พันโท นายแพทย์ อลัน หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ อายุ 34 ปี รับราชการเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลในค่ายทหาร นางเอก ชื่อ เซนเซีย นักเรียนนายร้อยทหาร อายุ 22 ปี กำลังใกล้จบ เป็นลูกสาวคนเล็ก ของเคเซน ซินเซีย หญิงสาวมีพลังพิเศษ ที่ถูกถ่ายทอดมาให้จากคนเป็นมารดา ร.ต.ทหารหญิงเซนเซียผู้มีพลังพิเศษ ถูกมอบหมายให้ทำภารกิจชิงตัวประกันร่วมกับพ.ท.นายแพทย์ทหารอลัน เซนเซียต้องปิดบังสถานะและดูลึกลับ อลันก็ยิ่งอยากจะค้นหา กว่าจะรู้ว่าหญิงสาวคือใคร เขาก็ถอนตัวไม่ได้แล้ว
View More“ผู้พันช่วยตอบคำถามของผมด้วยครับ อย่าลืมว่าคุณกำลังอยู่ในเครื่องจับเท็จอยู่นะ กรุณาอย่าคิดนาน...”อามิลเอ่ยเร่ง พร้อมกับย้ำคำถามเดิมด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งซึ่งความจริงมันไม่ใช่ตัวเขาเองหรอกนะที่เป็นคนตั้งคำถาม แต่มันมาจากหูฟังที่มี่คำสั่งส่งมาตามสาย ที่อยู่ห้องถัดไปของผู้ให้กำเนิดเพียงเพราะพวกท่านอยากจะรู้ ว่าผู้ชายคนนี้เหมาะสมกับลูกสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของคนในบ้านมากแค่ไหน?ถึงต้องทำกันขนาดนั้นเชียว?ผู้พันดันเล่นของสูงมันก็ต้องมีเดิมพันกันหน่อยละ...เดิมพันด้วยชีวิตนะ!...หากตอบผิดชีวิตของผู้พันจะเปลี่ยนเลยทันที...ไม่ถูกจับถ่วงในทะเลกว้าง...ก็ถูกจับฝังอยู่กลางป่าลึก“ฉันรักเซน!...” อลันตอบกลับอย่างไว“แค่ไหน?” อามิลถามกลับไปตามคำสั่ง พลางบ่นในใจ...โอ๊ย! ท่านแม่คร๊าบ!...เข้ามาถามเองเลยก็ได้มั๊ย!?“ชีวิต...มากกว่าชีวิตของฉัน”อลันตอบกลับมาทันที สายตาคมมองสบตากับอามิลอย่างไม่หวาดหวั่น แม้แต่เครื่องจับเท็จนั่นยังทำอะไรอลันไม่ได้เลยอามิลเงียบเสียงของตัวเองลงไปเพราะกำลังรอฟังคำถามเสียงจากปลายสาย เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดกลับมา อามิลจึงบอกกับอลันต่อจากนั้นว่า
เมื่อข่าวนี้มันดังกระจายออกไปจนถึงหูของอลัน นั่นจึงเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ชายหนุ่ม ย้ายตัวเองเพื่อหนีเธอไปอยู่ไกลถึงชายแดน เขาหายไปจากชีวิตของหญิงสาวราวกับตายจากโนอาร์ละคำพูด ก่อนจะลุกไปหยิบน้ำในตู้เย็นออกมาดื่มดับกระหาย จากนั้นจึงเดินกลับไปนั่งที่เดิม แล้วเริ่มเล่าต่อเพราะรู้ว่าน้องสาวกำลังรอฟัง“พี่เพิ่งจะรู้ข่าวจากท่านแม่ว่า องค์ชายมักจะชอบหักหาญน้ำใจเราบ่อยๆ จนครั้งสุดท้ายก่อนที่เราจะหนีไปพักผ่อนที่ทะเลทางใต้ เราได้ทำร้ายองค์ชายเอาไว้ด้วยนี่ใช่มั๊ย?...” เมื่อเห็นเซนเซียพยักหน้ารับ โนอาร์ถึงกับกลั้วหัวเราะขำ“เราทำร้ายร่างกายท่านจนแทบจะสูญพันธ์เลยนี่หว่า...ถึงขนาดต้องพาแพทย์ประจำพระองค์เข้ามาตรวจรักษาอาการกันตอนนั้นเลย...