“เดี๋ยวก่อนเซน!”หญิงสาวหมุนตัวหันไปหาร่างใหญ่ในจังหวะที่เขาเดินมาเข้ามาใกล้เกินไปจนเบรกไม่ทันเมื่ออีกคนหยุดกระทันร่างทั้งสองคนจึงปะทะกัน จนทำให้ร่างบางถึงกับหงายหลัง และอีกฝ่ายก็ไวพอที่จะคว้าตัวของหญิงสาวเอาไว้ได้ นั่นจึงทำให้เธอเข้ามาอยู่ในวงแขนของอลัน โดยไม่ทันได้ตั้งตัวเซนเซียไม่ได้ขัดขืนอะไร เมื่อถูกอีกฝ่ายกอดรัดไว้ทั้งตัว รวมไปถึงเป้สนามที่อยู่ทางด้านหลังของเธอนั่นด้วย มีเพียงคิ้วเรียวสวยที่เลิกขึ้นแทนคำถามกับอลันเท่านั้นเอง“...เป็นห่วง”เซนเซียยิ้มรับให้กับคำพูดสั้นๆ แขนเรียวสองข้างที่ยกขึ้นกันร่างกายระหว่างกันเอาไว้ค่อยๆ เลื่อนขึ้นไปวางบนบ่าของอลัน และรอให้อีกฝ่ายพูดกับเธอต่อจากนั้น“ที่เรากำลังจะไปทำภารกิจ รวมไปถึงบริเวณที่เรากำลังจะผ่านมันมีระเบิดที่ยังเก็บกู้ไม่หมด อย่าอยู่ห่างจากฉัน อะไรที่สุ่มเสี่ยงให้ฉันเป็นคนทำ”เซนเซียแทบจะหลุดขำออกมา แต่มันก็ไม่ใช่เวลาที่จะทำแบบนั้นได้ เมื่อเห็นสีหน้ารวมไปถึงคำพูดที่ดูจริงจังเป็นการเป็นงานของอลันเข้านอกจากมีใบหน้าหล่อเหลาคมคายชวนให้มองซ้ำๆ ได้ไม่เบื่อนั่นแล้ว เขายังเป็นผู้ชาย Type อบอุ่นอย่างที่ผู้หญิงหลายคนต้องการแต่ก็ยังอดสงสัย
“ทุกคนหาที่หลบกันก่อนนะคะ มีคนกลุ่มหนึ่ง กำลังเดินเข้ามาใกล้เรานี่แล้วค่ะ”“เธอรู้ได้ยังไง?...ฉันต้องฟังคำสั่งของเธองั้นเหรอ?”เอมิเลียชิงถามเซนเชียขึ้นมาก่อนใคร สายตาดูแคลนกึ่งเหยียดเด็กสาวที่มียศต่ำกว่า นั่นทำให้อลันต้องเป็นคนตัดสินใจในการออกคำสั่งแทน“ ทุกคนหาที่หลบตามที่เซนบอก ใครไม่หลบก็ยืนอยู่ตรงนี้ก็แล้วกัน เซนมากับฉันนี่”เอ่ยจบอลันก็ดึงแขนของหญิงสาวให้เดินตามเขา มาหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะทิ้งให้คนที่เหลือตัดสินใจกันเอาเองเมื่อทั้งสองคนพากันมาหลบหลังโคนต้นไม้ใหญ่ อลันจึงช่วยหญิงสาวเอาเป้สนามที่แบกไว้ทางด้านหลังออกมาจากตัวให้ จากนั้นจึงหันมาจัดการของตัวเอง แล้ววางมันเอาไว้ใกล้ๆ กัน ก่อนที่ทั้งคู่จะหยิบเอาอาวุธที่มีอยู่ ออกมาเตรียมความพร้อม“ทำไมผู้พันถึงได้เชื่อคำพูดของหนูละคะ”หญิงสาวหันมากระซิบถามคนข้างกันเบาๆ เพราะเธอรู้ว่าคนกลุ่มนั้น อีกนานกว่าจะมาถึง ซึ่งเซนเซียอยากจะนั่งพักก่อนนั่นแหละเดินแบกสัมภาระมาตั้งหลายชั่วโมงยังไม่ได้พัก มันก็ชักจะล้าๆ จนแทบจะก้าวขาไม่ออก อีกทั้งรองเท้าคอมแบทนั่นมันก็หนักเอาการ หากเดินต่อไปก็อาจจะเจอกันระหว่างทาง และแน่นอนว่าคงต้องมีการปะทะ
