“ต้องขอบคุณช่างคนเก่งคนนี้ค่ะ”
ปลายฝนอดเอ่ยชมฝีมือพรางพิ้งค์ไม่ได้นับว่าเพื่อนของเธอเก่งไปเสียทุกอย่างจริงๆ
“ฉวย..”
หนูน้อยตัวกลมแก้มย้วยในชุดเสื้อยืดเจ้าหญิงสีชมพูกับกระโปรงสีขาวฟูฟ่องมัดผมรวบโดนัมสองข้างเดินเข้ามาเกาะขาปลายฝันเงยหน้าเอ่ยชมคนเป็นน้าหน้าบาน
“รู้ดีจังเลยนะเรา”
เปรมสุดาอุ้มยัยหนูพลอยขวัญมานั่งที่ตักพร้อมกดจูบกระหม่อมหนึ่งทีหากอยากจะให้หลานนั้นออกมาเหมือนกับยัยหนูพลอยขวัญเหลือเกินยิ่งคิดก็ยิ่งอยากให้ถึงวันที่ลูกสาวเธอคลอดเร็วๆ
“ฝัน..ขบวนแห่มาใกล้แล้วมาดูสิ”
ปลายฝันรีบลุกเดินมาที่หน้าต่างตามพราวพิ้งค์เพื่อดูขบวนแห่ที่เหล่าผู้คนกำลังพากันรำหน้ากลองยาวอย่างสนุกสนาน
“น่าตื่นเต้นจังเลย”
ตอนนี้ปลายฝันเริ่มทำตัวไม่ถูกทั้งที่เตรียมใจเอาไว้แล้วแต่พอถึงสถานการณ์จริงกลับประหม่าเสียได้
“นั่น..คุณ..ภูริช..”
ชายวัยกลางคนที่พราวพิ้งค์เห็นว่ากำลังยืนอยู่ข้างๆคีรินทำเอาสาวเจ้ายืนตัวชาหน้าเสีย
“อ่อ..ใช่คุณภูริชเธอรู้จักด้วยเหรอเค้าเป็นพี่ชายของคุณแดนแต่คนละแม่”
“แล้ว..ทำไมนามสกุลไม่เหมือนกัน”
“คุณแดนบอกว่าคุณภูเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของแม่ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้วเพราะนามสกุลแม่คุณภูไม่มีใครสืบสกุลเลยส่วนคุณแดนก็ใช้นามสกุลพ่อคนถึงไม่ค่อยรู้จักว่าคุณแดนเป็นพี่น้องของคุณภูเท่าไรนักนอกจากคนสนิท”
“งั้นเหรอ”
“อืม..ฉันก็พึ่งรู้ไม่นานมานี้เอง”
ปลายฝันยังคงจับจ้องไปที่ขบวนแห่ด้วยท่าทีตื่นเต้นแต่เป็นพราวพิ้งค์ที่เห็นว่างานนี้เธอจะไม่ค่อยสนุกเสียแล้วเพราะกลัวว่าใครบางคนที่เธอไม่อยากเจอจะอยู่ที่งานนี้ด้วย
หลังจากขบวนแห่มาประชิดประตูบ้านทุกคนลงมาอยู่หน้าบ้านหลังเล็กของพราวพิ้งค์คนที่กั้นประตูเงินเป็นมิลินและแพรวาสองสาวไฮโซที่เดินทางกลับมาจากอังกฤษก็เพื่องานของปลายฝันโดยเฉพาะ
“ซองน้อยไม่ให้ผ่านนะคะพ่อเลี้ยง”
