จวบจนเข้าเวลาเย็นจากที่พราวพิ้งค์และภคพลอยากจะปิดเรื่องนี้กับฟองจันทร์ไว้ก่อนแต่ก็ปิดไม่มิดเพราะคนที่รู้จักต่างก็บอกกับฟองจันทร์ถึงเรื่องฟองเงิน
ตอนนี้พราวพิ้งค์จึงต้องคอยช่วยปฐมพยาบาลฟองจันทร์เพราะหญิงสาวรู้ว่าแม่ตัวเองเสียแล้วก็ร้องห่มร้องให้เป็นลมเป็นแล้งไปหลายรอบ
ส่วนของภคพลเองก็ต้องดูแลลูกเองเพราะพราวพิ้งค์ยังต้องจัดการอะไรอีกหลายอย่างเกี่ยวกับงานของฟองเงินไหนจะต้องดูแลสภาพจิตใจของฟองจันทร์อีก
“จันทร์เป็นยังไงบ้างครับ”
คีรินพุ่งพรวดเข้ามาในบ้านของพราวพิ้งค์หน้าตาตื่นขณะที่หญิงสาวและภคพลยืนเฝ้าฟองจันทร์ที่นอนเป็นลมอยู่บนโซฟาไม่ห่าง
“ยังรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นค่ะนี่ก็เป็นลมรอบที่เท่าไรแล้วนับไม่ได้เลย..ตำรวจว่ายังไงบ้างคะเรื่องคดี”
“ตีว่าเป็นอุบัติเหตุครับสอบปากคำคนที่ไร่ของเสี่ยจำรัสก็ไม่มีใครรู้ใครเห็นครับว่าเกิดอะไรขึ้นหนำซ้ำเสี่ยจำรัสยังตีสีหน้าโมโหที่ป้าเงินไปหาเห็ดในพื้นที่ของเขาโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาติจนเกิดเรื่องอีก”
เรื่องสรุปคดีที่ออกมาจากปากคีรินทำภคพลเริ่มกัดฟันจนขึ้นสันกรามเขารู้ดีว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่และไม่คิดว่าคนที่เป็นถึงระดับพ่อเลี้ยงปกครองคนทั้งไร่อย่างคีรินจะปักใจเชื่อเรื่องคดีง่ายๆ
คีรินอยู่เฝ้าฟองจันทร์จนเข้าเวลาฟ้ามืดเมื่อเพื่ออยู่เป็นเพื่อนพูดคุยให้หญิงสาวนั้นมีสภาพจิตใจดีขึ้นหลังจากนี้เขารับปากกับเธอว่าจะจัดการทุกอย่างให้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องติดต่อกับตำรวจหรืองานศพให้หญิงสาวนั้นตัดกังวลเรื่องนี้ไป
และขอให้ฟองจันทร์อยู่กับพราวพิ้งค์ที่นี่เพราะไม่อยากให้เธออยู่บ้านคนเดียวเขาจะได้ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยและเชื่อว่าเมื่อฟองจันทร์อยู่กับพราวพิ้งค์จะได้ลดความฟุ้งซ่านลงได้
ช่วงเวลาที่พราวพิ้งค์ยุ่งกับการหารือกับพ่อเลี้ยงหนุ่มยามเย็นจนค่ำคนที่ทำหน้าที่เลี้ยงยัยหนูพลอยขวัญก็เป็นภคพลเขาทำมันได้อย่างดีจนตอนนี้สามารถกล่อมลูกนอนได้เรียบร้อยแล้วโดยที่ไม่ต้องกวนอะไรพราวพิ้งค์แม้นสักนิด
เมื่อถึงเวลาที่พ่อเลี้ยงหนุ่มต้องกลับภคพลก็อาสาเป็นคนเดินออกมาส่งคีรินเองเพราะมีบางอย่างที่จะต้องคุยกับเขา
“ผมขอคุยด้วยหน่อย”
“คุณมีอะไรจะคุยกับผมหวังว่าจะไม่มาหาเรื่องกันตอนนี้นะครับ”
คีรินมองจ้องหน้าภคพลด้วยท่าทีเหนื่อยหน่ายต้องเอ่ยกันไว้ก่อนว่าเขาไม่อยากจะถูกหาเรื่องให้ปวดหัวในเวลานี้
