เวลาเกือบโพล้เพล้หลังจากที่พราวพิ้งค์ได้ยาตามที่สั่งกับสมหมายสองแม่ลูกขับรถเก๋งเข้ามาจอดใกล้ๆกับทางเข้ากระท่อมริมธารน้ำตกหญิงสาวอุ้มลูกวัยสองขวบพร้อมกระเป๋านมพะลุงพะลังเข้ามาบนชานกระท่อมยัยหนูพลอยขวัญดูท่าจะตื่นเต้นกับสถานที่แปลกใหม่ที่ได้มาพอสมควรดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆด้วยท่าทีสงสัยปนตื่นเต้นแต่ยังคงนิ่งเงียบไม่ส่งเสียงรบกวนอะไรคนเป็นแม่“คุณพอลคะ”พราวพิ้งค์ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูกระท่อมของภคพลเธอเรียกหาชายหนุ่มเสียงดังแต่ไม่ยักจะมีใครเปิดประตู“ปอออ..”เด็กหญิงเอ่ยขานตามคำสุดท้ายของคนเป็นแม่เสียงดังแต่ประตูห้องก็ยังไม่ขยับพราวพิ้งค์จึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป“คุณพอล”พราวพิ้งค์เอ่ยเสียงเรียกภคพลอีกรอบเมื่อเข้ามาในห้องโถงของกระท่อมไม่นานนักคนในห้องนอนก็เปิดประตูออกมาจากห้องนอนท่าทางของภคพลไม่ค่อยดูดีเท่าไรนักพราวพิ้งค์จึงรับรู้ได้ทันทีว่าเขาน่าจะไข้ขึ้น“คิดถึงผมเหรอ”คนตัวโตที่ยืนหน้าซีดเผือดยังมีแก่ใจเอ่ยหยอกหญิงสาวที่กระเตงเจ้าก้อนกลมเข้ามาหาเขาถึงที่นี่“แอ้..”มือป้อมยกชี้หน้าภคพลพร้อมส่งเสียงใสเอ่ยทักคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มกว้างเพราะจำได้ว่าเคยเจอกัน“ไง..เจ้าแก้มย้วย”มือหยายกหมาย
พราวพิ้งค์เสร็จจากธุระในห้องน้ำได้เธอก็รีบกลับเข้ามาในห้องนอนของภคพลหญิงสาวค่อนข้างเบาใจเมื่อเห็นชายหนุ่มหลับลงที่ฟูกนอนข้างเตียงไปได้จะได้ไม่ต้องมีบทสนทนากันให้เธอรู้สึกอึดอัดหากมีบางคำถามที่เธอไม่อยากจะตอบครั้นเมื่อจะลงนอนบนเตียงข้างๆลูกสาวพราวพิ้งค์ก็อดไม่ได้ที่จะผุดลุกลงมาจากเตียงอีกครั้งมานั่งลงวาดหลังมืออังหน้าผากของภคพลอีกรอบเพื่อดูว่าไข้ของเขาลดหรือยังหลังจากทานยาไปร่วมชั่วโมงแล้วหญิงสาวพอจะยกยิ้มมุมปากได้เพราะตัวของชายหนุ่มไม่ร้อนเท่าตอนที่เธอมาเจอคราแรกจึงหมายจะลุกกลับไปนอนบนเตียงแต่ร่างของเธอก็ถูกคนตัวโตรวบดึงไปนอนกอดเสียก่อน“คุณพอล..ปล่อยค่ะ”คิ้วบางได้รูปขมวดขึ้นผูกโบดวงตากลมโตจ้องมองค้อนใบหน้าคมที่อยู่ห่างจากสายตาไม่ถึงคืบความเจ้าเล่ห์ของภคพลไม่มีใครเกินเลยจริงๆ“ขอนอนกอดคุณไม่ได้หรือไงทำอย่างกับเราไม่เคยนอนด้วยกัน”เสียงแหบพร่าก่ายกระซิบข้างใบหน้านวลทั้งจ้องมองใบหน้าที่คุ้นเคยไม่วางตา“นั่นมันอดีตค่ะ..ปล่อย”พราวพิ้งค์ไม่กล้าที่จะโวยวายอะไรมากเพราะกลัวว่ายัยหนูพลอยขวัญจะตื่นหากเป็นสถานการณ์อื่นภคพลคงถูกเธอดุเสียงแข็งไปแล้ว“ไม่...หนีผมมาทำไม”ชายหนุ่มยังรัดร่างบางแน
