“นี่ครับคุณพอลจดหมายมาถึงเมื่อกลางวัน”
สมหมายยื่นซองสีน้ำตาลที่พึ่งมาส่งในสำนักงานเมื่อกลางวันให้ภคพลขณะที่ชายหนุ่มกำลังนั่งรอเขามารับกลับบ้านที่แคร่ไม้ไผ่หน้าไร่องุ่นยามเย็น
“ขอบคุณครับลุงสม”
ภคพลรีบเปิดซองจดหมายดูทันทีเมื่อเห็นว่ามาจากณดลชายหนุ่มเปิดอ่านข้อมูลในจดหมายได้เขาก็นั่งนิ่งเงียบครู่หนึ่งจนสมหมายเริ่มตกใจกับท่าทีแปลกไปของภคพล
“คุณพอล..มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ลุงสมไปส่งผมที่บ้านพิ้งค์หน่อยนะครับผมมีธุระจะคุยกับเธอ”
“ครับ”
สมหมายค่อนข้างสงสัยในพฤติกรรมของภคพลพอสมควรแต่ก็มีมารยาทพอที่จะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขา
ไม่นานนักรถกระบะคันเก่าก็มาจอดที่ปากทางเข้าบ้านของพราวพิ้งค์ภคพลกำซองจดหมายแน่นก่อนจะรีบลงจากรถ
“ลุงสมกลับได้เลยนะครับถ้าผมจะกลับเดี๋ยวให้พิ้งค์ไปส่ง”
“ครับ”
สมหมายขับรถออกไปได้ภคพลก็เดินดุ่มเข้ามาในบ้านของพราวพิ้งค์ทันที
“มีธุระอะไรถึงต้องมาที่นี่คะ”
พราวพิ้งค์สาวเท้าออกมาจากในครัวเมื่อได้ยินเสียงรถกระบะหน้าบ้านเมื่อออกมาก็ต้องตกใจเพราะเห็นว่าเป็นภคพลที่เดินหน้านิ่วคิ้วขมวดมายืนอยู่หน้าประตู
“ดีจ้า..”
เจ้าก้อนกลมเห็นคนคุ้นหน้าเดินเข้ามาในบ้านก็ยกมือป้อมสวัสดีทั้งทักทายด้วยเสียงเจื้อยแจ้วบวกรอยยิ้มหวานอย่างที่เคยทำกับทุกคน
ภคพลมองไปยังยัยหนูพลอยขวัญด้วยสายตาที่อ่อนโยนปนความหดหู่วันนี้เขาได้รู้แล้วว่าความจริงยัยหนูคือลูกของเขาหากวันนั้นไม่ทำตัวเป็นขโมยลักลอบตัดเส้นผมของเจ้าก้อนกลมไปส่งตรวจคงไม่รู้ว่าพราวพิ้งค์โกหกหน้าตายว่ายัยหนูเป็นลูกคนอื่น
สงสารลูกน้อยเหลือเกินที่ต้องมีชีวิตที่ขาดพ่อทั้งที่เขาสามารถทำหน้าที่นั้นได้แต่คนเป็นแม่ไม่เคยปริปากแม้จะให้เขารับรู้สักนิดยิ่งคิดก็ยิ่งเคืองใจพราวพิ้งค์ไม่เข้าใจในการกระทำของหญิงสาวแม้แต่น้อยตั้งแต่หนีเขามาและยังจะพรากลูกไปจากเขาอีก
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
พราวพิ้งค์เริ่มใจไม่ดีเมื่อเห็นภคพลมองจ้องไปยังยัยหนูพลอยขวัญที่นั่งเล่นตุ๊กตาไม่วาง
“มานี่”
ภคพลดึงร่างบางเดินมาคุยลับตาของยัยหนูพลอยขวัญเพราะเชื่อว่าเขาและหญิงสาวต้องมีปากเสียงกันแน่นอนจึงไม่อยากให้ลูกได้รับรู้
“มีอะไรกันแน่คะ”
พราวพิ้งค์เริ่มกลืนน้ำลายไม่ลงคอเมื่อเห็นท่าทีขึงขังของภคพล
“ผลดีเอ็นเอของยัยหนูกับผม...จะโกหกเพื่ออะไรพิ้งค์”
ภคพลดึงแผ่นผลตรวจดีเอ็นเอยื่นให้พราวพิ้งค์อยากจะรู้เหตุผลที่แท้จริงจากปากของเธอตอนนี้ว่าที่ปิดบังเขาเรื่องลูกทำไปเพื่ออะไร
“คือ...”