“ผมคิดว่าตำรวจสันนิษฐานผิด..รอยแผลยับเยินขนาดนั้นไม่ใช่อุบัติเหตุแน่”
คีรินจ้องหน้าภคพลเขาเงียบไปครู่หนึ่งคิดว่าชายหนุ่มจะไม่สังเกตเรื่องบาดแผลของฟองเงินเสียอีก
“อืม..ผมก็คิดอย่างนั้นแค่ยังไม่อยากกระโตกกระตากไปให้ใครตกใจ..ถ้าคุณอยากช่วยพรุ่งนี้ไปคุยกันที่บ้านผมลุงหมายก็จะไปด้วยคุณมาพร้อมแกก็ได้”
พ่อเลี้ยงหนุ่มตัดสินใจบอกความจริงว่าเขาและสมหมายก็แอบสงสัยกันแค่เงียบๆและต้องจัดการเรื่องนี้ให้กระจ่างว่าเรื่องที่เกิดไม่ใช่อุบติเหตุ
“อืม..แล้วผมจะไป”
ภคพลพยักหน้าแม้นเข้าจะเป็นคนที่โผงผางเอาแต่ใจและดูไม่ค่อยเป็นมิตรในสายตาคนอื่นแต่เมื่อเห็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเขาก็ยอมไม่ได้ยิ่งเป็นคนใกล้ตัวเขายิ่งต้องช่วยให้สุดความสามารถ
ในเช้าวันต่อมาสมหมายมารับภคพลที่บ้านแต่เช้าก่อนจะเดินทางไปยังไร่ของคีรินเงียบๆเพื่อไปหารือกันเรื่องที่จะหาหลักฐานการเสียชีวิตของฟองจันทร์เพิ่ม
“เราเข้าไปหาหลักฐานอะไรเองไม่ได้หรือไง”
หลังปรึกษากันได้พักใหญ่คนใจร้อนอย่างภคพลก็เสนอว่าอยากจะเข้าไปหาหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติมเพราะรู้มาว่ามือถือของฟองจันทร์หายไปในวันที่เกิดเรื่อง
“พื้นที่ป่าตรงนั้นเป็นของเสี่ยจำรัส..เราจะเข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ครับ”
สมหมายส่ายหัวยิ่งมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเขาเชื่อว่าคนของเสี่ยจำรัสคงตรวจตราไร่แน่นหนาไม่ยอมให้คนนอกเข้าไปง่ายๆแน่นอน
“ผมจะลองคุยกับหมอเรื่องร่างของป้าเงินอยากจะให้หมอที่ไว้ใจได้ชันสูตรอีกครั้ง”
คีรินคิดว่าวิธีนี้จะทำให้มีหลักฐานอะไรเพิ่มขึ้นมาหากมีอะไรไม่โปร่งใสจะรื้อคดีขึ้นมาใหม่คดีจะได้ไม่จบง่ายๆแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้
“ผมว่าก็ดีนะครับ...เรื่องงานศพก็ขอให้ดำเนินไปแต่ยังไม่ต้องบอกใครว่าร่างของป้าเงินยังอยู่ที่โรงพยาบาล”
ภคพลเห็นด้วยกับวิธีของคีรินเรื่องนี้จะต้องให้มีคนรู้น้อยที่สุดจนกว่าความจริงจะเปิดเผยว่าตกลงฟองเงินเกิดอุบัติเหตุจริงหรือถูกทำร้ายจนตายกันแน่
อาทิตย์ต่อมา
หลังจากงานศพของฟองเงินผ่านไปจนจบฟองจันทร์ก็ยังไม่วายเสียใจดั่งวันแรกที่รู้ว่าแม่ของตัวเองเสียเธอยังคงไม่ยอมทานข้าวทานปลาเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง
ทางด้านแดนไทยกลับมาจากฮันนีมูนได้ก็ต้องหัวเสียเพราะเกิดเรื่องร้ายกับคนในไร่ของตัวเองแต่กลับไม่มีใครแจ้งเรื่องไปถึงเขาสักคนจนกลับมาถึงได้มารู้เอง
