ตลอดงานทั้งงานพราวพิ้งค์ไม่ค่อยมีรอยยิ้มเท่าไรนักเพราะรู้สึกอึดอัดกับสายตาของภคพลที่เอาแต่จับจ้องเธอตลอดเวลาก็ว่าได้
ในส่วนของภคพลเมื่อได้รู้จากคนในงานว่าเด็กหญิงตัวกลมวัยสองขวบที่หน้าตาออกไปทางลูกครึ่งนั้นเป็นลูกสาวของพราวพิ้งค์เขาก็ยิ่งเกิดความสงสัยเพราะมองยังไงหน้าตาของเจ้าก้อนกลมที่วิ่งเล่นหัวเราะร่าอยู่ในงานหน้าตาเหมือนกับเขาไม่มีผิดเพี้ยน
“ดีจ่ะ..”
ยัยหนูพลอยขวัญวิ่งเล่นที่ระเบียงหน้าบ้านจนเหนื่อยแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าภคพลยกมือป้อมสวัสดีคนตรงหน้าตามมารยาทที่คนเป็นแม่ได้สอน ชายหนุ่มหลี่ตามองเด็กหญิงที่ยืนเงยหน้ามองเขาตาแป๋วยิ่งมองใกล้เท่าไรยิ่งมั่นใจว่าอย่างไรเด็กคนนี้ก็ต้องมีเชื้อต่างชาติด้วยเพราะตาสีฟ้าเช่นเดียวกับเขาสีผมก็ยังเหมือนกันอีกด้วย
“ไง..เจ้าแก้มย้วย”
ภคพลย่อตัวลงยื่นมือหนาลูบพวงแก้มย้วยๆทั้งมองเด็กหญิงด้วยท่าทีเอ็นดูลึกๆแล้วยังมั่นใจว่าอย่างไรเด็กหญิงตรงหน้าคงเป็นลูกของตนแต่ก็ต้องถามกับพราวพิ้งค์ให้แน่ใจเสียก่อนว่าเธอจะตอบเขาว่าอย่างไร
“อุ้ม..”
ยัยหนูพลอยขวัญทิ้งก้นนั่งลงกับพื้นพร้อมยื่นแขนออกสองข้างหมายจะให้คนตรงหน้าอุ้มเพราะวิ่งจนเหนื่อยมากแล้ว
“หมดแรงวิ่งแล้วเหรอ”
ภคพลฉีกยิ้มกว้างสบถขำกับท่าทีน่าเอ็นดูของเจ้าแก้มย้วยเขาช้อนร่างเด็กหญิงอุ้มขึ้นด้วยแขนข้างเดียวเพราะแขนอีกข้างยังยกของหนักไม่ได้
“ท่าจะเหนื่อยจริงๆ”
ยัยหนูพลอยขวัญถูกอุ้มขึ้นมาได้ก็ทิ้งตัวซบหัวทุยกับบ่าของภคพลตาปรือชายหนุ่มจึงรีบอุ้มเข้าไปหาพราวพิ้งค์ด้านใน หญิงสาวที่เห็นลูกตัวเองอยู่กับภคภพลเธอก็รีบขอตัวจากผู้ใหญ่ที่กำลังยืนคุยด้วยปรี่เข้ามาหาลูกเธอทันที
“ยัยหนูมาหาแม่มาค่ะ”
ชายหนุ่มนึกไม่ชอบใจท่าทีของพราวพิ้งค์ที่เขามายืนอยู่ตรงหน้าอุ้มลูกของเธออยู่แบบนี้ยังไม่ยักจะคิดทักทายเขาแม้แต่คำเดียวมิหนำหน้าของเขาเธอก็ไม่คิดจะชายหางตามองแม้แต่น้อยพออุ้มลูกสาวจากอกออกไปได้ก็เดินหนีไปทันที
“คุณมี..”
