วันต่อมา
พราวพิ้งค์ใจเสียตั้งแต่เมื่อวานยังไม่หายเพราะจนป่านนี้แล้วภคพลก็ยังไม่ยอมฟื้นขึ้นมา
“เมื่อไรคุณจะตื่นมาคะ..คุณจะไล่ฉันต่อว่าฉันอีกกี่คำก็ได้ขอแค่ตื่นมาได้ไหม”
สาวเจ้านั่งเอ่ยเสียงอู้อี้อยู่ข้างเตียงของชายหนุ่มพรางยกมือปาดน้ำตาลวกๆ
“อืม..”
ขณะที่พราวพิ้งค์นั่งหน้าหน้าเคร่งเครียดอยู่พักใหญ่ภคพลก็มีทีท่าว่าจะขยับตัวตื่น
“คุณพอล”
มือเรียวรีบกดเรียกพยาบาลทันทีที่เห็นว่าภคพลลืมตาไม่นานนักณดลและพยาบาลผู้ช่วยอีกหนึ่งคนก็เข้ามาในห้องพราวพิ้งค์จึงหลบไปนั่งมุมห้องเงียบๆขณะที่หมอหนุ่มกำลังลงมือตรวจอาการภคพล
“จำได้หรือเปล่าว่าก่อนปวดหัวเกิดอะไรขึ้น..”
ณดลเริ่มถามคนที่มีอาการสะลึมสะลือ
ภคพลยังคงเงียบเขาเปรยสายตาไปยังหญิงสาวที่นั่งใจจดใจจ่อจ้องมองมายังตัวเองอยู่ที่มุมห้องก่อนจะเงยหน้าส่ายหัวกับณดล
“..ไม่รู้ฉันจำไม่ได้”
“แล้วตอนนี้ยังมีอาการปวดหัวอยู่หรือเปล่า”
“ไม่..ฉันโอเค.. ขอพักผ่อนก่อน”
ท่าทีของภคพลดูเหนื่อยอ่อยเป็นพิเศษณดลจึงไม่ได้เค้นถามอะไรเพื่อนตนมากเมื่อไม่มีอาการปวดหัวภคพลก็ไม่ได้น่าเป็นห่วงอะไร
“อีกสี่ชั่วโมงฉันจะมาดูนายอีกรอบ”
“อืม..”
“ฉันขออยู่เฝ้านะคะจะอยู่เงียบๆ”
พราวพิ้งค์ไม่ยอมออกไปจากห้องนี้เด็ดขาดเพราะยังกลัวว่าหากภคพลอยู่ดีๆปวดหัวเช่นที่เคยเป็นก่อนหน้าขึ้นมาอีกจะไม่มีใครเห็นได้ทันท่วงที
ณดลพยักหน้าเป็นสัญญาณให้พราวพิ้งค์อยู่ที่นี่ต่อได้เพราะภคพลหลับตาลงโดยที่ไม่ได้เอ่ยห้ามปรามเมื่อหญิงสาวขออยู่ต่อในห้องนี้
วันเวลาที่พราวพิ้งค์มาดูแลภคพลทุกวันล่วงเลยมาเป็นอาทิตย์ตอนนี้ภคพลไม่เอ่ยปากไล่เธอเหมือนเคยแต่เขากลับเรียกหาเธอตลอดเวลาย้ำว่าตลอดเวลาไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหนก็ต้องเป็นหญิงสาวที่อยู่เคียงข้าง
พราวพิ้งค์รู้ดีว่านี่คงเป็นการเล่นสงครามประสาทของชายหนุ่มที่หนักกว่าเดิมเพราะเขาเห็นว่าอย่างไรเธอก็ไม่ยอมห่างจากเขาง่ายๆจึงให้อยู่ด้วยตลอดเวลาเสียเลยทั้งอาทิตย์เธอจึงต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ไม่ได้กลับไปพักที่บ้าน
“วันนี้ฉันขอกลับไปพักผ่อนที่บ้านนะคะ”