แล้วเราก็หนีออกมาจากวังหน้าตาเฉย...”“ก็ถ้าหนูไม่รีบออกมา องค์ชายอาจจะตายคามือหนูเลยก็ได้นะคะ” เซนเซียเอ่ยออกไปเสียงเข้ม เมื่อนึกถึงตอนที่ถูกองค์ชายเรียกตัวเข้าไปพบในห้องเพราะต้องการจะลวนลามเชิงข่มขู่บังคับ เธอก็เลยทำให้ตรงนั้นของท่านดับอย่างอนาถ ให้สมกับที่ใช้อำนาจในทางที่มิชอบ“พี่ก็ว่างั้น...แต่พระองค์ทรงกริ้วเรามากเลยนะ ถึงได้สั่งให้คนของท่านตามไปเฝ้าเราไว้ แล้
ความจริงในใจกับภาพที่อลันได้เห็นเซนเซียร้องไห้ ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกอะไร มันเจ็บจุกจนพูดไม่ออกต่างหากละอีกทั้งการกระทำต่างๆ ที่ทำให้คนรอบกายได้เห็นว่า เขากำลังเข้มแข็งตามที่ปากว่า ด้วยการปล่อยน้ำตาของลูกผู้ชายให้ไหลกลับเข้าไปข้างในนั้น....มาลิคที่ยืนรอจังหวะนั่นอยู่นาน เมื่อสบโอกาสเขาจึงรีบกดโทรศัพท์ถึงลุงของอลันที่เป็นถึงอธิปดีกรมการปกครองทันทีชายหนุ่มเล่าทุกอย่างเท่าที่เขารู้ และประติดประต่อเรื่องราวเอาเองได้ไม่ยากจากที่อลันเคยเล่าให้เขาฟังกระทั่งคนสุดท้ายที่มาลิคต้องส่งข่าวให้รู้ก็คือคลูเซ็น ที่เป็นน้องสาวของอลัน อีกทั้งยังเป็นคนรักของเขานั่นเองเมื่อวางสายจากมาลิค อธิปดีกรมการปกครองจึงสั่งให้ลูกน้องคนสนิท ติดต่อหาเอกอัครราชทูตเมสันกับคุณหญิงเซลิน่าภรรยาซึ่งทั้งคู่ก็คือผู้ให้กำเนิดของอลันพอติดต่อเมสันได้ อธิปดีกรมการปกครองซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชาย จึงเล่าทุกอย่างให้ทั้งสองคนนั่นได้ฟังแต่เพียงคร่าวๆหลังจากได้รู้ข่าวของลูกชาย ทั้งคู่จึงรีบบินกลับประเทศเปรมาเดี๋ยวนั้นทันที ด้วยเครื่องบินที่มีประจำตำแหน่งเอกอัครราชทูตเมสันคงต้องใช้วาทะศิลป์ที่ตัวเองถนัด และมีความสามารถทางด้านนี้เ
อลันดึงร่างบางออกห่าง พลางพูดกับเจ้าตัวต่อจากนั้นทันที “อย่าดื้อกับพี่ชาย...แล้วก็ท่านพ่อกับท่านแม่นะเข้าใจมั๊ย?...พี่ไม่เป็นไร...”“หนูไม่ให้พี่ไป...ฮึกๆ ”“เซน!หยุดร้องไห้...” อลันออกคำสั่งเชิงบังคับกับเธออีกครั้ง ในขณะที่ใช้สายตาคม ก้มมองร่างเล็กที่กอดเขาเอาไว้ มือใหญ่ค่อยๆ แกะมือน้อยๆ ของเธอให้หลุดออก แต่ยังคงกุมมือของหญิงสาวเอาไว้แน่น“พี่ลัน! ไม่นะคะ!”“อย่าดื้อกับพี่นะเซน!...เราเป็นทหารต้องเข้มแข็ง อย่าร้องไห้ให้ใครเห็นว่าเรากำลังอ่อนแอ...พี่พูดแค่นี้เธอเข้าใจพี่ใช่มั๊ย!?” อลันเอ่ยกับร่างบางเสียงเข้ม จากนั้นจึงปล่อยมือน้อยออกจากการมือใหญ่ของเขาน้ำเสียงที่ดูจริงจังราวกับสั่งได้ของชายหนุ่ม ทำให้เซนเซียเม้มริมฝีปากจิ้มลิ้มแน่นๆ ก่อนจะคลายเสียงสะอื้นลงทีละน้อย แต่ถึงอย่างนั้นมือใหญ่ก็ค่อยๆ ยกขึ้นเกลี่ยเช็ดคราบน้ำตาออกให้ อย่างแผ่วเบาราวกำลังปลอบโยนผู้พันหนุ่มไม่ต้องการทำให้คนในครอบครัวของหญิงสาว ต้องมาผิดใจกันเพราะมีเขาเป็นสาเหตุใหญ่ และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดนั่นก็คือกฎข้อบังคับ ที่ทหารทุกคนจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะวินัยที่ดีของนายทหารคือไม่ควรขัดคำสั่งของผู้บังคับบั
