ชั่วโมงต่อมา
โรงพยาบาลXX
ปลายฝันและพราวพิ้งค์พาฟองจันทร์มาถึงโรงพยาบาลไม่นานนักคีรินก็ตามมาดูอาการของฟองจันทร์ด้วยความเป็นห่วงหลังหมอสาวตรวจสภาพร่างกายและจิตใจของฟองจันทร์ได้พักใหญ่ก็รู้ว่าร่างกายของเธอหากได้อาหารเสริมนิดหน่อยก็คงจะดีขึ้นแต่สภาพจิตใจในตอนนี้นั้นย่ำแย่เอามากจนหมอเองก็ยังกังวล
“จันทร์เป็นยังไงบ้างครับหมอ”
คีรินรีบลุกพรวดนำหน้าสองสาวเข้ามาประชิดตัวคุณหมอสาวที่กำลังเดินออกมาจากห้องตรวจด้วยอยากจะฟังอาการของฟองจันทร์ใจจะขาด
“สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่มากเลยค่ะตอนนี้เหมือนเธอจะไม่รับรู้อะไรแล้ว...หมอคงต้องให้คุณฟองจันทร์ดูอาการที่นี่ก่อนนะคะ”
หมอสาวเอ่ยเสียงอ่อนผู้ป่วยเคสนี้เธอเห็นทีจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
“โถ่.. จันทร์..”
ปลายฝันและพราวพิ้งค์ต่างจับมือกันแน่นสีหน้าของพวกเธอหดหู่จนดูบอกบุญไม่รับคีรินได้ยินเช่นนั้นเขาก็ถึงกับเข่าทรุดนั่งฟุบลงกับเก้าอี้กุมขมับหนึบเพราะห่วงอาการฟองจันทร์มากพอสมควร
“จันทร์เป็นยังไงบ้างพิ้งค์”
ภคพลรีบถามอาการของฟองจันทร์กับพราวพิ้งค์หลังจากที่หญิงสาวอยู่เป็นเพื่อนฟองจันทร์ที่โรงพยาบาลจนดึก
“ไม่ดีเอาเลยค่ะหมอบอกว่าสภาพจิตใจจันทร์แย่มากตอนนี้ก็เอาแต่เหม่อไม่รับรู้อะไร”
พราวพิ้งค์เม้มปากก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งที่โซฟาเธอส่ายหัวเบาๆเอ่ยตอบภคพลด้วยท่าทีที่ไม่สู้ดีนัก
“แล้วใครอยู่เฝ้าที่โรพยาบาล”
“คุณคีรินค่ะ...แล้วยัยหนูล่ะคะ”
“หลับแล้วล่ะ”
“ขอบคุณนะคะที่ช่วงนี้กวนคุณดูแลยัยหนูเรื่อยเลย”
พราวพิ้งค์เปรยยิ้มอ่อนให้ชายหนุ่มนึกขอบคุณภคพลที่ช่วงนี้เขาแบ่งเบาภาระเรื่องลูกได้เยอะ
“ลูกผม..ผมเต็มใจอยู่แล้ว”
ภคพลเลิกคิ้วเล็กน้อยเห็นท่าว่าหญิงสาวจะยังไม่ชินกับการอยู่เป็นครอบครัวคนเป็นสามีต้องช่วยภรรยาเลี้ยงลูกถูกต้องแล้วไม่ใช่เรื่องที่นอกเหนือหน้าที่อะไรที่จะต้องให้หญิงสาวมาขอบคุณ
สามวันต่อมา
และแล้วก็มาถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยในเช้าตรู่อันแสนสดใสของวันต่อมาทุกคนก็ได้รับข่าวดีว่าเสี่ยจำรัสและเตโชได้ถูกรวบตัวแล้วและตำรวจในโรงพักก็ถูกเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติคุมสอบกันอย่างเข้มงวด
สองพ่อลูกนั่งหัวเสียกันในห้องขังเพราะไม่สามารถประกันตัวได้ด้วยมีคดีที่ทำผิดกฎหมายอยู่หลายคดี
