ทางด้านพราวพิ้งค์เมื่อขอตัวจากทุกคนได้ก็อุ้มเจ้าตัวกลมที่กำลังหลับมาที่ลานจอดรถใต้ต้นไม่ใหญ่หญิงสาววางลูกน้อยลงที่คาร์ซีทได้ร่างของเธอก็ถูกภคพลดึงจนตัวปลิว
“ผมขอคุยด้วยหน่อย”
“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันนะคะ”
พราวพิ้งค์ที่ยังคงไม่พอใจชายหนุ่มเมื่อครู่รวมถึงพฤติกรรมที่เขาทำกับเธอตอนนี้จึงส่งเสียงแข็งตอบกลับชายหนุ่มด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์และพยายามแกะมือหนาของเขาออกจากแขนแต่ก็ทำได้ยาก
“เด็กคนนั้นเป็นลูกผมใช่หรือเปล่า”
ภคพลเปรยสายตาไปในรถยังเจ้าก้อนกลมที่กำลังหลับ พราวพิ้งค์นิ่งงันตัวชาวาบคำถามของภคพลทำให้เธอเริ่มใจเต้นไม่เป็นส่ำเหงื่อเม็ดเล็กเริ่มไหลซิกที่หน้าผากเพราะไม่นึกไม่ฝันว่าจะต้องมาตอบคำถามอะไรเช่นนี้
“ฉันจะไปมีลูกกับคุณได้ยังไงคะในเมื่อคุณก็เป็นคนพูดเองว่าไม่ต้องการให้มีอะไรผูกมัดกับคนที่เป็นแค่คู่นอน”
คำที่ชายหนุ่มเคยพูดกับเธอในตอนที่ให้เธอเป็นเพียงคู่นอนพราวพิ้งค์ยังจำมันได้ดีจึงอยากให้เขาเข้าใจว่าเธอไม่ได้ผิดสัญญาแม้แต่น้อย
“แล้วลูกคุณกับใคร...หรือออกจากชีวิตผมไปแล้วคุณก็ไปนอนกับคนอื่นอีก”
คำพูดของภคพลทำให้หญิงสาวที่รู้สึกไม่พอใจในตัวเขาอยู่แล้วยิ่งทวีคูณโทสะนั้นเพิ่มขึ้นไปอีก
“ค่ะ..ฉันขายตัวให้คนอื่นอีก..จบนะคะฉันขอตัว”
พราวพิ้งค์สะบัดมือออกจากภคพลสายตาของเธอมองค้อนเขาหนึ่งฉาดก่อนจะหันหลงจ้ำอ้าวเดินกลับไปที่รถ
“ผมจะซื้อ”
ภคพลยืนขบฟันกรอดไม่พอใจที่ได้รับรู้ว่าพราวพิ้งค์ขายตัวให้คนอื่นเขารีบสาวเท้าตามหญิงสาวดึงเธอมารวบกอดอีกรอบก่อนที่พราวพิ้งค์จะได้เข้าไปนั่งในรถ
“อะไรของคุณอีก”
“ผมจะจ่ายเงินซื้อคุณ”
พราวพิ้งค์เม้มริมฝีปากแน่นคำพูดคำจาของภคพลยิ่งทำให้เธอตอกย้ำว่าเขาไม่เปลี่ยนไปเลยยังคงเอาแต่ใจอยากได้อะไรก็ใช้อำนาจของเงินที่ตัวเองมีตลอด
“ปล่อยฉัน”
“ไม่”
พราวพิ้งค์พยายามดิ้นหนีแต่ยิ่งดิ้นเท่าไรแขนแกร่งที่กำลังรัดเธอเอาไว้ก็ยิ่งแน่นขึ้นทุกที
“ทำอะไร..ปล่อยเธอ”
เป็นคีรินที่เข้ามาเห็นสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนักเขารีบเข้ามากระชากไหล่ข้างที่เจ็บของภคพลจนร่างสูงล้มฟุบไปกองกับพื้น
“มึงเสือกอะไร”
ภคพลรีบลุกยืนขึ้นและปรี่เข้าไปตะคอกใส่คีรินเสียงดัง
“หยุดหยายคายกับคุณคีรินนะคะคุณพอล”
พราวพิ้งค์ยืนขวางตรงหน้าภคพลเพราะกลัวว่าเขานั้นจะลงไม้ลงมือกับคีรินและต้องคอยปรามไม่ให้เขาพูดจาเสียมารยาทกับคนอื่น
“คุณพอล..”
