Share

ตอนที่25 มือถือของฟองเงิน

“มีอะไรพิ้งค์”

ชายหนุ่มร่างสูงในชุดกางเกงยีนส์เปลือยเปล่าท่อนบนเพราะกำลังจะแต่งตัวกลับถูกหญิงสาวเรียกออกมาก่อนเมื่อมาถึงตัวของเธอภคพลก็รีบหยิบกระดาษจากในมือของพราวพิ้งค์มาอ่านรู้ได้ทันทีว่าคำขู่ในกระดาษเกิดขึ้นเพราะเหตุอันใด

“มีอะไรที่ไม่ได้บอกฉันหรือเปล่าคะ..ทำไมมีคนมาขู่อะไรแบบนี้ล่ะ”

พราวพิ้งค์เริ่มขมวดคิ้วเค้นภคพลด้วยสงสัยตั้งแต่ที่เห็นเขานอนไม่หลับแล้ว ภคพลเริ่มมองไปยังสีหน้าที่บึ้งตึงของหญิงสาวก่อนจะจูงเธอเข้ามาคุยกันในบ้าน

“ผมจะเล่าทุกอย่างให้คุณฟังแต่ต้องเก็บเป็นความลับเข้าใจหรือเปล่า”

“อะไรล่ะคะ”

ทั้งสองหย่อนก้นนั่งที่โซฟาได้ภคพลก็ได้เริ่มกระซิบเสียงเบาด้วยกลัวว่าฟองจันทร์ที่พักผ่อนอยู่ในห้องจะได้ยินเขาเริ่มเล่าถึงความผิดปกติที่เขากับคีรินสงสัยในการตายของฟองเงินจนได้หลักฐานว่าฟองเงินนั้นตายอย่างผิดธรรมชาติและสันนิษฐานว่าคงเป็นคนในไร่ของเสี่ยจำรัส

“ทำไมต้องมีเรื่องแบบนี้ด้วย..”

พราวพิ้งค์นั่งฟังไปใจเสียไปว่าหดหู่กับการจากไปของฟองเงินแล้วยังต้องมารับรู้ว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุอีก

“คุณกับฟองจันทร์และลูกอยู่ที่นี่ไม่ได้ผมจะหาที่ปลอดภัยให้พวกคุณอยู่..เรื่องนี้อย่าพึ่งให้ฟองจันทร์รู้เด็ดขาด..ผมจะรีบไปเก็บซากนกนั่นทิ้งคุณก็ทำตัวให้ปกติล่ะ”

“ค่ะ”

หลัวจากร่างสูงออกไปหน้าบ้านได้พราวพิ้งค์ก็นั่งสูดลมหายใจเข้าลึกๆแม้นตอนนี้จะสะเทือนใจกับเรื่องที่รับรู้แต่เธอก็ต้องย้ำตัวเองว่าไม่ให้หลุดปากพูดเรื่องนี้ออกไปเพราะรู้ดีว่าหากฟองจันทร์รับรู้ความจริงอาการจะแย่กว่าเดิมแน่นอน

ไร่บรรเจิด

เพียะ

จำรัสง้างมือหนาฟาดหนักๆที่แก้มซ้ายของลูกชายคนโตจนหน้าหันโมโหที่เตโชนั้นทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง

“ยิ่งแกไปเล่นงานพวกมันแบบนั้นมันคงไม่โง่จนไม่รู้ว่าแกมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนังเงิน...ฉันเลี้ยงลูกให้ฉลาดน้อยตั้งแต่เมื่อไรกัน”

“ผมหมั่นมั่นไส้พวกมันนี่ครับ”

เตโชยังคงไม่สลดเพราะเขาคิดว่าคนที่ชอบสาระแนอย่างคีรินและภคพลต้องเจอดีเสียบ้าง

“หึ่ย..อยู่เฉยๆตามที่ฉันสั่ง..เข้าใจหรือเปล่าว่าฉันสั่ง”

จำรัสคว้าหมับที่หัวไหล่ทั้งสองของเตโชเขย่าด้วยท่าทีเดือดดาลทั้งตวาดเสียงฝาดที่ลูกชายหัวดื้อหัวรั้นไม่ค่อยจะยอมฟังคำสั่งของเขาง่ายๆ

“เข้าใจแล้วครับพ่อ”

คนที่ถูกเขย่ารีบรับปากเสียงหลงเมื่อเห็นคนเป็นพ่อโมโหหนักแม้นจะยังลงมือทำลายสองหนุ่มนั่นไม่สาแก่ใจแต่ตอนนี้เห็นทีจะต้องหยุดมือตามที่พ่อสั่งก่อนไม่เช่นนั้นเขาได้ตายคามือของพ่อเป็นแน่

“จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้”