ทางด้านในโรงอาหารที่ไร่ช่วงกลางวันผู้คนต่างจับกลุ่มกันพูดถึงเรื่องที่ลำเพยได้รับรู้มาบางคนที่สนใจเรื่องชาวบ้านก็จะพูดต่อปากต่อคำกันแต่บางคนที่สนใจแต่งานก็ทำเป็นไม่รับไม่รู้เรื่องของคนอื่นแต่เห็นประเภทไม่อยากรู้จะมีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นเพราะการติฉินนินทาของชาวบ้านชนบทเหมือนจะมองกันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วทั้งที่มันไม่ควรจะเป็นเช่นนั้นเลย“อยู่ด้วยกันทั้งคืนเลยเหรอ”ลำเพยไม่เพียงแค่พูดในโรงอาหารเท่านั้นแต่รามมาถึงขณะที่มาทำความสะอาดที่สำนักงานไร่ด้วยจนสาวๆที่ทำงานอยู่ในสำนักงานต่างก็หูผึ่งตาโพรงไปตามๆกันเมื่อได้รับรู้เรื่องของพราวพิ้งค์และภคพล“ก็ใช่น่ะสิแถมยังใส่เสื้อคุณพอลแค่ตัวเดียวด้วย.. สองคนนี้จุดติดกันไวเนอะ”ลำเพยเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงแห่งความมั่นอกมั่นใจว่าอย่างไรพราวพิ้งค์และภคพลก็จะต้องมีสัมพันธ์กันในคืนที่ผ่านมา“ป้าเพยก็พูดไปพี่พิ้งค์แค่ช่วยดูแลคุณพอลเท่านั้น”ฟองจันทร์ที่ช่วยคนเป็นแม่เอากับข้าวมาให้คนในสำนักงานก็ถือวิสาสะโต้เถียงแทนพราวพิ้งค์เพราะเชื่อในตัวพี่สาวของเธอว่าไม่ทำตัวง่ายกับผู้ชายที่ไม่ได้รักแน่นอน“เราน่ะจะไปรู้อะไรต้องคนอาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างป้านี่..ดูปราดเดียวก็รู
“นี่ครับคุณพอลจดหมายมาถึงเมื่อกลางวัน”สมหมายยื่นซองสีน้ำตาลที่พึ่งมาส่งในสำนักงานเมื่อกลางวันให้ภคพลขณะที่ชายหนุ่มกำลังนั่งรอเขามารับกลับบ้านที่แคร่ไม้ไผ่หน้าไร่องุ่นยามเย็น“ขอบคุณครับลุงสม”ภคพลรีบเปิดซองจดหมายดูทันทีเมื่อเห็นว่ามาจากณดลชายหนุ่มเปิดอ่านข้อมูลในจดหมายได้เขาก็นั่งนิ่งเงียบครู่หนึ่งจนสมหมายเริ่มตกใจกับท่าทีแปลกไปของภคพล“คุณพอล..มีอะไรหรือเปล่าครับ”“ลุงสมไปส่งผมที่บ้านพิ้งค์หน่อยนะครับผมมีธุระจะคุยกับเธอ”“ครับ”สมหมายค่อนข้างสงสัยในพฤติกรรมของภคพลพอสมควรแต่ก็มีมารยาทพอที่จะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาไม่นานนักรถกระบะคันเก่าก็มาจอดที่ปากทางเข้าบ้านของพราวพิ้งค์ภคพลกำซองจดหมายแน่นก่อนจะรีบลงจากรถ“ลุงสมกลับได้เลยนะครับถ้าผมจะกลับเดี๋ยวให้พิ้งค์ไปส่ง”“ครับ”สมหมายขับรถออกไปได้ภคพลก็เดินดุ่มเข้ามาในบ้านของพราวพิ้งค์ทันที“มีธุระอะไรถึงต้องมาที่นี่คะ”พราวพิ้งค์สาวเท้าออกมาจากในครัวเมื่อได้ยินเสียงรถกระบะหน้าบ้านเมื่อออกมาก็ต้องตกใจเพราะเห็นว่าเป็นภคพลที่เดินหน้านิ่วคิ้วขมวดมายืนอยู่หน้าประตู“ดีจ้า..”เจ้าก้อนกลมเห็นคนคุ้นหน้าเดินเข้ามาในบ้านก็ยกมือป้อมสวัสดีทั้งทัก
