เวลาเกือบโพล้เพล้หลังจากที่พราวพิ้งค์ได้ยาตามที่สั่งกับสมหมายสองแม่ลูกขับรถเก๋งเข้ามาจอดใกล้ๆกับทางเข้ากระท่อมริมธารน้ำตก
หญิงสาวอุ้มลูกวัยสองขวบพร้อมกระเป๋านมพะลุงพะลังเข้ามาบนชานกระท่อมยัยหนูพลอยขวัญดูท่าจะตื่นเต้นกับสถานที่แปลกใหม่ที่ได้มาพอสมควรดวงตากลมโตกวาดมองรอบๆด้วยท่าทีสงสัยปนตื่นเต้นแต่ยังคงนิ่งเงียบไม่ส่งเสียงรบกวนอะไรคนเป็นแม่
“คุณพอลคะ”
พราวพิ้งค์ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูกระท่อมของภคพลเธอเรียกหาชายหนุ่มเสียงดังแต่ไม่ยักจะมีใครเปิดประตู
“ปอออ..”
เด็กหญิงเอ่ยขานตามคำสุดท้ายของคนเป็นแม่เสียงดังแต่ประตูห้องก็ยังไม่ขยับพราวพิ้งค์จึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป
“คุณพอล”
พราวพิ้งค์เอ่ยเสียงเรียกภคพลอีกรอบเมื่อเข้ามาในห้องโถงของกระท่อมไม่นานนักคนในห้องนอนก็เปิดประตูออกมาจากห้องนอนท่าทางของภคพลไม่ค่อยดูดีเท่าไรนักพราวพิ้งค์จึงรับรู้ได้ทันทีว่าเขาน่าจะไข้ขึ้น
“คิดถึงผมเหรอ”
คนตัวโตที่ยืนหน้าซีดเผือดยังมีแก่ใจเอ่ยหยอกหญิงสาวที่กระเตงเจ้าก้อนกลมเข้ามาหาเขาถึงที่นี่
“แอ้..”
มือป้อมยกชี้หน้าภคพลพร้อมส่งเสียงใสเอ่ยทักคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มกว้างเพราะจำได้ว่าเคยเจอกัน
“ไง..เจ้าแก้มย้วย”
มือหยายกหมายจะสัมผัสพวงแก้มอมชมพูของยัยหนูพลอยขวัญแต่พราวพิ้งค์อุ้มลูกเอี้ยวตัวหลบไปก่อน
“อย่าค่ะ..เดี๋ยวแกจะติดไข้คุณ..”
พราวพิ้งค์กลัวว่าคนที่จะเป็นไข้คนต่อไปจะเป็นลูกสาวเธอจึงถอยห่างชายหนุ่มอยู่ในระยะที่ปลอดภัย
“ยัยหนูนั่งรอแม่ตรงนี้นะคะ”
พราวพิ้งค์เดินเข้ามาจนสุดห้องโถงวางยัยหนูกับพื้นก่อนจะดึงของเล่นในกระเป๋านมออกมายื่นให้กับลูกน้อย
“มานี่ค่ะ”
เมื่อจัดการกับลูกสาวให้นั่งอยู่กับที่ได้พราวพิ้วค์ก็เดินจูงมือของภคพลเข้ามาในห้องนอนของเขา
“ยาค่ะ..”
แค่อุณหภูมิในมือของชายหนุ่มพราวพิ้งค์ก็รับรู้ได้ว่าเขานั้นไข้ขึ้นสูงแค่ไหนเธอจึงรีบแกะยาที่ซื้อมาพร้อมขวดน้ำส่งให้กับภคพล
“ห่วงผมด้วย..”