ทางด้านล้อมเดือนที่นั่งอยู่ในห้องนอนเธอได้ยินทุกอย่างที่พ่อและพี่ชายคุยกันเสียงดังตอนนี้เห็นว่าเรื่องอยุติธรรมที่เกิดขึ้นชักจะเลวร้ายไปกันใหญ่จึงคิดแผนที่จะทำอะไรบางอย่างเพื่อความถูกต้อง

ช่วงเย็นภคพลพาลูกเมียและฟองจันทร์ขนของเข้ามาอยู่ที่บ้านของแดนไทยตอนนี้ปลายฝันก็รับรู้เรื่องร้ายที่เกิดแล้วแต่ทุกคนก็ยังเงียบไม่ยอมบอกฟองจันทร์และให้เหตุผลที่ต้องย้ายที่อยู่กะทันหันว่าพราวพิ้งค์ต้องการรีโนเวทบ้านใหม่ฟองจันทร์จึงไม่สงสัยอะไร

“จันทร์ล่ะ...”

ปลายฝันสาวท้องโตหันมาถามเพื่อนขณะที่เห็นพราวพิ้งค์เดินเข้ามาหาในครัวช่วงเย็น

“ฉันฝากให้ดูยัยหนูอยู่หน้าบ้าน..ปล่อยให้อยู่กันสองคนเผื่อจันทร์จะยิ้มได้บ้าง”

“อืม..ดีแล้วล่ะเธอกับทุกคนอยู่กันที่นี่ก่อนให้เรื่องจบแล้วค่อยกลับไปอยู่บ้านเหมือนเดิม”

“เฮ่อ..ก็คงต้องเป็นแบบนั้น..เรื่องที่อยู่ฉันไม่กังวลหรอก..ตอนนี้กลัวว่าสักวันจันทร์จะรู้เรื่องแล้วจะแย่”

“ถึงวันนั้นเราก็ต้องช่วยกันประคองจันทร์อีกที”

สองสาวถึงจะกังวลเรื่องคดีของฟองเงินแต่ก็ไม่เท่ากับห่วงใยความรู้สึกของฟองจันทร์เพราะขนาดพวกเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขนาดนี้ไม่รู้เลยว่าฟองจันทร์รู้ความจริงจะเสียใจแค่ไหนกัน

ตกดึกสองพ่อลูกนอนกลิ้งนอนงเกลือกกันอยู่บนเตียงพักใหญ่แล้วตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแต่ดูท่าเจ้าก้อนกลมยังห่วงเล่นไม่ยอมหลับยอมนอนจนภคพลเริ่มที่จะถอดใจในการกล่อมลูกแล้ว

“ยังไง..ตาแป๋วเลยเมื่อไรจะนอนครับ..”

ภคพลกดจูบไปที่หน้าผากยัยหนูพลอยขวัญทั้งหอมฟอดใหญ่

“แฮ่..”

เด็กหญิงที่คิดว่าคนเป็นพ่อกำลังเล่นด้วยก็ละปากจากการดูดขวดนมมายิ้มหวานและไม่มีท่าทีจะง่วงง่ายๆ

“นมหมดสองขวดแล้วยังจะมายิ้มหวานอีก..ฟัดซะดีไหม..”

“ฮ่า..ฮ่า..ๆๆ..อ๊ายย..คิกๆๆ”

พอเห็นว่ากล่อมเท่าไรเจ้าก้อนก็ไม่ยอมนอนภคพลจึงก้มใบหน้าคมฟัดไปที่พุงป่องๆทำเอายัยหนูพลอยขวัญหัวเราะเอิ้กอ้ากยกใหญ่ส่วนคนเป็นแม่อย่างพราวพิ้งค์ที่พึ่งเดินเข้าห้องมาหลังจากนั่งคุยกับปลายฝันข้างนอกก็ต้องส่ายหัวเพราะเห็นทีภคพลจะพาลูกเล่นมากกว่าจะพานอน

“เล่นแบบนี้เมื่อไรจะยอมหลับล่ะคะ”

“ก็กล่อมตั้งนานไม่หลับเสียทีต้องเล่นให้เหนื่อยน่าจะหลับได้”

“คุณพอลพักผ่อนเถอะค่ะฉันจะกล่อมเอง”

ร่างบางเข้ามานอนข้างๆลูกสาวก่อนจะโอบกอดเข้ามาในอ้อมอกของตัวเองหลังจากนั้นบรรยากาศในห้องก็อยู่ในความเงียบพักใหญ่ภคพลที่ยังไม่อยากจะนอนก็เดินออกไปที่ระเบียงหลังห้องเหม่อมองท้องฟ้าเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดที่มีมาทั้งวัน

ฟืดดด

หลังจากยืนชมบรรยากาศท้องฟ้ายามค่ำคืนได้พักใหญ่ภคพลก็ต้องหันหลังมามองตามเสียงของบานเลื่อนกระจกที่กำลังเปิดออกเป็นพราวพิ้งค์ที่เดินออกมาหาเขาเพียงคนเดียวทำให้เดาได้ว่าตอนนี้หญิงสาวคงจะกล่อมลูกหลับไปแล้ว