“ปี๋..เจื้อ..”เจ้าก้อนสาวขาป้อมวิ่งออกมาหน้าบ้านเข้าไปในดงดอกไม้ที่ผู้เป็นแม่ปลูกเอาไว้เพื่อไล่จับผีเสื้อหลากสีเช่นที่เคยเล่นทุกวันมือป้อมน้อยไล่บีบขยำอย่างคันไม้คันมือแต่ก็ไม่เคยจับผีเสื้อได้สักตัว“ปี๋เจื้อ..”เด็กหญิงวิ่งเข้ามาหาคนตัวโตที่นั่งจ้องตัวเองอยู่ไม่วางก่อนจะดึงมือชายหนุ่มให้ไปจับผีเสื้อช่วยเพราะรู้ดีว่าหากวิ่งจับเองคงจะเหนื่อยกว่าจะจับได้ภคพลอยากจะรวบอุ้มเจ้าก้อนกลมมากอดหอมสักฟอดใหญ่ติดตรงที่เขายังไม่ได้อาบน้ำกลัวเหงื่อไคลหรือสิ่งสกปรกจากเสื้อผ้าของตนจะระคายเคืองผิวลูกน้อยจึงทำได้แค่เดินตามเท่านั้น“ปี๋เจื้อ..จับ”ดวงตากลมโตเงยจ้องมองหน้าคนตัวสูงชี้ไม้ชี้มือหมายจะให้ช่วยจับผีเสื้อที่ตัวเองไม่สามารถจับได้“ให้พ่อจับเหรอครับ...”ภคพลอมยิ้มอ่อนก่อนจะย่อตัวลงนั่งเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยนคุยกับเจ้าตัวกลมใกล้ๆเด็กหญิงถึงกับขมวดคิ้วจ้องมองชายหนุ่มด้วยท่าทีแปลกใจกับสรรพนามที่ชายหนุ่มแทนตัวเองว่าพ่อภคพลมองจ้องไปยังนัยน์ตาไร้เดียงสาของยัยหนูพลอยขวัญเขามีความรู้สึกหน่วงอยู่ในใจไม่น้อยด้วยคิดไปไกลว่าหากเขามาเจอพราวพิ้งค์ช้าไปกว่านี้ลูกของเขาจะมีชีวิตที่ขาดพ่อไปอีกนานเท่าไรทั้งยังนึกน้
“ถ้าเป็นเรื่องผมกับเธอ..ผมให้คำตอบคุณได้..”ด้วยความที่ไม่อยากให้พราวพิ้งค์อยู่ใกล้คีรินภคพลจึงรีบปรี่เข้ามาโอบไหล่มนของหญิงสาวต่อหน้าต่อตาพ่อเลี้ยงหนุ่มพราวพิ้งค์เองก็ถึงกับยืนนิ่งกลืนน้ำลายไม่ลงคอไม่รู้ว่าภคพลจะหาเรื่องอะไรคีรินอีก“ผมกับพิ้งค์เราเคยอยู่ด้วยกันตั้งแต่เธอยังเรียนปี2ที่เธอมาอยู่ที่นี่เพราะเรามีเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อยแต่ตอนนี้เราเข้าใจกันดีแล้ว...ดูหน้าพยานรักของผมกับเธอสิ”ภคพลว่าพรางชี้มือมายังเจ้าก้อนกลมที่ทาแป้งจนตัวขาวโพลนในบ้าน พราวพิ้งค์เองก็ได้แต่ยืนเงียบเห็นทีครั้งนี้คีรินคงจะตัดใจจากเธอได้เสียทีแม้นจะเป็นการดับฝันของพ่อเลี้ยงหนุ่มในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไรนักคีรินตัวชาวาบยืนนิ่งงันยิ่งพราวพิ้งค์ไม่มีคำปฏิเสธอะไรเขาก็ยิ่งเข้าใจในสถานะตัวเองว่าต่อไปควรจะปฏิบัติตัวกับเธอเช่นไรคิดสงสัยตั้งแต่เห็นพราวพิ้งค์เป็นห่วงภคพลในครั้งก่อนแล้วว่ามันแปลกจากวิสัยของเธอที่แท้ก็เคยคุ้นเคยกันมาก่อนนั่นเอง“ผม..เข้าใจแล้ว”น้ำเสียงของพ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยอย่างแผ่วเบาแทบจะมีแต่เสียงลมก่อนจะเดินคอตกกลับไปที่รถและขับออกไปจากหน้าบ้านหญิงสาวไปอย่างรวดเร็วคีรินกลับไปได้พราวพิ้งค์ก็