พราวพิ้งค์สบถเสียงอ่อนค่อนข้างตกใจเมื่อเห็นว่ามีเลือดไหลออกจากช่วงบ่าข้างซ้ายของภคพล
“ขอเตือนว่าอย่ามารุ่มร่ามกับคุณพิ้งค์”
คีรินผลักภคพลจนกระเด็นออกห่างตัวพราวพิ้งค์อีกรอบเขาไม่ค่อยถูกชะตากับภคพลตั้งแต่แรกเห็นยิ่งมาเห็นนิสัยเสียๆเช่นนี้ของชายหนุ่มเขายิ่งไม่ชอบหน้าภคพลเข้าไปใหญ่
“ทำไมกูจะทำมากกว่านี้ก็ยังได้”
ภคพลกัดฟันเอ่ยกระซิบข้างหูของคีริน / พลั้กก /
ก่อนจะวาดหมัดต่อยเข้าแก้มซ้ายของคีรินเต็มแรงเพราะไม่ชอบที่อีกฝ่ายมีท่าทีเกาะแกะกับพราวพิ้งค์จนน่าหมั่นไส้หลายครั้งแล้ว
แล้วหลังจากนั้นแต่ละฝ่ายก็รัวหมัดใส่กันโดยที่ไม่มีใครยอมใครพราวพิ้งค์ที่ยืนเป็นคนกลางจึงพยายามปรามทั้งสองเท่าที่จะทำได้แต่ทว่าทั้งสองก็ยังไม่ยอมฟังเสียงห้ามปรามของเธอแม้แต่น้อย
“หยุดนะคะ..บอกให้หยุดไง”
เสียงเอะอะโวยวายที่ลานจอดรถทำให้คนในบ้านได้ยินจึงกรูกันออกมาดูด้านนอกว่าเกิดอะไรขึ้น ภูริชที่เห็นลูกชายคนเล็กลงไปต่อยตีกับคนที่นี่เขารู้สึกไม่พอใจมากเขารีบตะโกนห้ามทั้งสองเสียงแข็งไม่นานทุกอย่างก็สงบลง
“ตาพอล!!”
โนแอลรีบมาพยุงร่างของภคพลให้แยกห่างออกจากคีรินส่วนแดนไทก็รีบเข้ามาถามสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น
“ทะเลาะอะไรกันครับ”
“ก็คุณพอลมารุ่มร่ามกับคุณพิ้งค์ก่อน..ผมต้องปกป้องคุณพิ้งค์”
คีรินที่สะบักสะบอมเอ่ยออกมาด้วยท่าทีไม่พอใจภคพลอย่างมาก พราวพิ้งค์ถึงกับยืนกุมขมับเพราะจากสถานการณ์คราแรกที่ไม่ดียู่แล้วตอนนี้ยิ่งจะดูเลวร้ายขึ้นอีก
“มานี่เลย”
ภูริชได้รับรู้เรื่องราวจากคีรินก่อนจะหันมามองหาคำแก้ตัวของลูกชายเมื่อไม่มีแสดงว่าที่คีรินพูดออกมาเป็นความจริงเห็นทีเขาจะต้องสั่งสอนลูกชายคนเล็กจอมสร้างปัญหาเสียหน่อยแล้ว
“ผมต้องขอโทษแทนน้องชายด้วยนะครับ”
โนแอลหันมาขอโทษพราวพิ้งค์และคีรินก่อนจะเดินตามหลังคนเป็นพ่อที่ลากน้องชายเดินกลับเข้าไปในบ้าน
“ทำไมต้องหาแต่เรื่องฮะ...ไอ้นิสัยใจร้อนโผงผางเมื่อไรจะเลิกซะที..แล้วนี่ยังไปลวนลามคนอื่นไม่เลือกหน้า..งามหน้าไหมล่ะ”ภูริชยืนเท้าเอวบ่นภคพลอุกเพราะเขารับรู้พฤติกรรมไร้มารยาทของลูกชายคนเล็กมานานแล้วคิดว่าโตขึ้นแล้วจะคิดได้กลับหนักกว่าเดิม“บ่นพอหรือยังครับ.. ผมขอตัวไปทำแผลก่อนนะครับ”ภคพลมองจ้องไปยังคนเป็นพ่อด้วยท่าทีที่ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรก่อนจะเดินหนีหลังจากที่พ่อตนนั้นพูดจบเพราะไม่อยากจะฟังคำต่อว่าอะไรต่ออีก“ฉันจะทำยังไงกับมันดี..