พราวพิ้งค์ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยที่จะต้องมานั่งดูแลชายหนุ่มแต่เธอคิดถึงลูกมากกว่า เป็นอาทิตย์แล้วที่ไม่ได้เจอหน้ากันวันนี้อย่างไรเธอก็จะต้องกลับไปยัยหนูพลอยขวัญให้ได้
“ไม่ได้..ไม่อย่างนั้นผมจะให้ผู้หญิงคนอื่นมาดูแล”
ภคพลเอ่ยขู่เสียงแข็ง
“ถ้าเป็นพยาบาลได้ค่ะ..แต่ถ้าไม่ใช่คุณให้ใครมาฉันก็ไล่กลับได้ค่ะ”
พราวพิ้งค์ไม่ได้มีท่าทีสะทกสะท้านแม้แต่น้อยเพราะภูริชบอกกับเธอเอาไว้ว่าหากอยากสั่งให้คนของเขาไปทำอะไรก็สั่งได้เลยดังนั้นหากภคพลพาผู้หญิงหน้าไหนมาเธอก็จะให้คนมาลากออกไปทุกคน
“คุณไม่ได้มีอำนาจขนาดนั้น”
ภคพลยกยิ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงยียวน
“ก็ลองดูค่ะ”
พราวพิ้งค์หลี่สายตาลงเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้มส่งไปให้ชายหนุ่มเช่นเดียวที่เขาส่งมาให้เธอแล้วเขาจะได้รู้กันว่าเธอไม่มีอำนาจอย่างที่เขาพูดจริงหรือเปล่า
พราวพิ้งค์กลับมาถึงบ้านของภูริชในช่วงเย็นเธอก็ปรี่เข้ามาหาลูกสาวตัวกลมที่ยืนรออยู่หน้าบ้านพร้อมปลายฝันทันที
“แม่จ๋า...”
เสียงใสเจื้อยแจ้วเอ่ยทักทายเมื่อเห็นคนเป็นแม่เดินลงมาจากรถตู้คันหรูทั้งยิ้มร่ารีบสาวขาป้อมวิ่งไปหาคนเป็นแม่อยางรวดเร็ว
“อื้อหือ..ยัยหนูน้ำหนักขึ้นหรือเปล่าลูก”
พราวพิ้งค์รีบรวบอุ้มยัยหนูพลอยขวัญมากอดหอมฟอดใหญ่ให้ชื่นใจกับที่ไม่ได้เจอกันเป็นอาทิตย์และรู้สึกได้เลว่าน้ำหนักของลูกเธอเพิ่มขึ้นพอสมควร
“จึ้น..”
เด็กหญิงพยักหน้าหงึกหงักราวกับรู้ว่าคนเป็นแม่ถามอะไร
“ทานไม่ได้หยุดปากขนาดนั้น..จะไม่ขึ้นก็ให้รู้ไป..ดูสต็อกอาหารของยัยหนูสิปู่เค้าสั่งมาให้แทบจะวันเว้นวัน”
หญิงสาวท้องโตในชุดคลุมสีครีมเดินนำหน้าสองแม่ลูกเข้ามาในบ้านทั้งชี้ไปที่ตะกร้าขนมของเด็กหญิงที่อยู่เรียงรายแทบจะทั่วห้องโถง
“อยู่ที่นี่อีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์ตัวแตกแน่”
พราวพิ้งค์หย่อนก้อนลงนั่งที่โซฟาก่อนจะวางเจ้าก้อนลงข้างๆ
“ฉันพยายามไม่ให้ยัยหนูเห็นขนมแล้วแต่สองปู่...มีติดไม้ติดมือให้หลานตลอด”
“หนูจะทานเยอะแบบนี้ไม่ได้นะคะน้ำหนักเกินเกณฑ์มาเท่าไรแล้วก็ไม่รู้เจ้าก้อนของแม่..” ฟอด..ฟอดดด..
