“ที่นายพลบอกว่าเธอเป็นคนของท่าน นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอกับท่านนายพล...”
ฟังยังไม่ทันจบประโยคดี เซนเซียก็หัวเราะแทรกขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินคำถามนี้จากอลัน
ตามนิสัยขี้เล่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัว
“อย่าบอกนะคะว่าผู้พันคิดว่าหนู เป็นอีหนูเล็กๆ ของท่านนายพลน่ะค่ะ”
เซนเชียหันมาถามเขาเอาตรงๆ แต่อลันไม่ได้ตอบกลับ เขาพยักหน้ารับตอบกลับแทนเสียง ก่อนจะเลิกคิ้วสูงขึ้นเชิงต้องการให้หญิงสาวอธิบายให้เขาฟังมากกว่านั้น
ดูท่าทางของเขาผิดไปจากตอนที่เข้าไปสอนเธอในห้องเรียน เป็นงั้นเซนเซียก็ตีเนียนไปก่อนแล้วกัน อลันคงจำเธอไม่ได้จริงๆ นั่นละ
คนรูปหล่อกระชากใจสาวน้อยสาวใหญ่อย่างเขา คงมีสาวๆ คอยรุมล้อมอยู่รอบตัวมากมาย หากจำเธอไม่ได้มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก...
ก็เขาเป็นคนพูดออกมาเองว่า ฉันไม่เคยจำผู้หญิงที่ฉันเคยนอนด้วยเลยสักคน...
แต่มันก็ยังอดเสียดายไม่ได้ไง...
ที่เสน่ห์ของเธอไม่สามารถจะมัดใจผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ได้…
ดีหน่อยที่เขายอมคุยด้วย เพราะมันช่วยให้เซนเซียรู้สึกเกร็งน้อยลง
“ใครจะกล้าละคะ คุณหญิงของท่านน่ะดุจะตายชัก แล้วท่านผู้นำก็รักและเทิดทูนคุณหญิงของท่านราวกับคู่รักในตำนาน ”
“เธอพูดเหมือนกำลังอิจฉา?”
“ตาร้อนฉ่า เวลาที่เห็นท่านหวานใส่กัน แบบไม่เกรงใจสายตาใครเลยนั่นต่างหากละค่ะ”
“เธอเคยเห็นท่านขนาดนั้นเชียว?”
เขาถามกลับมาคีย์สูง ส่วนหนึ่งก็เห็นด้วยตาตัวเองนั่นแล้วละ ว่าเซนเชียน่ะเส้นใหญ่ขนาดไหน ที่สามารถเข้ามาอยู่ในห้องของท่านผู้นำได้ ก็น่าจะไม่ใช่ธรรมดา
“หนูเป็นเด็กที่คุณหญิง และท่านนายพล รับมาอุปการะไว้ตั้งแต่ลืมตาดูโลกได้นั่นเลยแหละค่ะ...นี่ผู้พันกำลังสัมภาษณ์ประวัติส่วนตัวของหนูอยู่รึเปล่าคะเนี่ย?”
เธออธิบาย พร้อมกับแต่งเรื่องขึ้นมาเองสดๆ ร้อนๆ ก่อนจะหันมาถามเขาเล่นๆ โดยไม่เน้นเอาคำตอบ
“เราต้องทำงานร่วมกัน ก็ควรจะต้องทำความรู้จักกันเอาไว้บ้าง...ใช่มั๊ยละ?...เซนเซีย”
ก็แค่นั้น...เขาให้เธอเป็นได้แค่นั้นเอง...งั้นเหรอ?
“นั่นสิ..ก็เราเพิ่งจะรู้จักกันนี่คะ”
ร่างบางเอ่ยเบาๆ ก่อนจะหันไปยิ้มเจือจาง พลางหลุบตาลงต่ำ เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่าง
“.....”
ดูเหมือนการสนทนาของทั้งคู่จะจบลงแค่ตรงนั้น เมื่อลิฟท์มาหยุดอยู่ชั้นบนสุดพอดีกับที่ประตูลิฟท์ถูกเปิดออก
จนกระทั่งทั้งสองคนขึ้นมานั่งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ด้วยกันนั่นแหละ ถึงได้มีเสียงของชายหนุ่มที่เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน
“เซน”
ผู้พัน...เรียกชื่อเธอซะสนิทเชียว...
อยากจะบอกออกไปเหมือนกันนะว่า ชื่อนี้เธอขอสงวนเอาไว้ให้คนใกล้ชิด หรือสนิทกันจริงๆ เรียกจะได้ไหม?
ก็รู้อยู่แก่ใจนั่นละ...ว่าความสัมพันธ์ระหว่างกันมันก็น่าจะเรียกได้ว่า เกินกว่าคำว่าสนิทกันนั่นไปแล้ว...
ดูเหมือนเจ้าตัวก็พอจะรู้ว่าเซนเชียกำลังคิดอะไร ถึงได้หันมาพูดในจังหวะที่อีกฝ่ายเบี่ยงองศาหน้าหันมาพอดี
“เรียกได้มั๊ย?”
