“ฉันอยากกลับบ้าน...นายจะให้ฉันอยู่ที่นี่เพื่ออะไรฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้วแผลแค่นี้ฉันรักษาเองได้”
ภคพลเปรยสายตามองณดลด้วยความระอารู้ได้เลยว่าเพื่อนตนต้องมาบังคับให้ทานอาหารอีกแน่ที่เขาไม่มีกะใจทำอะไรตอนนี้ก็เป็นเพราะไม่อยากจะนอนอยู่ที่โรงพยาบาล
“ฉันรู้ว่านายเก่ง..แต่ฉันก็รู้อีกว่าถ้านายกลับไปนายจะไม่ยอมทำแผลไม่ยอมทานยาตามที่ฉันสั่งแล้วแผลนายก็จะติดเชื้ออาจจะทำให้นายป่วยตายได้เข้าใจใช่ไหม..อยู่โรงพยาบาลอีกสักวันสองวันจะเป็นไร”
ณดลสาวเท้าเข้ามาข้างเตียงภคพลมือทั้งสองล้วงกระเป๋าก่อนจะสาธยายหยั่งรู้ถึงนิสัยของเพื่อนหากเขายอมปล่อยกลับบ้านจะเป็นเช่นไร
“เฮ่อ..”
คนที่ถูกบ่นได้แต่หลับตาถอนหายใจ
“แล้วก็กินอาหารให้ตรงเวลาไม่เช่นนั้นฉันจะให้นายอยู่ที่นี่นานขึ้น...แล้วอย่าคิดหนีคนของฉันมีอยู่ทุกที่เข้าใจใช่หรือเปล่า”
ณดลยกมือชี้หน้าภคพลเขาไม่ได้ขู่รู้ว่าเพื่อนตนรู้ดี
“เฮ่อ..”
คนป่วยถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกรอบพรางมองเพื่อนรักที่เจ้ากี้เจ้าการด้วยสายตาไม่สบอารมณ์เขาเคยหนีออกจากโรงพยาบาลมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ถูกคนของณดลลากกลับมาได้ทุกครั้งหมอหนุ่มเพื่อนของเขาคนนี้ก็ไม่ยอมรักษาใครที่อื่นนอกจากที่โรงพยาบาลของตัวเองด้วย
“เลิกถอนหายใจแล้วกินข้าวซะ”
ว่าจบก็เดินดุ่มออกไปจากห้องท้องให้ภคพลนอนป่วยกายป่วยใจต่อไป
สามวันต่อมา
ณ บ้านหลังใหญ่สุดหรูใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครบ้านที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกครบครันรวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ของใช้หรูหราบวกกับรถยนต์สปอร์ตหลายคันจอดเรียงรายอยู่ที่ลานหน้าบ้านทั้งหมดนี้เป็นอาณาจักรของภคพลที่สร้างมาด้วยมือของตัวเอง
ชายหนุ่มที่พึ่งออกจากโรงพยาบาลได้ข้ามวันตอนนี้เขาก็นอนเปลือยเปล่าท่อนบนอยู่ที่ริมสระน้ำใหญ่หน้าบ้านมีเพียงผ้าพันแผลปกปิดรอยแผลเอาไว้
ข้างตัวมีถังไวน์ใหญ่วางตั้งด้านในถังมีไวน์ราคาแพงสองสามขวดในมือของเขาก็ถือกระดกอีกขวดด้วยท่าทีสบายอารมณ์ที่ไม่ต้องอุดอู้อยู่ที่โรงพยาบาลอีกต่อไป
“คุณพอลจะไปงานของคุณแดนหรือเปล่าครับผมจะได้จัดกระเป๋าให้เลย”
ก้องภพมือขวาคนสนิทของภคพลเดินดุ่มเข้ามาถามเจ้านายเรื่องที่ยังไม่หายเจ็บดี
“อืม..ไปสิ..พี่ๆฉันจะไปด้วยหรือเปล่า”
ใบหน้าคมหันมาพยักหน้าเบาๆให้คนของตน
“คุณแอลบินมาถึงไทยคืนนี้จะเดินทางไปที่ไร่พรุ่งนี้เช้าครับส่วนคุณดีลพึ่งมาบอกว่าติดธุระด่วนมาไม่ได้ครับ..”