ภคพลยังไม่ทันได้ถามคำถามให้หายคาใจว่าพราวพิ้งค์นั้นมีลูกกับใครแต่เบลล่านางแบบสาวที่เขาเคยควงก็โผล่มาดึงแขนเขาเอาไว้เสียก่อน
“คุณพอลคะ”
เบลล่านางแบบสาวสวยร่างสูงในชุดเดรสเกาะอกสั้นสีเทาเข้ามารวบกอดเอวของภคพลเอาไว้แน่นโดยไม่แคสายตาของผู้คนในงาน
“เบล..คุณมาที่นี่ได้ไง”
ภาพเกาะแกะกันของสองหนุ่มสาวเป็นที่จับตาของผู้คนที่กำลังนั่งทานอาหารกันในงานเพราะคนที่นี่ไม่ค่อยได้เห็นใครมาโอบกอดนัวเนียกันกลางแจ้งเท่าไรเพราะแถบชนบทนี้ยังเคร่งในวัฒนธรรมไทยที่ผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัวเป็นพิเศษ
พราวพิ้งค์ที่เห็นเช่นนั้นเธอก็มีสีหน้าไม่ชอบใจอย่างเห็นได้ชัดจึงรีบอุ้มลูกสาวตัวกลมหนีไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรภคพลก็ทำให้เธอได้เห็นแล้วว่านิสัยของเขาไม่เคยเปลี่ยนแม้แต่น้อยยังคงเปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเช่นเดิมเธอเลือกถูกแล้วที่เดินออกมาจากชีวิตของเขาในครั้งนั้น
“เบลคิดถึงคุณนี่คะ..ก้องภพบอกว่าคุณอยู่ที่นี่เบลก็เลยรีบมาหา”
ภคพลรีบดึงแขนของเบลล่าออกจากตัวเพราะเห็นสายตาที่พ่อของเขามองมาไม่ดีเท่าไรนักเขารีบลากนางแบบสาวออกมาจากในบ้านเพื่อมาคุยกันในที่ลับตาคน
“ผมไม่ชอบอะไรคุณก็น่าจะรู้”
ภคพลเอ่ยเสียงแข็งใส่นางแบบสาวด้วยท่าทีไม่พอใจ
“เบลคิดถึงคุณพอลนี่คะ..”
เบลล่ายังคงทำทีออดอ้อนไม่หยุด
“คิดถึงผมหรือคิดถึงเงิน”
เมื่อถูกตั้งคำถามจี้ใจดำเบลล่าก็ถึงกับเงียบก้มหน้าบุ้ยปากเล็กน้อยอันที่จริงเงินเธอก็ต้องการแต่ต้องการที่จะอยู่กับภคพลบ้างมากกว่า
“เอาเป็นว่าผมจะโอนเงินให้คุณตอนนี้แล้วก็กลับไปซะ”
“ขออยู่กับคุณพอลที่นี่คืนเดียวไม่ได้เหรอคะ”
“ไม่ได้ที่นี่ไม่ใช่บ้านผม...ผมไม่ชอบคนพูดไม่รู้เรื่องถ้าไม่กลับไปดีๆก็ไม่ต้องเอาสักบาท”
“ก็ได้ค่ะ...กลับก็ได้”
กว่าจะเคลียธุระน่ารำคาญใจตรงนี้เสร็จได้ภคพลก็เสียเวลาไปพักใหญ่ หลังจากเบลล่ายอมกลับไปแล้วภคพลก็รีบเดินตามหาพราวพิ้งค์ทันทีเพราะต้องการจะคุยเรื่องยัยหนูพาขวัญให้รู้ว่าใครเป็นพ่อของแกกันแน่
ทางด้านพราวพิ้งค์เมื่อขอตัวจากทุกคนได้ก็อุ้มเจ้าตัวกลมที่กำลังหลับมาที่ลานจอดรถใต้ต้นไม่ใหญ่หญิงสาววางลูกน้อยลงที่คาร์ซีทได้ร่างของเธอก็ถูกภคพลดึงจนตัวปลิว“ผมขอคุยด้วยหน่อย”“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันนะคะ”พราวพิ้งค์ที่ยังคงไม่พอใจชายหนุ่มเมื่อครู่รวมถึงพฤติกรรมที่เขาทำกับเธอตอนนี้จึงส่งเสียงแข็งตอบกลับชายหนุ่มด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์และพยายามแกะมือหนาของเขาออกจากแขนแต่ก็ทำได้ยาก“เด็กคนนั้นเป็นลูกผมใช่หรือเปล่า”ภคพลเปรยสายตาไปในรถยังเจ้าก้อนกลมที่กำลังหลับ พราวพิ้งค์นิ่งงันตัวชาวาบคำถามของภคพลทำให้เธอเริ่มใจเต้นไม่เป็นส่ำเหงื่อเม็ดเล็กเริ่มไหลซิกที่หน้าผากเพราะไม่นึกไม่ฝันว่าจะต้องมาตอบคำถามอะไรเช่นนี้“ฉันจะไปมีลูกกับคุณได้ยังไงคะในเมื่อคุณก็เป็นคนพูดเองว่าไม่ต้องการให้มีอะไรผูกมัดกับคนที่เป็นแค่คู่นอน”คำที่ชายหนุ่มเคยพูดกับเธอในตอนที่ให้เธอเป็นเพียงคู่นอนพราวพิ้งค์ยังจำมันได้ดีจึงอยากให้เขาเข้าใจว่าเธอไม่ได้ผิดสัญญาแม้แต่น้อย“แล้วลูกคุณกับใคร...หรือออกจากชีวิตผมไปแล้วคุณก็ไปนอนกับคนอื่นอีก”คำพูดของภคพลทำให้หญิงสาวที่รู้สึกไม่พอใจในตัวเขาอยู่แล้วยิ่งทวีคูณโทสะนั้นเพิ่มขึ้นไปอีก“ค่ะ..