“มีเรื่องร้ายแรงแบบนี้ทำไมไม่บอกอานี่ถ้าอาไม่กลับก็คงจะไม่รู้ใช่หรือเปล่า”
แดนไทยลากหลานชายเข้าห้องมาคุยกันส่วนตัวได้ก็บ่นอุกแทนที่เขาจะได้ช่วยทำศพของฟองเงินแต่กลับมาก็รู้เพียงว่างานศพได้ผ่านพ้นไปแล้วแถมการตายของฟองเงินยังมีเงื่อนงำอีก
“ขอโทษครับคุณอาผมแค่ไม่อยากให้อะไรมันกวนใจเวลาที่คุณอากำลังมีความสุข”
“แล้วเรื่องผ่าพิสูจน์ใหม่ไปถึงไหนแล้ว”
“หมอชันสูตรเพื่อนคุณคีรินยังไม่ได้ติดต่อกลับมาครับ..แต่น่าจะอีกไม่นานคงได้รู้ผล”
แดนไทยนั่งนิ่งกุมขมับเพราะดูท่าสถานการณ์ตอนนี้จะไม่ค่อยดีเท่าไรนักหากฟองเงินถูกทำร้ายจริงๆก็คงไม่พ้นพวกของเสี่ยจำรัสเพราะคนที่นี่ไม่มีใครโหดร้ายดั่งคนที่ไร่นั้นแน่นอน
ตอนนี้แปลายฝันและพราวพิ้งค์นั่งคุยกันอยู่ที่สำนักงานในไร่ถึงเรื่องฟองเงินและฟองจันทร์ปลายฝันยอมรับว่าตกใจมากเมื่อรู้ข่าวหลังจากกลับมาถึงบ้านตอนนี้ก็ยังคงหดหู่ในใจพอสมควร
“สงสารฟองจันทร์จังไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเลย”
ปลายฝันนั่งหน้าละห้อยเธอรู้ว่าฟองจันทร์ตั้งใจเรียนให้จบเพื่อที่จะมีงานดีๆทำหลังจากนั้นจะได้ดูแลแม่บ้างแต่ตอนนี้ก็ไม่มีโอกาสนั้นแล้ว
“เฮ่อ.. อะไรๆก็คาดเดาไม่ได้ทั้งนั้นนี่แหละน้าชีวิต”
พราวพิ้งค์นั่งถอนหายใจเฮือกใหญ่เธอเห็นแล้วว่าชีวิตของคนไม่มีอะไรที่มันแน่นอนจริงๆ
“นั่นสิขนาดเรื่องของเธอกับคุณพอลยังทำฉันตกใจเลย”
ปลายฝันนึกขึ้นได้ว่ากลับมาเธอจะคุยกับพราวพิ้งเรื่องนี้แต่พอเจอเรื่องฟองเงินก็ลืมเรื่องเพื่อนเธอไปเสียเลยคราวนี้จึงได้มีโอกาสถามเสียที
“รู้แล้วเหรอ”
“อืม..คุณภูโทรมาบอกคุณแดนเห็นบอกว่าอยากจะมาทำความรู้จักกับเธอแล้วก็หลานอย่างเป็นทางการใจจะขาดแต่ก็ยังมาไม่ได้เพราะงานรัดตัวไหนจะบริษัทตัวเองแล้วก็ของคุณพอลอีก”
“คุณภูยังไม่มาตอนนี้ก็ดีแล้วล่ะฉันยังคงไม่มีแก่ใจรับแขกยังหดหู่เรื่องป้าเงินไม่หายเหมือนกัน”
พราวพิ้งค์เห็นว่าดีแล้วที่ภูริชยังไม่ได้เดินทางมาที่นี่ตอนนี้ไม่เช่นนั้นเธอคงต้อนรับเขาไม่ได้ดีเท่าที่ควรแน่เพราะสภาพจิตใจยังคงหดหู่กับเรื่องฟองเงินและฟองจันทร์ไม่หาย
สถานีตำรวจ
หลังจากคีรินได้หลักฐานการชันสูตรมาเมื่อช่วงสายเขาก็รีบบึ่งรถมาหาภคพลที่บ้านของแดนไทยทั้งสามจึงรีบมาที่สถานีตำรวจอย่างรวดเร็วเพื่อต้องการให้ตำรวจนั้นรื้อคดีนี้ขึ้นมาใหม่และหาว่าใครเป็นคนทำร้ายฟองเงิน แต่ดูเหมือนสารวัตรของสน.นี้ไม่ค่อยอยากจะให้ความช่วยเหลือในการรื้อคดีนี้เท่าไร
“คดีนี้มันปิดไปแล้วพวกคุณจะมาเรียกร้องอะไรอีก”
