“ไม่..คุณก็รู้ดีว่าผมชอบบรรยากาศช่วงเช้าๆแค่ไหน”
“อื้ออ..”
ว่าจบก็บดเบียดตัวตนสอดใส่ไปในช่องทางรักของพราวพิ้งค์จนสาวเจ้าหลับตาปี๋ส่งเสียงท้วงในลำคอเพราะจุกที่อีกฝ่ายสอดใส่โดยที่ไม่ทันตั้งตัวและแล้วบทรักอันเร่าร้อนในเช้าอันแสนสดใสก็ได้เริ่มขึ้นสมใจภคพล อาหารเช้าของวันนี้พราวพิ้งค์เห็นทีจะได้ไปหาซื้อตลาดในหมู่บ้านเพราะคงจะเตรียมไม่ทัน
อาทิตย์ต่อมา
วันเวลาที่ภคพลมาอยู่บ้านของพราวพิ้งค์อย่างเป็นทางการเป็นเวลาอาทิตย์กว่าจนตอนนี้ผู้คนต่างก็รับรู้กันหมดแล้วว่าภคพลและพราวพิ้งค์เป็นอะไรกัน
ทั้งสองไม่ต้องเปล่าประกาศให้ใครรู้ด้วยตัวเองเพียงแค่มีแขกไปใครมาที่บ้านของพราวพิ้งค์ก็จะรู้เรื่องของทั้งสองและเอาไปพูดต่อกันเอง
ส่วนคีรินก็หายหน้าหายตาไม่ได้เข้ามาที่ไร่เหมวัตอีกเลยหากมีธุระก็จะให้คนสนิทมาจัดการแทนโดยให้เหตุผลว่าตนไม่ว่างแต่ทุกคนก็ดูออกว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นท่าจะอยู่ในอาการอกหัก
ตกเย็นพราวพิ้งค์ปั่นจักรยานพายัยหนูพลอยขวัญมาดูคนเป็นพ่อที่เดินตรวจงานในไร่หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตไปจนหมดเมื่อวันก่อน
“เหลืองานอะไรที่ต้องให้คนงานมาทำคะ”
พราวพิ้งค์ปั่นจักรยานเข้ามาจอดใกล้ๆร่างสูงที่กำลังเดินสำรวจร่องไร่องุ่นเธอกวาดสายตาไปรอบๆก่อนจะเอ่ยถามลองเชิงภคพลว่าหากเก็บเกี่ยวผลผลิตเรียบร้อยแล้วจะทำอย่างไรต่อไปกับไร่องุ่น
“ผมว่าต้องเก็บหญ้าให้หมดก่อนฝนจะลงอีกรอบไม่อย่างนั้นหญ้าจะงามมากกว่านี้คุณว่าผมเดาถูกหรือเปล่า”
“ค่ะ..คุณพอลก็เรียนรู้งานได้เร็วนะคะ”
ภคพลยืนกอดอกทำท่าภูมิใจที่วันนี้ได้รับคำชมจากปากของพราวพิ้งค์เพราะทุกวันเห็นจะเจอแต่คำประชดประชันกันเสียมากกว่า
“ไง..มาให้กำลังใจพ่อเหรอครับ”
ภคพลก้มมองเจ้าตัวกลมที่นั่งอยู่เบาะหน้าจักรยานอยากจะเข้ากดหอมแก้มย้วยสักฟอดก็ติดตรงที่เหงื่อบนหน้าของเขาจะระคายเคืองผิวลูกน้อยจะกอดหอมได้ก็เป็นช่วงหลังกลับบ้านอาบน้ำแล้วเท่านั้น
“ย้าม..”