พราวพิ้งค์หันมาเอ่ยกับเจ้าก้อนที่กำลังหยิบขนมขึ้นมาถือก่อนจะกดหอมแก้มย้วยๆของลูกรักอีกรอบ
“คุณพ่อกับพ่อเลี้ยงล่ะ”
“คุณภูพักอยู่บนห้องถึงเวลาอาหารเดี๋ยวคนของเค้าก็จะพาลงมา..ส่วนคุณแดนไปหาซื้อแพมเพิสกับนมให้ยัยหนูอีกเดี๋ยวคงจะกลับ”
“ลำบากทุกคนต้องมาช่วยดูยัยหนูแล้ว”
พราวพิ้งค์เริ่มหน้าเสียเมื่อเห็นทุกคนต้องมาลำบากเพราะต้องช่วยดูลูกของเธอ
“ไม่ได้ลำบากอะไรเลยอย่าคิดมากสิ...แล้วคุณพอลเป็นยังไงบ้าง”
“อาการภายนอกไม่มีอะไรน่าห่วงตอนนี้เดินเหินได้แล้วแต่ความจำยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาเลย”
เมื่อพูดถึงเรื่องความจำของภคพลพราวพิ้งค์ก็เริ่มหน้าเสียขึ้นมาอีกรอบไม่รู้เลยว่าอีกนานแค่ไหนเขาจะจำเรื่องราวที่หายไปได้เสียที
“อีกหน่อยก็ดีขึ้นฉันเอาใจช่วย”
“ขอบใจนะ”
เป็นอีกครั้งที่สองสาวนั่งจับมือให้กำลังใจกัน
โรงพยาบาล
“คืนนี้ทำไมอยู่คนเดียว”
ณดลเดินล้วงกระเป๋าเสื้อกาวน์เข้ามาหาเพื่อนตนในห้อง
“เธออยากกลับบ้านไปพัก”
คนที่นอนแหมะอยู่กับเตียงเอ่ยตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วนท่าทีของภคพลบ่งบอกให้ณดลได้รับรู้ว่ากำลังเหงา
“ให้ฉันส่งพยาบาลมาเฝ้าหรือเปล่า”
“ไม่ต้อง”
“ฉันมีโอกาสได้คุยกับนายสองคนแบบนี้ก็ดีแล้ว”
ยิ่งเห็นภคพลมีอาการเช่นนี้ณดลก็ยิ่งแน่ใจว่าสิ่งที่เขาคิดมาตลอดทั้งอาทิตย์มันเป็นสิ่งที่ถูก
“ทำไม”
ภคพลเริ่มจ้องมองมายังหมอหนุ่มด้วยท่าทีสงสัย
“แน่ใจใช่หรือเปล่าว่าความจำของนายยังไม่กลับมา”
ภคพลเริ่มเบือนหน้าหนีณดลแถมยังเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถาม..หมอหนุ่มจึงเริ่มยกยิ้มอ่อนคิดเอาไว้แล้วว่าเพื่อนของตนต้องความจำกลับมาแล้วแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยังไม่ยอมบอกเรื่องนี้ให้เขาและทุกคนได้รับรู้
“หลังจากวันที่นายปวดหัวใช่หรือเปล่า”
“อืม..”
“ทำให้เนียนแล้วกันฉันคิดว่าคนอย่างคุณพิ้งค์คงไม่ชอบใจแน่ถ้ารู้ว่านายยังโกหกเธอต่อไปแบบนี้”
“ฉันจัดการเรื่องของฉันได้อยู่แล้วนายไม่ต้องห่วงหรอก..ตอนนี้ฉันอยากรู้แค่ว่าอีกกี่วันฉันจะได้ออกจากโรงพยาบาล”
“ถ้าสมองนายไม่มีปัญหาแล้วอีกวันสองวันก็กลับได้”
“โอเค..นับว่าเป็นข่าวดี”
หลังจากสนทนากับภคพลจบณดลก็เดินอมยิ้มอ่อนออกจากห้องไปรู้ได้เลยว่าหากเพื่อนของเขายังไม่ยอมบอกความจริงกับพราวพิ้งค์ได้มีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นแน่
