Share

ตอนที่24 ขู่

“ไม่สนใจจะช่วยคนจะมาเป็นผู้พิทักษ์สันติราชทำไมวะ”

ภคพลยังคงหัวเสียไม่หยุดแม้นจะนั่งรถออกมาจากโรงพักไกลแล้วก็เถอะ

“ในองค์กรทุกองค์กรมันก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดีทั้งนั้น...อย่าใส่ใจกับคนประเภทนั้นให้มากนักเลยไม่นานใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้ชดใช้แบบนั้น”

แดนไทยพยายามทำให้หลานของตนสงบลงแล้วมองความเป็นจริงใช่ว่าทุกที่จะมีแต่คนไม่ดีเสมอไปเขาเองก็พยายามนิ่งให้มากที่สุดเพราะตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าจะสั่งสอนคนที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างไร คนอย่างเขาไม่ชอบกระโตกกระตากรีบร้อนอะไรเพราะหากจะตีงูก็ต้องตีให้แน่ใจว่ามันตายจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาระแวงว่ามันจะแว้งกัด

ไร่บรรเจิด

“สารวัตรโทรมาบอกว่าพ่อเลี้ยงคีรินกับหลานพ่อเลี้ยงแดนไทยมันไปอาละวาดที่​ สน.​จะให้รื้อคดีนังเงินขึ้นมาใหม่”

เตโชหนุ่มใหญ่มาดเข้มลูกชายคนโตของจำรัสเดินดุ่มขึ้นบันไดบ้านทรงไทยเข้ามาหาคนเป็นพ่อในห้องทำงานด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียดหลังจากที่ได้รับข่าวจากอดิศรว่าแดนไทยคีรินและภคพลโร่ไปที่สถานีตำรวจเพื่อที่จะแจ้งว่าการตายของฟองเงินผิดปกติ

“ทำไม..ในเมื่อคดีมันจบไปแล้ว..ร่างนังเงินก็เผาไปแล้ว”

ชายแก่หัวล้านร่างท้วมละมือจากการตรวจเล่มบัญชีมองจ้องขมวดคิ้วไปยังลูกชายที่กำลังหย่อนก้นลงนั่งที่เก้าอี้ตรงหน้า

“มันไม่ได้เผาจริงไอ้พอลกับคีรินมันร่วมมือกันมันเก็บร่างนังเงินเอาไว้ให้หมอไปผ่าพิสูจน์ใหม่แล้วผลออกมาคือแผลไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุแต่ถูกของแข็งฟาด”

“เราก็อยู่เฉยๆยังไงมันก็สาวไม่ถึงเราอยู่แล้วมันอยากดิ้นยังไงก็ดิ้นไป..มือถือนังเงินก็อยู่กับเราคลิปก็ลบไปแล้วจะเอาผิดอะไรได้วะ”

จำรัสเห็นว่าลูกชายตนกระโตกกระตากเกินเหตุแม้นคนพวกนั้นจะสืบได้ว่าฟองเงินตายผิดธรรมชาติแต่ก็สาวไม่ถึงตัวของเขาอยู่ดีเพราะเขาไม่ได้ลงมือทำและอีกอย่างสารวัตรอดิศรและคนในโรงพักก็เป็นสมุนที่เขาเลี้ยงเอาไว้อยู่แล้วเรื่องนี้จำรัสจึงตัดกังวลไปได้

“แต่ผมก็หมั่นไส้พวกมันอยู่ดีสะเหร่อไม่เข้าเรื่อง”

“ขอเตือนให้แกอยู่เฉยๆเตโช”

จำรัสต้องเอ่ยเตือนลูกชายจอมใจร้อนไม่ยอมคนอย่างเตโชเพราะหากลูกชายของเขาร้อนรนทำร้ายใครสักคนหนึ่งในสามเท่ากับเผยไต๋ว่าการตายของฟองเงินต้องเกี่ยวข้องกับคนในไร่บรรเจิดอย่างแน่นอน

“พ่อ..”