“ไม่..คุณก็รู้ดีว่าผมชอบบรรยากาศช่วงเช้าๆแค่ไหน”“อื้ออ..”ว่าจบก็บดเบียดตัวตนสอดใส่ไปในช่องทางรักของพราวพิ้งค์จนสาวเจ้าหลับตาปี๋ส่งเสียงท้วงในลำคอเพราะจุกที่อีกฝ่ายสอดใส่โดยที่ไม่ทันตั้งตัวและแล้วบทรักอันเร่าร้อนในเช้าอันแสนสดใสก็ได้เริ่มขึ้นสมใจภคพล อาหารเช้าของวันนี้พราวพิ้งค์เห็นทีจะได้ไปหาซื้อตลาดในหมู่บ้านเพราะคงจะเตรียมไม่ทันอาทิตย์ต่อมาวันเวลาที่ภคพลมาอยู่บ้านของพราวพิ้งค์อย่างเป็นทางการเป็นเวลาอาทิตย์กว่าจนตอนนี้ผู้คนต่างก็รับรู้กันหมดแล้วว่าภคพลและพราวพิ้งค์เป็นอะไรกันทั้งสองไม่ต้องเปล่าประกาศให้ใครรู้ด้วยตัวเองเพียงแค่มีแขกไปใครมาที่บ้านของพราวพิ้งค์ก็จะรู้เรื่องของทั้งสองและเอาไปพูดต่อกันเองส่วนคีรินก็หายหน้าหายตาไม่ได้เข้ามาที่ไร่เหมวัตอีกเลยหากมีธุระก็จะให้คนสนิทมาจัดการแทนโดยให้เหตุผลว่าตนไม่ว่างแต่ทุกคนก็ดูออกว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นท่าจะอยู่ในอาการอกหักตกเย็นพราวพิ้งค์ปั่นจักรยานพายัยหนูพลอยขวัญมาดูคนเป็นพ่อที่เดินตรวจงานในไร่หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตไปจนหมดเมื่อวันก่อน“เหลืองานอะไรที่ต้องให้คนงานมาทำคะ”พราวพิ้งค์ปั่นจักรยานเข้ามาจอดใกล้ๆร่างสูงที่กำลังเดินสำรวจร่อง
“เมื่อกี้ปลาหวานนางแบบที่ผมจ้างเธอควงไปงานวันเกิดหมอเหนือ..เห็นเธอขยันทำงานเพราะจะเอาเงินไปจ่ายค่าเทอมผมเลยเสนอให้เธอเองไม่มีเรื่องชู้สาวสาบานได้”ภคพลไม่ได้มีแก่ใจพิศวาสปลาหวานแม้แต่น้อยตอนที่จะหาคู่ควงก็ติดต่อผ่านโมเดลลิ่งไม่ได้จ้างด้วยตัวเองด้วยซ้ำ“บอกทำไมคะ”พราวพิ้งค์เริ่มมีน้ำเสียงและท่าทีอ่อนลงทั้งที่ในใจก็ยังรู้สึกเชื่อคำพูดภคพลไม่เต็มร้อย“บอกให้เมียรู้ไงจะได้ไม่ต้องเข้าใจผิดคิดว่าผมมักมากอีก...ผมไปอาบน้ำก่อนและจะช่วยดูแลยัยหนูคุณจะได้ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง”ว่าจบก็เดินอมยิ้มอ่อนออกจากครัวไปอาบน้ำสบายใจที่ได้พูดความจริงให้หญิงสาวได้ฟังดูจากท่าทีเธอแล้วก็น่าจะมีแก่ใจเชื่อคำพูดเขาอยู่บ้างท้องฟ้าเกือบจะมืดฟองจันทร์ช่วยคนเป็นแม่ที่ไร่เสร็จก็ปั่นจักรยานมาหาคีรินที่บ้านหลังใหญ่ท้ายไร่ของชายหนุ่มที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเจ้าตัวมากนักเพื่อมาดูอาการของคีรินเพราะเห็นเขาเอาแต่เก็บตัวเงียบมาหลายวันหลังจากที่ทุกคนรู้เรื่องของภคพลและพราวพิ้งค์“พี่คีอยู่หรือเปล่าคะพี่นิ่ม”เมื่อปั่นจักรยานแม่บ้านคันสีชมพูมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของคีรินได้ฟองจันทร์ก็เจอนารีแม่บ้านวัยสามสิบกว่าที่เข้ามาดูแ
และแล้ววันเวลาก็ผ่านไปร่วมอาทิตย์ที่สามพราวพิ้งค์ก็ยังไม่มีทีท่าใจอ่อนคุยกับภคพลง่ายๆจนทุกคนต่างก็เห็นใจชายหนุ่มพอสมควรในตอนนี้ภูริชก็เข้ามาพักฟื้นที่บ้านของแดนไทยยัยหนูพลอยขวัญที่ปู่ไปรับมาทุกวันจึงทำให้ภคพลนั้นได้อยู่กับลูกนานๆบ้างนับว่าความสุขนี้ได้จากบารมีของคนเป็นพ่อล้วนๆ“งานหินเลยสิ..”ภูริชหันมาถามภคพลที่กำลังนั่งมองลูกสาวตัวกลมนั่งทานขนมไม่วางตา“หินจริงๆครับคุณพ่อ”ภคพลหันมาพยักหน้ากับคนเป็นพ่อหน้าเจื่อน“ทีหลังจะเล่นอีกหรือเปล่า”“เข็ดแล้วครับ”“ฮ่าๆๆ..”