“มีอะไรพิ้งค์”
ชายหนุ่มร่างสูงในชุดกางเกงยีนส์เปลือยเปล่าท่อนบนเพราะกำลังจะแต่งตัวกลับถูกหญิงสาวเรียกออกมาก่อนเมื่อมาถึงตัวของเธอภคพลก็รีบหยิบกระดาษจากในมือของพราวพิ้งค์มาอ่านรู้ได้ทันทีว่าคำขู่ในกระดาษเกิดขึ้นเพราะเหตุอันใด
“มีอะไรที่ไม่ได้บอกฉันหรือเปล่าคะ..ทำไมมีคนมาขู่อะไรแบบนี้ล่ะ”
พราวพิ้งค์เริ่มขมวดคิ้วเค้นภคพลด้วยสงสัยตั้งแต่ที่เห็นเขานอนไม่หลับแล้ว ภคพลเริ่มมองไปยังสีหน้าที่บึ้งตึงของหญิงสาวก่อนจะจูงเธอเข้ามาคุยกันในบ้าน
“ผมจะเล่าทุกอย่างให้คุณฟังแต่ต้องเก็บเป็นความลับเข้าใจหรือเปล่า”
“อะไรล่ะคะ”
ทั้งสองหย่อนก้นนั่งที่โซฟาได้ภคพลก็ได้เริ่มกระซิบเสียงเบาด้วยกลัวว่าฟองจันทร์ที่พักผ่อนอยู่ในห้องจะได้ยินเขาเริ่มเล่าถึงความผิดปกติที่เขากับคีรินสงสัยในการตายของฟองเงินจนได้หลักฐานว่าฟองเงินนั้นตายอย่างผิดธรรมชาติและสันนิษฐานว่าคงเป็นคนในไร่ของเสี่ยจำรัส
“ทำไมต้องมีเรื่องแบบนี้ด้วย..”
พราวพิ้งค์นั่งฟังไปใจเสียไปว่าหดหู่กับการจากไปของฟองเงินแล้วยังต้องมารับรู้ว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุอีก
“คุณกับฟองจันทร์และลูกอยู่ที่นี่ไม่ได้ผมจะหาที่ปลอดภัยให้พวกคุณอยู่..เรื่องนี้อย่าพึ่งให้ฟองจันทร์รู้เด็ดขาด..ผมจะรีบไปเก็บซากนกนั่นทิ้งคุณก็ทำตัวให้ปกติล่ะ”
“ค่ะ”
หลัวจากร่างสูงออกไปหน้าบ้านได้พราวพิ้งค์ก็นั่งสูดลมหายใจเข้าลึกๆแม้นตอนนี้จะสะเทือนใจกับเรื่องที่รับรู้แต่เธอก็ต้องย้ำตัวเองว่าไม่ให้หลุดปากพูดเรื่องนี้ออกไปเพราะรู้ดีว่าหากฟองจันทร์รับรู้ความจริงอาการจะแย่กว่าเดิมแน่นอน
ไร่บรรเจิด
เพียะ
จำรัสง้างมือหนาฟาดหนักๆที่แก้มซ้ายของลูกชายคนโตจนหน้าหันโมโหที่เตโชนั้นทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง
“ยิ่งแกไปเล่นงานพวกมันแบบนั้นมันคงไม่โง่จนไม่รู้ว่าแกมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนังเงิน...ฉันเลี้ยงลูกให้ฉลาดน้อยตั้งแต่เมื่อไรกัน”
“ผมหมั่นมั่นไส้พวกมันนี่ครับ”
เตโชยังคงไม่สลดเพราะเขาคิดว่าคนที่ชอบสาระแนอย่างคีรินและภคพลต้องเจอดีเสียบ้าง
“หึ่ย..อยู่เฉยๆตามที่ฉันสั่ง..เข้าใจหรือเปล่าว่าฉันสั่ง”
