วันต่อมา
พราวพิ้งค์มาถึงโรงพยาบาลในช่วงเช้าเธอต้องตกใจเมื่อเห็นแคทเธอรีนกำลังจะเดินเข้าไปในห้องของภคพลจึงรีบรั้งตัวหญิงสาวเอาไว่ก่อน
“คุณมาที่นี่ทำไมคะ”
“พอลโทรให้ฉันมาหาบอกว่าอยากให้ฉันมาดูแล”
แคทเธอรีนตอบกลับพราวพิ้งค์หน้าระรื่น
“งั้นก็กลับไปเถอะค่ะ..เพราะหน้าที่นี้เป็นของฉันค่ะ”
“ไม่กลับค่ะ..ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่าคุณเป็นอะไรกับพอลแต่ในเมื่อพอลเลือกที่จะให้ฉันมาดูแลคุณนั่นแหละที่ต้องกลับ”
แคทเธอรีนว่าจบก็เปิดประตูเข้าห้องภคพลไปโดยมีพราวพิ้งค์ตามหลังเข้ามาติดๆ
“ฉันมาแล้วค่ะพอล”
แคทเธอรีนเอ่ยทักทายภคพลที่กำลังนั่งเลื่อนมือถืออยู่บนเตียงเสียงใส
“ฉันบอกแล้วไงคะว่าคนที่จะดูแลคุณได้คือพยาบาลที่นี่”
พราวพิ้งค์ค่อนข้างมีท่าทีเดือดดาลพอสมควรดวงตากลมโตจ้องมองภคพลเขม็งอย่างไม่วางตา
“ก็ผมต้องการให้แคทมาดูแลคุณมีปัญหาอะไรอยากจะพักผ่อนผมก็ให้โอกาสคุณได้พักแล้วไง”
“บอกให้เธอกลับไปเดี๋ยวนี้”
“ไม่..”
ภคพลตวัดหางตาคมมองหญิงสาวด้วยสายตากวนประสาท
“ได้..เดี๋ยวได้รู้กัน”
พราวพิ้งค์เดินกัดฟันกรอดออกนอกห้องไปไม่นานนักเหล่าชายฉกรรจ์คนของภูริชสามสี่คนก็เข้ามาลากตัวของแคทเธอรีนกลับไปส่งที่อยู่ของเธอ
ครู่ต่อมา
“แน่ดีเหมือนกันนี่..แน่ให้ได้ตลอด”
ภคพลมองหน้าหญิงสาวที่กำลังลงนั่งข้างเตียงของเขาด้วยท่าทีที่ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวอะไรหลังจากให้คนพาแคทเธอรีนออกไปจากเขาได้
“ฉันมันแน่ตลอดอยู่แล้วค่ะ”
พราวพิ้งค์มองหน้าชายหนุ่มทั้งเอ่ยตอบด้วยท่าทีที่มั่นใจเพราะหากเธอไม่ได้เตรียมใจมาแล้วคงไม่สู้สุดตัวเพื่อกันผู้หญิงทุกคนที่ภคพลเรียกมาแบบนี้หรอก
“ลืมกฎไปแล้วหรือไงว่าอย่าล้ำเส้นเรื่องผู้หญิงของผม”
“ไม่ลืมแต่ไม่ทำตาม..พูดครั้งเดียวเข้าใจนะคะ”
“แล้ว..ใช้คนของพ่อผมได้ยังไง”
พราวพิ้งค์เริ่มเงยมองจ้องหน้าชายหนุ่มอีกรอบคราแรกที่เห็นว่าเขาไม่มีท่าทีโกรธเคืองที่เธอให้คนพาแคทเธอรีนกลับไปเธอก็สงสัยพอตัวแล้ว..แต่ตอนนี้คำถามล่าสุดของชายหนุ่มยิ่งทำให้เธอสงสัยยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า
“อืม...เรื่องนี้ฉันขอไม่ตอบนะคะ...แต่...คนที่ฉันพามาเมื่อกี้นี้พวกเค้าพึ่งมาทำงานกับพ่อของคุณไม่นาน..ไม่รู้ว่าคุณพอลทำไมถึงจำได้..”
