“ไม่สนใจจะช่วยคนจะมาเป็นผู้พิทักษ์สันติราชทำไมวะ”
ภคพลยังคงหัวเสียไม่หยุดแม้นจะนั่งรถออกมาจากโรงพักไกลแล้วก็เถอะ
“ในองค์กรทุกองค์กรมันก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดีทั้งนั้น...อย่าใส่ใจกับคนประเภทนั้นให้มากนักเลยไม่นานใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้ชดใช้แบบนั้น”
แดนไทยพยายามทำให้หลานของตนสงบลงแล้วมองความเป็นจริงใช่ว่าทุกที่จะมีแต่คนไม่ดีเสมอไปเขาเองก็พยายามนิ่งให้มากที่สุดเพราะตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าจะสั่งสอนคนที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างไร คนอย่างเขาไม่ชอบกระโตกกระตากรีบร้อนอะไรเพราะหากจะตีงูก็ต้องตีให้แน่ใจว่ามันตายจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาระแวงว่ามันจะแว้งกัด
ไร่บรรเจิด
“สารวัตรโทรมาบอกว่าพ่อเลี้ยงคีรินกับหลานพ่อเลี้ยงแดนไทยมันไปอาละวาดที่ สน.จะให้รื้อคดีนังเงินขึ้นมาใหม่”
เตโชหนุ่มใหญ่มาดเข้มลูกชายคนโตของจำรัสเดินดุ่มขึ้นบันไดบ้านทรงไทยเข้ามาหาคนเป็นพ่อในห้องทำงานด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียดหลังจากที่ได้รับข่าวจากอดิศรว่าแดนไทยคีรินและภคพลโร่ไปที่สถานีตำรวจเพื่อที่จะแจ้งว่าการตายของฟองเงินผิดปกติ
“ทำไม..ในเมื่อคดีมันจบไปแล้ว..ร่างนังเงินก็เผาไปแล้ว”
ชายแก่หัวล้านร่างท้วมละมือจากการตรวจเล่มบัญชีมองจ้องขมวดคิ้วไปยังลูกชายที่กำลังหย่อนก้นลงนั่งที่เก้าอี้ตรงหน้า
“มันไม่ได้เผาจริงไอ้พอลกับคีรินมันร่วมมือกันมันเก็บร่างนังเงินเอาไว้ให้หมอไปผ่าพิสูจน์ใหม่แล้วผลออกมาคือแผลไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุแต่ถูกของแข็งฟาด”
“เราก็อยู่เฉยๆยังไงมันก็สาวไม่ถึงเราอยู่แล้วมันอยากดิ้นยังไงก็ดิ้นไป..มือถือนังเงินก็อยู่กับเราคลิปก็ลบไปแล้วจะเอาผิดอะไรได้วะ”
จำรัสเห็นว่าลูกชายตนกระโตกกระตากเกินเหตุแม้นคนพวกนั้นจะสืบได้ว่าฟองเงินตายผิดธรรมชาติแต่ก็สาวไม่ถึงตัวของเขาอยู่ดีเพราะเขาไม่ได้ลงมือทำและอีกอย่างสารวัตรอดิศรและคนในโรงพักก็เป็นสมุนที่เขาเลี้ยงเอาไว้อยู่แล้วเรื่องนี้จำรัสจึงตัดกังวลไปได้
“แต่ผมก็หมั่นไส้พวกมันอยู่ดีสะเหร่อไม่เข้าเรื่อง”
“ขอเตือนให้แกอยู่เฉยๆเตโช”
จำรัสต้องเอ่ยเตือนลูกชายจอมใจร้อนไม่ยอมคนอย่างเตโชเพราะหากลูกชายของเขาร้อนรนทำร้ายใครสักคนหนึ่งในสามเท่ากับเผยไต๋ว่าการตายของฟองเงินต้องเกี่ยวข้องกับคนในไร่บรรเจิดอย่างแน่นอน
“พ่อ..”
