Share

ตอนที่21 แม่ใจร้าย

“เมื่อกี้ปลาหวานนางแบบที่ผมจ้างเธอควงไปงานวันเกิดหมอเหนือ..เห็นเธอขยันทำงานเพราะจะเอาเงินไปจ่ายค่าเทอมผมเลยเสนอให้เธอเองไม่มีเรื่องชู้สาวสาบานได้”

ภคพลไม่ได้มีแก่ใจพิศวาสปลาหวานแม้แต่น้อยตอนที่จะหาคู่ควงก็ติดต่อผ่านโมเดลลิ่งไม่ได้จ้างด้วยตัวเองด้วยซ้ำ

“บอกทำไมคะ”

พราวพิ้งค์เริ่มมีน้ำเสียงและท่าทีอ่อนลงทั้งที่ในใจก็ยังรู้สึกเชื่อคำพูดภคพลไม่เต็มร้อย

“บอกให้เมียรู้ไงจะได้ไม่ต้องเข้าใจผิดคิดว่าผมมักมากอีก...ผมไปอาบน้ำก่อนและจะช่วยดูแลยัยหนูคุณจะได้ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง”

ว่าจบก็เดินอมยิ้มอ่อนออกจากครัวไปอาบน้ำสบายใจที่ได้พูดความจริงให้หญิงสาวได้ฟังดูจากท่าทีเธอแล้วก็น่าจะมีแก่ใจเชื่อคำพูดเขาอยู่บ้าง

ท้องฟ้าเกือบจะมืดฟองจันทร์ช่วยคนเป็นแม่ที่ไร่เสร็จก็ปั่นจักรยานมาหาคีรินที่บ้านหลังใหญ่ท้ายไร่ของชายหนุ่มที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเจ้าตัวมากนักเพื่อมาดูอาการของคีรินเพราะเห็นเขาเอาแต่เก็บตัวเงียบมาหลายวันหลังจากที่ทุกคนรู้เรื่องของภคพลและพราวพิ้งค์

“พี่คีอยู่หรือเปล่าคะพี่นิ่ม”

เมื่อปั่นจักรยานแม่บ้านคันสีชมพูมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของคีรินได้ฟองจันทร์ก็เจอนารีแม่บ้านวัยสามสิบกว่าที่เข้ามาดูแลบ้านของคีรินแบบไปเช้าเย็นกลับจึงได้เอ่ยถามถึงเจ้าของบ้านกับนารี

“พ่อเลี้ยงอยู่หลังบ้านน่ะเตรียมตัวนั่งดื่มอีกแล้วเป็นแบบนี้ทุกวันเลยตั้งแต่รู้ว่าคุณพิ้งค์มีสามีเป็นตัวเป็นตนจันทร์ไปดูแกหน่อยก็ดี”

นารีเอ่ยด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวเห็นฟองจันทร์มาที่นี่ได้ก็เป็นการดีเพราะคิดว่าฟองจันทร์น่าจะห้ามพ่อเลี้ยงหนุ่มเรื่องที่เอาแต่ดื่มได้บ้าง

“ค่ะ”

ร่างบางรีบสาวเท้าไปที่ระเบียงหลังบ้านของคีรินทันทีเมื่อรู้ว่าเขากำลังจะนั่งดื่มเธอจะปล่อยให้คีรินไม่รักตัวเองแบบนี้อีกต่อไปไม่ได้

“พี่คีคะ...เลิกดื่มได้แล้วค่ะ”

ร่างบางเข้ามานั่งข้างๆพ่อเลี้ยงหนุ่มก่อนจะดึงขวดเครื่องดื่มในมือของเขาวางลง ดีที่เธอเข้ามาได้ทันเวลาเพราะดูออกว่าคีรินยังไม่ทันได้ดื่มไปมากเท่าไรนัก

“มีอะไรหรือเปล่าจันทร์ถึงมาหาพี่ถึงที่นี่”

“ก็มาดูคนอกหักไงคะ..กลัวว่าจะช้ำใจดื่มจนร่างกายทรุดโทรมไปซะก่อน...รักคนอื่นได้ต้องรักตัวเองด้วยนะคะ”

“หื่ม...พี่ไม่เป็นอะไรไปง่ายๆหรอกน่า”

คีรินยกมือหนายีหัวทุยของหญิงสาวเล่นเบาๆเขาพอจะยิ้มออกได้เมื่อฟองจันทร์เอ่ยกระเซ้าเย้าหยอกด้วยท่าทีทะเล้น

“ดื่มแต่ของพวกนี้..กินข้าวกินปลาบ้างหรือเปล่าคะ”

“พี่ไม่ค่อยหิว”

“มานี่เลยค่ะ...”