ยัยหนูพลอยขวัญในชุดฉลามน้อยสีฟ้าเอื้อมมือป้อมไปที่ตระกร้าหยิบขวดน้ำเย็นขวดเล็กส่งให้คนเป็นพ่อโดยที่ไม่มีใครต้องบอก พฤติกรรมน่าเอ็นดูของเจ้าก้อนกลมทำภคพลหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งส่วนพราวพิ้งค์ก็ยิ้มแก้มปริที่ลูกสาวของเธอมีน้ำใจโดยไม่ต้องเอ่ยปากสั่ง
“ขอบคุณครับ”
ภคพลยิ้มร่าสายตาของเขามองไปยังลูกสาวที่น่ารักน่าชังด้วยแววตาแห่งความสุขไม่คิดเลยว่าคนอย่างเขาที่ใช้เงินซื้อความสุขมานักต่อนักแต่ความสุขที่ได้กลับไม่มีค่าเท่าที่ได้เห็นความน่าเอ็นดูของลูกสาวของเขาตอนนี้เลย
ตอนนี้ทั้งสามกลับมาที่สำนักงานเพื่อเตรียมตัวที่จะกลับบ้านแต่ยังไม่ทันได้เปิดประตูออกไปจากสำนักงานโทรศัพท์ที่นี่ก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ไร่เหมวัตค่ะ..ค่ะ..สักครู่นะคะ”
พราวพิ้งค์สีหน้าเปลี่นทันทีเมื่อปลายสายโทรมาในธุระเรื่องที่เธอไม่ได้อยากรู้
“คุณพอลคะ...ปลายสายบอกว่าเธอชื่อปลาหวานต้องการคุยกับคุณเพราะคุณยังไม่ได้จ่ายค่าเทอมให้เธอค่ะ”
ว่าจบก็วางหูไว้กับโต๊ะตวัดสายตามองค้อนชายหนุ่มก่อนจะจูงลูกเดินออกไปจากห้อง
ภคพลเห็นท่าคราวนี้จะงานเข้าอีกรอบเพราะเชื่อได้เลยว่าพราวพิ้งค์ไม่ได้คิดกับเขาในแง่ดีแน่เมื่อมีผู้หญิงโทรหาให้จ่ายค่าเทอมให้แบบนี้
“ปลาหวาน...คุณไปหาหมอณดลที่โรงพยาบาลXXX...บอกว่าผมให้คุณมาเอาค่าเทอมที่เค้าเข้าใจหรือเปล่า..โอเคงั้นแค่นี้ก่อน”
หลังจากคุยกับปลายสายจบภคพลก็รีบเดินดุ่มออกมาจากสำนักงานเพื่อตามหาพราวพิ้งค์เขาต้องอธิบายให้เธอฟังว่าปลาหวานเป็นใครไม่เช่นนั้นหญิงสาวคงคิดว่าเขาไม่เลิกมักมากแน่นอน
“ก้องภพ.. สองครั้งแล้ว..กลับไปฉันจะคาดโทษนาย”
นึกโมโหก้องภพสองหนแล้วที่บอกทั้งที่อยู่เบอโทรของเขาให้เหล่าผู้หญิงจนเกิดปัญหาที่เขาต้องแก้ กลับไปเขาต้องจัดการกับคนสนิทเสียหน่อยแล้ว
“พิ้งค์ไปไหนแล้วครับลุงสม”
เมื่อชายหนุ่มออกมาไม่เห็นภรรยาและลูกจึงเดินไล่ตามให้ควั่กจนเห็นสมหมายเดินเข้ามาเลยถามหาสองแม่ลูกกับเขา
“ไปที่โรงครัวน่าจะไปเอากับข้าวครับ”
สมหมายชี้ไปยังโรงครัวที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
“อ่อ..ครับ”
ภคพลโล่งใจคิดว่าพราวพิ้งค์พาลูกหนีกลับบ้านโดยที่ไม่รอเขาเสียแล้ว
“กับข้าวเหลือเยอะเลยนะคะวันนี้”
พราวพิ้งค์เข้ามาช่วยฟองเงินตักกับข้าวใส่ถุงเผื่อว่าคนงานคนอื่นมาถึงจะได้หยิบกลับไปได้เลย