แพรวาสาวสวยร่างสูงราวกับนางแบบเอ่ยเรียกซองกับเจ้าบ่าวหน้าระรื่นเพราะรู้ว่าเจ้าบ่าวของเพื่อนกระเป๋าหนักไม่น้อยงานนี้เธอคงได้เงินซื้อขนมเยอะทีเดียว
“ใช่ค่ะพ่อเลี้ยง”
มิลินสาวสวยร่างสูงมาดเนี้ยบหน้าตาจิ้มลิ้มเอ่ยเสริมแพรวา
“คนละห้าซองจะให้ผ่านหรือเปล่าครับ”
แดนไทยหันมาหยิบซองในมือของภูริชยื่นให้กับสาวๆคนละห้าซองเพื่อที่จะผ่านประตูเงินหวังว่าสองสาวจะให้เขาผ่านไปง่ายๆเพราะอยากจะเจอเจ้าสาวแย่แล้ว
“แค่สามซองก็ให้ผ่านแล้วล่ะค่ะ”
แพรวารีบปล่อยประตูกั้นแต่โดยดีเพราะเธอเห็นแต่ละซองมีแต่หนาๆทั้งนั้นหากเจ้าบ่าวใจป้ำเธอก็พร้อมปล่อยไปได้ง่ายๆ
ตอนนี้ด่านต่อไปของแดนไทยก็เป็นประตูทองหน้าห้องของเจ้าสาวที่มีพราวพิ้งค์หญิงสาวในชุดเดรสสีครีมรวบผมหางม้าแต่งหน้าอ่อนๆยืนกั้นประตูคู่อยู่กับฟองจันทร์หญิงสาวหน้าสวยหวานในชุดเดรสสีชมพูอ่อนลูกสาวของฟองเงิน
“เอ..พิ้งค์จะได้เท่าเมื่อกี้ไหมคะพ่อเลี้ยง”
พราวพิ้งค์ชะเง้อไปยังแพรวาและมิลิน
“แน่นอนครับ”
เจ้าบ่าวบุญทุ่มยื่นซองให้สองสาวที่กั้นประตูทองคนละห้าซองเช่นเดียวกับเมื่อครู่
“แบบนี้ค่อยน่าให้ผ่านหน่อยค่ะ”
ฟองจันทร์รีบเก็บซองเข้ากระเป๋าใบเล็กแต่เธอและพราวพิ้งค์ก็ยังไม่ยอมเปิดให้เจ้าบ่าวผ่านไปหาเจ้าสาวอยู่ดี
“เปิดให้ผมสิครับ”
แดนไทยหันไปพูดกับพราวพิ้งค์ด้วยสีหน้าฉงน
“ยังค่ะ”
พราวพิ้งค์ชี้ไปยังเจ้าตัวกลมที่กำลังวิ่งแจ้นมาหาเธอ
“ดีจ้า..”
หนูน้อยพลอยขวัญวิ่งมายกมือป้อมสวัสดีแดนไทยเสียงดังเจ้าก้อนกลมเป็นจุดสนใจให้กับภูริชและโนแอลไม่น้อยเพราะใบหน้าแบบนี้เหมือนกับคนในครอบครัวของตนไม่มีผิดต่างกันตรงที่เป็นเด็กผู้หญิงเท่านั้น
“ลุงต้องผ่านด่านเจ้าตัวกลมไปก่อนใช่หรือเปล่าครับ...จะเอาอะไรให้ดีล่ะ..หนูพลอยอยากได้อะไรครับ”
แดนไทยย่อตัวลงอุ้มยัยหนูพลอยขวัญทั้งหัวเราะร่าเมื่อประตูด่านสุดท้ายดูท่าจะยากที่สุด
“ยูก..อม..”