“อ่า..ค่ะ”
“ทำไมเธอถึงกล้าทำภารกิจนี้ ทั้งๆ ที่รู้ว่า บางทีเราอาจจะเอาชีวิตไปทิ้งไว้ที่นั่นละ”
อลันเอ่ยถามพลางหันมาจ้องมองหน้าเซนเซียนิ่งๆ เพื่อรอฟังคำตอบจากหญิงสาวอยู่อย่างนั้น แต่มันกลับทำให้อีกฝ่ายทนมองสบตากับเขานานๆ ไม่ได้เลย เธอจึงเบี่ยงสายตาหันทางอื่น ก่อนจะดึงสายตากลับมามองอลัน พร้อมกับตอบคำถามนั้น
“เพราะหนึ่งในจำนวนคนที่ถูกจับตัวไป มีพี่ชายของหนูอยู่ในนั้นด้วยไงคะ”
“แล้วเธอไม่อยากรู้บ้างเหรอ ว่าทำไมฉันถึงอาสามาทำภารกิจนี้ร่วมกับเธอ”
เขาถามต่อท้ายประโยคนั้นทันที แต่เมื่อเธอไม่ตอบกลับ เขาจึงขยับตัวเข้ามาใกล้
“เซน...” เสียงห้าวทุ้มเรียกเธอสั้นๆ เพราะต้องการให้หญิงสาวหันมาสนใจแล้วมันก็ได้ผล
“...คะ”
“เธอ...ชนะ”
“..??..”
จู่ๆ อลันก็พูดอะไรออกมา ที่หญิงสาวฟังเขาแล้วไม่เข้าใจ คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้น พร้อมกับเครื่องหมายคำถามที่ติดอยู่บนใบหน้างามของเจ้าตัว
“ เธอเป็นผู้หญิงคนแรก ที่ทำให้ฉันลืมเธอไม่ลง”
!!!
หัวใจของเซนเซียเต้นผิดจังหวะไปในวินาทีนั้น เมื่อได้ยินผู้พันอลันพูดกับเธอออกมาตรงๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัวเขาเลยนั่นละ
เสียงพรูลมหายใจออกมาของคนตัวใหญ่กว่า บ่งบอกว่าเขารู้สึกโล่งใจ ที่กล้าตัดสินใจเอ่ยกับเธอออกไปแบบนั้น
คืนนั้นในคลับเซยเซียดูเหมือนจะเมามาก แอลกอฮอล์มันทำให้หญิงสาวใจกล้าก๋ากั่นตามคำท้าและเข้ามาหาอลันก่อน
เธอก็เป็นแบบนี้ทุกทีในตอนที่เมานี่แหละ อีกอย่างความหล่อออร่าของอลันมันดันพุ่งเข้าตาจนทำให้เธอพร่าเบลอไปหมด
พอตื่นขึ้นมาอีกทีมันก็เลยเวลาเข้าค่ายไปแล้วไง ไหนจะต้องรีบหาซื้อยาคุมฉุกเฉิน เพราะเมาจนลืมป้องกัน ไหนจะระแวงกันว่าอีกฝ่ายจะเอาโรคร้ายมาติดให้รึเปล่า...
โอ๊ย! เขาทำให้หญิงสาวคิดไปสารพัด
ไม่รู้หรือไงว่าเธอน่ะแพ้ความหล่อ...นั่นน่ะตัวพ่อเลยด้วย...
ทั้งสองคนปล่อยให้ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงัน จนกระทั่งไปถึงค่ายแล้วนั่นละ ถึงได้แยกย้ายกันไปเตรียมสัมภาระ ก่อนจะมาพบกันอีกทีตามที่ได้นัดหมายกันเอาไว้...
คลังอาวุธทั้งสองคนนัดมาพบกันที่คลังอาวุธของค่าย ด้วยชุดนายทหาร เพื่อเตรียมการทุกอย่างให้พร้อม และตรวจตราอาวุธที่จะนำติดตัวไปด้วยร่างบางที่เดินเข้ามาทีหลังชะงักเท้าลง เมื่อเห็นว่าอีกคนนั่งอยู่ก่อนหน้านั้น เซนเซียรีบปรับสีหน้าที่รู้สึกว่ามันน่าจะเปลี่ยนสีไปหมดแล้วทั้งหน้า เพราะมัวแต่คิดถึงคำพูดของชายหนุ่มมาจนถึงตอนนี้ คำพูดของเขาทำให้หญิงสาวเสียอาการ เพราะมันรู้สึกเขินไง...แต่ก็พยายามห้ามไม่ให้ตัวเองหวั่นไหว...แล้วก็ไม่รู้ว่าจะทำได้แค่ไหนเลยด้วยทำไงได้ในเมื่อผู้พันไม่ได้มีดีแค่หน้าตาหล่อเหลา แต่เจ้าตัวเขาทั้งฮ็อทและเซ็กซี่ในตอนที่มีอะไรกัน แล้วมันก็ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวด้วยไง มันก็เลยจำได้ติดตา รวมไปถึงติดใจเจ้าของร่างใหญ่นั่นด้วยละมั้ง ร่างบางทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกัน โดยมีโต๊ะกั้นกลาง พร้อมกับอาวุธทุกอย่าง มากมายหลายชนิดที่วางรวมกันอยู่บนนั้น“ไม่สบายหรือเปล่า...” อลันถามกลับไป เมื่อหันมาเห็นใบหน้างาม ขึ้นสีจัดจับใบหู ดูแล้วเหมือนคนเป็นไข้หมอใหญ่จึงเดินอ้อมมาดูอาการของคนตรงหน้า ด้วยการใช้หลังฝ่ามือหนายกขึ้นมาแตะสัมผัสบนหน้าผากมน“เปล่าค่ะ”เสียงหวานช้อนสายตาขึ้นมาตอบ ก่อนจะถ
