“ขับมาจากตลาดจู่ๆก็ดับเฉยเลยค่ะ”
พราวพิ้งค์โล่งใจที่ในสถานการณ์คับขันเธอยังมีคนรู้จักที่พอจะช่วยเหลือได้ผ่านมาแถวนี้พอดี
สองหนุ่มสาวที่ยืนอยู่ข้างทางยังคงช่วยกันดูว่าเหตุที่รถเสียนั้นเกิดจากอะไรโดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีสายตาของใครบางคนมองจับจ้องผ่านกระจกรถยนต์คันหรูอยู่ไม่วาง
เป็นภคพลที่มองร่างบางด้วยสายตานิ่งเฉยอย่างที่ใครก็คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ว่าตอนนี้เขานั้นคิดอะไรอยู่เมื่อได้เจอกับหญิงสาวที่หายหน้าจากเขาไปเกือบสามปี
ชายหนุ่มค่อยๆผ่อนคันเร่งขับชะลอผ่านไปแล้วดูหญิงสาวร่างเล็กในชุดสีชมพูหวานที่กระจกข้างอีกรอบจนแน่ใจว่าเมื่อครู่มองไม่ผิดเธอคือพราวพิ้งค์คนที่เห็นว่าเขาหมดประโยชน์แล้วก็รีบตีจาก
ความรู้สึกข้างในตอนนี้ประสมปนเปกันไปหมดไม่รู้ว่าตัวเองจะดีใจหรือคับแค้นใจที่ได้เห็นร่างบางที่คุ้นเคยนี้อีกครั้งทว่าสมองก็สั่งว่าอย่าพึ่งใส่ใจจึงรีบเหยียบคันเร่งมุ่งตรงไปที่ไของอาตนทันทีก่อนที่จะเย็นไปมากกว่านี้
ครู่ต่อมา
ภคพลขับรถเข้ามาจอดที่บ้านหลังใหญ่ซึ่งเป็นบ้านไม้สักสไตล์โมเดิร์นตัวบ้านเป็นสองชั้นที่ชั้นล่างมีระเบียงชานบ้านกว้างรอบๆบริเวณบ้านจัดเป็นสนามหญ้ากว้างใหญ่ล้อมตัวบ้านหลังบ้านร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ตอนนี้บ้านพ่อเลี้ยงหนุ่มถูกประดับตกแต่งไปด้วยดอกไม้นานพรรณเพื่อเตรียมไว้ในงานแต่งงานพรุ่งนี้
บริเวณบ้านตอนนี้ไม่ค่อยมีคนมากนักภคพลจึงเลือกที่จะจอดรถที่หน้าบ้านก่อนจะหิ้วกระเป๋าเป้ใบไม่ใหญ่นักลงจากรถ
“ไง..ทำไมไม่มาพร้อมพ่อกับพี่เรา”
แดนไทยพ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่ที่ยังดูหล่อเหลาไม่แพ้เด็กวัยรุ่นเข้ามาทักทายภคพลขณะที่หลานชายคนเล็กกำลังแบกเป้ใบเล็กเดินเข้ามาหน้าบ้าน
“ผมมีธุระต้องจัดการนิดหน่อยครับ..คิดถึงนะครับคุณอา”
ภคพลเข้าไปสวมกอดอาหนุ่มของตนแน่นตอนเด็กๆสนิทกับอาของเขาพอสมควรแต่พอโตมามีการมีงานทำก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่อีกเลย