คิ้วหนายกขึ้นเล็กน้อยทั้งเปรยสายตาสงสัยมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าก่อนจะรีบทานยาที่หญิงสาวยื่นให้
“ฉันไม่อยากให้พ่อเลี้ยงมาว่าฉันดูแลคุณไม่ดี..แผลที่หัวไหล่คุณไปโดนอะไรมา”
พราวพิ้งค์หลุบสายตาลงเล็กน้อยก่อนจะถามถึงเรื่องแผลของเขาที่เธอได้เห็นเลือดเมื่อวันงานแต่งของแดนไทย
“ผมถูกยิง”
“อะไรนะคะ”
น้ำเสียงหวานสบถออกมาด้วยความตกใจ
“ให้เดาว่าคุณยังรักษาแผลไม่หาย..แล้วก็ไม่ยอมทานยาที่หมอสั่งใช่หรือเปล่า”
“ก็ไม่ชอบ”
ภคพลเอ่ยตอบเสียงห้วนในเมื่อหญิงสาวรู้ดีอยู่แล้วก็ไม่น่าจะถาม
“แผลล่ะคะล้างทุกวันหรือเปล่า”
“ก็..ถ้าไม่ลืม”
ภคพลเบือนหน้าหนีพราวพิ้งค์ความเจ้ากี้เจ้าการในตัวเขาของเธอยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไม่รู้ว่าหญิงสาวเป็นแบบนี้กับเขาคนเดียวหรือกับทุกคนกันแน่
“ทำไมไม่คิดห่วงตัวเองบ้างคะ..ดีที่ฉันฝากลุงสมซื้ออุปกรณ์ทำแผลมาด้วย..ถอดเสื้อค่ะ”
ภคพลดึงเสื้อยืดของตนออกด้วยความทุลักทุเลเพราะรู้สึกปวดหนึบที่เนื้อตัวและมากเป็นพิเศษที่แผลเก่าพราวพิ้งค์เห็นเช่นนั้นเธอจึงช่วยเขาถอดเสื้อยืดตัวบางออก
ดวงตากลมโตแอบหลุบลงต่ำเล็กน้อยด้วยมาเห็นเรือนร่างกำยำของเขาก็พาลนึกถึงตอนที่เธอต้องเป็นคู่นอนบนเตียงของชายหนุ่ม
หลังจากถอดเสื้อให้ภคพลเรียบร้อยพราวพิ้งค์จึงหยิบกล่องอุปกรณ์ทำแผลจากในถุงกระดาษออกมาหญิงสาวแกะผ้าแปะแผลของชายหนุ่มออกเธอถึงกับขมวดคิ้วเพราะสภาพแผลนั้นดูไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
“แผลคุณช้ำขนาดนี้จะไม่ทานยาได้ยังไงเกิดเป็นอะไรก็ต้องให้คนมาช่วยหามส่งโรงพยาบาลอีก”
พราวพิ้งค์บ่นอุกพร้อมทั้งล้างแผลให้ชายหนุ่มด้วยความเบามือส่วนเจ้าตัวคนเจ็บกลับนั่งอมยิ้มอ่อนเมื่อเห็นท่าทีห่วงใยของหญิงสาว
“ผมจะเข้าใจว่าที่คุณบ่นคือห่วงผม”
“ก็บอกว่าไม่ใช่ไงคะ..จะคิดยังไงก็เรื่องของคุณเถอะ”
ริมฝีปากบางบุ้ยเล็กน้อยทั้งยังทำปากแข็งไม่ยอมพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาง่ายๆเวลาผ่านไปไม่นานนักพราวพิ้งค์ก็ล้างแผลให้ภคพลเสร็จเป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าก้อนกลมสาวขาเป็นมัดเข้ามาหาคนเป็นแม่ในห้องนอนของชายหนุ่ม
“แม่จ๋า..”
“ว่าไงคะ”
“จินนม”
“ตามแม่มาค่ะ...”
พราวพิ้งค์เช็ดแอลกอฮอลที่มืออีกครั้งจนแห้งเธอรีบเดินจูงมือเจ้าตัวกลมออกไปที่โถงกระท่อมเพื่อเปิดกระเป๋าชงนมให้ลูกน้อย
ภคพลยืนมองสองแม่ลูกอยู่ห่างๆเขามองจ้องทั้งสองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยในตัวของยัยหนูพลอยขวัญแต่ก็พยายามสลัดความสงสัยให้ไม่ต้องมากวนใจอีกต่อไปเพราะรู้ว่าอีกไม่นานเขาก็จะได้รู้ความจริง
พราวพิ้งค์พยายามเช็ดตัวลูกน้อยขณะที่ยัยหนูพลอยขวัญนอนดูดขวดนมเพราะรู้ว่าอีกเดี๋ยวลูกเธอคงหลับ เวลาผ่านไปพักใหญ่เมื่อนมหมดไปสองขวดเจ้าก้อนกลมก็เข้าสู่ห้วงนิทรา
“คุณกับลูกนอนที่นี่สิ”
ภคพลเดินออกมาชวนหญิงสาวให้นอนที่นี่หลังจากที่ปูฟูกนอนกับพื้นเรียบร้อยเพราะเห็นว่าฟ้ามืดแล้ว
“ไม่ค่ะ”
พราวพิ้งค์รีบส่ายหัวปฏิเสธเสียงแข็งก่อนจะอุ้มลูกและรีบเก็บขวดนมเข้ากระเป๋า
“เกิดผมช็อคเพราะไข้ขึ้นสูงขึ้นมาจะทำไง..”
