Share

บทที่ 4

Author: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
คุณทั้งหลายเคยรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็นหรือเปล่า? ฉันกำลังรู้สึกเช่นนั้นอยู่เมื่อมองพวกเขา ราวกับมีใครเดินเข้ามากระชากดวงใจออกจากอกก็มิปาน

หากฉันเป็นคนกระชากก้อนเนื้อไร้ค่านี้และปาทิ้งไปให้พ้นตาเองได้สาบานว่าจะทำเสียตอนนี้ เพราะมันช่างเจ็บจนไร้คำบรรยายใด ๆ มาเปรียบได้

ฉันต้องการหนีไปให้พ้นแต่กลับทำไม่ได้ สายตาของฉันจับจ้องทั้งสอง ไม่ว่าสมองจะสั่งให้หลีกหนีจากภาพตรงหน้าเท่าใด แต่ฉันก็ไม่อาจละสายตาไปจากฉากรักหวานชื่นเสียดแทงนัยน์ตานี้ได้

ฉันเฝ้ามองทั้งสองผละอ้อมกอดจากกัน โรแวนแววตาอ่อนโยนเมื่อมองหญิงในดวงใจ ฉันมองฝ่ามือที่กำลังบรรจงประคองแก้มของเอมม่า ชายหนุ่มดึงร่างของหญิงผู้เป็นที่รักเข้าใกล้เล็กน้อย เขาไม่ได้จูบเธอเพียงแต่เอาหน้าผากแนบชิดกัน

เขาดูสงบสุขราวกับเดินทางมาเจอที่พักผ่อนของตนเสียที ในที่สุดเขาก็รู้สึกเติมเต็ม

‘ผมคิดถึงคุณ’ ฉันอ่านการขยับปากเรียวบางนั้นออก

ฉันไม่อยากคิดว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นตอนนี้หากทั้งสองไม่ได้พบกันในสถานการณ์เช่นนี้ หากทั้งสองพบกันตอนที่ฉันและเขาแต่งงานกันอยู่ โรแวนจะนอกใจไปหาเอมม่าเลยหรือเปล่า?

ส่วนศีลธรรมของฉันรีบโต้แย้งว่าไม่เป็นเช่นนั้นแน่แต่กลับไม่แน่ใจนัก เพราะยังไงเสียนี่ก็คือเอมม่า หญิงที่เพียงดีดนิ้วโรแวนก็ล้วนยอมเป็นยอมตายเพื่อเธอ

ฉันรู้สึกทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงผุดลุกขึ้นและรีบปลีกตัวออกไป

วินาทีที่ก้าวออกมาด้านนอก น้ำตาจึงเริ่มไหลพรูออกมา ฉันไม่ว่ารู้ว่ามันจะเจ็บปวดได้เพียงนี้ และไม่รู้ว่าจะต้องรับมือหรือลบความรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้ไปได้อย่างไร ฉันจะไปโทษใครได้? ฉันผิดเองที่ไปหลงรักชายที่ไม่ใช่ของตน

“ขอทีเถอะ ความเจ็บปวดนี้ช่วยหยุดสักที” ฉันอ้อนวอนต่อเทพยดาองค์ใดก็ตามที่ฟังคำวิงวอนอยู่

ไม่มีคำตอบใด ความเจ็บปวดยังไร้การบรรเทา

ฉันยกมือกุมหน้าอกเอาไว้แน่นเสียจนสัมผัสได้ว่าหัวใจกำลังบีบรัดตัว ไม่ว่าจะพยายามเท่าใด ฉันก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ดี ราวกับว่ากำลังจะตายลงอย่างช้า ๆ สติเริ่มเลือนลาง

“นี่แหละนะ อยากได้ของที่ไม่ใช่ของตัวเองแต่แรกก็ต้องเจออะไรแบบนี้” น้ำเสียงแสนถากถางขัดขึ้นมา

“ต้องการอะไรไม่ทราบ ทราวิส… ถ้าจะมากวนประสาทหรือมาบอกให้ฉันไปให้พ้นทางพี่สาวแสนรักของนายล่ะก็ รบกวนไสหัวกลับเข้าไปในโรงพยาบาล แล้วไปอยู่กับครอบครัวนายเสียเถอะ ตรงนี้ไม่มีอะไรให้นายหรอก” ฉันรีบปาดน้ำตาออกจากดวงตาอันแดงก่ำและสวมหน้ากากไร้อารมณ์กลับดังเดิม

ฉันไม่มีวันปล่อยให้เขาเห็นน้ำตาหรือแม้แต่ความปวดร้าวของฉันได้

ผู้เป็นพี่ชายตะลึงกับคำพูดของฉันไม่น้อย ความตระหนกปรากฎบนใบหน้าชัดเจน เขาคงคาดไม่ถึงว่าฉันจะตอกหน้ากลับไปเช่นนี้

“ฉันก็แค่มาบอกให้คนอย่างเธอเข้าใจว่าโรแวนจะเป็นของเอมม่าตลอดไป ครั้งหนึ่งเธอเคยเห็นแก่ตัวแย่งเขามา แต่ตอนนี้พวกเขาก็กลับมาคู่กันอยู่ดี ฉันแค่ไม่อยากให้เธอมาขวางทางรักของพวกเขาก็เท่านั้น พวกเขาคู่กันมาตั้งนานแล้ว

ฉันหัวเราะเย้ยหยันออกมา

“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจะไม่เข้าขวางทางใครอีก แล้วต่อจากนี้พวกนายทุกคนก็จะไม่เจอหรืออดทนเปลืองเวลาชีวิตกับฉันอีก” คำพูดแสนขมขื่นเปล่งออกมา

พี่ชายจ้องมองฉัน คิ้วผูกกันเป็นปมแสดงถึงความงุนงง “หมายความว่าไง?”