“ป้าก็ลืมว่าวันนี้คนในสวนองุ่นหยุดกันเพราะเก็บผลผลิตหมดแล้ว.. ที่เหลือก็เรียกคนในไร่ส้มเอากลับคนละถุงสองถุง”
“พิ้งค์เอาต้มยำไก่อย่างเดียวก็พอค่ะ”
“ปลานึ่งเหลือสองตัวเลยหนูพิ้งค์เอาไปหมดเลยหรือเปล่าเผื่อคุณพอลด้วย”
ฟองเงินเห็นภคพลเดินเข้ามาในโรงครัวพอดีจึงหมายจะตักปลานึ่งใส่ถุงไปให้บ้านของพราวพิ้งค์ให้หมดเพราะรู้ว่าคนงานคนอื่นก็คงไม่เอาส่วนมากคนที่นี่จะชอบทานอะไรที่เป็นของรสจัดมากกว่า
“ดีเลยครับป้าเงินผมกำลังอยากทานปลานึ่งพอดี”
ภคพลยิ้มร่าเมื่อรู้ตัวว่าจะได้ทานของโปรด
“เหรอคะ...นึกว่าชอบทานแต่ปลาหวาน”
สาวเจ้าว่าทั้งที่ไม่คิดจะชายตามองคนตัวโตที่ยืนอยู่ใกล้ๆภคพลรู้ได้ทันทีว่านั่นคือคำประชดที่จะสร้างหายนะให้เขาลูกใหญ่
“คุณพอลชอบปลาหวานเหรอคะเดี๋ยววันหลังป้าจะทำให้”
“เอ่อ..ก็ไม่ค่อยชอบเท่าไรหรอกครับพิ้งค์เค้าก็แต่พูดเล่นไป”
หลังจากจัดการเอาอาหารใส่ถุงเสร็จทั้งสามก็ขับรถกลับระยะทางจากไร่มายังบ้านพราวพิ้งค์ไม่สนใจจะมองหรือสนทนากับภคพลแม้แต่น้อยมีเพียงเจ้าก้อนกลมที่สรรหาคำมาคุยกับคนเป็นพ่ออยู่เนืองๆจนถึงบ้าน เมื่อมาถึงพราวพิ้งค์ก็ไม่วายเอาแต่เงียบเช่นเคยปริปากพูดได้แค่กับลูกเท่านั้น
“ที่ประชดเมื่อกี้หึงผมเหรอ”
ภคพลเดินเข้ามาหาพราวพิ้งค์ขณะที่เธออุ่นอาหารอยู่ในครัวเท่าที่คิดไปคิดมาท่าทีของหญิงสาวตอนที่ประชดเขาก็ไม่ต่างอะไรกับผูหญิงที่กำลังหึง เขาคิดว่าตัวเองเดาไม่ผิดแต่เจ้าตัวจะรับหรือเปล่านั้นก็อีกเรื่อง
“ใครจะไปหึงคุณล่ะคะ”
หญิงสาวรีบแก้ตัวเสียงแข็ง
“เมื่อกี้ปลาหวานนางแบบที่ผมจ้างเธอควงไปงานวันเกิดหมอเหนือ..เห็นเธอขยันทำงานเพราะจะเอาเงินไปจ่ายค่าเทอมผมเลยเสนอให้เธอเองไม่มีเรื่องชู้สาวสาบานได้”ภคพลไม่ได้มีแก่ใจพิศวาสปลาหวานแม้แต่น้อยตอนที่จะหาคู่ควงก็ติดต่อผ่านโมเดลลิ่งไม่ได้จ้างด้วยตัวเองด้วยซ้ำ“บอกทำไมคะ”พราวพิ้งค์เริ่มมีน้ำเสียงและท่าทีอ่อนลงทั้งที่ในใจก็ยังรู้สึกเชื่อคำพูดภคพลไม่เต็มร้อย“บอกให้เมียรู้ไงจะได้ไม่ต้องเข้าใจผิดคิดว่าผมมักมากอีก...ผมไปอาบน้ำก่อนและจะช่วยดูแลยัยหนูคุณจะได้ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง”ว่าจบก็เดินอมยิ้มอ่อนออกจากครัวไปอาบน้ำสบายใจที่ได้พูดความจริงให้หญิงสาวได้ฟังดูจากท่าทีเธอแล้วก็น่าจะมีแก่ใจเชื่อคำพูดเขาอยู่บ้างท้องฟ้าเกือบจะมืดฟองจันทร์ช่วยคนเป็นแม่ที่ไร่เสร็จก็ปั่นจักรยานมาหาคีรินที่