พราวพิ้งค์เริ่มพูดอะไรไม่ออกเบ้าตาร้อนผ่าวน้ำตาคลอเบ้าไม่คิดไม่ฝันว่าภคพลจะหาหลักฐานเรื่องลูกมามัดตัวเธอได้
มือหนายกบีบหัวไหล่มนของหญิงสาวเอาไว้แน่นรู้สึกไม่พอใจที่สาวเจ้าเอาแต่อึกอักไม่ยอมพูดความจริงออกมาเสียที
“คืออะไรพูดออกมา..โกหกผมว่ายัยหนูเป็นลูกคนอื่นทั้งที่ไม่เคยมีใคร..ผมถามลุงสมแล้วว่าคุณอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไร..แล้วคำตอบก็คือวันที่คุณหนีผมมาและหลังจากนั้นคุณก็อยู่ตัวคนเดียวจนคลอดลูก..หลอกผมทำไมฮะ”
สาวเจ้าตัวชาวาบไปทั้งตัวเมื่อคำโกหกของเธอถูกลบล้างด้วยความจริงจากปากของภคพล
“ฉันรู้ว่าคนอย่างคุณไม่ต้องการมีลูก..แล้วฉันก็เลือกที่จะมีเค้าเองคุณไม่ต้องมายุ่งกับเรา..เพราะเราดูแลกันเองได้”
“แต่ยัยหนูเป็นลูกผมเมื่อมีแกแล้วผมก็ต้องรับผิดชอบ”
“ไม่ค่ะ...ฉันไม่อยากให้ยัยหนูต้องมาเห็นพ่อตัวเองมีผู้หญิงอื่นไม่ซ้ำหน้า”
พราวพิ้งค์ไม่ยอมให้ลูกต้องมาเห็นพฤติกรรมมักมากของภคพลเหมือนกับที่เธอเคยเห็นแน่นอน
“ผมมีใครล่ะพิ้งค์..ตั้งแต่ไม่มีคุณผมก็ไม่เคยพาใครเข้าบ้านอีกเลย”
ชายหนุ่มเริ่มเสียงแข็งถลึงตามองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาไม่ชอบใจที่เธอนั้นดูจะดื้อดึงไม่ยอมให้เขารับผิดชอบลูกเอาแต่หาเหตุผลมาปฏิเสธท่าเดียว
“คิดว่าฉันจะเชื่อคนที่มักมากแบบคุณเหรอคะ..ฉันอยู่กับลูกสองคนก็มีความสุขดีถ้าไม่มาเจอคุณอีก”
“ถ้าคุณไม่ให้ผมรับผิดชอบลูกผมจะบอกให้ทุกคนรู้ว่าคุณเคยอยู่กับผมในฐานะอะไร..”