อลันเรียกทุกคนให้ออกมารวมตัวกัน ก่อนจะออกคำสั่งไห้ตั้งที่พัก และก่อกองไฟในบริเวณนี้ได้ ต่อเมื่อฟ้าสางแล้วนั่นละถึงค่อยออกเดินทางกันต่อไปหมู่มาเชลกับหมู่ลูคัสมีหน้าที่หากิ่งไม้มาก่อกองไฟ เพราะคืนนี้พวกเขาต้องอยู่เวรเฝ้าให้ทุกคนได้พักก่อน หลังจากนั้นอีกสามชั่วโมงถึงจะได้นอน เพราะทุกคนต้องคอยเปลี่ยนเวรยาม และสลับกันเฝ้าในทุกๆ สามชั่วโมงจ่าอามินต้องเฝ้ายามร่วมกับหมวดเอมิเลีย และแน่นอนว่าเซนเซียต้องอยู่เวรคู่กับอลัน เพราะผู้พันเป็นคนจับคู่ให้ทุกคนอย่างจงใจ แล้วใครมันจะบ้ากล้าขัดคำสั่ง จากผู้บังคับบัญชากันละผู้พันเรียกให้ทุกคนมานั่งรวมตัวกันหน้ากองไฟ เมื่อได้จัดการกับเรื่องอาหารการกินเป็นที่เรียบร้อยจากนั้นคนที่มียศสูงกว่าใครจึงเริ่มซักถาม ถึงที่มาที่ไปของแต่ละคน ว่ามาจากทางไหนและเคยผ่านอะไรกันมาบ้างเซนเซียนิ่งฟังอย่างตั้งใจ และเก็บรายละเอียดของแต่ละคนเอาไว้ เธอจึงรู้ได้ว่าพวกเขามีความสามารถที่แตกต่างกัน จ่าอามินอยู่หน่วยพิเศษ เขามีหน้าที่ทำลายล้างและเก็บกู้วัตถุระเบิด ได้ผ่านการทำงานมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งในและนอกประเทศนั่นเลยหมู่ลูคัสกับมาเชลเชี่ยวชาญทางด้านข่าวกรอง สองคนนี้อยู่
ทุกคนต่างแยกย้ายไปยังจุดที่นอนใครที่นอนมัน และคำว่าที่นอนสำหรับนายทหารนั่นหมายความว่า สถานที่สำหรับผูกเปลไว้นอน เพราะชีวิตของทหารที่อยู่ในป่าค่อนข้างยากลำบาก บางครั้งต้องนั่งหลับ กอดปืนยาวเอาไว้เพราะมีอันตรายอยู่รอบตัวเวลาเข้าป่าน้ำท่าก็แทบจะไม่ได้อาบ บางครั้งเป็นอาทิตย์ที่ต้องอยู่ในชุดเดิม ขนาดเซนเซียเป็นถึงลูกนายพล ยังต้องทนทำทุกอย่าง ยิ่งกว่าลูกคนขับรถที่บ้านของหญิงสาวเองซะอีกแต่เอมิเลียเห็นท่าจะสบายมากกว่าใครๆ เพราะหล่อนใช้วิธีกางเต้นนอน ก่อนจะมุดเข้าไปในเต้น เซนเซียยังเห็นเอมิเลียควักเอาลิปติกขึ้นมาทาบนริมฝีปาก และเอาแป้งขึ้นมาผัดหน้า คงกลัวว่าตัวเองจะไม่สวย แม้กระทั่งตอนตายด้วยนั่นแหละอลันดึงแขนเซนเซียให้เดินตามกันมา หลังต้นไม้ใหญ่ตรงที่เดิม เพิ่มเติมคือเขาต้องการจะถามหญิงสาวกับบางเรื่องราว ที่เขายังสงสัยอยู่เท่านั้นเองแต่ทว่า...เจ้าตัวกลับไม่ให้ความร่วมมือ“หนูง่วง แล้วก็เพลียมากๆ เลยนะคะ หนูขอนอนก่อนค่ะ”เธออ้างอย่างนั้น ก่อนจะหันไปทิ้งตัวลงบนเปลสนาม โดยไม่ยอมตอบคำถามใดๆกลิ่นกาแฟที่โชยมาเข้าจมูก ทำให้ร่างบางดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันที พร้อมกับหาที่มา ซึ่งมันก็อยู่ตรงหน้าของเธ
ผู้พันอลันเดินนำหน้า และมีเซนเซียกับคนอื่นๆ เดินตามหลัง ปิดท้ายด้วยหมู่ทั้งสองนาย โดยไม่มีใครพูดอะไรกันเลยสักคำ จนกระทั่งถึงเวลาช่วงใกล้เที่ยงวัน อลันจึงหันมาสั่งให้ทุกคนหยุดพักได้“ ด้านข้างมีแอ่งน้ำสะอาด ใครจะไปล้างหน้าล้างตาที่นั่นก็ได้นะ..”“เอมมี่อยากไปอาบน้ำล้างตัวค่ะ ผู้พันไปเป็นเพื่อนเอมมี่หน่อยได้มั๊ยคะ?” เอมิเลียทอดเสียงหวานเอ่ยชวนอลันแต่เซนเซียคิดว่าเสนอหน้าสุดๆ !