ล้อมเดือนลูกสาวคนเล็กของจำรัสหญิงสาวเดินยกถาดขนมที่พึ่งอบเสร็จหมายจะเอามาให้คนเป็นพ่อได้ทานแต่เมื่อได้ยินเรื่องไม่ดีที่พ่อและพี่ชายพูดคุยกันเธอจึงต้องรียกลับมาในห้องของตัวเองเพื่อที่จะตั้งสติรู้ว่าพ่อและพี่ชายทำอะไรผิดๆหลายครั้งแต่ครั้งนี้ไม่คิดว่าจะถึงขั้นข้องเกี่ยวกับการฆาตกรรมได้
ล้อมเดือนหญิงสาวอายุ22ปีเธอเป็นลูกเมียน้อยที่จำรัสไม่ได้ตั้งใจให้เกิดมาเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเรียบร้อยอยู่ในกรอบที่พ่อและพี่ชายตั้งเอาไว้พอสมควรแต่หากเจอเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเธอก็เป็นคนที่ยอมไม่ค่อยได้จนเป็นที่รักของคนในไร่และขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ใจดีที่สุดในบ้านหลังนี้
ล้อมเดือนเป็นหญิงสาวหน้าตาน่ารักน่าชังตาโตปากนิดจมูกหน่อยผิวขาวหุ่นนาฬิกาทรายผมดกดำยาวถึงกลางหลังตั้งแต่จำความได้ก็ไม่เคยเห็นแม่ด้วยรู้ว่าแม่ใหญ่แม่ของเตโชรับเลี้ยงเธอให้สุขสบายได้แต่ต้องแลกกับการที่แม่ของเธอต้องจากไป
ตลอดเวลาที่โตมาเธอรู้ว่าพ่อไม่เคยสนใจเท่าไรคนที่อยู่ดูแลตลอดคือศรีนวลแม่บ้านที่เลี้ยงเธอมาจนโตและตอนนี้ก็ยังคอยดูแลเธอตลอดแม้นจะเรียนจบแล้วก็เถอะ หญิงสาวทำงานเป็นบัญชีช่วยคนเป็นพ่อที่ไร่รู้ตลอดว่าเงินที่พ่อได้มามากมายนั้นไม่ใช่จากไร่อย่างเดียวแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะนึกถึงบุญคุณที่เขานั้นอุตส่าห์ชุบเลี้ยงเธอมาไม่ให้ลำบาก
ฟองจันทร์ปั่นจักรยานออกจากบ้านของพราวพิ้งค์เมื่อช่วงบ่ายขณะที่ทุกคนไปอยู่ที่ไร่เธอกลับมาทำความสะอาดที่บ้านของตัวเองพอเข้ามาถึงห้องหับของคนเป็นแม่ก็นั่งฟุบลงกับพื้นมือไม้อ่อนนั่งร้องห่มร้องให้คิดถึงคนเป็นแม่ใจจะขาด
“แม่จ๋า...แล้วหนูจะอยู่กับใคร..ฮือๆๆ”
“พี่ว่าแล้วว่าเราจะต้องอยู่ที่นี่..บอกคุณพิ้งค์ก่อนจะมาหรือเปล่า”
คีรินไปหาฟองจันทร์ที่บ้านของพราวพิ้งค์ไม่เจอเขาจึงขับรถมาที่นี่เมื่อเห็นจักรยานของฟองจันทร์อยู่หน้าบ้านจึงถือวิสาสะเข้ามาแล้วเขาก็คิดถูกว่าเธอจะต้องอยู่ที่นี่
“เปล่าค่ะ...จันทร์ว่าจะมาแค่แปปเดียว”
สาวเจ้าปาดน้ำตาลวกๆลุกยืนมองคีรินที่ยืนพิงอยู่หน้าประตู
“ต่อไปนี้พี่จะดูแลจันทร์เอง..เรื่องงานถ้ายังหาไม่ได้ก็มาทำที่ไร่พี่..จันทร์ก็เหมือนน้องสาวพี่คนนึงยังไงจันทร์ก็อย่าลืมว่ามีพี่ชายคนนี้คอยอยู่ข้างๆอย่าคิดว่าตัวเองเหลือตัวคนเดียวรู้หรือเปล่า”
