ดนัยหนุ่มวัยสามสิบห้าเขาเข้ามาทำงานในบริษัทของภูริชเพราะมีจุดหมายที่ต้องการก็คือเอาชีวิตนาดีลเพราะแค้นที่นาดีลนั้นหลอกน้องสาวของเขามีสัมพันธ์ด้วยจนเกิดท้องแล้วไม่รับผิดชอบแถมยังส่งคนมาพาน้องสาวของเขาไปทำแท้งและขาดการติดต่อไปจนน้องสาวของเขาคิดสั้นฆ่าตัวตายเหตุนี้เขาจึงคิดว่าชีวิตก็ควรจะแลกด้วยชีวิต
ที่ภูริชต้องร้อนรนขับรถออกมาเองจนเกิดอุบัติเหตุก็เป็นเพราะฝีมือของเขาเพียงแค่ทำให้รถมีปัญหานิดหน่อยแล้วก็โทรไปบอกความจริงว่านาดีลจะพาน้องสาวของเขาไปทำแท้งคนเป็นพ่ออย่างภูริชที่ไม่อยากให้ใครมารู้ความชั่วของลูกตัวเองจึงเลือกที่จะขับรถออกมาคนเดียวตามที่ดนัยได้วางแผนเอาไว้
ก้องภพมารับพราวพิ้งค์กลับมาที่บ้านของภคพลในช่วงเย็นโดยยังไม่ได้บอกเรื่องที่ภคพลนั้นเกิดอุบัติเหตุเพราะกลัวว่าหญิงสาวนั้นจะตกใจ
“คุณพิ้งค์พาคุณหนูพักผ่อนตามสบายเลยนะครับส่วนอาหารเย็นผมสั่งมาเรียบร้อยแล้วอยู่ที่โต๊ะอาหารในครัวครับ”
“แล้วคุณพอลไปไหนคะ...เค้าจะกลับมาเมื่อไร”
พราวพิ้งค์รีบชิงถามก้องภพขณะที่เขาจะหันหลังเดินออกไปจากบ้านหลังจากที่มาส่งเธอ
“เอ่อ..คุณพอลติดประชุมด่วนครับคืนนี้น่าจะไม่ได้กลับนะครับคุณพิ้งค์”
“ค่ะ”
ก้องภพจำเป็นต้องโกหกเพราะตอนนี้อะไรๆก็ฉุกละหุกไปหมดเขาต้องไปจัดการกับคนที่ทำเรื่องเพราะตำรวจแจ้งมาว่าจับดนัยได้แล้วพรุ่งนี้หากอะไรเรียบร้อยแล้วเขาจะเป็นคนบอกทุกอย่างกับพราวพิ้งค์ให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับภคพลเอง
พราวพิ้งค์ง่วนอยู่กับยัยหนูพลอยขวัญจนดึกเพราะเด็กหญิงงอแงหนักไม่ยอมนอนง่ายๆเธอเองก็ไม่เคยเห็นลูกเป็นเช่นนี้เหมือนกัน
กว่าจะพาเจ้าก้อนกลมเข้านอนได้ก็เป็นเวลาเกือบจะสี่ทุ่มหลังจากนั้นหญิงสาวจึงเริ่มที่จะเข้าไปอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนแต่พอจะล้มตัวนอนเธอก็ดันนอนไม่หลับ
ร่างบางในชุดนอนจึงมายืนพิงบานกระจกหลังห้องนอนที่สามารถมองทอดไปยังสระว่ายน้ำใหญ่ได้พลันสมองก็คิดถึงช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่
ในตอนนี้เธอเข้ามาในบ้านหลังนี้ด้วยความจำเป็นเพราะต้องการเงินที่จะเอาไว้เรียนหลังจากนั้นที่นี่ก็สร้างความสะดวกสบายให้เธอมากมาย..โดยแลกกับการที่เธอจะต้องเป็นคู่นอนให้กับภคพล
แต่ชีวิตของเธอในตอนนั้นก็เปรียบประหนึ่งภรรยาของชายหนุ่มที่ต้องดูแลเรื่องงานบ้านและของใช้ส่วนตัวของเขาทุกอย่างเพียงแค่ไม่ได้รับความรักจากภคพลและออกปากออกเสียงอะไรไม่ได้เวลาที่เขาพาผู้หญิงอื่นเข้ามา..