อดิศรสารวัตรหนุ่มใหญ่มองหลักฐานที่แดนไทยเป็นคนยื่นให้อย่างไม่ใส่ใจทำเอาภคพลที่ยืนควบคุมอารมณ์ตั้งแต่แรกเริ่มคุมความโมโหไว้ไม่อยู่เพราะดูท่าตำรวจที่นี่จะไม่อยากจะทำงานรับใช้ประชาชนสักเท่าไรและน่าจะรับใช้อำนาจเงินมากกว่าหากเขาไม่ถูกคนเป็นพ่อทำทัณฑ์บนป่านนี้เรียกคนมาสั่งสอนคนที่ละเว้นหน้าที่ตอนนี้ไปแล้ว
“ก็เห็นอยู่ว่าชันสูตรผิดพลาด..ก็รื้อคดีขึ้นมาใหม่สิครับมันเป็นหน้าที่ของตำรวจไม่ใช่หรือไง”
ภคพลเอ่ยเสียงแข็งกอดฟันกรอดขึ้นสันกรามแต่สารวัตรหนุ่มใหญ่ก็ไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวเพราะเห็นว่าเขานั้นเป็นแค่หลานของพ่อเลี้ยงแดนไทยเจ้าของไร่ธรรมดา
“พวกคุณทำอะไรโดยพละการ...ผลนั่นเชื่อถือได้แค่ไหนก็ไม่รู้”
อดิศรสบัดหลักฐานกลับตรงหน้าของคีรินด้วยท่าทีเสียมารยาทคีรินได้แต่นั่งกำมือเพราะเขากำลังสงบสติอารมณ์แต่ดูคนที่จะสงบอารมณ์ไม่ได้เห็นจะเป็นภคพลที่เริ่มฟิวส์ขาด
“จะไม่ทำคดีนี้ต่อจริงๆใช่ไหม..ตำรวจอย่างพวกคุณอยากจะรับใช้ประชาชนจริงๆหรือเปล่า”
ภคพลตวาดลั่นใส่หน้าอดิศรอย่างไม่เกรงกลัวทั้งยื่นมือกระชากคอเสื้อของอดิศรไว้แน่นจนแดนไทยต้องรวบตัวหลานชายออกให้ห่างสารวัตรหนุ่มใหญ่ด้วยกลัวหลานชายจะถูกดำเนินคดีไปเสียอีกเรื่อง
“หยุดโวยวายที่นี่นะครับไม่อย่างนั้นจะถูกข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน”
อดิศรลุกยืนชี้หน้าภคพลด้วยความไม่พอใจเพราะไม่เคยมีใครมาหยามหน้าเขาเช่นนี้
“ตาพอลใจเย็นๆ”
แดนไทยไม่ใช่ว่าไม่พอใจแต่เขาคิดว่าการโวยวายไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
“ในเมื่อสารวัตรไม่ใส่ใจเรื่องนี้...ถ้าถูกเรียกสอบเรื่องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ก็รับมือดีๆละกัน”
แดนไทยยื่นคำขาดที่ไม่ใช่คำขู่กับอดิศรก่อนจะลากตัวหลานชายออกไปเขาเคยได้ยินความไม่โปร่งใสในการทำงานของตำรวจที่นี่นานแล้วแต่ก็ไม่คิดว่าจะละเลยหน้าที่ขนาดนี้
“หึ่..ก็แค่พ่อเลี้ยงอย่างมากก็ทำได้แค่ขู่”
อดิศรว่าตามหลังแดนไทยอย่างไม่เกรงกลัวเพราะคนอย่างเขาหาทางหนีทีไล่ได้เสมอ
“เดี๋ยวสารวัตรก็จะได้รู้ว่าคุณแดนไทยแค่พ่อเลี้ยงจริงๆหรือเปล่า”
คีรินลุกยืนเต็มความสูงก่อนจะยกยิ้มทิ้งท้ายปริศนาเอาไว้ให้สารวัตรหนุ่มใหญ่ เขาเชื่อว่าที่อดิศรพูดเช่นนี้คงไม่รู้แน่นอนว่าแดนไทยเป็นลูกชายของใครและพี่ชายของแดนไทยมีอำนาจมากขนาดไหน