จำรัสคว้าหมับที่หัวไหล่ทั้งสองของเตโชเขย่าด้วยท่าทีเดือดดาลทั้งตวาดเสียงฝาดที่ลูกชายหัวดื้อหัวรั้นไม่ค่อยจะยอมฟังคำสั่งของเขาง่ายๆ
“เข้าใจแล้วครับพ่อ”
คนที่ถูกเขย่ารีบรับปากเสียงหลงเมื่อเห็นคนเป็นพ่อโมโหหนักแม้นจะยังลงมือทำลายสองหนุ่มนั่นไม่สาแก่ใจแต่ตอนนี้เห็นทีจะต้องหยุดมือตามที่พ่อสั่งก่อนไม่เช่นนั้นเขาได้ตายคามือของพ่อเป็นแน่
“จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้”
ทางด้านล้อมเดือนที่นั่งอยู่ในห้องนอนเธอได้ยินทุกอย่างที่พ่อและพี่ชายคุยกันเสียงดังตอนนี้เห็นว่าเรื่องอยุติธรรมที่เกิดขึ้นชักจะเลวร้ายไปกันใหญ่จึงคิดแผนที่จะทำอะไรบางอย่างเพื่อความถูกต้อง
ช่วงเย็นภคพลพาลูกเมียและฟองจันทร์ขนของเข้ามาอยู่ที่บ้านของแดนไทยตอนนี้ปลายฝันก็รับรู้เรื่องร้ายที่เกิดแล้วแต่ทุกคนก็ยังเงียบไม่ยอมบอกฟองจันทร์และให้เหตุผลที่ต้องย้ายที่อยู่กะทันหันว่าพราวพิ้งค์ต้องการรีโนเวทบ้านใหม่ฟองจันทร์จึงไม่สงสัยอะไร
“จันทร์ล่ะ...”
ปลายฝันสาวท้องโตหันมาถามเพื่อนขณะที่เห็นพราวพิ้งค์เดินเข้ามาหาในครัวช่วงเย็น
“ฉันฝากให้ดูยัยหนูอยู่หน้าบ้าน..ปล่อยให้อยู่กันสองคนเผื่อจันทร์จะยิ้มได้บ้าง”
“อืม..ดีแล้วล่ะเธอกับทุกคนอยู่กันที่นี่ก่อนให้เรื่องจบแล้วค่อยกลับไปอยู่บ้านเหมือนเดิม”
“เฮ่อ..ก็คงต้องเป็นแบบนั้น..เรื่องที่อยู่ฉันไม่กังวลหรอก..ตอนนี้กลัวว่าสักวันจันทร์จะรู้เรื่องแล้วจะแย่”
“ถึงวันนั้นเราก็ต้องช่วยกันประคองจันทร์อีกที”
สองสาวถึงจะกังวลเรื่องคดีของฟองเงินแต่ก็ไม่เท่ากับห่วงใยความรู้สึกของฟองจันทร์เพราะขนาดพวกเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขนาดนี้ไม่รู้เลยว่าฟองจันทร์รู้ความจริงจะเสียใจแค่ไหนกัน
ตกดึกสองพ่อลูกนอนกลิ้งนอนงเกลือกกันอยู่บนเตียงพักใหญ่แล้วตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแต่ดูท่าเจ้าก้อนกลมยังห่วงเล่นไม่ยอมหลับยอมนอนจนภคพลเริ่มที่จะถอดใจในการกล่อมลูกแล้ว
“ยังไง..ตาแป๋วเลยเมื่อไรจะนอนครับ..”
ภคพลกดจูบไปที่หน้าผากยัยหนูพลอยขวัญทั้งหอมฟอดใหญ่
“แฮ่..”
เด็กหญิงที่คิดว่าคนเป็นพ่อกำลังเล่นด้วยก็ละปากจากการดูดขวดนมมายิ้มหวานและไม่มีท่าทีจะง่วงง่ายๆ
“นมหมดสองขวดแล้วยังจะมายิ้มหวานอีก..ฟัดซะดีไหม..”