“ไหนพ่อบอกคนในนี้เป็นพวกพ่อหมดไงครับ..ทำไมเรายังถูกรวบได้ล่ะ”
เตโชบ่นอู้อี้ท่าทีของเขากระฟัดกระเฟียดมาพักใหญ่แล้ว
“แกก็แหกตาดูสิ...ว่าตำรวจที่นี่ใช่หน้าเดิมที่ไหน”
จำรัสนั่งกัดฟันกรอดกุมขมับหนึบไม่เคยนึกว่าสักวันอำนาจที่มีในมือจะหมดลงเอาได้ง่าย
ทางด้านสารวัตรอดิศรตอนนี้ก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งอย่างรวดเร็วและถูกควบคุมตัวไม่ให้ออกไปจากโรงพัก
“คราวนี้รู้หรือยังครับว่าคุณแดนไทยเป็นแค่พ่อเลี้ยงธรรมดาจริงหรือเปล่า”
เมื่อคีรินมาถึงสน.ได้เขาก็ตรงดิ่งเข้ามาดูหน้าสารวัตรที่มั่นอกมั่นใจนักหนาว่าใครก็ทำอะไรตัวเองไม่ได้
“หึ่... “
อดิศรได้แต่สบถในลำคอสะบัดหน้าหนีคีรินด้วยอาการเสียหน้าใครจะไปรู้ว่าแดนไทยนั้นเป็นน้องชายของภูริชแถมยังรู้จักกันดีกับผู้บัญชาการตำรวจยศใหญ่อีก
ช่วงสายหลังจากที่คีรินเสร็จธุระที่โรงพักเขาก็ดิ่งตรงมาบอกข่าวดีกับฟองจันทร์เผื่อว่าหญิงสาวรู้ว่าคนผิดได้รับการลงโทษแล้วเธอจะสภาพจิตใจดีขึ้น
แกร๊กก
คีรินเปิดประตูเข้าห้องของฟองจันทร์ได้เขาก็ยืนนิ่งทอดมองไปยังหญิงสาวที่นั่งเหม่อมองไปยังนอกหน้าต่างในชุดผู้ป่วยสีชมพูด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยเขาค่อยๆเดินเข้าไปนั่งข้างๆเตียงของเธอก่อนจะรวบมือเรียวของฟองจันทร์มากุมเอาไว้
“จันทร์...ตอนนี้คนผิดทุกคนได้รับโทษแล้ว..พี่ทวงความยุติธรรมให้แม่เราได้แล้ว..หายเศร้าซะทีนะจันทร์”
คีรินแสยะยิ้มพูดเล่าเรื่องที่เขาได้จัดการทวงความยุติธรรมให้แม่ของหญิวสาวเสียงอ่อนทั้งยกมือลูบหัวทุยของฟองจันทร์เบาๆอยากให้เธอกลับมาเป็นน้องสาวที่ร่าเริงเหมือนเดิมใจจะขาด
“ขอบคุณนะคะ...ขอบคุณจริงๆ”
ฟองจันทร์เริ่มมีน้ำตารื้นไหลทะลักออกมา ริมฝีปากบางเริ่มขยับพูดครั้งแรกในเวลาหลายวันที่ผ่านมาคีรินรวบกอดหญิงสาวเอาไว้แน่นดีใจที่เห็นว่าเธอยอมโต้ตอบกับเขาเสียที
สองวันต่อมา
ล้อมเดือนเก็บกระเป๋าเตรียมที่จะเดินทางไปอยู่ที่อื่นเพราะรู้ว่าอย่างไรบ้านและที่ดินของพ่อเธอก็จะต้องถูกยึดอีกอย่างเธอเองก็ไม่มีแก่ใจจะอยู่ที่นี่ต่อเพราะคงจะมองหน้าใครไม่ติดด้วยพ่อและพี่ชายทำผิดเอาไว้มากมาย
“คุณหนูจะไปไหนคะ...ถึงบ้านนี้จะถูกยึดแต่ป้าก็ยังมีบ้านให้คุณหนูได้อยู่นะคะ”
ศรีนวลที่ไม่อยากให้ล้อมเดือนตัดสินใจจากไปจากที่นี่เธอจึงพยายามจะรั้งคุณหนูของเธอเอาไว้ทุกทางและเธอจะดูแลล้อมเดือนต่อเองโดยที่ไม่เรียกร้องอะไร
“ล้อมไม่มีหน้าอยู่ที่นี่ต่อหรอกค่ะ..”