“ไม่สนใจจะช่วยคนจะมาเป็นผู้พิทักษ์สันติราชทำไมวะ”ภคพลยังคงหัวเสียไม่หยุดแม้นจะนั่งรถออกมาจากโรงพักไกลแล้วก็เถอะ“ในองค์กรทุกองค์กรมันก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดีทั้งนั้น...อย่าใส่ใจกับคนประเภทนั้นให้มากนักเลยไม่นานใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้ชดใช้แบบนั้น”แดนไทยพยายามทำให้หลานของตนสงบลงแล้วมองความเป็นจริงใช่ว่าทุกที่จะมีแต่คนไม่ดีเสมอไปเขาเองก็พยายามนิ่งให้มากที่สุดเพราะตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าจะสั่งสอนคนที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างไร คนอย่างเขาไม่ชอบกระโตกกระตากรีบร้อนอะไรเพราะหากจะตีงูก็ต้องตีให้แน่ใจว่ามันตายจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาระแวงว่ามันจะแว้งกัดไร่บรรเจิด“สารวัตรโทรมาบอกว่าพ่อเลี้ยงคีรินกับหลานพ่อเลี้ยงแดนไทยมันไปอาละวาดที่ สน.จะให้รื้อคดีนังเงินขึ้นมาใหม่”เตโชหนุ่มใหญ่มาดเข้มลูกชายคนโตของจำรัสเดินดุ่มขึ้นบันไดบ้านทรงไทยเข้ามาหาคนเป็นพ่อในห้องทำงานด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียดหลังจากที่ได้รับข่าวจากอดิศรว่าแดนไทยคีรินและภคพลโร่ไปที่สถานีตำรวจเพื่อที่จะแจ้งว่าการตายของฟองเงินผิดปกติ“ทำไม..ในเมื่อคดีมันจบไปแล้ว..ร่างนังเงินก็เผาไปแล้ว”ชายแก่หัวล้านร่างท้วมละมือจากการตรวจเล่มบัญชีมองจ้องขมว
“มีอะไรพิ้งค์”ชายหนุ่มร่างสูงในชุดกางเกงยีนส์เปลือยเปล่าท่อนบนเพราะกำลังจะแต่งตัวกลับถูกหญิงสาวเรียกออกมาก่อนเมื่อมาถึงตัวของเธอภคพลก็รีบหยิบกระดาษจากในมือของพราวพิ้งค์มาอ่านรู้ได้ทันทีว่าคำขู่ในกระดาษเกิดขึ้นเพราะเหตุอันใด“มีอะไรที่ไม่ได้บอกฉันหรือเปล่าคะ..ทำไมมีคนมาขู่อะไรแบบนี้ล่ะ”พราวพิ้งค์เริ่มขมวดคิ้วเค้นภคพลด้วยสงสัยตั้งแต่ที่เห็นเขานอนไม่หลับแล้ว ภคพลเริ่มมองไปยังสีหน้าที่บึ้งตึงของหญิงสาวก่อนจะจูงเธอเข้ามาคุยกันในบ้าน“ผมจะเล่าทุกอย่างให้คุณฟังแต่ต้องเก็บเป็นความลับเข้าใจหรือเปล่า”“อะไรล่ะคะ”ทั้งสองหย่อนก้นนั่งที่โซฟาได้ภคพลก็ได้เริ่มกระซิบเสียงเบาด้วยกลัวว่าฟองจันทร์ที่พักผ่อนอยู่ในห้องจะได้ยินเขาเริ่มเล่าถึงความผิดปกติที่เขากับคีรินสงสัยในการตายของฟองเงินจนได้หลักฐานว่าฟองเงินนั้นตายอย่างผิดธรรมชาติและสันนิษฐานว่าคงเป็นคนในไร่ของเสี่ยจำรัส“ทำไมต้องมีเรื่องแบบนี้ด้วย..”พราวพิ้งค์นั่งฟังไปใจเสียไปว่าหดหู่กับการจากไปของฟองเงินแล้วยังต้องมารับรู้ว่าเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุอีก“คุณกับฟองจันทร์และลูกอยู่ที่นี่ไม่ได้ผมจะหาที่ปลอดภัยให้พวกคุณอยู่..เรื่องนี้อย่าพึ่งให้ฟ