คำตอบของยัยหนูตัวกลมเรียกเสียงหัวเราะของคนรอบข้างได้เป็นอย่างดีจะมีอะไรที่ยัยหนูพลอยขวัญชื่นชอบไปกว่าลูกอมรสเปรี้ยวหวานที่คนเป็นแม่ซื้อให้ประจำ
“ลุงไม่มีด้วยสิ..เอาเป็นซองแดงหมดนี่ได้หรือเปล่า”
แดนไทยยื่นซองแดงหนาใส่มือป้อมของยัยหนูพลอยขวัญหวังว่านี่จะเป็นสิ่งที่แทนลูกอมที่เด็กหญิงอยากจะได้และเขาก็จะได้เข้าไปรับตัวเจ้าสาวเสียที
“เอา..จ่ะ”
เด็กหญิงยิ้มหน้าบานกอดซองหนาไว้ไม่วางดูท่าจะรู้ว่าของด้านในมีค่ามากกว่าลูกอมหลายเท่าสร้างความน่าเอ็นดูให้คนที่ร่วมขบวนมาไม่น้อย
“โอ้โห..ไม่ค่อยจะงกเลยนะเรา” ฟอดด
แดนไทยกดหอมแก้มย้วยของยัยหนูพลอยขวัญไปฟอดใหญ่ด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนจะส่งตัวคนในอ้อมอกไปให้พราวพิ้งค์และประตูห้องเจ้าสาวก็ได้เปิดออก
พราวพิ้งค์และทุกคนยืนดูเจ้าบ่าวที่กำลังจูงเจ้าสาวออกมาด้วยท่าทียินดีตอนนี้พราวพิ้งค์โล่งใจมากเมื่อคนที่เธอไม่อยากเจอไม่มาในงานนี้ค่อยรู้สึกคลายกังวลขึ้นมากพอสมควร
หลังเสร็จเรื่องรับตัวเจ้าสาวไม่นานนักตอนนี้ทุกคนก็อยู่กันที่บ้านของแดนไทเพื่อฟังพระสวดให้บ่าวสาวได้ตักบาตรทำบุญในช่วงเช้า“ตาพอลยังไม่ตื่นอีกเหรอเราไปดูน้องให้พ่อหน่อยสิ..ทำตัวไม่มีมารยาทเอาซะเลย”ภูริชเห็นทีต้องหันมาบอกให้โนแอลไปตามภคพลขณะที่พระกำลังสวดคราแรกคิดว่ากลับมาจะเจอลูกชายคนเล็กรอต้อนรับแต่ป่านนี้ก็ไม่ยักจะเห็นหัวเสียทีจึงไม่ค่อยสบอารมณ์กับลูกชายที่ทำตัวไม่รู้กาลเทศะนัก“ครับคุณพ่อ”โนแอลรีบลุกปลีกตัวเข้าไปชั้นบนเขาเองก็มีส่วนผิดที่เมื่อคืนนอนไม่หลับจนต้องไปชวนภคพลนั่งดื่มนั่งคุยกันจนเกือบเช้าก๊อกๆๆหลังจากโนแอลเคาะประตูไม่นานภคพลก็เดินมาเปิดประตูเมื่อคนเป็นพี่เห็นน้องชายแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงมองหน้าด้วยสายตาฉงนเพราะไม่รู้ว่าภคพลนั้นทำไมยังไม่ลงไปที่งานแต่งด้านล่างเสียที“แต่งตัวเสร็จแล้วทำไมยังไม่ลงไปล่ะ”“ผมรอให้พระสวดเสร็จขี้เกียจไปนั่งนิ่งๆฟังน่าเบื่อ”ร่างสูงในชุดสูทสีเทาเซ็ททรงผมเนี้ยบยืนส่ายหน้าด้วยท่าทีขยาดเพราะจะให้เขาไปนั่งนิ่งๆฟังพระสวดคงสร้างความอึดอัดให้เขาไม่น้อย“คุณพ่อหงุดหงิดกับนายใหญ่แล้วรีบลงไปตอนนี้เลย”“รอให้พระสวดเสร็จก่อนไม่ได้เหรอครับ”“ไม่ได้”โนแอ
