“ปี๋..เจื้อ..”
เจ้าก้อนสาวขาป้อมวิ่งออกมาหน้าบ้านเข้าไปในดงดอกไม้ที่ผู้เป็นแม่ปลูกเอาไว้เพื่อไล่จับผีเสื้อหลากสีเช่นที่เคยเล่นทุกวันมือป้อมน้อยไล่บีบขยำอย่างคันไม้คันมือแต่ก็ไม่เคยจับผีเสื้อได้สักตัว
“ปี๋เจื้อ..”
เด็กหญิงวิ่งเข้ามาหาคนตัวโตที่นั่งจ้องตัวเองอยู่ไม่วางก่อนจะดึงมือชายหนุ่มให้ไปจับผีเสื้อช่วยเพราะรู้ดีว่าหากวิ่งจับเองคงจะเหนื่อยกว่าจะจับได้
ภคพลอยากจะรวบอุ้มเจ้าก้อนกลมมากอดหอมสักฟอดใหญ่ติดตรงที่เขายังไม่ได้อาบน้ำกลัวเหงื่อไคลหรือสิ่งสกปรกจากเสื้อผ้าของตนจะระคายเคืองผิวลูกน้อยจึงทำได้แค่เดินตามเท่านั้น
“ปี๋เจื้อ..จับ”
ดวงตากลมโตเงยจ้องมองหน้าคนตัวสูงชี้ไม้ชี้มือหมายจะให้ช่วยจับผีเสื้อที่ตัวเองไม่สามารถจับได้
“ให้พ่อจับเหรอครับ...”
ภคพลอมยิ้มอ่อนก่อนจะย่อตัวลงนั่งเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยนคุยกับเจ้าตัวกลมใกล้ๆเด็กหญิงถึงกับขมวดคิ้วจ้องมองชายหนุ่มด้วยท่าทีแปลกใจกับสรรพนามที่ชายหนุ่มแทนตัวเองว่าพ่อ
ภคพลมองจ้องไปยังนัยน์ตาไร้เดียงสาของยัยหนูพลอยขวัญเขามีความรู้สึกหน่วงอยู่ในใจไม่น้อยด้วยคิดไปไกลว่าหากเขามาเจอพราวพิ้งค์ช้าไปกว่านี้ลูกของเขาจะมีชีวิตที่ขาดพ่อไปอีกนานเท่าไร
ทั้งยังนึกน้อยใจที่พราวพิ้งค์มีโอกาสได้เห็นพัฒนาการของลูกน้อยตั้งแต่คลอดจนถึงตอนนี้เพียงคนเดียวทั้งที่เขาก็น่าจะได้อยู่ในช่วงเวลานั้นด้วย
ทั้งชีวิตไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้มีโอกาสเป็นพ่อคนเพราะรู้ว่าตัวเองเข้ากับเด็กไม่ค่อยเก่งแต่พอรู้ว่ามีลูกจนโตเข้าสองขวบแล้วหัวใจของเขาก็เกิดความปิติขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกอยากจะทำหน้าที่ของพ่ออยากจะทำหน้าที่ของสามีที่ดีสถานการณ์ในชีวิตเหมือนจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อได้รู้ว่าตัวเองมีลูก
“ไหนลองเรียกพ่อสิครับ..พ่อ”
ภคพลยังไม่ยอมสนใจผีเสื้อที่เจ้าตัวกลมพามาให้เขาจับแต่อยากจะให้ลูกสาวนั้นลองฝึกเรียกตนว่าพ่อให้คุ้นปากเสียก่อน
“ป้อ..”