“ทำไมต้องหาแต่เรื่องฮะ...ไอ้นิสัยใจร้อนโผงผางเมื่อไรจะเลิกซะที..แล้วนี่ยังไปลวนลามคนอื่นไม่เลือกหน้า..งามหน้าไหมล่ะ”ภูริชยืนเท้าเอวบ่นภคพลอุกเพราะเขารับรู้พฤติกรรมไร้มารยาทของลูกชายคนเล็กมานานแล้วคิดว่าโตขึ้นแล้วจะคิดได้กลับหนักกว่าเดิม“บ่นพอหรือยังครับ.. ผมขอตัวไปทำแผลก่อนนะครับ”ภคพลมองจ้องไปยังคนเป็นพ่อด้วยท่าทีที่ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรก่อนจะเดินหนีหลังจากที่พ่อตนนั้นพูดจบเพราะไม่อยากจะฟังคำต่อว่าอะไรต่ออีก“ฉันจะทำยังไงกับมันดี..เห็นทีต้องดัดไม้แก่กันก็คราวนี้”ภูริชหันมาหาโนแอลไม่รู้ว่าเขาเลี้ยงลูกผิดตั้งแต่เมื่อไรโตมามีการมีงานทำถึงได้นิสัยเสียมากเข้าทุกวี่ทุกวัน“ใจเย็นๆครับคุณพ่อ”โนแอลรู้ว่าน้องชายตนนั้นมีอำนาจในมือล้นเหลือจนเคยตัวเขาต้องเป็นหัวหน้าคนมากมายจึงทำให้ค่อนข้างติดนิสัยเผด็จการมากพอสมควรแต่ก็ยังมองไม่ออกเหมือนกันว่าจะขจัดนิสัยนี้ของน้องตัวเองได้อย่างไรไม่ใช่แค่ภคพลคนเดียวที่มีนิสัยเช่นนี้แต่นาดีลก็เป็นเช่นกันดึกมากแล้วสาวร่างเล็กในชุดนอนสายเดี่ยวซาตินสีชมพูสั้นเลยเข่ายังคงกอดอกเดินไปมาในห้องนอนครุ่นคิดถึงคำถามของภคพลเมื่อกลางวันอยู่ไม่วาง ไม่แปลกที่เขาจะคิดว่ายัยหน
เช้าวันต่อมาไร่เหมวัตวันนี้มีเรื่องให้ภูริชต้องปวดหัวอีกแต่เช้าเมื่อได้รับข่าวจากเลฟคู่ค้าคนสำคัญว่าลูกชายของเขาส่งคนไปทำร้ายอิกอร์น้องชายของเลฟจนบาดเจ็บสาหัสเพียะมือหนาฟาดเข้าแก้มซ้ายของลูกชายคนเล็กเต็มแรงจนหน้าหันด้วยความโมโหน้อยครั้งนักที่เขาจะลงมือกับลูกแบบนี้ภคพลน้ำตาคลอเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดที่ใบหน้าของเขาแม้แต่น้อยแต่กลับเป็นที่ใจมากกว่าที่ถูกคนเป็นพ่อตบตีด่าทอทั้งที่เขาเป็นฝ่ายที่ถูกอิกอร์กระทำก่อน“ทำอะไรไม่รู้จักคิดดีที่เลฟไม่เอาเรื่องอะไร”ภูริชตวาดเสียงฝาดเพราะดีแค่ไหนที่เขาคุยกับเลฟจนเขาอารมณ์เย็นลงและเข้าใจว่าอิกอร์ทำภคพลก่อนได้ไม่เช่นนั้นภคพลเองจะตกอยู่ในอันตรายซึ่งเขาก็ไม่สามารถที่จะปกป้องลูกได้ตลอดเวลาแม้นจะมีอำนาจมากพอกับเลฟก็เถอะ“แต่อิกอร์ทำผมก่อนนะครับ”ภคพลเอ่ยตอกกลับคนเป็นพ่อเสียงสั่นโมโหเหลือเกินที่พ่อของเขาไม่มีทีท่าจะปกป้องเขาแม้แต่น้อย“ฉันรู้.. แต่ทำไมไม่รู้จักใช้ปัญญาแก้ปัญหาทำไมชอบใช้แต่กำลัง”“ที่คุณพ่อโกรธขนาดนี้เป็นเพราะเลฟเป็นคู่ค้าคนสำคัญใช่หรือเปล่าครับ”“พอลหยุด..คุณพ่อไม่เคยคิดเห็นคนอื่นดีกว่าคนในครอบครัว”โนแอลที่ยืนเงียบในสถานการณ์ที่ไม่ค่อ