ตลอดงานทั้งงานพราวพิ้งค์ไม่ค่อยมีรอยยิ้มเท่าไรนักเพราะรู้สึกอึดอัดกับสายตาของภคพลที่เอาแต่จับจ้องเธอตลอดเวลาก็ว่าได้ในส่วนของภคพลเมื่อได้รู้จากคนในงานว่าเด็กหญิงตัวกลมวัยสองขวบที่หน้าตาออกไปทางลูกครึ่งนั้นเป็นลูกสาวของพราวพิ้งค์เขาก็ยิ่งเกิดความสงสัยเพราะมองยังไงหน้าตาของเจ้าก้อนกลมที่วิ่งเล่นหัวเราะร่าอยู่ในงานหน้าตาเหมือนกับเขาไม่มีผิดเพี้ยน“ดีจ่ะ..”ยัยหนูพลอยขวัญวิ่งเล่นที่ระเบียงหน้าบ้านจนเหนื่อยแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าภคพลยกมือป้อมสวัสดีคนตรงหน้าตามมารยาทที่คนเป็นแม่ได้สอน ชายหนุ่มหลี่ตามองเด็กหญิงที่ยืนเงยหน้ามองเขาตาแป๋วยิ่งมองใกล้เท่าไรยิ่งมั่นใจว่าอย่างไรเด็กคนนี้ก็ต้องมีเชื้อต่างชาติด้วยเพราะตาสีฟ้าเช่นเดียวกับเขาสีผมก็ยังเหมือนกันอีกด้วย“ไง..เจ้าแก้มย้วย”ภคพลย่อตัวลงยื่นมือหนาลูบพวงแก้มย้วยๆทั้งมองเด็กหญิงด้วยท่าทีเอ็นดูลึกๆแล้วยังมั่นใจว่าอย่างไรเด็กหญิงตรงหน้าคงเป็นลูกของตนแต่ก็ต้องถามกับพราวพิ้งค์ให้แน่ใจเสียก่อนว่าเธอจะตอบเขาว่าอย่างไร“อุ้ม..”ยัยหนูพลอยขวัญทิ้งก้นนั่งลงกับพื้นพร้อมยื่นแขนออกสองข้างหมายจะให้คนตรงหน้าอุ้มเพราะวิ่งจนเหนื่อยมากแล้ว“หมดแรงวิ่งแล้วเหรอ”
ทางด้านพราวพิ้งค์เมื่อขอตัวจากทุกคนได้ก็อุ้มเจ้าตัวกลมที่กำลังหลับมาที่ลานจอดรถใต้ต้นไม่ใหญ่หญิงสาววางลูกน้อยลงที่คาร์ซีทได้ร่างของเธอก็ถูกภคพลดึงจนตัวปลิว“ผมขอคุยด้วยหน่อย”“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันนะคะ”พราวพิ้งค์ที่ยังคงไม่พอใจชายหนุ่มเมื่อครู่รวมถึงพฤติกรรมที่เขาทำกับเธอตอนนี้จึงส่งเสียงแข็งตอบกลับชายหนุ่มด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์และพยายามแกะมือหนาของเขาออกจากแขนแต่ก็ทำได้ยาก“เด็กคนนั้นเป็นลูกผมใช่หรือเปล่า”ภคพลเปรยสายตาไปในรถยังเจ้าก้อนกลมที่กำลังหลับ พราวพิ้งค์นิ่งงันตัวชาวาบคำถามของภคพลทำให้เธอเริ่มใจเต้นไม่เป็นส่ำเหงื่อเม็ดเล็กเริ่มไหลซิกที่หน้าผากเพราะไม่นึกไม่ฝันว่าจะต้องมาตอบคำถามอะไรเช่นนี้“ฉันจะไปมีลูกกับคุณได้ยังไงคะในเมื่อคุณก็เป็นคนพูดเองว่าไม่ต้องการให้มีอะไรผูกมัดกับคนที่เป็นแค่คู่นอน”คำที่ชายหนุ่มเคยพูดกับเธอในตอนที่ให้เธอเป็นเพียงคู่นอนพราวพิ้งค์ยังจำมันได้ดีจึงอยากให้เขาเข้าใจว่าเธอไม่ได้ผิดสัญญาแม้แต่น้อย“แล้วลูกคุณกับใคร...หรือออกจากชีวิตผมไปแล้วคุณก็ไปนอนกับคนอื่นอีก”คำพูดของภคพลทำให้หญิงสาวที่รู้สึกไม่พอใจในตัวเขาอยู่แล้วยิ่งทวีคูณโทสะนั้นเพิ่มขึ้นไปอีก“ค่ะ..