ในคราแรกยังวางเฉยได้เพราะไม่มีความรู้สึกแต่เมื่อมีความรู้สึกรักชายหนุ่มขึ้นมาแล้วเธอก็ทำใจที่จะเห็นเขายุ่งกับผู้หญิงคนไหนไม่ได้อีกวิธีที่ดีที่สุดที่คิดได้ตอนนั้นคือเธอต้องหนีไป
และวันนี้ก็ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะได้กลับมาอยู่ที่นี่อีกครั้งหวังในใจว่าภคพลคงจะไม่กลับไปมีนิสัยเช่นเดิมอีกไม่เช่นนั้นเท่ากับแผลในใจที่มันกำลังจะหายของเธอมันถูกทำให้อักเสบขึ้นมาใหม่และคงจะเจ็บระบมกว่าเดิมไม่น้อยเลยทีเดียว
วันต่อมา
โนแอลเดินทางมาที่สถานีตำรวจตั้งแต่เช้าเขาใช้สิทธิ์ความสนิทกับตำรวจที่นี่นิดหน่อยเพื่อขออยู่คุยกับดนัยตามลำพังเพราะอยากจะรู้จากปากดนัยเองเหลือเกินว่าแค้นอะไรนักหนาถึงได้ทำกับพ่อและน้องของเขาได้
“ทำทำไม..”
โนแอลเอ่ยเสียงแข็งดวงตาคมของเขามองจ้องไปยังคนตรงหน้าอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อแต่ยังดูสงบนิ่งราวกับเสือที่กำลังลอบมองเหนื่อหาโอกาสขย้ำ
“ให้พ่อมึงเจ็บไงมึงจะได้มาให้กูจัดการง่ายๆแต่น้องมึงดันโง่เอาตัวมาขวางก่อนเอง”
ดนัยจ้องตาอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัวทั้งยังยกยิ้มมุมปากเอ่ยน้ำเสียงยียวนอีกฝ่ายโดยไม่รู้สึกผิด
เพียะ
ท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาวของดนัยทำโนแอลฟิวส์ขาดเขาวาดหลังมือสะบัดเข้าแก้มซ้ายของดนัยจนหน้าหัน
“หึ่.. “
ดนัยหันมายกยิ้มท้าทายคนตรงหน้าทั้งที่ยังหน้าชาที่มุมปากก็ยังมีเลือดซิบ
“กูไปทำอะไรให้มึงแค้นนักหนา...กูไม่เคยรู้จักมึง”
“ใช่มึงไม่เคยรู้จักกู...แต่มึงรู้จักน้องสาวกู...มึงคือนาดีลผู้ชายเฮงซวยที่ทำน้องกูต้องฆ่าตัวตาย...สิ่งที่ครอบครัวมึงเจอก็สมควรได้รับแล้ว”
น้ำเสียงที่ต่อปากต่อคำของสองหนุ่มแข็งกร้าวอย่างไม่มีใครยอมใครและแล้วเรื่องก็ได้กระจ่างกับโนแอลว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไร
“มึงดูให้ดีว่ากูคือใคร”
สิ้นเสียงของโนแอลดนัยก็เริ่มมองไปยังนัยน์ตาของคนตรงหน้าอีกครั้งบวกกับสงสัยท่าทีเงียบขรึมที่เห็นตั้งแต่แรกของคนที่กำลังจ้องเขาเขม็งตอนนี้เขาก็พอจะเดาได้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่นาดีลอย่างที่คิด
“เฮ่อ...”
ดนัยหันหน้าหนีโนแอลด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ดูท่าเขาจะทำผิดพลาดไปเสียทุกอย่างลงทุนทำให้ภูริชเจ็บคิดว่านาดีลจะบินมาที่ไทยแต่กลับเป็นโนแอลและเขาก็ยังมองไม่ออกว่าไม่ใช่นาดีลแถมขับรถชนผิดคนอีกต่างหาก
“นาดีลทำอะไร”
“มันมาหลอกให้น้องกูรัก...มันเป็นพ่อเด็กในท้องน้องกู...มันบังคับให้น้องกูไปทำแท้ง..ไอ้ชาติชั่ว..”