ภคพลเงียบไปครู่หนึ่งดูท่าพูดดีกับหญิงสาวจะไม่เป็นผลเขาจึงเริ่มพ่นคำขู่จี้จุดอ่อนของเธอจนพราวพิ้งค์เริ่มเงียบและได้แต่มองมายังเขาด้วยสายตาตระหนก
“แล้วก็คิดเอาว่าคนจะมองคุณแบบไหน...ไม่ใช่สิคนเค้าจะมองยัยหนูแบบไหน..ไม่วายจะพูดว่าเป็นลูกของคนขายตัว”
“คุณพอล”
เมื่อเห็นว่าพราวพิ้งค์เถียงอะไรไม่ออกภคพลจึงเริ่มยกยิ้มมุมปาก
“ต่อไปนี้ผมจะอยู่กับคุณที่นี่ช่วยคุณดูแลลูก..ไม่ว่าคุณจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจผมก็จะอยู่”
ว่าจบชายหนุ่มก็เดินดุ่มหนีพราวพิ้งค์ให้ยืนทำใจรับสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นเพียงคนเดียว
“ทำไมฟ้าต้องส่งคนไม่มีหัวใจอย่างคุณมาเจอฉันอีก”
พราวพิ้งค์นั่งฟุบลงกับพื้นบ่นพึมพำน้อยใจโชคชะตาเธอไม่เชื่อเลยว่าภคพลจะเปลี่ยนนิสัยเจ้าชู้ได้ไม่กี่วันก่อนยังมีผู้หญิงตามมาเกาะแกะถึงที่
หากเขามาอยู่ใกล้เธอเช่นนี้ไม่วายทำเธอลืมเขาไม่ได้เสียทีไหนจะต้องมาทุกข์ใจระวังว่าลูกจะเห็นพฤติกรรมไม่ดีของคนเป็นพ่ออีก
“ผมมันดูไม่ดีในสายตาของคุณขนาดนั้นเลยหรือไง”
คนที่นั่งสงบอารมณ์อยู่ที่แคร่ไม้หน้าบ้านนั่งกัดฟันจนขึ้นใบหน้าสันกรามไม่พอใจที่หญิงสาวไม่เชื่อในตัวของเขาว่าละเรื่องการพาผู้หญิงเข้าบ้านมานานแล้วหลังจากที่เสียเธอไป
ผู้หญิงทุกคนที่เขาจ่ายเงินให้ตอนนี้ก็เป็นเพราะต้องการให้เธออยู่ไกลหูไกลตาไม่มารำคาญใจหรือไม่ก็เหล่านางแบบที่เอาไว้ควงออกงานเพื่อหน้าตาทางสังคมไม่มีสัมพันธ์เพิ่มเติมจบงานก็แยกเท่านั้นไม่มีเรื่องบนเตียงเลยสักครั้งไม่ใช่เพราะใครแต่เป็นเพราะพราวพิ้งค์ที่หนีไปพร้อมหัวใจของเขาทำให้ตัวเขาเองไม่สามารถจะมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใครได้อีก
ภคพลไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาหลงรักคนที่จ้างเป็นคู่นอนอย่างพราวพิ้งค์จนมารู้หัวใจตัวเองในวันที่มันสายไปแล้ว..เขาทั้งรักทั้งโกรธหญิงสาวที่เห็นว่าเขาไม่มีประโยชน์แล้วก็ตีตนจากหนำซ้ำเธอก็ย่ำยีหัวใจของเขาอีกรอบโดยที่ไม่บอกเรื่องลูกไม่รู้ว่าในสายตาของเธอเขาไม่ดีพอที่จะเป็นสามีและพ่อของใครเลยหรืออย่างไรเธอถึงเอาแต่ผลักไสจนเขาต้องหาคำมาขู่เพื่อให้ได้อยู่กับเธอและลูก