ยัยหนูพลอยขวัญที่ไม่ได้เข้าใจความหมายของคำที่คนตรงหน้าสอนแต่ก็ยอมพูดตามแต่โดยดีแม้นจะไม่ใช่คำที่ชัดแต่คนที่ถูกลูกเรียกว่าพ่อครั้งแรกมันทำให้เขาฉีกยิ้มกว้างออกมาอัตโนมัติ
“อย่างนั้นแหละคนเก่ง”
“เก่ง” แปะ แปะ
เด็กหญิงยิ้มจนหน้าบานเมื่อถูกชื่นชมว่าเก่งก่อนจะยกมือป้อมตบกันเปาะแปะแต่ก็ไม่วายลืมเรื่องผีเสื้อที่อยากจะจับ
“ป้อ..จับ..จับ”
“พ่อจะจับยังไงดีล่ะ”
ภคพลหันมองซ้ายมองขวาหาอุปกรณ์ที่จะจับผีเสื้อเพื่อเอาใจลูกสาวแต่บริเวณรอบๆก็ไม่เห็นจะมีอะไรที่คิดว่าจะใช้จับผีเสื้อหลากสีให้ลูกตนได้เลย
“ไม่จับนะคะ..เดี่ยวผีเสื้อเจ็บน้า..”
พราวพิ้งค์ที่ออกมาทันสองพ่อลูกสนทนากันในคราแรกไม่อยากจะเข้ามาวุ่นวายแต่เธอก็ต้องแทรกแซงกิจกรรมของทั้งสองเพราะไม่อยากให้ลูกเธอนั้นทำร้ายผีเสื้อแสนสวยพวกนี้
รู้ว่าหากเจ้าตัวหลากสีอยู่ในน้ำมือของยัยหนูพลอยขวัญเป็นต้องจบชีวิตไม่เหลือดีแน่ไม่รู้ว่าภคพลคิดบ้างหรือเปล่าว่ากำลังจะสนับสนุนให้ลูกทารุณสัตว์แสนสวยพวกนี้อยู่
“ปี๋เจื้อเจ็บ..”
เด็กหญิงถลึงตาด้วยท่าทีตระหนกมองไปยังคนเป็นแม่เพราะรู้ว่าคำว่าเดี๋ยวเจ็บเข้าหูมาเมื่อไรเจ้าตัวต้องหยุดการกระทำทั้งหมดทันที
“ค่ะ..เดี๋ยวผีเสื้อเจ็บ”
“ปี๋เจื้อ..ย้องห้าย”
“ใช่ค่ะ..เราต้องดูเฉยๆพอค่ะถ้าผีเสื้อเจ็บเค้าจะไม่มาหาเราอีก”
คำสอนของพราวพิ้งค์ที่เอ่ยสอนยัยหนูพลอยขวัญทำภคพลหน้าเจื่อนลงไปทันทีดูท่าว่าตนจะเป็นคนใจร้ายเพราะความต้องการที่จะเอาใจลูกสาวตัวกลมเท่านั้น
พราวพิ้งค์สอนยัยหนูพลอยขวัญเรียบร้อยจึงตวัดหางตามาค้อนให้ชายหนุ่มหนึ่งขวับเพราะแทนที่พ่อจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกกลับยุยงส่งเสริมเรื่องผิดๆเสียอย่างนั้น
“ผมก็แค่อยากจะเอาใจลูก”
ภคพลรู้ว่าตัวเองนั้นคงถูกหญิงสาวตำหนิในใจแต่ก็ยังยืนยันว่าที่ทำก็เพื่อลูก
“สิ่งที่ฉันสอนลูกคุณก็จำไว้ด้วยนะคะ..ยัยหนูไปอาบน้ำกันนะคะ”
ว่าจบพราวพิ้งค์ก็อุ้มเจ้าตัวกลมเข้าไปในบ้านทิ้งให้ภคพลนั่งไคร่ครวญถึงสิ่งที่หญิงสาวพูดอยู่คนเดียว
“นี่คุณเห็นผมเป็นเด็กสองขวบหรือไงพิ้งค์”
ภคพลยืนเท่าเอวสบถเสียงอ่อนไล่หลังร่างบางที่เดินเข้าไปในบ้านนับว่าตอนนี้หญิงสาวปีกกล้าขาแข็งขึ้นเยอะทั้งที่เมื่อก่อนเป็นคนที่ไม่ค่อยมีปากมีเสียงเท่าไร
หลังจากพราวพิ้งค์พาลูกเข้าบ้านไปพักใหญ่รถกระบะสี่ประตูสีดำก็เข้ามาจอดที่ปากทางเข้าบ้าน ภคพลถึงกับยกยิ้มมุมปากด้วยเห็นว่านาทีนี้เป็นโอกาสที่ดีที่คีรินจะได้รับรู้ว่าตัวเองควรถอยห่างจากพราวพิ้งค์