ร่างบางลุกยืนขึ้นขมวดคิ้วจ้องหน้าชายหนุ่มทั้งตั้งคำถามด้วยเสียงแข็งก่อนจะรีบเก็บกระเป๋าเพราะรู้ได้ทันทีว่าภคพลคงจะกำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของเธออยู่แน่นอน
“พิ้งค์..เดี๋ยว..พิ้งค์”
คนที่ถูกจับได้รีบถดตัวลงจากเตียงพยายามจะรั้งหญิงสาวเอาไว้แต่ก็ตามเธอไม่ทัน
“แน่ให้ได้ตลอดนะคะ”
สาวเจ้าทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองก่อนจะเปิดประตูออกไปและรับวิ่งออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
“พิ้งงง..โถ่..”
ภคพลไม่สามารถที่จะวิ่งตามหญิงสาวได้เขาจึงได้แต่ยืนหน้าเสียอยู่หน้าห้องพักฟื้นของตัวเอง
ตกเย็นเมื่อภคพลขอออกจากโรงพยาบาลมาที่บ้านก็พบว่าตอนนี้พราวพิ้งค์ได้พาลูกกลับไปที่เชียงใหม่พร้อมปลายฝันและแดนไทยไปแล้วตอนนี้เขาจึงหัวเสียมากครั้นจะบินตามไปก็พึ่งผ่าตัดขึ้นเครื่องไม่ได้
“คุณพอลจะเดินทางไกลตอนนี้ผมว่ามันไม่ดีหรอกนะครับ”
ก้องภพที่ถูกภคพลเค้นให้ขับรถพาไปเชียงใหม่เขาก็หนักใจกับคำสั่งของเจ้านายเพราะกลัวว่าจะเกิดอะไรไม่ดีกับร่างกายของภคพล
“ก็ฉันจะไปนายก็ต้องพาฉันไปเข้าใจหรือเปล่า”
คนที่ยังมีเฝือกใส่ที่แขนนั่งสบถเสียงแข็งไม่ยอมฟังคำเตือนของก้องภพง่ายๆ
“เฮ่อ..ไปก็ไปครับ”
สรุปแล้วก้องภพก็ต้องยอมเพราะเห็นทีจะเอาอะไรก็มาฉุดความดื้อรั้นของภคพลเห็นจะไม่มี
เชียงใหม่
ไร่เหมวัต
“คุณพิ้งค์เป็นยังไงบ้าง”
แดนไทยเอ่ยถามไถ่กับคนเป็นภรรยาหลังจากกลับมาจากบ้านพราวพิ้งค์เสียดึก
“ก็ยังโกรธคุณพอลไม่หายค่ะ”
ปลายฝันส่ายหัวด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก
“เฮ่อ.ตาพอลก็เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง”
แดนไทยเท้าเอวบ่นอุกไม่เข้าใจว่าหลานชายตนจะเล่นแบบนี้เพื่ออะไร
“นั่นสิคะ”
ปลายฝันรู้ว่าเพื่อนของเธอใจแข็งอย่าบอกใครยิ่งถูกล้อเล่นกับความรู้สึกเช่นนี้เธอรับรองเลยว่าภคพลเจองานยากกว่าเดิมแน่
21.30 น.
