“เมื่อกี้ปลาหวานนางแบบที่ผมจ้างเธอควงไปงานวันเกิดหมอเหนือ..เห็นเธอขยันทำงานเพราะจะเอาเงินไปจ่ายค่าเทอมผมเลยเสนอให้เธอเองไม่มีเรื่องชู้สาวสาบานได้”
ภคพลไม่ได้มีแก่ใจพิศวาสปลาหวานแม้แต่น้อยตอนที่จะหาคู่ควงก็ติดต่อผ่านโมเดลลิ่งไม่ได้จ้างด้วยตัวเองด้วยซ้ำ
“บอกทำไมคะ”
พราวพิ้งค์เริ่มมีน้ำเสียงและท่าทีอ่อนลงทั้งที่ในใจก็ยังรู้สึกเชื่อคำพูดภคพลไม่เต็มร้อย
“บอกให้เมียรู้ไงจะได้ไม่ต้องเข้าใจผิดคิดว่าผมมักมากอีก...ผมไปอาบน้ำก่อนและจะช่วยดูแลยัยหนูคุณจะได้ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง”
ว่าจบก็เดินอมยิ้มอ่อนออกจากครัวไปอาบน้ำสบายใจที่ได้พูดความจริงให้หญิงสาวได้ฟังดูจากท่าทีเธอแล้วก็น่าจะมีแก่ใจเชื่อคำพูดเขาอยู่บ้าง
ท้องฟ้าเกือบจะมืดฟองจันทร์ช่วยคนเป็นแม่ที่ไร่เสร็จก็ปั่นจักรยานมาหาคีรินที่บ้านหลังใหญ่ท้ายไร่ของชายหนุ่มที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเจ้าตัวมากนักเพื่อมาดูอาการของคีรินเพราะเห็นเขาเอาแต่เก็บตัวเงียบมาหลายวันหลังจากที่ทุกคนรู้เรื่องของภคพลและพราวพิ้งค์
“พี่คีอยู่หรือเปล่าคะพี่นิ่ม”
เมื่อปั่นจักรยานแม่บ้านคันสีชมพูมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของคีรินได้ฟองจันทร์ก็เจอนารีแม่บ้านวัยสามสิบกว่าที่เข้ามาดูแลบ้านของคีรินแบบไปเช้าเย็นกลับจึงได้เอ่ยถามถึงเจ้าของบ้านกับนารี
“พ่อเลี้ยงอยู่หลังบ้านน่ะเตรียมตัวนั่งดื่มอีกแล้วเป็นแบบนี้ทุกวันเลยตั้งแต่รู้ว่าคุณพิ้งค์มีสามีเป็นตัวเป็นตนจันทร์ไปดูแกหน่อยก็ดี”
นารีเอ่ยด้วยสีหน้าห่อเหี่ยวเห็นฟองจันทร์มาที่นี่ได้ก็เป็นการดีเพราะคิดว่าฟองจันทร์น่าจะห้ามพ่อเลี้ยงหนุ่มเรื่องที่เอาแต่ดื่มได้บ้าง
“ค่ะ”
ร่างบางรีบสาวเท้าไปที่ระเบียงหลังบ้านของคีรินทันทีเมื่อรู้ว่าเขากำลังจะนั่งดื่มเธอจะปล่อยให้คีรินไม่รักตัวเองแบบนี้อีกต่อไปไม่ได้
“พี่คีคะ...เลิกดื่มได้แล้วค่ะ”
ร่างบางเข้ามานั่งข้างๆพ่อเลี้ยงหนุ่มก่อนจะดึงขวดเครื่องดื่มในมือของเขาวางลง ดีที่เธอเข้ามาได้ทันเวลาเพราะดูออกว่าคีรินยังไม่ทันได้ดื่มไปมากเท่าไรนัก
“มีอะไรหรือเปล่าจันทร์ถึงมาหาพี่ถึงที่นี่”
“ก็มาดูคนอกหักไงคะ..กลัวว่าจะช้ำใจดื่มจนร่างกายทรุดโทรมไปซะก่อน...รักคนอื่นได้ต้องรักตัวเองด้วยนะคะ”
“หื่ม...พี่ไม่เป็นอะไรไปง่ายๆหรอกน่า”
คีรินยกมือหนายีหัวทุยของหญิงสาวเล่นเบาๆเขาพอจะยิ้มออกได้เมื่อฟองจันทร์เอ่ยกระเซ้าเย้าหยอกด้วยท่าทีทะเล้น
“ดื่มแต่ของพวกนี้..กินข้าวกินปลาบ้างหรือเปล่าคะ”
“พี่ไม่ค่อยหิว”
“มานี่เลยค่ะ...”
