Share

ตอนที่18 พ่อ

“ปี๋..เจื้อ..”

เจ้าก้อนสาวขาป้อมวิ่งออกมาหน้าบ้านเข้าไปในดงดอกไม้ที่ผู้เป็นแม่ปลูกเอาไว้เพื่อไล่จับผีเสื้อหลากสีเช่นที่เคยเล่นทุกวันมือป้อมน้อยไล่บีบขยำอย่างคันไม้คันมือแต่ก็ไม่เคยจับผีเสื้อได้สักตัว

“ปี๋เจื้อ..”

เด็กหญิงวิ่งเข้ามาหาคนตัวโตที่นั่งจ้องตัวเองอยู่ไม่วางก่อนจะดึงมือชายหนุ่มให้ไปจับผีเสื้อช่วยเพราะรู้ดีว่าหากวิ่งจับเองคงจะเหนื่อยกว่าจะจับได้

ภคพลอยากจะรวบอุ้มเจ้าก้อนกลมมากอดหอมสักฟอดใหญ่ติดตรงที่เขายังไม่ได้อาบน้ำกลัวเหงื่อไคลหรือสิ่งสกปรกจากเสื้อผ้าของตนจะระคายเคืองผิวลูกน้อยจึงทำได้แค่เดินตามเท่านั้น

“ปี๋เจื้อ..จับ”

ดวงตากลมโตเงยจ้องมองหน้าคนตัวสูงชี้ไม้ชี้มือหมายจะให้ช่วยจับผีเสื้อที่ตัวเองไม่สามารถจับได้

“ให้พ่อจับเหรอครับ...”

ภคพลอมยิ้มอ่อนก่อนจะย่อตัวลงนั่งเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยนคุยกับเจ้าตัวกลมใกล้ๆเด็กหญิงถึงกับขมวดคิ้วจ้องมองชายหนุ่มด้วยท่าทีแปลกใจกับสรรพนามที่ชายหนุ่มแทนตัวเองว่าพ่อ

ภคพลมองจ้องไปยังนัยน์ตาไร้เดียงสาของยัยหนูพลอยขวัญเขามีความรู้สึกหน่วงอยู่ในใจไม่น้อยด้วยคิดไปไกลว่าหากเขามาเจอพราวพิ้งค์ช้าไปกว่านี้ลูกของเขาจะมีชีวิตที่ขาดพ่อไปอีกนานเท่าไร

ทั้งยังนึกน้อยใจที่พราวพิ้งค์มีโอกาสได้เห็นพัฒนาการของลูกน้อยตั้งแต่คลอดจนถึงตอนนี้เพียงคนเดียวทั้งที่เขาก็น่าจะได้อยู่ในช่วงเวลานั้นด้วย

ทั้งชีวิตไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้มีโอกาสเป็นพ่อคนเพราะรู้ว่าตัวเองเข้ากับเด็กไม่ค่อยเก่งแต่พอรู้ว่ามีลูกจนโตเข้าสองขวบแล้วหัวใจของเขาก็เกิดความปิติขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกอยากจะทำหน้าที่ของพ่ออยากจะทำหน้าที่ของสามีที่ดีสถานการณ์ในชีวิตเหมือนจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อได้รู้ว่าตัวเองมีลูก

“ไหนลองเรียกพ่อสิครับ..พ่อ”

ภคพลยังไม่ยอมสนใจผีเสื้อที่เจ้าตัวกลมพามาให้เขาจับแต่อยากจะให้ลูกสาวนั้นลองฝึกเรียกตนว่าพ่อให้คุ้นปากเสียก่อน

“ป้อ..”

ยัยหนูพลอยขวัญที่ไม่ได้เข้าใจความหมายของคำที่คนตรงหน้าสอนแต่ก็ยอมพูดตามแต่โดยดีแม้นจะไม่ใช่คำที่ชัดแต่คนที่ถูกลูกเรียกว่าพ่อครั้งแรกมันทำให้เขาฉีกยิ้มกว้างออกมาอัตโนมัติ

“อย่างนั้นแหละคนเก่ง”

“เก่ง” แปะ แปะ

เด็กหญิงยิ้มจนหน้าบานเมื่อถูกชื่นชมว่าเก่งก่อนจะยกมือป้อมตบกันเปาะแปะแต่ก็ไม่วายลืมเรื่องผีเสื้อที่อยากจะจับ

“ป้อ..จับ..จับ”

“พ่อจะจับยังไงดีล่ะ”

ภคพลหันมองซ้ายมองขวาหาอุปกรณ์ที่จะจับผีเสื้อเพื่อเอาใจลูกสาวแต่บริเวณรอบๆก็ไม่เห็นจะมีอะไรที่คิดว่าจะใช้จับผีเสื้อหลากสีให้ลูกตนได้เลย

“ไม่จับนะคะ..เดี่ยวผีเสื้อเจ็บน้า..”

พราวพิ้งค์ที่ออกมาทันสองพ่อลูกสนทนากันในคราแรกไม่อยากจะเข้ามาวุ่นวายแต่เธอก็ต้องแทรกแซงกิจกรรมของทั้งสองเพราะไม่อยากให้ลูกเธอนั้นทำร้ายผีเสื้อแสนสวยพวกนี้

รู้ว่าหากเจ้าตัวหลากสีอยู่ในน้ำมือของยัยหนูพลอยขวัญเป็นต้องจบชีวิตไม่เหลือดีแน่ไม่รู้ว่าภคพลคิดบ้างหรือเปล่าว่ากำลังจะสนับสนุนให้ลูกทารุณสัตว์แสนสวยพวกนี้อยู่

“ปี๋เจื้อเจ็บ..”