“อืม..นายไปจัดกระเป๋าฉันจะเดินทางพรุ่งนี้...แล้วเรื่องคนที่ทำร้ายฉันไปถึงไหนแล้ว”
“ตำรวจรู้ตัวแล้วครับเป็นพวกของอิกอร์ที่คุณพอลเคยมีเรื่องด้วยที่ผับไม่กี่วันก่อน”
“เอาคืนกันแรงขนาดนี้เลยหรือไง”
น้ำเสียงแข็งลอดรายฟันที่กำลังขบกันกรอดภคพลคิดว่าการมีเรื่องกับอิกอร์เพราะผู้หญิงกันครั้งนั้นจะจบที่ตรงนั้นอย่างลูกผู้ชายแล้วเสียอีกไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะลอบกัดเขาจนเจ็บขนาดนี้
“ให้ฉันเดามันคงใช้เงินประกันตัวออกไปแล้ว..ส่งคนไปจัดการมันไม่ต้องถึงตายแต่เอาให้เจ็บยิ่งกว่าที่ฉันเจ็บ”
“แต่เลฟพี่ของอิกอร์เป็นคู่ค้ากับคุณภูนะครับผมเกรงว่าเรื่องนี้จะบานปลายถ้าคุณพอลยังต่อกลอนกับพวกมัน”
ก้องภพเอ่ยเตือนภคพลเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคู่ค้าคนสำคัญของภูริชพ่อเจ้านายตนและถ้าพ่อของเจ้านายรู้คงได้ทะเลาะกันอีกแน่
“จะบานปลายแค่ไหนก็ช่างแต่ฉันจะเอาคืน..พวกนายก็รีบไปจัดการให้เรียบร้อยด้วยหวังว่าหลังจากงานแต่งของอาแดนฉันจะได้ยินว่าอิกอร์นอนเป็นผักอยู่ที่โรงพยาบาล”
ชายหนุ่มหันมาจ้องหน้าคนสนิทเขม็งเพราะคนอย่างเขาไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้นหากเขาไม่ใช่ฝ่ายผิด
“ครับ”
ก้องภพหันหลังกลับด้วยสีหน้ากังวลแม้นจะไม่เห็นด้วยกับความคิดของเจ้านายแต่เมื่อเป็นคำสั่งเขาก็ต้องทำ
มือขวาคนสนิทเดินให้หลังไปได้ร่างสูงก็ลุกขึ้นถือขวดไวน์เดินเล่นริมสระน้ำหากไม่ติดว่าแผลห้ามถูกน้ำเขาจะกระโดดว่ายให้ชื่นใจเวลานี้เขาค่อนข้างอารมณ์ดีเมื่อรู้ว่าคนที่ทำเขาเจ็บจะได้เจ็บบ้าง
เชียงใหม่
บ้านริมรัก
วันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่งพราวพิ้งค์จึงพาลูกน้อยออกมาเดินเล่นที่สวนหน้าบ้านยามเย็นบรรยากาศรอบๆบ้านสีขาวหลังเล็กค่อนข้างร่มรื่นเต็มไปด้วยหมู่มวลไม้ดอกและพืชพรรณที่ทานได้เต็มรอบรั้วบ้านด้วยฝีมือของพราวพิ้งค์
“ปี๋..เจื้อ..”
