Share

บทที่ 7

Author: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
เอวา

ฉันลืมตาตื่นพร้อมความปวดร้าวบริเวณหลังและแขนแล่นผ่านไปทั่วร่าง โนอานอนหลับอยู่กับฉันเพราะเมื่อคืนหลังจากดูโทรทัศน์ด้วยกัน เจ้าตัวน้อยงอแงไม่ยอมไปนอนคนเดียว รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าทันทีที่ความทรงจำเมื่อคืนผุดขึ้น เด็กน้อยยืนยันว่าจะทำหน้าที่ดูแลฉันอย่างแข็งขันตลอดทั้งคืน

ขณะนี้ราวแปดโมงเช้าได้ อาหารเช้าควรพร้อมรับประทานก่อนลูกชายจะตื่นนอน ฉันก้าวลงจากเตียงโดยที่ไม่ปลุกเขาเข้าแม้ว่าจะลำบากเล็กน้อยก็ตาม

หลังจากเสร็จกิจวัตรประจำวันยามเช้าเรียบร้อย ฉันจึงเดินลงไปด้านล่าง หยุดฝีเท้าก่อนจะก้าวเข้าห้องครัวพลางสงสัยกับตนเองว่าจะทำอาหารออกมาด้วยแขนเพียงข้างเดียวได้อย่างไร

ขณะที่เดินไปหยิบวัตถุดิบมาเตรียมทำแพนเค้ก ความทรงจำเมื่อวานพลันแล่นเข้ามาในห้วงความคิด ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นราวกับเป็นภาพลวงจนฉันสงสัยว่ามันเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หากไม่มีผ้าพันแผลบริเวณไหล่กับแขนที่อยู่ในสายคล้องช่วยย้ำเตือนถึงความจริง ฉันคงคิดว่าเป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้น

เมื่อฉันตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลหลังจากหมดสติไป ฉันก็ตื่นกลัวไม่น้อย บรรดาแพทย์และพยาบาลต่างพากันรีบเข้ามาสงบสติฉันและยืนยันว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี พยาบาลบอกฉันว่ากระสุนฝังอยู่บนไหล่แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงจนถึงชีวิต นับได้ว่าเป็นโชคดีของฉันเพราะหากกระสุนเปลี่ยนวิถีลงไปเพียงนิด คงฝังลงหัวใจฉันแทน

ทีมแพทย์นำกระสุนที่ฝังออก ทำความสะอาดรวมถึงเย็บบาดแผลให้ จากนั้นก็ให้ฉันใส่ห้วงคล้องคอนี้เอาไว้พร้อมทั้งจัดยาฆ่าเชื้อและยาบรรเทาอาการปวดมาให้ อีกทั้งยังกำชับอีกว่าให้ฉันใส่ผ้าคล้องยกแขนไว้แบบนี้จนกว่าจะถึงนัดพบหมอครั้งหน้า

ขณะทำแพนเค้กเป็นอาหารเช้า ความคิดพลันแล่นไปถึงชายคนหนึ่งที่เข้ามาช่วยชีวิตฉันเอาไว้ ฉันตั้งใจว่าจะหาว่าเขาคนนั้นเป็นใครจะได้เอ่ยคำขอบคุณได้ ขณะที่ครอบครัวตัวเองยังไม่รู้เลยว่าฉันเป็นตายร้ายดีอย่างไร แต่เขากลับเป็นเพียงคนเดียวที่เข้ามาช่วยชีวิตฉัน

ภวังค์แห่งความคิดถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเคาะประตู ใครกันที่มาตั้งแต่เช้าตรู่เช่นนี้

ฉันได้แต่สงสัยว่าคงไม่ใช่ใครที่ฉันอยากเจอหน้าตอนนี้แน่ เหตุร้ายเมื่อวานทำเอาความรู้สึกที่มีต่อคนที่เคยเรียกได้ว่าเป็นครอบครัวเดียวกันดิ่งลงเหวไปเลย

ฉันเดินตรงไปหน้าบ้าน เมื่อประตูเปิดออกช้า ๆ ฉันรู้สึกประหลาดใจที่เห็นชายหนุ่มที่ช่วยชีวิตฉันเมื่อวานยืนอยู่หน้าประตู ฉันสะดุดตากับดวงตาสีฟ้าคู่นั้น ช่างเป็นสีฟ้าสดใสที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา

เมื่อวานนี้ฉันไม่ทันได้สังเกตเรื่องนี้ อาจเป็นเพราะฉันทั้งบาดเจ็บและตื่นตระหนก แต่เขาเป็นคนหน้าดีไม่เบา ส่วนสูงราวหนึ่งร้อยแปดสิบเซ็นติเมตรเห็นจะได้ มีกล้ามแต่ไม่ถึงกับล่ำแบบนักเพาะกาย พร้อมสันกรามคมกริบ เส้นผมสีน้ำตาลเข้มไม่เป็นทรงเย้ายวนไม่น้อย รวมถึงท่าทางที่เต็มไปด้วยความมั่นใจนั้นช่างดึงดูดใจ

“สวัสดีค่ะ” ฉันเปล่งเสียงแหบแห้งราวกับคนสูบบุหรี่ออกไป

เขายิ้มให้ ฉันนั้นราวกับต้องมนต์สะกด “สวัสดีครับ ขอเข้าไปได้ไหม?”

“อ๋อ ได้ค่ะ” ฉันเอ่ยตอบพลางเบี่ยงตัวหลบ

ชายหนุ่มเดินเข้ามาด้านในก่อนฉันปิดประตู ฉันมองเขาสำรวจบ้านของฉันอยู่

“บ้านสวยดีนะครับ” คำกล่าวเสียงทุ้มนุ่มดังขึ้น

“ขอบคุณค่ะ” ฉันตอบกลับ “คือว่าฉันทำแพนเค้กเป็นมื้อเช้า สนใจรับสักหน่อยไหมคะ?”