ฉันเหนื่อยมากและสิ่งที่ฉันต้องการตอนนี้คือนอนหลับแล้วลืมเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ไปให้หมด ฉันต้องการร้องไห้จนหลับไป ก่อนตื่นเช้าขึ้นมาอย่างสดใสพร้อมรับวันใหม่ที่กำลังจะเดินเข้ามา

“ไปบอกแม่ด้วยนะว่าฉันจะมาช่วยเรื่องการเตรียมงานศพพ่อถ้าแม่อยากให้ช่วย แล้วก็ฝากทักทายพี่สาวนายด้วยแล้วกัน”

เมื่อจบประโยค ฉันรีบผละออกมาจากตรงนั้นและมุ่งตรงไปขึ้นรถยนต์ ทราวิสตะโกนเรียกชื่อฉันแต่ฉันไม่ใส่ใจจะหันกลับไป ฉันต้องการกลับบ้านไปพักหัวใจเสียที

ฉันเข้าไปในรถและขับกลับบ้าน โรแวนบอกว่าฝากให้แม่ของเขาดูแลโนอาอยู่ ตอนนี้ฉันไม่อยากไปต่อกรกับอีกคนที่ชังชิงฉันเต็มที ในเมื่อตอนนี้โนอาไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ฉันตั้งใจว่าจะไปรับลูกในวันพรุ่งนี้แทน

ฉันมุ่งตรงมาถึงบ้านโดยไว การอยู่เปล่าเปลี่ยวยิ่งตอกย้ำว่าฉันนั้นเดียวดายเพียงใด ไม่มีใครคอยเฝ้าปลอบประโลมหรือคอยดูแล ไม่มีใครรักฉันเลย เว้นเสียแต่โนอาลูกรักเพียงคนเดียว

ฉันร่ำไห้น้ำตาไหลอาบสองแก้ม

ฉันเบื่อหน่ายกับการร้องไห้คร่ำครวญแต่ก็ดูเหมือนว่าจะหยุดไม่ได้ หากย้อนกลับไปตอนนั้นและเปลี่ยนทุกสิ่งใด ไม่แน่นะตอนนี้ฉันอาจได้ครองคู่กับชายที่รักฉันอย่างแท้จริง

กระนั้นอดีตก็เป็นอดีต คุณไม่มีวันเปลี่ยนแปลงสิ่งใดที่เคยเกิดขึ้นได้

วันนี้เป็นวันที่สามนับตั้งแต่พ่อเสียไป ความรู้สึกของทุกคนยังคงเคว้งคว้าง ทุกคนต่างก็ตกใจมาก พ่อเป็นที่รู้จักและเป็นที่รัก แน่นอนว่าทุกคนต้องรู้สึกเศร้าโศกกับการสูญเสียครั้งนี้

ฉันไม่เจอโรแวนอีกตั้งแต่วันนั้น แม้ว่าเขาจะโทรมาหาหลายสายแต่ฉันไม่มีใจจะกดรับแต่อย่างใด เขาอาจกำลังอยู่ในห้วงรักและอยู่ในอ้อมกอดของเอมม่า ตอนนี้ทั้งสองอาจย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วก็เป็นได้ ฉันไม่ต้องการให้เขาเอาเรื่องนี้มาเย้ยใส่ฉัน

ฉันสลัดความคิดขมขื่นทิ้งไปแล้วหันมาสาละวนกับการรูดซิปด้านหลังชุดเดรส

“แม่ครับ?” เสียงของเด็กน้อยโนอาดังขึ้นจากด้านหลัง

เมื่อหันไปสบกับดวงตาอันแดงก่ำเพราะร้องไห้ ฉันจึงคุกเข่าลงมาในระดับสายตาของเด็กน้อย

“เป็นอะไรหรือเปล่า ลูกรัก?” ฉันเอ่ยถามโนอา

“ผมคิดถึงคุณตามาก ๆ เลย เราสัญญากันว่าวันเสาร์นี้จะไปตกปลากัน” น้ำเสียงของลูกรักทำให้ใจฉันเจ็บปวด

แม้เจมส์ ชาร์พจะเป็นพ่อแสนห่วยสำหรับฉัน แต่กลับเป็นคุณตาแสนดีสำหรับโนอา

ฉันดึงโนอาเข้ามากอดและปลอบประโลมเจ้าตัวน้อยที่กำลังร้องไห้ซบอกอยู่

“แม่รู้ว่าลูกคิดถึงคุณตามากจ้ะแต่ตอนนี้คุณตาไปอยู่กับเทวดาบนท้องฟ้าแล้วนะ ท่านคงจะมองดูลูกจากสวรรค์แน่ ๆ จำไว้นะลูกคุณตาไม่ได้หายไปไหน ท่านยังอยู่ตรงนี้เสมอ…” ฉันยกมือแตะหน้าอกเขา “และตรงนี้ด้วยจ้ะ” ฉันยกมือขึ้นมาแตะศีรษะลูก

“อีกอย่างนะลูก คุณตาคงไม่อยากเห็นลูกร้องไห้นะ ลูกไม่อยากให้คุณตาเสียใจใช่ไหม?” ฉันถามเขาอย่างอ่อนโยนซึ่งโนอาส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธ

“ดีจ้ะ เราจะทำแบบนี้กันนะ แทนที่จะมัวมาเศร้าเสียใจ เราจะจดจำเวลาดี ๆ ที่มีร่วมกับคุณตา โอเคไหม?”

ฉันมีความทรงจำดี ๆ กับพ่อไม่มากแต่โนอานั้นกลับมีมากมาย ฉันจะช่วยลูกชายเก็บความทรงจำพวกนี้ไว้ให้ตราตรึง

“ได้ครับ”

ฉันเช็ดน้ำตาจากใบหน้าของเด็กน้อยและลุกขึ้นยืน มือหนึ่งคว้ากระเป๋าข้างกาย และอีกข้างหนึ่งกุมมือน้อยข้างนั้นไว้ ลูกชายจับมือฉันเอาไว้พลางเงยหน้าขึ้นมอง

“ไปจ้ะ เราไปส่งคุณตาเป็นครั้งสุดท้ายกันนะ”

รอยยิ้มน้อย ๆ ส่งมาหาฉัน จากนั้นเราทั้งสองจึงออกไป คงถึงเวลาบอกลาเสียที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ธุลีใจ   บทที่ 5