เด็กหญิงตัวกลมวัยสองขวบผมสีน้ำตาลมัดรวบสองจุกเป็นก้อนโดนัทดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลจ้องมองไปยังเหล่าผีเสื้อตัวน้อยที่มาตอมดอกไม้ทั้งสับขาปล้องๆวิ่งไล่จับเหล่าผีเสื้อสีสวยด้วยความสนุกส่งเสียงกรี้ดกร้าดชอบใจขณะวิ่งเล่นไม่ขาดโดยมีคนเป็นแม่นั่งมองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
พราวพิ้งค์นั่งยิ้มไม่หุบเมื่อได้ยินเสียงอารมณ์ดีของลูกสาวอยู่เนืองๆเธอหันไปมองบ้านหลังเล็กด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสุขเพราะจำได้ว่าเมื่อตอนเด็กๆเธอก็จะนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านทุกเย็นกับยายของเธอเช่นกันจนพอโตถึงได้ไปอยู่กับพ่อและแม่ที่กรุงเทพบรรยากาศเหล่านั้นก็ได้หายไปจากความทรงจำและหวนกลับมาอีกครั้งเมื่อเธอกลับมาอยู่ที่นี่
“ยด..”เด็กหญิงตัวกลมก้าวขาป้อมรีบเดินเข้ามาหาคนเป็นแม่เมื่อเห็นว่ามีรถเก๋งคันสีขาวขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านพราวพิ้งค์ยิ้มต้อนรับคนที่มาใหม่หน้าระรื่นไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นปลายฝันว่าที่เจ้าสาวของพ่อเลี้ยงแดนไทยเพื่อนรักของเธอเอง“ไงจ๊ะ..เจ้าหมูอ้วนของน้าปลายมาให้น้าฟัดหน่อยเร็ว” ฟอดด ฟอดดปลายฝันหญิงสาวที่กำลังท้องโตหน้าตาจิ้มลิ้มเดินถือถุงกระดาษปรี่ตรงมาอุ้มหนูน้อยกอดหอมฟอดใหญ่คิดถึงไม่ได้เจอหน้าหลานสาวหลายวันเพราะต้องกลับไปเอาชุดแต่งงานที่กรุงเทพและอยู่กับครอบครัวต่อเป็นอาทิตย์“ที่ไร่ไม่ยุ่งแล้วหรือถึงปลีกตัวมาที่นี่ได้”“ไม่มีอะไรยุ่งแล้วล่ะที่จะวุ่นก็เห็นจะเป็นพรุ่งนี้เพราะต้องเตรียมตัวรับแขกที่บ้านฉันกับบ้านคุณแดน..เออ..วันนี้พ่อเลี้ยงคีรินฝากชุดมาให้”ปลายฝันชี้ไปที่ถุงกระดาษข้างตัวที่ถือมาตั้งแต่ลงจากรถ“ถ้าฉันไม่ใส่จะดูเสียมารยาทหรือเปล่า”พราวพิ้งค์ว่าด้วยท่าทีลำบากใจ“แน่นอน”ปลายฝันรีบพยักหน้าสายตาของเธอบ่งบอกว่าอยากให้เพื่อนเธอนั้นรับรักพ่อเลี้ยงคีรินเสียที“ทำยังไงพ่อเลี้ยงถึงจะเข้าใจว่าฉันไม่ได้คิดอะไรเกินไปกว่าพี่น้อง”“พ่อเลี้ยงเค้าตามจีบเธอมาตั้งแต่เธอท้องยังไม่ยอมใจอ่อนก
