิ้นยังคงทำงานได้อย่างเร่าร้อน“อ๊ะ! ซี๊ดดดด พี่ปราบอย่า... อย่าเร่ง หยกเสียว” ยิ่งเธอบอกเขาก็ยิ่งเร่ง“พี่จะเร่ง พี่อยากกินหยก หยกหวานเหลือเกิน” ดูเหมือนว่าเขากำลังคลั่งอย่างหนัก ร่างกายของเขาแทบจะแตกเสี่ยงๆ เช่นกัน หากแต่ต้องกดกลั้นเพื่อจะได้นำพาเธอไปพบกับจุดหมายเสียก่อน “หยก... อ่า... โอ้วพี่ปราบ อื้อ! พี่... พี่ปราบ หยกไม่ไหว อ่า” เธอร้องครวญครางออกมาด้วยเสียงที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ความเสี“อื้อ!” เธอครางอื้ออึงออกมาด้วยความเจ็บ แต่พยายามผ่อนคลายปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขา “พี่ปราบ! หยกไม่ไหว เจ็บมากค่ะ” เธอเบือนหน้าหนีแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหอบกระชั้น หัวใจเต้นแรงมากเพราะความเจ็บแสบ “ให้พี่ได้ไหมคนดี พี่ไม่ไหวแล้ว พี่ต้องการหยกมาก” คราวนี้เขาเอ่ยคำอ้อนวอนออกมาพร้อมกับแววตาที่น่าสงสาร หากเธอสั่งให้หยุดมีหวังเขาตายทั้งเป็นแน่ๆ “หยกก็... หยกก็ต้องการ แต่...” เธอเจ็บจนไม่กล้าให้เขาเข้าไป “งั้นให้พี่เข้าไป แล้วเราจะได้มีความสุขกัน” จบคำเขาก็ไม่รอให้อนุญาต จึงกดจูบที่ปากนุ่มเพื่อปิดเสียงห้ามปรามของเธอ พร้อมกับกดแทรกท่อนเนื้อเข้าสู่ทางสวาทช้าๆ และช้าที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น ความเจ็บทำให้เธอถึงกับครางอยู่ในลำคอ เกร็งไปทั้งตัว รู้สึกอึดอัดและแสบแต่ก็ต้องทน กระทั่งเนื้อกายของเขาจมหายเข้าไปเกินกว่าครึ่งและเพื่อความรวดเร็วเขาตัดสินใจกดสะโพก เพื่อพาท่อนเนื้อเข้าไปให้ได้ พรวดเดียวเท่านั้นแต่กลับรู้สึกถึงบางอย่างที่ขาดสะบั้นเปิดทางโล่งจนกระทั่งท่อนเนื้อจมหายเข้าไปสุดทาง เขารู้สึกอึดอัดอย่าง
“ซี๊ดดดด อ่า... พี่... ปราบ อ่า” ความกระดากอายหายไปจนหมด เหลือไว้แต่เพียงความต้องการ ที่อยากจะคว้าความสุขเอาไว้ให้เร็วที่สุด ด้วยการขยับสะโพกยกขึ้นรับจังหวะกระแทกกระทั้นของเขาที่เร่งขึ้นเรื่อยๆ โซฟาตัวยาวกลายเป็นสวรรค์เล็กๆ สำหรับทั้งสองทันที พร้อมกับเสียงร้องครวญครางลั่นห้องดังสลับกัน ขณะที่จังหวะรักหนักหน่วงรุนแรงจนเสียงดังให้ได้ยิน“โอ้วหยกจ๋า อ่า... พี่เสียว พี่จะเร่งแล้วนะ” เขาบอกเป็นสัญญาณเพื่อเร่งความเร็ว“อื้อ! หยกก็... อ่า ซี๊ดดดด หยกก็เสียว พี่ปราบขา เร่งให้หยกที” สิ้นคำของเธอเท่านั้นแหละเขาก็กระแทกกระทั้นสะโพกเข้าออกทางสวาทระรัวเร่ง จนกระทั่งร่างบางสั่นไหว เสียวซ่านจนต้องกอดเขาเอาไว้แน่น แอ่นกายและยกสะโพกขึ้นลงเร่าร้อนพร้อมกับเสียงครางซี๊ดซ๊าดไม่หยุดปาก“พี่จะแตกอยู่แล้วหยกจ๋า” น้ำเสียงของเขาหอบกระชั้นและไม่อาจรั้งรออีกต่อไป“หยกก็... ซี๊ดดดด พี่ปราบ... อ๊ะ! อ๊ะ! ยะ ยะ หยก... อื้อ! พี่ปราบขา หยก... เสร็จแล้ว” เธอร้องครวญครางลั่นและหลับตา