“อาก็เหมือนกัน..โนเอลกับพ่อเราทานข้าวอยู่ในครัวไปหาพวกเค้ากัน”
“กำลังหิวพอดีเลยครับคุณอา”
“แล้วแผลเป็นไงบ้าง”
“โอเคครับแผลแค่นี้ไม่สะเทือนอะไรผมอยู่แล้ว”
“รู้แบบนี้อาก็หมดห่วงแล้ว”
สองอาหลานที่รูปร่างเท่าๆกันที่จะบอกว่ารุ่นราวคราวเดียวกันใครก็เชื่อ..แดนไทยเดินกอดคอหลานรักพาเข้าไปในครัวทั้งสองเป็นที่จับจ้องของเหล่าสาวแรกรุ่นยันสาวแก่แม่หม้ายที่เดินประปรายเก็บงานอยู่รอบๆเพราะต่างก็ดูดีกันทั้งคู่
“หลานคนเล็กพ่อเลี้ยงนี่หล่อไม่แพ้พ่อเลี้ยงเลยนะฟองเงิน”
ลำเพยแม่บ้านวัยกลางคนเดินออกมาจากบ้านพร้อมฟองเงินแม่ครัวที่รุ่นราวคราวเดียวกันเพื่อที่จะกลับบ้านหลังจากเสร็จงานที่นี่เมื่อเห็นสองอาหลานให้หลังไปได้ก็หันมาคุยกันเรื่องเจ้านายเป็นปกติที่เคยทำ
“นั่นน่ะสิ..บ้านนี้ก็หน้าตาดีกันมั้งบ้านเลยถ้าหันมามองลูกสาวฉันบ้างก็คงดี”
ฟองเงินว่าพรางหัวร่อต่อกระซิกกับคู่หูคนสนิท
“ใครจะไปรู้พรุ่งนี้แกก็แต่งตัวให้ฟองจันทร์มันสวยๆแล้วกันเผื่อจะเข้าตาหลานพ่อเลี้ยงสักคน”
ลำเพยเห็นว่าฟองจันทร์ลูกสาวของฟองเงินที่พึ่งเรียนจบหมาดๆเป็นสาวสวยสะพรั่งเต็มที่อาจจะเข้าตาของใครคนใดคนหนึ่งของหลานชายพ่อเลี้ยงก็ได้
“เมื่อกี้ฉันก็แค่พูดเล่นเท่านั้นแหละ”
ฟองเงินรีบอธิบายว่าไม่ได้คิดจริงเพราะตนไม่อาจเอื้อมให้ลูกสาวตนไปเกี่ยวดองกับเหล่าเจ้านายอยู่แล้วเพราะรู้ตัวดีว่าสถานะบ้านของตัวเองไม่ได้เหมาะกับครอบครัวเจ้านายที่พูดออกมาก็แค่เอาสนุกปากกับคนที่สนิทเท่านั้น
ทางด้านคีรินตอนนี้ก็มาส่งพราวพิ้งค์ที่บ้านส่วนรถของหญิงสาวเขาให้คนที่ไร่พาไปส่งที่อู่ซ่อม ปลายฝันเห็นเพื่อนเธอและคีรินกลับมาด้วนกันได้ก็ยิ้มแก้มปริเพราะในใจยังเชียให้เพื่อนเธอใจอ่อนกับคีรินไม่วาย เพราะอยากให้พราวพิ้งค์มีคนดีๆมาดูแล
“ถ้าไม่ได้คุณคีรินเพื่อนปลายแย่เลยนะคะ...เหมือนสุภาพบุรุษขี่ม้าขาวยังไงยังงั้นเลย”
ปลายฝันวางแก้วน้ำเย็นๆตรงหน้าคีรินได้เธอก็เอ่ยชมชายหนุ่มเปราะเรียกสายตามองค้อนของพราวพิ้งค์ได้เป็นอย่างดีเพราะพราวพิ้งค์นั้นรู้ว่าเพื่อนเธอพูดแบบนี้พราะต้องการอะไร
“คุณปลายก็พูดเกินไปแล้วครับ..”