พราวพิ้งพึ่งโทรไปเค้นถามกับหมอณดลจนได้ความว่าภคพลนั้นความจำกลับมาตั้งแต่หายจากอาการปวดหัวครั้งก่อนแล้วยิ่งหญิงสาวรู้เช่นนี้เธอก็ยิ่งโมโหหนัก
“คุณพอลนะคุณพอล..แล้วคุณจะได้รู้ว่าไม่ควรมาล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่น”
สาวเจ้าเก็บเสื้อผ้าข้าวของภคพลออกมาโยนกองที่หน้าบ้านหลังจากรู้ว่าเขากำลังจะเดินทางมาที่นี่จากปากของปลายฝันหากเขามาเธอก็จะทำเป็นไม่สนใจเขาบ้างให้รู้กันไปเลยว่าไม่ควรมาเล่นกับความรู้สึกของเธออีก
อาทิตย์ต่อมา
หลังจากที่ภคพลเดินทางมาถึงบ้านของพราวพิ้งค์เมื่ออาทิตย์ก่อนได้เขาก็รู้ว่าตัวเองถูกขนข้าวของออกมากองไว้หน้าบ้านเรียบร้อยแล้วหญิงสาวไม่แม้นแต่จะรับฟังคำขอโทษของเขาหรือให้โอกาสเขาได้อธิบายอะไรสักนิดเดียว
แถมลูกสาวตัวกลมที่เขาแสนจะคิดถึงเธอก็ยังไม่ให้แตะอีกต่างหากยกเว้นแต่ยัยหนูพลอยขวัญจะเดินมาหาเขาเองตอนนั้นถึงได้กอดรัดให้ชื่นใจบ้าง
ตอนนี้ภคพลจึงได้เข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านของแดนไทยและใช้วิธีตามง้อพราวพิ้งค์ทุกวันจวบจนเข้าหนึ่งอาทิตย์แล้วแต่ดูท่าพราวพิ้งค์จะยังไม่ยอมใจอ่อนง่ายๆจนภคพลรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดมหันต์ที่คิดแกล้งหญิงสาวแบบนั้น
“จะไปอีกแล้วเหรอคะ”
ปลายฝันออกมาจากห้องนอนได้ก็เห็นภคพลเตรียมตัวออกไปข้างนอกแต่เช้ารู้ได้เลยว่าเขานั้นจะไปไหนคราแรกแอบเคืองแทนเพื่อนที่ชายหนุ่มเล่นอะไรไม่รู้เรื่องแต่ตอนนี้กลับรู้สึกเห็นใจเขาพอสมควร
“ผมไม่ท้อหรอกครับ”
ภคพลหันมาอมยิ้มอ่อนให้ปลายฝันก่อนจะเดินไปขึ้นรถกระบะคันเก่าของสมหมายที่มาจอดรออยู่แล้ว
“งั้นก็สู้ๆนะคะ”
สาวเจ้าเห็นจะช่วยได้แค่ให้กำลังใจชายหนุ่มได้อย่างเดียวในตอนนี้
และแล้ววันเวลาก็ผ่านไปร่วมอาทิตย์ที่สามพราวพิ้งค์ก็ยังไม่มีทีท่าใจอ่อนคุยกับภคพลง่ายๆจนทุกคนต่างก็เห็นใจชายหนุ่มพอสมควรในตอนนี้ภูริชก็เข้ามาพักฟื้นที่บ้านของแดนไทยยัยหนูพลอยขวัญที่ปู่ไปรับมาทุกวันจึงทำให้ภคพลนั้นได้อยู่กับลูกนานๆบ้างนับว่าความสุขนี้ได้จากบารมีของคนเป็นพ่อล้วนๆ“งานหินเลยสิ..”ภูริชหันมาถามภคพลที่กำลังนั่งมองลูกสาวตัวกลมนั่งทานขนมไม่วางตา“หินจริงๆครับคุณพ่อ”ภคพลหันมาพยักหน้ากับคนเป็นพ่อหน้าเจื่อน“ทีหลังจะเล่นอีกหรือเปล่า”“เข็ดแล้วครับ”“ฮ่าๆๆ..”