ล้อมเดือนซึ้งในน้ำใจของศรีนวลเธอเองก็รักเคารพศรีนวลไม่ต่างจากแม่คนหนึ่งแต่อย่างไรก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่อยู่ที่นี่ต่อ
ขณะที่ศรีนวลและล้อมเดือนกำลังคุยกันอยู่นั้นรถกระบะสีดสี่ประตูก็เข้ามาจอดหน้าบ้านทั้งสองก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นใครมาจึงรีบละเรื่องที่คุยและเดินออกมาต้อนรับ
“สวัสดีครับคุณล้อม...ผมขอคุยด้วยสักเดี๋ยวจะได้หรือเปล่าครับ”
“ได้สิคะ”
ศรีนวลรีบปลีกตัวออกไปตามมารยาทหลังจากนั้นคีรินและล้อมเดือนจึงนั่งคุยธุระกันที่ใต้ถุนบ้านเรือนไทยหลังใหญ่
“ถ้าเดาไม่ผิดมือถือที่ผมได้วันนั้นคือฝีมือคุณ”
“ค่ะ...”
ล้อมเดือนพยักหน้าเบาๆยอมรับว่าตัวเองเป็นคนช่วยให้เรื่องทุกอย่างกระจ่างขึ้น
“ล้อมไม่อยากให้พ่อกับพี่โชทำผิดไปมากกว่านี้”
“ในเมื่อคุณล้อมช่วยผม...ถ้าคุณล้อมอยากให้ผมช่วยอะไรก็บอกถือว่าผมได้ตอบแทน”
คีรินรู้ดีว่าล้อมเดือนคงตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเขามาที่นี่เพื่อที่จะตอบแทนการเสียสละตัวเองของเธอไม่ว่าเรื่องอะไรที่เธอเอ่ยปากออกมาเขาก็พร้อมช่วยเสมอ
“คือล้อม..”
ล้อมดาวเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้ามองพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยแววตาที่ค่อนข้างเกรงใจ
“ว่ามาเลยครับ”
“ล้อมไม่อยากอยู่ที่นี่..ล้อมไม่มีหน้าจะไปมองใคร..ล้อมอยากได้เงินสักก้อนไปตั้งตัวที่ไหนสักที่จะได้หรือเปล่าคะ”
ล้อมเดือนเอ่ยปากขอเงินอีกฝ่ายอย่างไม่อายเพราะตอนนี้เธอก็ไม่มีอะไรจะเสียเงินที่มีอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถึงหมื่นไม่รู้ว่าเธอจะไปได้ไกลแค่ไหนแต่หากมีคีรินช่วยเธอคงได้ไปในที่ที่เธออยากจะไป
“ไม่มีปัญหาครับ”
คีรินรีบตอบรับในทันทีเรื่องเงินเขาไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
“ขอบคุณมากๆเลยนะคะ”
ล้อมเดือนยิ้มออกมาอย่างโล่งใจบุญคุณของคีรินครั้งนี้เธอจะจำไม่ลืมเลยจริงๆ
อาทิตย์ต่อมา
เมื่อจบเรื่องร้ายๆตอนนี้ภคพลกับพราวพิ้งค์ก็กลับกันมาอยู่ที่บ้านส่วนฟองจันทร์นั้นอาการดีขึ้นมากและคีรินก็อาสารับผิดชอบในชีวิตของฟองจันทร์ทุกอย่างเองพราวพิ้งค์เองก็เห็นด้วยเพราะฟองจันทร์ไว้ใจและเคารพคีรินมากที่สุด
“อืม..หม่ำๆๆ”
เจ้าก้อนกลมนั่งบ่นงึมงำอยู่บนเก้าอี้นั่งทานอาหารเมื่อคนเป็นพ่อเริ่มตักข้าวใส่ถ้วยวางให้ไม่ทันคนที่กำลังหิว
“รอเดี๋ยวสิครับพยศเก่งเหมือนกันนะเรา”
ภคพลหันมาขมวดคิ้วบุ้ยปากให้ยัยหนูพลอยขวัญที่ดูท่าจะพยศเวลาหิวเก่งเหลือเกินช่วงนี้ภคพลเสร็จงานที่ไร่ก็จะมาดูแลลูกสาวเองทุกวันจนพราวพิ้งค์มีเวลาทำกับข้าวและงานบ้านได้อย่างไม่ต้องเร่งรีบอะไรมากนัก