คีรินยิ้มเขินพรางก้มหน้าเล็กน้อยที่ถูกชมต่อหน้าหญิงสาวที่ตนชมชอบมานาน
“คุณคีรินอยู่ทานข้าวเย็นกับเราก่อนนะคะแล้วค่อยกลับ”
พราวพิ้งค์เอ่ยชวนพ่อเลี้ยงหนุ่มตามมารยาทเพื่อตอบแทนน้ำใจของเขาในวันนี้
“ผมมีธุระต่อน่ะสิครับวันหลังผมไม่พลาดแน่นอนครับ”
คีรินรู้สึกเสียดายโอกาสดีๆเช่นนี้มากในใจอยากจะเลื่อนธุระตอนนี้ออกไปเพื่อทานข้าวเย็นกับพราวพิ้งค์แต่ธุระที่ต้องไปทำมันค่อนข้างสำคัญจึงเลื่อนนัดไม่ได้
“วันไหนว่างก็เชิญเลยนะคะ”
“ครับขอตัวก่อนนะครับ”
ว่าจบชายหนุ่มก็เดินออกไปที่รถด้วยท่าทีเสียดาย
“ไม่สนใจแต่ชวนเค้าทานข้าวเย็นด้วยกันนี่หมายความว่ายังไงน้า..”ปลายฝันเห็นพ่อเลี้ยงหนุ่มกลับไปได้ก็ได้ทีเอ่ยหยอกเพื่อนเธอเสียงอ่อน“หมายความว่าเป็นคนมีมารยาทไงเค้าอุตส่าห์ช่วยมาส่งถึงที่แถมยังให้คนมาลากรถไปที่อู่อีก...แล้วนี่มิลินกับแพรวาจะมาถึงตอนไหน”พราวพิ้งค์ขมวดคิ้วส่ายหัวให้คนที่ทำตัวเป็นแม่สื่อแม่ชักก่อนจะถามถึงเพื่อนสนิทอีกสองคนที่บอกว่าจะมาถึงในวันนี้แต่เย็นแล้วก็ไม่ยักจะเห็น“อีกเดี๋ยวคงถึงแล้วล่ะ..ไปเดี๋ยวฉันไปช่วนทำกับข้าวในครัว”“ห้ามพูดเชียคุณคีรินอีกไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้หาช่างแต่งหน้ามาเองเลย”“โอ๋ๆ..แค่นี้ทำเป็นงอนไปได้”สองสาวคุยกันจบก็รีบสาวเท้าเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหารเย็นภคพลอยู่ในในชุดนอนสีเทายืนกอดอกพิงหน้าต่างช่วงกลางดึกดวงตาคมนัยน์ตาสีฟ้ายืนจ้องแหวนเพชรวงน้อยในมือไม่วางตา แหวนวงนี้ควรจะอยู่กับเจ้าของมันนานแล้วแต่ติดตรงที่เขานั้นไม่มีโอกาสได้ให้และคิดว่าคงจะเก็บตายไว้อย่างนี้เห็นจะดีแล้วก๊อกๆๆมือหนารีบเก็บแหวนวงเล็กเข้าในกระเป๋าก่อนะจะเดินดุ่มไปเปิดประตูหากเดาไม่ผิดคงจะเป็นพี่ชายของเขาที่น่าจะนอนไม่หลับเพราะแปลกที่เช่นเดียวกับที่เขานั้นเป็น“อย่าบอกว่านอนไม่หลับ
“ต้องขอบคุณช่างคนเก่งคนนี้ค่ะ”ปลายฝนอดเอ่ยชมฝีมือพรางพิ้งค์ไม่ได้นับว่าเพื่อนของเธอเก่งไปเสียทุกอย่างจริงๆ“ฉวย..”หนูน้อยตัวกลมแก้มย้วยในชุดเสื้อยืดเจ้าหญิงสีชมพูกับกระโปรงสีขาวฟูฟ่องมัดผมรวบโดนัมสองข้างเดินเข้ามาเกาะขาปลายฝันเงยหน้าเอ่ยชมคนเป็นน้าหน้าบาน“รู้ดีจังเลยนะเรา”เปรมสุดาอุ้มยัยหนูพลอยขวัญมานั่งที่ตักพร้อมกดจูบกระหม่อมหนึ่งทีหากอยากจะให้หลานนั้นออกมาเหมือนกับยัยหนูพลอยขวัญเหลือเกินยิ่งคิดก็ยิ่งอยากให้ถึงวันที่ลูกสาวเธอคลอดเร็วๆ“ฝัน..