    ไร้วี่แววของเหตุร้ายใด ๆ ในวันนี้ แสงแดดทอประกายตลอดเส้นทางที่คุ้นตา ดูเหมือนทุกสิ่งจะดำเนินไปได้ด้วยดีเมื่อเดินทางไปถึง โบถส์ก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ทุกคนต่างพากันมาเคารพพ่อเป็นครั้งสุดท้ายฉันเดินตรวจตราดูความเรียบร้อยของสถานที่จัดงานด้วยความพอใจเมื่อเห็นว่าทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่ควร คนอื่นแทบไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยในช่วงการจัดเตรียมงานศพ เรียกได้ว่าฉันเป็นแม่งานผู้รับผิดชอบทุกสิ่งในงานนี้ฉันไม่ได้บ่นอะไรทั้งนั้น คิดเสียว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณผู้เป็นพ่อที่ให้กำเนิดฉันมา ยังไงเสียเขาก็ป้อนข้าวป้อนน้ำ ซื้อเสื้อผ้าและให้ที่ซุกหัวนอนแก่ฉันช่วงพิธีการกำลังจะเริ่มและผู้ร่วมงานส่วนใหญ่เข้านั่งประจำที่นั่ง ฉันตัดสินใจหลบไปนั่งอยู่อีกมุมเพราะรู้สึกผิดที่ผิดทางหากต้องไปนั่งรวมกับครอบครัวนั้น โดยเฉพาะหากต้องไปนั่งข้างเอมม่า“แม่ครับ เรามานั่งตรงนี้กันทำไมครับ… เราไม่ควรไปนั่งข้าง ๆ คุณยายหรือ?” โนอาตัวน้อยเอ่ยถามพร้อมกับชี้นิ้วไปในทิศทางที่คนอื่นนั่งอยู่แน่นอนว่าเราย่อมได้รับสายตาแปลก ๆ แต่ฉันก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ เพราะยังไงการที่ฉันเป็นแกะดำที่ไม่เคยได้รับการยอมรับจากครอบค

  • ธุลีใจ   บทที่ 6

    โรแวนความรู้สึกบางอย่างแล่นผ่านห้วงความคิดของคุณไป ยามที่คุณเห็นร่างของภรรยาเก่า ผู้เป็นแม่ของลูกโดนยิงและมีเลือดนองเต็มพื้นสุสานอันเยือกเย็น เป็นความรู้สึกที่ผมไม่เคยคิดว่าจะมีให้เอวาเมื่อผมเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์หันกระบอกปืนเข้าใส่เรา ผมไม่ทันได้คิดอะไร ผมรู้ว่าโนอาปลอดภัยอย่างแน่นอนเพราะอยู่กับคุณปู่คุณย่า ดังนั้นสามัญสำนึกสั่งการให้ร่างกายกระโจนเข้าไปปกป้องเอมม่าทันที ผมเต็มใจตายเพื่อเธอและผมก็พร้อมจะทำเช่นนั้นผมรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นพวกมือปืนหนีไปเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมสถานการณ์ กระนั้นความโล่งใจก่อนหน้ากลับมลายสิ้นทันทีที่ได้ยินเจ้าหน้าที่เรียกหารถพยาบาล ความฉงนกระตุ้นให้ผมหันไปเพื่อหาคำตอบว่าใครกันที่เคราะห์ร้าย เข่าผมแทบทรุดลงกับพื้นเพราะคาดไม่ถึงว่าผู้เคราะห์ร้ายต้องเจ็บเจียนตายคือเอวาจากนั้นสถานการณ์ที่สับสนอลหม่านจึงเริ่มขึ้น รถพยาบาลมาถึงที่เกิดเหตุและเจ้าหน้าที่ตำรวจสวมเสื้อกันกระสุนคนนั้นกันท่าไม่ยอมห่างจากเอวาจนกว่าจะแน่ใจว่าเธอจะปลอดภัยเมื่อถึงมือแพทย์ผมรู้สึกขุ่นเคืองที่เขาไม่ยอมห่างเอวาเพราะเธอเป็นภรรยาของผม แม้ว่าจะเป็นอดีตก็ตาม แต่ที่มากกว่านั้นก็คือผม

  • ธุลีใจ   บทที่ 7

    เอวาฉันลืมตาตื่นพร้อมความปวดร้าวบริเวณหลังและแขนแล่นผ่านไปทั่วร่าง โนอานอนหลับอยู่กับฉันเพราะเมื่อคืนหลังจากดูโทรทัศน์ด้วยกัน เจ้าตัวน้อยงอแงไม่ยอมไปนอนคนเดียว รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าทันทีที่ความทรงจำเมื่อคืนผุดขึ้น เด็กน้อยยืนยันว่าจะทำหน้าที่ดูแลฉันอย่างแข็งขันตลอดทั้งคืนขณะนี้ราวแปดโมงเช้าได้ อาหารเช้าควรพร้อมรับประทานก่อนลูกชายจะตื่นนอน ฉันก้าวลงจากเตียงโดยที่ไม่ปลุกเขาเข้าแม้ว่าจะลำบากเล็กน้อยก็ตาม หลังจากเสร็จกิจวัตรประจำวันยามเช้าเรียบร้อย ฉันจึงเดินลงไปด้านล่าง หยุดฝีเท้าก่อนจะก้าวเข้าห้องครัวพลางสงสัยกับตนเองว่าจะทำอาหารออกมาด้วยแขนเพียงข้างเดียวได้อย่างไรขณะที่เดินไปหยิบวัตถุดิบมาเตรียมทำแพนเค้ก ความทรงจำเมื่อวานพลันแล่นเข้ามาในห้วงความคิด ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นราวกับเป็นภาพลวงจนฉันสงสัยว่ามันเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หากไม่มีผ้าพันแผลบริเวณไหล่กับแขนที่อยู่ในสายคล้องช่วยย้ำเตือนถึงความจริง ฉันคงคิดว่าเป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้นเมื่อฉันตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลหลังจากหมดสติไป ฉันก็ตื่นกลัวไม่น้อย บรรดาแพทย์และพยาบาลต่างพากันรีบเข้ามาสงบสติฉันและยืนยันว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี พยาบาลบอกฉัน