ภูริชหัวเราะร่าเมื่อเห็นพราวพิ้งค์จะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ลูกชายจอมเอาแต่ใจของเขาใจเสียได้นานขนาดนี้เช้าวันต่อมาพราวพิ้งค์ไปส่งยัยหนูให้ภูริชที่บ้านของแดนไทยเรียบร้อยเธอจึงขับรถมาที่ไร่เพียงกมลเพื่อมาหาฟองจันทร์ด้วยรู้ว่าหญิงสาวจะไปจากที่นี่เพื่อไปทำงานที่กรุงเทพในอีกวันสองวันที่จะถึง“เลือกทางนี้จริงๆใช่ไหม”พราวพิ้งค์มาที่นี่เพื่อคุยกับฟองจันทร์ให้แน่ใจว่าสิ่งที่หญิงสาวเลือกนั้นตรงกับใจที่ต้องการจริงๆหรือเปล่า“จันทร์ว่าจันทร์ขอออกไปอยู่คนเดียวก่อนดีกว่าค่ะ... แล้วค่อยคิดดูว่าตอนนั้นจะอยู่ได้หรือเปล่า”ฟองจันทร์เงียบค
ครื่นน... ซ่าาาา....ค่ำคืนที่พายุโหมกระหน่ำซัดสาดกับหลังคาบ้านริมรักหลังเล็กจนเกิดเสียงดังลมห่าใหญ่ก็พัดแรงไม่ยอมหยุดจนพราวพิ้งค์หญิงสาวในชุดนอนสีหวานนั้นนอนไม่หลับด้วยห่วงกลัวว่าต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านจะโค่นลงมาทับบ้านหลังเล็กของเธอ“ทำไมลมแรงแบบนี้นะ”มือเรียวแหวกม่านสีครีมมองลอดผ่านหน้าต่างบานกระจกออกไปยังข้างนอกบ้านด้วยสีหน้ากังวลเปรี้ยงง.. “ว้ายย..”สาวเจ้าสะดุ้งโหยงกรีดร้องเสียงดังเมื่อจู่ๆอัสนีบนฟากฟ้าก็ฟาดลงมาเสียงดังกระหึ่มจนบ้านสั่นไปทั้งหลัง“แอะ...แอ้...”เสียงของยัยหนูตัวน้อยที่นอนอยู่ในเปลส่งเสียงงอแงเพราะความตกใจเสียงฟ้าจนตื่นคนเป็นแม่จึงรีบเดินห่างออกจากบานหน้าต่างปรี่เข้ามาอุ้มลูกสาวมากอดไว้ในอ้อมอก“ชู่ว...ไม่เป็นอะไรนะคะ..แม่อยู่นี่แล้วน้าคนเก่ง”“แอ้..แง่..แง่..”ยัยหนูแก้มย้วยวัยสองขวบยังคงร้องให้ไม่คิดผ่อนจนคนเป็นแม่ต้องรีบเปิดฝาขวดนมให้คนที่กำลังงอแงได้กินนมเสียงร้องจึงสงบลงได้มือเรียวขยับตบก้นลูกสาวเบาๆขณะที่เจ้าแก้มย้วยกำลังง่วนอยู่กับการกินนมเพื่อเป็นการกล่อมให้หลับพราวพิ้งค์เปรยสายตามองลูกสาวที่อยู่ในอ้อมอกพรางนึกถึงคนที่เป็นพ่อของลูกด้วยใบหน้าของลูกสาวไม่มีส
“ฉันอยากกลับบ้าน...นายจะให้ฉันอยู่ที่นี่เพื่ออะไรฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้วแผลแค่นี้ฉันรักษาเองได้”ภคพลเปรยสายตามองณดลด้วยความระอารู้ได้เลยว่าเพื่อนตนต้องมาบังคับให้ทานอาหารอีกแน่ที่เขาไม่มีกะใจทำอะไรตอนนี้ก็เป็นเพราะไม่อยากจะนอนอยู่ที่โรงพยาบาล“ฉันรู้ว่านายเก่ง..แต่ฉันก็รู้อีกว่าถ้านายกลับไปนายจะไม่ยอมทำแผลไม่ยอมทานยาตามที่ฉันสั่งแล้วแผลนายก็จะติดเชื้ออาจจะทำให้นายป่วยตายได้เข้าใจใช่ไหม..