“ขับมาจากตลาดจู่ๆก็ดับเฉยเลยค่ะ”พราวพิ้งค์โล่งใจที่ในสถานการณ์คับขันเธอยังมีคนรู้จักที่พอจะช่วยเหลือได้ผ่านมาแถวนี้พอดีสองหนุ่มสาวที่ยืนอยู่ข้างทางยังคงช่วยกันดูว่าเหตุที่รถเสียนั้นเกิดจากอะไรโดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีสายตาของใครบางคนมองจับจ้องผ่านกระจกรถยนต์คันหรูอยู่ไม่วางเป็นภคพลที่มองร่างบางด้วยสายตานิ่งเฉยอย่างที่ใครก็คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ว่าตอนนี้เขานั้นคิดอะไรอยู่เมื่อได้เจอกับหญิงสาวที่หายหน้าจากเขาไปเกือบสามปีชายหนุ่มค่อยๆผ่อนคันเร่งขับชะลอผ่านไปแล้วดูหญิงสาวร่างเล็กในชุดสีชมพูหวานที่กระจกข้างอีกรอบจนแน่ใจว่าเมื่อครู่มองไม่ผิดเธอคือพราวพิ้งค์คนที่เห็นว่าเขาหมดประโยชน์แล้วก็รีบตีจากความรู้สึกข้างในตอนนี้ประสมปนเปกันไปหมดไม่รู้ว่าตัวเองจะดีใจหรือคับแค้นใจที่ได้เห็นร่างบางที่คุ้นเคยนี้อีกครั้งทว่าสมองก็สั่งว่าอย่าพึ่งใส่ใจจึงรีบเหยียบคันเร่งมุ่งตรงไปที่ไของอาตนทันทีก่อนที่จะเย็นไปมากกว่านี้ครู่ต่อมาภคพลขับรถเข้ามาจอดที่บ้านหลังใหญ่ซึ่งเป็นบ้านไม้สักสไตล์โมเดิร์นตัวบ้านเป็นสองชั้นที่ชั้นล่างมีระเบียงชานบ้านกว้างรอบๆบริเวณบ้านจัดเป็นสนามหญ้ากว้างใหญ่ล้อมตัวบ้านหลังบ้านร่มรื่นด
“ไม่สนใจแต่ชวนเค้าทานข้าวเย็นด้วยกันนี่หมายความว่ายังไงน้า..”ปลายฝันเห็นพ่อเลี้ยงหนุ่มกลับไปได้ก็ได้ทีเอ่ยหยอกเพื่อนเธอเสียงอ่อน“หมายความว่าเป็นคนมีมารยาทไงเค้าอุตส่าห์ช่วยมาส่งถึงที่แถมยังให้คนมาลากรถไปที่อู่อีก...แล้วนี่มิลินกับแพรวาจะมาถึงตอนไหน”พราวพิ้งค์ขมวดคิ้วส่ายหัวให้คนที่ทำตัวเป็นแม่สื่อแม่ชักก่อนจะถามถึงเพื่อนสนิทอีกสองคนที่บอกว่าจะมาถึงในวันนี้แต่เย็นแล้วก็ไม่ยักจะเห็น“อีกเดี๋ยวคงถึงแล้วล่ะ..ไปเดี๋ยวฉันไปช่วนทำกับข้าวในครัว”“ห้ามพูดเชียคุณคีรินอีกไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้หาช่างแต่งหน้ามาเองเลย”“โอ๋ๆ..แค่นี้ทำเป็นงอนไปได้”สองสาวคุยกันจบก็รีบสาวเท้าเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหารเย็นภคพลอยู่ในในชุดนอนสีเทายืนกอดอกพิงหน้าต่างช่วงกลางดึกดวงตาคมนัยน์ตาสีฟ้ายืนจ้องแหวนเพชรวงน้อยในมือไม่วางตา แหวนวงนี้ควรจะอยู่กับเจ้าของมันนานแล้วแต่ติดตรงที่เขานั้นไม่มีโอกาสได้ให้และคิดว่าคงจะเก็บตายไว้อย่างนี้เห็นจะดีแล้วก๊อกๆๆมือหนารีบเก็บแหวนวงเล็กเข้าในกระเป๋าก่อนะจะเดินดุ่มไปเปิดประตูหากเดาไม่ผิดคงจะเป็นพี่ชายของเขาที่น่าจะนอนไม่หลับเพราะแปลกที่เช่นเดียวกับที่เขานั้นเป็น“อย่าบอกว่านอนไม่หลับ