มือเรียวยื่นดึงข้อมือของพ่อเลี้ยงหนุ่มให้เดินตามเข้ามาในครัวด้วยต้องการจะทำอาหารให้เขาได้ทานอย่างน้อยการมารบกวนเขาเช่นนี้ฟองจันทร์ก็รู้ว่าพอจะทำให้คีรินลืมเรื่องเจ็บปวดและมีรอยยิ้มได้บ้าง
ฟองจันทร์เริ่มเข้าครัวโดยให้คีรินนั้นเป็นลูกมือทั้งสองอยู่ในครัวกันพักใหญ่ตอนนี้แกงคั่วไก่และต้มจืดมะระยัดไส้ก็ได้สำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง
“ฝีมือดีเหมือนกันนี่เรา”
ทั้งสองมานั่งร่วมโต๊ะทานข้าวเย็นกันได้กลิ่นอาหารที่ลอยเตะจมูกยั่วยวนคีรินมาพักใหญ่ก็ทำให้เขาอดใจที่จะตักมาชิมก่อนที่ข้าวจะวางลงจานไม่ได้
“เมนูนี้จันทร์ฝึกกับแม่ตัวต่อตัวเลยนะคะ”
สาวเจ้าที่ได้รับคำชมก็ฉีกยิ้มร่าขณะยื่นใช้ทัพพีตักข้าวใส่จาน
“วันหลังต้องเชิญแม่ครัวกิตติมศักดิ์มาบ่อยๆแล้ว”
“ยินดีค่ะ”
สองหนุ่มสาวนั่งทานอาหารกันพักใหญ่ทั้งพูดคุยสัพเพเหระกันไปเรื่อยจนมืดค่ำคีรินรู้สึกดีมากๆที่มีน้องสาวตัวน้อยอยู่ใกล้ๆแม้นจะไม่สามารถลืมความทุกข์ใจลึกได้แต่เขาก็ยังมีรอยยิ้มเสียงหัวเราะขึ้นมาบ้าง
เป็นเวลาสองสามชั่วโมงที่พ่อเลี้ยงหนุ่มและฟองจันทร์นั่งคุยกันเมื่อถึงเวลาที่หญิงสาวจะกลับคีรินเลยอาสาขับกระบะมาส่งเพราะไม่อยากให้หญิงสาวปั่นจักรยานลัดเลาะตามไร่กลับบ้านคนเดียวในเวลาฟ้ามืดเช่นนี้
“ทำไมบ้านมืดแม่ไม่อยู่เหรอจันทร์”
รถกระบะสี่ประตูสีดำขับมาถึงหน้าบ้านหลังเล็กของฟองจันทร์ได้ก็เริ่มขมวดคิ้วเช่นเดียวกับหญิงสาวเจ้าของบ้านเพราะเห็นว่าบ้านมืดสนิทเพียงหลังเดียวทั้งที่หลังอื่นๆที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลก็สว่าง
“เห็นแม่บอกจะไปหาเห็ดแปปเดียวทำไมยังไม่มาก็ไม่รู้ค่ะ”
ฟองจันทร์ส่ายหัวคราแรกคิดว่าแม่ของเธอจะไปเพียงชั่วครู่เท่านั้นเพราะตั้งแต่เธอกลับมาอยู่บ้านหลังเรียนจบแม่ของเธอก็ไม่เคยปล่อยให้อยู่บ้านเพียงคนเดียวหลังจากฟ้ามืดเลย
“เก็บเพลินไปหรือเปล่า...ไปแถวไหนล่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะแม่ไม่ได้บอกด้วย”
“ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนกว่าแม่เราจะกลับดีหรือเปล่า”
คีรินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ..จันทร์ว่าอีกเดี๋ยวแม่คงกลับจันทร์อยู่ได้ค่ะพี่คีกลับไปเถอะ”
“ตามใจ..ปิดบ้านให้มิดชิดล่ะ”
“ค่ะ”