คิดเหรอว่าคนอย่างเซนเซีย จะยอมให้เอมิเลียตกผู้พันของเธอไปได้ง่ายๆ น่ะ ฝันไปเหอะ!แต่เรื่องแค่นี้คงไม่ต้องถึงมือของหญิงสาว....“ให้ผมไปเป็นเพื่อนผู้หมวดเองก็ได้นะครับ..”เป็นสียงของจ่าอามินที่เอ่ยแทรกขึ้นมาอีกนั่นหละ และเอมิเลียยังไม่ทันได้ปฏิเสธกลับ ก็ถูกอลันออกคำสั่งเชิงบังคับเพราะเห็นด้วยกับจ่าอามิน “งั้นจ่าก็ไปเป็นเพื่อนหมวด..”ถึงแม้จะไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ แต่เอมิเลียก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะนั่นคือคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่มียศใหญ่กว่าเธอหญิงสาวทำหน้างออย่างไม่พอใจ ส่วนอีกฝ่ายยกยิ้มให้อลันเชิงรู้กัน ก่อนจะหันไปมองแผ่นหลังบอบบาง ที่กำลังเดินนำเขาไปโดยไม่รั้งรอ สองหมู่ต่างแยกย้ายกันไปนั่งพักบริเวณโคนต้นไม้ ที่
“ฉันขอบใจเธอมากนะเซน ถ้ามีโอกาสฉันจะตอบแทนให้ก็แล้วกัน”เป็นเสียงห้วนตึงของเอมิเลียตามสไตล์ของเจ้าตัวเขานั่นแหละ ใบหน้าสวยเชิดขึ้นนิดๆ ที่ในตอนนี้มันทั้งบวมและช้ำแทบไม่เหลือพื้นที่ ให้ใครได้เห็นความสวยที่เคยมีนั่นเลย “ ผมก็เหมือนกันครับ” จ่าอามินเอ่ยออกมาเสียงเบา เขาคงจะเจ็บแผลที่ถูกยิงเฉียดบริเวณหัวไหล่ ตอนที่เข้าไปช่วยเอมิเลียด้วยนั่นแหละ แล้วหลังจากนั้นก็ถูกซ้อมจนจุก และเกือบจะถูกระเบิดหัวไปแล้ว หากว่าเซนเซียวิ่งไปช่วยเขาช้ากว่านั้นเซนเซียได้แต่ยิ้มเจือจางรับ เพราะหญิงสาวกำลังเป็นกังวลกับสิ่งที่ทำให้ทุกคน รู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเองอลันที่มองหญิงสาวมาสักพักใหญ่ ดูเหมือนเขาจะเข้าใจ เมื่อเห็นสีหน้าว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เซนเซียกวาดสายสายตามองทุกคนนิ่งๆ สุดท้ายจึงมาหยุดสายตาอยู่ที่คนยศใหญ่กว่าใคร เมื่อเห็นเขาพยักหน้าให้เชิงเข้าใจ เธอจึงตัดสินใจเอ่ยออกไปตรงๆ ซึ่งทุกคนก็กำลังรอฟังหญิงสาวอยู่เช่นเดียวกัน“หนูอยากให้ทุกคนที่เห็น ช่วยปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับได้มั๊ยคะ?”สีหน้าบวกกับคำพูดเชิงร้องขอ ทำให้อลันเหลือบมองหน้าเซนเซียในจังหวะที่หญิงสาวหันมาสบตากับเขาพอดี ร่างหนาขยับเข้าม
“เอมิเลียไม่ให้เข้าห้อง?”คำแรกที่อลันเอ่ยทัก ตอนเปิดประตูออกรับเธอกลับเข้ามาในห้องเหมือนเดิม "ค่ะ"เซนเซียพยักหน้า ก่อนจะตอบกลับมาด้วยสีหน้าเซ็งๆชายหนุ่มจึงยื่นมือออกไปรับเป้สนาม แล้วเบี่ยงตัวหลบให้หญิงสาวเดินเข้ามา ก่อนจะงับประตูปิดตามหลัง จากนั้นจึงเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นห้อง พร้อมกับวางสิ่งของเอาไว้ใกล้กับเจ้าตัว ที่นั่งในระยะห่างออกไปแต่ไม่มากนัก เนื่องจากพื้นที่ในห้องนี้ก็ไม่ได้กว้างสักเท่าไหร่“ขอนอนสักงีบก่อนนะคะ”เซนเซียหันไปบอกคนตัวใหญ่กว่า ที่กำลังนั่งเหยียดขาเอาแผ่นหลังพิงข้างฝาอยู่ในท่าสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวกำลังถอดรองเท้าที่ใส่อยู่ออกมาวางไว้ตรงมุมห้องอลันอยู่ในชุดลำลองของทหาร กางเกงที่ใส่ยังคงเป็นกางเกงทรงทหารเหมือนเดิม เพิ่มเติมนั่นก็คือมันเป็นตัวใหม่ ซึ่งเขาน่าจะอาบน้ำในช่วงที่เซนเชียยืนคุยกับเอมิเลียอยู่หน้าห้องนั่นสิ...