“ฮ่า..ฮ่า..ๆๆ..อ๊ายย..คิกๆๆ”
พอเห็นว่ากล่อมเท่าไรเจ้าก้อนก็ไม่ยอมนอนภคพลจึงก้มใบหน้าคมฟัดไปที่พุงป่องๆทำเอายัยหนูพลอยขวัญหัวเราะเอิ้กอ้ากยกใหญ่ส่วนคนเป็นแม่อย่างพราวพิ้งค์ที่พึ่งเดินเข้าห้องมาหลังจากนั่งคุยกับปลายฝันข้างนอกก็ต้องส่ายหัวเพราะเห็นทีภคพลจะพาลูกเล่นมากกว่าจะพานอน
“เล่นแบบนี้เมื่อไรจะยอมหลับล่ะคะ”
“ก็กล่อมตั้งนานไม่หลับเสียทีต้องเล่นให้เหนื่อยน่าจะหลับได้”
“คุณพอลพักผ่อนเถอะค่ะฉันจะกล่อมเอง”
ร่างบางเข้ามานอนข้างๆลูกสาวก่อนจะโอบกอดเข้ามาในอ้อมอกของตัวเองหลังจากนั้นบรรยากาศในห้องก็อยู่ในความเงียบพักใหญ่ภคพลที่ยังไม่อยากจะนอนก็เดินออกไปที่ระเบียงหลังห้องเหม่อมองท้องฟ้าเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดที่มีมาทั้งวัน
ฟืดดด
หลังจากยืนชมบรรยากาศท้องฟ้ายามค่ำคืนได้พักใหญ่ภคพลก็ต้องหันหลังมามองตามเสียงของบานเลื่อนกระจกที่กำลังเปิดออกเป็นพราวพิ้งค์ที่เดินออกมาหาเขาเพียงคนเดียวทำให้เดาได้ว่าตอนนี้หญิงสาวคงจะกล่อมลูกหลับไปแล้ว
“ยัยหนูหลับแล้วค่ะ”
“พรุ่งนี้ผมว่าจะเข้าไปที่ไร่คุณคีรินแต่เช้า”
มือหนารวบหัวไหล่มนของคนตัวเล็กเข้ามาอิงแอบไว้แนบอก
“จะทำอะไรก็ระวังตัวด้วยนะคะ..พวกเสี่ยจำรัสมีอิทธิพลที่นี่มาก”
พราวพิ้งค์รู้สึกห่วงภคพลไม่น้อยแม้นจะรู้ว่าเขาเก่งแต่ที่นี่เป็นถิ่นของจำรัสคนของเสี่ยจำรัสมีแฝงอยู่ทุกพื้นที่จึงอยากให้ชายหนุ่มระวังตัวเอาไว้มากๆ
“ขอบคุณที่เป็นห่วงผม...ตอนนี้ผมอยากรู้ว่า..ผมเป็นพ่อและสามีที่ดีได้กี่เปอร์เซ็นแล้ว”
ชายหนุ่มก้มลงก่ายกระซิบข้างใบหน้านวลเสียงอ่อนอยากจะฟังคำตอบจากหญิงสาวให้จิตใจกระชุ่มกระชวยเสียหน่อย
“อืม..เอาไว้จบเรื่องฉันจะบอกค่ะ.. ไปนอนแล้วนะคะ”
พราวพิ้งค์ก้มหน้างุดเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องไม่คิดว่าเขาจะมาโพร่งถามเธอในเวลานี้
“ผมไปด้วย”
ร่างสูงใหญ่เดินอมยิ้มตามหลังคนตัวเล็กไปติดๆรับรู้ได้ว่าตัวเองทลายกำแพงในใจของพราวพิ้งค์ไปได้เกินครึ่งแน่นอน
แกร๊ก
ขณะที่คีรินนั่งอยู่ในห้องทำงานจนเวลาล่วงไปค่อนคืนจู่ๆหน้าต่างของเขาก็มีเสียงดังขึ้นจนเขาสะดุ้งเฮือกพ่อเลี้ยงหนุ่มรีบลุกขึ้นไปเปิดหน้าต่างอย่างรวดเร็วเพื่อดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นและแล้วแสงสลัวจากไฟที่ล้อมระเบียงก็สาดให้เขาได้เห็นว่ามีก้อนอะไรบางอย่างที่ห่อกระดาษหนาเอาไว้อยู่
คีรินรีบเอื้อมมือไปเก็บของที่ตกอยู่ตรงระเบียงขึ้นมาแล้วรีบปิดหน้าต่างทันทีก่อนจะเดินมานั่งแกะห่อกระดาษที่โต๊ะทำงาน
“หืม..”