“ต้องขอบคุณช่างคนเก่งคนนี้ค่ะ”ปลายฝนอดเอ่ยชมฝีมือพรางพิ้งค์ไม่ได้นับว่าเพื่อนของเธอเก่งไปเสียทุกอย่างจริงๆ“ฉวย..”หนูน้อยตัวกลมแก้มย้วยในชุดเสื้อยืดเจ้าหญิงสีชมพูกับกระโปรงสีขาวฟูฟ่องมัดผมรวบโดนัมสองข้างเดินเข้ามาเกาะขาปลายฝันเงยหน้าเอ่ยชมคนเป็นน้าหน้าบาน“รู้ดีจังเลยนะเรา”เปรมสุดาอุ้มยัยหนูพลอยขวัญมานั่งที่ตักพร้อมกดจูบกระหม่อมหนึ่งทีหากอยากจะให้หลานนั้นออกมาเหมือนกับยัยหนูพลอยขวัญเหลือเกินยิ่งคิดก็ยิ่งอยากให้ถึงวันที่ลูกสาวเธอคลอดเร็วๆ“ฝัน..ขบวนแห่มาใกล้แล้วมาดูสิ”ปลายฝันรีบลุกเดินมาที่หน้าต่างตามพราวพิ้งค์เพื่อดูขบวนแห่ที่เหล่าผู้คนกำลังพากันรำหน้ากลองยาวอย่างสนุกสนาน“น่าตื่นเต้นจังเลย”ตอนนี้ปลายฝันเริ่มทำตัวไม่ถูกทั้งที่เตรียมใจเอาไว้แล้วแต่พอถึงสถานการณ์จริงกลับประหม่าเสียได้“นั่น..คุณ..ภูริช..”ชายวัยกลางคนที่พราวพิ้งค์เห็นว่ากำลังยืนอยู่ข้างๆคีรินทำเอาสาวเจ้ายืนตัวชาหน้าเสีย“อ่อ..ใช่คุณภูริชเธอรู้จักด้วยเหรอเค้าเป็นพี่ชายของคุณแดนแต่คนละแม่”“แล้ว..ทำไมนามสกุลไม่เหมือนกัน”“คุณแดนบอกว่าคุณภูเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของแม่ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้วเพราะนามสกุลแม่คุณภูไม่มีใครสืบส
หลังเสร็จเรื่องรับตัวเจ้าสาวไม่นานนักตอนนี้ทุกคนก็อยู่กันที่บ้านของแดนไทเพื่อฟังพระสวดให้บ่าวสาวได้ตักบาตรทำบุญในช่วงเช้า“ตาพอลยังไม่ตื่นอีกเหรอเราไปดูน้องให้พ่อหน่อยสิ..ทำตัวไม่มีมารยาทเอาซะเลย”ภูริชเห็นทีต้องหันมาบอกให้โนแอลไปตามภคพลขณะที่พระกำลังสวดคราแรกคิดว่ากลับมาจะเจอลูกชายคนเล็กรอต้อนรับแต่ป่านนี้ก็ไม่ยักจะเห็นหัวเสียทีจึงไม่ค่อยสบอารมณ์กับลูกชายที่ทำตัวไม่รู้กาลเทศะนัก“ครับคุณพ่อ”โนแอลรีบลุกปลีกตัวเข้าไปชั้นบนเขาเองก็มีส่วนผิดที่เมื่อคืนนอนไม่หลับจนต้องไปชวนภคพลนั่งดื่มนั่งคุยกันจนเกือบเช้าก๊อกๆๆหลังจากโนแอลเคาะประตูไม่นานภคพลก็เดินมาเปิดประตูเมื่อคนเป็นพี่เห็นน้องชายแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงมองหน้าด้วยสายตาฉงนเพราะไม่รู้ว่าภคพลนั้นทำไมยังไม่ลงไปที่งานแต่งด้านล่างเสียที“แต่งตัวเสร็จแล้วทำไมยังไม่ลงไปล่ะ”“ผมรอให้พระสวดเสร็จขี้เกียจไปนั่งนิ่งๆฟังน่าเบื่อ”ร่างสูงในชุดสูทสีเทาเซ็ททรงผมเนี้ยบยืนส่ายหน้าด้วยท่าทีขยาดเพราะจะให้เขาไปนั่งนิ่งๆฟังพระสวดคงสร้างความอึดอัดให้เขาไม่น้อย“คุณพ่อหงุดหงิดกับนายใหญ่แล้วรีบลงไปตอนนี้เลย”“รอให้พระสวดเสร็จก่อนไม่ได้เหรอครับ”“ไม่ได้”โนแอ
ตลอดงานทั้งงานพราวพิ้งค์ไม่ค่อยมีรอยยิ้มเท่าไรนักเพราะรู้สึกอึดอัดกับสายตาของภคพลที่เอาแต่จับจ้องเธอตลอดเวลาก็ว่าได้ในส่วนของภคพลเมื่อได้รู้จากคนในงานว่าเด็กหญิงตัวกลมวัยสองขวบที่หน้าตาออกไปทางลูกครึ่งนั้นเป็นลูกสาวของพราวพิ้งค์เขาก็ยิ่งเกิดความสงสัยเพราะมองยังไงหน้าตาของเจ้าก้อนกลมที่วิ่งเล่นหัวเราะร่าอยู่ในงานหน้าตาเหมือนกับเขาไม่มีผิดเพี้ยน“ดีจ่ะ..”ยัยหนูพลอยขวัญวิ่งเล่นที่ระเบียงหน้าบ้านจนเหนื่อยแล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าภคพลยกมือป้อมสวัสดีคนตรงหน้าตามมารยาทที่คนเป็นแม่ได้สอน ชายหนุ่มหลี่ตามองเด็กหญิงที่ยืนเงยหน้ามองเขาตาแป๋วยิ่งมองใกล้เท่าไรยิ่งมั่นใจว่าอย่างไรเด็กคนนี้ก็ต้องมีเชื้อต่างชาติด้วยเพราะตาสีฟ้าเช่นเดียวกับเขาสีผมก็ยังเหมือนกันอีกด้วย“ไง..เจ้าแก้มย้วย”ภคพลย่อตัวลงยื่นมือหนาลูบพวงแก้มย้วยๆทั้งมองเด็กหญิงด้วยท่าทีเอ็นดูลึกๆแล้วยังมั่นใจว่าอย่างไรเด็กหญิงตรงหน้าคงเป็นลูกของตนแต่ก็ต้องถามกับพราวพิ้งค์ให้แน่ใจเสียก่อนว่าเธอจะตอบเขาว่าอย่างไร“อุ้ม..”ยัยหนูพลอยขวัญทิ้งก้นนั่งลงกับพื้นพร้อมยื่นแขนออกสองข้างหมายจะให้คนตรงหน้าอุ้มเพราะวิ่งจนเหนื่อยมากแล้ว“หมดแรงวิ่งแล้วเหรอ”