ขบวนแห่มาใกล้แล้วมาดูสิ”ปลายฝันรีบลุกเดินมาที่หน้าต่างตามพราวพิ้งค์เพื่อดูขบวนแห่ที่เหล่าผู้คนกำลังพากันรำหน้ากลองยาวอย่างสนุกสนาน“น่าตื่นเต้นจังเลย”ตอนนี้ปลายฝันเริ่มทำตัวไม่ถูกทั้งที่เตรียมใจเอาไว้แล้วแต่พอถึงสถานการณ์จริงกลับประหม่าเสียได้“นั่น..คุณ..ภูริช..”ชายวัยกลางคนที่พราวพิ้งค์เห็นว่ากำลังยืนอยู่ข้างๆคีรินทำเอาสาวเจ้ายืนตัวชาหน้าเสีย“อ่อ..ใช่คุณภูริชเธอรู้จักด้วยเหรอเค้าเป็นพี่ชายของคุณแดนแต่คนละแม่”“แล้ว..ทำไมนามสกุลไม่เหมือนกัน”“คุณแดนบอกว่าคุณภูเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของแม่ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้วเพราะนามสกุลแม่คุณภูไม่มีใครสืบส
หลังเสร็จเรื่องรับตัวเจ้าสาวไม่นานนักตอนนี้ทุกคนก็อยู่กันที่บ้านของแดนไทเพื่อฟังพระสวดให้บ่าวสาวได้ตักบาตรทำบุญในช่วงเช้า“ตาพอลยังไม่ตื่นอีกเหรอเราไปดูน้องให้พ่อหน่อยสิ..ทำตัวไม่มีมารยาทเอาซะเลย”ภูริชเห็นทีต้องหันมาบอกให้โนแอลไปตามภคพลขณะที่พระกำลังสวดคราแรกคิดว่ากลับมาจะเจอลูกชายคนเล็กรอต้อนรับแต่ป่านนี้ก็ไม่ยักจะเห็นหัวเสียทีจึงไม่ค่อยสบอารมณ์กับลูกชายที่ทำตัวไม่รู้กาลเทศะนัก“ครับคุณพ่อ”โนแอลรีบลุกปลีกตัวเข้าไปชั้นบนเขาเองก็มีส่วนผิดที่เมื่อคืนนอนไม่หลับจนต้องไปชวนภคพลนั่งดื่มนั่งคุยกันจนเกือบเช้าก๊อกๆๆหลังจากโนแอลเคาะประตูไม่นานภคพลก็เดินมาเปิดประตูเมื่อคนเป็นพี่เห็นน้องชายแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงมองหน้าด้วยสายตาฉงนเพราะไม่รู้ว่าภคพลนั้นทำไมยังไม่ลงไปที่งานแต่งด้านล่างเสียที“แต่งตัวเสร็จแล้วทำไมยังไม่ลงไปล่ะ”“ผมรอให้พระสวดเสร็จขี้เกียจไปนั่งนิ่งๆฟังน่าเบื่อ”ร่างสูงในชุดสูทสีเทาเซ็ททรงผมเนี้ยบยืนส่ายหน้าด้วยท่าทีขยาดเพราะจะให้เขาไปนั่งนิ่งๆฟังพระสวดคงสร้างความอึดอัดให้เขาไม่น้อย“คุณพ่อหงุดหงิดกับนายใหญ่แล้วรีบลงไปตอนนี้เลย”“รอให้พระสวดเสร็จก่อนไม่ได้เหรอครับ”“ไม่ได้”โนแอ