ชายหนุ่มพยักหน้ารับ ฉันจึงเดินนำเขาไปยังห้องครัว แต่ก่อนจะได้กลับไปทำมื้อเช้าต่อ เขาก็หยุดฉันไว้และทำให้ฉันต้องหันไปมอง

“ขออนุญาตแนะนำตัวอย่างเป็นทางการนะครับ ผม อีธาน ครับ” เขาจับมือฉันอย่างสุภาพก่อนพลิกมือแล้วประทับจูบลงไป

เหตุผลกลใดไม่ทราบได้ สีแดงระเรื่อปรากฎบนดวงแก้ม ฉันไม่คุ้นชินความรู้สึกและเสน่ห์ของชายหนุ่มเช่นนี้ เพราะมักจะเป็นคนที่ถูกมองข้ามเสมอมา ขึ้นชื่อว่าเป็นน้องสาวน่าเบื่อและไร้เสน่ห์

“ฉัน…เอวาค่ะ” ฉันเปล่งเสียงออกอย่างตะกุกตะกัก

“ผมรู้อยู่แล้วครับ คนสวย” เขาขยิบตา จากนั้นชายหนุ่มจึงเดินกลับไปนั่งตรงโต๊ะรับประทานอาหาร

ฉันหัวเราะเก้อ ๆ เพื่อกลบเกลื่อนท่าทีทำตัวไม่ถูก ความเป็นชายของเขาไหลทะลักล้นออกมาแถมยังพุ่งเป้ามาที่ฉัน ฉันไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อนจึงกระอักกระอ่วนใจไม่น้อย

“คุณอีธาน ไม่มีนามสกุล… คุณไปทำอะไรที่งานศพพ่อฉันหรือคะ?” ฉันถามเปิดประเด็นก่อนวางแก้วกาแฟและตามด้วยแพนเค้ก

ฉันถือกาแฟและแพนเค้กส่วนของตนก่อนเดินไปนั่งข้างชายหนุ่ม เขาเผยเสียงหัวเราะเบา ๆ ขณะที่สายตามองมาที่ฉัน

“ก่อนหน้านี้มีการรับแจ้งเหตุข่มขู่เข้ามา และมีการรับแจ้งอีกว่าพ่อของคุณถูกฆ่าตายเพราะเหตุนั้น ผู้กำกับอยากให้พวกเราดูลาดเลาที่งานศพหน่อยน่ะครับ เผื่อว่าคนร้ายกลุ่มเดิมจะวนกลับมาทำร้ายคนในครอบครัวเหยื่ออีก” เขาอธิบายก่อนจะหยิบแพนเค้กเข้าปาก

“ถ้างั้น คุณก็เป็นตำรวจน่ะสิคะ? ฉันรู้จักตำรวจเกือบทุกคน แต่ไม่ยักเคยเห็นคุณมาก่อน”

“ครับ ผมเป็นตำรวจ… ผมเพิ่งย้ายมาประจำการที่นี่ได้ประมาณสองสามเดือน งานก็เยอะจนไม่มีเวลาออกไปสังสรรค์ข้างนอกเลย” เขาตอบกลับหลังกลืนแพนเค้ก

รอยยิ้มของฉันส่งไปหาเขา “งั้นคุณจะถือว่าฉันเป็นเพื่อนก็ได้นะคะ…ความจริงแล้วเช้านี้ฉันกำลังคิดอยู่เลยว่าจะตามหาคุณยังไงดี”

“ตามหาทำไมเหรอครับ?”

“ก็เพื่อขอบคุณเรื่องที่คุณช่วยชีวิตฉันไงล่ะคะ ถึงฉันจะจำอะไรไม่ได้มากนัก แต่อย่างน้อยก็จำได้ว่าคุณช่วยกดแผลห้ามเลือดให้ฉัน แล้วก็ตะโกนเรียกรถพยาบาล”

ท่าทีร้อนใจพุ่งตัวรีบมาช่วยฉันยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำเช่นกัน เมื่อลองนึกดูให้ดีหากตอนนั้นอีธานไม่ได้ผลักฉันให้พ้นทาง กระสุนคงทะลุหัวใจฉันไปแล้ว ดังนั้นฉันจึงติดหนี้บุญคุณชายคนนี้

“ผมแค่ทำตามหน้าที่ครับ อีกอย่างคงไม่บ่อยหรอกนะครับที่จะได้มีผู้หญิงแสนสวยอยู่ในอ้อมแขน ถึงแม้ว่าเธอจะสลบไปเพราะกลัวเลือดตัวเอง” การหยอกล้อของชายหนุ่มเรียกรอยยิ้มของฉันได้

แก้มทั้งสองของฉันร้อนผ่าว ฉันหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย จากบุคลิกของเขาบอกได้ว่าเขาเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ซึ่งเห็นได้ชัดจากรอยยิ้มและการเล่นหูเล่นตาของเขา ฉันรู้สึกได้ถึงความสดใสจากชายหนุ่ม แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยได้สัมผัสมานานแล้วในชีวิต

“แล้วลมอะไรหอบคุณมาหาฉันถึงบ้านได้คะ อีกอย่างคุณรู้ไงว่าฉันอยู่ไหน?”

“ผมเป็นตำรวจนะครับจำได้ไหม? แค่หาที่อยู่ก็เรื่องหมู ๆ ส่วนทำไมผมถึงมาหาก็เพราะอยากรู้ว่าคุณไม่เป็นไรแล้วก็เท่านั้นครับ เมื่อวานนี้ผมอยู่ดูอาการคุณไม่ได้เพราะโดนเรียกตัวกลับไปรายงานสถานการณ์ พอกลับไป คุณก็ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว ถ้ารีบร้อนมาหาคุณตอนกลางดึกก็คงไม่เหมาะเท่าไร”

พูดตามตรงว่าฉันอดอึ้งไม่ได้ ชายแปลกหน้าคนนี้ยังมีไมตรีจิตและห่วงใยฉันมากกว่าพวกคนรอบตัวที่รู้จักฉันมาทั้งชีวิตเสียอีก แต่ขอละเว้นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างโนอาเอาไว้หนึ่งคน ฉันไม่รู้จะรับมืออย่างไรเพราะว่าไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน

“ขอบคุณนะคะ” ฉันพูดช้า ๆ อย่างอารมณ์ท่วมท้น

สายตาของผู้มีบุญคุณฉายแววแปลกใจออกมา กระนั้นฉันก็ไม่เอามาใส่ใจและเปลี่ยนเรื่องคุย

เราสองสนทนาและกินอาหารกันไปเรื่อย ๆ แต่แปลกที่ฉันกลับรู้สึกสบายใจเป็นที่สุดเมื่ออยู่กับเขา ถึงเขาจะเป็นคนแปลกหน้าแต่ฉันจำไม่ได้แล้วว่านานเพียงใดที่ฉันไม่ได้รู้สึกสบายใจเวลาอยู่กับคนอื่นนอกจากโนอา

เวลาล่วงเลยไปราวสี่สิบนาที ชายหนุ่มก็ขอตัวกลับไป เราทั้งสองแลกเบอร์โทรศัพท์กัน ถึงแม้ว่าฉันจะรู้สึกสนุกมากแต่ก็ยังแอบแคลงใจว่าคุณตำรวจแสนดีจะโทรหาหรือส่งข้อความมาหาฉันหรือเปล่า เพราะฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ชายหนุ่มจะอยากทักกลับมาหรือสานสัมพันธ์ต่อเป็นครั้งที่สอง