บ้านหลังใหญ่ท้ายไร่ของชายหนุ่มที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเจ้าตัวมากนักเพื่อมาดูอาการของคีรินเพราะเห็นเขาเอาแต่เก็บตัวเงียบมาหลายวันหลังจากที่ทุกคนรู้เรื่องของภคพลและพราวพิ้งค์“พี่คีอยู่หรือเปล่าคะพี่นิ่ม”เมื่อปั่นจักรยานแม่บ้านคันสีชมพูมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของคีรินได้ฟองจันทร์ก็เจอนารีแม่บ้านวัยสามสิบกว่าที่เข้ามาดูแ
“ได้...ผมดูคุณแทนก็ได้”“คุณพอล” ฟอดดร่างสูงลุกจากเก้าอี้ตวัดรวบอุ้มพราวพิ้งค์ขึ้นสาวเท้าสองสามก้าวไปวางเธอลงบนเตียงทาบทับร่างของเธอด้วยตัวของเขาก่อนจะกดหอมเข้าที่แก้มนวลฟอดใหญ่“ไม่กี่วันคุณพ่อจะมาที่นี่เพราะรู้เรื่องเราแล้ว..ท่านต้องการให้เราจดทะเบียนกันให้เร็วที่สุด”“คุณพอลแน่ใจเหรอคะว่าต้องการจะรับผิดชอบยัยหนูจริงๆ”ดวงตากลมโตหวานเหลือบจ้องมองเข้าไปนัยน์ตาสีฟ้าของชายหนุ่มเธอไม่เชื่อในตัวของภคพลสักเท่าไรว่าจะอยากรับผิดชอบภาระที่มีจริงๆกลัวว่าจะเห่อชั่วพักชั่วครู่เพราะอยากจะเอาชนะเธอมากกว่า“เคยเห็นผมพูดเล่นหรือไง...ถ้ายังไม่แน่ใจในตัวผม...ผมจะไม่พูดอะไรให้คุณเชื่ออีก.. ขอให้ใช้เวลาหลังจากนี้ดูการกระทำ..ขอแค่นั้น”พราวพิ้งค์เริ่มหลบสายตาอีกฝ่ายที่กำลังขอร้องเธอเสียงอ่อนในหัวสับสนไปหมดว่าจะเชื่อใจชายหนุ่มดีหรือไม่ดี ยังไม่ทันจะคิดตกริมฝีปากบางของเธอก็ถูกเขาครอบครองไม่ทันตั้งตัวและแล้วไม่นานนักคืนนี้ร่างบางก็ตกเป็นของคนเจ้าเล่ห์อีกคืนวันต่อมาวันนี้เป็นวันหยุดภคพลไม่ยอมอยู่เฉยเมื่อพราวพิ้งค์ทำอะไรเขาก็ตามติดเธอทุกที่และคอยช่วยเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่างโดยเฉพาะเวลาต้องทำอาหารให้ลูกรวมไป
จวบจนเข้าเวลาเย็นจากที่พราวพิ้งค์และภคพลอยากจะปิดเรื่องนี้กับฟองจันทร์ไว้ก่อนแต่ก็ปิดไม่มิดเพราะคนที่รู้จักต่างก็บอกกับฟองจันทร์ถึงเรื่องฟองเงินตอนนี้พราวพิ้งค์จึงต้องคอยช่วยปฐมพยาบาลฟองจันทร์เพราะหญิงสาวรู้ว่าแม่ตัวเองเสียแล้วก็ร้องห่มร้องให้เป็นลมเป็นแล้งไปหลายรอบส่วนของภคพลเองก็ต้องดูแลลูกเองเพราะพราวพิ้งค์ยังต้องจัดการอะไรอีกหลายอย่างเกี่ยวกับงานของฟองเงินไหนจะต้องดูแลสภาพจิตใจของฟองจันทร์อีก“จันทร์เป็นยังไงบ้างครับ”คีรินพุ่งพรวดเข้ามาในบ้านของพราวพิ้งค์หน้าตาตื่นขณะที่หญิงสาวและภคพลยืนเฝ้าฟองจันทร์ที่นอนเป็นลมอยู่บนโซฟาไม่ห่าง“ยังรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นค่ะนี่ก็เป็นลมรอบที่เท่าไรแล้วนับไม่ได้เลย..