  • ธุลีใจ   บทที่ 8

    โรแวนผมเห็นจังหวะที่อารมณ์ของเอวาเปลี่ยนเป็นเฉยชา วินาทีที่แสงแห่งความอบอุ่นก่อนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นความหนาวเหน็บทำให้ผมรู้สึกสะท้านถึงขั้วหัวใจ“คุณมาทำอะไรที่นี่?” น้ำเสียงของเธอปราศจากซึ่งอารมณ์ใด ขณะที่ผมฝืนแทรกตัวเข้าไปด้านในบ้านราวกับว่าเอวากำลังสนทนากับชายแปลกหน้าอยู่ ราวกับว่าผมเป็นแค่ฝุ่นผงไร้ค่าสำหรับเธอไปเสียแล้ว ผมจ้องมองใบหน้านั้นโดยอ่านสิ่งใดไม่ออก ผมอยู่กับผู้หญิงคนนี้มาเกือบสิบปีแต่ตอนนี้กลับหาคำดี ๆ เพียงสักคำพูดกับเธอยังไม่ได้ผมมองแขนของเธอที่ยังคล้องอยู่บนสายห้อย จุดประสงค์วันนี้คือมาตรวจดูอาการของเธอและรับโนอา เพราะนี่เป็นช่วงสุดสัปดาห์ซึ่งเป็นเวลาของผมกับลูกชายภาพของชายหนุ่มก่อนหน้าที่เห็นว่าเดินออกไปผุดขึ้นมา ผมก็คิ้วกระตุก ต้องเป็นชายคนนี้แน่ที่เอวามอบรอยยิ้มให้ เมื่อตระหนักได้ดังนี้ ผมอดไม่ได้ที่กัดฟันกรอด“ผู้ชายคนนั้นมาทำอะไรที่นี่?” ผมเอ่ยถามแทนที่จะตอบเธอพร้อมทั้งเก็บซ่อนอารมณ์เดือดดาลที่หาเหตุผลที่มาไม่ได้เอาไว้ผมรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและยังเป็นคนที่เข้ามาช่วยชีวิตเอวาเอาไว้ แต่เขาก็ล้ำเส้นเกินไป ผมไม่ชอบผู้ชายคนนั้นและไม่ต้องการใ

  • ธุลีใจ   บทที่ 9

    “แล้วคุณอยากให้ผมพูดอะไรละ? ในเมื่อผมไม่เคยหลอกลวงคุณเลย คุณเองก็รู้มาตลอดนี่ว่าผมรักเธอ” เอวาขว้างผ้าเช็ดจานด้วยความโกรธเกรี้ยว “รู้แบบนั้นแล้วก็กล้ามาแตะต้องร่างกายของฉันอีกหรือ? ให้ตายเถอะ ฉันโคตรจะเกลียดคุณเลย ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าคุณมีดีอะไรฉันถึงได้หลงคุณนักหนา ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าต้องมานั่งเสียเวลาชีวิตขนาดนี้ไปทำไมกัน”ผมกัดฟันกรอด แต่ละคำของเธอทวีความเดือดดาลของผมขึ้น แน่นอนเราทั้งสองหลับนอนด้วยกันช่วงแต่งงาน แต่นั่นเป็นความสุขและสนุกทางกายเท่านั้น ผมให้คำสัตย์สาบานไว้ตอนแต่งงาน แม้ว่าผมจะไม่ได้รักเธอแต่ผมก็ไม่ได้ผิดคำสัตย์สาบานด้วยการนอกใจเธอ“ผมไม่ได้มาคุยเรื่องอดีต ผมมาเพราะอยากคุยเรื่องโนอา” ผมพูดเปลี่ยนประเด็นเรื่องราวเริ่มเลยเถิดไปไกลแล้ว ผมจำเป็นต้องพูดประเด็นที่ผมเดินทางมาที่นี่ และรีบจากไปก่อนจะทำหรือพูดอะไรที่ผมต้องมานั่งเสียใจภายหลังชื่อของโนอาเสมือนเครื่องเตือนสติหญิงสาว ดังนั้นเอวาจึงไม่ตอบโต้กลับ เพียงเดินไปเปิดตู้และนำขวดยาออกมา เธอเปิดขวดยาด้วยมือเพียงข้างเดียวและกินยาเข้าไปสองเม็ดเมื่ออ่านฉลากยาผ่านสายตา ผมจึงตระหนักได้ว่านั่นคือยาบรรเทาอาการปวด“แขนคุ

  • ธุลีใจ   บทที่ 10

    เอวา“ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีครับแม่ว่าทำไมผมต้องไปด้วย อยู่กับแม่แบบนี้ไม่ได้หรือ?” โนอาบ่นอุบ ความบูดบึ้งปรากฎบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเด็กน้อยไม่พอใจตั้งแต่วินาทีที่ฉันอธิบายกับลูกว่าต้องไปอยู่กับคุณปู่คุณย่าช่วงหนึ่งลูกชายกระโดดโลดเต้นในแวบแรก และกลายเป็นหน้าหงอยเมื่อพบว่าทั้งพ่อและแม่ตนไม่ได้ไปด้วยทางโรงเรียนของโนอาเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี แม้แต่คุณครูก็เข้าใจเช่นกัน ดังนั้นจึงตั้งใจส่งบทเรียนและการบ้านผ่านทางแม่เพื่อให้เด็กชายไม่ห่างหายการเรียนนานจนเกินไป “แม่บอกแล้วนี่ลูก นี่เป็นวันหยุดพักผ่อนแบบปู่ย่ายายหลานไง…ดังนั้น ก็ต้องมีแค่ลูก คุณปู่ คุณย่าแล้วก็คุณยายไปไงจ๊ะ”หลังจากพูดคุยกับกับหัวหน้าทีมคุ้มกัน ได้รับการยืนยันว่าทุกคนจะไปเก็บซ่อนตัวแถบเมืองชายทะเล“ลูกจะไปเที่ยวทะเลด้วยนะ ลูกขอให้พ่อกับแม่พาไปเที่ยวไม่ใช่เหรอ?” ฉันเสริมคำบรรยายด้วยรอยยิ้มแสนหยอกเย้าคำว่า ‘ทะเล’ สามารถล่อซื้อจิตใจเด็กชายได้โดยง่าย คำบ่นอุบต่าง ๆ นานาก่อนหน้าเงียบลงทันตาโนอานั้นชื่นชอบทะเลและมหาสมุทรเป็นชีวิตจิตใจ เด็กน้อยชอบทะเลมากเสียจนครั้งหนึ่งเคยร้องไห้งอแงทั้งอาทิตย์ หล