ทางด้านพราวพิ้งค์เมื่อขอตัวจากทุกคนได้ก็อุ้มเจ้าตัวกลมที่กำลังหลับมาที่ลานจอดรถใต้ต้นไม่ใหญ่หญิงสาววางลูกน้อยลงที่คาร์ซีทได้ร่างของเธอก็ถูกภคพลดึงจนตัวปลิว“ผมขอคุยด้วยหน่อย”“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันนะคะ”พราวพิ้งค์ที่ยังคงไม่พอใจชายหนุ่มเมื่อครู่รวมถึงพฤติกรรมที่เขาทำกับเธอตอนนี้จึงส่งเสียงแข็งตอบกลับชายหนุ่มด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์และพยายามแกะมือหนาของเขาออกจากแขนแต่ก็ทำได้ยาก“เด็กคนนั้นเป็นลูกผมใช่หรือเปล่า”ภคพลเปรยสายตาไปในรถยังเจ้าก้อนกลมที่กำลังหลับ พราวพิ้งค์นิ่งงันตัวชาวาบคำถามของภคพลทำให้เธอเริ่มใจเต้นไม่เป็นส่ำเหงื่อเม็ดเล็กเริ่มไหลซิกที่หน้าผากเพราะไม่นึกไม่ฝันว่าจะต้องมาตอบคำถามอะไรเช่นนี้“ฉันจะไปมีลูกกับคุณได้ยังไงคะในเมื่อคุณก็เป็นคนพูดเองว่าไม่ต้องการให้มีอะไรผูกมัดกับคนที่เป็นแค่คู่นอน”คำที่ชายหนุ่มเคยพูดกับเธอในตอนที่ให้เธอเป็นเพียงคู่นอนพราวพิ้งค์ยังจำมันได้ดีจึงอยากให้เขาเข้าใจว่าเธอไม่ได้ผิดสัญญาแม้แต่น้อย“แล้วลูกคุณกับใคร...หรือออกจากชีวิตผมไปแล้วคุณก็ไปนอนกับคนอื่นอีก”คำพูดของภคพลทำให้หญิงสาวที่รู้สึกไม่พอใจในตัวเขาอยู่แล้วยิ่งทวีคูณโทสะนั้นเพิ่มขึ้นไปอีก“ค่ะ..
“ทำไมต้องหาแต่เรื่องฮะ...ไอ้นิสัยใจร้อนโผงผางเมื่อไรจะเลิกซะที..แล้วนี่ยังไปลวนลามคนอื่นไม่เลือกหน้า..งามหน้าไหมล่ะ”ภูริชยืนเท้าเอวบ่นภคพลอุกเพราะเขารับรู้พฤติกรรมไร้มารยาทของลูกชายคนเล็กมานานแล้วคิดว่าโตขึ้นแล้วจะคิดได้กลับหนักกว่าเดิม“บ่นพอหรือยังครับ.. ผมขอตัวไปทำแผลก่อนนะครับ”ภคพลมองจ้องไปยังคนเป็นพ่อด้วยท่าทีที่ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรก่อนจะเดินหนีหลังจากที่พ่อตนนั้นพูดจบเพราะไม่อยากจะฟังคำต่อว่าอะไรต่ออีก“ฉันจะทำยังไงกับมันดี..เห็นทีต้องดัดไม้แก่กันก็คราวนี้”ภูริชหันมาหาโนแอลไม่รู้ว่าเขาเลี้ยงลูกผิดตั้งแต่เมื่อไรโตมามีการมีงานทำถึงได้นิสัยเสียมากเข้าทุกวี่ทุกวัน“ใจเย็นๆครับคุณพ่อ”โนแอลรู้ว่าน้องชายตนนั้นมีอำนาจในมือล้นเหลือจนเคยตัวเขาต้องเป็นหัวหน้าคนมากมายจึงทำให้ค่อนข้างติดนิสัยเผด็จการมากพอสมควรแต่ก็ยังมองไม่ออกเหมือนกันว่าจะขจัดนิสัยนี้ของน้องตัวเองได้อย่างไรไม่ใช่แค่ภคพลคนเดียวที่มีนิสัยเช่นนี้แต่นาดีลก็เป็นเช่นกันดึกมากแล้วสาวร่างเล็กในชุดนอนสายเดี่ยวซาตินสีชมพูสั้นเลยเข่ายังคงกอดอกเดินไปมาในห้องนอนครุ่นคิดถึงคำถามของภคพลเมื่อกลางวันอยู่ไม่วาง ไม่แปลกที่เขาจะคิดว่ายัยหน