“เดี๋ยวก่อนเซน!”หญิงสาวหมุนตัวหันไปหาร่างใหญ่ในจังหวะที่เขาเดินมาเข้ามาใกล้เกินไปจนเบรกไม่ทันเมื่ออีกคนหยุดกระทันร่างทั้งสองคนจึงปะทะกัน จนทำให้ร่างบางถึงกับหงายหลัง และอีกฝ่ายก็ไวพอที่จะคว้าตัวของหญิงสาวเอาไว้ได้ นั่นจึงทำให้เธอเข้ามาอยู่ในวงแขนของอลัน โดยไม่ทันได้ตั้งตัวเซนเซียไม่ได้ขัดขืนอะไร เมื่อถูกอีกฝ่ายกอดรัดไว้ทั้งตัว รวมไปถึงเป้สนามที่อยู่ทางด้านหลังของเธอนั่นด้วย มีเพียงคิ้วเรียวสวยที่เลิกขึ้นแทนคำถามกับอลันเท่านั้นเอง“...เป็นห่วง”เซนเซียยิ้มรับให้กับคำพูดสั้นๆ แขนเรียวสองข้างที่ยกขึ้นกันร่างกายระหว่างกันเอาไว้ค่อยๆ เลื่อนขึ้นไปวางบนบ่าของอลัน และรอให้อีกฝ่ายพูดกับเธอต่อจากนั้น“ที่เรากำลังจะไปทำภารกิจ รวมไปถึงบริเวณที่เรากำลังจะผ่านมันมีระเบิดที่ยังเก็บกู้ไม่หมด อย่าอยู่ห่างจากฉัน อะไรที่สุ่มเสี่ยงให้ฉันเป็นคนทำ”เซนเซียแทบจะหลุดขำออกมา แต่มันก็ไม่ใช่เวลาที่จะทำแบบนั้นได้ เมื่อเห็นสีหน้ารวมไปถึงคำพูดที่ดูจริงจังเป็นการเป็นงานของอลันเข้านอกจากมีใบหน้าหล่อเหลาคมคายชวนให้มองซ้ำๆ ได้ไม่เบื่อนั่นแล้ว เขายังเป็นผู้ชาย Type อบอุ่นอย่างที่ผู้หญิงหลายคนต้องการแต่ก็ยังอดสงสัย
“ทุกคนหาที่หลบกันก่อนนะคะ มีคนกลุ่มหนึ่ง กำลังเดินเข้ามาใกล้เรานี่แล้วค่ะ”“เธอรู้ได้ยังไง?...ฉันต้องฟังคำสั่งของเธองั้นเหรอ?”เอมิเลียชิงถามเซนเชียขึ้นมาก่อนใคร สายตาดูแคลนกึ่งเหยียดเด็กสาวที่มียศต่ำกว่า นั่นทำให้อลันต้องเป็นคนตัดสินใจในการออกคำสั่งแทน“ ทุกคนหาที่หลบตามที่เซนบอก ใครไม่หลบก็ยืนอยู่ตรงนี้ก็แล้วกัน เซนมากับฉันนี่”เอ่ยจบอลันก็ดึงแขนของหญิงสาวให้เดินตามเขา มาหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะทิ้งให้คนที่เหลือตัดสินใจกันเอาเองเมื่อทั้งสองคนพากันมาหลบหลังโคนต้นไม้ใหญ่ อลันจึงช่วยหญิงสาวเอาเป้สนามที่แบกไว้ทางด้านหลังออกมาจากตัวให้ จากนั้นจึงหันมาจัดการของตัวเอง แล้ววางมันเอาไว้ใกล้ๆ กัน ก่อนที่ทั้งคู่จะหยิบเอาอาวุธที่มีอยู่ ออกมาเตรียมความพร้อม“ทำไมผู้พันถึงได้เชื่อคำพูดของหนูละคะ”หญิงสาวหันมากระซิบถามคนข้างกันเบาๆ เพราะเธอรู้ว่าคนกลุ่มนั้น อีกนานกว่าจะมาถึง ซึ่งเซนเซียอยากจะนั่งพักก่อนนั่นแหละเดินแบกสัมภาระมาตั้งหลายชั่วโมงยังไม่ได้พัก มันก็ชักจะล้าๆ จนแทบจะก้าวขาไม่ออก อีกทั้งรองเท้าคอมแบทนั่นมันก็หนักเอาการ หากเดินต่อไปก็อาจจะเจอกันระหว่างทาง และแน่นอนว่าคงต้องมีการปะทะ
อลันเรียกทุกคนให้ออกมารวมตัวกัน ก่อนจะออกคำสั่งไห้ตั้งที่พัก และก่อกองไฟในบริเวณนี้ได้ ต่อเมื่อฟ้าสางแล้วนั่นละถึงค่อยออกเดินทางกันต่อไปหมู่มาเชลกับหมู่ลูคัสมีหน้าที่หากิ่งไม้มาก่อกองไฟ เพราะคืนนี้พวกเขาต้องอยู่เวรเฝ้าให้ทุกคนได้พักก่อน หลังจากนั้นอีกสามชั่วโมงถึงจะได้นอน เพราะทุกคนต้องคอยเปลี่ยนเวรยาม และสลับกันเฝ้าในทุกๆ สามชั่วโมงจ่าอามินต้องเฝ้ายามร่วมกับหมวดเอมิเลีย และแน่นอนว่าเซนเซียต้องอยู่เวรคู่กับอลัน เพราะผู้พันเป็นคนจับคู่ให้ทุกคนอย่างจงใจ แล้วใครมันจะบ้ากล้าขัดคำสั่ง จากผู้บังคับบัญชากันละผู้พันเรียกให้ทุกคนมานั่งรวมตัวกันหน้ากองไฟ เมื่อได้จัดการกับเรื่องอาหารการกินเป็นที่เรียบร้อยจากนั้นคนที่มียศสูงกว่าใครจึงเริ่มซักถาม ถึงที่มาที่ไปของแต่ละคน ว่ามาจากทางไหนและเคยผ่านอะไรกันมาบ้างเซนเซียนิ่งฟังอย่างตั้งใจ และเก็บรายละเอียดของแต่ละคนเอาไว้ เธอจึงรู้ได้ว่าพวกเขามีความสามารถที่แตกต่างกัน จ่าอามินอยู่หน่วยพิเศษ เขามีหน้าที่ทำลายล้างและเก็บกู้วัตถุระเบิด ได้ผ่านการทำงานมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งในและนอกประเทศนั่นเลยหมู่ลูคัสกับมาเชลเชี่ยวชาญทางด้านข่าวกรอง สองคนนี้อยู่