“คุณพอลก็ทานด้วยนะคะ”
พราวพิ้งค์ยื่นจานข้าวที่พึ่งตักเสร็จตรงหน้าชายหนุ่มก่อนจะตักปลาทอดชิ้นโตใส่จานให้เขาไม่เช่นนั้นภคพลก็เอาแต่ห่วงมองลูกทานข้าวเย็นจนไม่ยอมตักอะไรทานเสียที
เธอไม่นึกไม่ฝันว่าคนที่ข้างกายมีคนรายล้อมอำนวยความสะดวกตลอดเวลาวันๆสิ่งที่หยิบจับก็จะมีแต่อุปกรณ์ทำงานหรือไม่ก็เครื่องดื่มราคาแพงๆอย่างภคพล วันนี้เขาจะมาทำไร่นั่งเลี้ยงลูกเปลี่ยนจากจับขวดเครื่องดื่มเป็นจับขวดนม
พราวพิ้งค์คิดว่าพลังความรักของความเป็นพ่อของภคพลมันก็น่าอัศจรรย์ไม่แพ้อะไรกับคนเป็นแม่อย่างเธอที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงและทำทุกอย่างเพื่อลูก
“ขอบคุณ”
ดวงตาคมเปรยมองคนที่ห่วงใยด้วยสายตาแห่งความสุขอยากให้เวลาความสุขเช่นนี้อยู่กับเขาไปนานๆเหลือเกินพรางคิดถึงตอนที่เขาต้องกลับไปบริหารงานในบริษัทตอนนั้นคงไม่ค่อยมีเวลาให้เธอกับลูกเช่นนี้แน่แต่ก็พยายามจะไม่คิดถึงอนาคตมากนักมองเพียงความสุขของทุกวันนี้ก็พอแล้ว
ตกดึกภคพลเดินออกมาจากห้องนอนมาหาพราวพิ้งค์ที่นั่งทำงานอยู่ที่ห้องนั่งเล่นหลังจากรบกับเจ้าก้อนกลมจนหลับไปได้
“ยังไม่เสร็จอีกเหรอ”
ร่างสูงในชุดนอนสีเทาค่อยๆหย่อนก้นลงนั่งที่โซฟายื่นแขนโอบไหล่มนของพราวพิ้งค์เอาไว้หลวมๆ
“เรียบร้อยแล้วค่ะแค่ตรวจดูอีกรอบให้แน่ใจ”
หญิงสาวละมือจากเอกสารที่พึ่งปริ้นเสร็จหันมาอมยิ้มอ่อนให้ชายหนุ่ม
“อืม...เรื่องที่ผมเคยถามจะบอกได้หรือยังว่าผมเป็นพ่อและสามีที่แสนดีในสายตาของคุณกี่เปอร์เซ็นแล้ว”
ภคพลค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้พวงแก้มนวลก่ายกระซิบทวงคำตอบกับพราวพิ้งค์เสียงอ่อน หญิงสาวเริ่มมีท่าทีประหม่าก้มหน้างุดเม้มปากอมยิ้มเธอเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มมองจ้องตาไปยังดวงตาคมและเริ่มปริปากพูด
“อืม..80%ค่ะ...อีก20ยังไม่ให้ขอดูว่าคุณจะเสมอต้นเสมอปลายแค่ไหน”
ภคพลเริ่มฉีกยิ้มอ่อนรวบหัวทุยเข้ามาซบที่อก
“ได้สิ..ผมจะทำให้คุณเห็น..ผมรักคุณนะพิ้งค์..รักลูกด้วย..รักมากเข้าใจหรือเปล่า”
ชายหนุ่มละทิ้งทิฐิที่เรื่องความโกรธที่หญิงสาวหนีเขามาในอดีตเขาไม่อายแม้แต่น้อยที่จะพูดความในใจออกมาเพราะเขาไม่อยากรีรอประวิงเวลาอีกต่อไป
“คุณพอล”
ริมฝีปากบางเผยอค้างนั่งตัวเกร็งค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายด้วยท่าทีตกใจเพราะไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะได้ยินคำว่ารักจากปากของภคพล
“พูดให้ฟังเฉยๆไม่ต้องเชื่อก็ได้” ฟอดด
