Share

ตอนที่36 สงสัย

วันต่อมา

พราวพิ้งค์ใจเสียตั้งแต่เมื่อวานยังไม่หายเพราะจนป่านนี้แล้วภคพลก็ยังไม่ยอมฟื้นขึ้นมา

“เมื่อไรคุณจะตื่นมาคะ..คุณจะไล่ฉันต่อว่าฉันอีกกี่คำก็ได้ขอแค่ตื่นมาได้ไหม”

สาวเจ้านั่งเอ่ยเสียงอู้อี้อยู่ข้างเตียงของชายหนุ่มพรางยกมือปาดน้ำตาลวกๆ

“อืม..”

ขณะที่พราวพิ้งค์นั่งหน้าหน้าเคร่งเครียดอยู่พักใหญ่ภคพลก็มีทีท่าว่าจะขยับตัวตื่น

“คุณพอล”

มือเรียวรีบกดเรียกพยาบาลทันทีที่เห็นว่าภคพลลืมตาไม่นานนักณดลและพยาบาลผู้ช่วยอีกหนึ่งคนก็เข้ามาในห้องพราวพิ้งค์จึงหลบไปนั่งมุมห้องเงียบๆขณะที่หมอหนุ่มกำลังลงมือตรวจอาการภคพล

“จำได้หรือเปล่าว่าก่อนปวดหัวเกิดอะไรขึ้น..”

ณดลเริ่มถามคนที่มีอาการสะลึมสะลือ

ภคพลยังคงเงียบเขาเปรยสายตาไปยังหญิงสาวที่นั่งใจจดใจจ่อจ้องมองมายังตัวเองอยู่ที่มุมห้องก่อนจะเงยหน้าส่ายหัวกับณดล

“..ไม่รู้ฉันจำไม่ได้”

“แล้วตอนนี้ยังมีอาการปวดหัวอยู่หรือเปล่า”

“ไม่..ฉันโอเค.. ขอพักผ่อนก่อน”

ท่าทีของภคพลดูเหนื่อยอ่อยเป็นพิเศษณดลจึงไม่ได้เค้นถามอะไรเพื่อนตนมากเมื่อไม่มีอาการปวดหัวภคพลก็ไม่ได้น่าเป็นห่วงอะไร

“อีกสี่ชั่วโมงฉันจะมาดูนายอีกรอบ”

“อืม..”

“ฉันขออยู่เฝ้านะคะจะอยู่เงียบๆ”

พราวพิ้งค์ไม่ยอมออกไปจากห้องนี้เด็ดขาดเพราะยังกลัวว่าหากภคพลอยู่ดีๆปวดหัวเช่นที่เคยเป็นก่อนหน้าขึ้นมาอีกจะไม่มีใครเห็นได้ทันท่วงที

ณดลพยักหน้าเป็นสัญญาณให้พราวพิ้งค์อยู่ที่นี่ต่อได้เพราะภคพลหลับตาลงโดยที่ไม่ได้เอ่ยห้ามปรามเมื่อหญิงสาวขออยู่ต่อในห้องนี้

วันเวลาที่พราวพิ้งค์มาดูแลภคพลทุกวันล่วงเลยมาเป็นอาทิตย์ตอนนี้ภคพลไม่เอ่ยปากไล่เธอเหมือนเคยแต่เขากลับเรียกหาเธอตลอดเวลาย้ำว่าตลอดเวลาไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหนก็ต้องเป็นหญิงสาวที่อยู่เคียงข้าง

พราวพิ้งค์รู้ดีว่านี่คงเป็นการเล่นสงครามประสาทของชายหนุ่มที่หนักกว่าเดิมเพราะเขาเห็นว่าอย่างไรเธอก็ไม่ยอมห่างจากเขาง่ายๆจึงให้อยู่ด้วยตลอดเวลาเสียเลยทั้งอาทิตย์เธอจึงต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ไม่ได้กลับไปพักที่บ้าน

“วันนี้ฉันขอกลับไปพักผ่อนที่บ้านนะคะ”