  • ธุลีใจ   บทที่ 11

    โรแวนก้าวเข้ามาประชิดร่างฉัน แววตาเขาแผดเผาและรูจมูกขยับอย่างโมโหจัด ฉันยังคงยืนกรานไม่ยอมให้เขามาข่มขู่ฉันได้“ผมไม่ไป ยกเลิกอูเบอร์แล้วก็ย้ายก้นไปขึ้นรถผมเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มกัดฟันกรอด ราวมีพายุพัดโหมในแววตามือของฉันกำแน่นเป็นสัญญาณแห่ความเดือดดาลที่กำลังปะทุ ยามปกติฉันคงยอมถอยเพราะไม่ต้องการยั่วโทสะเขา แต่ตอนนี้ฉันไม่สนแล้ว“เลิกมั่นหน้ามั่นใจสักที…คิดว่าใหญ่มาจากไหนมิทราบ? ฉันไม่ใช่ลูกหมาที่คุณจะมาชี้นิ้วออกคำสั่งได้นะ” ฉันเริ่มขึ้นเสียงเพราะเดือดจัดหลายปีที่ผ่านมาฉันยอมให้เขาบงการฉันมาตลอด หลายปีที่ผ่านมาฉันยอมเงียบปากเพียงเพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีที่คิดว่าเราทั้งสองมีต่อกัน กระนั้นฉันได้รับสิ่งใดตอบแทนมาเล่า? ความอดทนและอดกลั้นช่วยนำสิ่งใดมาบ้าง? ไม่มีเลยเว้นเพียงความทุกข์กายและทุกข์ใจ“เอวา…” โรแวนเรียกชื่อฉันเพื่อเตือนสติ“พ่อกับแม่ทะเลาะกันอีกแล้วหรือครับ?” น้ำเสียงเล็กของโนอาสลายบรรยากาศตึงเครียดตรงหน้าฉันหันไปเจอกับสายตาแสนเศร้าของเด็กน้อย ให้ตายสิ! ฉันไม่ต้องการให้โนอาเห็นเราทั้งสองเป็นเช่นนี้ ลูกไม่ควรเห็นเราทะเลาะกันตลอดเวลา“เปล่าจ้ะ เราไม่ได้ทะเลาะกัน เราแค่

  • ธุลีใจ   บทที่ 12

    “แม่คุณถามถึงคุณอยู่นะ พักหลังมานี้ได้คุยกับท่านบ้างหรือเปล่า?”ฉันส่งเสียงรำคาญใจ “คุณพูดมากไม่หยุดจนประสาทฉันเริ่มกินแล้วนะโรแวน ช่วยทำเหมือนฉันไร้ตัวตนต่อไปเหมือนที่เคยทำมาตลอดได้ไหม?”มือชายหนุ่มกำพวงมาลัยแน่น ฉันเห็นเขาขบกรามเขม็ง รู้สึกได้เลยว่าเขาหัวเสียไม่น้อย อาจเป็นเพราะฉันไม่ได้เป็นลูกไก่ในกำมือเขาแล้วก็เป็นได้ กระดานพลิกแล้วและเขาไม่ชอบเลยสักนิดฉันเคยทุ่มสุดตัวเพื่อให้ชายหนุ่มมีความสุข พยายามเป็นอย่างที่เขาต้องการ พยายามเป็นเช่นเอมม่า ทำทุกอย่างเพื่อให้กลายเป็นดั่งศรีภรรยาที่เขาหมายปอง ตอนนี้ฉันไม่สวมบทบาทนั้นแล้วและดูเหมือนเขาจะไม่พอใจกับการที่ฉันเลิกเป็นเบี้ยล่างอย่างมาก ฉันยกยิ้มการปั่นประสาทชายหนุ่มทำให้บางสิ่งในจิตใจบรรเทาลงได้นับจากนั้นตลอดการเดินทางก็เป็นไปอย่างเงียบเชียบ เราทั้งสองนั่งนิ่งในเบาะนั่งของตนขณะที่โนอาหัวเราะกับการ์ตูนอย่างมีความสุข หนึ่งชั่วโมงให้หลังเราจึงเดินทางถึงสนามบิน ฉันจูงมือโนอาเอาไว้และโรแวนก็ทำหน้าที่พนักงานขนกระเป๋า“ผมตื่นเต้นอยากเห็นทะเลจังครับ” โนอาเอ่ยพร้อมกระโดดโลดเต้นอย่างเริงร่า“ถ้างั้นก็ไปเลยไหม…พวกเราไม่ถ่วงเวลาลูกแล้ว” โรแ