คนตัวโตกดจมูกโด่งลงแก้มนวลนิ่มจนชื่นใจก่อนจะรวบอุ้มร่างบางกลับเข้าห้องด้วยท่าเจ้าสาว ภคพลค่อยๆวางร่างบางลงบนเตียงนุ่มเขาก้มลงพรมจูบเนื้อนวลนุ่มนิ่มจนชื่นใจพักใหญ่หลังจากนั้นบทรักที่นุ่มนวลของทั้งสองก็ได้เริ่มขึ้นจวบจนครึ่งคืนพักหลังมานี้ภคพลแทบโหมบทรักกับพราวพิ้งค์ทุกวันด้วยเพราะอยากจะเห็นเจ้าตัวน้อยอีกคนมาวิ่งเล่นกับยัยหนูพลอยขวัญแล้ว
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมเดือนตอนนี้อะไรๆก็เริ่มดีขึ้นทั้งความสัมพันธ์ของพราวพิ้งค์และภคพลที่แทบไม่เหลือความโกรธเคืองกันในอดีตและทางด้านฟองจันทร์เองเมื่อมีคีรินอยู่ดูแลด้วยตลอดสภาพจิตใจของเธอก็ดีขึ้นมากจนกลับมาร่าเริงเกือบร้อยเปอร์เซ็นแล้วตอนนี้ฟองจันทร์ทำงานเป็นแม่ครัวรวมถึงงานบ้านให้กับคีรินเพราะนารีลาออกไปอยู่กับสามีอีกจังหวัดฟองจันทร์อยู่เรือนเล็กหลังบ้านหลังใหญ่ของพ่อเลี้ยงหนุ่มและเมื่อว่างหญิงสาวก็ยังคอยแวะเวียนมาหายัยหนูพลอยขวัญอยู่บ่อยๆทางด้านคุณปู่หมาดๆอย่างภูริชละจากงานยุ่งๆได้ก็รีบซื้อข้าวซื้อของมาเอาใจหลานและทำความรู้จักกับลูกสะใภ้ ภูริชมาอยู่ที่บ้านของแดนไทยได้ร่วมอาทิตย์แล้วแถมปู่หลานยังเข้ากันได้ดีจนตัวติดกันเป็นแตงเมคนเป็นพ่อกับแม่จึงทำงานกันได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น“ผมเป็นคนดีพอที่คุณพ่อจะให้ผมกลับไปอยู่สุขสบายเหมือนเดิมได้หรือยังครับ”สองพ่อลูกเดินคุยกันอยู่ในสวนส้มยามเย็นหลังจากคนงานในไร่กลับกันไปหมดแล้ว“พ่อขอชมว่าแกเป็นคนมีน้ำใจแต่ยังไงก็ต้องอยู่ที่นี่ให้ครบครึ่งปี”ภูริชแสยะยิ้มมุมปากแม้นลูกชายจะมีความดีความชอบแต่อย่างไรบททดสอบก็ยังไม่จบลงง่ายๆ“อืม...ก็ได้ครับผมอยู
กว่าคีรินจะพาฟองจันทร์กลับจากโรงพยาบาลก็ฟ้ามืดหญิงสาวเย็บแผลที่น่องไปหลายเข็มและต้องฉีดยากันบาดทะยักเมื่อมาถึงบ้านพ่อเลี้ยงหนุ่มก็อุ้มคนตัวเล็กที่เจ็บมานั่งในห้องของเธอก่อนจะเริ่มบ่นหญิงสาวด้วยความเป็นห่วงอีกรอบ“หาเรื่องเจ็บตัวจนได้”“ก็จันทร์เห็นว่าของในนั้นมันไม่ค่อยเรียบร้อยก็เลยเข้าไปจัดค่ะ”ฟองจันทร์ยังคงก้มหน้าอธิบายเสียงอ่อนใครจะคิดว่าความหวังดีของเธอจะทำให้คีรินต้องมาเดือดร้อนดูแล“ทีหลังถ้าพี่ไม่ได้สั่งอะไรไม่ต้องทำรู้หรือเปล่า”พ่อเลี้ยงพนุ่มวาดสายตาไปยังผ้าพันแผลของหญิงสาวเขาก็ยิ่งหน้าเสียที่บ่นเธอไม่ใช่โมโหที่ต้องเสียเวลาพาเธอไปหาหมอที่พูดทั้งหมดเพียงแค่เป็นห่วงคำเดียวเท่านั้น“ค่ะ...จันทร์หยุดงานกี่วันพี่คีหักเงินได้เลยนะคะ”“พี่ไม่ทำแบบนั้นหรอก..ไปเดี๋ยวพี่อุ้มไปอาบน้ำ”ว่าจบก็สาวเท้าไปเปิดประตูห้องน้ำรอไว้พร้อมทั้งหาเก้าอี้มาให้เธอนั่งและเตรียมผ้าขนหนูให้เรียบร้อย“อะไรนะคะ”ฟองจันทร์นั่งมองตามหลังพ่อเลี้ยงหนุ่มทั้งอ้าปากค้างด้วยความตกใจตั้งแต่เข้ามัธยมต้นแม้แต่แม่เธอก็ยังไม่เคยมาเห็นเรืองร่างแล้วเธอจะทำใจให้คีรินอาบน้ำให้ได้อย่างไร“อุ้มไปส่งในห้องน้ำไม่งั้นจะเข้าไปยั