ตำรวจว่ายังไงบ้างคะเรื่องคดี”“ตีว่าเป็นอุบัติเหตุครับสอบปากคำคนที่ไร่ของเสี่ยจำรัสก็ไม่มีใครรู้ใครเห็นครับว่าเกิดอะไรขึ้นหนำซ้ำเสี่ยจำรัสยังตีสีหน้าโมโหที่ป้าเงินไปหาเห็ดในพื้นที่ของเขาโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาติจนเกิดเรื่องอีก”เรื่องสรุปคดีที่ออกมาจากปากคีรินทำภคพลเริ่มกัดฟันจนขึ้นสันกรามเขารู้ดีว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่และไม่คิดว่าคนที่เป็นถึงระดับพ่อเลี้ยงปกครองคนทั้งไร่อย่
“ไม่สนใจจะช่วยคนจะมาเป็นผู้พิทักษ์สันติราชทำไมวะ”ภคพลยังคงหัวเสียไม่หยุดแม้นจะนั่งรถออกมาจากโรงพักไกลแล้วก็เถอะ“ในองค์กรทุกองค์กรมันก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดีทั้งนั้น...อย่าใส่ใจกับคนประเภทนั้นให้มากนักเลยไม่นานใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้ชดใช้แบบนั้น”แดนไทยพยายามทำให้หลานของตนสงบลงแล้วมองความเป็นจริงใช่ว่าทุกที่จะมีแต่คนไม่ดีเสมอไปเขาเองก็พยายามนิ่งให้มากที่สุดเพราะตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าจะสั่งสอนคนที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างไร คนอย่างเขาไม่ชอบกระโตกกระตากรีบร้อนอะไรเพราะหากจะตีงูก็ต้องตีให้แน่ใจว่ามันตายจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาระแวงว่ามันจะแว้งกัดไร่บรรเจิด“สารวัตรโทรมาบอกว่าพ่อเลี้ยงคีรินกับหลานพ่อเลี้ยงแดนไทยมันไปอาละวาดที่ สน.จะให้รื้อคดีนังเงินขึ้นมาใหม่”เตโชหนุ่มใหญ่มาดเข้มลูกชายคนโตของจำรัสเดินดุ่มขึ้นบันไดบ้านทรงไทยเข้ามาหาคนเป็นพ่อในห้องทำงานด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียดหลังจากที่ได้รับข่าวจากอดิศรว่าแดนไทยคีรินและภคพลโร่ไปที่สถานีตำรวจเพื่อที่จะแจ้งว่าการตายของฟองเงินผิดปกติ“ทำไม..ในเมื่อคดีมันจบไปแล้ว..ร่างนังเงินก็เผาไปแล้ว”ชายแก่หัวล้านร่างท้วมละมือจากการตรวจเล่มบัญชีมองจ้องขมว