มือเรียวยื่นดึงข้อมือของพ่อเลี้ยงหนุ่มให้เดินตามเข้ามาในครัวด้วยต้องการจะทำอาหารให้เขาได้ทานอย่างน้อยการมารบกวนเขาเช่นนี้ฟองจันทร์ก็รู้ว่าพอจะทำให้คีรินลืมเรื่องเจ็บปวดและมีรอยยิ้มได้บ้าง

ฟองจันทร์เริ่มเข้าครัวโดยให้คีรินนั้นเป็นลูกมือทั้งสองอยู่ในครัวกันพักใหญ่ตอนนี้แกงคั่วไก่และต้มจืดมะระยัดไส้ก็ได้สำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง

“ฝีมือดีเหมือนกันนี่เรา”

ทั้งสองมานั่งร่วมโต๊ะทานข้าวเย็นกันได้กลิ่นอาหารที่ลอยเตะจมูกยั่วยวนคีรินมาพักใหญ่ก็ทำให้เขาอดใจที่จะตักมาชิมก่อนที่ข้าวจะวางลงจานไม่ได้

“เมนูนี้จันทร์ฝึกกับแม่ตัวต่อตัวเลยนะคะ”

สาวเจ้าที่ได้รับคำชมก็ฉีกยิ้มร่าขณะยื่นใช้ทัพพีตักข้าวใส่จาน

“วันหลังต้องเชิญแม่ครัวกิตติมศักดิ์มาบ่อยๆแล้ว”

“ยินดีค่ะ”

สองหนุ่มสาวนั่งทานอาหารกันพักใหญ่ทั้งพูดคุยสัพเพเหระกันไปเรื่อยจนมืดค่ำคีรินรู้สึกดีมากๆที่มีน้องสาวตัวน้อยอยู่ใกล้ๆแม้นจะไม่สามารถลืมความทุกข์ใจลึกได้แต่เขาก็ยังมีรอยยิ้มเสียงหัวเราะขึ้นมาบ้าง

เป็นเวลาสองสามชั่วโมงที่พ่อเลี้ยงหนุ่มและฟองจันทร์นั่งคุยกันเมื่อถึงเวลาที่หญิงสาวจะกลับคีรินเลยอาสาขับกระบะมาส่งเพราะไม่อยากให้หญิงสาวปั่นจักรยานลัดเลาะตามไร่กลับบ้านคนเดียวในเวลาฟ้ามืดเช่นนี้

“ทำไมบ้านมืดแม่ไม่อยู่เหรอจันทร์”

รถกระบะสี่ประตูสีดำขับมาถึงหน้าบ้านหลังเล็กของฟองจันทร์ได้ก็เริ่มขมวดคิ้วเช่นเดียวกับหญิงสาวเจ้าของบ้านเพราะเห็นว่าบ้านมืดสนิทเพียงหลังเดียวทั้งที่หลังอื่นๆที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลก็สว่าง

“เห็นแม่บอกจะไปหาเห็ดแปปเดียวทำไมยังไม่มาก็ไม่รู้ค่ะ”

ฟองจันทร์ส่ายหัวคราแรกคิดว่าแม่ของเธอจะไปเพียงชั่วครู่เท่านั้นเพราะตั้งแต่เธอกลับมาอยู่บ้านหลังเรียนจบแม่ของเธอก็ไม่เคยปล่อยให้อยู่บ้านเพียงคนเดียวหลังจากฟ้ามืดเลย

“เก็บเพลินไปหรือเปล่า...ไปแถวไหนล่ะ”

“ไม่รู้เหมือนกันค่ะแม่ไม่ได้บอกด้วย”

“ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนกว่าแม่เราจะกลับดีหรือเปล่า”

คีรินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ..จันทร์ว่าอีกเดี๋ยวแม่คงกลับจันทร์อยู่ได้ค่ะพี่คีกลับไปเถอะ”

“ตามใจ..ปิดบ้านให้มิดชิดล่ะ”

“ค่ะ”

คีรินลงจากรถแบกจักรยานของฟองจันทร์ในหลังกระบะลงมาไว้หน้าบ้านของเธอเขาอยู่ดูหญิงสาวเข้าบ้านจนเธอเปิดไฟล็อกบ้านมิดชิดจึงหันหัวรถกลับดีที่แถวนี้ยังมีบ้านคนอยู่ไม่ไกลกันเขาจึงหมดห่วงหญิงสาวได้คิดว่าไม่นานฟองเงินคงกลับเช่นที่หญิงสาวว่าด้วยห่วงลูกสาวที่อยู่บ้านคนเดียว

“จะดูจนรูปมันเปื่อยเลยหรือไงคะ”

หลังจากกล่อมเจ้าก้อนกลมนอนเรียบร้อยแล้วพราวพิ้งค์ในชุดนอนสีหวานก็เดินเข้ามาหาภคพลขณะที่เขานั่งดูรูปยัยหนูพลอยขวัญตั้งแต่แรกเกิดที่โต๊ะทำงานของเธอเป็นชั่วโมงแล้วก็ยังไม่หยุดดูเสียที

“ก็ผมอยากจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศตอนนั้นอยากรู้มันจะรู้สึกดีแค่ไหนถ้าได้อยู่ดูทุกช่วงเวลาเติบโตของยัยหนู...เป็นเพราะคุณ..แม่ใจร้ายที่ไม่ยอมบอกผมเรื่องลูก”

ดวงตาคมยังละสายตาจากเหล่าอัลบั้มรูปภาพในมือไม่ได้ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสนอกสนใจกับแค่รูปธรรมดาในชีวิตประจำวันของใครแต่กับรูปของลูกตัวเองกลับมองว่ามันพิเศษทุกรูปตื่นเต้นที่ได้เปิดดูหน้าต่อไปทุกครั้งแม้นจะวนมาเปิดใหม่แต่ก็ยังตื่นเต้นเช่นเดิม

“ทำไมพาลมาว่าฉันล่ะคะ...เอารูปมาเก็บเลยไม่ต้องดูแล้ว”

มือเรียวดึงอัลบั้มรูปจากมือของภคพลเก็บเจ้าลิ้นชัก

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status