“ปี๋..เจื้อ..”เจ้าก้อนสาวขาป้อมวิ่งออกมาหน้าบ้านเข้าไปในดงดอกไม้ที่ผู้เป็นแม่ปลูกเอาไว้เพื่อไล่จับผีเสื้อหลากสีเช่นที่เคยเล่นทุกวันมือป้อมน้อยไล่บีบขยำอย่างคันไม้คันมือแต่ก็ไม่เคยจับผีเสื้อได้สักตัว“ปี๋เจื้อ..”เด็กหญิงวิ่งเข้ามาหาคนตัวโตที่นั่งจ้องตัวเองอยู่ไม่วางก่อนจะดึงมือชายหนุ่มให้ไปจับผีเสื้อช่วยเพราะรู้ดีว่าหากวิ่งจับเองคงจะเหนื่อยกว่าจะจับได้ภคพลอยากจะรวบอุ้มเจ้าก้อนกลมมากอดหอมสักฟอดใหญ่ติดตรงที่เขายังไม่ได้อาบน้ำกลัวเหงื่อไคลหรือสิ่งสกปรกจากเสื้อผ้าของตนจะระคายเคืองผิวลูกน้อยจึงทำได้แค่เดินตามเท่านั้น“ปี๋เจื้อ..จับ”ดวงตากลมโตเงยจ้องมองหน้าคนตัวสูงชี้ไม้ชี้มือหมายจะให้ช่วยจับผีเสื้อที่ตัวเองไม่สามารถจับได้“ให้พ่อจับเหรอครับ...”ภคพลอมยิ้มอ่อนก่อนจะย่อตัวลงนั่งเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยนคุยกับเจ้าตัวกลมใกล้ๆเด็กหญิงถึงกับขมวดคิ้วจ้องมองชายหนุ่มด้วยท่าทีแปลกใจกับสรรพนามที่ชายหนุ่มแทนตัวเองว่าพ่อภคพลมองจ้องไปยังนัยน์ตาไร้เดียงสาของยัยหนูพลอยขวัญเขามีความรู้สึกหน่วงอยู่ในใจไม่น้อยด้วยคิดไปไกลว่าหากเขามาเจอพราวพิ้งค์ช้าไปกว่านี้ลูกของเขาจะมีชีวิตที่ขาดพ่อไปอีกนานเท่าไรทั้งยังนึกน้
“ถ้าเป็นเรื่องผมกับเธอ..ผมให้คำตอบคุณได้..”ด้วยความที่ไม่อยากให้พราวพิ้งค์อยู่ใกล้คีรินภคพลจึงรีบปรี่เข้ามาโอบไหล่มนของหญิงสาวต่อหน้าต่อตาพ่อเลี้ยงหนุ่มพราวพิ้งค์เองก็ถึงกับยืนนิ่งกลืนน้ำลายไม่ลงคอไม่รู้ว่าภคพลจะหาเรื่องอะไรคีรินอีก“ผมกับพิ้งค์เราเคยอยู่ด้วยกันตั้งแต่เธอยังเรียนปี2ที่เธอมาอยู่ที่นี่เพราะเรามีเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อยแต่ตอนนี้เราเข้าใจกันดีแล้ว...ดูหน้าพยานรักของผมกับเธอสิ”ภคพลว่าพรางชี้มือมายังเจ้าก้อนกลมที่ทาแป้งจนตัวขาวโพลนในบ้าน พราวพิ้งค์เองก็ได้แต่ยืนเงียบเห็นทีครั้งนี้คีรินคงจะตัดใจจากเธอได้เสียทีแม้นจะเป็นการดับฝันของพ่อเลี้ยงหนุ่มในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไรนักคีรินตัวชาวาบยืนนิ่งงันยิ่งพราวพิ้งค์ไม่มีคำปฏิเสธอะไรเขาก็ยิ่งเข้าใจในสถานะตัวเองว่าต่อไปควรจะปฏิบัติตัวกับเธอเช่นไรคิดสงสัยตั้งแต่เห็นพราวพิ้งค์เป็นห่วงภคพลในครั้งก่อนแล้วว่ามันแปลกจากวิสัยของเธอที่แท้ก็เคยคุ้นเคยกันมาก่อนนั่นเอง“ผม..เข้าใจแล้ว”น้ำเสียงของพ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยอย่างแผ่วเบาแทบจะมีแต่เสียงลมก่อนจะเดินคอตกกลับไปที่รถและขับออกไปจากหน้าบ้านหญิงสาวไปอย่างรวดเร็วคีรินกลับไปได้พราวพิ้งค์ก็