ขณะกำลังล้างจานทำความสะอาดอยู่นั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง โนอายังไม่ตื่นนอนและฉันเองก็ยังไม่ต้องการปลุกลูกชาย

“ลืมของหรือคะ?” ฉันเอ่ยถามพลางดันประตูให้เปิดออก

อารมณ์ของฉันกลับมาเฉยชาเมื่อพบว่าชายตรงหน้าคือโรแวน ไม่ใช่อีธาน เมื่อเห็นหน้าเขาความเจ็บปวดพลันแล่นผ่านทางทุกโสตประสาท ฉันยังจำได้ไม่ลืมเลือนถึงภาพที่เขาทิ้งฉันไปปกป้องหญิงอันเป็นที่รักอย่างเอมม่า ช่างเป็นรสชาติแสนขมขื่น

ปฏิเสธไม่ได้ว่าฉันนั้นไร้ค่าสำหรับเขา เหตุการณ์เมื่อวานนี้ตอกย้ำถึงความเฉยเมยและความเกลียดชังของเขาที่มีต่อฉัน ฉันปล่อยวางจากความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานออกไป ปิดผนึกมันเอาไว้พร้อมกับความรักที่มอบแก่ชายคนนี้ในส่วนลึกสุดของจิตวิญญาณ

โรแวนนั้นได้ตายไปจากหัวใจฉันแล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องรักคนที่ตายไปแล้ว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (4)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
ลุ้นค่ะว่าอีธานเป็นดนดีหรือเปล่า และเข้ามาจีบเอวาไหม ส่วนโรแวนถ้ามาในฐานะพ่อของลูกก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ถ้ามาเพื่อให้เอวากลับไป ก็อย่ามาเลย แค่นี้เอวาก็เจ็บปวดเหมือนตายทั้งเป็นอยู่แล้ว อีธานคุณดีมากเลยนะที่เข้าไปช่วยเอวาได้ทัน
goodnovel comment avatar
อาษิรญา อินทนนท์
ตื่นเต้นทุกตอนเลย
goodnovel comment avatar
สุภาวดี เข็มทอง
เนื้อเรื่องน่าสนใจน่าติดตามแล้วก็น่าตื่นเต้นดีมาก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ธุลีใจ   บทที่ 8

    โรแวนผมเห็นจังหวะที่อารมณ์ของเอวาเปลี่ยนเป็นเฉยชา วินาทีที่แสงแห่งความอบอุ่นก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นความหนาวเหน็บทำให้ผมรู้สึกสะท้านถึงขั้วหัวใจ“คุณมาทำอะไรที่นี่?” น้ำเสียงของเธอปราศจากซึ่งอารมณ์ใด ขณะที่ผมฝืนแทรกตัวเข้าไปด้านในบ้านราวกับว่าเอวากำลังสนทนากับชายแปลกหน้าอยู่ ราวกับว่าผมเป็นแค่ฝุ่นผงไร้ค่าสำหรับเธอไปเสียแล้ว ผมจ้องมองใบหน้านั้นโดยอ่านสิ่งใดไม่ออก ผมอยู่กับผู้หญิงคนนี้มาเกือบสิบปีแต่ตอนนี้กลับหาคำดี ๆ เพียงสักคำพูดกับเธอยังไม่ได้ผมมองแขนของเธอที่ยังคล้องอยู่บนสายห้อย จุดประสงค์วันนี้คือมาตรวจดูอาการของเธอและรับโนอา เพราะนี่เป็นช่วงสุดสัปดาห์ซึ่งเป็นเวลาของผมกับลูกชายภาพของชายหนุ่มก่อนหน้าที่เห็นว่าเดินออกไปผุดขึ้นมา ผมก็คิ้วกระตุก ต้องเป็นชายคนนี้แน่ที่เอวามอบรอยยิ้มให้ เมื่อตระหนักได้ดังนี้ ผมอดไม่ได้ที่กัดฟันกรอด“ผู้ชายคนนั้นมาทำอะไรที่นี่?” ผมเอ่ยถามแทนที่จะตอบเธอพร้อมทั้งเก็บซ่อนอารมณ์เดือดดาลที่หาเหตุผลที่มาไม่ได้เอาไว้ผมรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและยังเป็นคนที่เข้ามาช่วยชีวิตเอวาเอาไว้ แต่เขาก็ล้ำเส้นเกินไป ผมไม่ชอบผู้ชายคนนั้นและไม่ต้องการใ

  • ธุลีใจ   บทที่ 9

    “แล้วคุณอยากให้ผมพูดอะไรละ? ในเมื่อผมไม่เคยหลอกลวงคุณเลย คุณเองก็รู้มาตลอดนี่ว่าผมรักเธอ” เอวาขว้างผ้าเช็ดจานด้วยความโกรธเกรี้ยว “รู้แบบนั้นแล้วก็กล้ามาแตะต้องร่างกายของฉันอีกหรือ? ให้ตายเถอะ ฉันโคตรจะเกลียดคุณเลย ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าคุณมีดีอะไรฉันถึงได้หลงคุณนักหนา ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าต้องมานั่งเสียเวลาชีวิตขนาดนี้ไปทำไมกัน”ผมกัดฟันกรอด แต่ละคำของเธอทวีความเดือดดาลของผมขึ้น แน่นอนเราทั้งสองหลับนอนด้วยกันช่วงแต่งงาน แต่นั่นเป็นความสุขและสนุกทางกายเท่านั้น ผมให้คำสัตย์สาบานไว้ตอนแต่งงาน แม้ว่าผมจะไม่ได้รักเธอแต่ผมก็ไม่ได้ผิดคำสัตย์สาบานด้วยการนอกใจเธอ“ผมไม่ได้มาคุยเรื่องอดีต ผมมาเพราะอยากคุยเรื่องโนอา” ผมพูดเปลี่ยนประเด็นเรื่องราวเริ่มเลยเถิดไปไกลแล้ว ผมจำเป็นต้องพูดประเด็นที่ผมเดินทางมาที่นี่ และรีบจากไปก่อนจะทำหรือพูดอะไรที่ผมต้องมานั่งเสียใจภายหลังชื่อของโนอาเสมือนเครื่องเตือนสติหญิงสาว ดังนั้นเอวาจึงไม่ตอบโต้กลับ เพียงเดินไปเปิดตู้และนำขวดยาออกมา เธอเปิดขวดยาด้วยมือเพียงข้างเดียวและกินยาเข้าไปสองเม็ดเมื่ออ่านฉลากยาผ่านสายตา ผมจึงตระหนักได้ว่านั่นคือยาบรรเทาอาการปวด“แขนคุ

