Share

ตอนที่16 คำนินทา

ทางด้านในโรงอาหารที่ไร่ช่วงกลางวันผู้คนต่างจับกลุ่มกันพูดถึงเรื่องที่ลำเพยได้รับรู้มาบางคนที่สนใจเรื่องชาวบ้านก็จะพูดต่อปากต่อคำกัน

แต่บางคนที่สนใจแต่งานก็ทำเป็นไม่รับไม่รู้เรื่องของคนอื่นแต่เห็นประเภทไม่อยากรู้จะมีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นเพราะการติฉินนินทาของชาวบ้านชนบทเหมือนจะมองกันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วทั้งที่มันไม่ควรจะเป็นเช่นนั้นเลย

“อยู่ด้วยกันทั้งคืนเลยเหรอ”

ลำเพยไม่เพียงแค่พูดในโรงอาหารเท่านั้นแต่รามมาถึงขณะที่มาทำความสะอาดที่สำนักงานไร่ด้วยจนสาวๆที่ทำงานอยู่ในสำนักงานต่างก็หูผึ่งตาโพรงไปตามๆกันเมื่อได้รับรู้เรื่องของพราวพิ้งค์และภคพล

“ก็ใช่น่ะสิแถมยังใส่เสื้อคุณพอลแค่ตัวเดียวด้วย.. สองคนนี้จุดติดกันไวเนอะ”

ลำเพยเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงแห่งความมั่นอกมั่นใจว่าอย่างไรพราวพิ้งค์และภคพลก็จะต้องมีสัมพันธ์กันในคืนที่ผ่านมา

“ป้าเพยก็พูดไปพี่พิ้งค์แค่ช่วยดูแลคุณพอลเท่านั้น”

ฟองจันทร์ที่ช่วยคนเป็นแม่เอากับข้าวมาให้คนในสำนักงานก็ถือวิสาสะโต้เถียงแทนพราวพิ้งค์เพราะเชื่อในตัวพี่สาวของเธอว่าไม่ทำตัวง่ายกับผู้ชายที่ไม่ได้รักแน่นอน

“เราน่ะจะไปรู้อะไรต้องคนอาบน้ำ​ร้อนมาก่อนอย่างป้านี่..ดูปราดเดียวก็รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น”

ลำเพยยังคงเถียงเด็กสาวเสียงแข็งจนฟองจันทร์คร้านจะโต้ตอบ

“พี่คี”

ฟองจันทร์กำลังส่ายหัวด้วยท่าทีเหนื่อยใจของนิสัยคนแก่ที่แก้ไม่หายพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นคีรินที่ยืนอยู่หน้าประตูเดาว่าเขาคงได้ยินลำเพยพูดถึงพราวพิ้งค์ตั้งแต่แรกแน่นอนถึงได้ยืนทำหน้าบึ้งตึงเช่นนั้น

“พี่ฝากเช็กค่าไวน์ให้คุณพิ้งค์ด้วยนะจันทร์”

คีรินยื่นเช็กให้ฟองจันทร์ที่กำลังเดินเข้ามาหาก่อนจะปลีกตัวกลับไปทันที

“ค่ะ.. “

หญิงสาวรีบสาวเท้าเช็กเข้ามาที่โต๊ะทำงานของพราวพิ้งค์และเก็บเช็กเข้าลิ้นชักก่อนจะรีบเดินออกไปจากสำนักงานตามคีรินไป

“พี่คีคะ”

“หืม”

คีรินหยุดชะงักขณะที่จะเปิดประตูรถกระบะหันมามองฟองจันทร์ตามเสียงเรียกของเธอ

“อย่าคิดมากเลยนะคะพี่พิ้งค์แ​ค่ต้องดูแลคุณพอลตามคำสั่งเฉยๆ”

ฟองจันทร์กลัวว่าคีรินจะเข้าใจผิดและเก็บไปเสียใจเธอจึงพยายามพูดเพื่อให้เขาไม่ต้องไปสนใจเสียงของลำเพย

“อืม..พี่รู้ว่าคุณพิ้งค์ไม่ทำเรื่องเสียหาย”

“แล้วทำไมหน้าเสียไปล่ะคะ”

“พี่แค่ไม่ชอบฟังใครพูดถึงคุณพิ้งค์แบบนั้น..แต่ก็เข้าใจว่าห้ามใครคิดไม่ได้พี่กลับก่อนนะ”

คีรินเปรยรอยยิ้มอ่อนให้ฟองจันท์นึกเอ็นดูน้องสาวตัวเล็กที่อุตส่าห์ยังห่วงความรู้สึกของเขา

“ค่ะ”

ฟองจันทร์พอจะยิ้มได้เมื่อเห็นพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นไม่คล้อยตามเสียงของใคร หลังจากเขาขับรถออกไปได้สาวเจ้าก็กลับมาที่โรงครัวเพื่อช่วยแม่ของเธอดังเดิม

ฟองจันทร์รู้จักกับคีรินตั้งแต่เด็กๆเพราะหญิงสาวจำได้ว่าเธอเกิดมาก็รู้ว่ามีคีรินคอยมาเล่นด้วยตลอดจนเธอเริ่มโตจึงได้เริ่มห่างจากพี่ชายคนสนิทพอเธอเข้า ม.ปลายวัยแตกสาวความรู้สึกที่สนิทกับคีรินแค่พี่ชายกลับเปลี่ยนไปเธอรู้ตัวว่ารักเขาตั้งแต่ตอนนั้นแต่ก็ไม่กล้าบอกเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายคิดกับเธอแค่น้องสาว