“เย็นป่านนี้แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่”
คีรินลงจากรถเห็นภคพลมายืนยิ้มแป้นตรงหน้าก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ทันทีเพราะไม่ได้รู้สึกว่าอีกฝ่ายยิ้มอย่างเป็นมิตรแม้แต่น้อยเห็นจะเป็นการยิ้มเยาะอย่างกวนประสาทมากกว่า
“จะอยู่ที่ไหนก็เรื่องของผมเกี่ยวอะไรกับคุณ”
คนยิ้มร่าเอ่ยตอบกลับพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยท่าทียียวน
“ผมขอเตือนให้คุณอยู่ห่างจากคุณพิ้งค์..แค่นี้คุณก็ทำให้เธอเสียชื่อมากพอแล้ว”
คีรินเดินเข้ามาประชันหน้ากับภคพลเขาต้องการให้ภคพลอยู่ห่างจากพราวพิ้งค์เอาไว้เพราะรู้ว่าตอนนี้คนในไร่ต่างก็มองพราวพิ้งค์ไม่ดีเพราะภคพลเรื่องที่ต้องไปดูแลภคพลเกือบจะหมดไร่อยู่แล้ว
“ผมจะอยู่ใกล้ลูกใกล้เมียผม..ผิดตรงไหน”
ใบหน้าคมลูกครึ่งเอี้ยวเข้ากระซิบใกล้กับหูคีรินคำพูดของภคพลเหมือนคมมีดบาดลึกไปในใจของคีรินทำเอาพ่อเลี้ยงหนุ่มกำมือแน่น
“พูดอะไรของคุณ”
คีรินเอ่ยเสียงแข็งทั้งจ้องหน้าภคพลเขม็ง
“คุณคีรินมีธุระอะไรเหรอคะ”
พราวพิ้งค์เดินออกมาที่หน้าบ้านหลังอาบน้ำแต่งตัวให้ลูกสาวเสร็จเธอเห็นว่าคีรินเข้ามาหาที่บ้านจึงรีบเอ่ยทักเพราะรู้ได้เลยว่าภคพลคงไม่ได้ทักทายต้อนรับพ่อเลี้ยงหนุ่มอย่างเป็นมิตรแน่
“ผมจะมาบอกว่าพรุ่งนี้จะให้คนมารับไวน์ที่ไร่วันนี้เลยเอาเช็กมาให้ก่อนครับ”
คีรินตวัดหางตาใส่ภคพลก่อนจะเดินดุ่มเข้ามาหาพราวพิ้งค์เพื่อยื่นเช็กให้กับเธอ
“ค่ะ..”
“ผมขอคุยกับคุณพิ้งค์สักครู่ได้หรือเปล่าครับ”
“ถ้าเป็นเรื่องผมกับเธอ..ผมให้คำตอบคุณได้..”ด้วยความที่ไม่อยากให้พราวพิ้งค์อยู่ใกล้คีรินภคพลจึงรีบปรี่เข้ามาโอบไหล่มนของหญิงสาวต่อหน้าต่อตาพ่อเลี้ยงหนุ่มพราวพิ้งค์เองก็ถึงกับยืนนิ่งกลืนน้ำลายไม่ลงคอไม่รู้ว่าภคพลจะหาเรื่องอะไรคีรินอีก“ผมกับพิ้งค์เราเคยอยู่ด้วยกันตั้งแต่เธอยังเรียนปี2ที่เธอมาอยู่ที่นี่เพราะเรามีเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อยแต่ตอนนี้เราเข้าใจกันดีแล้ว...ดูหน้าพยานรักของผมกับเธอสิ”ภคพลว่าพรางชี้มือมายังเจ้าก้อนกลมที่ทาแป้งจนตัวขาวโพลนในบ้าน พราวพิ้งค์เองก็ได้แต่ยืนเงียบเห็นทีครั้งนี้คีรินคงจะตัดใจจากเธอได้เสียทีแม้นจะเป็นการดับฝันของพ่อเลี้ยงหนุ่มในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไรนักคีรินตัวชาวาบยืนนิ่งงันยิ่งพราวพิ้งค์ไม่มีคำปฏิเสธอะไรเขาก็ยิ่งเข้าใจในสถานะตัวเองว่าต่อไปควรจะปฏิบัติตัวกับเธอเช่นไรคิดสงสัยตั้งแต่เห็นพราวพิ้งค์เป็นห่วงภคพลในครั้งก่อนแล้วว่ามันแปลกจากวิสัยของเธอที่แท้ก็เคยคุ้นเคยกันมาก่อนนั่นเอง“ผม..