เห็นทีต้องดัดไม้แก่กันก็คราวนี้”ภูริชหันมาหาโนแอลไม่รู้ว่าเขาเลี้ยงลูกผิดตั้งแต่เมื่อไรโตมามีการมีงานทำถึงได้นิสัยเสียมากเข้าทุกวี่ทุกวัน“ใจเย็นๆครับคุณพ่อ”โนแอลรู้ว่าน้องชายตนนั้นมีอำนาจในมือล้นเหลือจนเคยตัวเขาต้องเป็นหัวหน้าคนมากมายจึงทำให้ค่อนข้างติดนิสัยเผด็จการมากพอสมควรแต่ก็ยังมองไม่ออกเหมือนกันว่าจะขจัดนิสัยนี้ของน้องตัวเองได้อย่างไรไม่ใช่แค่ภคพลคนเดียวที่มีนิสัยเช่นนี้แต่นาดีลก็เป็นเช่นกันดึกมากแล้วสาวร่างเล็กในชุดนอนสายเดี่ยวซาตินสีชมพูสั้นเลยเข่ายังคงกอดอกเดินไปมาในห้องนอนครุ่นคิดถึงคำถามของภคพลเมื่อกลางวันอยู่ไม่วาง ไม่แปลกที่เขาจะคิดว่ายัยหน
เช้าวันต่อมาไร่เหมวัตวันนี้มีเรื่องให้ภูริชต้องปวดหัวอีกแต่เช้าเมื่อได้รับข่าวจากเลฟคู่ค้าคนสำคัญว่าลูกชายของเขาส่งคนไปทำร้ายอิกอร์น้องชายของเลฟจนบาดเจ็บสาหัสเพียะมือหนาฟาดเข้าแก้มซ้ายของลูกชายคนเล็กเต็มแรงจนหน้าหันด้วยความโมโหน้อยครั้งนักที่เขาจะลงมือกับลูกแบบนี้ภคพลน้ำตาคลอเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดที่ใบหน้าของเขาแม้แต่น้อยแต่กลับเป็นที่ใจมากกว่าที่ถูกคนเป็นพ่อตบตีด่าทอทั้งที่เขาเป็นฝ่ายที่ถูกอิกอร์กระทำก่อน“ทำอะไรไม่รู้จักคิดดีที่เลฟไม่เอาเรื่องอะไร”ภูริชตวาดเสียงฝาดเพราะดีแค่ไหนที่เขาคุยกับเลฟจนเขาอารมณ์เย็นลงและเข้าใจว่าอิกอร์ทำภคพลก่อนได้ไม่เช่นนั้นภคพลเองจะตกอยู่ในอันตรายซึ่งเขาก็ไม่สามารถที่จะปกป้องลูกได้ตลอดเวลาแม้นจะมีอำนาจมากพอกับเลฟก็เถอะ“แต่อิกอร์ทำผมก่อนนะครับ”ภคพลเอ่ยตอกกลับคนเป็นพ่อเสียงสั่นโมโหเหลือเกินที่พ่อของเขาไม่มีทีท่าจะปกป้องเขาแม้แต่น้อย“ฉันรู้.. แต่ทำไมไม่รู้จักใช้ปัญญาแก้ปัญหาทำไมชอบใช้แต่กำลัง”“ที่คุณพ่อโกรธขนาดนี้เป็นเพราะเลฟเป็นคู่ค้าคนสำคัญใช่หรือเปล่าครับ”“พอลหยุด..คุณพ่อไม่เคยคิดเห็นคนอื่นดีกว่าคนในครอบครัว”โนแอลที่ยืนเงียบในสถานการณ์ที่ไม่ค่อ
“คุณพิ้งค์”“อ่อ..ครับ..แล้วเธอดูแลทุกเรื่องเลยหรือเปล่าครับ”เห็นจะมีเรื่องนี้ที่ทำให้ที่นี่น่าอยู่สำหรับเขาขึ้นมาหน่อย“ก็..ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกเธอได้ตลอด”“ครับคุณอา..”“แล้วอย่าทำเรื่องอะไรที่มันงามหน้ามาถึงฉันด้วยล่ะ”ภูริชต้องพูดดักลูกชายตัวดีของเขาไว้ก่อนเพราะไม่อยากจะรับรู้รับฟังว่าภคพลมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใครหรือทำเรื่องเสียหายกับผู้หญิงอีก“ค้าบบ..