คีรินลงจากรถแบกจักรยานของฟองจันทร์ในหลังกระบะลงมาไว้หน้าบ้านของเธอเขาอยู่ดูหญิงสาวเข้าบ้านจนเธอเปิดไฟล็อกบ้านมิดชิดจึงหันหัวรถกลับดีที่แถวนี้ยังมีบ้านคนอยู่ไม่ไกลกันเขาจึงหมดห่วงหญิงสาวได้คิดว่าไม่นานฟองเงินคงกลับเช่นที่หญิงสาวว่าด้วยห่วงลูกสาวที่อยู่บ้านคนเดียว
“จะดูจนรูปมันเปื่อยเลยหรือไงคะ”
หลังจากกล่อมเจ้าก้อนกลมนอนเรียบร้อยแล้วพราวพิ้งค์ในชุดนอนสีหวานก็เดินเข้ามาหาภคพลขณะที่เขานั่งดูรูปยัยหนูพลอยขวัญตั้งแต่แรกเกิดที่โต๊ะทำงานของเธอเป็นชั่วโมงแล้วก็ยังไม่หยุดดูเสียที
“ก็ผมอยากจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศตอนนั้นอยากรู้มันจะรู้สึกดีแค่ไหนถ้าได้อยู่ดูทุกช่วงเวลาเติบโตของยัยหนู...เป็นเพราะคุณ..แม่ใจร้ายที่ไม่ยอมบอกผมเรื่องลูก”
ดวงตาคมยังละสายตาจากเหล่าอัลบั้มรูปภาพในมือไม่ได้ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสนอกสนใจกับแค่รูปธรรมดาในชีวิตประจำวันของใครแต่กับรูปของลูกตัวเองกลับมองว่ามันพิเศษทุกรูปตื่นเต้นที่ได้เปิดดูหน้าต่อไปทุกครั้งแม้นจะวนมาเปิดใหม่แต่ก็ยังตื่นเต้นเช่นเดิม
“ทำไมพาลมาว่าฉันล่ะคะ...เอารูปมาเก็บเลยไม่ต้องดูแล้ว”
มือเรียวดึงอัลบั้มรูปจากมือของภคพลเก็บเจ้าลิ้นชัก
“ได้...ผมดูคุณแทนก็ได้”“คุณพอล” ฟอดดร่างสูงลุกจากเก้าอี้ตวัดรวบอุ้มพราวพิ้งค์ขึ้นสาวเท้าสองสามก้าวไปวางเธอลงบนเตียงทาบทับร่างของเธอด้วยตัวของเขาก่อนจะกดหอมเข้าที่แก้มนวลฟอดใหญ่“ไม่กี่วันคุณพ่อจะมาที่นี่เพราะรู้เรื่องเราแล้ว..ท่านต้องการให้เราจดทะเบียนกันให้เร็วที่สุด”“คุณพอลแน่ใจเหรอคะว่าต้องการจะรับผิดชอบยัยหนูจริงๆ”ดวงตากลมโตหวานเหลือบจ้องมองเข้าไปนัยน์ตาสีฟ้าของชายหนุ่มเธอไม่เชื่อในตัวของภคพลสักเท่าไรว่าจะอยากรับผิดชอบภาระที่มีจริงๆกลัวว่าจะเห่อชั่วพักชั่วครู่เพราะอยากจะเอาชนะเธอมากกว่า“เคยเห็นผมพูดเล่นหรือไง...ถ้ายังไม่แน่ใจในตัวผม...ผมจะไม่พูดอะไรให้คุณเชื่ออีก.. ขอให้ใช้เวลาหลังจากนี้ดูการกระทำ..ขอแค่นั้น”พราวพิ้งค์เริ่มหลบสายตาอีกฝ่ายที่กำลังขอร้องเธอเสียงอ่อนในหัวสับสนไปหมดว่าจะเชื่อใจชายหนุ่มดีหรือไม่ดี ยังไม่ทันจะคิดตกริมฝีปากบางของเธอก็ถูกเขาครอบครองไม่ทันตั้งตัวและแล้วไม่นานนักคืนนี้ร่างบางก็ตกเป็นของคนเจ้าเล่ห์อีกคืนวันต่อมาวันนี้เป็นวันหยุดภคพลไม่ยอมอยู่เฉยเมื่อพราวพิ้งค์ทำอะไรเขาก็ตามติดเธอทุกที่และคอยช่วยเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่างโดยเฉพาะเวลาต้องทำอาหารให้ลูกรวมไป