กว่าจะมาเปิดประตูให้ได้ ปล่อยให้เธอยืนรอเขาอยู่ตั้งนานอลันสวมเสื้อยืดทหารแขนสั้น นั่นเท่ากับว่าเขาได้อวดท่อนแขนแข็งแรง ที่โผล่พ้นแขนเสื้อออกมาอย่างน่ามอง ยิ่งถ้าเจ้าตัวเขาถอดเสื้อผ้าออกมาด้วยนะ มันก็ยิ่งชวนให้หัวใจของเธอเต้นแรง ก็เพราะแบบนี้ไง
“ไหนว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันไงคะ เรายังไม่ค่อยจะรู้จักกันเท่าไหร่เลย อื้อ..พี่ลัน!..”เสียงหวานครางประท้วงในช่วงท้าย...ให้มันได้อย่างนี้สิ!...เซนเซียกำลังทำให้เขาเสียการควบคุม…ว่าควรไปต่อหรือพอแค่นี้ก่อน...เพราะดูเหมือนเจ้าตัวจะยินยอมพร้อมใจ ตามเขาไปอยู่แล้วด้วยไอ้ที่อยากจะรู้ก็ไม่ได้รู้กันพอดี ไอ้ที่อยากจะถามก็ลืมไปหมดแล้วในตอนนี้ พอก่อนมั๊ย?ก่อนที่มันจะทำให้เสียความตั้งใจกับอะไรหลายๆ อย่าง ที่ต้องการจะทำเมื่อคิดได้อย่างนั้นคนตัวใหญ่กว่า จึงรีบผละออกมา ก่อนกวาดนัยน์ตาคู่คมมองไปทั่วใบหน้างาม อย่างใช้ความคิดสักพัก จากนั้นจึงยกร่างบางออกมาจากตักแล้ววางไว้ใกล้ตัว เพราะต้องการจะกอดเธอได้อย่างถนัดๆ ซึ่งหญิงสาวก็คิดเหมือนกับเขาเช่นเดียวกัน เอาเรื่องที่สำคัญก่อน เรื่องอื่นจึงค่อยตามมาทีหลัง“เราสองคนควรเริ่มจากตรงไหนก่อนดี ถึงจะรู้จักกันให้มากกว่าที่กำลังรู้ๆ กันอยู่นี่”อลันเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน เขาต้องการพาหญิงสาวมาเข้าเรื่องให้ตรงประเด็นที่สุด“ผู้พัน....”“พี่ลัน!” เขารีบท้วงเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเรียกสรรพนามของเขาผิดไป เธอจึงเปลี่ยนให้ทันทีอย่างเอาใจ“ค่ะ..พี่ลันคิดว่าสถานะระหว่างเรา
“ผู้พันช่วยตอบคำถามของผมด้วยครับ อย่าลืมว่าคุณกำลังอยู่ในเครื่องจับเท็จอยู่นะ กรุณาอย่าคิดนาน...”อามิลเอ่ยเร่ง พร้อมกับย้ำคำถามเดิมด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งซึ่งความจริงมันไม่ใช่ตัวเขาเองหรอกนะที่เป็นคนตั้งคำถาม แต่มันมาจากหูฟังที่มี่คำสั่งส่งมาตามสาย ที่อยู่ห้องถัดไปของผู้ให้กำเนิดเพียงเพราะพวกท่านอยากจะรู้ ว่าผู้ชายคนนี้เหมาะสมกับลูกสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของคนในบ้านมากแค่ไหน?ถึงต้องทำกันขนาดนั้นเชียว?ผู้พันดันเล่นของสูงมันก็ต้องมีเดิมพันกันหน่อยละ...เดิมพันด้วยชีวิตนะ!...หากตอบผิดชีวิตของผู้พันจะเปลี่ยนเลยทันที...