“แต่มันเป็นคำสั่งของท่านนายพลนะครับคุณเซนเซีย...คำสั่งของท่านผู้นำเท่านั้นที่สำคัญ และถือว่านั่นคือที่สุด!...”“งั้นก็ไม่ต้องพูดมาก! เพราะฉันไม่อยากจะฟัง! อย่างมากก็แค่ให้พังกันไปข้าง!”เซนเซียพูดออกมาด้วยน้ำเสียงติดกระด้างอย่างรู้สึกโมโหมาก จากนั้นมันก็ไต่ระดับเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งทำให้บรรยากาศรอบตัวเริ่มจะเปลี่ยนไป.... จากบรรยากาศที่กำลังสดใส แต่ในตอนนี้เมฆสีขาวที่กระจายอยู่ทั่วท้องฟ้า ต่างพากันรวมตัวเป็นกลุ่มก้อน ก่อนจะเคลื่อนย้ายเข้าไปบดบังแสงสว่างจากดวงอาทิตย์น้ำทะเลถูกกระแสลมแรงพัดผ่านจนเกิดคลื่นสูงใหญ่ ในขณะที่เม็ดทรายบนพื้นนั่นก็ฟุ้งกระจายขึ้นไปในลักษณะที่ไม่ต่างกันมาบัดนี้ดวงตาคู่สวยที่เคยมีประกายวาวหวานอยู่ในนั้น มันกำลังเปลี่ยนเป็นสีเข้มจัดมากขึ้นกว่าเก่า ในขณะที่รางบางย่างเท้าเข้าไปหาเหล่าบรรดานายทหารที่อยู่ตรงหน้านั่นอย่างท้าทาย ผิดกับอีกฝ่ายที่พร้อมใจกันเดินถอยหลังอย่างรู้สึกหวาดกลัวเซนเซียกำลังโกรธจัดจนไม่สามารถควบคุมอารมณ์และสติของตัวเองได้เหมือนกับทุกๆ ครั้ง ถึงแม้จะรู้ว่ามันคือคำสั่งที่มาจากท่านผู้นำก็ตามหากเธอยอมให้พวกนั้นเอาตัวอลันไปได้ง่ายๆ ชายหนุ่มอาจ
เสียงของเฮลิคอปเตอร์ที่ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งน่านฟ้า เพราะบินตามกันมาไม่ต่ำกว่าสิบลำ เรียกสายตาของทั้งสองคู่ที่กำลังเดินเล่นกันอยู่บริเวณริมชายหาด ให้มองตามไปยังจุดที่ทุกลำพากันลงจอด ก่อนจะละสายตากลับมามองหน้ากันอีกครั้ง พร้อมกับเครื่องหมายคำถามที่ยังติดอยู่บนใบหน้างามของเธอ“ทำไมเฮลิคอปเตอร์ถึงได้มาลงจอดที่ค่ายหลายลำนักละคะ?” คนตัวเล็กกว่าหันมาถามอลันอย่างรู้สึกแปลกใจระคนสงสัยในทันทีเพราะดูจากจำนวนของเฮลิคอปเตอร์ที่บินตามกันมาเป็นขบวนขนาดนั้น คนที่นั่งมานั่นย่อมเป็นคนสำคัญและน่าจะมียศใหญ่ที่ไม่ธรรมดาเลย“ไม่รู้สิ...เพราะพี่เป็นหมอประจำอยู่ที่โรงพยาบาลมากกว่า มันคนละส่วนกันน่ะ อย่าไปสนใจเลยนะ เพราะมันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกันกับเรา...เราสองคนรีบไปขึ้นเรือกันเถอะ พี่จะได้พาเธอไปนอนค้างกลางทะเล เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศในแบบที่เธอต้องการไง...”อลันบอกพร้อมกับกดจมูกลงพวงแก้มนุ่มในจังหวะที่หญิงสาวหันมาย่นจมูกใส่เขาพอดี“งื้อ~~...พี่ลันชอบล้อหนู...” เธอต่อว่าในขณะที่เอนหน้าหนีปลายจมูกโด่งของร่างหนาที่ทำท่าจะโน้มลงมาอีกรอบ“ไอ้ลัน!”แต่ทว่าในจังหวะเดียวกันก็มีเสียงของผู้ชายเรียกชื่อของอลันดังมาแต่ไก