“ทำไมต้องหาแต่เรื่องฮะ...ไอ้นิสัยใจร้อนโผงผางเมื่อไรจะเลิกซะที..แล้วนี่ยังไปลวนลามคนอื่นไม่เลือกหน้า..งามหน้าไหมล่ะ”ภูริชยืนเท้าเอวบ่นภคพลอุกเพราะเขารับรู้พฤติกรรมไร้มารยาทของลูกชายคนเล็กมานานแล้วคิดว่าโตขึ้นแล้วจะคิดได้กลับหนักกว่าเดิม“บ่นพอหรือยังครับ.. ผมขอตัวไปทำแผลก่อนนะครับ”ภคพลมองจ้องไปยังคนเป็นพ่อด้วยท่าทีที่ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรก่อนจะเดินหนีหลังจากที่พ่อตนนั้นพูดจบเพราะไม่อยากจะฟังคำต่อว่าอะไรต่ออีก“ฉันจะทำยังไงกับมันดี..เห็นทีต้องดัดไม้แก่กันก็คราวนี้”ภูริชหันมาหาโนแอลไม่รู้ว่าเขาเลี้ยงลูกผิดตั้งแต่เมื่อไรโตมามีการมีงานทำถึงได้นิสัยเสียมากเข้าทุกวี่ทุกวัน“ใจเย็นๆครับคุณพ่อ”โนแอลรู้ว่าน้องชายตนนั้นมีอำนาจในมือล้นเหลือจนเคยตัวเขาต้องเป็นหัวหน้าคนมากมายจึงทำให้ค่อนข้างติดนิสัยเผด็จการมากพอสมควรแต่ก็ยังมองไม่ออกเหมือนกันว่าจะขจัดนิสัยนี้ของน้องตัวเองได้อย่างไรไม่ใช่แค่ภคพลคนเดียวที่มีนิสัยเช่นนี้แต่นาดีลก็เป็นเช่นกันดึกมากแล้วสาวร่างเล็กในชุดนอนสายเดี่ยวซาตินสีชมพูสั้นเลยเข่ายังคงกอดอกเดินไปมาในห้องนอนครุ่นคิดถึงคำถามของภคพลเมื่อกลางวันอยู่ไม่วาง ไม่แปลกที่เขาจะคิดว่ายัยหน
เช้าวันต่อมาไร่เหมวัตวันนี้มีเรื่องให้ภูริชต้องปวดหัวอีกแต่เช้าเมื่อได้รับข่าวจากเลฟคู่ค้าคนสำคัญว่าลูกชายของเขาส่งคนไปทำร้ายอิกอร์น้องชายของเลฟจนบาดเจ็บสาหัสเพียะมือหนาฟาดเข้าแก้มซ้ายของลูกชายคนเล็กเต็มแรงจนหน้าหันด้วยความโมโหน้อยครั้งนักที่เขาจะลงมือกับลูกแบบนี้ภคพลน้ำตาคลอเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดที่ใบหน้าของเขาแม้แต่น้อยแต่กลับเป็นที่ใจมากกว่าที่ถูกคนเป็นพ่อตบตีด่าทอทั้งที่เขาเป็นฝ่ายที่ถูกอิกอร์กระทำก่อน“ทำอะไรไม่รู้จักคิดดีที่เลฟไม่เอาเรื่องอะไร”ภูริชตวาดเสียงฝาดเพราะดีแค่ไหนที่เขาคุยกับเลฟจนเขาอารมณ์เย็นลงและเข้าใจว่าอิกอร์ทำภคพลก่อนได้ไม่เช่นนั้นภคพลเองจะตกอยู่ในอันตรายซึ่งเขาก็ไม่สามารถที่จะปกป้องลูกได้ตลอดเวลาแม้นจะมีอำนาจมากพอกับเลฟก็เถอะ“แต่อิกอร์ทำผมก่อนนะครับ”ภคพลเอ่ยตอกกลับคนเป็นพ่อเสียงสั่นโมโหเหลือเกินที่พ่อของเขาไม่มีทีท่าจะปกป้องเขาแม้แต่น้อย“ฉันรู้.. แต่ทำไมไม่รู้จักใช้ปัญญาแก้ปัญหาทำไมชอบใช้แต่กำลัง”“ที่คุณพ่อโกรธขนาดนี้เป็นเพราะเลฟเป็นคู่ค้าคนสำคัญใช่หรือเปล่าครับ”“พอลหยุด..