ทุกคนต่างแยกย้ายไปยังจุดที่นอนใครที่นอนมัน และคำว่าที่นอนสำหรับนายทหารนั่นหมายความว่า สถานที่สำหรับผูกเปลไว้นอน เพราะชีวิตของทหารที่อยู่ในป่าค่อนข้างยากลำบาก บางครั้งต้องนั่งหลับ กอดปืนยาวเอาไว้เพราะมีอันตรายอยู่รอบตัวเวลาเข้าป่าน้ำท่าก็แทบจะไม่ได้อาบ บางครั้งเป็นอาทิตย์ที่ต้องอยู่ในชุดเดิม ขนาดเซนเซียเป็นถึงลูกนายพล ยังต้องทนทำทุกอย่าง ยิ่งกว่าลูกคนขับรถที่บ้านของหญิงสาวเองซะอีกแต่เอมิเลียเห็นท่าจะสบายมากกว่าใครๆ เพราะหล่อนใช้วิธีกางเต้นนอน ก่อนจะมุดเข้าไปในเต้น เซนเซียยังเห็นเอมิเลียควักเอาลิปติกขึ้นมาทาบนริมฝีปาก และเอาแป้งขึ้นมาผัดหน้า คงกลัวว่าตัวเองจะไม่สวย แม้กระทั่งตอนตายด้วยนั่นแหละอลันดึงแขนเซนเซียให้เดินตามกันมา หลังต้นไม้ใหญ่ตรงที่เดิม เพิ่มเติมคือเขาต้องการจะถามหญิงสาวกับบางเรื่องราว ที่เขายังสงสัยอยู่เท่านั้นเองแต่ทว่า...เจ้าตัวกลับไม่ให้ความร่วมมือ“หนูง่วง แล้วก็เพลียมากๆ เลยนะคะ หนูขอนอนก่อนค่ะ”เธออ้างอย่างนั้น ก่อนจะหันไปทิ้งตัวลงบนเปลสนาม โดยไม่ยอมตอบคำถามใดๆกลิ่นกาแฟที่โชยมาเข้าจมูก ทำให้ร่างบางดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันที พร้อมกับหาที่มา ซึ่งมันก็อยู่ตรงหน้าของเธ
ผู้พันอลันเดินนำหน้า และมีเซนเซียกับคนอื่นๆ เดินตามหลัง ปิดท้ายด้วยหมู่ทั้งสองนาย โดยไม่มีใครพูดอะไรกันเลยสักคำ จนกระทั่งถึงเวลาช่วงใกล้เที่ยงวัน อลันจึงหันมาสั่งให้ทุกคนหยุดพักได้“ ด้านข้างมีแอ่งน้ำสะอาด ใครจะไปล้างหน้าล้างตาที่นั่นก็ได้นะ..”“เอมมี่อยากไปอาบน้ำล้างตัวค่ะ ผู้พันไปเป็นเพื่อนเอมมี่หน่อยได้มั๊ยคะ?” เอมิเลียทอดเสียงหวานเอ่ยชวนอลันแต่เซนเซียคิดว่าเสนอหน้าสุดๆ !คิดเหรอว่าคนอย่างเซนเซีย จะยอมให้เอมิเลียตกผู้พันของเธอไปได้ง่ายๆ น่ะ ฝันไปเหอะ!แต่เรื่องแค่นี้คงไม่ต้องถึงมือของหญิงสาว....“ให้ผมไปเป็นเพื่อนผู้หมวดเองก็ได้นะครับ..”เป็นสียงของจ่าอามินที่เอ่ยแทรกขึ้นมาอีกนั่นหละ และเอมิเลียยังไม่ทันได้ปฏิเสธกลับ ก็ถูกอลันออกคำสั่งเชิงบังคับเพราะเห็นด้วยกับจ่าอามิน “งั้นจ่าก็ไปเป็นเพื่อนหมวด..”ถึงแม้จะไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ แต่เอมิเลียก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะนั่นคือคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่มียศใหญ่กว่าเธอหญิงสาวทำหน้างออย่างไม่พอใจ ส่วนอีกฝ่ายยกยิ้มให้อลันเชิงรู้กัน ก่อนจะหันไปมองแผ่นหลังบอบบาง ที่กำลังเดินนำเขาไปโดยไม่รั้งรอ สองหมู่ต่างแยกย้ายกันไปนั่งพักบริเวณโคนต้นไม้ ที่
“ฉันขอบใจเธอมากนะเซน ถ้ามีโอกาสฉันจะตอบแทนให้ก็แล้วกัน”เป็นเสียงห้วนตึงของเอมิเลียตามสไตล์ของเจ้าตัวเขานั่นแหละ ใบหน้าสวยเชิดขึ้นนิดๆ ที่ในตอนนี้มันทั้งบวมและช้ำแทบไม่เหลือพื้นที่ ให้ใครได้เห็นความสวยที่เคยมีนั่นเลย “ ผมก็เหมือนกันครับ” จ่าอามินเอ่ยออกมาเสียงเบา เขาคงจะเจ็บแผลที่ถูกยิงเฉียดบริเวณหัวไหล่ ตอนที่เข้าไปช่วยเอมิเลียด้วยนั่นแหละ แล้วหลังจากนั้นก็ถูกซ้อมจนจุก และเกือบจะถูกระเบิดหัวไปแล้ว หากว่าเซนเซียวิ่งไปช่วยเขาช้ากว่านั้นเซนเซียได้แต่ยิ้มเจือจางรับ เพราะหญิงสาวกำลังเป็นกังวลกับสิ่งที่ทำให้ทุกคน รู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเองอลันที่มองหญิงสาวมาสักพักใหญ่ ดูเหมือนเขาจะเข้าใจ เมื่อเห็นสีหน้าว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เซนเซียกวาดสายสายตามองทุกคนนิ่งๆ สุดท้ายจึงมาหยุดสายตาอยู่ที่คนยศใหญ่กว่าใคร เมื่อเห็นเขาพยักหน้าให้เชิงเข้าใจ เธอจึงตัดสินใจเอ่ยออกไปตรงๆ ซึ่งทุกคนก็กำลังรอฟังหญิงสาวอยู่เช่นเดียวกัน“หนูอยากให้ทุกคนที่เห็น ช่วยปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับได้มั๊ยคะ?”สีหน้าบวกกับคำพูดเชิงร้องขอ ทำให้อลันเหลือบมองหน้าเซนเซียในจังหวะที่หญิงสาวหันมาสบตากับเขาพอดี ร่างหนาขยับเข้าม
“เอมิเลียไม่ให้เข้าห้อง?”คำแรกที่อลันเอ่ยทัก ตอนเปิดประตูออกรับเธอกลับเข้ามาในห้องเหมือนเดิม "ค่ะ"เซนเซียพยักหน้า ก่อนจะตอบกลับมาด้วยสีหน้าเซ็งๆชายหนุ่มจึงยื่นมือออกไปรับเป้สนาม แล้วเบี่ยงตัวหลบให้หญิงสาวเดินเข้ามา ก่อนจะงับประตูปิดตามหลัง จากนั้นจึงเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นห้อง พร้อมกับวางสิ่งของเอาไว้ใกล้กับเจ้าตัว ที่นั่งในระยะห่างออกไปแต่ไม่มากนัก เนื่องจากพื้นที่ในห้องนี้ก็ไม่ได้กว้างสักเท่าไหร่“ขอนอนสักงีบก่อนนะคะ”เซนเซียหันไปบอกคนตัวใหญ่กว่า ที่กำลังนั่งเหยียดขาเอาแผ่นหลังพิงข้างฝาอยู่ในท่าสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวกำลังถอดรองเท้าที่ใส่อยู่ออกมาวางไว้ตรงมุมห้องอลันอยู่ในชุดลำลองของทหาร กางเกงที่ใส่ยังคงเป็นกางเกงทรงทหารเหมือนเดิม เพิ่มเติมนั่นก็คือมันเป็นตัวใหม่ ซึ่งเขาน่าจะอาบน้ำในช่วงที่เซนเชียยืนคุยกับเอมิเลียอยู่หน้าห้องนั่นสิ...กว่าจะมาเปิดประตูให้ได้ ปล่อยให้เธอยืนรอเขาอยู่ตั้งนานอลันสวมเสื้อยืดทหารแขนสั้น นั่นเท่ากับว่าเขาได้อวดท่อนแขนแข็งแรง ที่โผล่พ้นแขนเสื้อออกมาอย่างน่ามอง ยิ่งถ้าเจ้าตัวเขาถอดเสื้อผ้าออกมาด้วยนะ มันก็ยิ่งชวนให้หัวใจของเธอเต้นแรง ก็เพราะแบบนี้ไง
“ผู้พันช่วยตอบคำถามของผมด้วยครับ อย่าลืมว่าคุณกำลังอยู่ในเครื่องจับเท็จอยู่นะ กรุณาอย่าคิดนาน...”อามิลเอ่ยเร่ง พร้อมกับย้ำคำถามเดิมด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งซึ่งความจริงมันไม่ใช่ตัวเขาเองหรอกนะที่เป็นคนตั้งคำถาม แต่มันมาจากหูฟังที่มี่คำสั่งส่งมาตามสาย ที่อยู่ห้องถัดไปของผู้ให้กำเนิดเพียงเพราะพวกท่านอยากจะรู้ ว่าผู้ชายคนนี้เหมาะสมกับลูกสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของคนในบ้านมากแค่ไหน?ถึงต้องทำกันขนาดนั้นเชียว?ผู้พันดันเล่นของสูงมันก็ต้องมีเดิมพันกันหน่อยละ...เดิมพันด้วยชีวิตนะ!...หากตอบผิดชีวิตของผู้พันจะเปลี่ยนเลยทันที...ไม่ถูกจับถ่วงในทะเลกว้าง...ก็ถูกจับฝังอยู่กลางป่าลึก“ฉันรักเซน!...” อลันตอบกลับอย่างไว“แค่ไหน?” อามิลถามกลับไปตามคำสั่ง พลางบ่นในใจ...โอ๊ย! ท่านแม่คร๊าบ!...เข้ามาถามเองเลยก็ได้มั๊ย!?“ชีวิต...มากกว่าชีวิตของฉัน”อลันตอบกลับมาทันที สายตาคมมองสบตากับอามิลอย่างไม่หวาดหวั่น แม้แต่เครื่องจับเท็จนั่นยังทำอะไรอลันไม่ได้เลยอามิลเงียบเสียงของตัวเองลงไปเพราะกำลังรอฟังคำถามเสียงจากปลายสาย เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดกลับมา อามิลจึงบอกกับอลันต่อจากนั้นว่า