จวบจนเข้าเวลาเย็นจากที่พราวพิ้งค์และภคพลอยากจะปิดเรื่องนี้กับฟองจันทร์ไว้ก่อนแต่ก็ปิดไม่มิดเพราะคนที่รู้จักต่างก็บอกกับฟองจันทร์ถึงเรื่องฟองเงินตอนนี้พราวพิ้งค์จึงต้องคอยช่วยปฐมพยาบาลฟองจันทร์เพราะหญิงสาวรู้ว่าแม่ตัวเองเสียแล้วก็ร้องห่มร้องให้เป็นลมเป็นแล้งไปหลายรอบส่วนของภคพลเองก็ต้องดูแลลูกเองเพราะพราวพิ้งค์ยังต้องจัดการอะไรอีกหลายอย่างเกี่ยวกับงานของฟองเงินไหนจะต้องดูแลสภาพจิตใจของฟองจันทร์อีก“จันทร์เป็นยังไงบ้างครับ”คีรินพุ่งพรวดเข้ามาในบ้านของพราวพิ้งค์หน้าตาตื่นขณะที่หญิงสาวและภคพลยืนเฝ้าฟองจันทร์ที่นอนเป็นลมอยู่บนโซฟาไม่ห่าง“ยังรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นค่ะนี่ก็เป็นลมรอบที่เท่าไรแล้วนับไม่ได้เลย..ตำรวจว่ายังไงบ้างคะเรื่องคดี”“ตีว่าเป็นอุบัติเหตุครับสอบปากคำคนที่ไร่ของเสี่ยจำรัสก็ไม่มีใครรู้ใครเห็นครับว่าเกิดอะไรขึ้นหนำซ้ำเสี่ยจำรัสยังตีสีหน้าโมโหที่ป้าเงินไปหาเห็ดในพื้นที่ของเขาโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาติจนเกิดเรื่องอีก”เรื่องสรุปคดีที่ออกมาจากปากคีรินทำภคพลเริ่มกัดฟันจนขึ้นสันกรามเขารู้ดีว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่และไม่คิดว่าคนที่เป็นถึงระดับพ่อเลี้ยงปกครองคนทั้งไร่อย่
“ไม่สนใจจะช่วยคนจะมาเป็นผู้พิทักษ์สันติราชทำไมวะ”ภคพลยังคงหัวเสียไม่หยุดแม้นจะนั่งรถออกมาจากโรงพักไกลแล้วก็เถอะ“ในองค์กรทุกองค์กรมันก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดีทั้งนั้น...อย่าใส่ใจกับคนประเภทนั้นให้มากนักเลยไม่นานใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้ชดใช้แบบนั้น”แดนไทยพยายามทำให้หลานของตนสงบลงแล้วมองความเป็นจริงใช่ว่าทุกที่จะมีแต่คนไม่ดีเสมอไปเขาเองก็พยายามนิ่งให้มากที่สุดเพราะตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าจะสั่งสอนคนที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างไร คนอย่างเขาไม่ชอบกระโตกกระตากรีบร้อนอะไรเพราะหากจะตีงูก็ต้องตีให้แน่ใจว่ามันตายจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาระแวงว่ามันจะแว้งกัดไร่บรรเจิด“สารวัตรโทรมาบอกว่าพ่อเลี้ยงคีรินกับหลานพ่อเลี้ยงแดนไทยมันไปอาละวาดที่ สน.