วันต่อมาพราวพิ้งค์มาถึงโรงพยาบาลในช่วงเช้าเธอต้องตกใจเมื่อเห็นแคทเธอรีนกำลังจะเดินเข้าไปในห้องของภคพลจึงรีบรั้งตัวหญิงสาวเอาไว่ก่อน“คุณมาที่นี่ทำไมคะ”“พอลโทรให้ฉันมาหาบอกว่าอยากให้ฉันมาดูแล”แคทเธอรีนตอบกลับพราวพิ้งค์หน้าระรื่น“งั้นก็กลับไปเถอะค่ะ..เพราะหน้าที่นี้เป็นของฉันค่ะ”“ไม่กลับค่ะ..ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่าคุณเป็นอะไรกับพอลแต่ในเมื่อพอลเลือกที่จะให้ฉันมาดูแลคุณนั่นแหละที่ต้องกลับ”แคทเธอรีนว่าจบก็เปิดประตูเข้าห้องภคพลไปโดยมีพราวพิ้งค์ตามหลังเข้ามาติดๆ“ฉันมาแล้วค่ะพอล”แคทเธอรีนเอ่ยทักทายภคพลที่กำลังนั่งเลื่อนมือถืออยู่บนเตียงเสียงใส“ฉันบอกแล้วไงคะว่าคนที่จะดูแลคุณได้คือพยาบาลที่นี่”พราวพิ้งค์ค่อนข้างมีท่าทีเดือดดาลพอสมควรดวงตากลมโตจ้องมองภคพลเขม็งอย่างไม่วางตา“ก็ผมต้องการให้แคทมาดูแลคุณมีปัญหาอะไรอยากจะพักผ่อนผมก็ให้โอกาสคุณได้พักแล้วไง”“บอกให้เธอกลับไปเดี๋ยวนี้”“ไม่..”ภคพลตวัดหางตาคมมองหญิงสาวด้วยสายตากวนประสาท“ได้..เดี๋ยวได้รู้กัน”พราวพิ้งค์เดินกัดฟันกรอดออกนอกห้องไปไม่นานนักเหล่าชายฉกรรจ์คนของภูริชสามสี่คนก็เข้ามาลากตัวของแคทเธอรีนกลับไปส่งที่อยู่ของเธอครู่ต่อมา“
และแล้ววันเวลาก็ผ่านไปร่วมอาทิตย์ที่สามพราวพิ้งค์ก็ยังไม่มีทีท่าใจอ่อนคุยกับภคพลง่ายๆจนทุกคนต่างก็เห็นใจชายหนุ่มพอสมควรในตอนนี้ภูริชก็เข้ามาพักฟื้นที่บ้านของแดนไทยยัยหนูพลอยขวัญที่ปู่ไปรับมาทุกวันจึงทำให้ภคพลนั้นได้อยู่กับลูกนานๆบ้างนับว่าความสุขนี้ได้จากบารมีของคนเป็นพ่อล้วนๆ“งานหินเลยสิ..”ภูริชหันมาถามภคพลที่กำลังนั่งมองลูกสาวตัวกลมนั่งทานขนมไม่วางตา“หินจริงๆครับคุณพ่อ”ภคพลหันมาพยักหน้ากับคนเป็นพ่อหน้าเจื่อน“ทีหลังจะเล่นอีกหรือเปล่า”“เข็ดแล้วครับ”“ฮ่าๆๆ..”ภูริชหัวเราะร่าเมื่อเห็นพราวพิ้งค์จะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ลูกชายจอมเอาแต่ใจของเขาใจเสียได้นานขนาดนี้เช้าวันต่อมาพราวพิ้งค์ไปส่งยัยหนูให้ภูริชที่บ้านของแดนไทยเรียบร้อยเธอจึงขับรถมาที่ไร่เพียงกมลเพื่อมาหาฟองจันทร์ด้วยรู้ว่าหญิงสาวจะไปจากที่นี่เพื่อไปทำงานที่กรุงเทพในอีกวันสองวันที่จะถึง“เลือกทางนี้จริงๆใช่ไหม”พราวพิ้งค์มาที่นี่เพื่อคุยกับฟองจันทร์ให้แน่ใจว่าสิ่งที่หญิงสาวเลือกนั้นตรงกับใจที่ต้องการจริงๆหรือเปล่า“จันทร์ว่าจันทร์ขอออกไปอยู่คนเดียวก่อนดีกว่าค่ะ... แล้วค่อยคิดดูว่าตอนนั้นจะอยู่ได้หรือเปล่า”ฟองจันทร์เงียบค