ตลอดงานทั้งงานพราวพิ้งค์ไม่ค่อยมีรอยยิ้มเท่าไรนักเพราะรู้สึกอึดอัดกับสายตาของภคพลที่เอาแต่จับจ้องเธอตลอดเวลาก็ว่าได้ในส่วนของภคพลเมื่อได้รู้จากคนในงานว่าเด็กหญิงตัวกลมวัยสองขวบที่หน้าตาออกไปทางลูกครึ่งนั้นเป็นลูกสาวของพราวพิ้งค์เขาก็ยิ่งเกิดความสงสัยเพราะมองยังไงหน้าตาของเจ้าก้อนกลมที่วิ่งเล่นหัวเราะร่าอยู่ในงานหน้าตาเหมือนกับเขาไม่มีผิดเพี้ยน“ดีจ่ะ..”ยัยหนูพลอยขวัญวิ่งเล่นที่ระเบียงหน้าบ้านจนเหนื่อยแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าภคพลยกมือป้อมสวัสดีคนตรงหน้าตามมารยาทที่คนเป็นแม่ได้สอน ชายหนุ่มหลี่ตามองเด็กหญิงที่ยืนเงยหน้ามองเขาตาแป๋วยิ่งมองใกล้เท่าไรยิ่งมั่นใจว่าอย่างไรเด็กคนนี้ก็ต้องมีเชื้อต่างชาติด้วยเพราะตาสีฟ้าเช่นเดียวกับเขาสีผมก็ยังเหมือนกันอีกด้วย“ไง..เจ้าแก้มย้วย”ภคพลย่อตัวลงยื่นมือหนาลูบพวงแก้มย้วยๆทั้งมองเด็กหญิงด้วยท่าทีเอ็นดูลึกๆแล้วยังมั่นใจว่าอย่างไรเด็กหญิงตรงหน้าคงเป็นลูกของตนแต่ก็ต้องถามกับพราวพิ้งค์ให้แน่ใจเสียก่อนว่าเธอจะตอบเขาว่าอย่างไร“อุ้ม..”ยัยหนูพลอยขวัญทิ้งก้นนั่งลงกับพื้นพร้อมยื่นแขนออกสองข้างหมายจะให้คนตรงหน้าอุ้มเพราะวิ่งจนเหนื่อยมากแล้ว“หมดแรงวิ่งแล้วเหรอ”
ทางด้านพราวพิ้งค์เมื่อขอตัวจากทุกคนได้ก็อุ้มเจ้าตัวกลมที่กำลังหลับมาที่ลานจอดรถใต้ต้นไม่ใหญ่หญิงสาววางลูกน้อยลงที่คาร์ซีทได้ร่างของเธอก็ถูกภคพลดึงจนตัวปลิว“ผมขอคุยด้วยหน่อย”“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันนะคะ”พราวพิ้งค์ที่ยังคงไม่พอใจชายหนุ่มเมื่อครู่รวมถึงพฤติกรรมที่เขาทำกับเธอตอนนี้จึงส่งเสียงแข็งตอบกลับชายหนุ่มด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์และพยายามแกะมือหนาของเขาออกจากแขนแต่ก็ทำได้ยาก“เด็กคนนั้นเป็นลูกผมใช่หรือเปล่า”ภคพลเปรยสายตาไปในรถยังเจ้าก้อนกลมที่กำลังหลับ พราวพิ้งค์นิ่งงันตัวชาวาบคำถามของภคพลทำให้เธอเริ่มใจเต้นไม่เป็นส่ำเหงื่อเม็ดเล็กเริ่มไหลซิกที่หน้าผากเพราะไม่นึกไม่ฝันว่าจะต้องมาตอบคำถามอะไรเช่นนี้“ฉันจะไปมีลูกกับคุณได้ยังไงคะในเมื่อคุณก็เป็นคนพูดเองว่าไม่ต้องการให้มีอะไรผูกมัดกับคนที่เป็นแค่คู่นอน”คำที่ชายหนุ่มเคยพูดกับเธอในตอนที่ให้เธอเป็นเพียงคู่นอนพราวพิ้งค์ยังจำมันได้ดีจึงอยากให้เขาเข้าใจว่าเธอไม่ได้ผิดสัญญาแม้แต่น้อย“แล้วลูกคุณกับใคร...หรือออกจากชีวิตผมไปแล้วคุณก็ไปนอนกับคนอื่นอีก”คำพูดของภคพลทำให้หญิงสาวที่รู้สึกไม่พอใจในตัวเขาอยู่แล้วยิ่งทวีคูณโทสะนั้นเพิ่มขึ้นไปอีก“ค่ะ..