“ยัยหนูหลับแล้วค่ะ”

“พรุ่งนี้ผมว่าจะเข้าไปที่ไร่คุณคีรินแต่เช้า”

มือหนารวบหัวไหล่มนของคนตัวเล็กเข้ามาอิงแอบไว้แนบอก

“จะทำอะไรก็ระวังตัวด้วยนะคะ..พวกเสี่ยจำรัสมีอิทธิพลที่นี่มาก”

พราวพิ้งค์รู้สึกห่วงภคพลไม่น้อยแม้นจะรู้ว่าเขาเก่งแต่ที่นี่เป็นถิ่นของจำรัสคนของเสี่ยจำรัสมีแฝงอยู่ทุกพื้นที่จึงอยากให้ชายหนุ่มระวังตัวเอาไว้มากๆ

“ขอบคุณที่เป็นห่วงผม...ตอนนี้ผมอยากรู้ว่า..ผมเป็นพ่อและสามีที่ดีได้กี่เปอร์เซ็นแล้ว”

ชายหนุ่มก้มลงก่ายกระซิบข้างใบหน้านวลเสียงอ่อนอยากจะฟังคำตอบจากหญิงสาวให้จิตใจกระชุ่มกระชวยเสียหน่อย

“อืม..เอาไว้จบเรื่องฉันจะบอกค่ะ.. ไปนอนแล้วนะคะ”

พราวพิ้งค์ก้มหน้างุดเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องไม่คิดว่าเขาจะมาโพร่งถามเธอในเวลานี้

“ผมไปด้วย”

ร่างสูงใหญ่เดินอมยิ้มตามหลังคนตัวเล็กไปติดๆรับรู้ได้ว่าตัวเองทลายกำแพงในใจของพราวพิ้งค์ไปได้เกินครึ่งแน่นอน

แกร๊ก

ขณะที่คีรินนั่งอยู่ในห้องทำงานจนเวลาล่วงไปค่อนคืนจู่ๆหน้าต่างของเขาก็มีเสียงดังขึ้นจนเขาสะดุ้งเฮือกพ่อเลี้ยงหนุ่มรีบลุกขึ้นไปเปิดหน้าต่างอย่างรวดเร็วเพื่อดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นและแล้วแสงสลัวจากไฟที่ล้อมระเบียงก็สาดให้เขาได้เห็นว่ามีก้อนอะไรบางอย่างที่ห่อกระดาษหนาเอาไว้อยู่

คีรินรีบเอื้อมมือไปเก็บของที่ตกอยู่ตรงระเบียงขึ้นมาแล้วรีบปิดหน้าต่างทันทีก่อนจะเดินมานั่งแกะห่อกระดาษที่โต๊ะทำงาน

“หืม..”

ชายหนุ่มมองมือถือที่เป็นสมาร์ทโฟนที่ราคาไม่แพงนักเครื่องค่อนข้างเก่าและหน้าจอแตกเมื่อมองไปยังกระดาษที่ห่อก็มีข้อความว่ามือถือเครื่องนี้เป็นของฟองเงินและข้อมูลบางส่วนได้ถูกลบออกไป

คีรินไม่ทราบว่าใครที่หวังดีส่งมาให้แต่ก็ขอบใจลึกๆที่บุคคลคนนี้ยังเห็นแก่ความถูกต้องบ้างพ่อลี้ยงหนุ่มไม่รีรอที่จะปิดฟืนไฟในห้องทำงานและขับรถออกไปยังบ้านของคนรู้จักที่อยู่ในเมือง

รถกระบะสี่ประตูสีดำขับออกจากไร่เพียงกมลอย่างรวดเร็วใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมงกว่าๆก็ขับมาถึงทาวน์เฮ้าส์เก่าๆแห่งหนึ่งและหน้าบ้านตอนนี้ก็มีผู้ชายตัวอ้วนกลมสวมแว่นหนายืนหาวรอต้อนรับอยู่

“พี่คีมีอะไรครับมาหาผมดึกๆดื่นๆแบบนี้”

พีรวัตรเอ่ยทักทายพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยท่าทางงัวเงียชายหนุ่มเป็นลูกพี่ลูกน้องของคีรินที่เก่งเรื่องไอทีที่สุดและเป็นคนเดียวที่คีรินคิดว่าจะช่วยเชาได้ในเวลานี้

“นายพอจะกู้ไฟล์ที่ถูกลบไปได้หรือเปล่า”

“ด่วนขนาดนั้นเลยเหรอครับ”

“อืม..”

พีรวัตรเห็นท่าทีจริงจังของพี่ชายแล้วเห็นทีกว่าเขาจะได้นอนคงใกล้สว่าง

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status