Latest chapter

  • ธุลีใจ   บทที่ 522

    เอมม่าฉันจ้องมองความยุ่งเหยิงตรงหน้า ไม่แน่ใจจริง ๆ ว่าจะจัดการกันมันอย่างไร ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ฉันรู้สึกแปลก ๆ และไม่สามารถระบุเหตุผลที่แน่ชัดได้ว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ฉันพยายามคิดทบทวนแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรผุดขึ้นมาในหัวเลย สิ่งที่ฉันรู้คือ ฉันรู้สึกแปลก ๆ เหมือนมีอะไรผิดปกติ หรือกำลังจะมีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ฉันก็ไม่สามารถสลัดความรู้สึกนี้ออกไปได้ มันยังคงอยู่และทับถมอยู่ภายในจิตใจเคยรู้สึกแบบนั้นกันไหม? รู้สึกเหมือนมีลางสังหรณ์ว่ากำลังจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น? มันทำให้ฉันหงุดหงิด เพราะฉันไม่สามารถบอกได้แน่ชัดและมันกำลังทำให้ฉันคลั่งตายอยู่แล้วฉันถอนหายใจพลางมองลงไปยังมือที่สวมถุงมืออยู่ คุณหมอมีอาแนะนำว่าฉันควรทำอะไรสักอย่างเพื่อเบี่ยงเบนความกังวลและผ่อนคลายให้มากขึ้น เมื่อวานฉันคุยกับเอวา และบังเอิญพูดถึงเรื่องนี้ เธอแนะนำว่าฉันควรลองทำสวนดูบ้าง ตามที่เธอพูด มันเคยช่วยเธออยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเธอเครียดและต้องการทำอะไรสักอย่างเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเอวาบอกฉันว่าเธอเคยปลูกผัก แต่เธอแนะนำให้ฉันลองปลูกดอกไม้ดูถ้าไม่อยากปลูกผักดังนั้นฉันก็เ

  • ธุลีใจ   บทที่ 521

    "ฉันจะคุยกับพ่อแม่ให้เอง" พวกเราหันไปมองอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นเอวาหยุดยืนอยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว สายตาจ้องมองไปยังทราวิส "เราแก้แค้นกันมานานเกินพอแล้ว""ส่วนตัวมองว่ามันยังไม่นานพอนะ" รีเปอร์แทรกขึ้นมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความขยะแขยง "พอลองนึกดูว่าพวกแกปฏิบัติต่อเอวายังไง ถ้าเป็นฉันก็คงไม่หยุดหรอก""พูดจริงเหรอ? แล้วน้องแกล่ะ? มันหลอกใช้เธอเลยนะเว้ย" ทราวิสระเบิดอารมณ์ ความโกรธปรากฏชัด"ก็จริง แต่มันเองก็ต้องชดใช้สิ่งมันทำอีกนานเลย... แล้วแกกับบ้านแกล่ะ? อีธานหลอกใช้เธอแค่สองสามเดือน แต่สุดท้ายก็ตกหลุมรักเธอ ส่วนแกมันคนละเรื่องกันเลย แกปฏิบัติกับเธอเหมือนขยะมาตั้งแต่เธอยังเด็กอยู่เลย แกชดเชยความผิดที่แกทำไว้ได้จริงเหรอวะ?"โรแวนตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินชื่ออีธานและความรักที่เขามีต่อเอวา ผมรู้จักพี่ชายตนเองดี และพวกเราเคยคุยเรื่องนี้กันสองสามครั้ง ความมั่นคงของพี่ชายยังสั่นคลอนเมื่อพูดถึงอีธาน มันทำให้เขาเจ็บปวดเมื่อนึกว่าตอนนั้นหากอีธานไม่ทำพลาด เอวาคงจะตกหลุมรักเขาจนหมดหัวใจ และตนคงหมดหวังกับเอวาไปแล้วผมพยายามบอกเขาเสมอว่าหัวใจของเอวาเป็นของเขามาโดยตลอด ผมพยายามยืนยันกับพี่ชายว่าถ้า

  • ธุลีใจ   บทที่ 520

    เกเบรียลพวกเรามองพ่อเดินออกมุ่งตรงไปหาแม่ของพวกเรา ตามที่เขาพูดพวกเราน่าเบื่อเป็นบ้า เขาเลยไปหาแม่แทน หากมองตามที่เขาพูด แม่เป็นเพื่อนคุยที่ดีกว่าพวกเรามากนักทันทีที่เขาพ้นไปจากระยะที่ได้ยินบทสนทนาได้ ทราวิสหันมาหาพวกเรา คิ้วขมวดมุ่น"ฉันไม่เข้าใจว่ามันมาที่นี่ทำไม" ทราวิสบ่น ขณะจ้องมองรีเปอร์ด้วยสายตาอาฆาต"อยากมีปัญหาหรือไง?" รีเปอร์ถาม แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะสงบ แต่ก็มีกระแสอันตรายที่ไม่อาจปฏิเสธได้ซ่อนอยู่สายตาเขาเปล่งประกาย แม้ในขณะที่เขายังคงทำตัวสงบและเยือกเย็น ควรจะเป็นคำเตือนที่เพียงพอว่าไม่มีใครควรขัดขวางเขาได้ เขาคือความอันตรายที่จับต้องได้ แต่เพื่อนสนิทของผมเป็นคนโง่เกินกว่าที่จะตระหนักถึงสิ่งนั้น ตระหนักว่ารีเปอร์ไม่ใช่พวกไก่อ่อน แม้ว่าตอนนี้เขาจะดูไม่เป็นพิษเป็นภัยก็ตาม“เออ เอาไหมล่ะ” ทราวิสคำราม "แกฆ่าพ่อฉันนะ แล้วยังมีหน้ามาที่นี่เหรอ?""ฉันมาที่นี่กับคู่หมั้น ปัญหาของนายก็เชิญไปจัดการเอาเองสิ"โรแวนกับผมมองหน้ากัน เมื่อความตึงเครียดระหว่างรีเปอร์กับทราวิสเพิ่มขึ้น ถ้าพวกเราไม่จัดการเรื่องนี้ สิ่งต่าง ๆ จะบานปลายอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่ผมไม่ต้องการมากที่สุดคือ