“ไม่..คุณก็รู้ดีว่าผมชอบบรรยากาศช่วงเช้าๆแค่ไหน”“อื้ออ..”ว่าจบก็บดเบียดตัวตนสอดใส่ไปในช่องทางรักของพราวพิ้งค์จนสาวเจ้าหลับตาปี๋ส่งเสียงท้วงในลำคอเพราะจุกที่อีกฝ่ายสอดใส่โดยที่ไม่ทันตั้งตัวและแล้วบทรักอันเร่าร้อนในเช้าอันแสนสดใสก็ได้เริ่มขึ้นสมใจภคพล อาหารเช้าของวันนี้พราวพิ้งค์เห็นทีจะได้ไปหาซื้อตลาดในหมู่บ้านเพราะคงจะเตรียมไม่ทันอาทิตย์ต่อมาวันเวลาที่ภคพลมาอยู่บ้านของพราวพิ้งค์อย่างเป็นทางการเป็นเวลาอาทิตย์กว่าจนตอนนี้ผู้คนต่างก็รับรู้กันหมดแล้วว่าภคพลและพราวพิ้งค์เป็นอะไรกันทั้งสองไม่ต้องเปล่าประกาศให้ใครรู้ด้วยตัวเองเพียงแค่มีแขกไปใครมาที่บ้านของพราวพิ้งค์ก็จะรู้เรื่องของทั้งสองและเอาไปพูดต่อกันเองส่วนคีรินก็หายหน้าหายตาไม่ได้เข้ามาที่ไร่เหมวัตอีกเลยหากมีธุระก็จะให้คนสนิทมาจัดการแทนโดยให้เหตุผลว่าตนไม่ว่างแต่ทุกคนก็ดูออกว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นท่าจะอยู่ในอาการอกหักตกเย็นพราวพิ้งค์ปั่นจักรยานพายัยหนูพลอยขวัญมาดูคนเป็นพ่อที่เดินตรวจงานในไร่หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตไปจนหมดเมื่อวันก่อน“เหลืองานอะไรที่ต้องให้คนงานมาทำคะ”พราวพิ้งค์ปั่นจักรยานเข้ามาจอดใกล้ๆร่างสูงที่กำลังเดินสำรวจร่อง
“เมื่อกี้ปลาหวานนางแบบที่ผมจ้างเธอควงไปงานวันเกิดหมอเหนือ..เห็นเธอขยันทำงานเพราะจะเอาเงินไปจ่ายค่าเทอมผมเลยเสนอให้เธอเองไม่มีเรื่องชู้สาวสาบานได้”ภคพลไม่ได้มีแก่ใจพิศวาสปลาหวานแม้แต่น้อยตอนที่จะหาคู่ควงก็ติดต่อผ่านโมเดลลิ่งไม่ได้จ้างด้วยตัวเองด้วยซ้ำ“บอกทำไมคะ”พราวพิ้งค์เริ่มมีน้ำเสียงและท่าทีอ่อนลงทั้งที่ในใจก็ยังรู้สึกเชื่อคำพูดภคพลไม่เต็มร้อย“บอกให้เมียรู้ไงจะได้ไม่ต้องเข้าใจผิดคิดว่าผมมักมากอีก...ผมไปอาบน้ำก่อนและจะช่วยดูแลยัยหนูคุณจะได้ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง”ว่าจบก็เดินอมยิ้มอ่อนออกจากครัวไปอาบน้ำสบายใจที่ได้พูดความจริงให้หญิงสาวได้ฟังดูจากท่าทีเธอแล้วก็น่าจะมีแก่ใจเชื่อคำพูดเขาอยู่บ้างท้องฟ้าเกือบจะมืดฟองจันทร์ช่วยคนเป็นแม่ที่ไร่เสร็จก็ปั่นจักรยานมาหาคีรินที่บ้านหลังใหญ่ท้ายไร่ของชายหนุ่มที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเจ้าตัวมากนักเพื่อมาดูอาการของคีรินเพราะเห็นเขาเอาแต่เก็บตัวเงียบมาหลายวันหลังจากที่ทุกคนรู้เรื่องของภคพลและพราวพิ้งค์“พี่คีอยู่หรือเปล่าคะพี่นิ่ม”เมื่อปั่นจักรยานแม่บ้านคันสีชมพูมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของคีรินได้ฟองจันทร์ก็เจอนารีแม่บ้านวัยสามสิบกว่าที่เข้ามาดูแ
“ได้...ผมดูคุณแทนก็ได้”“คุณพอล” ฟอดดร่างสูงลุกจากเก้าอี้ตวัดรวบอุ้มพราวพิ้งค์ขึ้นสาวเท้าสองสามก้าวไปวางเธอลงบนเตียงทาบทับร่างของเธอด้วยตัวของเขาก่อนจะกดหอมเข้าที่แก้มนวลฟอดใหญ่“ไม่กี่วันคุณพ่อจะมาที่นี่เพราะรู้เรื่องเราแล้ว..ท่านต้องการให้เราจดทะเบียนกันให้เร็วที่สุด”“คุณพอลแน่ใจเหรอคะว่าต้องการจะรับผิดชอบยัยหนูจริงๆ”ดวงตากลมโตหวานเหลือบจ้องมองเข้าไปนัยน์ตาสีฟ้าของชายหนุ่มเธอไม่เชื่อในตัวของภคพลสักเท่าไรว่าจะอยากรับผิดชอบภาระที่มีจริงๆกลัวว่าจะเห่อชั่วพักชั่วครู่เพราะอยากจะเอาชนะเธอมากกว่า“เคยเห็นผมพูดเล่นหรือไง...ถ้ายังไม่แน่ใจในตัวผม...ผมจะไม่พูดอะไรให้คุณเชื่ออีก.. ขอให้ใช้เวลาหลังจากนี้ดูการกระทำ..ขอแค่นั้น”พราวพิ้งค์เริ่มหลบสายตาอีกฝ่ายที่กำลังขอร้องเธอเสียงอ่อนในหัวสับสนไปหมดว่าจะเชื่อใจชายหนุ่มดีหรือไม่ดี ยังไม่ทันจะคิดตกริมฝีปากบางของเธอก็ถูกเขาครอบครองไม่ทันตั้งตัวและแล้วไม่นานนักคืนนี้ร่างบางก็ตกเป็นของคนเจ้าเล่ห์อีกคืนวันต่อมาวันนี้เป็นวันหยุดภคพลไม่ยอมอยู่เฉยเมื่อพราวพิ้งค์ทำอะไรเขาก็ตามติดเธอทุกที่และคอยช่วยเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่างโดยเฉพาะเวลาต้องทำอาหารให้ลูกรวมไป
จวบจนเข้าเวลาเย็นจากที่พราวพิ้งค์และภคพลอยากจะปิดเรื่องนี้กับฟองจันทร์ไว้ก่อนแต่ก็ปิดไม่มิดเพราะคนที่รู้จักต่างก็บอกกับฟองจันทร์ถึงเรื่องฟองเงินตอนนี้พราวพิ้งค์จึงต้องคอยช่วยปฐมพยาบาลฟองจันทร์เพราะหญิงสาวรู้ว่าแม่ตัวเองเสียแล้วก็ร้องห่มร้องให้เป็นลมเป็นแล้งไปหลายรอบส่วนของภคพลเองก็ต้องดูแลลูกเองเพราะพราวพิ้งค์ยังต้องจัดการอะไรอีกหลายอย่างเกี่ยวกับงานของฟองเงินไหนจะต้องดูแลสภาพจิตใจของฟองจันทร์อีก“จันทร์เป็นยังไงบ้างครับ”คีรินพุ่งพรวดเข้ามาในบ้านของพราวพิ้งค์หน้าตาตื่นขณะที่หญิงสาวและภคพลยืนเฝ้าฟองจันทร์ที่นอนเป็นลมอยู่บนโซฟาไม่ห่าง“ยังรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นค่ะนี่ก็เป็นลมรอบที่เท่าไรแล้วนับไม่ได้เลย..ตำรวจว่ายังไงบ้างคะเรื่องคดี”“ตีว่าเป็นอุบัติเหตุครับสอบปากคำคนที่ไร่ของเสี่ยจำรัสก็ไม่มีใครรู้ใครเห็นครับว่าเกิดอะไรขึ้นหนำซ้ำเสี่ยจำรัสยังตีสีหน้าโมโหที่ป้าเงินไปหาเห็ดในพื้นที่ของเขาโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาติจนเกิดเรื่องอีก”เรื่องสรุปคดีที่ออกมาจากปากคีรินทำภคพลเริ่มกัดฟันจนขึ้นสันกรามเขารู้ดีว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่และไม่คิดว่าคนที่เป็นถึงระดับพ่อเลี้ยงปกครองคนทั้งไร่อย่