เด็กหญิงถลึงตาด้วยท่าทีตระหนกมองไปยังคนเป็นแม่เพราะรู้ว่าคำว่าเดี๋ยวเจ็บเข้าหูมาเมื่อไรเจ้าตัวต้องหยุดการกระทำทั้งหมดทันที

“ค่ะ..เดี๋ยวผีเสื้อเจ็บ”

“ปี๋เจื้อ..ย้องห้าย”

“ใช่ค่ะ..เราต้องดูเฉยๆพอค่ะถ้าผีเสื้อเจ็บเค้าจะไม่มาหาเราอีก”

คำสอนของพราวพิ้งค์ที่เอ่ยสอนยัยหนูพลอยขวัญทำภคพลหน้าเจื่อนลงไปทันทีดูท่าว่าตนจะเป็นคนใจร้ายเพราะความต้องการที่จะเอาใจลูกสาวตัวกลมเท่านั้น

พราวพิ้งค์สอนยัยหนูพลอยขวัญเรียบร้อยจึงตวัดหางตามาค้อนให้ชายหนุ่มหนึ่งขวับเพราะแทนที่พ่อจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกกลับยุยงส่งเสริมเรื่องผิดๆเสียอย่างนั้น

“ผมก็แค่อยากจะเอาใจลูก”

ภคพลรู้ว่าตัวเองนั้นคงถูกหญิงสาวตำหนิในใจแต่ก็ยังยืนยันว่าที่ทำก็เพื่อลูก

“สิ่งที่ฉันสอนลูกคุณก็จำไว้ด้วยนะคะ..ยัยหนูไปอาบน้ำกันนะคะ”

ว่าจบพราวพิ้งค์ก็อุ้มเจ้าตัวกลมเข้าไปในบ้านทิ้งให้ภคพลนั่งไคร่ครวญถึงสิ่งที่หญิงสาวพูดอยู่คนเดียว

“นี่คุณเห็นผมเป็นเด็กสองขวบหรือไงพิ้งค์”

ภคพลยืนเท่าเอวสบถเสียงอ่อนไล่หลังร่างบางที่เดินเข้าไปในบ้านนับว่าตอนนี้หญิงสาวปีกกล้าขาแข็งขึ้นเยอะทั้งที่เมื่อก่อนเป็นคนที่ไม่ค่อยมีปากมีเสียงเท่าไร

หลังจากพราวพิ้งค์พาลูกเข้าบ้านไปพักใหญ่รถกระบะสี่ประตูสีดำก็เข้ามาจอดที่ปากทางเข้าบ้าน ภคพลถึงกับยกยิ้มมุมปากด้วยเห็นว่านาทีนี้เป็นโอกาสที่ดีที่คีรินจะได้รับรู้ว่าตัวเองควรถอยห่างจากพราวพิ้งค์

“เย็นป่านนี้แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่”

คีรินลงจากรถเห็นภคพลมายืนยิ้มแป้นตรงหน้าก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ทันทีเพราะไม่ได้รู้สึกว่าอีกฝ่ายยิ้มอย่างเป็นมิตรแม้แต่น้อยเห็นจะเป็นการยิ้มเยาะอย่างกวนประสาทมากกว่า

“จะอยู่ที่ไหนก็เรื่องของผมเกี่ยวอะไรกับคุณ”

คนยิ้มร่าเอ่ยตอบกลับพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยท่าทียียวน

“ผมขอเตือนให้คุณอยู่ห่างจากคุณพิ้งค์..แค่นี้คุณก็ทำให้เธอเสียชื่อมากพอแล้ว”

คีรินเดินเข้ามาประชันหน้ากับภคพลเขาต้องการให้ภคพลอยู่ห่างจากพราวพิ้งค์เอาไว้เพราะรู้ว่าตอนนี้คนในไร่ต่างก็มองพราวพิ้งค์ไม่ดีเพราะภคพลเรื่องที่ต้องไปดูแลภคพลเกือบจะหมดไร่อยู่แล้ว

“ผมจะอยู่ใกล้ลูกใกล้เมียผม..ผิดตรงไหน”

ใบหน้าคมลูกครึ่งเอี้ยวเข้ากระซิบใกล้กับหูคีรินคำพูดของภคพลเหมือนคมมีดบาดลึกไปในใจของคีรินทำเอาพ่อเลี้ยงหนุ่มกำมือแน่น

“พูดอะไรของคุณ”

คีรินเอ่ยเสียงแข็งทั้งจ้องหน้าภคพลเขม็ง

“คุณคีรินมีธุระอะไรเหรอคะ”

พราวพิ้งค์เดินออกมาที่หน้าบ้านหลังอาบน้ำแต่งตัวให้ลูกสาวเสร็จเธอเห็นว่าคีรินเข้ามาหาที่บ้านจึงรีบเอ่ยทักเพราะรู้ได้เลยว่าภคพลคงไม่ได้ทักทายต้อนรับพ่อเลี้ยงหนุ่มอย่างเป็นมิตรแน่

“ผมจะมาบอกว่าพรุ่งนี้จะให้คนมารับไวน์ที่ไร่วันนี้เลยเอาเช็กมาให้ก่อนครับ”

คีรินตวัดหางตาใส่ภคพลก่อนจะเดินดุ่มเข้ามาหาพราวพิ้งค์เพื่อยื่นเช็กให้กับเธอ

“ค่ะ..”

“ผมขอคุยกับคุณพิ้งค์สักครู่ได้หรือเปล่าครับ”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status