จะให้รื้อคดีนังเงินขึ้นมาใหม่”เตโชหนุ่มใหญ่มาดเข้มลูกชายคนโตของจำรัสเดินดุ่มขึ้นบันไดบ้านทรงไทยเข้ามาหาคนเป็นพ่อในห้องทำงานด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียดหลังจากที่ได้รับข่าวจากอดิศรว่าแดนไทยคีรินและภคพลโร่ไปที่สถานีตำรวจเพื่อที่จะแจ้งว่าการตายของฟองเงินผิดปกติ“ทำไม..ในเมื่อคดีมันจบไปแล้ว..ร่างนังเงินก็เผาไปแล้ว”ชายแก่หัวล้านร่างท้วมละมือจากการตรวจเล่มบัญชีมองจ้องขมว
“มีอะไรพิ้งค์”ชายหนุ่มร่างสูงในชุดกางเกงยีนส์เปลือยเปล่าท่อนบนเพราะกำลังจะแต่งตัวกลับถูกหญิงสาวเรียกออกมาก่อนเมื่อมาถึงตัวของเธอภคพลก็รีบหยิบกระดาษจากในมือของพราวพิ้งค์มาอ่านรู้ได้ทันทีว่าคำขู่ในกระดาษเกิดขึ้นเพราะเหตุอันใด“มีอะไรที่ไม่ได้บอกฉันหรือเปล่าคะ..ทำไมมีคนมาขู่อะไรแบบนี้ล่ะ”พราวพิ้งค์เริ่มขมวดคิ้วเค้นภคพลด้วยสงสัยตั้งแต่ที่เห็นเขานอนไม่หลับแล้ว ภคพลเริ่มมองไปยังสีหน้าที่บึ้งตึงของหญิงสาวก่อนจะจูงเธอเข้ามาคุยกันในบ้าน“ผมจะเล่าทุกอย่างให้คุณฟังแต่ต้องเก็บเป็นความลับเข้าใจหรือเปล่า”“อะไรล่ะคะ”ทั้งสองหย่อนก้นนั่งที่โซฟาได้ภคพลก็ได้เริ่มกระซิบเสียงเบาด้วยกลัวว่าฟองจันทร์ที่พักผ่อนอยู่ในห้องจะได้ยินเขาเริ่มเล่าถึงความผิดปกติที่เขากับคีรินสงสัยในการตายของฟองเงินจนได้หลักฐานว่าฟองเงินนั้นตายอย่างผิดธรรมชาติและสันนิษฐานว่าคงเป็นคนในไร่ของเสี่ยจำรัส“ทำไมต้องมีเรื่องแบบนี้ด้วย..”พราวพิ้งค์นั่งฟังไปใจเสียไปว่าหดหู่กับการจากไปของฟองเงินแล้วยังต้องมารับรู้ว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุอีก“คุณกับฟองจันทร์และลูกอยู่ที่นี่ไม่ได้ผมจะหาที่ปลอดภัยให้พวกคุณอยู่..เรื่องนี้อย่าพึ่งให้ฟ
คีรินให้พีรวัตรกู้ไฟล์เสร็จเขาก็ได้หลักฐานชิ้นเด็ดมาอยู่ในมือพ่อเลี้ยงหนุ่มรีบขับรถมาที่โรงพักแล้วก็ยื่นหลักฐานให้กับร้อยเวรทันทีไม่นานนักอดิศรก็รีบเข้ามาที่โรงพักอย่างเร่งด่วนเพื่อคุยกับคีรินเป็นการส่วนตัวคลิปที่คีรินได้เห็นค่อนข้างหดหู่พอสมควรเพราะฟองเงินได้แอบถ่ายคลิปขณะที่คนในไร่กำลังขนยากันแล้วฟองเงินก็ถูกกระชากโดยใครบางคนที่รู้ว่าเธอซุ่มดูอยู่ไม่ไกลหลังจากนั้นมือถือที่ถ่ายวิดีโอค้างอยู่ก็หล่นลงไปกับพื้นดีที่มือถือที่หล่นนั้นเก็บภาพขณะที่ฟองเงินถูกทำร้ายได้แทบจะชัดเจนคีรินจึงเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นการเรียกร้องความยุติธรรมให้คนที่ตายไปแล้วได้ดีที่สุด“หลักฐานมัดตัวแน่นขนาดนี้หวังว่าสารวัตรจะพาคนผิดมารับโทษได้นะครับ”คีรินนั่งจ้องอดิศรที่กำลังนั่งหน้าเสียเพราะดูคลิปที่ฟองเงินถูกชาติชายทำร้ายเขาเค้นสารวัตรหนุ่มใหญ่เสียงแข็งเพราะหากอดิศรเห็นคลิปขนาดนี้แล้วจะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่มีความเป็นคนเหลืออยู่แล้วอดิศรนั่งหน้าเสียด้วยเห็นทีครั้งนี้จะปัดความรับผิดชอบได้ยากและยังนึกไม่ออกว่าจะหาทางช่วยให้คนของเสี่ยจำรัสรอดพ้นคดีนี้ได้อย่างไรในเมื่อหลักฐานมัดแน่นขนาดนี้“ผมจะไปรวบตัวชาติชายเดี๋ยวนี้”
ชั่วโมงต่อมาโรงพยาบาลXXปลายฝันและพราวพิ้งค์พาฟองจันทร์มาถึงโรงพยาบาลไม่นานนักคีรินก็ตามมาดูอาการของฟองจันทร์ด้วยความเป็นห่วงหลังหมอสาวตรวจสภาพร่างกายและจิตใจของฟองจันทร์ได้พักใหญ่ก็รู้ว่าร่างกายของเธอหากได้อาหารเสริมนิดหน่อยก็คงจะดีขึ้นแต่สภาพจิตใจในตอนนี้นั้นย่ำแย่เอามากจนหมอเองก็ยังกังวล“จันทร์เป็นยังไงบ้างครับหมอ”คีรินรีบลุกพรวดนำหน้าสองสาวเข้ามาประชิดตัวคุณหมอสาวที่กำลังเดินออกมาจากห้องตรวจด้วยอยากจะฟังอาการของฟองจันทร์ใจจะขาด“สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่มากเลยค่ะตอนนี้เหมือนเธอจะไม่รับรู้อะไรแล้ว...หมอคงต้องให้คุณฟองจันทร์ดูอาการที่นี่ก่อนนะคะ”หมอสาวเอ่ยเสียงอ่อนผู้ป่วยเคสนี้เธอเห็นทีจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด“โถ่.. จันทร์..”ปลายฝันและพราวพิ้งค์ต่างจับมือกันแน่นสีหน้าของพวกเธอหดหู่จนดูบอกบุญไม่รับคีรินได้ยินเช่นนั้นเขาก็ถึงกับเข่าทรุดนั่งฟุบลงกับเก้าอี้กุมขมับหนึบเพราะห่วงอาการฟองจันทร์มากพอสมควร“จันทร์เป็นยังไงบ้างพิ้งค์”ภคพลรีบถามอาการของฟองจันทร์กับพราวพิ้งค์หลังจากที่หญิงสาวอยู่เป็นเพื่อนฟองจันทร์ที่โรงพยาบาลจนดึก“ไม่ดีเอาเลยค่ะหมอบอกว่าสภาพจิตใจจันทร์แย่มากตอนนี้ก็เอาแต่เหม่