คีรินเดินเข้าไปโอบร่างบางเอาไว้แนบอกนึกสงสารหญิงสาวจับใจเพราะรู้ดีว่าเธอเหลือแม่เพียงคนเดียวเขาเองก็ไม่คิดว่าฟองเงินจะจากไปเร็วขนาดนี้เช่นกัน
พราวพิ้งค์เดินออกมาจากห้องนอนช่วงกลางดึกเพราะตื่นมาไม่เห็นภคพลร่างบางในชุดนอนสีครีมเดินออกมาเห็นชายหนุ่มยืนกอดอกพิงริมหน้าต่างเธอก็เริ่มมีท่าทีสงสัยว่าภคพลนั้นกำลังเครียดเรื่องอะไรอยู่เพราะเห็นว่าเขาดูครุ่นคิดตลอดเวลาหลังจากที่กลับจากทำธุระที่ตลาดกับแดนไทยแล้ว
“มีอะไรหรือเปล่าคะเห็นทำหน้าเครียดตั้งแต่กลับจากทำธุระแล้ว”
ร่างสูงหลุดจากภวังค์ได้เขาก็รีบหันมามองตามเสียงเรียกของพราวพิ้งค์
“ไม่มีอะไรหรอกผมแค่อยากดูแลไร่ให้ดีกว่าเดิม”
“อืม..ทุกวันนี้ฉันว่าคุณก็เรียนรู้แทบทุกอย่างแล้วนะคะอย่าคิดมากเลยค่ะ”
ภคพลรวบกอดพราวพิ้งค์เอาไว้หลวมๆริมฝีปากหนาอมยิ้มอ่อนดีใจที่หญิงสาวนั้นให้กำลังใจเขาแม้นจะไม่ได้ตรงกับเรื่องที่เขากังวลจริงๆก็เถอะแต่ก็ทำให้รู้สึกดีไม่น้อยเมื่อได้รู้ว่ายังไงเธอก็อยู่ข้างเขาเสมอ
หญิงสาวเชื่อว่าภคพลยังต้องมีเรื่องกังวลใจอะไรที่ปิดบังอยู่แน่นอนเพราะเรื่องในไร่คงไม่น่าจะทำให้ชายหนุ่มดูเครียดจนนอนไม่หลับเช่นนี้เธอยังไม่ขอถามอะไรออกแต่หากวันอื่นเขายังมีอาการเช่นนี้อยู่เธอคงต้องเค้นความจริงอีกรอบ
ในเช้ามืดวันต่อมาในไร่เพียงกมลเกิดเหตุโกลาหลขึ้นเพราะไร่ข้าวโพดเกือบสามสิบไร่ถูกไฟไหม้ไปหมดดีที่คนในไร่ยังช่วยกันทำแนวกันไฟไม่ให้ไหม้ลามไปแปลงข้าวโพดแปลงอื่นไม่เช่นนั้นเสียหายมากกว่าร้อยไร่แน่
“ไร่ข้าวโพดเสียหายหลายสิบไร่เลยครับพ่อเลี้ยง..ผมว่าไม่ได้ไหม้เองแน่นอนครับ”
สะอาดชายวัยกลางคนเป็นคนงานไนไร่ที่พักในบ้านใกล้ป่าข้าวโพดที่สุดเขาไม่ได้หลับได้นอนตั้งแต่ช่วงตีหนึ่งเพราะเป็นคนเห็นกลุ่มควันไฟคนแรกและหลังจากนั้นก็เกณฑ์คนมาช่วยกันทำแนวกันไฟเขาเชื่อว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือเหตุสุดวิสัยเพราะหน้าฝนไม่น่าจะมีไฟไหม้ได้ง่ายขนาดนี้คาดว่าเจ้านายตนน่าจะไปเหยียบหางใครเข้าแล้ว
“ผมพอจะเดาได้ครับลุงอาดว่ามันไม่ได้เกิดไฟไหม้เองแน่นอนหลังไฟสงบดีแล้วให้คนช่วยกันหาหลักฐานด้วยนะครับถ้ามีหลักฐานว่าไร่ถูกเผาจะได้รีบไปแจ้งความ”
“ครับ”
หลังจากคุยกับสะอาดเรียบร้อยคีรินก็เดินดูไร่พักใหญ่ก่อนจะเดินกลับไปขับรถกลับบ้านยังไม่ทันจอดรถที่หน้าบ้านดีคีรินก็เห็นเตโชมารออยู่ที่หน้าบ้านพร้อมชาติชายคนสนิทแล้ว