วันต่อมาแอด..แอด..ๆๆๆ “หืม..”พราวพิ้งค์กำลังไกวเปลให้เจ้าก้อนกลมที่พึ่งจะหลับกลางวันเธอก็ต้องขมวดคิ้วเพราะได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซต์รุ่นเก่าขับเข้ามาที่หน้าบ้านจึงรีบเดินออกไปห้ามให้คนที่ขับเข้ามาอย่าเข้ามาใกล้ด้วยกลัวว่ายัยหนูพลอยขวัญจะตื่น“คุณพอล..”เมื่อออกมาจากบ้านได้พราวพิ้งค์ก็ยิ่งสงสัยหนักว่าภคพลขับรถมอเตอร์ไซต์คันเก่านี้อีกทำไมทั้งที่ตอนนั้นมันพาเขาล้มจนเจ็บหนัก“ขับมอเตอร์ไซต์อีกทำไมคะ..เดี๋ยวก็ล้มจนเจ็บตัวอีก”“ทุกเย็นผมให้ต้นกล้ากับเตชินสอนค่าครูคนละร้อยทุกวันเป็นอาทิตย์จนตอนนี้ผมขับจนแข็งแล้ว..ลุงสมจะได้ไม่ต้องคอยมารับมาส่ง”ชายหนุ่มเอ่ยหน้าระรื่นอย่างภาคภูมิใจคิดว่าไอ้การที่ขับมอเตอร์คันเก่าคันนี้แท้จริงแล้วมันก็ไม่ได้ยากสักเท่าไรนัก“แล้วกลับมาทำไมคะงานยังไม่เลิกไม่ใช่หรือไง”“คิดถึงคุณกับลูกอยากกลับมาทานข้าวที่บ้าน”ร่างสูงว่าพรางส่งสายตากะลิ้มกะเหลี่ยมายังพราวพิ้งค์จนเธอต้องส่ายหัวคิดในใจว่าหลังจากนี้เชื่อได้ว่าเขาจะต้องกลับมาทานข้าวกลางวันที่บ้านทุกวันแน่นอนเพราะขับมอเตอร์ไซต์เป็นแบบนี้แล้วโต๊ะอาหาร“ขาหมูพะโล้ค่ะ..ตุ๋นตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วเปื่อยกำลังดีเลยค่ะ”“คุณท
ดนัยหนุ่มวัยสามสิบห้าเขาเข้ามาทำงานในบริษัทของภูริชเพราะมีจุดหมายที่ต้องการก็คือเอาชีวิตนาดีลเพราะแค้นที่นาดีลนั้นหลอกน้องสาวของเขามีสัมพันธ์ด้วยจนเกิดท้องแล้วไม่รับผิดชอบแถมยังส่งคนมาพาน้องสาวของเขาไปทำแท้งและขาดการติดต่อไปจนน้องสาวของเขาคิดสั้นฆ่าตัวตายเหตุนี้เขาจึงคิดว่าชีวิตก็ควรจะแลกด้วยชีวิตที่ภูริชต้องร้อนรนขับรถออกมาเองจนเกิดอุบัติเหตุก็เป็นเพราะฝีมือของเขาเพียงแค่ทำให้รถมีปัญหานิดหน่อยแล้วก็โทรไปบอกความจริงว่านาดีลจะพาน้องสาวของเขาไปทำแท้งคนเป็นพ่ออย่างภูริชที่ไม่อยากให้ใครมารู้ความชั่วของลูกตัวเองจึงเลือกที่จะขับรถออกมาคนเดียวตามที่ดนัยได้วางแผนเอาไว้ก้องภพมารับพราวพิ้งค์กลับมาที่บ้านของภคพลในช่วงเย็นโดยยังไม่ได้บอกเรื่องที่ภคพลนั้นเกิดอุบัติเหตุเพราะกลัวว่าหญิงสาวนั้นจะตกใจ“คุณพิ้งค์พาคุณหนูพักผ่อนตามสบายเลยนะครับส่วนอาหารเย็นผมสั่งมาเรียบร้อยแล้วอยู่ที่โต๊ะอาหารในครัวครับ”“แล้วคุณพอลไปไหนคะ...เค้าจะกลับมาเมื่อไร”พราวพิ้งค์รีบชิงถามก้องภพขณะที่เขาจะหันหลังเดินออกไปจากบ้านหลังจากที่มาส่งเธอ“เอ่อ..คุณพอลติดประชุมด่วนครับคืนนี้น่าจะไม่ได้กลับนะครับคุณพิ้งค์”“ค่ะ”ก้องภพ