ชายหนุ่มมองมือถือที่เป็นสมาร์ทโฟนที่ราคาไม่แพงนักเครื่องค่อนข้างเก่าและหน้าจอแตกเมื่อมองไปยังกระดาษที่ห่อก็มีข้อความว่ามือถือเครื่องนี้เป็นของฟองเงินและข้อมูลบางส่วนได้ถูกลบออกไป
คีรินไม่ทราบว่าใครที่หวังดีส่งมาให้แต่ก็ขอบใจลึกๆที่บุคคลคนนี้ยังเห็นแก่ความถูกต้องบ้างพ่อลี้ยงหนุ่มไม่รีรอที่จะปิดฟืนไฟในห้องทำงานและขับรถออกไปยังบ้านของคนรู้จักที่อยู่ในเมือง
รถกระบะสี่ประตูสีดำขับออกจากไร่เพียงกมลอย่างรวดเร็วใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมงกว่าๆก็ขับมาถึงทาวน์เฮ้าส์เก่าๆแห่งหนึ่งและหน้าบ้านตอนนี้ก็มีผู้ชายตัวอ้วนกลมสวมแว่นหนายืนหาวรอต้อนรับอยู่
“พี่คีมีอะไรครับมาหาผมดึกๆดื่นๆแบบนี้”
พีรวัตรเอ่ยทักทายพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยท่าทางงัวเงียชายหนุ่มเป็นลูกพี่ลูกน้องของคีรินที่เก่งเรื่องไอทีที่สุดและเป็นคนเดียวที่คีรินคิดว่าจะช่วยเชาได้ในเวลานี้
“นายพอจะกู้ไฟล์ที่ถูกลบไปได้หรือเปล่า”
“ด่วนขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
“อืม..”
พีรวัตรเห็นท่าทีจริงจังของพี่ชายแล้วเห็นทีกว่าเขาจะได้นอนคงใกล้สว่าง
คีรินให้พีรวัตรกู้ไฟล์เสร็จเขาก็ได้หลักฐานชิ้นเด็ดมาอยู่ในมือพ่อเลี้ยงหนุ่มรีบขับรถมาที่โรงพักแล้วก็ยื่นหลักฐานให้กับร้อยเวรทันทีไม่นานนักอดิศรก็รีบเข้ามาที่โรงพักอย่างเร่งด่วนเพื่อคุยกับคีรินเป็นการส่วนตัวคลิปที่คีรินได้เห็นค่อนข้างหดหู่พอสมควรเพราะฟองเงินได้แอบถ่ายคลิปขณะที่คนในไร่กำลังขนยากันแล้วฟองเงินก็ถูกกระชากโดยใครบางคนที่รู้ว่าเธอซุ่มดูอยู่ไม่ไกลหลังจากนั้นมือถือที่ถ่ายวิดีโอค้างอยู่ก็หล่นลงไปกับพื้นดีที่มือถือที่หล่นนั้นเก็บภาพขณะที่ฟองเงินถูกทำร้ายได้แทบจะชัดเจนคีรินจึงเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นการเรียกร้องความยุติธรรมให้คนที่ตายไปแล้วได้ดีที่สุด“หลักฐานมัดตัวแน่นขนาดนี้หวังว่าสารวัตรจะพาคนผิดมารับโทษได้นะครับ”คีรินนั่งจ้องอดิศรที่กำลังนั่งหน้าเสียเพราะดูคลิปที่ฟองเงินถูกชาติชายทำร้ายเขาเค้นสารวัตรหนุ่มใหญ่เสียงแข็งเพราะหากอดิศรเห็นคลิปขนาดนี้แล้วจะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่มีความเป็นคนเหลืออยู่แล้วอดิศรนั่งหน้าเสียด้วยเห็นทีครั้งนี้จะปัดความรับผิดชอบได้ยากและยังนึกไม่ออกว่าจะหาทางช่วยให้คนของเสี่ยจำรัสรอดพ้นคดีนี้ได้อย่างไรในเมื่อหลักฐานมัดแน่นขนาดนี้“ผมจะไปรวบตัวชาติชายเดี๋ยวนี้”