“ไม่สนใจจะช่วยคนจะมาเป็นผู้พิทักษ์สันติราชทำไมวะ”ภคพลยังคงหัวเสียไม่หยุดแม้นจะนั่งรถออกมาจากโรงพักไกลแล้วก็เถอะ“ในองค์กรทุกองค์กรมันก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดีทั้งนั้น...อย่าใส่ใจกับคนประเภทนั้นให้มากนักเลยไม่นานใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้ชดใช้แบบนั้น”แดนไทยพยายามทำให้หลานของตนสงบลงแล้วมองความเป็นจริงใช่ว่าทุกที่จะมีแต่คนไม่ดีเสมอไปเขาเองก็พยายามนิ่งให้มากที่สุดเพราะตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าจะสั่งสอนคนที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างไร คนอย่างเขาไม่ชอบกระโตกกระตากรีบร้อนอะไรเพราะหากจะตีงูก็ต้องตีให้แน่ใจว่ามันตายจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาระแวงว่ามันจะแว้งกัดไร่บรรเจิด“สารวัตรโทรมาบอกว่าพ่อเลี้ยงคีรินกับหลานพ่อเลี้ยงแดนไทยมันไปอาละวาดที่ สน.จะให้รื้อคดีนังเงินขึ้นมาใหม่”เตโชหนุ่มใหญ่มาดเข้มลูกชายคนโตของจำรัสเดินดุ่มขึ้นบันไดบ้านทรงไทยเข้ามาหาคนเป็นพ่อในห้องทำงานด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียดหลังจากที่ได้รับข่าวจากอดิศรว่าแดนไทยคีรินและภคพลโร่ไปที่สถานีตำรวจเพื่อที่จะแจ้งว่าการตายของฟองเงินผิดปกติ“ทำไม..ในเมื่อคดีมันจบไปแล้ว..ร่างนังเงินก็เผาไปแล้ว”ชายแก่หัวล้านร่างท้วมละมือจากการตรวจเล่มบัญชีมองจ้องขมว
“มีอะไรพิ้งค์”ชายหนุ่มร่างสูงในชุดกางเกงยีนส์เปลือยเปล่าท่อนบนเพราะกำลังจะแต่งตัวกลับถูกหญิงสาวเรียกออกมาก่อนเมื่อมาถึงตัวของเธอภคพลก็รีบหยิบกระดาษจากในมือของพราวพิ้งค์มาอ่านรู้ได้ทันทีว่าคำขู่ในกระดาษเกิดขึ้นเพราะเหตุอันใด“มีอะไรที่ไม่ได้บอกฉันหรือเปล่าคะ..ทำไมมีคนมาขู่อะไรแบบนี้ล่ะ”พราวพิ้งค์เริ่มขมวดคิ้วเค้นภคพลด้วยสงสัยตั้งแต่ที่เห็นเขานอนไม่หลับแล้ว ภคพลเริ่มมองไปยังสีหน้าที่บึ้งตึงของหญิงสาวก่อนจะจูงเธอเข้ามาคุยกันในบ้าน“ผมจะเล่าทุกอย่างให้คุณฟังแต่ต้องเก็บเป็นความลับเข้าใจหรือเปล่า”“อะไรล่ะคะ”ทั้งสองหย่อนก้นนั่งที่โซฟาได้ภคพลก็ได้เริ่มกระซิบเสียงเบาด้วยกลัวว่าฟองจันทร์ที่พักผ่อนอยู่ในห้องจะได้ยินเขาเริ่มเล่าถึงความผิดปกติที่เขากับคีรินสงสัยในการตายของฟองเงินจนได้หลักฐานว่าฟองเงินนั้นตายอย่างผิดธรรมชาติและสันนิษฐานว่าคงเป็นคนในไร่ของเสี่ยจำรัส“ทำไมต้องมีเรื่องแบบนี้ด้วย..”พราวพิ้งค์นั่งฟังไปใจเสียไปว่าหดหู่กับการจากไปของฟองเงินแล้วยังต้องมารับรู้ว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุอีก“คุณกับฟองจันทร์และลูกอยู่ที่นี่ไม่ได้ผมจะหาที่ปลอดภัยให้พวกคุณอยู่..เรื่องนี้อย่าพึ่งให้ฟ