“ขยับสิครับ” เขาออกคำสั่งเสียงแผ่วเบาพลางซุกไซ้ใบหน้าหล่อเหลาลงไปที่ซอกคอ ขบกัดโลมเลียไปตามอารมณ์ ขณะที่เธอหลับตาพริ้ม“หยกทำไม่เป็น” เธอตอบเสียงพร่า สองมือโอบกอดรอบคอเขาเอาไว้แล้วแอ่นกายเหยียดเกร็งลำตัว“ขยับให้ตัวเองเสียวน่ะ เดี๋ยวก็เป็นจ้ะ” เขาบอกอีกครั้งซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยาก หากจะทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวเพื่อให้เสียวซ่าน เธอจึงขยับสะโพกขึ้นลงเสียดสีท่อนเนื้อเข้าออกทางสวาทช้าๆ กระทั่งรู้สึกเสียวซ่านจนขนลุกชูชัน เสียงร้องครวญครางเริ่มเปล่งออกมาจากปากของทั้งสอง“ซี๊ดดดด โอ้ว ใช่ หยกจ๋า ขยับแบบนี้แหละ” เขากระซิบบอกพลางเปล่งเสียงครางซี๊ดซ๊าดด้วยความพอใจ“อืม หยกยังเจ็บอยู่เลยค่ะ” แน่นอนว่าเพิ่งจะผ่านครั้งแรกมาได้ไม่นานก็ต้องเริ่มต้นอีกแล้ว ไม่เจ็บนี่สิแปลก“อีกนิดเดียวก็ไม่เจ็บแล้วจ้ะ” เขาปลอบใจด้วยเสียงหอบกระชั้น เสียวซ่านทุกครั้งที่เธอขยับตัว ขณะที่เขายกสะโพกขึ้นรับจังหวะเคลื่อนไหวขึ้นลงของเธอระรัวเร่ง สะโพกกลมกลึงกระแทกกระทั้นขึ้นลงอย่างหนักหน่วงเร่าร้อนขึ้นตามลำดับ&ld
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตูหน้าบ้านดังเบาๆ พอเป็นมารยาทเท่านั้น ทว่าเจ้าของบ้านยังคงหลับสนิท ไม่กระดุกกระดิกตัวเลย และไม่มีทีท่าว่าประตูจะถูกเปิดออก ชาติชายจึงถือวิสาสะเปิดเข้าไปเอง และสิ่งที่เห็นเบื้องหน้าทำให้เขาตกใจไม่น้อย เพราะเจ้านายหนุ่มดันนอนที่โซฟาแทนที่จะเป็นห้องนอน“เอ่อ นายครับ นาย” ชาติชายเรียกพลางเดินเข้าไปใกล้ๆ“นาย! ตื่นเถอะครับสายแล้วรถโรงงานรออยู่” เสียงของชาติชายทำให้ปราบพยายามลืมตาขึ้น แล้วกรอกตาไปมองพลางถอนหายใจไล่ความเพลีย ก่อนจะยกมือขึ้นกุมขมับแล้วบีบนวดเบาๆ“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ไม่สบายเหรอ” ลูกน้องถามอย่างแสนซื่อโดยไม่ทันได้สังเกตว่าเจ้านายเปลือยทั้งตัว“เข้ามาได้ไงวะ” ปราบถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย“ก็ประตูไม่ได้ล็อคไว้น่ะครับ ลืมล็อคตั้งแต่เมื่อคืนอย่างนั้นเหรอ แล้วเจ้านายนอนตรงนี้ได้ยังไง” เมื่อชาติชายถามเสร็จเจ้านายขี้เซาก็ได้สติทันที พร้อมกับพยุงตัวลุกขึ้นนั่งเพราะเพิ่งรู้ว่าข้างกายไม่มีคู่หมั้นคนงามนอน