พราวพิ้งค์ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยที่จะต้องมานั่งดูแลชายหนุ่มแต่เธอคิดถึงลูกมากกว่า เป็นอาทิตย์แล้วที่ไม่ได้เจอหน้ากันวันนี้อย่างไรเธอก็จะต้องกลับไปยัยหนูพลอยขวัญให้ได้

“ไม่ได้..ไม่อย่างนั้นผมจะให้ผู้หญิงคนอื่นมาดูแล”

ภคพลเอ่ยขู่เสียงแข็ง

“ถ้าเป็นพยาบาลได้ค่ะ..แต่ถ้าไม่ใช่คุณให้ใครมาฉันก็ไล่กลับได้ค่ะ”

พราวพิ้งค์ไม่ได้มีท่าทีสะทกสะท้านแม้แต่น้อยเพราะภูริชบอกกับเธอเอาไว้ว่าหากอยากสั่งให้คนของเขาไปทำอะไรก็สั่งได้เลยดังนั้นหากภคพลพาผู้หญิงหน้าไหนมาเธอก็จะให้คนมาลากออกไปทุกคน

“คุณไม่ได้มีอำนาจขนาดนั้น”

ภคพลยกยิ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงยียวน

“ก็ลองดูค่ะ”

พราวพิ้งค์หลี่สายตาลงเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้มส่งไปให้ชายหนุ่มเช่นเดียวที่เขาส่งมาให้เธอแล้วเขาจะได้รู้กันว่าเธอไม่มีอำนาจอย่างที่เขาพูดจริงหรือเปล่า

พราวพิ้งค์กลับมาถึงบ้านของภูริชในช่วงเย็นเธอก็ปรี่เข้ามาหาลูกสาวตัวกลมที่ยืนรออยู่หน้าบ้านพร้อมปลายฝันทันที

“แม่จ๋า...”

เสียงใสเจื้อยแจ้วเอ่ยทักทายเมื่อเห็นคนเป็นแม่เดินลงมาจากรถตู้คันหรูทั้งยิ้มร่ารีบสาวขาป้อมวิ่งไปหาคนเป็นแม่อยางรวดเร็ว

“อื้อหือ..ยัยหนูน้ำหนักขึ้นหรือเปล่าลูก”

พราวพิ้งค์รีบรวบอุ้มยัยหนูพลอยขวัญมากอดหอมฟอดใหญ่ให้ชื่นใจกับที่ไม่ได้เจอกันเป็นอาทิตย์และรู้สึกได้เลว่าน้ำหนักของลูกเธอเพิ่มขึ้นพอสมควร

“จึ้น..”

เด็กหญิงพยักหน้าหงึกหงักราวกับรู้ว่าคนเป็นแม่ถามอะไร

“ทานไม่ได้หยุดปากขนาดนั้น..จะไม่ขึ้นก็ให้รู้ไป..ดูสต็อกอาหารของยัยหนูสิปู่เค้าสั่งมาให้แทบจะวันเว้นวัน”

หญิงสาวท้องโตในชุดคลุมสีครีมเดินนำหน้าสองแม่ลูกเข้ามาในบ้านทั้งชี้ไปที่ตะกร้าขนมของเด็กหญิงที่อยู่เรียงรายแทบจะทั่วห้องโถง

“อยู่ที่นี่อีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์ตัวแตกแน่”

พราวพิ้งค์หย่อนก้อนลงนั่งที่โซฟาก่อนจะวางเจ้าก้อนลงข้างๆ

“ฉันพยายามไม่ให้ยัยหนูเห็นขนมแล้วแต่สองปู่...มีติดไม้ติดมือให้หลานตลอด”

“หนูจะทานเยอะแบบนี้ไม่ได้นะคะน้ำหนักเกินเกณฑ์มาเท่าไรแล้วก็ไม่รู้เจ้าก้อนของแม่..” ฟอด..ฟอดดด..