“ทำไมต้องหาแต่เรื่องฮะ...ไอ้นิสัยใจร้อนโผงผางเมื่อไรจะเลิกซะที..แล้วนี่ยังไปลวนลามคนอื่นไม่เลือกหน้า..งามหน้าไหมล่ะ”ภูริชยืนเท้าเอวบ่นภคพลอุกเพราะเขารับรู้พฤติกรรมไร้มารยาทของลูกชายคนเล็กมานานแล้วคิดว่าโตขึ้นแล้วจะคิดได้กลับหนักกว่าเดิม“บ่นพอหรือยังครับ.. ผมขอตัวไปทำแผลก่อนนะครับ”ภคพลมองจ้องไปยังคนเป็นพ่อด้วยท่าทีที่ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรก่อนจะเดินหนีหลังจากที่พ่อตนนั้นพูดจบเพราะไม่อยากจะฟังคำต่อว่าอะไรต่ออีก“ฉันจะทำยังไงกับมันดี..เห็นทีต้องดัดไม้แก่กันก็คราวนี้”ภูริชหันมาหาโนแอลไม่รู้ว่าเขาเลี้ยงลูกผิดตั้งแต่เมื่อไรโตมามีการมีงานทำถึงได้นิสัยเสียมากเข้าทุกวี่ทุกวัน“ใจเย็นๆครับคุณพ่อ”โนแอลรู้ว่าน้องชายตนนั้นมีอำนาจในมือล้นเหลือจนเคยตัวเขาต้องเป็นหัวหน้าคนมากมายจึงทำให้ค่อนข้างติดนิสัยเผด็จการมากพอสมควรแต่ก็ยังมองไม่ออกเหมือนกันว่าจะขจัดนิสัยนี้ของน้องตัวเองได้อย่างไรไม่ใช่แค่ภคพลคนเดียวที่มีนิสัยเช่นนี้แต่นาดีลก็เป็นเช่นกันดึกมากแล้วสาวร่างเล็กในชุดนอนสายเดี่ยวซาตินสีชมพูสั้นเลยเข่ายังคงกอดอกเดินไปมาในห้องนอนครุ่นคิดถึงคำถามของภคพลเมื่อกลางวันอยู่ไม่วาง ไม่แปลกที่เขาจะคิดว่ายัยหน
เช้าวันต่อมาไร่เหมวัตวันนี้มีเรื่องให้ภูริชต้องปวดหัวอีกแต่เช้าเมื่อได้รับข่าวจากเลฟคู่ค้าคนสำคัญว่าลูกชายของเขาส่งคนไปทำร้ายอิกอร์น้องชายของเลฟจนบาดเจ็บสาหัสเพียะมือหนาฟาดเข้าแก้มซ้ายของลูกชายคนเล็กเต็มแรงจนหน้าหันด้วยความโมโหน้อยครั้งนักที่เขาจะลงมือกับลูกแบบนี้ภคพลน้ำตาคลอเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดที่ใบหน้าของเขาแม้แต่น้อยแต่กลับเป็นที่ใจมากกว่าที่ถูกคนเป็นพ่อตบตีด่าทอทั้งที่เขาเป็นฝ่ายที่ถูกอิกอร์กระทำก่อน“ทำอะไรไม่รู้จักคิดดีที่เลฟไม่เอาเรื่องอะไร”ภูริชตวาดเสียงฝาดเพราะดีแค่ไหนที่เขาคุยกับเลฟจนเขาอารมณ์เย็นลงและเข้าใจว่าอิกอร์ทำภคพลก่อนได้ไม่เช่นนั้นภคพลเองจะตกอยู่ในอันตรายซึ่งเขาก็ไม่สามารถที่จะปกป้องลูกได้ตลอดเวลาแม้นจะมีอำนาจมากพอกับเลฟก็เถอะ“แต่อิกอร์ทำผมก่อนนะครับ”ภคพลเอ่ยตอกกลับคนเป็นพ่อเสียงสั่นโมโหเหลือเกินที่พ่อของเขาไม่มีทีท่าจะปกป้องเขาแม้แต่น้อย“ฉันรู้.. แต่ทำไมไม่รู้จักใช้ปัญญาแก้ปัญหาทำไมชอบใช้แต่กำลัง”“ที่คุณพ่อโกรธขนาดนี้เป็นเพราะเลฟเป็นคู่ค้าคนสำคัญใช่หรือเปล่าครับ”“พอลหยุด..คุณพ่อไม่เคยคิดเห็นคนอื่นดีกว่าคนในครอบครัว”โนแอลที่ยืนเงียบในสถานการณ์ที่ไม่ค่อ
“คุณพิ้งค์”“อ่อ..ครับ..แล้วเธอดูแลทุกเรื่องเลยหรือเปล่าครับ”เห็นจะมีเรื่องนี้ที่ทำให้ที่นี่น่าอยู่สำหรับเขาขึ้นมาหน่อย“ก็..ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกเธอได้ตลอด”“ครับคุณอา..”“แล้วอย่าทำเรื่องอะไรที่มันงามหน้ามาถึงฉันด้วยล่ะ”ภูริชต้องพูดดักลูกชายตัวดีของเขาไว้ก่อนเพราะไม่อยากจะรับรู้รับฟังว่าภคพลมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใครหรือทำเรื่องเสียหายกับผู้หญิงอีก“ค้าบบ..คุณพ่อ”วันต่อมาในเวลาใกล้ที่จะโพล้เพล้หลังจากที่ภูริชกลับกรุงเทพพร้อมโนแอลและแดนไทยเดินทางไปฮันนีมูนกับปลายฝันสมหมายชายวัยเกือบห้าสิบผู้จัดการไร่ส้มในไร่ของเหมวัตก็ขับรถมาส่งภคพลที่กระท่อมเล็กท้ายไร่แม้นที่นี่จะเรียกว่ากระท่อมแต่มันก็ถือว่าใช้กินใช้อยู่ได้สะดวกพอสมควรเพราะกระท่อมริมธารน้ำตกท้ายไร่เหมวัตเป็นกระท่อมยกพื้นสูงชานระเบียงกว้างหลังคากระเบื้องแข็งแรงเรียกว่าบ้านหลังเล็กก็ยังได้ตัวเรือนทำด้วยไม้แผ่นใหญ่ฝาผนังด้านข้างเป็นไม้ไผ่สานหากภคพลเดาไม่ผิดโครงสร้างคงเป็นไม้สักด้านข้างเป็นครัวที่มีอุปกรณ์ครบครันมีไฟฟ้าเข้าถึงเรียบร้อยเดาว่าอาของเขาคงให้คนจัดเตรียมเอาไว้ให้ด้านในกระท่อมมีห้องนอนที่ไม่ใหญ่มากนักกั้นด้วยไผ่สานแยกจา