แสงแดดยามเช้าส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้อง บวกกับท้องทะเลที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอเค็มและเสียงคลื่นกระทบฝั่งเบาๆ นั่นทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวแต่ทว่ายังไม่ทันได้ลืมตา เพราะอ้อมแขนอบอุ่นของร่างหนาทำให้รู้สึกว่า เธอยังไม่อยากตื่นขึ้นมาในเวลานี้เลยหรืออีกทีอาจเป็นเพราะบทรักอันเร่าร้อนของอลัน ตั้งแต่เมื่อวานช่วงหัวค่ำ แล้วลากยาวมาจวนใกล้ถึงเช้าของอีกวันหนึ่ง ซึ่งทำให้หญิงสาวปวดร้าวไปทั้งร่างกาย แล้วจะไปโทษใครได้ในเมื่อเจ้าตัวนั่นละที่เป็นคนรนหาที่เองทั้งยั่วเย้าทั้งอ่อยเขาสารพัดขนาดนั้น มีหรือคนอย่างอลันจะปล่อยผ่านมันไปได้ นั่นยิ่งไม่มีทางอย่างแน่นอน...แต่ก่อนอื่นสิ่งแรกที่หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นในตอนเช้า นั่นก็คือใบหน้าหล่อเหลาคมคายยามหลับไหลของอลัน จมูกโด่งเป็นสันของเจ้าตัวนั่นแทบจะทิ่มใส่หน้าเธอซะให้ได้ถึงอายุอานามของเขา จะมากกว่าหญิงสาวหลายปีแต่ก็ยังดูดีอยู่เลยไม่เปลี่ยนไปสักนิด...ดูเหมือนเจ้าตัวจะหล่อเหลามากขึ้นด้วยรึเปล่าเหอะ!?และคงจะมีแต่สาวๆ ที่พากันวิ่งกรูเข้ามาหาเขามากเลยใช่มั๊ยละ?...คงจะคิดกันละสิท่า ว่าเจ้าตัวเขายังโสดอยู่...ในขณะที่หญิงสาวกำลังพิจารณาใบหน้าหล่อเหลา จู่ๆ เจ้า
อลันเห็นเซนเซียยกมือข้างหนึ่งขึ้นมา แล้วงับนิ้วของตัวเองเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะระบายความรู้สึกเสียวซ่านที่ได้รับออกมาจากทางไหน เธอจึงใช้วิธีนี้ไงนั่นทำให้อลันที่นอนมองอยู่แทบจะคลั่งตายซะให้ได้...แม่งเซ็กซี่ฉิบหายเหอะ!เมื่ออลันเห็นสีหน้าที่ดูทรมานของหญิงสาว มันก็คือความพอใจของเขานั่นละ...ยิ่งตอนที่เห็นเซนเซียขยับคลื่อนไหวร่างกายบนตัวตนของเขา ด้วยสีหน้าและท่าทางบ่งบอกว่ากำลังสุขสมไปกับมัน ช่างเร้าอารมณ์และกระตุ้นเลือดในกายของอลันให้เดือดพล่านไปเลยจริงๆ...แล้วก็เชิญชวนให้เขาอยากจะขยี้ขยำกับเธอหนักๆ มากกว่าจะผ่อนแรงลง...“อื้อ...พี่ลัน...อ๊ะ!”ร่างเล็กกระตุกเกร็งบนร่างใหญ่หลายต่อหลายครั้งที่เธอเป็นฝ่ายทำเอง จนอลันต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างพยายามสะกดใจ เพราะไม่ต้องการให้อารมณ์ที่อยู่ภายในเตลิดเปิดเปิงมากไปกว่านี้อลันหันเหความสนใจจากใบหน้าของหญิงสาว มาที่สองเต้าของเธอแทน ก่อนจะยกสองแขนขึ้นไปขยำมันเล่น แต่พอเซนเซียเห็นอย่างนั้น เธอกลับคว้าข้อมือของอลัน!ขึ้นไปงับเอาไว้แทน!...ภาพที่เขามองเห็น ทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจ ผิดเพี้ยนไปแทบจะทันทีให้มันได้อย่างงี้สิเซน!...ฆ่าตัวตายชัดๆ