“คุณพิ้งค์”“อ่อ..ครับ..แล้วเธอดูแลทุกเรื่องเลยหรือเปล่าครับ”เห็นจะมีเรื่องนี้ที่ทำให้ที่นี่น่าอยู่สำหรับเขาขึ้นมาหน่อย“ก็..ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกเธอได้ตลอด”“ครับคุณอา..”“แล้วอย่าทำเรื่องอะไรที่มันงามหน้ามาถึงฉันด้วยล่ะ”ภูริชต้องพูดดักลูกชายตัวดีของเขาไว้ก่อนเพราะไม่อยากจะรับรู้รับฟังว่าภคพลมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใครหรือทำเรื่องเสียหายกับผู้หญิงอีก“ค้าบบ..คุณพ่อ”วันต่อมาในเวลาใกล้ที่จะโพล้เพล้หลังจากที่ภูริชกลับกรุงเทพพร้อมโนแอลและแดนไทยเดินทางไปฮันนีมูนกับปลายฝันสมหมายชายวัยเกือบห้าสิบผู้จัดการไร่ส้มในไร่ของเหมวัตก็ขับรถมาส่งภคพลที่กระท่อมเล็กท้ายไร่แม้นที่นี่จะเรียกว่ากระท่อมแต่มันก็ถือว่าใช้กินใช้อยู่ได้สะดวกพอสมควรเพราะกระท่อมริมธารน้ำตกท้ายไร่เหมวัตเป็นกระท่อมยกพื้นสูงชานระเบียงกว้างหลังคากระเบื้องแข็งแรงเรียกว่าบ้านหลังเล็กก็ยังได้ตัวเรือนทำด้วยไม้แผ่นใหญ่ฝาผนังด้านข้างเป็นไม้ไผ่สานหากภคพลเดาไม่ผิดโครงสร้างคงเป็นไม้สักด้านข้างเป็นครัวที่มีอุปกรณ์ครบครันมีไฟฟ้าเข้าถึงเรียบร้อยเดาว่าอาของเขาคงให้คนจัดเตรียมเอาไว้ให้ด้านในกระท่อมมีห้องนอนที่ไม่ใหญ่มากนักกั้นด้วยไผ่สานแยกจา
ช่วงสายวันต่อมา“คุณพิ้งค์..ยัยหนูไปไหนแล้วล่ะครับ”คีรินเข้ามาทำธุระที่ไร่เหมวัตเขาจึงแวะเข้ามาหาพราวพิ้งค์ที่สำนักงานหลังจากที่รู้จากคนงานในไร่ว่าเธอมาทำบัญชีที่นี่วันนี้“ฟองจันทร์พาไปเล่นที่บ้านค่ะ”“ผมซื้อบัวลอยของป้าสายหยุดมาฝากครับ”พ่อเลี้ยงหนุ่มวางถุงบัวลอยบนโต๊ะทำงานของพราวพิ้งค์ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งตรงข้ามกับหญิงสาวคนในสำนักงานต่างก็มองมายังทั้งสองพรางอมยิ้มเพราะรู้ดีว่าคีรินนั้นตามจีบพราวพิ้งค์มานานแล้วแม่คุณก็ไม่ยอมใจอ่อนตกลงปลงใจกับคีรินเสียทีพวกเขาก็ได้แต่แอบเชียร์อยู่ห่างๆ“ขอบคุณนะคะ..รู้ได้ไงคะว่าพิ้งค์อยู่ที่นี่”“พี่มิ่งบอกครับ..