ไม่ถูกจับถ่วงในทะเลกว้าง...ก็ถูกจับฝังอยู่กลางป่าลึก“ฉันรักเซน!...” อลันตอบกลับอย่างไว“แค่ไหน?” อามิลถามกลับไปตามคำสั่ง พลางบ่นในใจ...โอ๊ย! ท่านแม่คร๊าบ!...เข้ามาถามเองเลยก็ได้มั๊ย!?“ชีวิต...มากกว่าชีวิตของฉัน”อลันตอบกลับมาทันที สายตาคมมองสบตากับอามิลอย่างไม่หวาดหวั่น แม้แต่เครื่องจับเท็จนั่นยังทำอะไรอลันไม่ได้เลยอามิลเงียบเสียงของตัวเองลงไปเพราะกำลังรอฟังคำถามเสียงจากปลายสาย เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดกลับมา อามิลจึงบอกกับอลันต่อจากนั้นว่า
เมื่อข่าวนี้มันดังกระจายออกไปจนถึงหูของอลัน นั่นจึงเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ชายหนุ่ม ย้ายตัวเองเพื่อหนีเธอไปอยู่ไกลถึงชายแดน เขาหายไปจากชีวิตของหญิงสาวราวกับตายจากโนอาร์ละคำพูด ก่อนจะลุกไปหยิบน้ำในตู้เย็นออกมาดื่มดับกระหาย จากนั้นจึงเดินกลับไปนั่งที่เดิม แล้วเริ่มเล่าต่อเพราะรู้ว่าน้องสาวกำลังรอฟัง“พี่เพิ่งจะรู้ข่าวจากท่านแม่ว่า องค์ชายมักจะชอบหักหาญน้ำใจเราบ่อยๆ จนครั้งสุดท้ายก่อนที่เราจะหนีไปพักผ่อนที่ทะเลทางใต้ เราได้ทำร้ายองค์ชายเอาไว้ด้วยนี่ใช่มั๊ย?...” เมื่อเห็นเซนเซียพยักหน้ารับ โนอาร์ถึงกับกลั้วหัวเราะขำ“เราทำร้ายร่างกายท่านจนแทบจะสูญพันธ์เลยนี่หว่า...ถึงขนาดต้องพาแพทย์ประจำพระองค์เข้ามาตรวจรักษาอาการกันตอนนั้นเลย...แล้วเราก็หนีออกมาจากวังหน้าตาเฉย...”“ก็ถ้าหนูไม่รีบออกมา องค์ชายอาจจะตายคามือหนูเลยก็ได้นะคะ” เซนเซียเอ่ยออกไปเสียงเข้ม เมื่อนึกถึงตอนที่ถูกองค์ชายเรียกตัวเข้าไปพบในห้องเพราะต้องการจะลวนลามเชิงข่มขู่บังคับ เธอก็เลยทำให้ตรงนั้นของท่านดับอย่างอนาถ ให้สมกับที่ใช้อำนาจในทางที่มิชอบ“พี่ก็ว่างั้น...แต่พระองค์ทรงกริ้วเรามากเลยนะ ถึงได้สั่งให้คนของท่านตามไปเฝ้าเราไว้ แล้
ความจริงในใจกับภาพที่อลันได้เห็นเซนเซียร้องไห้ ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกอะไร มันเจ็บจุกจนพูดไม่ออกต่างหากละอีกทั้งการกระทำต่างๆ ที่ทำให้คนรอบกายได้เห็นว่า เขากำลังเข้มแข็งตามที่ปากว่า ด้วยการปล่อยน้ำตาของลูกผู้ชายให้ไหลกลับเข้าไปข้างในนั้น....มาลิคที่ยืนรอจังหวะนั่นอยู่นาน เมื่อสบโอกาสเขาจึงรีบกดโทรศัพท์ถึงลุงของอลันที่เป็นถึงอธิปดีกรมการปกครองทันทีชายหนุ่มเล่าทุกอย่างเท่าที่เขารู้ และประติดประต่อเรื่องราวเอาเองได้ไม่ยากจากที่อลันเคยเล่าให้เขาฟังกระทั่งคนสุดท้ายที่มาลิคต้องส่งข่าวให้รู้ก็คือคลูเซ็น ที่เป็นน้องสาวของอลัน อีกทั้งยังเป็นคนรักของเขานั่นเองเมื่อวางสายจากมาลิค อธิปดีกรมการปกครองจึงสั่งให้ลูกน้องคนสนิท ติดต่อหาเอกอัครราชทูตเมสันกับคุณหญิงเซลิน่าภรรยาซึ่งทั้งคู่ก็คือผู้ให้กำเนิดของอลันพอติดต่อเมสันได้ อธิปดีกรมการปกครองซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชาย จึงเล่าทุกอย่างให้ทั้งสองคนนั่นได้ฟังแต่เพียงคร่าวๆหลังจากได้รู้ข่าวของลูกชาย ทั้งคู่จึงรีบบินกลับประเทศเปรมาเดี๋ยวนั้นทันที ด้วยเครื่องบินที่มีประจำตำแหน่งเอกอัครราชทูตเมสันคงต้องใช้วาทะศิลป์ที่ตัวเองถนัด และมีความสามารถทางด้านนี้เ