ภูริชหัวเราะร่าเมื่อเห็นพราวพิ้งค์จะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ลูกชายจอมเอาแต่ใจของเขาใจเสียได้นานขนาดนี้เช้าวันต่อมาพราวพิ้งค์ไปส่งยัยหนูให้ภูริชที่บ้านของแดนไทยเรียบร้อยเธอจึงขับรถมาที่ไร่เพียงกมลเพื่อมาหาฟองจันทร์ด้วยรู้ว่าหญิงสาวจะไปจากที่นี่เพื่อไปทำงานที่กรุงเทพในอีกวันสองวันที่จะถึง“เลือกทางนี้จริงๆใช่ไหม”พราวพิ้งค์มาที่นี่เพื่อคุยกับฟองจันทร์ให้แน่ใจว่าสิ่งที่หญิงสาวเลือกนั้นตรงกับใจที่ต้องการจริงๆหรือเปล่า“จันทร์ว่าจันทร์ขอออกไปอยู่คนเดียวก่อนดีกว่าค่ะ... แล้วค่อยคิดดูว่าตอนนั้นจะอยู่ได้หรือเปล่า”ฟองจันทร์เงียบค
วันต่อมาพราวพิ้งค์มาถึงโรงพยาบาลในช่วงเช้าเธอต้องตกใจเมื่อเห็นแคทเธอรีนกำลังจะเดินเข้าไปในห้องของภคพลจึงรีบรั้งตัวหญิงสาวเอาไว่ก่อน“คุณมาที่นี่ทำไมคะ”“พอลโทรให้ฉันมาหาบอกว่าอยากให้ฉันมาดูแล”แคทเธอรีนตอบกลับพราวพิ้งค์หน้าระรื่น“งั้นก็กลับไปเถอะค่ะ..เพราะหน้าที่นี้เป็นของฉันค่ะ”“ไม่กลับค่ะ..ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่าคุณเป็นอะไรกับพอลแต่ในเมื่อพอลเลือกที่จะให้ฉันมาดูแลคุณนั่นแหละที่ต้องกลับ”แคทเธอรีนว่าจบก็เปิดประตูเข้าห้องภคพลไปโดยมีพราวพิ้งค์ตามหลังเข้ามาติดๆ“ฉันมาแล้วค่ะพอล”แคทเธอรีนเอ่ยทักทายภคพลที่กำลังนั่งเลื่อนมือถืออยู่บนเตียงเสียงใส“ฉันบอกแล้วไงคะว่าคนที่จะดูแลคุณได้คือพยาบาลที่นี่”พราวพิ้งค์ค่อนข้างมีท่าทีเดือดดาลพอสมควรดวงตากลมโตจ้องมองภคพลเขม็งอย่างไม่วางตา“ก็ผมต้องการให้แคทมาดูแลคุณมีปัญหาอะไรอยากจะพักผ่อนผมก็ให้โอกาสคุณได้พักแล้วไง”“บอกให้เธอกลับไปเดี๋ยวนี้”“ไม่..”ภคพลตวัดหางตาคมมองหญิงสาวด้วยสายตากวนประสาท“ได้..เดี๋ยวได้รู้กัน”พราวพิ้งค์เดินกัดฟันกรอดออกนอกห้องไปไม่นานนักเหล่าชายฉกรรจ์คนของภูริชสามสี่คนก็เข้ามาลากตัวของแคทเธอรีนกลับไปส่งที่อยู่ของเธอครู่ต่อมา“
วันต่อมาพราวพิ้งค์ใจเสียตั้งแต่เมื่อวานยังไม่หายเพราะจนป่านนี้แล้วภคพลก็ยังไม่ยอมฟื้นขึ้นมา“เมื่อไรคุณจะตื่นมาคะ..คุณจะไล่ฉันต่อว่าฉันอีกกี่คำก็ได้ขอแค่ตื่นมาได้ไหม”สาวเจ้านั่งเอ่ยเสียงอู้อี้อยู่ข้างเตียงของชายหนุ่มพรางยกมือปาดน้ำตาลวกๆ“อืม..”ขณะที่พราวพิ้งค์นั่งหน้าหน้าเคร่งเครียดอยู่พักใหญ่ภคพลก็มีทีท่าว่าจะขยับตัวตื่น“คุณพอล”มือเรียวรีบกดเรียกพยาบาลทันทีที่เห็นว่าภคพลลืมตาไม่นานนักณดลและพยาบาลผู้ช่วยอีกหนึ่งคนก็เข้ามาในห้องพราวพิ้งค์จึงหลบไปนั่งมุมห้องเงียบๆขณะที่หมอหนุ่มกำลังลงมือตรวจอาการภคพล“จำได้หรือเปล่าว่าก่อนปวดหัวเกิดอะไรขึ้น..”