จนวันที่เธอเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในเมืองก็ไม่ค่อยได้เจอหน้ากับพ่อเลี้ยงหนุ่มอีกเลยพอเรียนจบก็ได้มารับรู้ว่าคีรินนั้นชมชอบพราวพิ้งค์ความคิดที่เธอจะบอกความในใจกับเขาก็ทิ้งไปได้เลยและตอนนี้ยังแอบเชียให้พราวพิ้งค์ใจอ่อนกับคีรินด้วยทั้งเพราะอยากจะเห็นคีรินมีความสุขกับคนดีๆอย่างพราวพิ้งค์ที่เธอรักและเคารพเป็นพี่สาวอีกคนเหมือนกัน

ห้าวันต่อมา

เกือบอาทิตย์กว่าภคพลจะกลับมาเข้าไร่อีกครั้งไม่ใช่ว่าเขายังไม่หายดีแต่เพราะพราวพิ้งค์สั่งห้ามไม่ให้ชายหนุ่มเข้าไร่จนกว่าแผลของเขาจะหายดีเกือบร้อยเปอร์เซ็นเพราะหญิงสาวไม่อยากให้เขาต้องมาเจ็บป่วยซ้ำขณะทำงานอีก

“หน้าตาสดใสขึ้นนะครับคุณพอล”

สมหมายขับรถกระบะคันเก่าพาชาหนุ่มออกจากท้ายไร่เขาค่อยโล่งใจที่เห็นภคพลดีขึ้นกว่าวันที่เจ็บครั้งนั้นมาก

“ครับ..ผมพร้อมทำงานแล้ว”

“วันนี้คุณพอลคงต้องช่วยดูรถที่มาขนองุ่นในไร่นะครับอยู่ถัดไปจากไร่ส้มไม่เท่าไร”

“ครับ..ให้ผมทำอะไรก็บอกมาได้เลย”

ภคพลพร้อมทำงานเต็มที่เพราะรู้สึกเบื่อหน่ายกับการอยู่ที่กระท่อมนั้นหลายวันแม้นงานไร่งานสวนจะเป็นงานที่ไม่ถนัดแต่เมื่อคิดในแง่ดีมันก็เป็นความท้าทายที่สร้างประสบการณ์ให้เขาได้เหมือนกัน

ในส่วนของพราวพิ้งค์เองก็ไม่กล้าที่จะย่างก้าวเข้ามาในสำนักงานไร่เท่าไรนักเพราะรู้เรื่องจากฟองจันทร์ว่าผู้คนพูดถึงเธอในทางที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไรแต่ก็ต้องเข้ามาทำงานเพราะเป็นหน้าที่แม้นจะอึดอัดกับสายตาคนอื่นที่มองมายังเธออย่างสงสัยแต่ก็ต้องทำตัวไม่รู้ไม่ชี้

ช่วงเที่ยงหลังจากภคพลจัดการดูเรื่องรถขนส่งที่เข้ามารับองุ่นเรียบร้อยแล้วเขาก็นั่งรถมาที่โรงครัวของไร่พร้อมกับคชาชายหนุ่มรูปร่างกำยำวัย35ผู้จัดการไร่องุ่น

“คนที่นี่ทำไมมองผมแปลกๆ”

ภคพลสังเกตเห็นผู้คนในไร่ที่กำลังทานอาหารคอยแต่จะจับจ้องมาที่เขาพักใหญ่ตั้งแต่มานั่งทานข้าวคราแรกจนจะอิ่มแล้วก็ยังไม่วายที่จะมอง

“เอ่อ.. คุณพอลไม่รู้จริงๆเหรอครับ”

คชาเลิกคิ้วเล็กน้อย

“อะไรครับ”

“ก็..ผมได้ยินว่าไม่กี่วันก่อนพิ้งค์อยู่กับคุณพอลทั้งคืน”

คชาค่อยๆพูดเสียงอ่อนคราแรกคิดว่าภคพลจะรู้เรื่องแล้วเสียอีกว่าที่ไร่เขาพูดกันยังไงเรื่องของพราวพิ้งค์และภคพล

“อ๋อ..งั้นเหรอครับ”

ภคพลหลี่สายตาลงพรางพยักหน้าด้วยท่าทีมีเลศนัยเขาก็พึ่งจะเข้าใจในสายตาของผู้คนที่มองมายังเขาก็ตอนนี้นี่เอง

“บางคนก็เชื่อว่าพิ้งค์แค่ดูแลคุณพอลที่กำลังป่วยแต่บางคนก็คิดมากกว่านั้น”

“แล้วคนส่วนมากคิดแบบไหน”

“ผมว่าคุณพอลน่าจะเดาออก..แต่อย่าเหมารวมมาถึงผมนะครับเพราะผมไม่ชอบยุ่งเรื่องของใคร”

คชาตอบไปตามตรงเรื่องชาวบ้านเขาไม่อยากจะสนใจเรื่องติฉินนินทากันในไร่มีมาแล้วก็มีไปเหมือนจะเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

ภคพลอมยิ้มอ่อนเขาไม่ได้ซีเรียสอะไรกับเรื่องการนินทาของผู้คนนับว่าเป็นการดีที่ทุกคนพูดถึงเรื่องของเขากับพราวพิ้งค์ไปแบบนี้ผู้ชายหน้าไหนจะได้ไม่กล้ามาเกาะแกะเธออีก

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status