คุณพ่อ”วันต่อมาในเวลาใกล้ที่จะโพล้เพล้หลังจากที่ภูริชกลับกรุงเทพพร้อมโนแอลและแดนไทยเดินทางไปฮันนีมูนกับปลายฝันสมหมายชายวัยเกือบห้าสิบผู้จัดการไร่ส้มในไร่ของเหมวัตก็ขับรถมาส่งภคพลที่กระท่อมเล็กท้ายไร่แม้นที่นี่จะเรียกว่ากระท่อมแต่มันก็ถือว่าใช้กินใช้อยู่ได้สะดวกพอสมควรเพราะกระท่อมริมธารน้ำตกท้ายไร่เหมวัตเป็นกระท่อมยกพื้นสูงชานระเบียงกว้างหลังคากระเบื้องแข็งแรงเรียกว่าบ้านหลังเล็กก็ยังได้ตัวเรือนทำด้วยไม้แผ่นใหญ่ฝาผนังด้านข้างเป็นไม้ไผ่สานหากภคพลเดาไม่ผิดโครงสร้างคงเป็นไม้สักด้านข้างเป็นครัวที่มีอุปกรณ์ครบครันมีไฟฟ้าเข้าถึงเรียบร้อยเดาว่าอาของเขาคงให้คนจัดเตรียมเอาไว้ให้ด้านในกระท่อมมีห้องนอนที่ไม่ใหญ่มากนักกั้นด้วยไผ่สานแยกจา
ช่วงสายวันต่อมา“คุณพิ้งค์..ยัยหนูไปไหนแล้วล่ะครับ”คีรินเข้ามาทำธุระที่ไร่เหมวัตเขาจึงแวะเข้ามาหาพราวพิ้งค์ที่สำนักงานหลังจากที่รู้จากคนงานในไร่ว่าเธอมาทำบัญชีที่นี่วันนี้“ฟองจันทร์พาไปเล่นที่บ้านค่ะ”“ผมซื้อบัวลอยของป้าสายหยุดมาฝากครับ”พ่อเลี้ยงหนุ่มวางถุงบัวลอยบนโต๊ะทำงานของพราวพิ้งค์ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งตรงข้ามกับหญิงสาวคนในสำนักงานต่างก็มองมายังทั้งสองพรางอมยิ้มเพราะรู้ดีว่าคีรินนั้นตามจีบพราวพิ้งค์มานานแล้วแม่คุณก็ไม่ยอมใจอ่อนตกลงปลงใจกับคีรินเสียทีพวกเขาก็ได้แต่แอบเชียร์อยู่ห่างๆ“ขอบคุณนะคะ..รู้ได้ไงคะว่าพิ้งค์อยู่ที่นี่”“พี่มิ่งบอกครับ..แล้วทำไมวันนี้คุณพิ้งค์มาทำงานที่นี่ได้ปกติเห็นอยู่ที่บ้าน”คีรินต้องขอบคุณมิ่งหล้าคนดูแลโรงบ่มไวน์ที่ใจดีบอกกับเขาเมื่อเช้าว่าพราวพิ้งค์อยู่ในสำนักงาน“ปลายกับพ่อเลี้ยงไม่อยู่พิ้งค์ต้องมาที่นี่บ่อยน่ะค่ะ”Rrrrr“พิ้งค์รับโทรศัพท์แปปนะคะ”พราวพิ้งค์หันมายิ้มกับพ่อเลี้ยงหนุ่มก่อนจะก้มหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกง“ค่ะลุงสม.. ค่ะๆเดี๋ยวพิ้งค์จะรีบไปดูเค้านะคะ”พราวพิ้งค์รู้เรื่องไม่ค่อยดีนักจากปลายสายเธอเริ่มหน้าเสียเมื่อวางสายได้ก็รีบรนรานลุกออกจ