ณดลเริ่มถามคนที่มีอาการสะลึมสะลือภคพลยังคงเงียบเขาเปรยสายตาไปยังหญิงสาวที่นั่งใจจดใจจ่อจ้องมองมายังตัวเองอยู่ที่มุมห้องก่อนจะเงยหน้าส่ายหัวกับณดล“..ไม่รู้ฉันจำไม่ได้”“แล้วตอนนี้ยังมีอาการปวดหัวอยู่หรือเปล่า”“ไม่..ฉันโอเค.. ขอพักผ่อนก่อน”ท่าทีของภคพลดูเหนื่อยอ่อยเป็นพิเศษณดลจึงไม่ได้เค้นถามอะไรเพื่อนตนมากเมื่อไม่มีอาการปวดหัวภคพลก็ไม่ได้น่าเป็นห่วงอะไร“อีกสี่ชั่วโมงฉันจะมาดูนายอีกรอบ”“อืม..”“ฉันขออยู่เฝ้านะคะจะอยู่เงียบๆ”พราวพิ้งค์ไม
“ก็อยากดูแลไม่ใช่หรือไง”ดวงตาคมจ้องมองยังใบหน้าที่บึ้งตึงของหญิงสาวด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ทั้งยังส่งน้ำเสียงยียวนกวนประสาทเธอตลอดเวลาทำพราวพิ้งค์หน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะเห็นท่าแล้วว่าภคพลคงจะอยากเล่นสงครามประสาทกับเธอเพราะเห็นว่าเธอดูแลเข้าหน่อยก็ใช้สารพัด“เจ้านายของนายเค้าปากไม่ค่อยตรงกับใจเท่าไรเลย”ณดลมองดูภคพลและพราวพิ้งค์ผ่านประตูกระจกด้านนอกกับก้องภพเขาดูออกว่าเพื่อนตนนั้นไม่ได้อยากจะไล่พราวพิ้งค์ไปจริงๆที่ทำไปเพียงเพราะโกรธเคืองเรื่องเธอหนีไปก็เท่านั้น“ครับ”ก้องภพเปรยสายตามองไปยังคนในห้องก็อมยิ้มอ่อนรู้ว่าจิตใจของนายเขาซับซ้อนซ่อนเงื่อนอยู่พอสมควรและที่หายวันหายคืนเช่นนี้ก็คงเป็นเพราะมีคนที่ตัวเองเอ่ยปากไล่มาอยู่ดูแลทุกวันนั่นเองRrrrr“ฉันขอตัวเดี๋ยวนะคะ”พราวพิ้งค์เห็นสายคีรินเข้ามาเธอก็รีบลุกออกจากเก้าอี้ทั้งที่ยังไม่ทันที่จะป้อนข้าวให้ภคพลเสร็จ“ค่ะคุณคีริน”หญิงสาวกดรับสายคุยกับคนที่โทรมาหาขณะที่กำลังจะเดินถึงประตูหลังจากนั้นก็เดินหายเงียบออกไปข้างนอก“คีริน”ภคพลขมวดคิ้วมองตามหลังร่างบางไม่วางตาเขารู้ว่าไม่เคยรู้จักคนๆนี้แต่ทำไมคุ้นกับชื่อคีรินที่หญิงสาวเอ่ยเรียกปลายสายแปลกๆ
“นายทำอะไรของนายรู้ก็รู้ว่าแคททำกับนายขนาดไหนยังจะอยู่ใกล้อีก”ณดลเริ่มสวดเพื่อนของเขาหลังจากที่ห้องนี้เหลือเพียงสองคน“ฉันทำเพราะอยากให้พิ้งค์ไปไกลๆต่างหาก”ภคพลตอบปัดเสียงอ่อนคิดว่าแค่นี้เพื่อนของเขาจะรู้ใจเสียอีกว่าคนอย่างเขาไม่มีทางดีกับคนที่เคยทำร้ายตัวเองมาก่อนแน่นอน“แกโกรธคุณพิ้งค์แค่เรื่องที่เธอหนีไปแล้วไม่บอกนายแค่นั้นเหรอ”ภคพลยังคงเงียบเป็นคำตอบ ณดลเริ่มขมวดคิ้วไม่รู้ว่าเพื่อนตนที่ยังเป็นมีนิสัยเก่าๆเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องผู้หญิงด้วย“คุณพิ้งค์ก็กลับมาแล้วไงเธอกลับมาเพราะเป็นห่วงนาย...ตลอดที่นายนอนเป็นผักคนที่ดูแลนายไม่ใช่พยาบาลแต่เป็นคุณพิ้งค์..เธอคอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้นายพูดคุยกับนายตลอด..ตอนนายไข้ขึ้นเธอก็ไม่เคยได้หลับได้นอน..แต่พอนายฟื้นมากลับเอาแต่ไล่ให้เธอไปไกลๆมันยุติธรรมแล้วเหรอ”ณดลว่าเสียงแข็งหากเขาพูดเรื่องยัยหนูพลอยขวัญได้เขาก็อยากจะพูดใจจะขาดภคพลจะได้รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นพ่อคนแล้วไม่ควรทำตัวงี่เง่าประชดใครเหมือนเด็กแต่ติดตรงที่พราวพิ้งค์ขอเอาไว้“ตอนเธอหนีฉันไปทิ้งให้ฉันเคว้งคว้าง...ยุติธรรมกับฉันเหมือนกันหรือไง”“นายไม่ได้คิดกับเธอแค่คู่นอนใช่หรือเปล่า