เมื่อข่าวนี้มันดังกระจายออกไปจนถึงหูของอลัน นั่นจึงเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ชายหนุ่ม ย้ายตัวเองเพื่อหนีเธอไปอยู่ไกลถึงชายแดน เขาหายไปจากชีวิตของหญิงสาวราวกับตายจากโนอาร์ละคำพูด ก่อนจะลุกไปหยิบน้ำในตู้เย็นออกมาดื่มดับกระหาย จากนั้นจึงเดินกลับไปนั่งที่เดิม แล้วเริ่มเล่าต่อเพราะรู้ว่าน้องสาวกำลังรอฟัง“พี่เพิ่งจะรู้ข่าวจากท่านแม่ว่า องค์ชายมักจะชอบหักหาญน้ำใจเราบ่อยๆ จนครั้งสุดท้ายก่อนที่เราจะหนีไปพักผ่อนที่ทะเลทางใต้ เราได้ทำร้ายองค์ชายเอาไว้ด้วยนี่ใช่มั๊ย?...” เมื่อเห็นเซนเซียพยักหน้ารับ โนอาร์ถึงกับกลั้วหัวเราะขำ“เราทำร้ายร่างกายท่านจนแทบจะสูญพันธ์เลยนี่หว่า...ถึงขนาดต้องพาแพทย์ประจำพระองค์เข้ามาตรวจรักษาอาการกันตอนนั้นเลย...แล้วเราก็หนีออกมาจากวังหน้าตาเฉย...”“ก็ถ้าหนูไม่รีบออกมา องค์ชายอาจจะตายคามือหนูเลยก็ได้นะคะ” เซนเซียเอ่ยออกไปเสียงเข้ม เมื่อนึกถึงตอนที่ถูกองค์ชายเรียกตัวเข้าไปพบในห้องเพราะต้องการจะลวนลามเชิงข่มขู่บังคับ เธอก็เลยทำให้ตรงนั้นของท่านดับอย่างอนาถ ให้สมกับที่ใช้อำนาจในทางที่มิชอบ“พี่ก็ว่างั้น...แต่พระองค์ทรงกริ้วเรามากเลยนะ ถึงได้สั่งให้คนของท่านตามไปเฝ้าเราไว้ แล้
ความจริงในใจกับภาพที่อลันได้เห็นเซนเซียร้องไห้ ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกอะไร มันเจ็บจุกจนพูดไม่ออกต่างหากละอีกทั้งการกระทำต่างๆ ที่ทำให้คนรอบกายได้เห็นว่า เขากำลังเข้มแข็งตามที่ปากว่า ด้วยการปล่อยน้ำตาของลูกผู้ชายให้ไหลกลับเข้าไปข้างในนั้น....มาลิคที่ยืนรอจังหวะนั่นอยู่นาน เมื่อสบโอกาสเขาจึงรีบกดโทรศัพท์ถึงลุงของอลันที่เป็นถึงอธิปดีกรมการปกครองทันทีชายหนุ่มเล่าทุกอย่างเท่าที่เขารู้ และประติดประต่อเรื่องราวเอาเองได้ไม่ยากจากที่อลันเคยเล่าให้เขาฟังกระทั่งคนสุดท้ายที่มาลิคต้องส่งข่าวให้รู้ก็คือคลูเซ็น ที่เป็นน้องสาวของอลัน อีกทั้งยังเป็นคนรักของเขานั่นเองเมื่อวางสายจากมาลิค อธิปดีกรมการปกครองจึงสั่งให้ลูกน้องคนสนิท ติดต่อหาเอกอัครราชทูตเมสันกับคุณหญิงเซลิน่าภรรยาซึ่งทั้งคู่ก็คือผู้ให้กำเนิดของอลันพอติดต่อเมสันได้ อธิปดีกรมการปกครองซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชาย จึงเล่าทุกอย่างให้ทั้งสองคนนั่นได้ฟังแต่เพียงคร่าวๆหลังจากได้รู้ข่าวของลูกชาย ทั้งคู่จึงรีบบินกลับประเทศเปรมาเดี๋ยวนั้นทันที ด้วยเครื่องบินที่มีประจำตำแหน่งเอกอัครราชทูตเมสันคงต้องใช้วาทะศิลป์ที่ตัวเองถนัด และมีความสามารถทางด้านนี้เ
อลันดึงร่างบางออกห่าง พลางพูดกับเจ้าตัวต่อจากนั้นทันที “อย่าดื้อกับพี่ชาย...แล้วก็ท่านพ่อกับท่านแม่นะเข้าใจมั๊ย?...พี่ไม่เป็นไร...”“หนูไม่ให้พี่ไป...ฮึกๆ ”“เซน!หยุดร้องไห้...” อลันออกคำสั่งเชิงบังคับกับเธออีกครั้ง ในขณะที่ใช้สายตาคม ก้มมองร่างเล็กที่กอดเขาเอาไว้ มือใหญ่ค่อยๆ แกะมือน้อยๆ ของเธอให้หลุดออก แต่ยังคงกุมมือของหญิงสาวเอาไว้แน่น“พี่ลัน! ไม่นะคะ!”“อย่าดื้อกับพี่นะเซน!...เราเป็นทหารต้องเข้มแข็ง อย่าร้องไห้ให้ใครเห็นว่าเรากำลังอ่อนแอ...พี่พูดแค่นี้เธอเข้าใจพี่ใช่มั๊ย!?” อลันเอ่ยกับร่างบางเสียงเข้ม จากนั้นจึงปล่อยมือน้อยออกจากการมือใหญ่ของเขาน้ำเสียงที่ดูจริงจังราวกับสั่งได้ของชายหนุ่ม ทำให้เซนเซียเม้มริมฝีปากจิ้มลิ้มแน่นๆ ก่อนจะคลายเสียงสะอื้นลงทีละน้อย แต่ถึงอย่างนั้นมือใหญ่ก็ค่อยๆ ยกขึ้นเกลี่ยเช็ดคราบน้ำตาออกให้ อย่างแผ่วเบาราวกำลังปลอบโยนผู้พันหนุ่มไม่ต้องการทำให้คนในครอบครัวของหญิงสาว ต้องมาผิดใจกันเพราะมีเขาเป็นสาเหตุใหญ่ และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดนั่นก็คือกฎข้อบังคับ ที่ทหารทุกคนจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะวินัยที่ดีของนายทหารคือไม่ควรขัดคำสั่งของผู้บังคับบั