เข้าใจแล้ว”น้ำเสียงของพ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยอย่างแผ่วเบาแทบจะมีแต่เสียงลมก่อนจะเดินคอตกกลับไปที่รถและขับออกไปจากหน้าบ้านหญิงสาวไปอย่างรวดเร็วคีรินกลับไปได้พราวพิ้งค์ก็
“ไม่..คุณก็รู้ดีว่าผมชอบบรรยากาศช่วงเช้าๆแค่ไหน”“อื้ออ..”ว่าจบก็บดเบียดตัวตนสอดใส่ไปในช่องทางรักของพราวพิ้งค์จนสาวเจ้าหลับตาปี๋ส่งเสียงท้วงในลำคอเพราะจุกที่อีกฝ่ายสอดใส่โดยที่ไม่ทันตั้งตัวและแล้วบทรักอันเร่าร้อนในเช้าอันแสนสดใสก็ได้เริ่มขึ้นสมใจภคพล อาหารเช้าของวันนี้พราวพิ้งค์เห็นทีจะได้ไปหาซื้อตลาดในหมู่บ้านเพราะคงจะเตรียมไม่ทันอาทิตย์ต่อมาวันเวลาที่ภคพลมาอยู่บ้านของพราวพิ้งค์อย่างเป็นทางการเป็นเวลาอาทิตย์กว่าจนตอนนี้ผู้คนต่างก็รับรู้กันหมดแล้วว่าภคพลและพราวพิ้งค์เป็นอะไรกันทั้งสองไม่ต้องเปล่าประกาศให้ใครรู้ด้วยตัวเองเพียงแค่มีแขกไปใครมาที่บ้านของพราวพิ้งค์ก็จะรู้เรื่องของทั้งสองและเอาไปพูดต่อกันเองส่วนคีรินก็หายหน้าหายตาไม่ได้เข้ามาที่ไร่เหมวัตอีกเลยหากมีธุระก็จะให้คนสนิทมาจัดการแทนโดยให้เหตุผลว่าตนไม่ว่างแต่ทุกคนก็ดูออกว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นท่าจะอยู่ในอาการอกหักตกเย็นพราวพิ้งค์ปั่นจักรยานพายัยหนูพลอยขวัญมาดูคนเป็นพ่อที่เดินตรวจงานในไร่หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตไปจนหมดเมื่อวันก่อน“เหลืองานอะไรที่ต้องให้คนงานมาทำคะ”พราวพิ้งค์ปั่นจักรยานเข้ามาจอดใกล้ๆร่างสูงที่กำลังเดินสำรวจร่อง
“เมื่อกี้ปลาหวานนางแบบที่ผมจ้างเธอควงไปงานวันเกิดหมอเหนือ..เห็นเธอขยันทำงานเพราะจะเอาเงินไปจ่ายค่าเทอมผมเลยเสนอให้เธอเองไม่มีเรื่องชู้สาวสาบานได้”ภคพลไม่ได้มีแก่ใจพิศวาสปลาหวานแม้แต่น้อยตอนที่จะหาคู่ควงก็ติดต่อผ่านโมเดลลิ่งไม่ได้จ้างด้วยตัวเองด้วยซ้ำ“บอกทำไมคะ”พราวพิ้งค์เริ่มมีน้ำเสียงและท่าทีอ่อนลงทั้งที่ในใจก็ยังรู้สึกเชื่อคำพูดภคพลไม่เต็มร้อย“บอกให้เมียรู้ไงจะได้ไม่ต้องเข้าใจผิดคิดว่าผมมักมากอีก...