อลันดึงร่างบางออกห่าง พลางพูดกับเจ้าตัวต่อจากนั้นทันที “อย่าดื้อกับพี่ชาย...แล้วก็ท่านพ่อกับท่านแม่นะเข้าใจมั๊ย?...พี่ไม่เป็นไร...”“หนูไม่ให้พี่ไป...ฮึกๆ ”“เซน!หยุดร้องไห้...” อลันออกคำสั่งเชิงบังคับกับเธออีกครั้ง ในขณะที่ใช้สายตาคม ก้มมองร่างเล็กที่กอดเขาเอาไว้ มือใหญ่ค่อยๆ แกะมือน้อยๆ ของเธอให้หลุดออก แต่ยังคงกุมมือของหญิงสาวเอาไว้แน่น“พี่ลัน! ไม่นะคะ!”“อย่าดื้อกับพี่นะเซน!...เราเป็นทหารต้องเข้มแข็ง อย่าร้องไห้ให้ใครเห็นว่าเรากำลังอ่อนแอ...พี่พูดแค่นี้เธอเข้าใจพี่ใช่มั๊ย!?” อลันเอ่ยกับร่างบางเสียงเข้ม จากนั้นจึงปล่อยมือน้อยออกจากการมือใหญ่ของเขาน้ำเสียงที่ดูจริงจังราวกับสั่งได้ของชายหนุ่ม ทำให้เซนเซียเม้มริมฝีปากจิ้มลิ้มแน่นๆ ก่อนจะคลายเสียงสะอื้นลงทีละน้อย แต่ถึงอย่างนั้นมือใหญ่ก็ค่อยๆ ยกขึ้นเกลี่ยเช็ดคราบน้ำตาออกให้ อย่างแผ่วเบาราวกำลังปลอบโยนผู้พันหนุ่มไม่ต้องการทำให้คนในครอบครัวของหญิงสาว ต้องมาผิดใจกันเพราะมีเขาเป็นสาเหตุใหญ่ และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดนั่นก็คือกฎข้อบังคับ ที่ทหารทุกคนจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะวินัยที่ดีของนายทหารคือไม่ควรขัดคำสั่งของผู้บังคับบั
“แต่มันเป็นคำสั่งของท่านนายพลนะครับคุณเซนเซีย...คำสั่งของท่านผู้นำเท่านั้นที่สำคัญ และถือว่านั่นคือที่สุด!...”“งั้นก็ไม่ต้องพูดมาก! เพราะฉันไม่อยากจะฟัง! อย่างมากก็แค่ให้พังกันไปข้าง!”เซนเซียพูดออกมาด้วยน้ำเสียงติดกระด้างอย่างรู้สึกโมโหมาก จากนั้นมันก็ไต่ระดับเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งทำให้บรรยากาศรอบตัวเริ่มจะเปลี่ยนไป.... จากบรรยากาศที่กำลังสดใส แต่ในตอนนี้เมฆสีขาวที่กระจายอยู่ทั่วท้องฟ้า ต่างพากันรวมตัวเป็นกลุ่มก้อน ก่อนจะเคลื่อนย้ายเข้าไปบดบังแสงสว่างจากดวงอาทิตย์น้ำทะเลถูกกระแสลมแรงพัดผ่านจนเกิดคลื่นสูงใหญ่ ในขณะที่เม็ดทรายบนพื้นนั่นก็ฟุ้งกระจายขึ้นไปในลักษณะที่ไม่ต่างกันมาบัดนี้ดวงตาคู่สวยที่เคยมีประกายวาวหวานอยู่ในนั้น มันกำลังเปลี่ยนเป็นสีเข้มจัดมากขึ้นกว่าเก่า ในขณะที่รางบางย่างเท้าเข้าไปหาเหล่าบรรดานายทหารที่อยู่ตรงหน้านั่นอย่างท้าทาย ผิดกับอีกฝ่ายที่พร้อมใจกันเดินถอยหลังอย่างรู้สึกหวาดกลัวเซนเซียกำลังโกรธจัดจนไม่สามารถควบคุมอารมณ์และสติของตัวเองได้เหมือนกับทุกๆ ครั้ง ถึงแม้จะรู้ว่ามันคือคำสั่งที่มาจากท่านผู้นำก็ตามหากเธอยอมให้พวกนั้นเอาตัวอลันไปได้ง่ายๆ ชายหนุ่มอาจ