คีรินให้พีรวัตรกู้ไฟล์เสร็จเขาก็ได้หลักฐานชิ้นเด็ดมาอยู่ในมือพ่อเลี้ยงหนุ่มรีบขับรถมาที่โรงพักแล้วก็ยื่นหลักฐานให้กับร้อยเวรทันทีไม่นานนักอดิศรก็รีบเข้ามาที่โรงพักอย่างเร่งด่วนเพื่อคุยกับคีรินเป็นการส่วนตัวคลิปที่คีรินได้เห็นค่อนข้างหดหู่พอสมควรเพราะฟองเงินได้แอบถ่ายคลิปขณะที่คนในไร่กำลังขนยากันแล้วฟองเงินก็ถูกกระชากโดยใครบางคนที่รู้ว่าเธอซุ่มดูอยู่ไม่ไกลหลังจากนั้นมือถือที่ถ่ายวิดีโอค้างอยู่ก็หล่นลงไปกับพื้นดีที่มือถือที่หล่นนั้นเก็บภาพขณะที่ฟองเงินถูกทำร้ายได้แทบจะชัดเจนคีรินจึงเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นการเรียกร้องความยุติธรรมให้คนที่ตายไปแล้วได้ดีที่สุด“หลักฐานมัดตัวแน่นขนาดนี้หวังว่าสารวัตรจะพาคนผิดมารับโทษได้นะครับ”คีรินนั่งจ้องอดิศรที่กำลังนั่งหน้าเสียเพราะดูคลิปที่ฟองเงินถูกชาติชายทำร้ายเขาเค้นสารวัตรหนุ่มใหญ่เสียงแข็งเพราะหากอดิศรเห็นคลิปขนาดนี้แล้วจะไม่ทำอะไรเลยก็ไม่มีความเป็นคนเหลืออยู่แล้วอดิศรนั่งหน้าเสียด้วยเห็นทีครั้งนี้จะปัดความรับผิดชอบได้ยากและยังนึกไม่ออกว่าจะหาทางช่วยให้คนของเสี่ยจำรัสรอดพ้นคดีนี้ได้อย่างไรในเมื่อหลักฐานมัดแน่นขนาดนี้“ผมจะไปรวบตัวชาติชายเดี๋ยวนี้”
ชั่วโมงต่อมาโรงพยาบาลXXปลายฝันและพราวพิ้งค์พาฟองจันทร์มาถึงโรงพยาบาลไม่นานนักคีรินก็ตามมาดูอาการของฟองจันทร์ด้วยความเป็นห่วงหลังหมอสาวตรวจสภาพร่างกายและจิตใจของฟองจันทร์ได้พักใหญ่ก็รู้ว่าร่างกายของเธอหากได้อาหารเสริมนิดหน่อยก็คงจะดีขึ้นแต่สภาพจิตใจในตอนนี้นั้นย่ำแย่เอามากจนหมอเองก็ยังกังวล“จันทร์เป็นยังไงบ้างครับหมอ”คีรินรีบลุกพรวดนำหน้าสองสาวเข้ามาประชิดตัวคุณหมอสาวที่กำลังเดินออกมาจากห้องตรวจด้วยอยากจะฟังอาการของฟองจันทร์ใจจะขาด“สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่มากเลยค่ะตอนนี้เหมือนเธอจะไม่รับรู้อะไรแล้ว...หมอคงต้องให้คุณฟองจันทร์ดูอาการที่นี่ก่อนนะคะ”หมอสาวเอ่ยเสียงอ่อนผู้ป่วยเคสนี้เธอเห็นทีจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด“โถ่.. จันทร์..”ปลายฝันและพราวพิ้งค์ต่างจับมือกันแน่นสีหน้าของพวกเธอหดหู่จนดูบอกบุญไม่รับคีรินได้ยินเช่นนั้นเขาก็ถึงกับเข่าทรุดนั่งฟุบลงกับเก้าอี้กุมขมับหนึบเพราะห่วงอาการฟองจันทร์มากพอสมควร“จันทร์เป็นยังไงบ้างพิ้งค์”ภคพลรีบถามอาการของฟองจันทร์กับพราวพิ้งค์หลังจากที่หญิงสาวอยู่เป็นเพื่อนฟองจันทร์ที่โรงพยาบาลจนดึก“ไม่ดีเอาเลยค่ะหมอบอกว่าสภาพจิตใจจันทร์แย่มากตอนนี้ก็เอาแต่เหม่