คีรินจอดรถได้ก็นั่งสงบอารมณ์ครู่หนึ่งก่อนจะลงจากรถด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยทำให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าเขาไม่ได้อยากต้องรับเท่าไรนัก
“อ้าว..ได้ข่าวว่าไฟไหม้ไร่ข้าวโพดนี่เสียหายไปเท่าไรล่ะครับ”
เป็นเตโชที่เอ่ยทักพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยน้ำเสียงยียวนดูก็รู้ว่าไม่ได้มาเพราะห่วงใยกันจริงๆ
“ยังประเมิณไม่ได้..แต่พอจะประเมิณได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร...คงจะมีคนนิสัยหมาที่ไม่ยอมกัดซึ่งๆหน้าเลยใช้วิธีลอบกัด”
คีรินแสยะยิ้มอ่อนทั้งเอ่ยตอบกลับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงยียวนเช่นกันเพราะเขาจะไม่ยอมให้เตโชได้เห็นว่าตอนนี้เขานั้นมีความทุกข์อยู่ในใจเด็ดขาด
“แสดงว่าพ่อเลี้ยง..มีปัญหากับหมามาเหรอครับ”
เตโชเริ่มยืนกอดอกมองมายังพ่อเลี้ยงหนุ่มด้วยสายตาที่เริ่มเข็งกร้าวแต่ยังวางฟรอมยกยิ้มอยู่เนืองๆ
“ถ้าหมาสันดานดีผมก็ไม่ยุ่งหรอกครับ...แต่ถ้าเป็นหมาสันดานเสียต้องไล่ตีให้เข้ากรงไม่ให้มันออกไปกัดใครได้อีก”
เมื่อคีรินรู้ว่าทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจได้เขาก็ยิ่งฉีกยิ้มให้กว้างขึ้นทั้งน้ำเสียงยียวนยังเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
“หึ่..ขอให้เอาหมาเข้ากรงได้ดั่งใจนะครับ..แต่คิดว่าน่าจะไม่ง่าย..ผมขอตัว”
คนที่เริ่มควบคุมสติไม่อยู่รีบหมุนตัวเข้าไปนั่งในรถก่อนที่สมุนคนสนิทอย่างชาติชายจะเดินกลับไปที่ฝั่งคนขับไม่นานนักรถSUVคันสีขาวก็หมุนหัวรถกลับออกไป
“หึ่..”
คีรินสบถในลำคอให้กับความฉลาดของเตโชเขาเดาออกว่าอย่างไรไร่ข้าวโพดที่ถูกเผาก็ต้องเป็นฝีมือคนในไร่บรรเจิดเขาพยายามทำใจเย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่างน้อยก็รู้ได้ว่าตอนนี้กำลังมีคนร้อนรนในความผิดจนต้องหาเรื่องคนอื่นแบบนี้
“อะไรกัน..”
พราวพิ้งค์ต้องตกใจตั้งแต่เดินมาเปิดประตูหน้าบ้านยามเช้าเพราะเธอเห็นนกพิราบนอนตายจมกองเลือดทั้งยังมีจดหมายเล็กๆวางไว้ข้างๆ
“ถ้าอยากให้ลูกเมียมึงปลอดภัยอย่าสะเหร่อเรื่องชาวบ้าน”
“นี่มันอะไรคะคุณพอล”
หญิงสาวหยิบจดหมายขึ้นมาเปิดอ่านได้เธอก็แทบกลืนน้ำลงไม่ลงคอตัวชาวาบหน้าซีดเผือดรีบเรียกภคพลเสียงหลง