หลังจากที่ปราบ ปลีกตัวจากลูกน้องคนสนิทแล้ว เขาก็กลับมาที่ออฟฟิศเพื่อเอารถส่วนตัวออก ซึ่งรถของเขานั้นคือ Lexus ห้าประตูสีดำมันเงาสุดหรู เมื่อขึ้นรถได้เขาก็สตาร์ทและเหยียบคันเร่งออกจากหน้าออฟฟิศทันที เขาทำให้หลายคนแปลกใจไม่น้อยเพราะไม่มีผู้ติดตาม แถมการขับรถเหมือนคนฉุนเฉียวมากกว่าจะอารมณ์ดี ปราบมุ่งหน้าลงจากสวนส้มซึ่งเป็นเนินเขาไม่สูงมากนัก ตามเส้นทางมีต้นไม้ร่มรื่น และสวนส้มของเขานั่นเอง เพราะมันไกลสุดลูกหูลูกตานับร้อยไร่ เมื่อลงจากเส้นทางของสวนส้มได้แล้ว ก็มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองซึ่งมีโรงงานผลไม้กระป๋องตั้งอยู่ แต่ไม่ถึงตัวเมืองเสียทีเดียว คนทั่วไปใช้เวลาในการขับรถโดยปกติประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ แต่กับปราบ เขาใช้เวลาเพียงชั่วโมงครึ่ง เหยียบคันเร่งจนมิดยิ่งถนนโล่งก็ยิ่งไม่รีรอ เพราะหัวใจอยู่ที่โรงงานไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนรถบรรทุกซึ่งตามมาทีหลังจะถึงเมื่อไหร่ก็ช่าง เวลาต่อมาปราบมาถึงโรงงานผลไม้กระป๋อง ซึ่งเป็นโรงงานหลักที่เขาผูกขาดในการส่งมากว่าสิบปี วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขามาคนเดียว ทันทีที่จอดรถอยู่หน้าออฟฟิศของโรงงานก็ทำให้คนที่รู้จักนึกแปลกใจ &nb
“แล้วเรามีปัญหาหรือขัดข้องอย่างนั้นเหรอ” ให้ตายสิ คำถามนี้เหมือนจะบังคับให้เขาแต่งงานกับลูกสาวตัวเองอย่างนั้นแหละ แต่เขาไม่ได้ปัญหาเสียหน่อย“เอ่อ คุณอาไม่หวงลูกสาวเลยเหรอครับเนี่ย” ปราบแสร้งถามยิ้มๆ“ก็หวงนะ แต่ลูกเขยอาต้องเป็นเจ้าของสวนสุริยะฉัตรเท่านั้น ถ้าขัดข้องนี่มีเรื่องแน่ๆ” ดูท่าทางเจ้าสัวจะมั่นใจเหลือเกินว่าปราบจะชอบลูกสาวตัวเอง“เอ่อ ผมไม่ได้ขัดข้อง แต่คุณอาต้องถามหยก เราเพิ่งเจอกัน ผมไม่รู้ว่าน้องจะ... จะโอเคกับผู้ชายอย่างผมหรือเปล่า”“อาถึงบอกให้สอนงานน้อง เขาจะได้รู้จักเราไง” รู้จักและรักกันอย่างนั้นสินะ“ผมไม่มั่นใจ แต่ขอบคุณมากครับคุณอา ที่ไว้ใจผมให้ดูแลน้อง แต่ตบมือข้างเดียวไม่ดังนะครับ ทำใจไว้รอเลยว่าอาจจะไม่เป็นอย่างที่คุณอาหวัง” ตอนนี้เหมือนหลงรักอีกฝ่ายข้างเดียว“เป็นหน้าที่ของเราแล้ว อาฝากน้องด้วยก็แล้วกัน”“ขอบคุณครับ ผมขอตัวนะครับ&rd