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมเดือนตอนนี้อะไรๆก็เริ่มดีขึ้นทั้งความสัมพันธ์ของพราวพิ้งค์และภคพลที่แทบไม่เหลือความโกรธเคืองกันในอดีตและทางด้านฟองจันทร์เองเมื่อมีคีรินอยู่ดูแลด้วยตลอดสภาพจิตใจของเธอก็ดีขึ้นมากจนกลับมาร่าเริงเกือบร้อยเปอร์เซ็นแล้วตอนนี้ฟองจันทร์ทำงานเป็นแม่ครัวรวมถึงงานบ้านให้กับคีรินเพราะนารีลาออกไปอยู่กับสามีอีกจังหวัดฟองจันทร์อยู่เรือนเล็กหลังบ้านหลังใหญ่ของพ่อเลี้ยงหนุ่มและเมื่อว่างหญิงสาวก็ยังคอยแวะเวียนมาหายัยหนูพลอยขวัญอยู่บ่อยๆทางด้านคุณปู่หมาดๆอย่างภูริชละจากงานยุ่งๆได้ก็รีบซื้อข้าวซื้อของมาเอาใจหลานและทำความรู้จักกับลูกสะใภ้ ภูริชมาอยู่ที่บ้านของแดนไทยได้ร่วมอาทิตย์แล้วแถมปู่หลานยังเข้ากันได้ดีจนตัวติดกันเป็นแตงเมคนเป็นพ่อกับแม่จึงทำงานกันได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น“ผมเป็นคนดีพอที่คุณพ่อจะให้ผมกลับไปอยู่สุขสบายเหมือนเดิมได้หรือยังครับ”สองพ่อลูกเดินคุยกันอยู่ในสวนส้มยามเย็นหลังจากคนงานในไร่กลับกันไปหมดแล้ว“พ่อขอชมว่าแกเป็นคนมีน้ำใจแต่ยังไงก็ต้องอยู่ที่นี่ให้ครบครึ่งปี”ภูริชแสยะยิ้มมุมปากแม้นลูกชายจะมีความดีความชอบแต่อย่างไรบททดสอบก็ยังไม่จบลงง่ายๆ“อืม...ก็ได้ครับผมอยู
กว่าคีรินจะพาฟองจันทร์กลับจากโรงพยาบาลก็ฟ้ามืดหญิงสาวเย็บแผลที่น่องไปหลายเข็มและต้องฉีดยากันบาดทะยักเมื่อมาถึงบ้านพ่อเลี้ยงหนุ่มก็อุ้มคนตัวเล็กที่เจ็บมานั่งในห้องของเธอก่อนจะเริ่มบ่นหญิงสาวด้วยความเป็นห่วงอีกรอบ“หาเรื่องเจ็บตัวจนได้”“ก็จันทร์เห็นว่าของในนั้นมันไม่ค่อยเรียบร้อยก็เลยเข้าไปจัดค่ะ”ฟองจันทร์ยังคงก้มหน้าอธิบายเสียงอ่อนใครจะคิดว่าความหวังดีของเธอจะทำให้คีรินต้องมาเดือดร้อนดูแล“ทีหลังถ้าพี่ไม่ได้สั่งอะไรไม่ต้องทำรู้หรือเปล่า”พ่อเลี้ยงพนุ่มวาดสายตาไปยังผ้าพันแผลของหญิงสาวเขาก็ยิ่งหน้าเสียที่บ่นเธอไม่ใช่โมโหที่ต้องเสียเวลาพาเธอไปหาหมอที่พูดทั้งหมดเพียงแค่เป็นห่วงคำเดียวเท่านั้น“ค่ะ...จันทร์หยุดงานกี่วันพี่คีหักเงินได้เลยนะคะ”“พี่ไม่ทำแบบนั้นหรอก..ไปเดี๋ยวพี่อุ้มไปอาบน้ำ”ว่าจบก็สาวเท้าไปเปิดประตูห้องน้ำรอไว้พร้อมทั้งหาเก้าอี้มาให้เธอนั่งและเตรียมผ้าขนหนูให้เรียบร้อย“อะไรนะคะ”ฟองจันทร์นั่งมองตามหลังพ่อเลี้ยงหนุ่มทั้งอ้าปากค้างด้วยความตกใจตั้งแต่เข้ามัธยมต้นแม้แต่แม่เธอก็ยังไม่เคยมาเห็นเรืองร่างแล้วเธอจะทำใจให้คีรินอาบน้ำให้ได้อย่างไร“อุ้มไปส่งในห้องน้ำไม่งั้นจะเข้าไปยั