“มีอะไรพิ้งค์”ชายหนุ่มร่างสูงในชุดกางเกงยีนส์เปลือยเปล่าท่อนบนเพราะกำลังจะแต่งตัวกลับถูกหญิงสาวเรียกออกมาก่อนเมื่อมาถึงตัวของเธอภคพลก็รีบหยิบกระดาษจากในมือของพราวพิ้งค์มาอ่านรู้ได้ทันทีว่าคำขู่ในกระดาษเกิดขึ้นเพราะเหตุอันใด“มีอะไรที่ไม่ได้บอกฉันหรือเปล่าคะ..ทำไมมีคนมาขู่อะไรแบบนี้ล่ะ”พราวพิ้งค์เริ่มขมวดคิ้วเค้นภคพลด้วยสงสัยตั้งแต่ที่เห็นเขานอนไม่หลับแล้ว ภคพลเริ่มมองไปยังสีหน้าที่บึ้งตึงของหญิงสาวก่อนจะจูงเธอเข้ามาคุยกันในบ้าน“ผมจะเล่าทุกอย่างให้คุณฟังแต่ต้องเก็บเป็นความลับเข้าใจหรือเปล่า”“อะไรล่ะคะ”ทั้งสองหย่อนก้นนั่งที่โซฟาได้ภคพลก็ได้เริ่มกระซิบเสียงเบาด้วยกลัวว่าฟองจันทร์ที่พักผ่อนอยู่ในห้องจะได้ยินเขาเริ่มเล่าถึงความผิดปกติที่เขากับคีรินสงสัยในการตายของฟองเงินจนได้หลักฐานว่าฟองเงินนั้นตายอย่างผิดธรรมชาติและสันนิษฐานว่าคงเป็นคนในไร่ของเสี่ยจำรัส“ทำไมต้องมีเรื่องแบบนี้ด้วย..”พราวพิ้งค์นั่งฟังไปใจเสียไปว่าหดหู่กับการจากไปของฟองเงินแล้วยังต้องมารับรู้ว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุอีก“คุณกับฟองจันทร์และลูกอยู่ที่นี่ไม่ได้ผมจะหาที่ปลอดภัยให้พวกคุณอยู่..เรื่องนี้อย่าพึ่งให้ฟ
คีรินให้พีรวัตรกู้ไฟล์เสร็จเขาก็ได้หลักฐานชิ้นเด็ดมาอยู่ในมือพ่อเลี้ยงหนุ่มรีบขับรถมาที่โรงพักแล้วก็ยื่นหลักฐานให้กับร้อยเวรทันทีไม่นานนักอดิศรก็รีบเข้ามาที่โรงพักอย่างเร่งด่วนเพื่อคุยกับคีรินเป็นการส่วนตัวคลิปที่คีรินได้เห็นค่อนข้างหดหู่พอสมควรเพราะฟองเงินได้แอบถ่ายคลิปขณะที่คนในไร่กำลังขนยากันแล้วฟองเงินก็ถูกกระชากโดยใครบางคนที่รู้ว่าเธอซุ่มดูอยู่ไม่ไกลหลังจากนั้นมือถือที่ถ่ายวิดีโอค้างอยู่ก็หล่นลงไปกับพื้นดีที่มือถือที่หล่นนั้นเก็บภาพขณะที่ฟองเงินถูกทำร้ายได้แทบจะชัดเจนคีรินจึงเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นการเรียกร้องความยุติธรรมให้คนที่ตายไปแล้วได้ดีที่สุด“หลักฐานมัดตัวแน่นขนาดนี้หวังว่าสารวัตรจะพาคนผิดมารับโทษได้นะครับ”คีรินนั่งจ้องอดิศรที่กำลังนั่งหน้าเสียเพราะดูคลิปที่ฟองเงินถูกชาติชายทำร้ายเขาเค้นสารวัตรหนุ่มใหญ่เสียงแข็งเพราะหากอดิศรเห็นคลิปขนาดนี้แล้วจะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่มีความเป็นคนเหลืออยู่แล้วอดิศรนั่งหน้าเสียด้วยเห็นทีครั้งนี้จะปัดความรับผิดชอบได้ยากและยังนึกไม่ออกว่าจะหาทางช่วยให้คนของเสี่ยจำรัสรอดพ้นคดีนี้ได้อย่างไรในเมื่อหลักฐานมัดแน่นขนาดนี้“ผมจะไปรวบตัวชาติชายเดี๋ยวนี้”