  • ธุลีใจ   บทที่ 10

    เอวา“ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีครับแม่ว่าทำไมผมต้องไปด้วย อยู่กับแม่แบบนี้ไม่ได้หรือ?” โนอาบ่นอุบ ความบูดบึ้งปรากฎบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเด็กน้อยไม่พอใจตั้งแต่วินาทีที่ฉันอธิบายกับลูกว่าต้องไปอยู่กับคุณปู่คุณย่าช่วงหนึ่งลูกชายกระโดดโลดเต้นในแวบแรก และกลายเป็นหน้าหงอยเมื่อพบว่าทั้งพ่อและแม่ตนไม่ได้ไปด้วยทางโรงเรียนของโนอาเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี แม้แต่คุณครูก็เข้าใจเช่นกัน ดังนั้นจึงตั้งใจส่งบทเรียนและการบ้านผ่านทางแม่เพื่อให้เด็กชายไม่ห่างหายการเรียนนานจนเกินไป “แม่บอกแล้วนี่ลูก นี่เป็นวันหยุดพักผ่อนแบบปู่ย่ายายหลานไง…ดังนั้น ก็ต้องมีแค่ลูก คุณปู่ คุณย่าแล้วก็คุณยายไปไงจ๊ะ”หลังจากพูดคุยกับกับหัวหน้าทีมคุ้มกัน ได้รับการยืนยันว่าทุกคนจะไปเก็บซ่อนตัวแถบเมืองชายทะเล“ลูกจะไปเที่ยวทะเลด้วยนะ ลูกขอให้พ่อกับแม่พาไปเที่ยวไม่ใช่เหรอ?” ฉันเสริมคำบรรยายด้วยรอยยิ้มแสนหยอกเย้าคำว่า ‘ทะเล’ สามารถล่อซื้อจิตใจเด็กชายได้โดยง่าย คำบ่นอุบต่าง ๆ นานาก่อนหน้าเงียบลงทันตาโนอานั้นชื่นชอบทะเลและมหาสมุทรเป็นชีวิตจิตใจ เด็กน้อยชอบทะเลมากเสียจนครั้งหนึ่งเคยร้องไห้งอแงทั้งอาทิตย์ หล

  • ธุลีใจ   บทที่ 11

    โรแวนก้าวเข้ามาประชิดร่างฉัน แววตาเขาแผดเผาและรูจมูกขยับอย่างโมโหจัด ฉันยังคงยืนกรานไม่ยอมให้เขามาข่มขู่ฉันได้“ผมไม่ไป ยกเลิกอูเบอร์แล้วก็ย้ายก้นไปขึ้นรถผมเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มกัดฟันกรอด ราวมีพายุพัดโหมในแววตามือของฉันกำแน่นเป็นสัญญาณแห่ความเดือดดาลที่กำลังปะทุ ยามปกติฉันคงยอมถอยเพราะไม่ต้องการยั่วโทสะเขา แต่ตอนนี้ฉันไม่สนแล้ว“เลิกมั่นหน้ามั่นใจสักที…คิดว่าใหญ่มาจากไหนมิทราบ? ฉันไม่ใช่ลูกหมาที่คุณจะมาชี้นิ้วออกคำสั่งได้นะ” ฉันเริ่มขึ้นเสียงเพราะเดือดจัดหลายปีที่ผ่านมาฉันยอมให้เขาบงการฉันมาตลอด หลายปีที่ผ่านมาฉันยอมเงียบปากเพียงเพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีที่คิดว่าเราทั้งสองมีต่อกัน กระนั้นฉันได้รับสิ่งใดตอบแทนมาเล่า? ความอดทนและอดกลั้นช่วยนำสิ่งใดมาบ้าง? ไม่มีเลยเว้นเพียงความทุกข์กายและทุกข์ใจ“เอวา…” โรแวนเรียกชื่อฉันเพื่อเตือนสติ“พ่อกับแม่ทะเลาะกันอีกแล้วหรือครับ?” น้ำเสียงเล็กของโนอาสลายบรรยากาศตึงเครียดตรงหน้าฉันหันไปเจอกับสายตาแสนเศร้าของเด็กน้อย ให้ตายสิ! ฉันไม่ต้องการให้โนอาเห็นเราทั้งสองเป็นเช่นนี้ ลูกไม่ควรเห็นเราทะเลาะกันตลอดเวลา“เปล่าจ้ะ เราไม่ได้ทะเลาะกัน เราแค่

  • ธุลีใจ   บทที่ 12

    “แม่คุณถามถึงคุณอยู่นะ พักหลังมานี้ได้คุยกับท่านบ้างหรือเปล่า?”ฉันส่งเสียงรำคาญใจ “คุณพูดมากไม่หยุดจนประสาทฉันเริ่มกินแล้วนะโรแวน ช่วยทำเหมือนฉันไร้ตัวตนต่อไปเหมือนที่เคยทำมาตลอดได้ไหม?”มือชายหนุ่มกำพวงมาลัยแน่น ฉันเห็นเขาขบกรามเขม็ง รู้สึกได้เลยว่าเขาหัวเสียไม่น้อย อาจเป็นเพราะฉันไม่ได้เป็นลูกไก่ในกำมือเขาแล้วก็เป็นได้ กระดานพลิกแล้วและเขาไม่ชอบเลยสักนิดฉันเคยทุ่มสุดตัวเพื่อให้ชายหนุ่มมีความสุข พยายามเป็นอย่างที่เขาต้องการ พยายามเป็นเช่นเอมม่า ทำทุกอย่างเพื่อให้กลายเป็นดั่งศรีภรรยาที่เขาหมายปอง ตอนนี้ฉันไม่สวมบทบาทนั้นแล้วและดูเหมือนเขาจะไม่พอใจกับการที่ฉันเลิกเป็นเบี้ยล่างอย่างมาก ฉันยกยิ้มการปั่นประสาทชายหนุ่มทำให้บางสิ่งในจิตใจบรรเทาลงได้นับจากนั้นตลอดการเดินทางก็เป็นไปอย่างเงียบเชียบ เราทั้งสองนั่งนิ่งในเบาะนั่งของตนขณะที่โนอาหัวเราะกับการ์ตูนอย่างมีความสุข หนึ่งชั่วโมงให้หลังเราจึงเดินทางถึงสนามบิน ฉันจูงมือโนอาเอาไว้และโรแวนก็ทำหน้าที่พนักงานขนกระเป๋า“ผมตื่นเต้นอยากเห็นทะเลจังครับ” โนอาเอ่ยพร้อมกระโดดโลดเต้นอย่างเริงร่า“ถ้างั้นก็ไปเลยไหม…พวกเราไม่ถ่วงเวลาลูกแล้ว” โรแ