อยู่โรงพยาบาลอีกสักวันสองวันจะเป็นไร”ณดลสาวเท้าเข้ามาข้างเตียงภคพลมือทั้งสองล้วงกระเป๋าก่อนจะสาธยายหยั่งรู้ถึงนิสัยของเพื่อนหากเขายอมปล่อยกลับบ้านจะเป็นเช่นไร“เฮ่อ..”คนที่ถูกบ่นได้แต่หลับตาถอนหายใจ“แล้วก็กินอาหารให้ตรงเวลาไม่เช่นนั้นฉันจะให้นายอยู่ที่นี่นานขึ้น...แล้วอย่าคิดหนีคนของฉันมีอยู่ทุกที่เข้าใจใช่หรือเปล่า”ณดลยกมือชี้หน้าภคพลเขาไม่ได้ขู่รู้ว่าเพื่อนตนรู้ดี“เฮ่อ..”คนป่วยถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกรอบพรางมองเพื่อนรักที่เจ้ากี้เจ้าการด้วยสายตาไม่สบอารมณ์เขาเคยหนีออกจากโรงพยาบาลมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ถูกคนของณดลลากกลับมาได้ทุกครั้งหมอหนุ่มเพื่อนของเขาคนนี้ก็ไม่ยอมรักษาใครที่อื่นนอกจากที่โรงพยาบาลของตั
“ยด..”เด็กหญิงตัวกลมก้าวขาป้อมรีบเดินเข้ามาหาคนเป็นแม่เมื่อเห็นว่ามีรถเก๋งคันสีขาวขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านพราวพิ้งค์ยิ้มต้อนรับคนที่มาใหม่หน้าระรื่นไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นปลายฝันว่าที่เจ้าสาวของพ่อเลี้ยงแดนไทยเพื่อนรักของเธอเอง“ไงจ๊ะ..เจ้าหมูอ้วนของน้าปลายมาให้น้าฟัดหน่อยเร็ว” ฟอดด ฟอดดปลายฝันหญิงสาวที่กำลังท้องโตหน้าตาจิ้มลิ้มเดินถือถุงกระดาษปรี่ตรงมาอุ้มหนูน้อยกอดหอมฟอดใหญ่คิดถึงไม่ได้เจอหน้าหลานสาวหลายวันเพราะต้องกลับไปเอาชุดแต่งงานที่กรุงเทพและอยู่กับครอบครัวต่อเป็นอาทิตย์“ที่ไร่ไม่ยุ่งแล้วหรือถึงปลีกตัวมาที่นี่ได้”“ไม่มีอะไรยุ่งแล้วล่ะที่จะวุ่นก็เห็นจะเป็นพรุ่งนี้เพราะต้องเตรียมตัวรับแขกที่บ้านฉันกับบ้านคุณแดน..เออ..วันนี้พ่อเลี้ยงคีรินฝากชุดมาให้”ปลายฝันชี้ไปที่ถุงกระดาษข้างตัวที่ถือมาตั้งแต่ลงจากรถ“ถ้าฉันไม่ใส่จะดูเสียมารยาทหรือเปล่า”พราวพิ้งค์ว่าด้วยท่าทีลำบากใจ“แน่นอน”ปลายฝันรีบพยักหน้าสายตาของเธอบ่งบอกว่าอยากให้เพื่อนเธอนั้นรับรักพ่อเลี้ยงคีรินเสียที“ทำยังไงพ่อเลี้ยงถึงจะเข้าใจว่าฉันไม่ได้คิดอะไรเกินไปกว่าพี่น้อง”“พ่อเลี้ยงเค้าตามจีบเธอมาตั้งแต่เธอท้องยังไม่ยอมใจอ่อนก