ชั่วโมงต่อมาโรงพยาบาลXXปลายฝันและพราวพิ้งค์พาฟองจันทร์มาถึงโรงพยาบาลไม่นานนักคีรินก็ตามมาดูอาการของฟองจันทร์ด้วยความเป็นห่วงหลังหมอสาวตรวจสภาพร่างกายและจิตใจของฟองจันทร์ได้พักใหญ่ก็รู้ว่าร่างกายของเธอหากได้อาหารเสริมนิดหน่อยก็คงจะดีขึ้นแต่สภาพจิตใจในตอนนี้นั้นย่ำแย่เอามากจนหมอเองก็ยังกังวล“จันทร์เป็นยังไงบ้างครับหมอ”คีรินรีบลุกพรวดนำหน้าสองสาวเข้ามาประชิดตัวคุณหมอสาวที่กำลังเดินออกมาจากห้องตรวจด้วยอยากจะฟังอาการของฟองจันทร์ใจจะขาด“สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่มากเลยค่ะตอนนี้เหมือนเธอจะไม่รับรู้อะไรแล้ว...หมอคงต้องให้คุณฟองจันทร์ดูอาการที่นี่ก่อนนะคะ”หมอสาวเอ่ยเสียงอ่อนผู้ป่วยเคสนี้เธอเห็นทีจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด“โถ่.. จันทร์..”ปลายฝันและพราวพิ้งค์ต่างจับมือกันแน่นสีหน้าของพวกเธอหดหู่จนดูบอกบุญไม่รับคีรินได้ยินเช่นนั้นเขาก็ถึงกับเข่าทรุดนั่งฟุบลงกับเก้าอี้กุมขมับหนึบเพราะห่วงอาการฟองจันทร์มากพอสมควร“จันทร์เป็นยังไงบ้างพิ้งค์”ภคพลรีบถามอาการของฟองจันทร์กับพราวพิ้งค์หลังจากที่หญิงสาวอยู่เป็นเพื่อนฟองจันทร์ที่โรงพยาบาลจนดึก“ไม่ดีเอาเลยค่ะหมอบอกว่าสภาพจิตใจจันทร์แย่มากตอนนี้ก็เอาแต่เหม่
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมเดือนตอนนี้อะไรๆก็เริ่มดีขึ้นทั้งความสัมพันธ์ของพราวพิ้งค์และภคพลที่แทบไม่เหลือความโกรธเคืองกันในอดีตและทางด้านฟองจันทร์เองเมื่อมีคีรินอยู่ดูแลด้วยตลอดสภาพจิตใจของเธอก็ดีขึ้นมากจนกลับมาร่าเริงเกือบร้อยเปอร์เซ็นแล้วตอนนี้ฟองจันทร์ทำงานเป็นแม่ครัวรวมถึงงานบ้านให้กับคีรินเพราะนารีลาออกไปอยู่กับสามีอีกจังหวัดฟองจันทร์อยู่เรือนเล็กหลังบ้านหลังใหญ่ของพ่อเลี้ยงหนุ่มและเมื่อว่างหญิงสาวก็ยังคอยแวะเวียนมาหายัยหนูพลอยขวัญอยู่บ่อยๆทางด้านคุณปู่หมาดๆอย่างภูริชละจากงานยุ่งๆได้ก็รีบซื้อข้าวซื้อของมาเอาใจหลานและทำความรู้จักกับลูกสะใภ้ ภูริชมาอยู่ที่บ้านของแดนไทยได้ร่วมอาทิตย์แล้วแถมปู่หลานยังเข้ากันได้ดีจนตัวติดกันเป็นแตงเมคนเป็นพ่อกับแม่จึงทำงานกันได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น“ผมเป็นคนดีพอที่คุณพ่อจะให้ผมกลับไปอยู่สุขสบายเหมือนเดิมได้หรือยังครับ”สองพ่อลูกเดินคุยกันอยู่ในสวนส้มยามเย็นหลังจากคนงานในไร่กลับกันไปหมดแล้ว“พ่อขอชมว่าแกเป็นคนมีน้ำใจแต่ยังไงก็ต้องอยู่ที่นี่ให้ครบครึ่งปี”ภูริชแสยะยิ้มมุมปากแม้นลูกชายจะมีความดีความชอบแต่อย่างไรบททดสอบก็ยังไม่จบลงง่ายๆ“อืม...ก็ได้ครับผมอยู
กว่าคีรินจะพาฟองจันทร์กลับจากโรงพยาบาลก็ฟ้ามืดหญิงสาวเย็บแผลที่น่องไปหลายเข็มและต้องฉีดยากันบาดทะยักเมื่อมาถึงบ้านพ่อเลี้ยงหนุ่มก็อุ้มคนตัวเล็กที่เจ็บมานั่งในห้องของเธอก่อนจะเริ่มบ่นหญิงสาวด้วยความเป็นห่วงอีกรอบ“หาเรื่องเจ็บตัวจนได้”“ก็จันทร์เห็นว่าของในนั้นมันไม่ค่อยเรียบร้อยก็เลยเข้าไปจัดค่ะ”ฟองจันทร์ยังคงก้มหน้าอธิบายเสียงอ่อนใครจะคิดว่าความหวังดีของเธอจะทำให้คีรินต้องมาเดือดร้อนดูแล“ทีหลังถ้าพี่ไม่ได้สั่งอะไรไม่ต้องทำรู้หรือเปล่า”พ่อเลี้ยงพนุ่มวาดสายตาไปยังผ้าพันแผลของหญิงสาวเขาก็ยิ่งหน้าเสียที่บ่นเธอไม่ใช่โมโหที่ต้องเสียเวลาพาเธอไปหาหมอที่พูดทั้งหมดเพียงแค่เป็นห่วงคำเดียวเท่านั้น“ค่ะ...จันทร์หยุดงานกี่วันพี่คีหักเงินได้เลยนะคะ”“พี่ไม่ทำแบบนั้นหรอก..ไปเดี๋ยวพี่อุ้มไปอาบน้ำ”ว่าจบก็สาวเท้าไปเปิดประตูห้องน้ำรอไว้พร้อมทั้งหาเก้าอี้มาให้เธอนั่งและเตรียมผ้าขนหนูให้เรียบร้อย“อะไรนะคะ”ฟองจันทร์นั่งมองตามหลังพ่อเลี้ยงหนุ่มทั้งอ้าปากค้างด้วยความตกใจตั้งแต่เข้ามัธยมต้นแม้แต่แม่เธอก็ยังไม่เคยมาเห็นเรืองร่างแล้วเธอจะทำใจให้คีรินอาบน้ำให้ได้อย่างไร“อุ้มไปส่งในห้องน้ำไม่งั้นจะเข้าไปยั
วันต่อมาแอด..แอด..ๆๆๆ “หืม..”พราวพิ้งค์กำลังไกวเปลให้เจ้าก้อนกลมที่พึ่งจะหลับกลางวันเธอก็ต้องขมวดคิ้วเพราะได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซต์รุ่นเก่าขับเข้ามาที่หน้าบ้านจึงรีบเดินออกไปห้ามให้คนที่ขับเข้ามาอย่าเข้ามาใกล้ด้วยกลัวว่ายัยหนูพลอยขวัญจะตื่น“คุณพอล..”เมื่อออกมาจากบ้านได้พราวพิ้งค์ก็ยิ่งสงสัยหนักว่าภคพลขับรถมอเตอร์ไซต์คันเก่านี้อีกทำไมทั้งที่ตอนนั้นมันพาเขาล้มจนเจ็บหนัก“ขับมอเตอร์ไซต์อีกทำไมคะ..เดี๋ยวก็ล้มจนเจ็บตัวอีก”“ทุกเย็นผมให้ต้นกล้ากับเตชินสอนค่าครูคนละร้อยทุกวันเป็นอาทิตย์จนตอนนี้ผมขับจนแข็งแล้ว..ลุงสมจะได้ไม่ต้องคอยมารับมาส่ง”ชายหนุ่มเอ่ยหน้าระรื่นอย่างภาคภูมิใจคิดว่าไอ้การที่ขับมอเตอร์คันเก่าคันนี้แท้จริงแล้วมันก็ไม่ได้ยากสักเท่าไรนัก“แล้วกลับมาทำไมคะงานยังไม่เลิกไม่ใช่หรือไง”“คิดถึงคุณกับลูกอยากกลับมาทานข้าวที่บ้าน”ร่างสูงว่าพรางส่งสายตากะลิ้มกะเหลี่ยมายังพราวพิ้งค์จนเธอต้องส่ายหัวคิดในใจว่าหลังจากนี้เชื่อได้ว่าเขาจะต้องกลับมาทานข้าวกลางวันที่บ้านทุกวันแน่นอนเพราะขับมอเตอร์ไซต์เป็นแบบนี้แล้วโต๊ะอาหาร“ขาหมูพะโล้ค่ะ..ตุ๋นตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วเปื่อยกำลังดีเลยค่ะ”“คุณท