สิ้นเสียงสบถอย่างไม่พอใจของดนัยโนแอลก็นั่งเงียบคราแรกเขาอยากจะสั่งสอนอีกฝ่ายที่ทำเลวกับคนในครอบครัวของเขาแต่เมื่อรู้ว่าดนัยนั้นสูญเสียอย่างน่าทรมานเหมือนกันเขาจึงเดินออกจากห้องมาอย่างเงียบๆทางด้านของดนัยเขาจะให้ตำรวจจัดการต่อไปแต่นาดีลที่จะเดินทางมาถึงไทยในอีกสองวันข้างหน้าเห็นทีเขาจะต้องเค้นกันหนัก
เช้าของวันต่อมาเป็นเช้าที่ไม่สดใสเท่าไรนักของพราวพิ้งค์เพราะหญิงสาวต้องมารับรู้ว่าตอนนี้ภคพลนอนเจ็บหนักอยู่ที่โรงพยาบาลเธอเอะใจตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่ามันจะต้องมีเรื่องอะไรแน่นอนและแล้วก็เกิดขึ้นจริงๆ
“แล้วนี่คุณพอลบาดเจ็บตรงไหนบ้างคะ”
“ที่หนักก็คือหัว.. มีไหปลาร้าแตกแขนซ้ายหักครับ.. ตอนนี้ต้องประเมิณกันเป็นชั่วโมงต่อชั่วโมง”
หญิงสาวนั่งหน้าเจื่อนมือไม้อ่อนกลืนน้ำลายไม่ลงกลัวเหลือเกินว่าภคพลนั้นจะพ่ายแพ้ต่อการบาดเจ็บครั้งนี้ไป
“คุณพิ้งค์ไม่ต้องห่วงยังไงพอลก็ต้องกลับมาเป็นปกติผมให้สัญญา”
ณดลรับปากกับพราวพิ้งค์เมื่อเห็นว่าเธอใจเสียหนักแม้นตอนนี้จะกังวลกับอาการของเพื่อนตัวเองพอสมควรแต่อย่างไรเขาก็ต้องช่วยภคพลให้ได้
สองวันต่อมา
“นายจะมาบอกว่าไม่รู้ไม่ได้”
โนแอลนั่งเค้นนาดีลเรื่องของนับดาวน้องสาวดนัยพักใหญ่ตั้งแต่น้องชายฝาแฝดของเขากลับมาถึงบ้าน
“ก็ฉันไม่ได้ให้นับดาวไปทำแท้งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอท้อง”
นาดีลเริ่มมีทีท่าหัวเสียเพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่านับดาวท้องครั้งมาที่เมืองไทยสองปีก่อนเขาก็แค่คบกับนับดาวแบบพาร์ทเนอร์เท่านั้นเธอเองก็รู้และอีกอย่างเชื่อว่าตัวเองไม่เคยพลาดที่จะป้องกันทุกครั้งที่นอนกับใคร
“นายพูดจริงใช่หรือเปล่า”
“ฉันเป็นคนกล้าทำก็กล้ารับ..แถมไม่เคยลืมที่จะป้องกันทุกครั้งที่นอนกับผู้หญิงคนไหนด้วย”
“งั้นนายก็ต้องไปหาหลักฐานมาแก้ต่างให้ตัวเองแล้วล่ะ”
“เรื่องนั้นต้องทำอยู่แล้ว..แต่ขอถามหน่อยว่าเรื่องนี้คุณยายรู้แล้วใช่หรือเปล่า”
“อืม”
“งั้นรับสายแทนฉันหน่อยสิ”
นาดีลวางมือถือของเขาตรงหน้าโนแอลตอนนี้สายที่โทรมาไม่เคยเว้นว่างก็เป็นสายของคุณยายซึ่งนาดีลรู้เลยว่าหากเขารับคงถูกสวดหูชาแน่
“จัดการเอาเองเลย”
โนแอลส่ายหัวก่อนจะเดินหนีน้องตนไปแค่เรื่องที่เกิดกับครอบครัวเขาก็ปวดหัวแย่แล้วหากจะต้องมาแก้ต่างกับคุณยายแทนนาดีลคงปวดหัวหนักกว่าเดิมหลายเท่า