  • ธุลีใจ   บทที่ 519

    ฉันมีผลิตภัณฑ์ของพวกเธออยู่ชิ้นหนึ่ง และมันเป็นชิ้นโปรดเลย จริง ๆ ต้องบอกว่าเคยมีมากกว่าเพราะตอนนี้ฉันไม่ได้ใช้มันแล้วตั้งแต่เกเบรียลกับฉันอยู่ด้วยกัน ยังไงก็ตามคุณแทบจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเลยตอนที่ใช้เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนของจริงมากพวกเขามีของเล่นอื่น ๆ ด้วย แต่แท่งสวรรค์เนี่ยชิ้นโปรดเลย"แบบว่ามันต้องวิจัยกันเยอะเลยแหละเธอ และพวกเราทุกคนก็มีส่วนร่วมด้วย การวิจัยและการทดลอง สนุกอย่าบอกใครเลย" เอวาเสริมพร้อมรอยยิ้ม"ในเมื่อเธอชอบผลิตภัณฑ์ของเราแบบนี้" เล็ตตี้พูดพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "มาเป็นหุ้นส่วนเลยไหมล่ะ?"ฉันขมวดคิ้วขณะที่คิด "ฉันไม่รู้นะ เกเบรียลคืนบริษัทของครอบครัวฉันมาให้แล้วด้วย การที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับบริษัทขายของเล่นทางเพศจะไม่ทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทเสียเหรอ? เธอรู้ว่าคนเรามันช่างติขนาดไหน""ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นเลยจ้ะ" เอวาพูด "พวกเราเป็นเหมือนหุ้นส่วนลับ ๆ กันหมด เราจ้างทั้งคนที่รับตำแหน่งประธานกับรองประธานนั้นแหละ แต่พวกเขาเป็นฉากหน้าของบริษัทเท่านั้น เราเป็นคนจัดการเรื่องต่าง ๆ และแน่นอนว่าพวกเขาช่วยด้วย แต่ไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นผู้ก่อตั้ง ยกเว้นพวกเขาสองคน

  • ธุลีใจ   บทที่ 518

    "นี่โรคะ" เอวาพูดเสียงดัง"ลูกจะต้องบริสุทธิ์และไร้เดียงสาไปจนถึงวันที่แก่และผมหงอกจนหมดหัวนั่นแหละ จบเรื่อง" พูดจบเขาก็เดินกระทืบเท้าออกไป ความคิดที่ว่าไอริสจะมีเซ็กส์ในวันหนึ่งเห็นได้ชัดว่ารบกวนจิตใจเขาไม่น้อยเอวาหันมาหาฉัน "ฉันไม่เข้าใจเลยนะ! กะอีแค่คิดว่าไอริสจะไปมีอะไรกับใครมันกวนใจเขามากขนาดนี้ได้ยังไง ขนาดเรายังมีอะไรกันตลอดเลย? ฉันก็เป็นลูกสาวของคนอื่นเหมือนกันนะและเขาก็ยังทำแบบนั้นกับฉันเลย!"ฉันหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะลูบแขนเธอเป็นการปลอบโยน "ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันคิดว่าผู้ชายน่ะ เวลาพูดถึงลูกสาวของตัวเองก็เป็นเหมือนกันหมดแหละ เกเบรียลก็พูดอะไรทำนองเดียวกันเกี่ยวกับลิลลี่เหมือนกันนะ... อีธานก็จะตอบสนองแบบเดียวกัน และรีเปอร์ก็จะเหมือนกันถ้ามีลูกสาว พ่อของฉันเคยพูดว่าเขาจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ฉันเลยด้วย และฉันพนันได้เลยว่าถ้าเธอถามพ่อตัวเอง เขาก็คงคิดแบบเดียวกันตอนที่เธอเกิดมานั่นแหละ ให้ตายสิ ฉันรู้ว่าเขาคงเกลียดความคิดที่ว่าเธอและโรแวนมีอะไรกัน ในหัวของเขา เขาคงอยากจะเชื่อว่าโนอากับไอริสถูกนกกระสาคาบมาส่งมากกว่าแหละ"เอวาหัวเราะ รอยขมวดคิ้วบนใบหน้าหายไป "ฉันเกือบลืมบอกเธอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 517

    ฮาร์เปอร์ฉันมองไปรอบ ๆ พยายามตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือเปล่า เราย้ายมาอยู่ที่บ้านใหม่วันนี้ และเราตัดสินใจจัดงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่กัน มันไม่ได้เป็นงานใหญ่โตอะไรมากนัก มีเพียงเพื่อนสนิทและครอบครัวเท่านั้น"ทุกอย่างพร้อมแล้วใช่ไหมคะ?" ฉันเอ่ยถามแม่ครัวของเราเธอตื่นตาตื่นใจกับบ้านหลังนี้มากและตกหลุมรักห้องครัวเข้าเต็มเปา เหมือนที่ฉันเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ห้องครัวเป็นความฝันของแม่ครัวทุกคน ถ้าไม่ใช่เพราะเธอต้องกลับบ้านไปหาครอบครัว ฉันสาบานได้เลยว่าเธอคงนอนอยู่ที่นี่ ฉันหมายถึงในห้องครัวเลย ไม่ใช่ในตัวบ้าน"ค่ะ" เธอส่งยิ้ม ดวงตาเป็นประกายด้วยความสุขและความตื่นเต้น "ทุกอย่างพร้อมแล้วค่ะ"อย่างที่ฉันบอก เราไม่ได้ต้องการงานเลี้ยงใหญ่โตขนาดนั้น มีเพียงพ่อแม่ของเกเบรียล โรแวนและเอวา ทราวิสและเล็ตตี้ คอนนี่และรีเปอร์ โนอา ไอริส กันเนอร์ และหนูเซียร่าเสียงกริ่งประตูดังขึ้น และฉันออกจากห้องครัวไปเปิดประตู ลิลลี่ยังแต่งตัวไม่เสร็จ และเกเบรียลหายตัวไปไหนก็ไม่ทราบได้เมื่อไม่กี่วันก่อน ฉันรวบรวมความกล้าและลองตรวจครรภ์ดู ทั้งสิบครั้งผลออกมาเป็นบวกทั้งหมด แต่ฉันยังไม่ได้บอกเกเบรี