ล้อมเดือนลูกสาวคนเล็กของจำรัสหญิงสาวเดินยกถาดขนมที่พึ่งอบเสร็จหมายจะเอามาให้คนเป็นพ่อได้ทานแต่เมื่อได้ยินเรื่องไม่ดีที่พ่อและพี่ชายพูดคุยกันเธอจึงต้องรียกลับมาในห้องของตัวเองเพื่อที่จะตั้งสติรู้ว่าพ่อและพี่ชายทำอะไรผิดๆหลายครั้งแต่ครั้งนี้ไม่คิดว่าจะถึงขั้นข้องเกี่ยวกับการฆาตกรรมได้

ล้อมเดือนหญิงสาวอายุ22ปีเธอเป็นลูกเมียน้อยที่จำรัสไม่ได้ตั้งใจให้เกิดมาเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเรียบร้อยอยู่ในกรอบที่พ่อและพี่ชายตั้งเอาไว้พอสมควรแต่หากเจอเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเธอก็เป็นคนที่ยอมไม่ค่อยได้จนเป็นที่รักของคนในไร่และขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ใจดีที่สุดในบ้านหลังนี้

ล้อมเดือนเป็นหญิงสาวหน้าตาน่ารักน่าชังตาโตปากนิดจมูกหน่อยผิวขาวหุ่นนาฬิกาทรายผมดกดำยาวถึงกลางหลังตั้งแต่จำความได้ก็ไม่เคยเห็นแม่ด้วยรู้ว่าแม่ใหญ่แม่ของเตโชรับเลี้ยงเธอให้สุขสบายได้แต่ต้องแลกกับการที่แม่ของเธอต้องจากไป

ตลอดเวลาที่โตมาเธอรู้ว่าพ่อไม่เคยสนใจเท่าไรคนที่อยู่ดูแลตลอดคือศรีนวลแม่บ้านที่เลี้ยงเธอมาจนโตและตอนนี้ก็ยังคอยดูแลเธอตลอดแม้นจะเรียนจบแล้วก็เถอะ หญิงสาวทำงานเป็นบัญชีช่วยคนเป็นพ่อที่ไร่รู้ตลอดว่าเงินที่พ่อได้มามากมายนั้นไม่ใช่จากไร่อย่างเดียวแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะนึกถึงบุญคุณที่เขานั้นอุตส่าห์ชุบเลี้ยงเธอมาไม่ให้ลำบาก

ฟองจันทร์ปั่นจักรยานออกจากบ้านของพราวพิ้งค์เมื่อช่วงบ่ายขณะที่ทุกคนไปอยู่ที่ไร่เธอกลับมาทำความสะอาดที่บ้านของตัวเองพอเข้ามาถึงห้องหับของคนเป็นแม่ก็นั่งฟุบลงกับพื้นมือไม้อ่อนนั่งร้องห่มร้องให้คิดถึงคนเป็นแม่ใจจะขาด

“แม่จ๋า...แล้วหนูจะอยู่กับใคร..ฮือๆๆ”

“พี่ว่าแล้วว่าเราจะต้องอยู่ที่นี่..บอกคุณพิ้งค์ก่อนจะมาหรือเปล่า”

คีรินไปหาฟองจันทร์ที่บ้านของพราวพิ้งค์ไม่เจอเขาจึงขับรถมาที่นี่เมื่อเห็นจักรยานของฟองจันทร์อยู่หน้าบ้านจึงถือวิสาสะเข้ามาแล้วเขาก็คิดถูกว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่

“เปล่าค่ะ...จันทร์ว่าจะมาแค่แปปเดียว”

สาวเจ้าปาดน้ำตาลวกๆลุกยืนมองคีรินที่ยืนพิงอยู่หน้าประตู

“ต่อไปนี้พี่จะดูแลจันทร์เอง..เรื่องงานถ้ายังหาไม่ได้ก็มาทำที่ไร่พี่..จันทร์ก็เหมือนน้องสาวพี่คนนึงยังไงจันทร์ก็อย่าลืมว่ามีพี่ชายคนนี้คอยอยู่ข้างๆอย่าคิดว่าตัวเองเหลือตัวคนเดียวรู้หรือเปล่า”