แล้วทำไมวันนี้คุณพิ้งค์มาทำงานที่นี่ได้ปกติเห็นอยู่ที่บ้าน”คีรินต้องขอบคุณมิ่งหล้าคนดูแลโรงบ่มไวน์ที่ใจดีบอกกับเขาเมื่อเช้าว่าพราวพิ้งค์อยู่ในสำนักงาน“ปลายกับพ่อเลี้ยงไม่อยู่พิ้งค์ต้องมาที่นี่บ่อยน่ะค่ะ”Rrrrr“พิ้งค์รับโทรศัพท์แปปนะคะ”พราวพิ้งค์หันมายิ้มกับพ่อเลี้ยงหนุ่มก่อนจะก้มหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกง“ค่ะลุงสม.. ค่ะๆเดี๋ยวพิ้งค์จะรีบไปดูเค้านะคะ”พราวพิ้งค์รู้เรื่องไม่ค่อยดีนักจากปลายสายเธอเริ่มหน้าเสียเมื่อวางสายได้ก็รีบรนรานลุกออกจ
เวลาเกือบโพล้เพล้หลังจากที่พราวพิ้งค์ได้ยาตามที่สั่งกับสมหมายสองแม่ลูกขับรถเก๋งเข้ามาจอดใกล้ๆกับทางเข้ากระท่อมริมธารน้ำตกหญิงสาวอุ้มลูกวัยสองขวบพร้อมกระเป๋านมพะลุงพะลังเข้ามาบนชานกระท่อมยัยหนูพลอยขวัญดูท่าจะตื่นเต้นกับสถานที่แปลกใหม่ที่ได้มาพอสมควรดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆด้วยท่าทีสงสัยปนตื่นเต้นแต่ยังคงนิ่งเงียบไม่ส่งเสียงรบกวนอะไรคนเป็นแม่“คุณพอลคะ”พราวพิ้งค์ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูกระท่อมของภคพลเธอเรียกหาชายหนุ่มเสียงดังแต่ไม่ยักจะมีใครเปิดประตู“ปอออ..”เด็กหญิงเอ่ยขานตามคำสุดท้ายของคนเป็นแม่เสียงดังแต่ประตูห้องก็ยังไม่ขยับพราวพิ้งค์จึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป“คุณพอล”พราวพิ้งค์เอ่ยเสียงเรียกภคพลอีกรอบเมื่อเข้ามาในห้องโถงของกระท่อมไม่นานนักคนในห้องนอนก็เปิดประตูออกมาจากห้องนอนท่าทางของภคพลไม่ค่อยดูดีเท่าไรนักพราวพิ้งค์จึงรับรู้ได้ทันทีว่าเขาน่าจะไข้ขึ้น“คิดถึงผมเหรอ”คนตัวโตที่ยืนหน้าซีดเผือดยังมีแก่ใจเอ่ยหยอกหญิงสาวที่กระเตงเจ้าก้อนกลมเข้ามาหาเขาถึงที่นี่“แอ้..”มือป้อมยกชี้หน้าภคพลพร้อมส่งเสียงใสเอ่ยทักคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มกว้างเพราะจำได้ว่าเคยเจอกัน“ไง..เจ้าแก้มย้วย”มือหยายกหมาย