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมเดือนตอนนี้อะไรๆก็เริ่มดีขึ้นทั้งความสัมพันธ์ของพราวพิ้งค์และภคพลที่แทบไม่เหลือความโกรธเคืองกันในอดีตและทางด้านฟองจันทร์เองเมื่อมีคีรินอยู่ดูแลด้วยตลอดสภาพจิตใจของเธอก็ดีขึ้นมากจนกลับมาร่าเริงเกือบร้อยเปอร์เซ็นแล้วตอนนี้ฟองจันทร์ทำงานเป็นแม่ครัวรวมถึงงานบ้านให้กับคีรินเพราะนารีลาออกไปอยู่กับสามีอีกจังหวัดฟองจันทร์อยู่เรือนเล็กหลังบ้านหลังใหญ่ของพ่อเลี้ยงหนุ่มและเมื่อว่างหญิงสาวก็ยังคอยแวะเวียนมาหายัยหนูพลอยขวัญอยู่บ่อยๆทางด้านคุณปู่หมาดๆอย่างภูริชละจากงานยุ่งๆได้ก็รีบซื้อข้าวซื้อของมาเอาใจหลานและทำความรู้จักกับลูกสะใภ้ ภูริชมาอยู่ที่บ้านของแดนไทยได้ร่วมอาทิตย์แล้วแถมปู่หลานยังเข้ากันได้ดีจนตัวติดกันเป็นแตงเมคนเป็นพ่อกับแม่จึงทำงานกันได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น“ผมเป็นคนดีพอที่คุณพ่อจะให้ผมกลับไปอยู่สุขสบายเหมือนเดิมได้หรือยังครับ”สองพ่อลูกเดินคุยกันอยู่ในสวนส้มยามเย็นหลังจากคนงานในไร่กลับกันไปหมดแล้ว“พ่อขอชมว่าแกเป็นคนมีน้ำใจแต่ยังไงก็ต้องอยู่ที่นี่ให้ครบครึ่งปี”ภูริชแสยะยิ้มมุมปากแม้นลูกชายจะมีความดีความชอบแต่อย่างไรบททดสอบก็ยังไม่จบลงง่ายๆ“อืม...ก็ได้ครับผมอยู
กว่าคีรินจะพาฟองจันทร์กลับจากโรงพยาบาลก็ฟ้ามืดหญิงสาวเย็บแผลที่น่องไปหลายเข็มและต้องฉีดยากันบาดทะยักเมื่อมาถึงบ้านพ่อเลี้ยงหนุ่มก็อุ้มคนตัวเล็กที่เจ็บมานั่งในห้องของเธอก่อนจะเริ่มบ่นหญิงสาวด้วยความเป็นห่วงอีกรอบ“หาเรื่องเจ็บตัวจนได้”“ก็จันทร์เห็นว่าของในนั้นมันไม่ค่อยเรียบร้อยก็เลยเข้าไปจัดค่ะ”ฟองจันทร์ยังคงก้มหน้าอธิบายเสียงอ่อนใครจะคิดว่าความหวังดีของเธอจะทำให้คีรินต้องมาเดือดร้อนดูแล“ทีหลังถ้าพี่ไม่ได้สั่งอะไรไม่ต้องทำรู้หรือเปล่า”พ่อเลี้ยงพนุ่มวาดสายตาไปยังผ้าพันแผลของหญิงสาวเขาก็ยิ่งหน้าเสียที่บ่นเธอไม่ใช่โมโหที่ต้องเสียเวลาพาเธอไปหาหมอที่พูดทั้งหมดเพียงแค่เป็นห่วงคำเดียวเท่านั้น“ค่ะ...จันทร์หยุดงานกี่วันพี่คีหักเงินได้เลยนะคะ”“พี่ไม่ทำแบบนั้นหรอก..ไปเดี๋ยวพี่อุ้มไปอาบน้ำ”ว่าจบก็สาวเท้าไปเปิดประตูห้องน้ำรอไว้พร้อมทั้งหาเก้าอี้มาให้เธอนั่งและเตรียมผ้าขนหนูให้เรียบร้อย“อะไรนะคะ”ฟองจันทร์นั่งมองตามหลังพ่อเลี้ยงหนุ่มทั้งอ้าปากค้างด้วยความตกใจตั้งแต่เข้ามัธยมต้นแม้แต่แม่เธอก็ยังไม่เคยมาเห็นเรืองร่างแล้วเธอจะทำใจให้คีรินอาบน้ำให้ได้อย่างไร“อุ้มไปส่งในห้องน้ำไม่งั้นจะเข้าไปยั