คีรินเดินเข้าไปโอบร่างบางเอาไว้แนบอกนึกสงสารหญิงสาวจับใจเพราะรู้ดีว่าเธอเหลือแม่เพียงคนเดียวเขาเองก็ไม่คิดว่าฟองเงินจะจากไปเร็วขนาดนี้เช่นกัน

พราวพิ้งค์เดินออกมาจากห้องนอนช่วงกลางดึกเพราะตื่นมาไม่เห็นภคพลร่างบางในชุดนอนสีครีมเดินออกมาเห็นชายหนุ่มยืนกอดอกพิงริมหน้าต่างเธอก็เริ่มมีท่าทีสงสัยว่าภคพลนั้นกำลังเครียดเรื่องอะไรอยู่เพราะเห็นว่าเขาดูครุ่นคิดตลอดเวลาหลังจากที่กลับจากทำธุระที่ตลาดกับแดนไทยแล้ว

“มีอะไรหรือเปล่าคะเห็นทำหน้าเครียดตั้งแต่กลับจากทำธุระแล้ว”

ร่างสูงหลุดจากภวังค์ได้เขาก็รีบหันมามองตามเสียงเรียกของพราวพิ้งค์

“ไม่มีอะไรหรอกผมแค่อยากดูแลไร่ให้ดีกว่าเดิม”

“อืม..ทุกวันนี้ฉันว่าคุณก็เรียนรู้แทบทุกอย่างแล้วนะคะอย่าคิดมากเลยค่ะ”

ภคพลรวบกอดพราวพิ้งค์เอาไว้หลวมๆริมฝีปากหนาอมยิ้มอ่อนดีใจที่หญิงสาวนั้นให้กำลังใจเขาแม้นจะไม่ได้ตรงกับเรื่องที่เขากังวลจริงๆก็เถอะแต่ก็ทำให้รู้สึกดีไม่น้อยเมื่อได้รู้ว่ายังไงเธอก็อยู่ข้างเขาเสมอ

หญิงสาวเชื่อว่าภคพลยังต้องมีเรื่องกังวลใจอะไรที่ปิดบังอยู่แน่นอนเพราะเรื่องในไร่คงไม่น่าจะทำให้ชายหนุ่มดูเครียดจนนอนไม่หลับเช่นนี้เธอยังไม่ขอถามอะไรออกแต่หากวันอื่นเขายังมีอาการเช่นนี้อยู่เธอคงต้องเค้นความจริงอีกรอบ

ในเช้ามืดวันต่อมาในไร่เพียงกมลเกิดเหตุโกลาหลขึ้นเพราะไร่ข้าวโพดเกือบสามสิบไร่ถูกไฟไหม้ไปหมดดีที่คนในไร่ยังช่วยกันทำแนวกันไฟไม่ให้ไหม้ลามไปแปลงข้าวโพดแปลงอื่นไม่เช่นนั้นเสียหายมากกว่าร้อยไร่แน่

“ไร่ข้าวโพดเสียหายหลายสิบไร่เลยครับพ่อเลี้ยง..ผมว่าไม่ได้ไหม้เองแน่นอนครับ”

สะอาดชายวัยกลางคนเป็นคนงานไนไร่ที่พักในบ้านใกล้ป่าข้าวโพดที่สุดเขาไม่ได้หลับได้นอนตั้งแต่ช่วงตีหนึ่งเพราะเป็นคนเห็นกลุ่มควันไฟคนแรกและหลังจากนั้นก็เกณฑ์คนมาช่วยกันทำแนวกันไฟเขาเชื่อว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือเหตุสุดวิสัยเพราะหน้าฝนไม่น่าจะมีไฟไหม้ได้ง่ายขนาดนี้คาดว่าเจ้านายตนน่าจะไปเหยียบหางใครเข้าแล้ว

“ผมพอจะเดาได้ครับลุงอาดว่ามันไม่ได้เกิดไฟไหม้เองแน่นอนหลังไฟสงบดีแล้วให้คนช่วยกันหาหลักฐานด้วยนะครับถ้ามีหลักฐานว่าไร่ถูกเผาจะได้รีบไปแจ้งความ”