เวลาเกือบโพล้เพล้หลังจากที่พราวพิ้งค์ได้ยาตามที่สั่งกับสมหมายสองแม่ลูกขับรถเก๋งเข้ามาจอดใกล้ๆกับทางเข้ากระท่อมริมธารน้ำตกหญิงสาวอุ้มลูกวัยสองขวบพร้อมกระเป๋านมพะลุงพะลังเข้ามาบนชานกระท่อมยัยหนูพลอยขวัญดูท่าจะตื่นเต้นกับสถานที่แปลกใหม่ที่ได้มาพอสมควรดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆด้วยท่าทีสงสัยปนตื่นเต้นแต่ยังคงนิ่งเงียบไม่ส่งเสียงรบกวนอะไรคนเป็นแม่“คุณพอลคะ”พราวพิ้งค์ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูกระท่อมของภคพลเธอเรียกหาชายหนุ่มเสียงดังแต่ไม่ยักจะมีใครเปิดประตู“ปอออ..”เด็กหญิงเอ่ยขานตามคำสุดท้ายของคนเป็นแม่เสียงดังแต่ประตูห้องก็ยังไม่ขยับพราวพิ้งค์จึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป“คุณพอล”พราวพิ้งค์เอ่ยเสียงเรียกภคพลอีกรอบเมื่อเข้ามาในห้องโถงของกระท่อมไม่นานนักคนในห้องนอนก็เปิดประตูออกมาจากห้องนอนท่าทางของภคพลไม่ค่อยดูดีเท่าไรนักพราวพิ้งค์จึงรับรู้ได้ทันทีว่าเขาน่าจะไข้ขึ้น“คิดถึงผมเหรอ”คนตัวโตที่ยืนหน้าซีดเผือดยังมีแก่ใจเอ่ยหยอกหญิงสาวที่กระเตงเจ้าก้อนกลมเข้ามาหาเขาถึงที่นี่“แอ้..”มือป้อมยกชี้หน้าภคพลพร้อมส่งเสียงใสเอ่ยทักคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มกว้างเพราะจำได้ว่าเคยเจอกัน“ไง..เจ้าแก้มย้วย”มือหยายกหมาย
พราวพิ้งค์เสร็จจากธุระในห้องน้ำได้เธอก็รีบกลับเข้ามาในห้องนอนของภคพลหญิงสาวค่อนข้างเบาใจเมื่อเห็นชายหนุ่มหลับลงที่ฟูกนอนข้างเตียงไปได้จะได้ไม่ต้องมีบทสนทนากันให้เธอรู้สึกอึดอัดหากมีบางคำถามที่เธอไม่อยากจะตอบครั้นเมื่อจะลงนอนบนเตียงข้างๆลูกสาวพราวพิ้งค์ก็อดไม่ได้ที่จะผุดลุกลงมาจากเตียงอีกครั้งมานั่งลงวาดหลังมืออังหน้าผากของภคพลอีกรอบเพื่อดูว่าไข้ของเขาลดหรือยังหลังจากทานยาไปร่วมชั่วโมงแล้วหญิงสาวพอจะยกยิ้มมุมปากได้เพราะตัวของชายหนุ่มไม่ร้อนเท่าตอนที่เธอมาเจอคราแรกจึงหมายจะลุกกลับไปนอนบนเตียงแต่ร่างของเธอก็ถูกคนตัวโตรวบดึงไปนอนกอดเสียก่อน“คุณพอล..ปล่อยค่ะ”คิ้วบางได้รูปขมวดขึ้นผูกโบดวงตากลมโตจ้องมองค้อนใบหน้าคมที่อยู่ห่างจากสายตาไม่ถึงคืบความเจ้าเล่ห์ของภคพลไม่มีใครเกินเลยจริงๆ“ขอนอนกอดคุณไม่ได้หรือไงทำอย่างกับเราไม่เคยนอนด้วยกัน”เสียงแหบพร่าก่ายกระซิบข้างใบหน้านวลทั้งจ้องมองใบหน้าที่คุ้นเคยไม่วางตา“นั่นมันอดีตค่ะ..ปล่อย”พราวพิ้งค์ไม่กล้าที่จะโวยวายอะไรมากเพราะกลัวว่ายัยหนูพลอยขวัญจะตื่นหากเป็นสถานการณ์อื่นภคพลคงถูกเธอดุเสียงแข็งไปแล้ว“ไม่...หนีผมมาทำไม”ชายหนุ่มยังรัดร่างบางแน