ดนัยหนุ่มวัยสามสิบห้าเขาเข้ามาทำงานในบริษัทของภูริชเพราะมีจุดหมายที่ต้องการก็คือเอาชีวิตนาดีลเพราะแค้นที่นาดีลนั้นหลอกน้องสาวของเขามีสัมพันธ์ด้วยจนเกิดท้องแล้วไม่รับผิดชอบแถมยังส่งคนมาพาน้องสาวของเขาไปทำแท้งและขาดการติดต่อไปจนน้องสาวของเขาคิดสั้นฆ่าตัวตายเหตุนี้เขาจึงคิดว่าชีวิตก็ควรจะแลกด้วยชีวิตที่ภูริชต้องร้อนรนขับรถออกมาเองจนเกิดอุบัติเหตุก็เป็นเพราะฝีมือของเขาเพียงแค่ทำให้รถมีปัญหานิดหน่อยแล้วก็โทรไปบอกความจริงว่านาดีลจะพาน้องสาวของเขาไปทำแท้งคนเป็นพ่ออย่างภูริชที่ไม่อยากให้ใครมารู้ความชั่วของลูกตัวเองจึงเลือกที่จะขับรถออกมาคนเดียวตามที่ดนัยได้วางแผนเอาไว้ก้องภพมารับพราวพิ้งค์กลับมาที่บ้านของภคพลในช่วงเย็นโดยยังไม่ได้บอกเรื่องที่ภคพลนั้นเกิดอุบัติเหตุเพราะกลัวว่าหญิงสาวนั้นจะตกใจ“คุณพิ้งค์พาคุณหนูพักผ่อนตามสบายเลยนะครับส่วนอาหารเย็นผมสั่งมาเรียบร้อยแล้วอยู่ที่โต๊ะอาหารในครัวครับ”“แล้วคุณพอลไปไหนคะ...เค้าจะกลับมาเมื่อไร”พราวพิ้งค์รีบชิงถามก้องภพขณะที่เขาจะหันหลังเดินออกไปจากบ้านหลังจากที่มาส่งเธอ“เอ่อ..คุณพอลติดประชุมด่วนครับคืนนี้น่าจะไม่ได้กลับนะครับคุณพิ้งค์”“ค่ะ”ก้องภพ
วันเวลาพ้นผ่านไปนานร่วมอาทิตย์ตอนนี้ภูริชก็ฟื้นตัวได้พอสมควรส่วนภคพลปลอดภัยแต่ยังไม่ฟื้นพราวพิ้งค์มาเฝ้าภคพลทุกวันไม่เคยห่างแทบจะกินนอนที่นี่ส่วนยัยหนูพลอยขวัญช่วงนี้ก็จะอยู่กับปลายฝันและแดนไทยทั้งสองอาสาช่วยเลี้ยงให้เองระหว่างที่พราวพิ้งค์ยังต้องเฝ้าภคพลภูริชฟื้นขึ้นมาได้แต่เขาก็ยังต้องรักษาตัวอีกนานเพราะกระดูกที่หักยังต้องใช้เวลานานกว่าจะกลับมาเป็นปกติช่วงนี้บริษัทยิ่งวุ่นวายเรื่องการนำเข้ารถยนต์ลอตใหญ่ภูริชจึงวานให้โนแอลและนาดีลตัดสินใจกันว่าใครจะเข้าดูแลบริษัทแทนในช่วงนี้บทสรุปที่ได้คือโนแอลจะดูแลอยู่ที่นี่ทั้งบริษัทของคนเป็นพ่อและของภคพลส่วนกิจการส่วนตัวของเขาที่ฝรั่งเศสก็ฝากให้นาดีลดูแลพราวพิ้งค์ตื่นเช้าทุกวันเพื่อที่จะลุกขึ้นมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้กับภคพลเธอดูแลเขาอย่างดีทั้งภาวนาในใจทุกวันว่าให้เขานั้นฟื้นมาพูดคุยกับเธอเร็วๆ“คุณต้องหายไวๆนะคะจะได้มาฟังคำว่ารักจากปากของฉัน”หญิงสาวมองคนที่นอนเป็นผักหน้าละห้อยเธอเห็นภคพลอยู่ในสภาพนี้เป็นอาทิตย์แล้วจึงหดหู่หัวใจเป็นพิเศษ“พิ้งค์..เรื่องเธอกับคุณพอลยังไงกันแน่?”ปลายฝันที่เข้าห้องพักฟื้นของภคพลมาเงียบๆเธอก็แอบตกใจกับคำที่พราวพิ้