ชั่วโมงต่อมาโรงพยาบาลXXปลายฝันและพราวพิ้งค์พาฟองจันทร์มาถึงโรงพยาบาลไม่นานนักคีรินก็ตามมาดูอาการของฟองจันทร์ด้วยความเป็นห่วงหลังหมอสาวตรวจสภาพร่างกายและจิตใจของฟองจันทร์ได้พักใหญ่ก็รู้ว่าร่างกายของเธอหากได้อาหารเสริมนิดหน่อยก็คงจะดีขึ้นแต่สภาพจิตใจในตอนนี้นั้นย่ำแย่เอามากจนหมอเองก็ยังกังวล“จันทร์เป็นยังไงบ้างครับหมอ”คีรินรีบลุกพรวดนำหน้าสองสาวเข้ามาประชิดตัวคุณหมอสาวที่กำลังเดินออกมาจากห้องตรวจด้วยอยากจะฟังอาการของฟองจันทร์ใจจะขาด“สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่มากเลยค่ะตอนนี้เหมือนเธอจะไม่รับรู้อะไรแล้ว...หมอคงต้องให้คุณฟองจันทร์ดูอาการที่นี่ก่อนนะคะ”หมอสาวเอ่ยเสียงอ่อนผู้ป่วยเคสนี้เธอเห็นทีจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด“โถ่.. จันทร์..”ปลายฝันและพราวพิ้งค์ต่างจับมือกันแน่นสีหน้าของพวกเธอหดหู่จนดูบอกบุญไม่รับคีรินได้ยินเช่นนั้นเขาก็ถึงกับเข่าทรุดนั่งฟุบลงกับเก้าอี้กุมขมับหนึบเพราะห่วงอาการฟองจันทร์มากพอสมควร“จันทร์เป็นยังไงบ้างพิ้งค์”ภคพลรีบถามอาการของฟองจันทร์กับพราวพิ้งค์หลังจากที่หญิงสาวอยู่เป็นเพื่อนฟองจันทร์ที่โรงพยาบาลจนดึก“ไม่ดีเอาเลยค่ะหมอบอกว่าสภาพจิตใจจันทร์แย่มากตอนนี้ก็เอาแต่เหม่
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมเดือนตอนนี้อะไรๆก็เริ่มดีขึ้นทั้งความสัมพันธ์ของพราวพิ้งค์และภคพลที่แทบไม่เหลือความโกรธเคืองกันในอดีตและทางด้านฟองจันทร์เองเมื่อมีคีรินอยู่ดูแลด้วยตลอดสภาพจิตใจของเธอก็ดีขึ้นมากจนกลับมาร่าเริงเกือบร้อยเปอร์เซ็นแล้วตอนนี้ฟองจันทร์ทำงานเป็นแม่ครัวรวมถึงงานบ้านให้กับคีรินเพราะนารีลาออกไปอยู่กับสามีอีกจังหวัดฟองจันทร์อยู่เรือนเล็กหลังบ้านหลังใหญ่ของพ่อเลี้ยงหนุ่มและเมื่อว่างหญิงสาวก็ยังคอยแวะเวียนมาหายัยหนูพลอยขวัญอยู่บ่อยๆทางด้านคุณปู่หมาดๆอย่างภูริชละจากงานยุ่งๆได้ก็รีบซื้อข้าวซื้อของมาเอาใจหลานและทำความรู้จักกับลูกสะใภ้ ภูริชมาอยู่ที่บ้านของแดนไทยได้ร่วมอาทิตย์แล้วแถมปู่หลานยังเข้ากันได้ดีจนตัวติดกันเป็นแตงเมคนเป็นพ่อกับแม่จึงทำงานกันได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น“ผมเป็นคนดีพอที่คุณพ่อจะให้ผมกลับไปอยู่สุขสบายเหมือนเดิมได้หรือยังครับ”สองพ่อลูกเดินคุยกันอยู่ในสวนส้มยามเย็นหลังจากคนงานในไร่กลับกันไปหมดแล้ว“พ่อขอชมว่าแกเป็นคนมีน้ำใจแต่ยังไงก็ต้องอยู่ที่นี่ให้ครบครึ่งปี”ภูริชแสยะยิ้มมุมปากแม้นลูกชายจะมีความดีความชอบแต่อย่างไรบททดสอบก็ยังไม่จบลงง่ายๆ“อืม...ก็ได้ครับผมอยู
กว่าคีรินจะพาฟองจันทร์กลับจากโรงพยาบาลก็ฟ้ามืดหญิงสาวเย็บแผลที่น่องไปหลายเข็มและต้องฉีดยากันบาดทะยักเมื่อมาถึงบ้านพ่อเลี้ยงหนุ่มก็อุ้มคนตัวเล็กที่เจ็บมานั่งในห้องของเธอก่อนจะเริ่มบ่นหญิงสาวด้วยความเป็นห่วงอีกรอบ“หาเรื่องเจ็บตัวจนได้”“ก็จันทร์เห็นว่าของในนั้นมันไม่ค่อยเรียบร้อยก็เลยเข้าไปจัดค่ะ”ฟองจันทร์ยังคงก้มหน้าอธิบายเสียงอ่อนใครจะคิดว่าความหวังดีของเธอจะทำให้คีรินต้องมาเดือดร้อนดูแล“ทีหลังถ้าพี่ไม่ได้สั่งอะไรไม่ต้องทำรู้หรือเปล่า”พ่อเลี้ยงพนุ่มวาดสายตาไปยังผ้าพันแผลของหญิงสาวเขาก็ยิ่งหน้าเสียที่บ่นเธอไม่ใช่โมโหที่ต้องเสียเวลาพาเธอไปหาหมอที่พูดทั้งหมดเพียงแค่เป็นห่วงคำเดียวเท่านั้น“ค่ะ...จันทร์หยุดงานกี่วันพี่คีหักเงินได้เลยนะคะ”“พี่ไม่ทำแบบนั้นหรอก..ไปเดี๋ยวพี่อุ้มไปอาบน้ำ”ว่าจบก็สาวเท้าไปเปิดประตูห้องน้ำรอไว้พร้อมทั้งหาเก้าอี้มาให้เธอนั่งและเตรียมผ้าขนหนูให้เรียบร้อย“อะไรนะคะ”ฟองจันทร์นั่งมองตามหลังพ่อเลี้ยงหนุ่มทั้งอ้าปากค้างด้วยความตกใจตั้งแต่เข้ามัธยมต้นแม้แต่แม่เธอก็ยังไม่เคยมาเห็นเรืองร่างแล้วเธอจะทำใจให้คีรินอาบน้ำให้ได้อย่างไร“อุ้มไปส่งในห้องน้ำไม่งั้นจะเข้าไปยั
วันต่อมาแอด..แอด..ๆๆๆ “หืม..”พราวพิ้งค์กำลังไกวเปลให้เจ้าก้อนกลมที่พึ่งจะหลับกลางวันเธอก็ต้องขมวดคิ้วเพราะได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซต์รุ่นเก่าขับเข้ามาที่หน้าบ้านจึงรีบเดินออกไปห้ามให้คนที่ขับเข้ามาอย่าเข้ามาใกล้ด้วยกลัวว่ายัยหนูพลอยขวัญจะตื่น“คุณพอล..”เมื่อออกมาจากบ้านได้พราวพิ้งค์ก็ยิ่งสงสัยหนักว่าภคพลขับรถมอเตอร์ไซต์คันเก่านี้อีกทำไมทั้งที่ตอนนั้นมันพาเขาล้มจนเจ็บหนัก“ขับมอเตอร์ไซต์อีกทำไมคะ..เดี๋ยวก็ล้มจนเจ็บตัวอีก”“ทุกเย็นผมให้ต้นกล้ากับเตชินสอนค่าครูคนละร้อยทุกวันเป็นอาทิตย์จนตอนนี้ผมขับจนแข็งแล้ว..ลุงสมจะได้ไม่ต้องคอยมารับมาส่ง”ชายหนุ่มเอ่ยหน้าระรื่นอย่างภาคภูมิใจคิดว่าไอ้การที่ขับมอเตอร์คันเก่าคันนี้แท้จริงแล้วมันก็ไม่ได้ยากสักเท่าไรนัก“แล้วกลับมาทำไมคะงานยังไม่เลิกไม่ใช่หรือไง”“คิดถึงคุณกับลูกอยากกลับมาทานข้าวที่บ้าน”ร่างสูงว่าพรางส่งสายตากะลิ้มกะเหลี่ยมายังพราวพิ้งค์จนเธอต้องส่ายหัวคิดในใจว่าหลังจากนี้เชื่อได้ว่าเขาจะต้องกลับมาทานข้าวกลางวันที่บ้านทุกวันแน่นอนเพราะขับมอเตอร์ไซต์เป็นแบบนี้แล้วโต๊ะอาหาร“ขาหมูพะโล้ค่ะ..ตุ๋นตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วเปื่อยกำลังดีเลยค่ะ”“คุณท
ดนัยหนุ่มวัยสามสิบห้าเขาเข้ามาทำงานในบริษัทของภูริชเพราะมีจุดหมายที่ต้องการก็คือเอาชีวิตนาดีลเพราะแค้นที่นาดีลนั้นหลอกน้องสาวของเขามีสัมพันธ์ด้วยจนเกิดท้องแล้วไม่รับผิดชอบแถมยังส่งคนมาพาน้องสาวของเขาไปทำแท้งและขาดการติดต่อไปจนน้องสาวของเขาคิดสั้นฆ่าตัวตายเหตุนี้เขาจึงคิดว่าชีวิตก็ควรจะแลกด้วยชีวิตที่ภูริชต้องร้อนรนขับรถออกมาเองจนเกิดอุบัติเหตุก็เป็นเพราะฝีมือของเขาเพียงแค่ทำให้รถมีปัญหานิดหน่อยแล้วก็โทรไปบอกความจริงว่านาดีลจะพาน้องสาวของเขาไปทำแท้งคนเป็นพ่ออย่างภูริชที่ไม่อยากให้ใครมารู้ความชั่วของลูกตัวเองจึงเลือกที่จะขับรถออกมาคนเดียวตามที่ดนัยได้วางแผนเอาไว้ก้องภพมารับพราวพิ้งค์กลับมาที่บ้านของภคพลในช่วงเย็นโดยยังไม่ได้บอกเรื่องที่ภคพลนั้นเกิดอุบัติเหตุเพราะกลัวว่าหญิงสาวนั้นจะตกใจ“คุณพิ้งค์พาคุณหนูพักผ่อนตามสบายเลยนะครับส่วนอาหารเย็นผมสั่งมาเรียบร้อยแล้วอยู่ที่โต๊ะอาหารในครัวครับ”“แล้วคุณพอลไปไหนคะ...เค้าจะกลับมาเมื่อไร”พราวพิ้งค์รีบชิงถามก้องภพขณะที่เขาจะหันหลังเดินออกไปจากบ้านหลังจากที่มาส่งเธอ“เอ่อ..คุณพอลติดประชุมด่วนครับคืนนี้น่าจะไม่ได้กลับนะครับคุณพิ้งค์”“ค่ะ”ก้องภพ