“ฉันจะโทรให้คนในไร่มาเฝ้าคุณค่ะ”
“ถ้าคุณจะให้คนอื่นมาเฝ้าผม..ก็เท่ากับทรมานคนอื่นเพราะเค้าก็เหนื่อยงานมาทั้งวันแล้วอย่าไปกวนพวกเค้าเลย..ไม่คิดว่าแค่นอนเฝ้าคนป่วยอย่างผมคุณจะใจจืดใจดำไม่ยอมทำ”
พราวพิ้งค์หยุดชะงักฝีเท้าเธอยืนครุ่นคิดก่อนจะหลับตาด้วยท่าทีเหนื่อยใจและแล้วเธอก็ต้องยอมอยู่เฝ้าภคพลจนได้เพราะหากให้คนอื่นมาเฝ้าชายหนุ่มคงจะเป็นการรบกวนจริงๆอย่างที่ภคพลว่า
ครู่ต่อมา
“เสื้อผม..ไปอาบน้ำสิ”
หลังจากร่างบางวางเจ้าก้อนกลมลงกับเตียงได้ภคพลก็ยื่นเสื้อยืดสีเทาตัวโคร่งพร้อมผ้าขนหนูผืนสีน้ำตาลให้กับพราวพิ้งค์เพื่อให้เธอไปอาบน้ำ
ภคพลรู้ว่าหญิงสาวไม่ปฏิเสธที่จะใส่เสื้อของเขาด้วยตอนที่อยู่ด้วยกันเธอก็ใช้เสื้อของเขาใส่นอนออกบ่อย พราวพิ้งค์คว้าเสื้อพร้อมผ้าขนหนูในมือภคพลได้เธอรีบเดินออกไปจากกระท่อมลงไปที่ห้องน้ำโดยเร็วสาวเจ้าเข้ามาในห้องน้ำได้ก็ยืนนิ่งนึกหวนถึงวันเก่าได้ชัดเจนเธอจำได้ว่าตัวเองชอบเอาเสื้อยืดของภคพลมาใส่นอนอยู่บ่อยๆเพราะรู้สึกสบายกว่าชุดนอนวาบหวิวที่เขาซื้อเอาไว้ให้
“หยุดคิดได้แล้วพราว”
หญิงสาวหลับตาส่ายหัวเบาๆพยายามสลัดความคิดถึงภาพเก่าๆออกไปจากหัวสมองและรีบอาบน้ำให้เสร็จโดยเร็ว
พราวพิ้งค์เสร็จจากธุระในห้องน้ำได้เธอก็รีบกลับเข้ามาในห้องนอนของภคพลหญิงสาวค่อนข้างเบาใจเมื่อเห็นชายหนุ่มหลับลงที่ฟูกนอนข้างเตียงไปได้จะได้ไม่ต้องมีบทสนทนากันให้เธอรู้สึกอึดอัดหากมีบางคำถามที่เธอไม่อยากจะตอบครั้นเมื่อจะลงนอนบนเตียงข้างๆลูกสาวพราวพิ้งค์ก็อดไม่ได้ที่จะผุดลุกลงมาจากเตียงอีกครั้งมานั่งลงวาดหลังมืออังหน้าผากของภคพลอีกรอบเพื่อดูว่าไข้ของเขาลดหรือยังหลังจากทานยาไปร่วมชั่วโมงแล้วหญิงสาวพอจะยกยิ้มมุมปากได้เพราะตัวของชายหนุ่มไม่ร้อนเท่าตอนที่เธอมาเจอคราแรกจึงหมายจะลุกกลับไปนอนบนเตียงแต่ร่างของเธอก็ถูกคนตัวโตรวบดึงไปนอนกอดเสียก่อน“คุณพอล..ปล่อยค่ะ”คิ้วบางได้รูปขมวดขึ้นผูกโบดวงตากลมโตจ้องมองค้อนใบหน้าคมที่อยู่ห่างจากสายตาไม่ถึงคืบความเจ้าเล่ห์ของภคพลไม่มีใครเกินเลยจริงๆ“ขอนอนกอดคุณไม่ได้หรือไงทำอย่างกับเราไม่เคยนอนด้วยกัน”เสียงแหบพร่าก่ายกระซิบข้างใบหน้านวลทั้งจ้องมองใบหน้าที่คุ้นเคยไม่วางตา“นั่นมันอดีตค่ะ..ปล่อย”พราวพิ้งค์ไม่กล้าที่จะโวยวายอะไรมากเพราะกลัวว่ายัยหนูพลอยขวัญจะตื่นหากเป็นสถานการณ์อื่นภคพลคงถูกเธอดุเสียงแข็งไปแล้ว“ไม่...หนีผมมาทำไม”ชายหนุ่มยังรัดร่างบางแน