อีกครั้งที่ริมฝีปากอิ่มบางถูกรุกเร้าอย่างเอาแต่ใจ และมันก็ค่อยๆ กลายเป็นลึกซึ้งมือหนาลูบไล้สีข้างเรื่อยลงมาอย่างรวดเร็วจนถึงต้นขาก่อนที่มันจะลดระดับลงมาอยู่ตรงใต้ข้อพับขา แล้วจับมันแยกออกจากกัน ก่อนจะขยับตัวตนของเขาแทรกเข้ามาหาร่างบางอย่างดุดันเฮือก!อลันรุกล้ำร่างกายของหญิงสาวเข้าไปในครั้งเดียว จนเธอสะดุ้งเผลอจิกทึ้งแผ่นหลังกว้างอย่างเผลอไผล ร่างเล็กกว่าหยัดกายสูงขึ้นมาจากที่นอน ในขณะที่อลันช้อนวงแขนแกร่งยกร่างบางขึ้นมาพร้อมๆ กันในจังหวะนั้นพอดี“อ๊ะ!.พี่..อ๊า!~~”เซนเซียร้องครางอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ และอลันก็ชอบใจถึงแม้ว่าจะถูกอีกฝ่ายจิกทึ้งแผ่นหลังของเขาอย่างรุนแรงตามอารมณ์ของเจ้าตัวยิ่งหญิงสาวครางมากเท่าไหร่ คนตัวใหญ่กว่าก็ยิ่งโจนจ้วงเข้าหาเธอมากขึ้นเท่านั้นอย่างที่ไม่คิดจะยอมกัน“พี่คะ!...หนูจะ...เสร็จ..” หญิงสาวเอ่ยกับเขาเสียงขาดๆ หายๆ เมื่อรู้สึกตื่นเกร็งไปทั้งร่างกายตามธรรมชาติ อย่างห้ามตัวเองไม่ได้เลยดวงหน้าน่ารักแหงนขึ้นอย่างทรมานกับสัมผัสที่อลันมอบให้อีกครั้งอย่างไม่รั้งรออะไรร่างใหญ่โจนจ้วงเข้าหาหญิงสาวอย่างรุนแรง จนทำให้ร่างเล็กกระตุกเกร็งอีกรอบแล้วนั่นละเขาถึงผ่อน
ร่างสูงใหญ่ในชุดนายทหาร ที่มีตำแหน่งแพทย์ตามหลังยศพันโท ก้าวออกมาจากประตูห้อง ที่ถูกเปิดออกโดยนายทหารชั้นผู้น้อยอีกคนที่กำลังยืนทำท่าตะเบ๊ะให้...ดวงหน้าคมเข้มกวาดนัยน์ตามองไปทั่วห้อง ขณะพาตัวเองเดินผ่านโต๊ะของนักศึกษาทหารประมาณห้าสิบคน ที่นั่งประจำที่อยู่ห่างกันในระยะหนึ่งเมตร...ร่างสูงโปร่งที่มีโครงหน้าหล่อเหลา เคร่งขรึมปราศจากรอยยิ้ม นั่นยิ่งทำให้เขาดูน่าเกรงขามมากขึ้นไปอีกเท่าตัว... “ยินดีที่ได้รู้จัก นักศึกษาทหารทุกคน”น้ำเสียงห้าวทุ้มเอ่ยทักทายก่อนจะหยุดยืนนิ่ง อยู่ข้างโต๊ะของนักศึกษาทหารหญิงร่างบอบบางคนหนึ่ง ที่มีร่างกายเล็กที่สุดในห้องทั้ง ๆ ที่เธอมีความสูงถึงร้อยหกสิบสองเซนติเมตร แต่ก็ยังดูเตี้ยกว่าหญิงสาวทั่วไปในประเทศนี้อยู่มาก เธอกำลังนั่งก้มหน้า เอามือทั้งสองข้างขึ้นกุมหัว เพราะต้องการหลบสายตา ของคนตัวใหญ่กว่า...แต่ยังไงซะเธอคงจะหลบเขาไม่พ้น นั่นก็เป็นเพราะว่าตัวตนของอีกคน กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอ... “นักศึกษา! คุณกำลังไม่สบายอยู่หรือไง”เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงห้วนดัง เพราะเห็นว่าเธอนั่งอยู่ท่าเดิม ตั้งแต่เขาก้าวเข้ามาในห้องนี้แล้วในเมื่อหลบยังไงก็ไม่พ้น...เธอก็ต้องยอมทน...
Comments