วันเวลาพ้นผ่านไปนานร่วมอาทิตย์ตอนนี้ภูริชก็ฟื้นตัวได้พอสมควรส่วนภคพลปลอดภัยแต่ยังไม่ฟื้นพราวพิ้งค์มาเฝ้าภคพลทุกวันไม่เคยห่างแทบจะกินนอนที่นี่ส่วนยัยหนูพลอยขวัญช่วงนี้ก็จะอยู่กับปลายฝันและแดนไทยทั้งสองอาสาช่วยเลี้ยงให้เองระหว่างที่พราวพิ้งค์ยังต้องเฝ้าภคพลภูริชฟื้นขึ้นมาได้แต่เขาก็ยังต้องรักษาตัวอีกนานเพราะกระดูกที่หักยังต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับมาเป็นปกติช่วงนี้บริษัทยิ่งวุ่นวายเรื่องการนำเข้ารถยนต์ลอตใหญ่ภูริชจึงวานให้โนแอลและนาดีลตัดสินใจกันว่าใครจะเข้าดูแลบริษัทแทนในช่วงนี้บทสรุปที่ได้คือโนแอลจะดูแลอยู่ที่นี่ทั้งบริษัทของคนเป็นพ่อและของภคพลส่วนกิจการส่วนตัวของเขาที่ฝรั่งเศสก็ฝากให้นาดีลดูแลพราวพิ้งค์ตื่นเช้าทุกวันเพื่อที่จะลุกขึ้นมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้กับภคพลเธอดูแลเขาอย่างดีทั้งภาวนาในใจทุกวันว่าให้เขานั้นฟื้นมาพูดคุยกับเธอเร็วๆ“คุณต้องหายไวๆนะคะจะได้มาฟังคำว่ารักจากปากของฉัน”หญิงสาวมองคนที่นอนเป็นผักหน้าละห้อยเธอเห็นภคพลอยู่ในสภาพนี้เป็นอาทิตย์แล้วจึงหดหู่หัวใจเป็นพิเศษ“พิ้งค์..เรื่องเธอกับคุณพอลยังไงกันแน่?”ปลายฝันที่เข้าห้องพักฟื้นของภคพลมาเงียบๆเธอก็แอบตกใจกับคำที่พราวพิ้
ก๊อกๆๆสายตาของสองหนุ่มมองไปยังประตูที่กำลังจะมีคนเข้ามาเมื่อภคพลเห็นว่าเป็นใครเขาก็มีสีหน้าไม่สบอารมณ์ในทันที“คุณพอลคะ”พราวพิ้งค์สาวเท้าเข้ามานั่งข้างเตียงของภคพลด้วยใบหน้าระรื่นมือเรียวรีบกอบกุมมือของชายหนุ่มเอาไว้แน่นด้วยความดีใจที่เห็นเขานั้นฟื้นขึ้นมาได้เสียที“กลับมาทำไม”ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะถามไถ่อาการของภคพลกับณดลคำถามน้ำเสียงเสียงห้วนของคนเจ็บก็ทำให้พราวพิ้งค์หน้าเสียกะทันหันไม่รู้ว่าเขาจะแกล้งอะไรเธอถึงได้ทักทายกันเช่นนี้“ผมขอคุยกับคุณพิ้งค์หน่อยครับ”ณดลรีบเรียกพราวพิ้งค์ออกมาคุยกันข้างนอกเพราะมีเรื่องที่หญิงสาวจะต้องรับรู้ถึงอาการที่ไม่ค่อยจะดีนักของภคพล“พอลความทรงจำหายไป...ที่จำได้ก็น่าจะสามปีที่แล้วครับ”“สามปีที่แล้วเหรอคะ?”พราวพิ้งค์เสียงสั่นมือไม้อ่อนเท่ากับว่าภคพลคนที่เจ็บอยู่ตอนนี้ยังเป็นคนเดิมคนที่เอาแต่ใจโผงผางเจ้าชู้และข้อสำคัญคือเขายังคงมองเธอเป็นแค่คู่นอนที่ไม่ต้องการให้มีอะไรผูกมัดฟึ่บบ“คุณพิ้งค์”ณดลรีบประคองพราวพิ้งค์เมื่อร่างบางฟุบกองลงกับพื้นดั่งคนไร้เรี่ยวแรงอาการข้างเคียงหลังการบาดเจ็บของภคพลนี่คือสิ่งที่พราวพิ้งค์ไม่อยากให้เกิดที่สุดหลังจากที่ไ