ทางด้านในโรงอาหารที่ไร่ช่วงกลางวันผู้คนต่างจับกลุ่มกันพูดถึงเรื่องที่ลำเพยได้รับรู้มาบางคนที่สนใจเรื่องชาวบ้านก็จะพูดต่อปากต่อคำกันแต่บางคนที่สนใจแต่งานก็ทำเป็นไม่รับไม่รู้เรื่องของคนอื่นแต่เห็นประเภทไม่อยากรู้จะมีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นเพราะการติฉินนินทาของชาวบ้านชนบทเหมือนจะมองกันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วทั้งที่มันไม่ควรจะเป็นเช่นนั้นเลย“อยู่ด้วยกันทั้งคืนเลยเหรอ”ลำเพยไม่เพียงแค่พูดในโรงอาหารเท่านั้นแต่รามมาถึงขณะที่มาทำความสะอาดที่สำนักงานไร่ด้วยจนสาวๆที่ทำงานอยู่ในสำนักงานต่างก็หูผึ่งตาโพรงไปตามๆกันเมื่อได้รับรู้เรื่องของพราวพิ้งค์และภคพล“ก็ใช่น่ะสิแถมยังใส่เสื้อคุณพอลแค่ตัวเดียวด้วย.. สองคนนี้จุดติดกันไวเนอะ”ลำเพยเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงแห่งความมั่นอกมั่นใจว่าอย่างไรพราวพิ้งค์และภคพลก็จะต้องมีสัมพันธ์กันในคืนที่ผ่านมา“ป้าเพยก็พูดไปพี่พิ้งค์แค่ช่วยดูแลคุณพอลเท่านั้น”ฟองจันทร์ที่ช่วยคนเป็นแม่เอากับข้าวมาให้คนในสำนักงานก็ถือวิสาสะโต้เถียงแทนพราวพิ้งค์เพราะเชื่อในตัวพี่สาวของเธอว่าไม่ทำตัวง่ายกับผู้ชายที่ไม่ได้รักแน่นอน“เราน่ะจะไปรู้อะไรต้องคนอาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างป้านี่..ดูปราดเดียวก็รู
“นี่ครับคุณพอลจดหมายมาถึงเมื่อกลางวัน”สมหมายยื่นซองสีน้ำตาลที่พึ่งมาส่งในสำนักงานเมื่อกลางวันให้ภคพลขณะที่ชายหนุ่มกำลังนั่งรอเขามารับกลับบ้านที่แคร่ไม้ไผ่หน้าไร่องุ่นยามเย็น“ขอบคุณครับลุงสม”ภคพลรีบเปิดซองจดหมายดูทันทีเมื่อเห็นว่ามาจากณดลชายหนุ่มเปิดอ่านข้อมูลในจดหมายได้เขาก็นั่งนิ่งเงียบครู่หนึ่งจนสมหมายเริ่มตกใจกับท่าทีแปลกไปของภคพล“คุณพอล..มีอะไรหรือเปล่าครับ”“ลุงสมไปส่งผมที่บ้านพิ้งค์หน่อยนะครับผมมีธุระจะคุยกับเธอ”“ครับ”สมหมายค่อนข้างสงสัยในพฤติกรรมของภคพลพอสมควรแต่ก็มีมารยาทพอที่จะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาไม่นานนักรถกระบะคันเก่าก็มาจอดที่ปากทางเข้าบ้านของพราวพิ้งค์ภคพลกำซองจดหมายแน่นก่อนจะรีบลงจากรถ“ลุงสมกลับได้เลยนะครับถ้าผมจะกลับเดี๋ยวให้พิ้งค์ไปส่ง”“ครับ”สมหมายขับรถออกไปได้ภคพลก็เดินดุ่มเข้ามาในบ้านของพราวพิ้งค์ทันที“มีธุระอะไรถึงต้องมาที่นี่คะ”พราวพิ้งค์สาวเท้าออกมาจากในครัวเมื่อได้ยินเสียงรถกระบะหน้าบ้านเมื่อออกมาก็ต้องตกใจเพราะเห็นว่าเป็นภคพลที่เดินหน้านิ่วคิ้วขมวดมายืนอยู่หน้าประตู“ดีจ้า..”เจ้าก้อนกลมเห็นคนคุ้นหน้าเดินเข้ามาในบ้านก็ยกมือป้อมสวัสดีทั้งทัก