พราวพิ้งค์หันมาเอ่ยกับเจ้าก้อนที่กำลังหยิบขนมขึ้นมาถือก่อนจะกดหอมแก้มย้วยๆของลูกรักอีกรอบ

“คุณพ่อกับพ่อเลี้ยงล่ะ”

“คุณภูพักอยู่บนห้องถึงเวลาอาหารเดี๋ยวคนของเค้าก็จะพาลงมา..ส่วนคุณแดนไปหาซื้อแพมเพิสกับนมให้ยัยหนูอีกเดี๋ยวคงจะกลับ”

“ลำบากทุกคนต้องมาช่วยดูยัยหนูแล้ว”

พราวพิ้งค์เริ่มหน้าเสียเมื่อเห็นทุกคนต้องมาลำบากเพราะต้องช่วยดูลูกของเธอ

“ไม่ได้ลำบากอะไรเลยอย่าคิดมากสิ...แล้วคุณพอลเป็นยังไงบ้าง”

“อาการภายนอกไม่มีอะไรน่าห่วงตอนนี้เดินเหินได้แล้วแต่ความจำยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาเลย”

เมื่อพูดถึงเรื่องความจำของภคพลพราวพิ้งค์ก็เริ่มหน้าเสียขึ้นมาอีกรอบไม่รู้เลยว่าอีกนานแค่ไหนเขาจะจำเรื่องราวที่หายไปได้เสียที

“อีกหน่อยก็ดีขึ้นฉันเอาใจช่วย”

“ขอบใจนะ”

เป็นอีกครั้งที่สองสาวนั่งจับมือให้กำลังใจกัน

โรงพยาบาล

“คืนนี้ทำไมอยู่คนเดียว”

ณดลเดินล้วงกระเป๋าเสื้อกาวน์เข้ามาหาเพื่อนตนในห้อง

“เธออยากกลับบ้านไปพัก”

คนที่นอนแหมะอยู่กับเตียงเอ่ยตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วนท่าทีของภคพลบ่งบอกให้ณดลได้รับรู้ว่ากำลังเหงา

“ให้ฉันส่งพยาบาลมาเฝ้าหรือเปล่า”

“ไม่ต้อง”

“ฉันมีโอกาสได้คุยกับนายสองคนแบบนี้ก็ดีแล้ว”

ยิ่งเห็นภคพลมีอาการเช่นนี้ณดลก็ยิ่งแน่ใจว่าสิ่งที่เขาคิดมาตลอดทั้งอาทิตย์มันเป็นสิ่งที่ถูก

“ทำไม”

ภคพลเริ่มจ้องมองมายังหมอหนุ่มด้วยท่าทีสงสัย

“แน่ใจใช่หรือเปล่าว่าความจำของนายยังไม่กลับมา”

ภคพลเริ่มเบือนหน้าหนีณดลแถมยังเลี่ยงที่จะไม่ตอบคำถาม..หมอหนุ่มจึงเริ่มยกยิ้มอ่อนคิดเอาไว้แล้วว่าเพื่อนของตนต้องความจำกลับมาแล้วแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยังไม่ยอมบอกเรื่องนี้ให้เขาและทุกคนได้รับรู้

“หลังจากวันที่นายปวดหัวใช่หรือเปล่า”

“อืม..”

“ทำให้เนียนแล้วกันฉันคิดว่าคนอย่างคุณพิ้งค์คงไม่ชอบใจแน่ถ้ารู้ว่านายยังโกหกเธอต่อไปแบบนี้”

“ฉันจัดการเรื่องของฉันได้อยู่แล้วนายไม่ต้องห่วงหรอก..ตอนนี้ฉันอยากรู้แค่ว่าอีกกี่วันฉันจะได้ออกจากโรงพยาบาล”

“ถ้าสมองนายไม่มีปัญหาแล้วอีกวันสองวันก็กลับได้”

“โอเค..นับว่าเป็นข่าวดี”

หลังจากสนทนากับภคพลจบณดลก็เดินอมยิ้มอ่อนออกจากห้องไปรู้ได้เลยว่าหากเพื่อนของเขายังไม่ยอมบอกความจริงกับพราวพิ้งค์ได้มีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นแน่

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status