วันเวลาพ้นผ่านไปนานร่วมอาทิตย์ตอนนี้ภูริชก็ฟื้นตัวได้พอสมควรส่วนภคพลปลอดภัยแต่ยังไม่ฟื้นพราวพิ้งค์มาเฝ้าภคพลทุกวันไม่เคยห่างแทบจะกินนอนที่นี่ส่วนยัยหนูพลอยขวัญช่วงนี้ก็จะอยู่กับปลายฝันและแดนไทยทั้งสองอาสาช่วยเลี้ยงให้เองระหว่างที่พราวพิ้งค์ยังต้องเฝ้าภคพลภูริชฟื้นขึ้นมาได้แต่เขาก็ยังต้องรักษาตัวอีกนานเพราะกระดูกที่หักยังต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับมาเป็นปกติช่วงนี้บริษัทยิ่งวุ่นวายเรื่องการนำเข้ารถยนต์ลอตใหญ่ภูริชจึงวานให้โนแอลและนาดีลตัดสินใจกันว่าใครจะเข้าดูแลบริษัทแทนในช่วงนี้บทสรุปที่ได้คือโนแอลจะดูแลอยู่ที่นี่ทั้งบริษัทของคนเป็นพ่อและของภคพลส่วนกิจการส่วนตัวของเขาที่ฝรั่งเศสก็ฝากให้นาดีลดูแลพราวพิ้งค์ตื่นเช้าทุกวันเพื่อที่จะลุกขึ้นมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้กับภคพลเธอดูแลเขาอย่างดีทั้งภาวนาในใจทุกวันว่าให้เขานั้นฟื้นมาพูดคุยกับเธอเร็วๆ“คุณต้องหายไวๆนะคะจะได้มาฟังคำว่ารักจากปากของฉัน”หญิงสาวมองคนที่นอนเป็นผักหน้าละห้อยเธอเห็นภคพลอยู่ในสภาพนี้เป็นอาทิตย์แล้วจึงหดหู่หัวใจเป็นพิเศษ“พิ้งค์..เรื่องเธอกับคุณพอลยังไงกันแน่?”ปลายฝันที่เข้าห้องพักฟื้นของภคพลมาเงียบๆเธอก็แอบตกใจกับคำที่พราวพิ้
ก๊อกๆๆสายตาของสองหนุ่มมองไปยังประตูที่กำลังจะมีคนเข้ามาเมื่อภคพลเห็นว่าเป็นใครเขาก็มีสีหน้าไม่สบอารมณ์ในทันที“คุณพอลคะ”พราวพิ้งค์สาวเท้าเข้ามานั่งข้างเตียงของภคพลด้วยใบหน้าระรื่นมือเรียวรีบกอบกุมมือของชายหนุ่มเอาไว้แน่นด้วยความดีใจที่เห็นเขานั้นฟื้นขึ้นมาได้เสียที“กลับมาทำไม”ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะถามไถ่อาการของภคพลกับณดลคำถามน้ำเสียงเสียงห้วนของคนเจ็บก็ทำให้พราวพิ้งค์หน้าเสียกะทันหันไม่รู้ว่าเขาจะแกล้งอะไรเธอถึงได้ทักทายกันเช่นนี้“ผมขอคุยกับคุณพิ้งค์หน่อยครับ”ณดลรีบเรียกพราวพิ้งค์ออกมาคุยกันข้างนอกเพราะมีเรื่องที่หญิงสาวจะต้องรับรู้ถึงอาการที่ไม่ค่อยจะดีนักของภคพล“พอลความทรงจำหายไป...ที่จำได้ก็น่าจะสามปีที่แล้วครับ”“สามปีที่แล้วเหรอคะ?”พราวพิ้งค์เสียงสั่นมือไม้อ่อนเท่ากับว่าภคพลคนที่เจ็บอยู่ตอนนี้ยังเป็นคนเดิมคนที่เอาแต่ใจโผงผางเจ้าชู้และข้อสำคัญคือเขายังคงมองเธอเป็นแค่คู่นอนที่ไม่ต้องการให้มีอะไรผูกมัดฟึ่บบ“คุณพิ้งค์”ณดลรีบประคองพราวพิ้งค์เมื่อร่างบางฟุบกองลงกับพื้นดั่งคนไร้เรี่ยวแรงอาการข้างเคียงหลังการบาดเจ็บของภคพลนี่คือสิ่งที่พราวพิ้งค์ไม่อยากให้เกิดที่สุดหลังจากที่ไ