“มีอะไรพิ้งค์”ชายหนุ่มร่างสูงในชุดกางเกงยีนส์เปลือยเปล่าท่อนบนเพราะกำลังจะแต่งตัวกลับถูกหญิงสาวเรียกออกมาก่อนเมื่อมาถึงตัวของเธอภคพลก็รีบหยิบกระดาษจากในมือของพราวพิ้งค์มาอ่านรู้ได้ทันทีว่าคำขู่ในกระดาษเกิดขึ้นเพราะเหตุอันใด“มีอะไรที่ไม่ได้บอกฉันหรือเปล่าคะ..ทำไมมีคนมาขู่อะไรแบบนี้ล่ะ”พราวพิ้งค์เริ่มขมวดคิ้วเค้นภคพลด้วยสงสัยตั้งแต่ที่เห็นเขานอนไม่หลับแล้ว ภคพลเริ่มมองไปยังสีหน้าที่บึ้งตึงของหญิงสาวก่อนจะจูงเธอเข้ามาคุยกันในบ้าน“ผมจะเล่าทุกอย่างให้คุณฟังแต่ต้องเก็บเป็นความลับเข้าใจหรือเปล่า”“อะไรล่ะคะ”ทั้งสองหย่อนก้นนั่งที่โซฟาได้ภคพลก็ได้เริ่มกระซิบเสียงเบาด้วยกลัวว่าฟองจันทร์ที่พักผ่อนอยู่ในห้องจะได้ยินเขาเริ่มเล่าถึงความผิดปกติที่เขากับคีรินสงสัยในการตายของฟองเงินจนได้หลักฐานว่าฟองเงินนั้นตายอย่างผิดธรรมชาติและสันนิษฐานว่าคงเป็นคนในไร่ของเสี่ยจำรัส“ทำไมต้องมีเรื่องแบบนี้ด้วย..”พราวพิ้งค์นั่งฟังไปใจเสียไปว่าหดหู่กับการจากไปของฟองเงินแล้วยังต้องมารับรู้ว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุอีก“คุณกับฟองจันทร์และลูกอยู่ที่นี่ไม่ได้ผมจะหาที่ปลอดภัยให้พวกคุณอยู่..เรื่องนี้อย่าพึ่งให้ฟ
คีรินให้พีรวัตรกู้ไฟล์เสร็จเขาก็ได้หลักฐานชิ้นเด็ดมาอยู่ในมือพ่อเลี้ยงหนุ่มรีบขับรถมาที่โรงพักแล้วก็ยื่นหลักฐานให้กับร้อยเวรทันทีไม่นานนักอดิศรก็รีบเข้ามาที่โรงพักอย่างเร่งด่วนเพื่อคุยกับคีรินเป็นการส่วนตัวคลิปที่คีรินได้เห็นค่อนข้างหดหู่พอสมควรเพราะฟองเงินได้แอบถ่ายคลิปขณะที่คนในไร่กำลังขนยากันแล้วฟองเงินก็ถูกกระชากโดยใครบางคนที่รู้ว่าเธอซุ่มดูอยู่ไม่ไกลหลังจากนั้นมือถือที่ถ่ายวิดีโอค้างอยู่ก็หล่นลงไปกับพื้นดีที่มือถือที่หล่นนั้นเก็บภาพขณะที่ฟองเงินถูกทำร้ายได้แทบจะชัดเจนคีรินจึงเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นการเรียกร้องความยุติธรรมให้คนที่ตายไปแล้วได้ดีที่สุด“หลักฐานมัดตัวแน่นขนาดนี้หวังว่าสารวัตรจะพาคนผิดมารับโทษได้นะครับ”คีรินนั่งจ้องอดิศรที่กำลังนั่งหน้าเสียเพราะดูคลิปที่ฟองเงินถูกชาติชายทำร้ายเขาเค้นสารวัตรหนุ่มใหญ่เสียงแข็งเพราะหากอดิศรเห็นคลิปขนาดนี้แล้วจะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่มีความเป็นคนเหลืออยู่แล้วอดิศรนั่งหน้าเสียด้วยเห็นทีครั้งนี้จะปัดความรับผิดชอบได้ยากและยังนึกไม่ออกว่าจะหาทางช่วยให้คนของเสี่ยจำรัสรอดพ้นคดีนี้ได้อย่างไรในเมื่อหลักฐานมัดแน่นขนาดนี้“ผมจะไปรวบตัวชาติชายเดี๋ยวนี้”