“มาได้ยังไงคะ รู้จักที่นี่ด้วยเหรอ” เธอถามด้วยความแปลกใจแต่สีหน้าของเขาบอกบุญไม่รับเลย“บ้านเจ้าสัวบุญเสริมใครบ้างไม่รู้จัก” ปราบตอบเสียงเรียบเหมือนกำลังไม่พอใจ“เอ่อ... มาทำไมคะ” เธอถามพลางหลุบเปลือกตาลงไม่อยากสบตาเขาเลย“พี่ควรถามน้องมากกว่า ว่าน้องกลับมาทำไมไม่บอกพี่สักคำ และเรายังไม่ได้คุยอะไรกันเลย” น้องอย่างนั้นหรือ เรียกราวกับรู้จักมักคุ้นกันเสียเหลือเกิน แต่เธอก็รู้สึกดีไม่น้อย“หยก... มีงานต้องทำค่ะ เลยรีบมา แล้วจะให้คนอื่นไปติดต่องานแทน หยกคงไม่...” เธอตอบแล้วก้มหน้าเหมือนเดิม“คนอื่นเหรอ พูดง่ายดี ทำอะไรไว้ทำไมไม่รับผิดชอบให้มันจบ”“หยกทำอะไรคะ” เธอเริ่มเสียงสั่นขณะที่เขาทำเสียงดุเข้มใส่“ทำงาน ไปทำงานให้เสร็จ...” จบคำเขาก็คว้าแขนเธอให้เดินไปด้วยทันที“ไม่! หยกไม่ไปแล้ว หยกจะไม่ไป” เธอพยายามสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมของเขาทว่าไร้ผ
“มันก็เกี่ยว แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะพี่ไม่มีงานให้”“อะไรนะ! ในเมื่อไม่มีงานให้ จะพาหยกกลับไปทำไม ทำแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ”“ก็หยกหนีมา! พี่ไม่ชอบ และถ้าหนีมาอีกพี่จะ...”“จะอะไร... จะทำไมหยกอีก เท่านี้ยังไม่พอใจอีกเหรอคะ ศักดิ์ศรีไม่มีแล้ว” เรื่องนี้มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีอย่างนั้นหรือ เขาคิดว่าเธอรู้สึกเหมือนกับเขาเสียอีก“มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีเหรอเนี่ย เพิ่งรู้”“จะอะไรก็ตาม พาหยกกลับเถอะค่ะ” เธอบอกเสียงแข็งเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น“โกรธพี่เหรอ พี่ไม่ได้ทำให้มันเป็นอุบัตินะ ตั้งใจทำทั้งคืนเลย”“หยกจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก จอดรถค่ะ ปล่อยหยกลงตรงนี้ก็ได้”“หยกเป็นคนไปหาพี่เอง ฉะนั้นไปจัดการเรื่องของเราให้จบ”“ไม่! หยกบอกให้จอดรถไง” คราวนี้น้ำเสียงของเธอสั่นเครือคล้าย
“อืม” เขาครางออกอยู่ในลำคอเมื่อปากอิ่มบดขยี้จูบอย่างดูดดื่ม สิ่งที่เขาสอนเธอมาหลายครั้ง เธอจำแม่นและนำมาใช้กับเขา ซึ่งทำได้ดีจนเขาแทบคลั่งเลยทีเดียว แต่จูบได้ไม่นานนักเธอก็ถอนออกก่อนจะไล่เรียวปากจูบแก้มที่สากไปด้วยเครา ไล่มาที่ซอกคอและดูดเม้มแรงกว่าเขาด้วยซ้ำ“อืม แม่เสือสาว ร้อนแรงจัง” เขาครางและบอกอย่างพอใจอีกครั้ง