  • ธุลีใจ   บทที่ 13

    หนึ่งสัปดาห์แล้วที่โนอาเดินทางไป ฉันรู้สึกเหมือนจับต้นชนปลายถูกเมื่อไร้ลูกชายอยู่ข้างกาย หนึ่งสัปดาห์คงเป็นช่วงเวลายาวนานที่สุดแล้วที่เราสองแม่ลูกห่างกัน ฉันไม่อายเลยหากบอกว่ารับมือได้ไม่ดีนักโนอาเป็นดั่งต้นไม้ใหญ่ หากปราศจากเขา ฉันก็ไร้สิ่งค้ำจุนจิตใจ ราวกับเรือลำน้อยไหลไปตามกระแสน้ำเมื่อขาดสมอ ทุกวันฉันเฝ้ารอรับสายจากลูกเพราะเป็นสิ่งเดียวที่สงบจิตใจฉันได้ โทรศัพท์พร้อมเสียงหวานใสของลูกทำให้ฉันไม่สติแตกการติดต่อจากโรแวนขาดหายไปนับตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อนที่สนามบิน เศษเสี้ยวจิตใจฉันยังโหยหาเขาอยู่ แต่ฉันรู้ดีว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด ระหว่างเราไม่มีอนาคตใดและฉันคงทำใจใช้ชีวิตเคียงคู่กับชายที่ไม่มีใจให้ฉันไม่ได้ สรุปก็คือตอนนี้ทุกอย่างเงียบสงบ ไม่มีใครติดต่อมาเพื่อแจ้งข่าวสารใดกับฉันเลย เพราะก็ไม่มีเหตุยิงกันหรือว่าไม่ได้มีใครตายอีก ก็สบายใจได้เปราะหนึ่งว่ากลุ่มฆาตกรนั้นคงไปหลบซ่อนตัวแล้วทันใดนั้น ฉันเดินชนกับใครสักคนจนตื่นจากห้วงความคิด“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันไม่ทันมองเห็นคุณ” ฉันกล่าวคำขอโทษออกไปพลางก้มเก็บหนังสือของตนที่หล่นเกลื่อนฉันเพิ่งเลิกงานและอยู่ในระหว่างทางกลับบ้าน วันน

  • ธุลีใจ   บทที่ 14

    เราทั้งสองยืนอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง ฉันยืนขยับเท้าไปมาอย่างทำตัวไม่ถูก อีธานจ้องมองฉันด้วยดวงตาสีฟ้าสดใสราวกับว่าจะมองทะลุไปถึงจิตวิญญาณก็มิปาน ฉันจึงหลบเลี่ยงสายตาจับจ้องคู่นั้น“อีธาน” เสียงเรียกของบางคนดังขึ้น ฉันจึงหันไปตามทิศทางนั้น พบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกคนกำลังกวักมือเรียกอยู่“กำลังไป” อีธานตะโกนตอบรับ จากนั้นหันกลับมาหา “ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะครับคนสวย คงจะได้เจอกันอีกใช่ไหม?“ค่ะ” ฉันตอบด้วยเสียงแผ่วเบาจากนั้นชายหนุ่มจึงโอบกอดฉันโดยไม่ทันให้ได้ตั้งตัวก่อนเดินจากไป ฉันยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นได้แต่คิดว่าเมื่อครู่คืออะไรกันแน่ฉันใช้เวลาสักครู่หนึ่งดึงสติกลับมาและเริ่มก้าวเดินต่อไปพลางคิดว่าจำเป็นต้องซื้อของใช้เสียหน่อย ฉันจึงตัดสินใจเดินไปยังร้านขายของเพราะไม่ได้ห่างจากโรงเรียนมากนักตอนนี้ฉันไม่ได้ใช้ผ้าคล้องแขนเล้วแม้ว่าแขนข้างที่ได้รับบาดเจ็บจะรู้สึกเจ็บหรือปวดอยู่บ้าง แต่แขนก็ยังใช้งานได้ปกติ สิ่งของที่จำเป็นต้องซื้อแล่นเข้ามาในความคิดรวมถึงปฏิสัมพันธ์ระหว่างฉันกับอีธานวิธีที่เขาปฏิบัติต่อฉันช่างแตกต่างกับโรแวนอย่างที่ฉันไม่รู้จะบอกว่าอย่างไร ไม่เคยมีใครเอ่ยชมว่าฉันสวยสัก

  • ธุลีใจ   บทที่ 15

    “วันนี้เป็นไงบ้าง ลูกรัก?” ฉันเอ่ยถามโนอาโทรศัพท์ถูกหนีบอยู่ระหว่างหัวไหล่และกกหูขณะง่วนอยู่กับการทำความสะอาด ฉันพยายามคุยกับลูกชายให้ได้มากที่สุด แม้ว่าจะทุลักทุเลอยู่บ้างแต่หัวไหล่ของฉันก็อาการดีขึ้นมาก“อย่างเจ๋งเลยครับ!” เสียงตะโกนของเด็กน้อยส่งผ่านทางโทรศัพท์จนหูฉันแทบระเบิด “เราเพิ่งกินไอศกรีมกัน แล้วตอนนี้กำลังไปเล่นสไลเดอร์ครับ ที่นี่มีสไลเดอร์ด้วยมันยาวออกไปถึงทะเลเลยครับ”เสียงแสนตื่นเต้นของเด็กน้อยทำให้ฉันสุขใจเป็นอย่างยิ่ง เขามีความสุขฉันก็มีความสุข ขอเพียงแค่เขาปลอดภัยและสนุกสนานได้อย่างเต็มที่ก็เพียงพอแล้วสำหรับฉัน“เยี่ยมไปเลยใช่ไหมลูก…เห็นไหม แม่บอกแล้วไงว่าต้องสนุกแน่นอน”ฉันหยุดทำความสะอาดแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา คุยกับลูกให้เสร็จก่อนน่าจะดีกว่า“แล้วแม่ล่ะครับ วันหยุดเป็นยังไงบ้าง?”จะให้ฉันตอบยังไงดี? มันโคตรน่าเบื่อ ลูกชายวัยแปดขวบกำลังสนุกสนานมากกว่าฉัน คนไร้เพื่อนอย่างฉัน ไม่มีที่ให้ออกไป ไม่มีใครให้เที่ยวด้วย เพื่อนสมัยเรียนเคยชวนฉันออกไปเที่ยวอยู่บ้างแต่ก็ห่างหายกันไปหลังจากฉันเอาแต่ปฏิเสธ ลึก ๆ ในใจฉันรู้ว่าบรรดาเพื่อนชวนฉันไปเที่ยวเพียงเพราะมารยาท เพ