“นายทำอะไรของนายรู้ก็รู้ว่าแคททำกับนายขนาดไหนยังจะอยู่ใกล้อีก”ณดลเริ่มสวดเพื่อนของเขาหลังจากที่ห้องนี้เหลือเพียงสองคน“ฉันทำเพราะอยากให้พิ้งค์ไปไกลๆต่างหาก”ภคพลตอบปัดเสียงอ่อนคิดว่าแค่นี้เพื่อนของเขาจะรู้ใจเสียอีกว่าคนอย่างเขาไม่มีทางดีกับคนที่เคยทำร้ายตัวเองมาก่อนแน่นอน“แกโกรธคุณพิ้งค์แค่เรื่องที่เธอหนีไปแล้วไม่บอกนายแค่นั้นเหรอ”ภคพลยังคงเงียบเป็นคำตอบ ณดลเริ่มขมวดคิ้วไม่รู้ว่าเพื่อนตนที่ยังเป็นมีนิสัยเก่าๆเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องผู้หญิงด้วย“คุณพิ้งค์ก็กลับมาแล้วไงเธอกลับมาเพราะเป็นห่วงนาย...ตลอดที่นายนอนเป็นผักคนที่ดูแลนายไม่ใช่พยาบาลแต่เป็นคุณพิ้งค์..เธอคอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้นายพูดคุยกับนายตลอด..ตอนนายไข้ขึ้นเธอก็ไม่เคยได้หลับได้นอน..แต่พอนายฟื้นมากลับเอาแต่ไล่ให้เธอไปไกลๆมันยุติธรรมแล้วเหรอ”ณดลว่าเสียงแข็งหากเขาพูดเรื่องยัยหนูพลอยขวัญได้เขาก็อยากจะพูดใจจะขาดภคพลจะได้รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นพ่อคนแล้วไม่ควรทำตัวงี่เง่าประชดใครเหมือนเด็กแต่ติดตรงที่พราวพิ้งค์ขอเอาไว้“ตอนเธอหนีฉันไปทิ้งให้ฉันเคว้งคว้าง...ยุติธรรมกับฉันเหมือนกันหรือไง”“นายไม่ได้คิดกับเธอแค่คู่นอนใช่หรือเปล่า
“ก็อยากดูแลไม่ใช่หรือไง”ดวงตาคมจ้องมองยังใบหน้าที่บึ้งตึงของหญิงสาวด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ทั้งยังส่งน้ำเสียงยียวนกวนประสาทเธอตลอดเวลาทำพราวพิ้งค์หน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะเห็นท่าแล้วว่าภคพลคงจะอยากเล่นสงครามประสาทกับเธอเพราะเห็นว่าเธอดูแลเข้าหน่อยก็ใช้สารพัด“เจ้านายของนายเค้าปากไม่ค่อยตรงกับใจเท่าไรเลย”ณดลมองดูภคพลและพราวพิ้งค์ผ่านประตูกระจกด้านนอกกับก้องภพเขาดูออกว่าเพื่อนตนนั้นไม่ได้อยากจะไล่พราวพิ้งค์ไปจริงๆที่ทำไปเพียงเพราะโกรธเคืองเรื่องเธอหนีไปก็เท่านั้น“ครับ”ก้องภพเปรยสายตามองไปยังคนในห้องก็อมยิ้มอ่อนรู้ว่าจิตใจของนายเขาซับซ้อนซ่อนเงื่อนอยู่พอสมควรและที่หายวันหายคืนเช่นนี้ก็คงเป็นเพราะมีคนที่ตัวเองเอ่ยปากไล่มาอยู่ดูแลทุกวันนั่นเองRrrrr“ฉันขอตัวเดี๋ยวนะคะ”พราวพิ้งค์เห็นสายคีรินเข้ามาเธอก็รีบลุกออกจากเก้าอี้ทั้งที่ยังไม่ทันที่จะป้อนข้าวให้ภคพลเสร็จ“ค่ะคุณคีริน”หญิงสาวกดรับสายคุยกับคนที่โทรมาหาขณะที่กำลังจะเดินถึงประตูหลังจากนั้นก็เดินหายเงียบออกไปข้างนอก“คีริน”ภคพลขมวดคิ้วมองตามหลังร่างบางไม่วางตาเขารู้ว่าไม่เคยรู้จักคนๆนี้แต่ทำไมคุ้นกับชื่อคีรินที่หญิงสาวเอ่ยเรียกปลายสายแปลกๆ
วันต่อมาพราวพิ้งค์ใจเสียตั้งแต่เมื่อวานยังไม่หายเพราะจนป่านนี้แล้วภคพลก็ยังไม่ยอมฟื้นขึ้นมา“เมื่อไรคุณจะตื่นมาคะ..คุณจะไล่ฉันต่อว่าฉันอีกกี่คำก็ได้ขอแค่ตื่นมาได้ไหม”สาวเจ้านั่งเอ่ยเสียงอู้อี้อยู่ข้างเตียงของชายหนุ่มพรางยกมือปาดน้ำตาลวกๆ“อืม..”ขณะที่พราวพิ้งค์นั่งหน้าหน้าเคร่งเครียดอยู่พักใหญ่ภคพลก็มีทีท่าว่าจะขยับตัวตื่น“คุณพอล”มือเรียวรีบกดเรียกพยาบาลทันทีที่เห็นว่าภคพลลืมตาไม่นานนักณดลและพยาบาลผู้ช่วยอีกหนึ่งคนก็เข้ามาในห้องพราวพิ้งค์จึงหลบไปนั่งมุมห้องเงียบๆขณะที่หมอหนุ่มกำลังลงมือตรวจอาการภคพล“จำได้หรือเปล่าว่าก่อนปวดหัวเกิดอะไรขึ้น..”ณดลเริ่มถามคนที่มีอาการสะลึมสะลือภคพลยังคงเงียบเขาเปรยสายตาไปยังหญิงสาวที่นั่งใจจดใจจ่อจ้องมองมายังตัวเองอยู่ที่มุมห้องก่อนจะเงยหน้าส่ายหัวกับณดล“..ไม่รู้ฉันจำไม่ได้”“แล้วตอนนี้ยังมีอาการปวดหัวอยู่หรือเปล่า”“ไม่..ฉันโอเค.. ขอพักผ่อนก่อน”ท่าทีของภคพลดูเหนื่อยอ่อยเป็นพิเศษณดลจึงไม่ได้เค้นถามอะไรเพื่อนตนมากเมื่อไม่มีอาการปวดหัวภคพลก็ไม่ได้น่าเป็นห่วงอะไร“อีกสี่ชั่วโมงฉันจะมาดูนายอีกรอบ”“อืม..”“ฉันขออยู่เฝ้านะคะจะอยู่เงียบๆ”พราวพิ้งค์ไม
วันต่อมาพราวพิ้งค์มาถึงโรงพยาบาลในช่วงเช้าเธอต้องตกใจเมื่อเห็นแคทเธอรีนกำลังจะเดินเข้าไปในห้องของภคพลจึงรีบรั้งตัวหญิงสาวเอาไว่ก่อน“คุณมาที่นี่ทำไมคะ”“พอลโทรให้ฉันมาหาบอกว่าอยากให้ฉันมาดูแล”แคทเธอรีนตอบกลับพราวพิ้งค์หน้าระรื่น“งั้นก็กลับไปเถอะค่ะ..เพราะหน้าที่นี้เป็นของฉันค่ะ”“ไม่กลับค่ะ..ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่าคุณเป็นอะไรกับพอลแต่ในเมื่อพอลเลือกที่จะให้ฉันมาดูแลคุณนั่นแหละที่ต้องกลับ”แคทเธอรีนว่าจบก็เปิดประตูเข้าห้องภคพลไปโดยมีพราวพิ้งค์ตามหลังเข้ามาติดๆ“ฉันมาแล้วค่ะพอล”แคทเธอรีนเอ่ยทักทายภคพลที่กำลังนั่งเลื่อนมือถืออยู่บนเตียงเสียงใส“ฉันบอกแล้วไงคะว่าคนที่จะดูแลคุณได้คือพยาบาลที่นี่”พราวพิ้งค์ค่อนข้างมีท่าทีเดือดดาลพอสมควรดวงตากลมโตจ้องมองภคพลเขม็งอย่างไม่วางตา“ก็ผมต้องการให้แคทมาดูแลคุณมีปัญหาอะไรอยากจะพักผ่อนผมก็ให้โอกาสคุณได้พักแล้วไง”“บอกให้เธอกลับไปเดี๋ยวนี้”“ไม่..”ภคพลตวัดหางตาคมมองหญิงสาวด้วยสายตากวนประสาท“ได้..เดี๋ยวได้รู้กัน”พราวพิ้งค์เดินกัดฟันกรอดออกนอกห้องไปไม่นานนักเหล่าชายฉกรรจ์คนของภูริชสามสี่คนก็เข้ามาลากตัวของแคทเธอรีนกลับไปส่งที่อยู่ของเธอครู่ต่อมา“