ก๊อกๆๆสายตาของสองหนุ่มมองไปยังประตูที่กำลังจะมีคนเข้ามาเมื่อภคพลเห็นว่าเป็นใครเขาก็มีสีหน้าไม่สบอารมณ์ในทันที“คุณพอลคะ”พราวพิ้งค์สาวเท้าเข้ามานั่งข้างเตียงของภคพลด้วยใบหน้าระรื่นมือเรียวรีบกอบกุมมือของชายหนุ่มเอาไว้แน่นด้วยความดีใจที่เห็นเขานั้นฟื้นขึ้นมาได้เสียที“กลับมาทำไม”ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะถามไถ่อาการของภคพลกับณดลคำถามน้ำเสียงเสียงห้วนของคนเจ็บก็ทำให้พราวพิ้งค์หน้าเสียกะทันหันไม่รู้ว่าเขาจะแกล้งอะไรเธอถึงได้ทักทายกันเช่นนี้“ผมขอคุยกับคุณพิ้งค์หน่อยครับ”ณดลรีบเรียกพราวพิ้งค์ออกมาคุยกันข้างนอกเพราะมีเรื่องที่หญิงสาวจะต้องรับรู้ถึงอาการที่ไม่ค่อยจะดีนักของภคพล“พอลความทรงจำหายไป...ที่จำได้ก็น่าจะสามปีที่แล้วครับ”“สามปีที่แล้วเหรอคะ?”พราวพิ้งค์เสียงสั่นมือไม้อ่อนเท่ากับว่าภคพลคนที่เจ็บอยู่ตอนนี้ยังเป็นคนเดิมคนที่เอาแต่ใจโผงผางเจ้าชู้และข้อสำคัญคือเขายังคงมองเธอเป็นแค่คู่นอนที่ไม่ต้องการให้มีอะไรผูกมัดฟึ่บบ“คุณพิ้งค์”ณดลรีบประคองพราวพิ้งค์เมื่อร่างบางฟุบกองลงกับพื้นดั่งคนไร้เรี่ยวแรงอาการข้างเคียงหลังการบาดเจ็บของภคพลนี่คือสิ่งที่พราวพิ้งค์ไม่อยากให้เกิดที่สุดหลังจากที่ไ
วันเวลาพ้นผ่านไปนานร่วมอาทิตย์ตอนนี้ภูริชก็ฟื้นตัวได้พอสมควรส่วนภคพลปลอดภัยแต่ยังไม่ฟื้นพราวพิ้งค์มาเฝ้าภคพลทุกวันไม่เคยห่างแทบจะกินนอนที่นี่ส่วนยัยหนูพลอยขวัญช่วงนี้ก็จะอยู่กับปลายฝันและแดนไทยทั้งสองอาสาช่วยเลี้ยงให้เองระหว่างที่พราวพิ้งค์ยังต้องเฝ้าภคพลภูริชฟื้นขึ้นมาได้แต่เขาก็ยังต้องรักษาตัวอีกนานเพราะกระดูกที่หักยังต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับมาเป็นปกติช่วงนี้บริษัทยิ่งวุ่นวายเรื่องการนำเข้ารถยนต์ลอตใหญ่ภูริชจึงวานให้โนแอลและนาดีลตัดสินใจกันว่าใครจะเข้าดูแลบริษัทแทนในช่วงนี้บทสรุปที่ได้คือโนแอลจะดูแลอยู่ที่นี่ทั้งบริษัทของคนเป็นพ่อและของภคพลส่วนกิจการส่วนตัวของเขาที่ฝรั่งเศสก็ฝากให้นาดีลดูแลพราวพิ้งค์ตื่นเช้าทุกวันเพื่อที่จะลุกขึ้นมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้กับภคพลเธอดูแลเขาอย่างดีทั้งภาวนาในใจทุกวันว่าให้เขานั้นฟื้นมาพูดคุยกับเธอเร็วๆ“คุณต้องหายไวๆนะคะจะได้มาฟังคำว่ารักจากปากของฉัน”หญิงสาวมองคนที่นอนเป็นผักหน้าละห้อยเธอเห็นภคพลอยู่ในสภาพนี้เป็นอาทิตย์แล้วจึงหดหู่หัวใจเป็นพิเศษ“พิ้งค์..เรื่องเธอกับคุณพอลยังไงกันแน่?”ปลายฝันที่เข้าห้องพักฟื้นของภคพลมาเงียบๆเธอก็แอบตกใจกับคำที่พราวพิ้