Latest chapter

  • ธุลีใจ   บทที่ 539

    ฉันหยุดหายใจเเพราะความตกใจ และผละออกจากเขา ในขณะที่ร่างเล็ก ๆ กระโดดขึ้นมาบนตัวเรา"สุขสันต์วันคริสต์มาส!" เขาตะโกนอย่างมีความสุขด้วยเสียงร้องเพลง“หัวจะปวด” ทั้งกาเบรียลและฉันครางอย่างหงุดหงิดจะมาช้ากว่านี้สักชั่วโมงไม่ได้หรืออย่างไร? ถ้ามีใครสักคนในครอบครัวนี้ที่ชอบขัดจังหวะเรา มันก็ต้องเป็นลูกคนที่สอง แอนดรูว์ คนนี้แน่นอน เราเรียกเขาว่าดรูว์เขาอาจจะไม่รู้ว่าเขาเป็นตัวขัดจังหวะแค่ไหน แต่ก็ไม่สำคัญยังไงเขาก็ทำอยู่ดี"ตื่นครับ! ตื่น!" เขาตะโกนเสียงดัง จนชั่วขณะหนึ่งฉันไม่ได้ยินอะไรเลย นอกจากเสียงก้องของเจ้าลูกชาย"ไม่ต้องตะโกนก็ได้ ดรูว์" เกเบรียลบ่น "พ่อแม่ได้ยินชัดเจนโดยที่หนูไม่ต้องทำให้แก้วหูพ่อแม่แตกก็ได้"ดูเหมือนดรูว์จะไม่ฟังเลย เขาเด้งขึ้นเด้งลงบนเตียง มีความสุขแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขาเกเบรียลขยับตัวใต้ผ้าห่ม คงพยายามขยับทุกอย่างให้เข้าที ฉันขยับร่างกายขึ้นและพิงหัวเตียง ก่อนจะคว้าลูกชายที่กระตือรือร้นและอยู่ไม่นิ่งมา สิ่งสุดท้ายที่เราต้องการคือเขาทำร้ายพ่อของเขาด้วยการเผลอเหยียบเข้ากลางตัวเขาหรืออะไรทำนองนั้น"หนูพยายามห้ามเลียมแล้วนะคะ แต่แม่ก็รู้ว่าเขาเป็นยังไงเวลาต

  • ธุลีใจ   บทที่ 538

    ฮาร์เปอร์ฉันกำลังล่องลอยอยู่บนปุยเมฆสีขาวนุ่มฟูแห่งการนอนหลับ ฉันรู้สึกอบอุ่น รู้สึกสงบ และรู้สึกได้รับความรักฉันเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาทีละน้อย เกเบรียลนอนอยู่ข้างหลังฉัน แขนโอบกอดฉันไว้ เขาทำแบบนี้ทุกครั้งที่เรานอนหลับด้วยกัน เขากอดฉันไว้แน่นในอ้อมแขน ราวกับว่าเขากลัวว่าฉันจะหายไปหากไม่ทำเช่นนี้ฉันขยับตัวเล็กน้อยเพื่อหลุดออกจากอ้อมแขนของสามี ทว่าแทนที่จะปล่อยฉันไป เขากลับกระชับมือแน่นขึ้น ซึ่งดันฉันเข้าไปแนบชิดมากขึ้นฉันหยุดขยับเมื่อรู้สึกถึงเขา ฉันรู้สึกถึง น้องน้อยที่ตื่นมาเคารพธงชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา ฮอร์โมนของฉันพลุ่งพล่าน และฉันก็ต้องการเขาขึ้นมาทันที ฉันอยากให้เขาสอดแทรกเข้ามาในร่างนี้เรื่องบนเตียงของเราสองช่างสมบูรณ์ แต่ก็มีบางครั้งที่ต้องการมากกว่านี้ อาจเพราะมีลูกด้วยกันถึงสามคนแล้ว บางเวลามันก็ยากที่จะมีเวลาส่วนตัวที่ไม่ถูกรบกวนได้"อืม" เกเบรียลร้องครางเมื่อฉันถูบั้นท้ายกับเป้าของเขาเสียงนั้นเดินทางลงไปจนถึงจุดนั้นของฉัน ฉันถูอีกครั้ง กระตุ้นเสียงครางแสนเร้าอารมณ์จากเขาอีกเกเบรียลเริ่มประทับจูบตามหลัง ไหล่ และคอ มันผ่านมาสองสามวันแล้ว และฉันก็โหยหาเขา

  • ธุลีใจ   บทที่ 537

    "ใช่เลยครับ" เขาตอบรับรอยยิ้มของฉัน ขณะที่คิลเลียนเดินเข้ามาหาเรา"ผมมาขโมยภรรยาแสนสวยของผมคืนแล้วครับ" เสียงเขาแหบพร่า และฉันอดไม่ได้ที่จะละลายไปกับโทนเสียงนั้น มันเซ็กซี่สุด ๆ ไปเลย“เธอเป็นของคุณแล้วนะ” คาลวินปล่อยมือจากฉันและหลีกทาง ก่อนจะเดินจากไปคิลเลียนดึงฉันเข้าไปในอ้อมกอดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีช่องว่างระหว่างเรา "เป็นยังไงบ้าง? ปวดหลังหรือเปล่า? ขาเป็นยังไง?"เห็นไหม ฉันบอกแล้วไง เขาเป็นเสือร้ายในคราบทนายความ แต่ดูแลเอาใจใส่และรักใคร่ในฐานะคู่ครอง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันมีสเปคแบบไหน จนกระทั่งฉันได้พบเขา"สบายดีค่ะ ที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วงขนาดนั้นก็ได้" ฉันหัวเราะเบา ๆ ดันตัวเองเข้าไปใกล้เขามากขึ้น"ผมเคยบอกว่าผมรักคุณแล้วหรือยัง?" เขาถามฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มขณะที่เขย่งปลายเท้าและกระซิบชิดริมฝีปากของเขา "ประมาณพันครั้งแล้วค่ะวันนี้ แต่ฉันไม่ได้บ่นอะไรนะ""คุณคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับผมเลยนะครับ เอมม่า ผมนึกไม่ออกเลยว่าชีวิตผมจะเป็นยังไงหากไม่มีคุณ ผมรู้ว่าเราได้กล่าวคำสาบานกันไปแล้ว แต่ผมสัญญาว่าจะรักและทะนุถนอมคุณเสมอ เพราะคุณคือของขวัญที่เบื้องบนประทานมา ผมสัญญา