และแล้ววันเวลาก็ผ่านไปร่วมอาทิตย์ที่สามพราวพิ้งค์ก็ยังไม่มีทีท่าใจอ่อนคุยกับภคพลง่ายๆจนทุกคนต่างก็เห็นใจชายหนุ่มพอสมควรในตอนนี้ภูริชก็เข้ามาพักฟื้นที่บ้านของแดนไทยยัยหนูพลอยขวัญที่ปู่ไปรับมาทุกวันจึงทำให้ภคพลนั้นได้อยู่กับลูกนานๆบ้างนับว่าความสุขนี้ได้จากบารมีของคนเป็นพ่อล้วนๆ“งานหินเลยสิ..”ภูริชหันมาถามภคพลที่กำลังนั่งมองลูกสาวตัวกลมนั่งทานขนมไม่วางตา“หินจริงๆครับคุณพ่อ”ภคพลหันมาพยักหน้ากับคนเป็นพ่อหน้าเจื่อน“ทีหลังจะเล่นอีกหรือเปล่า”“เข็ดแล้วครับ”“ฮ่าๆๆ..”ภูริชหัวเราะร่าเมื่อเห็นพราวพิ้งค์จะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ลูกชายจอมเอาแต่ใจของเขาใจเสียได้นานขนาดนี้เช้าวันต่อมาพราวพิ้งค์ไปส่งยัยหนูให้ภูริชที่บ้านของแดนไทยเรียบร้อยเธอจึงขับรถมาที่ไร่เพียงกมลเพื่อมาหาฟองจันทร์ด้วยรู้ว่าหญิงสาวจะไปจากที่นี่เพื่อไปทำงานที่กรุงเทพในอีกวันสองวันที่จะถึง“เลือกทางนี้จริงๆใช่ไหม”พราวพิ้งค์มาที่นี่เพื่อคุยกับฟองจันทร์ให้แน่ใจว่าสิ่งที่หญิงสาวเลือกนั้นตรงกับใจที่ต้องการจริงๆหรือเปล่า“จันทร์ว่าจันทร์ขอออกไปอยู่คนเดียวก่อนดีกว่าค่ะ... แล้วค่อยคิดดูว่าตอนนั้นจะอยู่ได้หรือเปล่า”ฟองจันทร์เงียบค
ครื่นน... ซ่าาาา....ค่ำคืนที่พายุโหมกระหน่ำซัดสาดกับหลังคาบ้านริมรักหลังเล็กจนเกิดเสียงดังลมห่าใหญ่ก็พัดแรงไม่ยอมหยุดจนพราวพิ้งค์หญิงสาวในชุดนอนสีหวานนั้นนอนไม่หลับด้วยห่วงกลัวว่าต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านจะโค่นลงมาทับบ้านหลังเล็กของเธอ“ทำไมลมแรงแบบนี้นะ”มือเรียวแหวกม่านสีครีมมองลอดผ่านหน้าต่างบานกระจกออกไปยังข้างนอกบ้านด้วยสีหน้ากังวลเปรี้ยงง.. “ว้ายย..”สาวเจ้าสะดุ้งโหยงกรีดร้องเสียงดังเมื่อจู่ๆอัสนีบนฟากฟ้าก็ฟาดลงมาเสียงดังกระหึ่มจนบ้านสั่นไปทั้งหลัง“แอะ...แอ้...”เสียงของยัยหนูตัวน้อยที่นอนอยู่ในเปลส่งเสียงงอแงเพราะความตกใจเสียงฟ้าจนตื่นคนเป็นแม่จึงรีบเดินห่างออกจากบานหน้าต่างปรี่เข้ามาอุ้มลูกสาวมากอดไว้ในอ้อมอก“ชู่ว...ไม่เป็นอะไรนะคะ..แม่อยู่นี่แล้วน้าคนเก่ง”“แอ้..แง่..แง่..”ยัยหนูแก้มย้วยวัยสองขวบยังคงร้องให้ไม่คิดผ่อนจนคนเป็นแม่ต้องรีบเปิดฝาขวดนมให้คนที่กำลังงอแงได้กินนมเสียงร้องจึงสงบลงได้มือเรียวขยับตบก้นลูกสาวเบาๆขณะที่เจ้าแก้มย้วยกำลังง่วนอยู่กับการกินนมเพื่อเป็นการกล่อมให้หลับพราวพิ้งค์เปรยสายตามองลูกสาวที่อยู่ในอ้อมอกพรางนึกถึงคนที่เป็นพ่อของลูกด้วยใบหน้าของลูกสาวไม่มีส