เสียงของเฮลิคอปเตอร์ที่ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งน่านฟ้า เพราะบินตามกันมาไม่ต่ำกว่าสิบลำ เรียกสายตาของทั้งสองคู่ที่กำลังเดินเล่นกันอยู่บริเวณริมชายหาด ให้มองตามไปยังจุดที่ทุกลำพากันลงจอด ก่อนจะละสายตากลับมามองหน้ากันอีกครั้ง พร้อมกับเครื่องหมายคำถามที่ยังติดอยู่บนใบหน้างามของเธอ“ทำไมเฮลิคอปเตอร์ถึงได้มาลงจอดที่ค่ายหลายลำนักละคะ?” คนตัวเล็กกว่าหันมาถามอลันอย่างรู้สึกแปลกใจระคนสงสัยในทันทีเพราะดูจากจำนวนของเฮลิคอปเตอร์ที่บินตามกันมาเป็นขบวนขนาดนั้น คนที่นั่งมานั่นย่อมเป็นคนสำคัญและน่าจะมียศใหญ่ที่ไม่ธรรมดาเลย“ไม่รู้สิ...เพราะพี่เป็นหมอประจำอยู่ที่โรงพยาบาลมากกว่า มันคนละส่วนกันน่ะ อย่าไปสนใจเลยนะ เพราะมันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกันกับเรา...เราสองคนรีบไปขึ้นเรือกันเถอะ พี่จะได้พาเธอไปนอนค้างกลางทะเล เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศในแบบที่เธอต้องการไง...”อลันบอกพร้อมกับกดจมูกลงพวงแก้มนุ่มในจังหวะที่หญิงสาวหันมาย่นจมูกใส่เขาพอดี“งื้อ~~...พี่ลันชอบล้อหนู...” เธอต่อว่าในขณะที่เอนหน้าหนีปลายจมูกโด่งของร่างหนาที่ทำท่าจะโน้มลงมาอีกรอบ“ไอ้ลัน!”แต่ทว่าในจังหวะเดียวกันก็มีเสียงของผู้ชายเรียกชื่อของอลันดังมาแต่ไก
แสงแดดยามเช้าส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้อง บวกกับท้องทะเลที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอเค็มและเสียงคลื่นกระทบฝั่งเบาๆ นั่นทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวแต่ทว่ายังไม่ทันได้ลืมตา เพราะอ้อมแขนอบอุ่นของร่างหนาทำให้รู้สึกว่า เธอยังไม่อยากตื่นขึ้นมาในเวลานี้เลยหรืออีกทีอาจเป็นเพราะบทรักอันเร่าร้อนของอลัน ตั้งแต่เมื่อวานช่วงหัวค่ำ แล้วลากยาวมาจวนใกล้ถึงเช้าของอีกวันหนึ่ง ซึ่งทำให้หญิงสาวปวดร้าวไปทั้งร่างกาย แล้วจะไปโทษใครได้ในเมื่อเจ้าตัวนั่นละที่เป็นคนรนหาที่เองทั้งยั่วเย้าทั้งอ่อยเขาสารพัดขนาดนั้น มีหรือคนอย่างอลันจะปล่อยผ่านมันไปได้ นั่นยิ่งไม่มีทางอย่างแน่นอน...แต่ก่อนอื่นสิ่งแรกที่หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นในตอนเช้า นั่นก็คือใบหน้าหล่อเหลาคมคายยามหลับไหลของอลัน จมูกโด่งเป็นสันของเจ้าตัวนั่นแทบจะทิ่มใส่หน้าเธอซะให้ได้ถึงอายุอานามของเขา จะมากกว่าหญิงสาวหลายปีแต่ก็ยังดูดีอยู่เลยไม่เปลี่ยนไปสักนิด...ดูเหมือนเจ้าตัวจะหล่อเหลามากขึ้นด้วยรึเปล่าเหอะ!?และคงจะมีแต่สาวๆ ที่พากันวิ่งกรูเข้ามาหาเขามากเลยใช่มั๊ยละ?...คงจะคิดกันละสิท่า ว่าเจ้าตัวเขายังโสดอยู่...ในขณะที่หญิงสาวกำลังพิจารณาใบหน้าหล่อเหลา จู่ๆ เจ้า