วันเวลาพ้นผ่านไปนานร่วมอาทิตย์ตอนนี้ภูริชก็ฟื้นตัวได้พอสมควรส่วนภคพลปลอดภัยแต่ยังไม่ฟื้นพราวพิ้งค์มาเฝ้าภคพลทุกวันไม่เคยห่างแทบจะกินนอนที่นี่ส่วนยัยหนูพลอยขวัญช่วงนี้ก็จะอยู่กับปลายฝันและแดนไทยทั้งสองอาสาช่วยเลี้ยงให้เองระหว่างที่พราวพิ้งค์ยังต้องเฝ้าภคพลภูริชฟื้นขึ้นมาได้แต่เขาก็ยังต้องรักษาตัวอีกนานเพราะกระดูกที่หักยังต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับมาเป็นปกติช่วงนี้บริษัทยิ่งวุ่นวายเรื่องการนำเข้ารถยนต์ลอตใหญ่ภูริชจึงวานให้โนแอลและนาดีลตัดสินใจกันว่าใครจะเข้าดูแลบริษัทแทนในช่วงนี้บทสรุปที่ได้คือโนแอลจะดูแลอยู่ที่นี่ทั้งบริษัทของคนเป็นพ่อและของภคพลส่วนกิจการส่วนตัวของเขาที่ฝรั่งเศสก็ฝากให้นาดีลดูแลพราวพิ้งค์ตื่นเช้าทุกวันเพื่อที่จะลุกขึ้นมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้กับภคพลเธอดูแลเขาอย่างดีทั้งภาวนาในใจทุกวันว่าให้เขานั้นฟื้นมาพูดคุยกับเธอเร็วๆ“คุณต้องหายไวๆนะคะจะได้มาฟังคำว่ารักจากปากของฉัน”หญิงสาวมองคนที่นอนเป็นผักหน้าละห้อยเธอเห็นภคพลอยู่ในสภาพนี้เป็นอาทิตย์แล้วจึงหดหู่หัวใจเป็นพิเศษ“พิ้งค์..เรื่องเธอกับคุณพอลยังไงกันแน่?”ปลายฝันที่เข้าห้องพักฟื้นของภคพลมาเงียบๆเธอก็แอบตกใจกับคำที่พราวพิ้
ก๊อกๆๆสายตาของสองหนุ่มมองไปยังประตูที่กำลังจะมีคนเข้ามาเมื่อภคพลเห็นว่าเป็นใครเขาก็มีสีหน้าไม่สบอารมณ์ในทันที“คุณพอลคะ”พราวพิ้งค์สาวเท้าเข้ามานั่งข้างเตียงของภคพลด้วยใบหน้าระรื่นมือเรียวรีบกอบกุมมือของชายหนุ่มเอาไว้แน่นด้วยความดีใจที่เห็นเขานั้นฟื้นขึ้นมาได้เสียที“กลับมาทำไม”ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะถามไถ่อาการของภคพลกับณดลคำถามน้ำเสียงเสียงห้วนของคนเจ็บก็ทำให้พราวพิ้งค์หน้าเสียกะทันหันไม่รู้ว่าเขาจะแกล้งอะไรเธอถึงได้ทักทายกันเช่นนี้“ผมขอคุยกับคุณพิ้งค์หน่อยครับ”ณดลรีบเรียกพราวพิ้งค์ออกมาคุยกันข้างนอกเพราะมีเรื่องที่หญิงสาวจะต้องรับรู้ถึงอาการที่ไม่ค่อยจะดีนักของภคพล“พอลความทรงจำหายไป...ที่จำได้ก็น่าจะสามปีที่แล้วครับ”“สามปีที่แล้วเหรอคะ?”พราวพิ้งค์เสียงสั่นมือไม้อ่อนเท่ากับว่าภคพลคนที่เจ็บอยู่ตอนนี้ยังเป็นคนเดิมคนที่เอาแต่ใจโผงผางเจ้าชู้และข้อสำคัญคือเขายังคงมองเธอเป็นแค่คู่นอนที่ไม่ต้องการให้มีอะไรผูกมัดฟึ่บบ“คุณพิ้งค์”ณดลรีบประคองพราวพิ้งค์เมื่อร่างบางฟุบกองลงกับพื้นดั่งคนไร้เรี่ยวแรงอาการข้างเคียงหลังการบาดเจ็บของภคพลนี่คือสิ่งที่พราวพิ้งค์ไม่อยากให้เกิดที่สุดหลังจากที่ไ