ครื่นน... ซ่าาาา....ค่ำคืนที่พายุโหมกระหน่ำซัดสาดกับหลังคาบ้านริมรักหลังเล็กจนเกิดเสียงดังลมห่าใหญ่ก็พัดแรงไม่ยอมหยุดจนพราวพิ้งค์หญิงสาวในชุดนอนสีหวานนั้นนอนไม่หลับด้วยห่วงกลัวว่าต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านจะโค่นลงมาทับบ้านหลังเล็กของเธอ“ทำไมลมแรงแบบนี้นะ”มือเรียวแหวกม่านสีครีมมองลอดผ่านหน้าต่างบานกระจกออกไปยังข้างนอกบ้านด้วยสีหน้ากังวลเปรี้ยงง.. “ว้ายย..”สาวเจ้าสะดุ้งโหยงกรีดร้องเสียงดังเมื่อจู่ๆอัสนีบนฟากฟ้าก็ฟาดลงมาเสียงดังกระหึ่มจนบ้านสั่นไปทั้งหลัง“แอะ...แอ้...”เสียงของยัยหนูตัวน้อยที่นอนอยู่ในเปลส่งเสียงงอแงเพราะความตกใจเสียงฟ้าจนตื่นคนเป็นแม่จึงรีบเดินห่างออกจากบานหน้าต่างปรี่เข้ามาอุ้มลูกสาวมากอดไว้ในอ้อมอก“ชู่ว...ไม่เป็นอะไรนะคะ..แม่อยู่นี่แล้วน้าคนเก่ง”“แอ้..แง่..แง่..”ยัยหนูแก้มย้วยวัยสองขวบยังคงร้องให้ไม่คิดผ่อนจนคนเป็นแม่ต้องรีบเปิดฝาขวดนมให้คนที่กำลังงอแงได้กินนมเสียงร้องจึงสงบลงได้มือเรียวขยับตบก้นลูกสาวเบาๆขณะที่เจ้าแก้มย้วยกำลังง่วนอยู่กับการกินนมเพื่อเป็นการกล่อมให้หลับพราวพิ้งค์เปรยสายตามองลูกสาวที่อยู่ในอ้อมอกพรางนึกถึงคนที่เป็นพ่อของลูกด้วยใบหน้าของลูกสาวไม่มีส
“ฉันอยากกลับบ้าน...นายจะให้ฉันอยู่ที่นี่เพื่ออะไรฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้วแผลแค่นี้ฉันรักษาเองได้”ภคพลเปรยสายตามองณดลด้วยความระอารู้ได้เลยว่าเพื่อนตนต้องมาบังคับให้ทานอาหารอีกแน่ที่เขาไม่มีกะใจทำอะไรตอนนี้ก็เป็นเพราะไม่อยากจะนอนอยู่ที่โรงพยาบาล“ฉันรู้ว่านายเก่ง..แต่ฉันก็รู้อีกว่าถ้านายกลับไปนายจะไม่ยอมทำแผลไม่ยอมทานยาตามที่ฉันสั่งแล้วแผลนายก็จะติดเชื้ออาจจะทำให้นายป่วยตายได้เข้าใจใช่ไหม..อยู่โรงพยาบาลอีกสักวันสองวันจะเป็นไร”ณดลสาวเท้าเข้ามาข้างเตียงภคพลมือทั้งสองล้วงกระเป๋าก่อนจะสาธยายหยั่งรู้ถึงนิสัยของเพื่อนหากเขายอมปล่อยกลับบ้านจะเป็นเช่นไร“เฮ่อ..”คนที่ถูกบ่นได้แต่หลับตาถอนหายใจ“แล้วก็กินอาหารให้ตรงเวลาไม่เช่นนั้นฉันจะให้นายอยู่ที่นี่นานขึ้น...แล้วอย่าคิดหนีคนของฉันมีอยู่ทุกที่เข้าใจใช่หรือเปล่า”ณดลยกมือชี้หน้าภคพลเขาไม่ได้ขู่รู้ว่าเพื่อนตนรู้ดี“เฮ่อ..”คนป่วยถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกรอบพรางมองเพื่อนรักที่เจ้ากี้เจ้าการด้วยสายตาไม่สบอารมณ์เขาเคยหนีออกจากโรงพยาบาลมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ถูกคนของณดลลากกลับมาได้ทุกครั้งหมอหนุ่มเพื่อนของเขาคนนี้ก็ไม่ยอมรักษาใครที่อื่นนอกจากที่โรงพยาบาลของตั