อลันเห็นเซนเซียยกมือข้างหนึ่งขึ้นมา แล้วงับนิ้วของตัวเองเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะระบายความรู้สึกเสียวซ่านที่ได้รับออกมาจากทางไหน เธอจึงใช้วิธีนี้ไงนั่นทำให้อลันที่นอนมองอยู่แทบจะคลั่งตายซะให้ได้...แม่งเซ็กซี่ฉิบหายเหอะ!เมื่ออลันเห็นสีหน้าที่ดูทรมานของหญิงสาว มันก็คือความพอใจของเขานั่นละ...ยิ่งตอนที่เห็นเซนเซียขยับคลื่อนไหวร่างกายบนตัวตนของเขา ด้วยสีหน้าและท่าทางบ่งบอกว่ากำลังสุขสมไปกับมัน ช่างเร้าอารมณ์และกระตุ้นเลือดในกายของอลันให้เดือดพล่านไปเลยจริงๆ...แล้วก็เชิญชวนให้เขาอยากจะขยี้ขยำกับเธอหนักๆ มากกว่าจะผ่อนแรงลง...“อื้อ...พี่ลัน...อ๊ะ!”ร่างเล็กกระตุกเกร็งบนร่างใหญ่หลายต่อหลายครั้งที่เธอเป็นฝ่ายทำเอง จนอลันต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างพยายามสะกดใจ เพราะไม่ต้องการให้อารมณ์ที่อยู่ภายในเตลิดเปิดเปิงมากไปกว่านี้อลันหันเหความสนใจจากใบหน้าของหญิงสาว มาที่สองเต้าของเธอแทน ก่อนจะยกสองแขนขึ้นไปขยำมันเล่น แต่พอเซนเซียเห็นอย่างนั้น เธอกลับคว้าข้อมือของอลัน!ขึ้นไปงับเอาไว้แทน!...ภาพที่เขามองเห็น ทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจ ผิดเพี้ยนไปแทบจะทันทีให้มันได้อย่างงี้สิเซน!...ฆ่าตัวตายชัดๆ
อีกครั้งที่ริมฝีปากอิ่มบางถูกรุกเร้าอย่างเอาแต่ใจ และมันก็ค่อยๆ กลายเป็นลึกซึ้งมือหนาลูบไล้สีข้างเรื่อยลงมาอย่างรวดเร็วจนถึงต้นขาก่อนที่มันจะลดระดับลงมาอยู่ตรงใต้ข้อพับขา แล้วจับมันแยกออกจากกัน ก่อนจะขยับตัวตนของเขาแทรกเข้ามาหาร่างบางอย่างดุดันเฮือก!อลันรุกล้ำร่างกายของหญิงสาวเข้าไปในครั้งเดียว จนเธอสะดุ้งเผลอจิกทึ้งแผ่นหลังกว้างอย่างเผลอไผล ร่างเล็กกว่าหยัดกายสูงขึ้นมาจากที่นอน ในขณะที่อลันช้อนวงแขนแกร่งยกร่างบางขึ้นมาพร้อมๆ กันในจังหวะนั้นพอดี“อ๊ะ!.พี่..อ๊า!~~”เซนเซียร้องครางอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ และอลันก็ชอบใจถึงแม้ว่าจะถูกอีกฝ่ายจิกทึ้งแผ่นหลังของเขาอย่างรุนแรงตามอารมณ์ของเจ้าตัวยิ่งหญิงสาวครางมากเท่าไหร่ คนตัวใหญ่กว่าก็ยิ่งโจนจ้วงเข้าหาเธอมากขึ้นเท่านั้นอย่างที่ไม่คิดจะยอมกัน“พี่คะ!...หนูจะ...เสร็จ..” หญิงสาวเอ่ยกับเขาเสียงขาดๆ หายๆ เมื่อรู้สึกตื่นเกร็งไปทั้งร่างกายตามธรรมชาติ อย่างห้ามตัวเองไม่ได้เลยดวงหน้าน่ารักแหงนขึ้นอย่างทรมานกับสัมผัสที่อลันมอบให้อีกครั้งอย่างไม่รั้งรออะไรร่างใหญ่โจนจ้วงเข้าหาหญิงสาวอย่างรุนแรง จนทำให้ร่างเล็กกระตุกเกร็งอีกรอบแล้วนั่นละเขาถึงผ่อน