“ขับมาจากตลาดจู่ๆก็ดับเฉยเลยค่ะ”พราวพิ้งค์โล่งใจที่ในสถานการณ์คับขันเธอยังมีคนรู้จักที่พอจะช่วยเหลือได้ผ่านมาแถวนี้พอดีสองหนุ่มสาวที่ยืนอยู่ข้างทางยังคงช่วยกันดูว่าเหตุที่รถเสียนั้นเกิดจากอะไรโดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีสายตาของใครบางคนมองจับจ้องผ่านกระจกรถยนต์คันหรูอยู่ไม่วางเป็นภคพลที่มองร่างบางด้วยสายตานิ่งเฉยอย่างที่ใครก็คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ว่าตอนนี้เขานั้นคิดอะไรอยู่เมื่อได้เจอกับหญิงสาวที่หายหน้าจากเขาไปเกือบสามปีชายหนุ่มค่อยๆผ่อนคันเร่งขับชะลอผ่านไปแล้วดูหญิงสาวร่างเล็กในชุดสีชมพูหวานที่กระจกข้างอีกรอบจนแน่ใจว่าเมื่อครู่มองไม่ผิดเธอคือพราวพิ้งค์คนที่เห็นว่าเขาหมดประโยชน์แล้วก็รีบตีจากความรู้สึกข้างในตอนนี้ประสมปนเปกันไปหมดไม่รู้ว่าตัวเองจะดีใจหรือคับแค้นใจที่ได้เห็นร่างบางที่คุ้นเคยนี้อีกครั้งทว่าสมองก็สั่งว่าอย่าพึ่งใส่ใจจึงรีบเหยียบคันเร่งมุ่งตรงไปที่ไของอาตนทันทีก่อนที่จะเย็นไปมากกว่านี้ครู่ต่อมาภคพลขับรถเข้ามาจอดที่บ้านหลังใหญ่ซึ่งเป็นบ้านไม้สักสไตล์โมเดิร์นตัวบ้านเป็นสองชั้นที่ชั้นล่างมีระเบียงชานบ้านกว้างรอบๆบริเวณบ้านจัดเป็นสนามหญ้ากว้างใหญ่ล้อมตัวบ้านหลังบ้านร่มรื่นด
“ไม่สนใจแต่ชวนเค้าทานข้าวเย็นด้วยกันนี่หมายความว่ายังไงน้า..”ปลายฝันเห็นพ่อเลี้ยงหนุ่มกลับไปได้ก็ได้ทีเอ่ยหยอกเพื่อนเธอเสียงอ่อน“หมายความว่าเป็นคนมีมารยาทไงเค้าอุตส่าห์ช่วยมาส่งถึงที่แถมยังให้คนมาลากรถไปที่อู่อีก...แล้วนี่มิลินกับแพรวาจะมาถึงตอนไหน”พราวพิ้งค์ขมวดคิ้วส่ายหัวให้คนที่ทำตัวเป็นแม่สื่อแม่ชักก่อนจะถามถึงเพื่อนสนิทอีกสองคนที่บอกว่าจะมาถึงในวันนี้แต่เย็นแล้วก็ไม่ยักจะเห็น“อีกเดี๋ยวคงถึงแล้วล่ะ..ไปเดี๋ยวฉันไปช่วนทำกับข้าวในครัว”“ห้ามพูดเชียคุณคีรินอีกไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้หาช่างแต่งหน้ามาเองเลย”“โอ๋ๆ..แค่นี้ทำเป็นงอนไปได้”สองสาวคุยกันจบก็รีบสาวเท้าเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหารเย็นภคพลอยู่ในในชุดนอนสีเทายืนกอดอกพิงหน้าต่างช่วงกลางดึกดวงตาคมนัยน์ตาสีฟ้ายืนจ้องแหวนเพชรวงน้อยในมือไม่วางตา แหวนวงนี้ควรจะอยู่กับเจ้าของมันนานแล้วแต่ติดตรงที่เขานั้นไม่มีโอกาสได้ให้และคิดว่าคงจะเก็บตายไว้อย่างนี้เห็นจะดีแล้วก๊อกๆๆมือหนารีบเก็บแหวนวงเล็กเข้าในกระเป๋าก่อนะจะเดินดุ่มไปเปิดประตูหากเดาไม่ผิดคงจะเป็นพี่ชายของเขาที่น่าจะนอนไม่หลับเพราะแปลกที่เช่นเดียวกับที่เขานั้นเป็น“อย่าบอกว่านอนไม่หลับ
“ต้องขอบคุณช่างคนเก่งคนนี้ค่ะ”ปลายฝนอดเอ่ยชมฝีมือพรางพิ้งค์ไม่ได้นับว่าเพื่อนของเธอเก่งไปเสียทุกอย่างจริงๆ“ฉวย..”หนูน้อยตัวกลมแก้มย้วยในชุดเสื้อยืดเจ้าหญิงสีชมพูกับกระโปรงสีขาวฟูฟ่องมัดผมรวบโดนัมสองข้างเดินเข้ามาเกาะขาปลายฝันเงยหน้าเอ่ยชมคนเป็นน้าหน้าบาน“รู้ดีจังเลยนะเรา”เปรมสุดาอุ้มยัยหนูพลอยขวัญมานั่งที่ตักพร้อมกดจูบกระหม่อมหนึ่งทีหากอยากจะให้หลานนั้นออกมาเหมือนกับยัยหนูพลอยขวัญเหลือเกินยิ่งคิดก็ยิ่งอยากให้ถึงวันที่ลูกสาวเธอคลอดเร็วๆ“ฝัน..ขบวนแห่มาใกล้แล้วมาดูสิ”ปลายฝันรีบลุกเดินมาที่หน้าต่างตามพราวพิ้งค์เพื่อดูขบวนแห่ที่เหล่าผู้คนกำลังพากันรำหน้ากลองยาวอย่างสนุกสนาน“น่าตื่นเต้นจังเลย”ตอนนี้ปลายฝันเริ่มทำตัวไม่ถูกทั้งที่เตรียมใจเอาไว้แล้วแต่พอถึงสถานการณ์จริงกลับประหม่าเสียได้“นั่น..คุณ..ภูริช..”ชายวัยกลางคนที่พราวพิ้งค์เห็นว่ากำลังยืนอยู่ข้างๆคีรินทำเอาสาวเจ้ายืนตัวชาหน้าเสีย“อ่อ..ใช่คุณภูริชเธอรู้จักด้วยเหรอเค้าเป็นพี่ชายของคุณแดนแต่คนละแม่”“แล้ว..ทำไมนามสกุลไม่เหมือนกัน”“คุณแดนบอกว่าคุณภูเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของแม่ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้วเพราะนามสกุลแม่คุณภูไม่มีใครสืบส
หลังเสร็จเรื่องรับตัวเจ้าสาวไม่นานนักตอนนี้ทุกคนก็อยู่กันที่บ้านของแดนไทเพื่อฟังพระสวดให้บ่าวสาวได้ตักบาตรทำบุญในช่วงเช้า“ตาพอลยังไม่ตื่นอีกเหรอเราไปดูน้องให้พ่อหน่อยสิ..ทำตัวไม่มีมารยาทเอาซะเลย”ภูริชเห็นทีต้องหันมาบอกให้โนแอลไปตามภคพลขณะที่พระกำลังสวดคราแรกคิดว่ากลับมาจะเจอลูกชายคนเล็กรอต้อนรับแต่ป่านนี้ก็ไม่ยักจะเห็นหัวเสียทีจึงไม่ค่อยสบอารมณ์กับลูกชายที่ทำตัวไม่รู้กาลเทศะนัก“ครับคุณพ่อ”โนแอลรีบลุกปลีกตัวเข้าไปชั้นบนเขาเองก็มีส่วนผิดที่เมื่อคืนนอนไม่หลับจนต้องไปชวนภคพลนั่งดื่มนั่งคุยกันจนเกือบเช้าก๊อกๆๆหลังจากโนแอลเคาะประตูไม่นานภคพลก็เดินมาเปิดประตูเมื่อคนเป็นพี่เห็นน้องชายแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงมองหน้าด้วยสายตาฉงนเพราะไม่รู้ว่าภคพลนั้นทำไมยังไม่ลงไปที่งานแต่งด้านล่างเสียที“แต่งตัวเสร็จแล้วทำไมยังไม่ลงไปล่ะ”“ผมรอให้พระสวดเสร็จขี้เกียจไปนั่งนิ่งๆฟังน่าเบื่อ”ร่างสูงในชุดสูทสีเทาเซ็ททรงผมเนี้ยบยืนส่ายหน้าด้วยท่าทีขยาดเพราะจะให้เขาไปนั่งนิ่งๆฟังพระสวดคงสร้างความอึดอัดให้เขาไม่น้อย“คุณพ่อหงุดหงิดกับนายใหญ่แล้วรีบลงไปตอนนี้เลย”“รอให้พระสวดเสร็จก่อนไม่ได้เหรอครับ”“ไม่ได้”โนแอ