พราวพิ้งค์เสร็จจากธุระในห้องน้ำได้เธอก็รีบกลับเข้ามาในห้องนอนของภคพลหญิงสาวค่อนข้างเบาใจเมื่อเห็นชายหนุ่มหลับลงที่ฟูกนอนข้างเตียงไปได้จะได้ไม่ต้องมีบทสนทนากันให้เธอรู้สึกอึดอัดหากมีบางคำถามที่เธอไม่อยากจะตอบครั้นเมื่อจะลงนอนบนเตียงข้างๆลูกสาวพราวพิ้งค์ก็อดไม่ได้ที่จะผุดลุกลงมาจากเตียงอีกครั้งมานั่งลงวาดหลังมืออังหน้าผากของภคพลอีกรอบเพื่อดูว่าไข้ของเขาลดหรือยังหลังจากทานยาไปร่วมชั่วโมงแล้วหญิงสาวพอจะยกยิ้มมุมปากได้เพราะตัวของชายหนุ่มไม่ร้อนเท่าตอนที่เธอมาเจอคราแรกจึงหมายจะลุกกลับไปนอนบนเตียงแต่ร่างของเธอก็ถูกคนตัวโตรวบดึงไปนอนกอดเสียก่อน“คุณพอล..ปล่อยค่ะ”คิ้วบางได้รูปขมวดขึ้นผูกโบดวงตากลมโตจ้องมองค้อนใบหน้าคมที่อยู่ห่างจากสายตาไม่ถึงคืบความเจ้าเล่ห์ของภคพลไม่มีใครเกินเลยจริงๆ“ขอนอนกอดคุณไม่ได้หรือไงทำอย่างกับเราไม่เคยนอนด้วยกัน”เสียงแหบพร่าก่ายกระซิบข้างใบหน้านวลทั้งจ้องมองใบหน้าที่คุ้นเคยไม่วางตา“นั่นมันอดีตค่ะ..ปล่อย”พราวพิ้งค์ไม่กล้าที่จะโวยวายอะไรมากเพราะกลัวว่ายัยหนูพลอยขวัญจะตื่นหากเป็นสถานการณ์อื่นภคพลคงถูกเธอดุเสียงแข็งไปแล้ว“ไม่...หนีผมมาทำไม”ชายหนุ่มยังรัดร่างบางแน
ทางด้านในโรงอาหารที่ไร่ช่วงกลางวันผู้คนต่างจับกลุ่มกันพูดถึงเรื่องที่ลำเพยได้รับรู้มาบางคนที่สนใจเรื่องชาวบ้านก็จะพูดต่อปากต่อคำกันแต่บางคนที่สนใจแต่งานก็ทำเป็นไม่รับไม่รู้เรื่องของคนอื่นแต่เห็นประเภทไม่อยากรู้จะมีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นเพราะการติฉินนินทาของชาวบ้านชนบทเหมือนจะมองกันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วทั้งที่มันไม่ควรจะเป็นเช่นนั้นเลย“อยู่ด้วยกันทั้งคืนเลยเหรอ”ลำเพยไม่เพียงแค่พูดในโรงอาหารเท่านั้นแต่รามมาถึงขณะที่มาทำความสะอาดที่สำนักงานไร่ด้วยจนสาวๆที่ทำงานอยู่ในสำนักงานต่างก็หูผึ่งตาโพรงไปตามๆกันเมื่อได้รับรู้เรื่องของพราวพิ้งค์และภคพล“ก็ใช่น่ะสิแถมยังใส่เสื้อคุณพอลแค่ตัวเดียวด้วย.. สองคนนี้จุดติดกันไวเนอะ”ลำเพยเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงแห่งความมั่นอกมั่นใจว่าอย่างไรพราวพิ้งค์และภคพลก็จะต้องมีสัมพันธ์กันในคืนที่ผ่านมา“ป้าเพยก็พูดไปพี่พิ้งค์แค่ช่วยดูแลคุณพอลเท่านั้น”ฟองจันทร์ที่ช่วยคนเป็นแม่เอากับข้าวมาให้คนในสำนักงานก็ถือวิสาสะโต้เถียงแทนพราวพิ้งค์เพราะเชื่อในตัวพี่สาวของเธอว่าไม่ทำตัวง่ายกับผู้ชายที่ไม่ได้รักแน่นอน“เราน่ะจะไปรู้อะไรต้องคนอาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างป้านี่..ดูปราดเดียวก็รู