ผมไปอาบน้ำก่อนและจะช่วยดูแลยัยหนูคุณจะได้ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง”ว่าจบก็เดินอมยิ้มอ่อนออกจากครัวไปอาบน้ำสบายใจที่ได้พูดความจริงให้หญิงสาวได้ฟังดูจากท่าทีเธอแล้วก็น่าจะมีแก่ใจเชื่อคำพูดเขาอยู่บ้างท้องฟ้าเกือบจะมืดฟองจันทร์ช่วยคนเป็นแม่ที่ไร่เสร็จก็ปั่นจักรยานมาหาคีรินที่บ้านหลังใหญ่ท้ายไร่ของชายหนุ่มที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเจ้าตัวมากนักเพื่อมาดูอาการของคีรินเพราะเห็นเขาเอาแต่เก็บตัวเงียบมาหลายวันหลังจากที่ทุกคนรู้เรื่องของภคพลและพราวพิ้งค์“พี่คีอยู่หรือเปล่าคะพี่นิ่ม”เมื่อปั่นจักรยานแม่บ้านคันสีชมพูมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของคีรินได้ฟองจันทร์ก็เจอนารีแม่บ้านวัยสามสิบกว่าที่เข้ามาดูแ
“ได้...ผมดูคุณแทนก็ได้”“คุณพอล” ฟอดดร่างสูงลุกจากเก้าอี้ตวัดรวบอุ้มพราวพิ้งค์ขึ้นสาวเท้าสองสามก้าวไปวางเธอลงบนเตียงทาบทับร่างของเธอด้วยตัวของเขาก่อนจะกดหอมเข้าที่แก้มนวลฟอดใหญ่“ไม่กี่วันคุณพ่อจะมาที่นี่เพราะรู้เรื่องเราแล้ว..ท่านต้องการให้เราจดทะเบียนกันให้เร็วที่สุด”“คุณพอลแน่ใจเหรอคะว่าต้องการจะรับผิดชอบยัยหนูจริงๆ”ดวงตากลมโตหวานเหลือบจ้องมองเข้าไปนัยน์ตาสีฟ้าของชายหนุ่มเธอไม่เชื่อในตัวของภคพลสักเท่าไรว่าจะอยากรับผิดชอบภาระที่มีจริงๆกลัวว่าจะเห่อชั่วพักชั่วครู่เพราะอยากจะเอาชนะเธอมากกว่า“เคยเห็นผมพูดเล่นหรือไง...ถ้ายังไม่แน่ใจในตัวผม...ผมจะไม่พูดอะไรให้คุณเชื่ออีก.. ขอให้ใช้เวลาหลังจากนี้ดูการกระทำ..ขอแค่นั้น”พราวพิ้งค์เริ่มหลบสายตาอีกฝ่ายที่กำลังขอร้องเธอเสียงอ่อนในหัวสับสนไปหมดว่าจะเชื่อใจชายหนุ่มดีหรือไม่ดี ยังไม่ทันจะคิดตกริมฝีปากบางของเธอก็ถูกเขาครอบครองไม่ทันตั้งตัวและแล้วไม่นานนักคืนนี้ร่างบางก็ตกเป็นของคนเจ้าเล่ห์อีกคืนวันต่อมาวันนี้เป็นวันหยุดภคพลไม่ยอมอยู่เฉยเมื่อพราวพิ้งค์ทำอะไรเขาก็ตามติดเธอทุกที่และคอยช่วยเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่างโดยเฉพาะเวลาต้องทำอาหารให้ลูกรวมไป
จวบจนเข้าเวลาเย็นจากที่พราวพิ้งค์และภคพลอยากจะปิดเรื่องนี้กับฟองจันทร์ไว้ก่อนแต่ก็ปิดไม่มิดเพราะคนที่รู้จักต่างก็บอกกับฟองจันทร์ถึงเรื่องฟองเงินตอนนี้พราวพิ้งค์จึงต้องคอยช่วยปฐมพยาบาลฟองจันทร์เพราะหญิงสาวรู้ว่าแม่ตัวเองเสียแล้วก็ร้องห่มร้องให้เป็นลมเป็นแล้งไปหลายรอบส่วนของภคพลเองก็ต้องดูแลลูกเองเพราะพราวพิ้งค์ยังต้องจัดการอะไรอีกหลายอย่างเกี่ยวกับงานของฟองเงินไหนจะต้องดูแลสภาพจิตใจของฟองจันทร์อีก“จันทร์เป็นยังไงบ้างครับ”คีรินพุ่งพรวดเข้ามาในบ้านของพราวพิ้งค์หน้าตาตื่นขณะที่หญิงสาวและภคพลยืนเฝ้าฟองจันทร์ที่นอนเป็นลมอยู่บนโซฟาไม่ห่าง“ยังรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นค่ะนี่ก็เป็นลมรอบที่เท่าไรแล้วนับไม่ได้เลย..