พลางกัดฟันและยิ้มกับตัวเอง จากนั้นปากอิ่มก็จูบจนถึงแผงอกกว้างที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามแน่น ๆ ปลายลิ้นร้อนไร้เดียงสาของเธอถูกส่งออกมาโลมเลียตวัดไปมากระทั่งถึงยอดอก ครั้งนี้เธอจะเอาคืนบ้างจึงใช้ลิ้นเลียตรงยอดอกระรัว ทำให้เขาสะท้านและบิดเกร็งลำตัว“ซี๊ดดดด อ่า ดีจัง ดีมากเลย” เขาออกปากชมและครางด้วยความพอใจครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่ลิ้นและเรียวปากอิ่มดูดเลียยอกอกอย่างร้อนแรง กลางลำตัวของเขาก็ดีดดิ้นขึงขัง แข็งจนอยากจะออกมาหายใจ เธอสัมผัสได้ว่ามันดิ้นเมื่อเนินสวาทถูไถไปมา“โอ้ว หยกจ๋า อ่า ช่วยพี่ที” คราวนี้เป็นทีของเขาที่จะต้องเอ่ยปากขอร้องบ้าง และเมื่อได้ยินดังนั้
“เอา พี่จะเอา จะเอาหยกตอนนี้ เดี๋ยวนี้” เขาบอกด้วยน้ำเสียงหื่นกระหายก่อนจะผงกศีรษะขึ้นแล้วขยี้จูบที่ปากอิ่มอีกครั้งอย่างเร่าร้อน ทำเอาปากบางแทบพังและแสบเพราะหนวดเคราถูไถ ขณะที่เรียวลิ้นร้อนส่งออกมาลากเลียไปตามเรียวปากแห้งผาก ก่อนจะสอดแทรกเข้าสู่โพรงปากนุ่มอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตวัดลิ้นเกาะและสูบกลืนลมหายใจกันเอาไว้ จูบดูดดื่มร้อนแรงจนทำให้กลางกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ท่อนเนื้อภายใต้กางเกงยีนส์มันกำลังดีดดิ้นและถูไถกับกลางลำตัวของเธอ กระตุ้นให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียนอย่างรุนแรงและจากมือที่เกาะกุมมือเธออยู่ค่อยๆ ปล่อยเคลื่อนลงมาตามลำคอ จนถึงเนินอกอวบ เขาบีบเค้นแรงๆ ขณะที่ปากยังคงบดขยี้จูบ ก่อนจะละเรียวปากขยับลงมาขบเม้มที่ซอกคอและดูดจนเป็นรอยแดงจ้ำ มือก็ขยำทรวงอกอย่างหนักหน่วง จากนั้นก็เลื่อนมืออีกข้างลงไปที่หน้าท้องแบนราบ กระทั่งถึงขอบกางเกง เขาจึงปลดกระดุม รูดซิบ ก่อนจะสอดฝ่ามือล้วงเข้าไปอย่างรวดเร็ว“อืม” เธอครางในลำคอเมื่อฝ่ามือหนาลูบไล้บนเนินสวาทแผ่วเบา พร้อมกับสอดแทรกนิ้วมือแกร่งแหวกว่ายหยอกเย้ากับกลีบสวาท กรีดกรายนิ้
แต่ในขณะเดียวกัน ชาติชายก็รีบโทรศัพท์บอกเจ้านายว่าตัวเองได้เผลอพูดความจริงออกไปแล้ว ทำให้ปราบต้องรีบตามหงส์หยกกลับไปที่บ้านทันที“ไอ้ชาติ ไอ้ตัวแสบ ฆ่าทิ้งดีไหมเนี่ย” ปราบบ่นพร้อมกับขับรถ ATV ออกจากสวนทันที เพื่อจะได้ตามหงส์หยกให้ทัน จากนั้นเขาก็ขับมาถึงหน้าออฟฟิศในเวลาอันรวดเร็ว แต่ไม่มีวี่แววว่าเธอจะอยู่ในบริเวณนี้ เขาจึงกระโดดลงจากรถแล้วเดินเท้าตามหา เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินเร็วกว่ารถที่เขาขับ“อยู่ที่บ้านเราหรือเปล่าวะ” เขาคิดถามตัวเองแต่คนโกรธแบบนั้นมีหรือจะกลับบ้านพัก ต้องกลับบ้านตัวเองสินะ“พวกเอ็งเห็นคุณหยกหรือเปล่า ผู้หญิงที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าน่ะ เดินมาทางนี้หรือไหม” ปราบถามด้วยความร้อนใจ“เสื้อเชิ้ตสีฟ้าเหรอครับนาย ผมเห็นหลังไวๆ เดินไปที่โรงจอดรถของคนงานน่ะครับ”“อะไรนะ! โรงจอดรถของคนงานอย่างนั้นเหรอ ให้ตายสิ” เมื่อฟังอย่างนั้นแล้วก็มีสิ่งเดียวคือเธออาจจะให้คนงานไปส่งก็เป็นได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วเขาจึงรีบว
แต่ในขณะเดียวกัน ชาติชายก็รีบโทรศัพท์บอกเจ้านายว่าตัวเองได้เผลอพูดความจริงออกไปแล้ว ทำให้ปราบต้องรีบตามหงส์หยกกลับไปที่บ้านทันที “ไอ้ชาติ ไอ้ตัวแสบ ฆ่าทิ้งดีไหมเนี่ย” ปราบบ่นพร้อมกับขับรถ ATV ออกจากสวนทันที เพื่อจะได้ตามหงส์หยกให้ทัน จากนั้นเขาก็ขับมาถึงหน้าออฟฟิศในเวลาอันรวดเร็ว แต่ไม่มีวี่แววว่าเธอจะอยู่ในบริเวณนี้ เขาจึงกระโดดลงจากรถแล้วเดินเท้าตามหา เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินเร็วกว่ารถที่เขาขับ “อยู่ที่บ้านเราหรือเปล่าวะ” เขาคิดถามตัวเองแต่คนโกรธแบบนั้นมีหรือจะกลับบ้านพัก ต้องกลับบ้านตัวเองสินะ “พวกเอ็งเห็นคุณหยกหรือเปล่า ผู้หญิงที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าน่ะ เดินมาทางนี้หรือไหม” ปราบถามด้วยความร้อนใจ “เสื้อเชิ้ตสีฟ้าเหรอครับนาย ผมเห็นหลังไวๆ เดินไปที่โรงจอดรถของคนงานน่ะครับ” “อะไรนะ! โรงจอดรถของคนงานอย่างนั้นเหรอ ให้ตายสิ” เมื่อฟังอย่างนั้นแล้วก็มีสิ่งเดียวคือเธออาจจะให้คนงานไปส่งก็เป็นได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้วเขาจึงรีบวิ่งไปที่โรงจอดรถทันที แล้วก็ทันเส
“เต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ต้องไปด้วยกัน ดูให้รู้ว่าเราทำงานกันลำบากแค่ไหน แล้วก็คุยงานไปด้วย” เขานี่ก็ช่างแกล้งเธอเสียจริงทั้งที่เพิ่งจะส่งส้มเข้าโรงงานของเธอไปเมื่อเช้านี่เอง คิดแล้วก็นึกขัน“อ้าวนาย กลับมาเร็วจังครับ” ชาติชายทักขึ้นเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเดินมาพร้อมกับคู่ค้าคนเมื่อวาน แต่คราวนี้ดันจูงมือกันมาแบบนี้ชัดเจนแล้วว่าไม่ธรรมดา“จะรีบกลับมาพาคุณหยกดูงานน่ะ” พูดแล้วเขาก็ปรายตามองเธออีกครั้ง“ชุดนี้นะเหรอครับ ร้อนแย่ผิวสวยๆ ไหม้กันพอดี” ชาติชายบอกว่าผิวสวยๆ อย่างนั้นหรือ ไม่เกรงใจกันเลย“มีหน้าที่ทำงานก็ทำไป” ปราบว่าเสียงดุเข้ม ชาติชายจึงต้องก้มหน้าเล็กน้อยแล้วรีบปลีกตัวไปห่างๆ ทันที ขณะเดียวกันหงส์หยกก็สะบัดจากการเกาะกุมของเขาอีกครั้ง และก็เป็นผลเพราะเขาปล่อยเธอให้เป็นอิสระ จะเดินไปทางไหนก็ตามใจก็แล้วกัน จากนั้นเขาจึงเดินไปคุมลูกน้องขนส้มเพื่อส่งเข้าอีกโรงงานหนึ่ง อีกทั้งแอบบอกทุกคนแล้วว่าหงส์หยกเป็นใครหงส์หยกจึงอาศัยเวลานี้ลองไ
“มันก็เกี่ยว แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะพี่ไม่มีงานให้”“อะไรนะ! ในเมื่อไม่มีงานให้ จะพาหยกกลับไปทำไม ทำแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ”“ก็หยกหนีมา! พี่ไม่ชอบ และถ้าหนีมาอีกพี่จะ...”“จะอะไร... จะทำไมหยกอีก เท่านี้ยังไม่พอใจอีกเหรอคะ ศักดิ์ศรีไม่มีแล้ว” เรื่องนี้มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีอย่างนั้นหรือ เขาคิดว่าเธอรู้สึกเหมือนกับเขาเสียอีก“มันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีเหรอเนี่ย เพิ่งรู้”“จะอะไรก็ตาม พาหยกกลับเถอะค่ะ” เธอบอกเสียงแข็งเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น“โกรธพี่เหรอ พี่ไม่ได้ทำให้มันเป็นอุบัตินะ ตั้งใจทำทั้งคืนเลย”“หยกจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก จอดรถค่ะ ปล่อยหยกลงตรงนี้ก็ได้”“หยกเป็นคนไปหาพี่เอง ฉะนั้นไปจัดการเรื่องของเราให้จบ”“ไม่! หยกบอกให้จอดรถไง” คราวนี้น้ำเสียงของเธอสั่นเครือคล้าย
“มาได้ยังไงคะ รู้จักที่นี่ด้วยเหรอ” เธอถามด้วยความแปลกใจแต่สีหน้าของเขาบอกบุญไม่รับเลย“บ้านเจ้าสัวบุญเสริมใครบ้างไม่รู้จัก” ปราบตอบเสียงเรียบเหมือนกำลังไม่พอใจ“เอ่อ... มาทำไมคะ” เธอถามพลางหลุบเปลือกตาลงไม่อยากสบตาเขาเลย“พี่ควรถามน้องมากกว่า ว่าน้องกลับมาทำไมไม่บอกพี่สักคำ และเรายังไม่ได้คุยอะไรกันเลย” น้องอย่างนั้นหรือ เรียกราวกับรู้จักมักคุ้นกันเสียเหลือเกิน แต่เธอก็รู้สึกดีไม่น้อย“หยก... มีงานต้องทำค่ะ เลยรีบมา แล้วจะให้คนอื่นไปติดต่องานแทน หยกคงไม่...” เธอตอบแล้วก้มหน้าเหมือนเดิม“คนอื่นเหรอ พูดง่ายดี ทำอะไรไว้ทำไมไม่รับผิดชอบให้มันจบ”“หยกทำอะไรคะ” เธอเริ่มเสียงสั่นขณะที่เขาทำเสียงดุเข้มใส่“ทำงาน ไปทำงานให้เสร็จ...” จบคำเขาก็คว้าแขนเธอให้เดินไปด้วยทันที“ไม่! หยกไม่ไปแล้ว หยกจะไม่ไป” เธอพยายามสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมของเขาทว่าไร้ผ