  • ธุลีใจ   บทที่ 516

    ผมประสานมือวางบนเคาน์เตอร์ครัว ไม่รู้ว่าจะแสดงท่าทีหรือพูดอะไรตอบกลับลูกไปดี“แล้วลูกรู้สึกยังไงล่ะ?” ในที่สุด ผมก็ถามเขาหลังจากเงียบไปสักพัก"ผมไม่รู้ครับ ผมไปคุยกับโนอามาด้วยนะพ่อ และเขาเล่าว่าเธอขอโทษเขาเรื่องที่เข้าแทรกกลางระหว่างน้าโรแวนกับน้าเอวาน่ะครับ"นั่นเป็นข่าวใหม่สำหรับผมเลย ดูเหมือนว่าเอมม่ากำลังเดินสายขอโทษคนที่เธอทำผิดอยู่ รวมถึงพวกเด็ก ๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะมองข้ามไป"เมื่อสองสามอาทิตย์ก่อน เธอขอโทษพ่อด้วยเหมือนกันนะ" ผมสารภาพ“แล้วพ่อรู้สึกยังไงล่ะครับ”“นี่ลองเล่นเป็นพ่ออยู่เหรอไง?” ผมหัวเราะเล็กน้อย “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรานะ แต่พ่อเป็นห่วงลูกมากกว่าน่ะสิ”เขาถอนหายใจ "ผมไม่รู้ครับ ผมยังโกรธเธอและรู้สึกแย่มาก ๆ อยู่เลย หน้าอกมันรู้สึกเจ็บตอนคิดถึงความเจ็บปวดที่เคยรู้สึก ตอนผู้หญิงคนนั้นเขาไม่ได้ต้องการผม""พ่อเข้าใจนะลูก และลูกก็มีสิทธิ์ที่จะโกรธด้วย เรื่องที่ลูกเจ็บปวดมันไม่มีใครมาว่าลูกได้หรอกนะ เข้าใจไหม? แม้ว่าจะไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงก็ไม่เป็นไรหรอก อารมณ์อาจจะวุ่นวายและขัดแย้งกันได้ในบางครั้ง"ผมพยายามอธิบายให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมไม่อยากให้กันเนอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 515

    ผมดูวิดีโอที่คินลีย์ส่งมาพร้อมหัวเราะเบา ๆ เพราะความตลก เธอส่งวิดีโอสัตว์ตลก ๆ เรื่อยเปื่อยมาให้ผม เพราะเธอรู้ว่ามันทำให้ผมหัวเราะออกมาได้ ไม่เคยมีวันไหนเลยที่จะนั่งว่าง ๆ โดยที่ไม่ได้รับวิดีโอจากเธอ ถ้าพูดตามตรง ผมตั้งตารอที่จะเห็นวิดีโอพวกนั้นในห้องแชทองเราความสัมพันธ์ระหว่างเราสมบูรณ์แบบมาก นอกจากเอมม่าแล้ว ผมไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน แน่นอนว่าสมัยมหาวิทยาลัย ผมก็เลือกจะก้าวไปข้างหน้าแต่มันกลายเป็นการนอนกับผู้หญิงไม่เลือกหน้ามากกว่าการตัดใจจากเอมม่าอย่ามองผมแบบนั้น ผู้หญิงทุกคนที่ผมนอนด้วยรู้สถานการณ์ต่าง ๆ ดี พวกเธอรู้ว่าไม่มีอะไรระหว่างเราได้ และมันเป็นแค่กิจกรรมฆ่าเวลา ผมทำให้มันชัดเจนมากก่อนขึ้นเตียงกับพวกเธอ พวกเธอเข้าใจและยอมรับ ชีวิตเรียบง่ายจนกระทั่งเอมม่ากับผมมาเจอกันอีกครั้งหลังจากนอนกับเอมม่าครั้งแรก ผมก็ยุติกิจกรรมแบบความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนไป จากนั้นเอมม่าก็ตั้งครรภ์และคุณก็รู้เรื่องที่เหลือ ผมไม่ได้อยู่กับผู้หญิงคนอื่นเลยนับตั้งแต่คืนแรกกับเธอ ผมรู้ว่ามันน่าสมเพช แต่ถ้าให้แก้ตัวแบบโง่ ๆ ก็คงเป็นเพราะผมกำลังมีความรักอยู่ ไม่ว่าหัวใจผมจะเจ็บปวดขนาดไหนแต่ผมค

  • ธุลีใจ   บทที่ 514

    "รู้สึกยังไงที่ได้เจอกันเนอร์คะ?" คุณหมอมีอาเอ่ยถาม ดวงตาเฉียบแหลมเช่นเคย เธอจ้องมองฉันราวกับว่าเธอสามารถมองทะลุเข้าไปในจิตวิญญาณได้เนื่องจากฉันกลับไปทำงานแล้ว เราจึงต้องปรับตารางเวลาให้เข้ากับตารางเวลาใหม่ของฉัน การเข้ารับบำบัดส่วนใหญ่จึงถูกกำหนดไว้ระหว่างสี่โมงครึ่งถึงหกโมงเย็นฉันรู้อยู่แล้วว่าคำตอบคืออะไร ฉันไม่ต้องคิดเกี่ยวกับมันเลย การคิดถึงวันนั้นกลับทำให้น้ำตาคลอเบ้าอีกครั้ง"ใจสลายค่ะ" ฉันแทบจะกระซิบคำพูดออกมารู้สึกเหมือนว่าพรั่งพรูออกมาจากภายใน จากส่วนลึกที่สุดของจิตวิญญาณ ฉันพยายามบังคับเสียงสะอื้นที่เหมือนกำลังจะหลุดออกมา แต่มันไร้ประโยชน์ มันหลุดออกมาจากตัวฉันพร้อมความเจ็บปวด ทำให้ฉันหายใจไม่ออก"ยังไงคะ?" คุณหมอมีอาเอ่ยถามพร้อมกับยื่นกระดาษทิชชู่ให้ฉันฉันรับมันมาเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาบนใบหน้า มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยเพราะมันยังคงไหลเหมือนแม่น้ำเชี่ยว ฉันโกรธน้ำตานี้ที่ไหลออกมาไม่หยุด จึงขยำทิชชู่อย่างหงุดหงิดก่อนโยนมันลงในถังขยะ"ฉันเห็นมันในดวงตาของลูกค่ะ ว่าลูกเกลียดฉัน" ฉันเริ่มพูด ยอมพ่ายแพ้ปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาบนใบหน้า "มีความโกรธมากมายสะท้อนอยู่ในดวงตาคู่นั้น มีคว

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status