ตำรวจว่ายังไงบ้างคะเรื่องคดี”“ตีว่าเป็นอุบัติเหตุครับสอบปากคำคนที่ไร่ของเสี่ยจำรัสก็ไม่มีใครรู้ใครเห็นครับว่าเกิดอะไรขึ้นหนำซ้ำเสี่ยจำรัสยังตีสีหน้าโมโหที่ป้าเงินไปหาเห็ดในพื้นที่ของเขาโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาติจนเกิดเรื่องอีก”เรื่องสรุปคดีที่ออกมาจากปากคีรินทำภคพลเริ่มกัดฟันจนขึ้นสันกรามเขารู้ดีว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่และไม่คิดว่าคนที่เป็นถึงระดับพ่อเลี้ยงปกครองคนทั้งไร่อย่
“ไม่สนใจจะช่วยคนจะมาเป็นผู้พิทักษ์สันติราชทำไมวะ”ภคพลยังคงหัวเสียไม่หยุดแม้นจะนั่งรถออกมาจากโรงพักไกลแล้วก็เถอะ“ในองค์กรทุกองค์กรมันก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดีทั้งนั้น...อย่าใส่ใจกับคนประเภทนั้นให้มากนักเลยไม่นานใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้ชดใช้แบบนั้น”แดนไทยพยายามทำให้หลานของตนสงบลงแล้วมองความเป็นจริงใช่ว่าทุกที่จะมีแต่คนไม่ดีเสมอไปเขาเองก็พยายามนิ่งให้มากที่สุดเพราะตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าจะสั่งสอนคนที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างไร คนอย่างเขาไม่ชอบกระโตกกระตากรีบร้อนอะไรเพราะหากจะตีงูก็ต้องตีให้แน่ใจว่ามันตายจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาระแวงว่ามันจะแว้งกัดไร่บรรเจิด“สารวัตรโทรมาบอกว่าพ่อเลี้ยงคีรินกับหลานพ่อเลี้ยงแดนไทยมันไปอาละวาดที่ สน.จะให้รื้อคดีนังเงินขึ้นมาใหม่”เตโชหนุ่มใหญ่มาดเข้มลูกชายคนโตของจำรัสเดินดุ่มขึ้นบันไดบ้านทรงไทยเข้ามาหาคนเป็นพ่อในห้องทำงานด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียดหลังจากที่ได้รับข่าวจากอดิศรว่าแดนไทยคีรินและภคพลโร่ไปที่สถานีตำรวจเพื่อที่จะแจ้งว่าการตายของฟองเงินผิดปกติ“ทำไม..ในเมื่อคดีมันจบไปแล้ว..ร่างนังเงินก็เผาไปแล้ว”ชายแก่หัวล้านร่างท้วมละมือจากการตรวจเล่มบัญชีมองจ้องขมว