“ยด..”เด็กหญิงตัวกลมก้าวขาป้อมรีบเดินเข้ามาหาคนเป็นแม่เมื่อเห็นว่ามีรถเก๋งคันสีขาวขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านพราวพิ้งค์ยิ้มต้อนรับคนที่มาใหม่หน้าระรื่นไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นปลายฝันว่าที่เจ้าสาวของพ่อเลี้ยงแดนไทยเพื่อนรักของเธอเอง“ไงจ๊ะ..เจ้าหมูอ้วนของน้าปลายมาให้น้าฟัดหน่อยเร็ว” ฟอดด ฟอดดปลายฝันหญิงสาวที่กำลังท้องโตหน้าตาจิ้มลิ้มเดินถือถุงกระดาษปรี่ตรงมาอุ้มหนูน้อยกอดหอมฟอดใหญ่คิดถึงไม่ได้เจอหน้าหลานสาวหลายวันเพราะต้องกลับไปเอาชุดแต่งงานที่กรุงเทพและอยู่กับครอบครัวต่อเป็นอาทิตย์“ที่ไร่ไม่ยุ่งแล้วหรือถึงปลีกตัวมาที่นี่ได้”“ไม่มีอะไรยุ่งแล้วล่ะที่จะวุ่นก็เห็นจะเป็นพรุ่งนี้เพราะต้องเตรียมตัวรับแขกที่บ้านฉันกับบ้านคุณแดน..เออ..วันนี้พ่อเลี้ยงคีรินฝากชุดมาให้”ปลายฝันชี้ไปที่ถุงกระดาษข้างตัวที่ถือมาตั้งแต่ลงจากรถ“ถ้าฉันไม่ใส่จะดูเสียมารยาทหรือเปล่า”พราวพิ้งค์ว่าด้วยท่าทีลำบากใจ“แน่นอน”ปลายฝันรีบพยักหน้าสายตาของเธอบ่งบอกว่าอยากให้เพื่อนเธอนั้นรับรักพ่อเลี้ยงคีรินเสียที“ทำยังไงพ่อเลี้ยงถึงจะเข้าใจว่าฉันไม่ได้คิดอะไรเกินไปกว่าพี่น้อง”“พ่อเลี้ยงเค้าตามจีบเธอมาตั้งแต่เธอท้องยังไม่ยอมใจอ่อนก
“ขับมาจากตลาดจู่ๆก็ดับเฉยเลยค่ะ”พราวพิ้งค์โล่งใจที่ในสถานการณ์คับขันเธอยังมีคนรู้จักที่พอจะช่วยเหลือได้ผ่านมาแถวนี้พอดีสองหนุ่มสาวที่ยืนอยู่ข้างทางยังคงช่วยกันดูว่าเหตุที่รถเสียนั้นเกิดจากอะไรโดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีสายตาของใครบางคนมองจับจ้องผ่านกระจกรถยนต์คันหรูอยู่ไม่วางเป็นภคพลที่มองร่างบางด้วยสายตานิ่งเฉยอย่างที่ใครก็คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ว่าตอนนี้เขานั้นคิดอะไรอยู่เมื่อได้เจอกับหญิงสาวที่หายหน้าจากเขาไปเกือบสามปีชายหนุ่มค่อยๆผ่อนคันเร่งขับชะลอผ่านไปแล้วดูหญิงสาวร่างเล็กในชุดสีชมพูหวานที่กระจกข้างอีกรอบจนแน่ใจว่าเมื่อครู่มองไม่ผิดเธอคือพราวพิ้งค์คนที่เห็นว่าเขาหมดประโยชน์แล้วก็รีบตีจากความรู้สึกข้างในตอนนี้ประสมปนเปกันไปหมดไม่รู้ว่าตัวเองจะดีใจหรือคับแค้นใจที่ได้เห็นร่างบางที่คุ้นเคยนี้อีกครั้งทว่าสมองก็สั่งว่าอย่าพึ่งใส่ใจจึงรีบเหยียบคันเร่งมุ่งตรงไปที่ไของอาตนทันทีก่อนที่จะเย็นไปมากกว่านี้ครู่ต่อมาภคพลขับรถเข้ามาจอดที่บ้านหลังใหญ่ซึ่งเป็นบ้านไม้สักสไตล์โมเดิร์นตัวบ้านเป็นสองชั้นที่ชั้นล่างมีระเบียงชานบ้านกว้างรอบๆบริเวณบ้านจัดเป็นสนามหญ้ากว้างใหญ่ล้อมตัวบ้านหลังบ้านร่มรื่นด