ทางด้านในโรงอาหารที่ไร่ช่วงกลางวันผู้คนต่างจับกลุ่มกันพูดถึงเรื่องที่ลำเพยได้รับรู้มาบางคนที่สนใจเรื่องชาวบ้านก็จะพูดต่อปากต่อคำกันแต่บางคนที่สนใจแต่งานก็ทำเป็นไม่รับไม่รู้เรื่องของคนอื่นแต่เห็นประเภทไม่อยากรู้จะมีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นเพราะการติฉินนินทาของชาวบ้านชนบทเหมือนจะมองกันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วทั้งที่มันไม่ควรจะเป็นเช่นนั้นเลย“อยู่ด้วยกันทั้งคืนเลยเหรอ”ลำเพยไม่เพียงแค่พูดในโรงอาหารเท่านั้นแต่รามมาถึงขณะที่มาทำความสะอาดที่สำนักงานไร่ด้วยจนสาวๆที่ทำงานอยู่ในสำนักงานต่างก็หูผึ่งตาโพรงไปตามๆกันเมื่อได้รับรู้เรื่องของพราวพิ้งค์และภคพล“ก็ใช่น่ะสิแถมยังใส่เสื้อคุณพอลแค่ตัวเดียวด้วย.. สองคนนี้จุดติดกันไวเนอะ”ลำเพยเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงแห่งความมั่นอกมั่นใจว่าอย่างไรพราวพิ้งค์และภคพลก็จะต้องมีสัมพันธ์กันในคืนที่ผ่านมา“ป้าเพยก็พูดไปพี่พิ้งค์แค่ช่วยดูแลคุณพอลเท่านั้น”ฟองจันทร์ที่ช่วยคนเป็นแม่เอากับข้าวมาให้คนในสำนักงานก็ถือวิสาสะโต้เถียงแทนพราวพิ้งค์เพราะเชื่อในตัวพี่สาวของเธอว่าไม่ทำตัวง่ายกับผู้ชายที่ไม่ได้รักแน่นอน“เราน่ะจะไปรู้อะไรต้องคนอาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างป้านี่..ดูปราดเดียวก็รู
“นี่ครับคุณพอลจดหมายมาถึงเมื่อกลางวัน”สมหมายยื่นซองสีน้ำตาลที่พึ่งมาส่งในสำนักงานเมื่อกลางวันให้ภคพลขณะที่ชายหนุ่มกำลังนั่งรอเขามารับกลับบ้านที่แคร่ไม้ไผ่หน้าไร่องุ่นยามเย็น“ขอบคุณครับลุงสม”ภคพลรีบเปิดซองจดหมายดูทันทีเมื่อเห็นว่ามาจากณดลชายหนุ่มเปิดอ่านข้อมูลในจดหมายได้เขาก็นั่งนิ่งเงียบครู่หนึ่งจนสมหมายเริ่มตกใจกับท่าทีแปลกไปของภคพล“คุณพอล..มีอะไรหรือเปล่าครับ”“ลุงสมไปส่งผมที่บ้านพิ้งค์หน่อยนะครับผมมีธุระจะคุยกับเธอ”“ครับ”สมหมายค่อนข้างสงสัยในพฤติกรรมของภคพลพอสมควรแต่ก็มีมารยาทพอที่จะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาไม่นานนักรถกระบะคันเก่าก็มาจอดที่ปากทางเข้าบ้านของพราวพิ้งค์ภคพลกำซองจดหมายแน่นก่อนจะรีบลงจากรถ“ลุงสมกลับได้เลยนะครับถ้าผมจะกลับเดี๋ยวให้พิ้งค์ไปส่ง”“ครับ”สมหมายขับรถออกไปได้ภคพลก็เดินดุ่มเข้ามาในบ้านของพราวพิ้งค์ทันที“มีธุระอะไรถึงต้องมาที่นี่คะ”พราวพิ้งค์สาวเท้าออกมาจากในครัวเมื่อได้ยินเสียงรถกระบะหน้าบ้านเมื่อออกมาก็ต้องตกใจเพราะเห็นว่าเป็นภคพลที่เดินหน้านิ่วคิ้วขมวดมายืนอยู่หน้าประตู“ดีจ้า..”เจ้าก้อนกลมเห็นคนคุ้นหน้าเดินเข้ามาในบ้านก็ยกมือป้อมสวัสดีทั้งทัก