  • ธุลีใจ   บทที่ 536

    มอลลี่เป็นหนึ่งในเพื่อนเจ้าสาว เช่นเดียวกับเอวา คอนนี่ เล็ตตี้ ฮาร์เปอร์ และคินลีย์ พวกเธอเป็นเพื่อนสาวกันมาสี่ปีแล้วตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุวันนั้น แน่นอนว่าฉันไม่มีวันหาใครมาแทนมอลลี่ได้ เธอเป็นเพื่อนสนิทที่สุด แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณที่มีพวกเธออยู่เช่นกันอีกอย่างเมื่อวานนี้มอลลี่บอกฉันว่าเธอกำลังคิดจะย้ายมาอยู่ที่นี่ ฉันตื่นเต้นมาก ฉันรักเธอ แต่เรายอมรับว่าเป็นเพื่อนระยะไกลกันมันรักษาความสัมพันธ์กันได้ยาก ฉันมีความสุขมากที่เธอจะย้ายมาอยู่ใกล้ ๆเสียงเพลงช้าลง และกันเนอร์ก็เดินเข้ามา ตัดบทสนทนาทั้งหมด“เต้นรำกันหน่อยไหมครับ แม่?”มีเสียง ว้าว ดังขึ้นเป็นระลอก และฉันสาบานได้ว่าหัวใจฉันละลายไปตรงนั้นเลย"แน่นอนสิจ๊ะ สุดหล่อของแม่" ฉันตอบก่อนจะจับมือเขาตอนนี้กันเนอร์อายุสิบสี่ เป็นวัยรุ่นแล้วเชื่อไหมล่ะ? เขาสูงเท่าฉันแล้ว และฉันมั่นใจว่าอีกไม่กี่ปีเขาจะสูงกว่าฉัน ฉันไม่ว่าอะไรหรอก เขาก็จะเป็นลูกชายตัวน้อยของฉันเสมอคาลวินและฉันตัดสินใจส่งเขาไปเข้ารับการบำบัดทันทีที่ฉันออกจากโรงพยาบาล เราเข้าร่วมการบำบัดร่วมกันบ้าง และพูดคุยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา และเกี่ยวกับวันที่เกิดอุบัติเหตุ

  • ธุลีใจ   บทที่ 535

    เอมม่าฉันเต้นรำกับมอลลี่ ปล่อยให้เสียงเพลงโอบล้อมตัวไว้ ฉันรู้สึกปวดหลังเล็กน้อยแต่ก็ไม่สำคัญอะไรเลยเมื่อฉันมีความสุขสุด ๆ แบบนี้ชุดเดรสสะบัดไปมาขณะที่เราตะโกนเนื้อเพลง หน้าร้อนแสนสาหัส ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ออกมาสุดเสียง เอวาที่กำลังตั้งครรภ์ท้องแก่ก็เข้าร่วมกับเราด้วย ฉันหัวเราะเพราะเธอคิดว่าเธอกำลังเต้นอยู่เลยแต่เปล่าเลย ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเรียกสิ่งที่เธอกำลังทำว่าอะไรดีจำนวนครั้งที่ฉันเรียกว่าตนเองมีความสุขนั้นสามารถนับนิ้วได้เลย หนึ่งคือตอนที่ฉันสอบเนติบัณฑิตได้ สองคือตอนที่กันเนอร์เรียกฉันว่าแม่เป็นครั้งแรกหลังจากผ่านมานาน และสามคือวันนี้ งานแต่งของฉันคุณได้ยินไม่ผิดหรอกค่ะ ฉันแต่งงานแล้วและฉันมีความสุขอย่างที่สุดจำทนายหนุ่มน่ารักที่ฉันเล่าให้เอวาฟังในวันเกิดของเจมส์ได้ไหมคะ? จะว่าอย่างไรดี เขาไม่เคยละความพยายามเลยค่ะ ไม่ว่าฉันจะปฏิเสธเขากี่ครั้งก็ตาม เขาขอฉันคบหาอยู่เรื่อย ๆ และที่ฉันบอกว่าเรื่อย ๆ ก็คือเขาขอเกือบทุกวัน ฉันเบื่อที่จะได้ยินคำถามเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนวันหนึ่งฉันก็ตอบตกลง ปรากฏว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตนี้เลยฉันชะลอฝีเท้าลง ดวงตามองหาเจ้าบ

  • ธุลีใจ   บทที่ 534

    กันเนอร์มีน้องชายแล้ว งงกันอยู่ใช่ไหมคะ? เพราะเมื่อกี้ฉันกับเอวากำลังคุยเรื่องแฟนกันอยู่เลย เชสไม่ใช่ลูกชายของฉันค่ะ เขาเป็นลูกชายตัวน้อยของคาลวินและคินลีย์ พวกเขาแต่งงานกันเมื่อปีที่แล้วแล้วมีเชสตัวน้อยน่ารักคนนี้เป็นลูกน้อยคาลวินและฉันสนิทกันมากขึ้นตั้งแต่อุบัติเหตุ เหมือนกับกันเนอร์ เขายกโทษให้ฉัน และพวกเราก็สามารถสร้างมิตรภาพที่สวยงามได้คินลีย์เป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ เธอเข้ากับพวกเราทุกคนได้ เธอใจดีและน่ารัก และที่สำคัญที่สุด เธอทำให้คาลวินมีความสุขและปฏิบัติต่อกันเนอร์เหมือนลูกชายของเธอเอง"ไม่จ้ะ ไม่เคยเกินจริงเลย" เอวาแก้ตัว "น้าแค่อยากให้แม่หนูเล่าเรื่องทนายความน่ารักที่ที่ทำงานให้ฟังมากกว่านี้""ผมขอจบตรงนี้นะครับ ไปดีกว่า" เขาพูด ดูเหมือนจะขยะแขยงเล็กน้อย "แม่ดูน้องได้ใช่ไหมครับ หรือผมควรจะพาน้องไปด้วย?"“แม่สบายมากจ้ะ…ไปเล่นกับเพื่อน ๆ เถอะ”เขาพยักหน้าก่อนที่จะวิ่งไปหาโนอาและคนอื่น ๆ คาลวินใจดีพอที่จะแก้ไขข้อตกลงเรื่องการดูแลบุตร ตอนนี้พวกเราดูแลกันเนอร์ร่วมกัน ลูกอยู่กับคาลวินวันธรรมดาและใช้วันหยุดสุดสัปดาห์กับฉัน"เอาล่ะ กลับมาเรื่องผู้ชายน่ารักคนนั้นก่อนนะ