คุณพ่อไม่เคยคิดเห็นคนอื่นดีกว่าคนในครอบครัว”โนแอลที่ยืนเงียบในสถานการณ์ที่ไม่ค่อ
“คุณพิ้งค์”“อ่อ..ครับ..แล้วเธอดูแลทุกเรื่องเลยหรือเปล่าครับ”เห็นจะมีเรื่องนี้ที่ทำให้ที่นี่น่าอยู่สำหรับเขาขึ้นมาหน่อย“ก็..ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกเธอได้ตลอด”“ครับคุณอา..”“แล้วอย่าทำเรื่องอะไรที่มันงามหน้ามาถึงฉันด้วยล่ะ”ภูริชต้องพูดดักลูกชายตัวดีของเขาไว้ก่อนเพราะไม่อยากจะรับรู้รับฟังว่าภคพลมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใครหรือทำเรื่องเสียหายกับผู้หญิงอีก“ค้าบบ..คุณพ่อ”วันต่อมาในเวลาใกล้ที่จะโพล้เพล้หลังจากที่ภูริชกลับกรุงเทพพร้อมโนแอลและแดนไทยเดินทางไปฮันนีมูนกับปลายฝันสมหมายชายวัยเกือบห้าสิบผู้จัดการไร่ส้มในไร่ของเหมวัตก็ขับรถมาส่งภคพลที่กระท่อมเล็กท้ายไร่แม้นที่นี่จะเรียกว่ากระท่อมแต่มันก็ถือว่าใช้กินใช้อยู่ได้สะดวกพอสมควรเพราะกระท่อมริมธารน้ำตกท้ายไร่เหมวัตเป็นกระท่อมยกพื้นสูงชานระเบียงกว้างหลังคากระเบื้องแข็งแรงเรียกว่าบ้านหลังเล็กก็ยังได้ตัวเรือนทำด้วยไม้แผ่นใหญ่ฝาผนังด้านข้างเป็นไม้ไผ่สานหากภคพลเดาไม่ผิดโครงสร้างคงเป็นไม้สักด้านข้างเป็นครัวที่มีอุปกรณ์ครบครันมีไฟฟ้าเข้าถึงเรียบร้อยเดาว่าอาของเขาคงให้คนจัดเตรียมเอาไว้ให้ด้านในกระท่อมมีห้องนอนที่ไม่ใหญ่มากนักกั้นด้วยไผ่สานแยกจา
ช่วงสายวันต่อมา“คุณพิ้งค์..ยัยหนูไปไหนแล้วล่ะครับ”คีรินเข้ามาทำธุระที่ไร่เหมวัตเขาจึงแวะเข้ามาหาพราวพิ้งค์ที่สำนักงานหลังจากที่รู้จากคนงานในไร่ว่าเธอมาทำบัญชีที่นี่วันนี้“ฟองจันทร์พาไปเล่นที่บ้านค่ะ”“ผมซื้อบัวลอยของป้าสายหยุดมาฝากครับ”พ่อเลี้ยงหนุ่มวางถุงบัวลอยบนโต๊ะทำงานของพราวพิ้งค์ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งตรงข้ามกับหญิงสาวคนในสำนักงานต่างก็มองมายังทั้งสองพรางอมยิ้มเพราะรู้ดีว่าคีรินนั้นตามจีบพราวพิ้งค์มานานแล้วแม่คุณก็ไม่ยอมใจอ่อนตกลงปลงใจกับคีรินเสียทีพวกเขาก็ได้แต่แอบเชียร์อยู่ห่างๆ“ขอบคุณนะคะ..