“นายทำอะไรของนายรู้ก็รู้ว่าแคททำกับนายขนาดไหนยังจะอยู่ใกล้อีก”ณดลเริ่มสวดเพื่อนของเขาหลังจากที่ห้องนี้เหลือเพียงสองคน“ฉันทำเพราะอยากให้พิ้งค์ไปไกลๆต่างหาก”ภคพลตอบปัดเสียงอ่อนคิดว่าแค่นี้เพื่อนของเขาจะรู้ใจเสียอีกว่าคนอย่างเขาไม่มีทางดีกับคนที่เคยทำร้ายตัวเองมาก่อนแน่นอน“แกโกรธคุณพิ้งค์แค่เรื่องที่เธอหนีไปแล้วไม่บอกนายแค่นั้นเหรอ”ภคพลยังคงเงียบเป็นคำตอบ ณดลเริ่มขมวดคิ้วไม่รู้ว่าเพื่อนตนที่ยังเป็นมีนิสัยเก่าๆเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องผู้หญิงด้วย“คุณพิ้งค์ก็กลับมาแล้วไงเธอกลับมาเพราะเป็นห่วงนาย...ตลอดที่นายนอนเป็นผักคนที่ดูแลนายไม่ใช่พยาบาลแต่เป็นคุณพิ้งค์..เธอคอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้นายพูดคุยกับนายตลอด..ตอนนายไข้ขึ้นเธอก็ไม่เคยได้หลับได้นอน..แต่พอนายฟื้นมากลับเอาแต่ไล่ให้เธอไปไกลๆมันยุติธรรมแล้วเหรอ”ณดลว่าเสียงแข็งหากเขาพูดเรื่องยัยหนูพลอยขวัญได้เขาก็อยากจะพูดใจจะขาดภคพลจะได้รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นพ่อคนแล้วไม่ควรทำตัวงี่เง่าประชดใครเหมือนเด็กแต่ติดตรงที่พราวพิ้งค์ขอเอาไว้“ตอนเธอหนีฉันไปทิ้งให้ฉันเคว้งคว้าง...ยุติธรรมกับฉันเหมือนกันหรือไง”“นายไม่ได้คิดกับเธอแค่คู่นอนใช่หรือเปล่า
“ก็อยากดูแลไม่ใช่หรือไง”ดวงตาคมจ้องมองยังใบหน้าที่บึ้งตึงของหญิงสาวด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ทั้งยังส่งน้ำเสียงยียวนกวนประสาทเธอตลอดเวลาทำพราวพิ้งค์หน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะเห็นท่าแล้วว่าภคพลคงจะอยากเล่นสงครามประสาทกับเธอเพราะเห็นว่าเธอดูแลเข้าหน่อยก็ใช้สารพัด“เจ้านายของนายเค้าปากไม่ค่อยตรงกับใจเท่าไรเลย”ณดลมองดูภคพลและพราวพิ้งค์ผ่านประตูกระจกด้านนอกกับก้องภพเขาดูออกว่าเพื่อนตนนั้นไม่ได้อยากจะไล่พราวพิ้งค์ไปจริงๆที่ทำไปเพียงเพราะโกรธเคืองเรื่องเธอหนีไปก็เท่านั้น“ครับ”ก้องภพเปรยสายตามองไปยังคนในห้องก็อมยิ้มอ่อนรู้ว่าจิตใจของนายเขาซับซ้อนซ่อนเงื่อนอยู่พอสมควรและที่หายวันหายคืนเช่นนี้ก็คงเป็นเพราะมีคนที่ตัวเองเอ่ยปากไล่มาอยู่ดูแลทุกวันนั่นเองRrrrr“ฉันขอตัวเดี๋ยวนะคะ”พราวพิ้งค์เห็นสายคีรินเข้ามาเธอก็รีบลุกออกจากเก้าอี้ทั้งที่ยังไม่ทันที่จะป้อนข้าวให้ภคพลเสร็จ“ค่ะคุณคีริน”หญิงสาวกดรับสายคุยกับคนที่โทรมาหาขณะที่กำลังจะเดินถึงประตูหลังจากนั้นก็เดินหายเงียบออกไปข้างนอก“คีริน”ภคพลขมวดคิ้วมองตามหลังร่างบางไม่วางตาเขารู้ว่าไม่เคยรู้จักคนๆนี้แต่ทำไมคุ้นกับชื่อคีรินที่หญิงสาวเอ่ยเรียกปลายสายแปลกๆ