ชั่วโมงต่อมาโรงพยาบาลXXปลายฝันและพราวพิ้งค์พาฟองจันทร์มาถึงโรงพยาบาลไม่นานนักคีรินก็ตามมาดูอาการของฟองจันทร์ด้วยความเป็นห่วงหลังหมอสาวตรวจสภาพร่างกายและจิตใจของฟองจันทร์ได้พักใหญ่ก็รู้ว่าร่างกายของเธอหากได้อาหารเสริมนิดหน่อยก็คงจะดีขึ้นแต่สภาพจิตใจในตอนนี้นั้นย่ำแย่เอามากจนหมอเองก็ยังกังวล“จันทร์เป็นยังไงบ้างครับหมอ”คีรินรีบลุกพรวดนำหน้าสองสาวเข้ามาประชิดตัวคุณหมอสาวที่กำลังเดินออกมาจากห้องตรวจด้วยอยากจะฟังอาการของฟองจันทร์ใจจะขาด“สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่มากเลยค่ะตอนนี้เหมือนเธอจะไม่รับรู้อะไรแล้ว...หมอคงต้องให้คุณฟองจันทร์ดูอาการที่นี่ก่อนนะคะ”หมอสาวเอ่ยเสียงอ่อนผู้ป่วยเคสนี้เธอเห็นทีจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด“โถ่.. จันทร์..”ปลายฝันและพราวพิ้งค์ต่างจับมือกันแน่นสีหน้าของพวกเธอหดหู่จนดูบอกบุญไม่รับคีรินได้ยินเช่นนั้นเขาก็ถึงกับเข่าทรุดนั่งฟุบลงกับเก้าอี้กุมขมับหนึบเพราะห่วงอาการฟองจันทร์มากพอสมควร“จันทร์เป็นยังไงบ้างพิ้งค์”ภคพลรีบถามอาการของฟองจันทร์กับพราวพิ้งค์หลังจากที่หญิงสาวอยู่เป็นเพื่อนฟองจันทร์ที่โรงพยาบาลจนดึก“ไม่ดีเอาเลยค่ะหมอบอกว่าสภาพจิตใจจันทร์แย่มากตอนนี้ก็เอาแต่เหม่
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมเดือนตอนนี้อะไรๆก็เริ่มดีขึ้นทั้งความสัมพันธ์ของพราวพิ้งค์และภคพลที่แทบไม่เหลือความโกรธเคืองกันในอดีตและทางด้านฟองจันทร์เองเมื่อมีคีรินอยู่ดูแลด้วยตลอดสภาพจิตใจของเธอก็ดีขึ้นมากจนกลับมาร่าเริงเกือบร้อยเปอร์เซ็นแล้วตอนนี้ฟองจันทร์ทำงานเป็นแม่ครัวรวมถึงงานบ้านให้กับคีรินเพราะนารีลาออกไปอยู่กับสามีอีกจังหวัดฟองจันทร์อยู่เรือนเล็กหลังบ้านหลังใหญ่ของพ่อเลี้ยงหนุ่มและเมื่อว่างหญิงสาวก็ยังคอยแวะเวียนมาหายัยหนูพลอยขวัญอยู่บ่อยๆทางด้านคุณปู่หมาดๆอย่างภูริชละจากงานยุ่งๆได้ก็รีบซื้อข้าวซื้อของมาเอาใจหลานและทำความรู้จักกับลูกสะใภ้ ภูริชมาอยู่ที่บ้านของแดนไทยได้ร่วมอาทิตย์แล้วแถมปู่หลานยังเข้ากันได้ดีจนตัวติดกันเป็นแตงเมคนเป็นพ่อกับแม่จึงทำงานกันได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น“ผมเป็นคนดีพอที่คุณพ่อจะให้ผมกลับไปอยู่สุขสบายเหมือนเดิมได้หรือยังครับ”สองพ่อลูกเดินคุยกันอยู่ในสวนส้มยามเย็นหลังจากคนงานในไร่กลับกันไปหมดแล้ว“พ่อขอชมว่าแกเป็นคนมีน้ำใจแต่ยังไงก็ต้องอยู่ที่นี่ให้ครบครึ่งปี”ภูริชแสยะยิ้มมุมปากแม้นลูกชายจะมีความดีความชอบแต่อย่างไรบททดสอบก็ยังไม่จบลงง่ายๆ“อืม...ก็ได้ครับผมอยู