รู้ได้ไงคะว่าพิ้งค์อยู่ที่นี่”“พี่มิ่งบอกครับ..แล้วทำไมวันนี้คุณพิ้งค์มาทำงานที่นี่ได้ปกติเห็นอยู่ที่บ้าน”คีรินต้องขอบคุณมิ่งหล้าคนดูแลโรงบ่มไวน์ที่ใจดีบอกกับเขาเมื่อเช้าว่าพราวพิ้งค์อยู่ในสำนักงาน“ปลายกับพ่อเลี้ยงไม่อยู่พิ้งค์ต้องมาที่นี่บ่อยน่ะค่ะ”Rrrrr“พิ้งค์รับโทรศัพท์แปปนะคะ”พราวพิ้งค์หันมายิ้มกับพ่อเลี้ยงหนุ่มก่อนจะก้มหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกง“ค่ะลุงสม.. ค่ะๆเดี๋ยวพิ้งค์จะรีบไปดูเค้านะคะ”พราวพิ้งค์รู้เรื่องไม่ค่อยดีนักจากปลายสายเธอเริ่มหน้าเสียเมื่อวางสายได้ก็รีบรนรานลุกออกจ
เวลาเกือบโพล้เพล้หลังจากที่พราวพิ้งค์ได้ยาตามที่สั่งกับสมหมายสองแม่ลูกขับรถเก๋งเข้ามาจอดใกล้ๆกับทางเข้ากระท่อมริมธารน้ำตกหญิงสาวอุ้มลูกวัยสองขวบพร้อมกระเป๋านมพะลุงพะลังเข้ามาบนชานกระท่อมยัยหนูพลอยขวัญดูท่าจะตื่นเต้นกับสถานที่แปลกใหม่ที่ได้มาพอสมควรดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆด้วยท่าทีสงสัยปนตื่นเต้นแต่ยังคงนิ่งเงียบไม่ส่งเสียงรบกวนอะไรคนเป็นแม่“คุณพอลคะ”พราวพิ้งค์ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูกระท่อมของภคพลเธอเรียกหาชายหนุ่มเสียงดังแต่ไม่ยักจะมีใครเปิดประตู“ปอออ..”เด็กหญิงเอ่ยขานตามคำสุดท้ายของคนเป็นแม่เสียงดังแต่ประตูห้องก็ยังไม่ขยับพราวพิ้งค์จึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป“คุณพอล”พราวพิ้งค์เอ่ยเสียงเรียกภคพลอีกรอบเมื่อเข้ามาในห้องโถงของกระท่อมไม่นานนักคนในห้องนอนก็เปิดประตูออกมาจากห้องนอนท่าทางของภคพลไม่ค่อยดูดีเท่าไรนักพราวพิ้งค์จึงรับรู้ได้ทันทีว่าเขาน่าจะไข้ขึ้น“คิดถึงผมเหรอ”คนตัวโตที่ยืนหน้าซีดเผือดยังมีแก่ใจเอ่ยหยอกหญิงสาวที่กระเตงเจ้าก้อนกลมเข้ามาหาเขาถึงที่นี่“แอ้..”มือป้อมยกชี้หน้าภคพลพร้อมส่งเสียงใสเอ่ยทักคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มกว้างเพราะจำได้ว่าเคยเจอกัน“ไง..เจ้าแก้มย้วย”มือหยายกหมาย