“ครับ”

หลังจากคุยกับสะอาดเรียบร้อยคีรินก็เดินดูไร่พักใหญ่ก่อนจะเดินกลับไปขับรถกลับบ้านยังไม่ทันจอดรถที่หน้าบ้านดีคีรินก็เห็นเตโชมารออยู่ที่หน้าบ้านพร้อมชาติชายคนสนิทแล้ว

คีรินจอดรถได้ก็นั่งสงบอารมณ์ครู่หนึ่งก่อนจะลงจากรถด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยทำให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าเขาไม่ได้อยากต้องรับเท่าไรนัก

“อ้าว..ได้ข่าวว่าไฟไหม้ไร่ข้าวโพดนี่เสียหายไปเท่าไรล่ะครับ”

เป็นเตโชที่เอ่ยทักพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยน้ำเสียงยียวนดูก็รู้ว่าไม่ได้มาเพราะห่วงใยกันจริงๆ

“ยังประเมิณไม่ได้..แต่พอจะประเมิณได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร...คงจะมีคนนิสัยหมาที่ไม่ยอมกัดซึ่งๆหน้าเลยใช้วิธีลอบกัด”

คีรินแสยะยิ้มอ่อนทั้งเอ่ยตอบกลับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงยียวนเช่นกันเพราะเขาจะไม่ยอมให้เตโชได้เห็นว่าตอนนี้เขานั้นมีความทุกข์อยู่ในใจเด็ดขาด

“แสดงว่าพ่อเลี้ยง..มีปัญหากับหมามาเหรอครับ”

เตโชเริ่มยืนกอดอกมองมายังพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยสายตาที่เริ่มเข็งกร้าวแต่ยังวางฟรอมยกยิ้มอยู่เนืองๆ

“ถ้าหมาสันดานดีผมก็ไม่ยุ่งหรอกครับ...แต่ถ้าเป็นหมาสันดานเสียต้องไล่ตีให้เข้ากรงไม่ให้มันออกไปกัดใครได้อีก”

เมื่อคีรินรู้ว่าทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจได้เขาก็ยิ่งฉีกยิ้มให้กว้างขึ้นทั้งน้ำเสียงยียวนยังเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

“หึ่..ขอให้เอาหมาเข้ากรงได้ดั่งใจนะครับ..แต่คิดว่าน่าจะไม่ง่าย..ผมขอตัว”

คนที่เริ่มควบคุมสติไม่อยู่รีบหมุนตัวเข้าไปนั่งในรถก่อนที่สมุนคนสนิทอย่างชาติชายจะเดินกลับไปที่ฝั่งคนขับไม่นานนักรถSUVคันสีขาวก็หมุนหัวรถกลับออกไป

“หึ่..”

คีรินสบถในลำคอให้กับความฉลาดของเตโชเขาเดาออกว่าอย่างไรไร่ข้าวโพดที่ถูกเผาก็ต้องเป็นฝีมือคนในไร่บรรเจิดเขาพยายามทำใจเย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่างน้อยก็รู้ได้ว่าตอนนี้กำลังมีคนร้อนรนในความผิดจนต้องหาเรื่องคนอื่นแบบนี้

“อะไรกัน..”

พราวพิ้งค์ต้องตกใจตั้งแต่เดินมาเปิดประตูหน้าบ้านยามเช้าเพราะเธอเห็นนกพิราบนอนตายจมกองเลือดทั้งยังมีจดหมายเล็กๆวางไว้ข้างๆ

ถ้าอยากให้ลูกเมียมึงปลอดภัยอย่าสะเหร่อเรื่องชาวบ้าน”

“นี่มันอะไรคะคุณพอล”

หญิงสาวหยิบจดหมายขึ้นมาเปิดอ่านได้เธอก็แทบกลืนน้ำลงไม่ลงคอตัวชาวาบหน้าซีดเผือดรีบเรียกภคพลเสียงหลง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status