  • ธุลีใจ   บทที่ 533

    สามปีต่อมาเอมม่า"จริงจังนะ เอมม่า เมื่อไหร่เธอจะหาแฟนสักที?" เอวาเอ่ยถามพร้อมนั่งลงข้าง ๆ ฉันฉันมองออกไปที่สวนหลังบ้านและยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ วันนี้เป็นวันเกิดของเจมส์ลูกชายของทราวิสและเล็ตตี้ ซึ่งตั้งชื่อตามพ่อของพวกเราและเจมส์กำลังจะอายุครบหนึ่งขวบเล็ตตี้และทราวิสแต่งงานกันเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว ทราวิสคุกเข่าขอเธอแต่งงานทันทีที่ฉันได้สติขึ้นหลังจากอุบัติเหตุที่เกือบจะพรากชีวิตฉันไป คุณอาจจะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนขับรถคนนั้น เขาถูกจำคุกห้าปีในข้อหาขับรถโดยประมาท ฉันหวังว่าเขาจะได้รับบทเรียนนะกลับมาที่ทราวิสและเล็ตตี้ ฉันคิดว่าการเห็นฉันอยู่ในโรงพยาบาลทำให้เขารู้ว่าชีวิตสั้นแค่ไหน เขาขอเธอแต่งงานและเล็ตตี้ก็ตอบตกลง พวกเขาแต่งงานกันซึ่งเป็นงานแต่งงานฤดูใบไม้ผลิที่สวยงามตอนนี้ัฉันได้กลายเป็นเพื่อนกับเอวาก็เลยถูกดึงเข้ามาในวงจรนี้ด้วย คอนนี่และรีเปอร์แต่งงานกันแบบงานแต่งงานเล็ก ๆ ที่เป็นกันเองกับเพื่อนสนิทและครอบครัว สี่เดือนต่อมาทั้งสองก็อ้าแขนรับลูกสาวของพวกเขา เฮเวน ตอนนี้คอนนี่ก็กำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สองซึ่งเป็นลูกสาวอีกคนฮาร์เปอร์และเกเบรียลก็กำลังจะมีลูกด้วยกันอีก

  • ธุลีใจ   บทที่ 532

    "ไม่ไหวแล้ว! ฉันต้องเบ่งเดี๋ยวนี้" ฉันคำรามพร้อมจับเสื้อเกเบรียลไว้ฉันรู้สึกบ้าไปแล้ว เหมือนฉันเสียสติไปแล้ว ความเจ็บปวดกำลังทำให้ฉันบ้าไปแล้วจริง ๆโชคดีที่พวกเราไปถึงห้องคลอดก่อนที่ฉันจะคลอดลูกตรงทางเดินของโรงพยาบาล ฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเดินไปถึงห้องคลอด และเจ้าหน้าที่ก็เริ่มเตรียมพร้อมให้ฉันเอวาอยู่ในห้องเรียบร้อย ฉันรู้สึกขอบคุณที่มีคนเข้าใจความรู้สึกตอนที่ช่องคลอดฉีกออกเป็นสองส่วนเพื่อให้เด็กตัวน้อย ๆ ออกมาดูโลก"ฉันไม่ไหวแล้ว" ฉันกัดฟันพูด ก่อนที่จะยกตัวขึ้นและเบ่งสุดแรงฉันสาบานว่าฉันรู้สึกเหมือนก้นจะแตกและมันก็เพิ่มความเจ็บปวดให้ฉันมากขึ้น"ความผิดคุณเลย!" ฉันกรีดร้องใส่เกเบรียลขณะที่จับมือเขาไว้แน่นฉันจ้องเขม็งไปที่เขา ลมหายใจถี่กระชั้น และรูจมูกบานออกเพื่อพยายามสูดอากาศเข้าไปในปอดให้ได้มากที่สุด"เตรียมนะ เธอ เบ่งเลย" เอวาเร่งเร้าฉันขณะที่เช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากให้ฉัน "เกเบรียลไม่สำคัญแล้วตอนนี้""อ้าว ใจร้ายนะ เอวา" เกเบรียลพึมพำพร้อมจ้องเขม็งไปยังเอวา เธอจ้องเขม็งกลับราวกับจะบอกให้เขาหุบปากและทำตามน้ำไปฉันบีบมือพวกเขาเมื่อมดลูกหดตัวอีกครั้ง และฉันก็ออ

  • ธุลีใจ   บทที่ 531

    "สบายมากจ้ะ หมีน้อยลิลลี่ แม่กำลังจะคลอดลูก... จำที่แม่บอกหนูได้ไหมว่าอะไรจะเกิดขึ้นตอนถึงเวลาแบบนี้?"เธอพยักหน้า "ค่ะ แม่บอกว่าแม่จะเจ็บท้อง แต่หนูไม่ต้องห่วง เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้น้องเกิดมาค่ะ""ดีมากจ้ะ" ฉันเบ้หน้าเมื่อการหดเกร็งตัวจู่โจมฉันอีกครั้ง "นั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ ดังนั้นอย่ากลัวไปนะจ๊ะ"เกเบรียลจับมือและช่วยให้ฉันเดินออกจากห้อง ฉันหายใจเข้าทางจมูกและหายใจออกทางปาก แต่พูดตามตรงมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย"หนูแค่ไม่เข้าใจน่ะค่ะ ทำไมแม่ต้องเจ็บด้วย? ทำไมเด็กถึงออกมาจากท้องแม่ไม่ได้โดยไม่ทำให้แม่เจ็บล่ะคะ?"สิ่งที่ฉันไม่ต้องการที่สุดคือทำให้ลูกสาวหวาดกลัวโดยต้องอธิบายให้เธอฟังว่าความเจ็บปวดนั้นจำเป็นสำหรับการออกแรงเบ่งเด็กออกมาจากร่างกายฉัน เธอจะอยากรู้ว่าทำไมต้องเบ่งลูกออกมาด้วย และฉันจะต้องอธิบายว่าเพราะลูกตัวใหญ่และทางออกเล็กกว่า ดังนั้นการหดเกร็งตัวเหล่านั้นจึงจำเป็นสำหรับการเบ่งลูกออกมา จากนั้นเธอจะอยากรู้ว่าทางออกนั้นคืออะไร และฉันจะต้องบอกเธอว่าลูกออกมาทางนั้นอย่างไรเล่าอย่างที่คุณเห็น นั่นไม่ใช่บทสนทนาที่เธอเตรียมใจรับได้นัก เธอจะตกใจกลัวเมื่อรู้ว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status