“มีอะไรพิ้งค์”ชายหนุ่มร่างสูงในชุดกางเกงยีนส์เปลือยเปล่าท่อนบนเพราะกำลังจะแต่งตัวกลับถูกหญิงสาวเรียกออกมาก่อนเมื่อมาถึงตัวของเธอภคพลก็รีบหยิบกระดาษจากในมือของพราวพิ้งค์มาอ่านรู้ได้ทันทีว่าคำขู่ในกระดาษเกิดขึ้นเพราะเหตุอันใด“มีอะไรที่ไม่ได้บอกฉันหรือเปล่าคะ..ทำไมมีคนมาขู่อะไรแบบนี้ล่ะ”พราวพิ้งค์เริ่มขมวดคิ้วเค้นภคพลด้วยสงสัยตั้งแต่ที่เห็นเขานอนไม่หลับแล้ว ภคพลเริ่มมองไปยังสีหน้าที่บึ้งตึงของหญิงสาวก่อนจะจูงเธอเข้ามาคุยกันในบ้าน“ผมจะเล่าทุกอย่างให้คุณฟังแต่ต้องเก็บเป็นความลับเข้าใจหรือเปล่า”“อะไรล่ะคะ”ทั้งสองหย่อนก้นนั่งที่โซฟาได้ภคพลก็ได้เริ่มกระซิบเสียงเบาด้วยกลัวว่าฟองจันทร์ที่พักผ่อนอยู่ในห้องจะได้ยินเขาเริ่มเล่าถึงความผิดปกติที่เขากับคีรินสงสัยในการตายของฟองเงินจนได้หลักฐานว่าฟองเงินนั้นตายอย่างผิดธรรมชาติและสันนิษฐานว่าคงเป็นคนในไร่ของเสี่ยจำรัส“ทำไมต้องมีเรื่องแบบนี้ด้วย..”พราวพิ้งค์นั่งฟังไปใจเสียไปว่าหดหู่กับการจากไปของฟองเงินแล้วยังต้องมารับรู้ว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุอีก“คุณกับฟองจันทร์และลูกอยู่ที่นี่ไม่ได้ผมจะหาที่ปลอดภัยให้พวกคุณอยู่..เรื่องนี้อย่าพึ่งให้ฟ
คีรินให้พีรวัตรกู้ไฟล์เสร็จเขาก็ได้หลักฐานชิ้นเด็ดมาอยู่ในมือพ่อเลี้ยงหนุ่มรีบขับรถมาที่โรงพักแล้วก็ยื่นหลักฐานให้กับร้อยเวรทันทีไม่นานนักอดิศรก็รีบเข้ามาที่โรงพักอย่างเร่งด่วนเพื่อคุยกับคีรินเป็นการส่วนตัวคลิปที่คีรินได้เห็นค่อนข้างหดหู่พอสมควรเพราะฟองเงินได้แอบถ่ายคลิปขณะที่คนในไร่กำลังขนยากันแล้วฟองเงินก็ถูกกระชากโดยใครบางคนที่รู้ว่าเธอซุ่มดูอยู่ไม่ไกลหลังจากนั้นมือถือที่ถ่ายวิดีโอค้างอยู่ก็หล่นลงไปกับพื้นดีที่มือถือที่หล่นนั้นเก็บภาพขณะที่ฟองเงินถูกทำร้ายได้แทบจะชัดเจนคีรินจึงเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นการเรียกร้องความยุติธรรมให้คนที่ตายไปแล้วได้ดีที่สุด“หลักฐานมัดตัวแน่นขนาดนี้หวังว่าสารวัตรจะพาคนผิดมารับโทษได้นะครับ”คีรินนั่งจ้องอดิศรที่กำลังนั่งหน้าเสียเพราะดูคลิปที่ฟองเงินถูกชาติชายทำร้ายเขาเค้นสารวัตรหนุ่มใหญ่เสียงแข็งเพราะหากอดิศรเห็นคลิปขนาดนี้แล้วจะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่มีความเป็นคนเหลืออยู่แล้วอดิศรนั่งหน้าเสียด้วยเห็นทีครั้งนี้จะปัดความรับผิดชอบได้ยากและยังนึกไม่ออกว่าจะหาทางช่วยให้คนของเสี่ยจำรัสรอดพ้นคดีนี้ได้อย่างไรในเมื่อหลักฐานมัดแน่นขนาดนี้“ผมจะไปรวบตัวชาติชายเดี๋ยวนี้”