“แต่มันเป็นคำสั่งของท่านนายพลนะครับคุณเซนเซีย...คำสั่งของท่านผู้นำเท่านั้นที่สำคัญ และถือว่านั่นคือที่สุด!...”“งั้นก็ไม่ต้องพูดมาก! เพราะฉันไม่อยากจะฟัง! อย่างมากก็แค่ให้พังกันไปข้าง!”เซนเซียพูดออกมาด้วยน้ำเสียงติดกระด้างอย่างรู้สึกโมโหมาก จากนั้นมันก็ไต่ระดับเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งทำให้บรรยากาศรอบตัวเริ่มจะเปลี่ยนไป.... จากบรรยากาศที่กำลังสดใส แต่ในตอนนี้เมฆสีขาวที่กระจายอยู่ทั่วท้องฟ้า ต่างพากันรวมตัวเป็นกลุ่มก้อน ก่อนจะเคลื่อนย้ายเข้าไปบดบังแสงสว่างจากดวงอาทิตย์น้ำทะเลถูกกระแสลมแรงพัดผ่านจนเกิดคลื่นสูงใหญ่ ในขณะที่เม็ดทรายบนพื้นนั่นก็ฟุ้งกระจายขึ้นไปในลักษณะที่ไม่ต่างกันมาบัดนี้ดวงตาคู่สวยที่เคยมีประกายวาวหวานอยู่ในนั้น มันกำลังเปลี่ยนเป็นสีเข้มจัดมากขึ้นกว่าเก่า ในขณะที่รางบางย่างเท้าเข้าไปหาเหล่าบรรดานายทหารที่อยู่ตรงหน้านั่นอย่างท้าทาย ผิดกับอีกฝ่ายที่พร้อมใจกันเดินถอยหลังอย่างรู้สึกหวาดกลัวเซนเซียกำลังโกรธจัดจนไม่สามารถควบคุมอารมณ์และสติของตัวเองได้เหมือนกับทุกๆ ครั้ง ถึงแม้จะรู้ว่ามันคือคำสั่งที่มาจากท่านผู้นำก็ตามหากเธอยอมให้พวกนั้นเอาตัวอลันไปได้ง่ายๆ ชายหนุ่มอาจ
เสียงของเฮลิคอปเตอร์ที่ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งน่านฟ้า เพราะบินตามกันมาไม่ต่ำกว่าสิบลำ เรียกสายตาของทั้งสองคู่ที่กำลังเดินเล่นกันอยู่บริเวณริมชายหาด ให้มองตามไปยังจุดที่ทุกลำพากันลงจอด ก่อนจะละสายตากลับมามองหน้ากันอีกครั้ง พร้อมกับเครื่องหมายคำถามที่ยังติดอยู่บนใบหน้างามของเธอ“ทำไมเฮลิคอปเตอร์ถึงได้มาลงจอดที่ค่ายหลายลำนักละคะ?” คนตัวเล็กกว่าหันมาถามอลันอย่างรู้สึกแปลกใจระคนสงสัยในทันทีเพราะดูจากจำนวนของเฮลิคอปเตอร์ที่บินตามกันมาเป็นขบวนขนาดนั้น คนที่นั่งมานั่นย่อมเป็นคนสำคัญและน่าจะมียศใหญ่ที่ไม่ธรรมดาเลย“ไม่รู้สิ...เพราะพี่เป็นหมอประจำอยู่ที่โรงพยาบาลมากกว่า มันคนละส่วนกันน่ะ อย่าไปสนใจเลยนะ เพราะมันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกันกับเรา...เราสองคนรีบไปขึ้นเรือกันเถอะ พี่จะได้พาเธอไปนอนค้างกลางทะเล เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศในแบบที่เธอต้องการไง...”อลันบอกพร้อมกับกดจมูกลงพวงแก้มนุ่มในจังหวะที่หญิงสาวหันมาย่นจมูกใส่เขาพอดี“งื้อ~~...พี่ลันชอบล้อหนู...” เธอต่อว่าในขณะที่เอนหน้าหนีปลายจมูกโด่งของร่างหนาที่ทำท่าจะโน้มลงมาอีกรอบ“ไอ้ลัน!”แต่ทว่าในจังหวะเดียวกันก็มีเสียงของผู้ชายเรียกชื่อของอลันดังมาแต่ไก