วันต่อมาแอด..แอด..ๆๆๆ “หืม..”พราวพิ้งค์กำลังไกวเปลให้เจ้าก้อนกลมที่พึ่งจะหลับกลางวันเธอก็ต้องขมวดคิ้วเพราะได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซต์รุ่นเก่าขับเข้ามาที่หน้าบ้านจึงรีบเดินออกไปห้ามให้คนที่ขับเข้ามาอย่าเข้ามาใกล้ด้วยกลัวว่ายัยหนูพลอยขวัญจะตื่น“คุณพอล..”เมื่อออกมาจากบ้านได้พราวพิ้งค์ก็ยิ่งสงสัยหนักว่าภคพลขับรถมอเตอร์ไซต์คันเก่านี้อีกทำไมทั้งที่ตอนนั้นมันพาเขาล้มจนเจ็บหนัก“ขับมอเตอร์ไซต์อีกทำไมคะ..เดี๋ยวก็ล้มจนเจ็บตัวอีก”“ทุกเย็นผมให้ต้นกล้ากับเตชินสอนค่าครูคนละร้อยทุกวันเป็นอาทิตย์จนตอนนี้ผมขับจนแข็งแล้ว..ลุงสมจะได้ไม่ต้องคอยมารับมาส่ง”ชายหนุ่มเอ่ยหน้าระรื่นอย่างภาคภูมิใจคิดว่าไอ้การที่ขับมอเตอร์คันเก่าคันนี้แท้จริงแล้วมันก็ไม่ได้ยากสักเท่าไรนัก“แล้วกลับมาทำไมคะงานยังไม่เลิกไม่ใช่หรือไง”“คิดถึงคุณกับลูกอยากกลับมาทานข้าวที่บ้าน”ร่างสูงว่าพรางส่งสายตากะลิ้มกะเหลี่ยมายังพราวพิ้งค์จนเธอต้องส่ายหัวคิดในใจว่าหลังจากนี้เชื่อได้ว่าเขาจะต้องกลับมาทานข้าวกลางวันที่บ้านทุกวันแน่นอนเพราะขับมอเตอร์ไซต์เป็นแบบนี้แล้วโต๊ะอาหาร“ขาหมูพะโล้ค่ะ..ตุ๋นตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วเปื่อยกำลังดีเลยค่ะ”“คุณท
ดนัยหนุ่มวัยสามสิบห้าเขาเข้ามาทำงานในบริษัทของภูริชเพราะมีจุดหมายที่ต้องการก็คือเอาชีวิตนาดีลเพราะแค้นที่นาดีลนั้นหลอกน้องสาวของเขามีสัมพันธ์ด้วยจนเกิดท้องแล้วไม่รับผิดชอบแถมยังส่งคนมาพาน้องสาวของเขาไปทำแท้งและขาดการติดต่อไปจนน้องสาวของเขาคิดสั้นฆ่าตัวตายเหตุนี้เขาจึงคิดว่าชีวิตก็ควรจะแลกด้วยชีวิตที่ภูริชต้องร้อนรนขับรถออกมาเองจนเกิดอุบัติเหตุก็เป็นเพราะฝีมือของเขาเพียงแค่ทำให้รถมีปัญหานิดหน่อยแล้วก็โทรไปบอกความจริงว่านาดีลจะพาน้องสาวของเขาไปทำแท้งคนเป็นพ่ออย่างภูริชที่ไม่อยากให้ใครมารู้ความชั่วของลูกตัวเองจึงเลือกที่จะขับรถออกมาคนเดียวตามที่ดนัยได้วางแผนเอาไว้ก้องภพมารับพราวพิ้งค์กลับมาที่บ้านของภคพลในช่วงเย็นโดยยังไม่ได้บอกเรื่องที่ภคพลนั้นเกิดอุบัติเหตุเพราะกลัวว่าหญิงสาวนั้นจะตกใจ“คุณพิ้งค์พาคุณหนูพักผ่อนตามสบายเลยนะครับส่วนอาหารเย็นผมสั่งมาเรียบร้อยแล้วอยู่ที่โต๊ะอาหารในครัวครับ”“แล้วคุณพอลไปไหนคะ...เค้าจะกลับมาเมื่อไร”พราวพิ้งค์รีบชิงถามก้องภพขณะที่เขาจะหันหลังเดินออกไปจากบ้านหลังจากที่มาส่งเธอ“เอ่อ..คุณพอลติดประชุมด่วนครับคืนนี้น่าจะไม่ได้กลับนะครับคุณพิ้งค์”“ค่ะ”ก้องภพ