“ไม่สนใจแต่ชวนเค้าทานข้าวเย็นด้วยกันนี่หมายความว่ายังไงน้า..”ปลายฝันเห็นพ่อเลี้ยงหนุ่มกลับไปได้ก็ได้ทีเอ่ยหยอกเพื่อนเธอเสียงอ่อน“หมายความว่าเป็นคนมีมารยาทไงเค้าอุตส่าห์ช่วยมาส่งถึงที่แถมยังให้คนมาลากรถไปที่อู่อีก...แล้วนี่มิลินกับแพรวาจะมาถึงตอนไหน”พราวพิ้งค์ขมวดคิ้วส่ายหัวให้คนที่ทำตัวเป็นแม่สื่อแม่ชักก่อนจะถามถึงเพื่อนสนิทอีกสองคนที่บอกว่าจะมาถึงในวันนี้แต่เย็นแล้วก็ไม่ยักจะเห็น“อีกเดี๋ยวคงถึงแล้วล่ะ..ไปเดี๋ยวฉันไปช่วนทำกับข้าวในครัว”“ห้ามพูดเชียคุณคีรินอีกไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้หาช่างแต่งหน้ามาเองเลย”“โอ๋ๆ..แค่นี้ทำเป็นงอนไปได้”สองสาวคุยกันจบก็รีบสาวเท้าเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหารเย็นภคพลอยู่ในในชุดนอนสีเทายืนกอดอกพิงหน้าต่างช่วงกลางดึกดวงตาคมนัยน์ตาสีฟ้ายืนจ้องแหวนเพชรวงน้อยในมือไม่วางตา แหวนวงนี้ควรจะอยู่กับเจ้าของมันนานแล้วแต่ติดตรงที่เขานั้นไม่มีโอกาสได้ให้และคิดว่าคงจะเก็บตายไว้อย่างนี้เห็นจะดีแล้วก๊อกๆๆมือหนารีบเก็บแหวนวงเล็กเข้าในกระเป๋าก่อนะจะเดินดุ่มไปเปิดประตูหากเดาไม่ผิดคงจะเป็นพี่ชายของเขาที่น่าจะนอนไม่หลับเพราะแปลกที่เช่นเดียวกับที่เขานั้นเป็น“อย่าบอกว่านอนไม่หลับ
“ต้องขอบคุณช่างคนเก่งคนนี้ค่ะ”ปลายฝนอดเอ่ยชมฝีมือพรางพิ้งค์ไม่ได้นับว่าเพื่อนของเธอเก่งไปเสียทุกอย่างจริงๆ“ฉวย..”หนูน้อยตัวกลมแก้มย้วยในชุดเสื้อยืดเจ้าหญิงสีชมพูกับกระโปรงสีขาวฟูฟ่องมัดผมรวบโดนัมสองข้างเดินเข้ามาเกาะขาปลายฝันเงยหน้าเอ่ยชมคนเป็นน้าหน้าบาน“รู้ดีจังเลยนะเรา”เปรมสุดาอุ้มยัยหนูพลอยขวัญมานั่งที่ตักพร้อมกดจูบกระหม่อมหนึ่งทีหากอยากจะให้หลานนั้นออกมาเหมือนกับยัยหนูพลอยขวัญเหลือเกินยิ่งคิดก็ยิ่งอยากให้ถึงวันที่ลูกสาวเธอคลอดเร็วๆ“ฝัน..ขบวนแห่มาใกล้แล้วมาดูสิ”ปลายฝันรีบลุกเดินมาที่หน้าต่างตามพราวพิ้งค์เพื่อดูขบวนแห่ที่เหล่าผู้คนกำลังพากันรำหน้ากลองยาวอย่างสนุกสนาน“น่าตื่นเต้นจังเลย”ตอนนี้ปลายฝันเริ่มทำตัวไม่ถูกทั้งที่เตรียมใจเอาไว้แล้วแต่พอถึงสถานการณ์จริงกลับประหม่าเสียได้“นั่น..คุณ..ภูริช..”ชายวัยกลางคนที่พราวพิ้งค์เห็นว่ากำลังยืนอยู่ข้างๆคีรินทำเอาสาวเจ้ายืนตัวชาหน้าเสีย“อ่อ..ใช่คุณภูริชเธอรู้จักด้วยเหรอเค้าเป็นพี่ชายของคุณแดนแต่คนละแม่”“แล้ว..ทำไมนามสกุลไม่เหมือนกัน”“คุณแดนบอกว่าคุณภูเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของแม่ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้วเพราะนามสกุลแม่คุณภูไม่มีใครสืบส