แสงแดดยามเช้าส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้อง บวกกับท้องทะเลที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอเค็มและเสียงคลื่นกระทบฝั่งเบาๆ นั่นทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวแต่ทว่ายังไม่ทันได้ลืมตา เพราะอ้อมแขนอบอุ่นของร่างหนาทำให้รู้สึกว่า เธอยังไม่อยากตื่นขึ้นมาในเวลานี้เลยหรืออีกทีอาจเป็นเพราะบทรักอันเร่าร้อนของอลัน ตั้งแต่เมื่อวานช่วงหัวค่ำ แล้วลากยาวมาจวนใกล้ถึงเช้าของอีกวันหนึ่ง ซึ่งทำให้หญิงสาวปวดร้าวไปทั้งร่างกาย แล้วจะไปโทษใครได้ในเมื่อเจ้าตัวนั่นละที่เป็นคนรนหาที่เองทั้งยั่วเย้าทั้งอ่อยเขาสารพัดขนาดนั้น มีหรือคนอย่างอลันจะปล่อยผ่านมันไปได้ นั่นยิ่งไม่มีทางอย่างแน่นอน...แต่ก่อนอื่นสิ่งแรกที่หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นในตอนเช้า นั่นก็คือใบหน้าหล่อเหลาคมคายยามหลับไหลของอลัน จมูกโด่งเป็นสันของเจ้าตัวนั่นแทบจะทิ่มใส่หน้าเธอซะให้ได้ถึงอายุอานามของเขา จะมากกว่าหญิงสาวหลายปีแต่ก็ยังดูดีอยู่เลยไม่เปลี่ยนไปสักนิด...ดูเหมือนเจ้าตัวจะหล่อเหลามากขึ้นด้วยรึเปล่าเหอะ!?และคงจะมีแต่สาวๆ ที่พากันวิ่งกรูเข้ามาหาเขามากเลยใช่มั๊ยละ?...คงจะคิดกันละสิท่า ว่าเจ้าตัวเขายังโสดอยู่...ในขณะที่หญิงสาวกำลังพิจารณาใบหน้าหล่อเหลา จู่ๆ เจ้า
อลันเห็นเซนเซียยกมือข้างหนึ่งขึ้นมา แล้วงับนิ้วของตัวเองเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะระบายความรู้สึกเสียวซ่านที่ได้รับออกมาจากทางไหน เธอจึงใช้วิธีนี้ไงนั่นทำให้อลันที่นอนมองอยู่แทบจะคลั่งตายซะให้ได้...แม่งเซ็กซี่ฉิบหายเหอะ!เมื่ออลันเห็นสีหน้าที่ดูทรมานของหญิงสาว มันก็คือความพอใจของเขานั่นละ...ยิ่งตอนที่เห็นเซนเซียขยับคลื่อนไหวร่างกายบนตัวตนของเขา ด้วยสีหน้าและท่าทางบ่งบอกว่ากำลังสุขสมไปกับมัน ช่างเร้าอารมณ์และกระตุ้นเลือดในกายของอลันให้เดือดพล่านไปเลยจริงๆ...แล้วก็เชิญชวนให้เขาอยากจะขยี้ขยำกับเธอหนักๆ มากกว่าจะผ่อนแรงลง...“อื้อ...พี่ลัน...อ๊ะ!”ร่างเล็กกระตุกเกร็งบนร่างใหญ่หลายต่อหลายครั้งที่เธอเป็นฝ่ายทำเอง จนอลันต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างพยายามสะกดใจ เพราะไม่ต้องการให้อารมณ์ที่อยู่ภายในเตลิดเปิดเปิงมากไปกว่านี้อลันหันเหความสนใจจากใบหน้าของหญิงสาว มาที่สองเต้าของเธอแทน ก่อนจะยกสองแขนขึ้นไปขยำมันเล่น แต่พอเซนเซียเห็นอย่างนั้น เธอกลับคว้าข้อมือของอลัน!ขึ้นไปงับเอาไว้แทน!...ภาพที่เขามองเห็น ทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจ ผิดเพี้ยนไปแทบจะทันทีให้มันได้อย่างงี้สิเซน!...ฆ่าตัวตายชัดๆ
อีกครั้งที่ริมฝีปากอิ่มบางถูกรุกเร้าอย่างเอาแต่ใจ และมันก็ค่อยๆ กลายเป็นลึกซึ้งมือหนาลูบไล้สีข้างเรื่อยลงมาอย่างรวดเร็วจนถึงต้นขาก่อนที่มันจะลดระดับลงมาอยู่ตรงใต้ข้อพับขา แล้วจับมันแยกออกจากกัน ก่อนจะขยับตัวตนของเขาแทรกเข้ามาหาร่างบางอย่างดุดันเฮือก!อลันรุกล้ำร่างกายของหญิงสาวเข้าไปในครั้งเดียว จนเธอสะดุ้งเผลอจิกทึ้งแผ่นหลังกว้างอย่างเผลอไผล ร่างเล็กกว่าหยัดกายสูงขึ้นมาจากที่นอน ในขณะที่อลันช้อนวงแขนแกร่งยกร่างบางขึ้นมาพร้อมๆ กันในจังหวะนั้นพอดี“อ๊ะ!.พี่..อ๊า!~~”เซนเซียร้องครางอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ และอลันก็ชอบใจถึงแม้ว่าจะถูกอีกฝ่ายจิกทึ้งแผ่นหลังของเขาอย่างรุนแรงตามอารมณ์ของเจ้าตัวยิ่งหญิงสาวครางมากเท่าไหร่ คนตัวใหญ่กว่าก็ยิ่งโจนจ้วงเข้าหาเธอมากขึ้นเท่านั้นอย่างที่ไม่คิดจะยอมกัน“พี่คะ!...หนูจะ...เสร็จ..” หญิงสาวเอ่ยกับเขาเสียงขาดๆ หายๆ เมื่อรู้สึกตื่นเกร็งไปทั้งร่างกายตามธรรมชาติ อย่างห้ามตัวเองไม่ได้เลยดวงหน้าน่ารักแหงนขึ้นอย่างทรมานกับสัมผัสที่อลันมอบให้อีกครั้งอย่างไม่รั้งรออะไรร่างใหญ่โจนจ้วงเข้าหาหญิงสาวอย่างรุนแรง จนทำให้ร่างเล็กกระตุกเกร็งอีกรอบแล้วนั่นละเขาถึงผ่อน