ดนัยหนุ่มวัยสามสิบห้าเขาเข้ามาทำงานในบริษัทของภูริชเพราะมีจุดหมายที่ต้องการก็คือเอาชีวิตนาดีลเพราะแค้นที่นาดีลนั้นหลอกน้องสาวของเขามีสัมพันธ์ด้วยจนเกิดท้องแล้วไม่รับผิดชอบแถมยังส่งคนมาพาน้องสาวของเขาไปทำแท้งและขาดการติดต่อไปจนน้องสาวของเขาคิดสั้นฆ่าตัวตายเหตุนี้เขาจึงคิดว่าชีวิตก็ควรจะแลกด้วยชีวิตที่ภูริชต้องร้อนรนขับรถออกมาเองจนเกิดอุบัติเหตุก็เป็นเพราะฝีมือของเขาเพียงแค่ทำให้รถมีปัญหานิดหน่อยแล้วก็โทรไปบอกความจริงว่านาดีลจะพาน้องสาวของเขาไปทำแท้งคนเป็นพ่ออย่างภูริชที่ไม่อยากให้ใครมารู้ความชั่วของลูกตัวเองจึงเลือกที่จะขับรถออกมาคนเดียวตามที่ดนัยได้วางแผนเอาไว้ก้องภพมารับพราวพิ้งค์กลับมาที่บ้านของภคพลในช่วงเย็นโดยยังไม่ได้บอกเรื่องที่ภคพลนั้นเกิดอุบัติเหตุเพราะกลัวว่าหญิงสาวนั้นจะตกใจ“คุณพิ้งค์พาคุณหนูพักผ่อนตามสบายเลยนะครับส่วนอาหารเย็นผมสั่งมาเรียบร้อยแล้วอยู่ที่โต๊ะอาหารในครัวครับ”“แล้วคุณพอลไปไหนคะ...เค้าจะกลับมาเมื่อไร”พราวพิ้งค์รีบชิงถามก้องภพขณะที่เขาจะหันหลังเดินออกไปจากบ้านหลังจากที่มาส่งเธอ“เอ่อ..คุณพอลติดประชุมด่วนครับคืนนี้น่าจะไม่ได้กลับนะครับคุณพิ้งค์”“ค่ะ”ก้องภพ
วันต่อมาแอด..แอด..ๆๆๆ “หืม..”พราวพิ้งค์กำลังไกวเปลให้เจ้าก้อนกลมที่พึ่งจะหลับกลางวันเธอก็ต้องขมวดคิ้วเพราะได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซต์รุ่นเก่าขับเข้ามาที่หน้าบ้านจึงรีบเดินออกไปห้ามให้คนที่ขับเข้ามาอย่าเข้ามาใกล้ด้วยกลัวว่ายัยหนูพลอยขวัญจะตื่น“คุณพอล..”เมื่อออกมาจากบ้านได้พราวพิ้งค์ก็ยิ่งสงสัยหนักว่าภคพลขับรถมอเตอร์ไซต์คันเก่านี้อีกทำไมทั้งที่ตอนนั้นมันพาเขาล้มจนเจ็บหนัก“ขับมอเตอร์ไซต์อีกทำไมคะ..เดี๋ยวก็ล้มจนเจ็บตัวอีก”“ทุกเย็นผมให้ต้นกล้ากับเตชินสอนค่าครูคนละร้อยทุกวันเป็นอาทิตย์จนตอนนี้ผมขับจนแข็งแล้ว..ลุงสมจะได้ไม่ต้องคอยมารับมาส่ง”ชายหนุ่มเอ่ยหน้าระรื่นอย่างภาคภูมิใจคิดว่าไอ้การที่ขับมอเตอร์คันเก่าคันนี้แท้จริงแล้วมันก็ไม่ได้ยากสักเท่าไรนัก“แล้วกลับมาทำไมคะงานยังไม่เลิกไม่ใช่หรือไง”“คิดถึงคุณกับลูกอยากกลับมาทานข้าวที่บ้าน”ร่างสูงว่าพรางส่งสายตากะลิ้มกะเหลี่ยมายังพราวพิ้งค์จนเธอต้องส่ายหัวคิดในใจว่าหลังจากนี้เชื่อได้ว่าเขาจะต้องกลับมาทานข้าวกลางวันที่บ้านทุกวันแน่นอนเพราะขับมอเตอร์ไซต์เป็นแบบนี้แล้วโต๊ะอาหาร“ขาหมูพะโล้ค่ะ..ตุ๋นตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วเปื่อยกำลังดีเลยค่ะ”“คุณท