“แล้วเรามีปัญหาหรือขัดข้องอย่างนั้นเหรอ” ให้ตายสิ คำถามนี้เหมือนจะบังคับให้เขาแต่งงานกับลูกสาวตัวเองอย่างนั้นแหละ แต่เขาไม่ได้ปัญหาเสียหน่อย“เอ่อ คุณอาไม่หวงลูกสาวเลยเหรอครับเนี่ย” ปราบแสร้งถามยิ้มๆ“ก็หวงนะ แต่ลูกเขยอาต้องเป็นเจ้าของสวนสุริยะฉัตรเท่านั้น ถ้าขัดข้องนี่มีเรื่องแน่ๆ” ดูท่าทางเจ้าสัวจะมั่นใจเหลือเกินว่าปราบจะชอบลูกสาวตัวเอง“เอ่อ ผมไม่ได้ขัดข้อง แต่คุณอาต้องถามหยก เราเพิ่งเจอกัน ผมไม่รู้ว่าน้องจะ... จะโอเคกับผู้ชายอย่างผมหรือเปล่า”“อาถึงบอกให้สอนงานน้อง เขาจะได้รู้จักเราไง” รู้จักและรักกันอย่างนั้นสินะ“ผมไม่มั่นใจ แต่ขอบคุณมากครับคุณอา ที่ไว้ใจผมให้ดูแลน้อง แต่ตบมือข้างเดียวไม่ดังนะครับ ทำใจไว้รอเลยว่าอาจจะไม่เป็นอย่างที่คุณอาหวัง” ตอนนี้เหมือนหลงรักอีกฝ่ายข้างเดียว“เป็นหน้าที่ของเราแล้ว อาฝากน้องด้วยก็แล้วกัน”“ขอบคุณครับ ผมขอตัวนะครับ&rd
หลังจากที่ปราบ ปลีกตัวจากลูกน้องคนสนิทแล้ว เขาก็กลับมาที่ออฟฟิศเพื่อเอารถส่วนตัวออก ซึ่งรถของเขานั้นคือ Lexus ห้าประตูสีดำมันเงาสุดหรู เมื่อขึ้นรถได้เขาก็สตาร์ทและเหยียบคันเร่งออกจากหน้าออฟฟิศทันที เขาทำให้หลายคนแปลกใจไม่น้อยเพราะไม่มีผู้ติดตาม แถมการขับรถเหมือนคนฉุนเฉียวมากกว่าจะอารมณ์ดี ปราบมุ่งหน้าลงจากสวนส้มซึ่งเป็นเนินเขาไม่สูงมากนัก ตามเส้นทางมีต้นไม้ร่มรื่น และสวนส้มของเขานั่นเอง เพราะมันไกลสุดลูกหูลูกตานับร้อยไร่ เมื่อลงจากเส้นทางของสวนส้มได้แล้ว ก็มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองซึ่งมีโรงงานผลไม้กระป๋องตั้งอยู่ แต่ไม่ถึงตัวเมืองเสียทีเดียว คนทั่วไปใช้เวลาในการขับรถโดยปกติประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ แต่กับปราบ เขาใช้เวลาเพียงชั่วโมงครึ่ง เหยียบคันเร่งจนมิดยิ่งถนนโล่งก็ยิ่งไม่รีรอ เพราะหัวใจอยู่ที่โรงงานไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนรถบรรทุกซึ่งตามมาทีหลังจะถึงเมื่อไหร่ก็ช่าง เวลาต่อมาปราบมาถึงโรงงานผลไม้กระป๋อง ซึ่งเป็นโรงงานหลักที่เขาผูกขาดในการส่งมากว่าสิบปี วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขามาคนเดียว ทันทีที่จอดรถอยู่หน้าออฟฟิศของโรงงานก็ทำให้คนที่รู้จักนึกแปลกใจ &nb