“ปี๋..เจื้อ..”เจ้าก้อนสาวขาป้อมวิ่งออกมาหน้าบ้านเข้าไปในดงดอกไม้ที่ผู้เป็นแม่ปลูกเอาไว้เพื่อไล่จับผีเสื้อหลากสีเช่นที่เคยเล่นทุกวันมือป้อมน้อยไล่บีบขยำอย่างคันไม้คันมือแต่ก็ไม่เคยจับผีเสื้อได้สักตัว“ปี๋เจื้อ..”เด็กหญิงวิ่งเข้ามาหาคนตัวโตที่นั่งจ้องตัวเองอยู่ไม่วางก่อนจะดึงมือชายหนุ่มให้ไปจับผีเสื้อช่วยเพราะรู้ดีว่าหากวิ่งจับเองคงจะเหนื่อยกว่าจะจับได้ภคพลอยากจะรวบอุ้มเจ้าก้อนกลมมากอดหอมสักฟอดใหญ่ติดตรงที่เขายังไม่ได้อาบน้ำกลัวเหงื่อไคลหรือสิ่งสกปรกจากเสื้อผ้าของตนจะระคายเคืองผิวลูกน้อยจึงทำได้แค่เดินตามเท่านั้น“ปี๋เจื้อ..จับ”ดวงตากลมโตเงยจ้องมองหน้าคนตัวสูงชี้ไม้ชี้มือหมายจะให้ช่วยจับผีเสื้อที่ตัวเองไม่สามารถจับได้“ให้พ่อจับเหรอครับ...”ภคพลอมยิ้มอ่อนก่อนจะย่อตัวลงนั่งเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยนคุยกับเจ้าตัวกลมใกล้ๆเด็กหญิงถึงกับขมวดคิ้วจ้องมองชายหนุ่มด้วยท่าทีแปลกใจกับสรรพนามที่ชายหนุ่มแทนตัวเองว่าพ่อภคพลมองจ้องไปยังนัยน์ตาไร้เดียงสาของยัยหนูพลอยขวัญเขามีความรู้สึกหน่วงอยู่ในใจไม่น้อยด้วยคิดไปไกลว่าหากเขามาเจอพราวพิ้งค์ช้าไปกว่านี้ลูกของเขาจะมีชีวิตที่ขาดพ่อไปอีกนานเท่าไรทั้งยังนึกน้
“ถ้าเป็นเรื่องผมกับเธอ..ผมให้คำตอบคุณได้..”ด้วยความที่ไม่อยากให้พราวพิ้งค์อยู่ใกล้คีรินภคพลจึงรีบปรี่เข้ามาโอบไหล่มนของหญิงสาวต่อหน้าต่อตาพ่อเลี้ยงหนุ่มพราวพิ้งค์เองก็ถึงกับยืนนิ่งกลืนน้ำลายไม่ลงคอไม่รู้ว่าภคพลจะหาเรื่องอะไรคีรินอีก“ผมกับพิ้งค์เราเคยอยู่ด้วยกันตั้งแต่เธอยังเรียนปี2ที่เธอมาอยู่ที่นี่เพราะเรามีเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อยแต่ตอนนี้เราเข้าใจกันดีแล้ว...ดูหน้าพยานรักของผมกับเธอสิ”ภคพลว่าพรางชี้มือมายังเจ้าก้อนกลมที่ทาแป้งจนตัวขาวโพลนในบ้าน พราวพิ้งค์เองก็ได้แต่ยืนเงียบเห็นทีครั้งนี้คีรินคงจะตัดใจจากเธอได้เสียทีแม้นจะเป็นการดับฝันของพ่อเลี้ยงหนุ่มในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไรนักคีรินตัวชาวาบยืนนิ่งงันยิ่งพราวพิ้งค์ไม่มีคำปฏิเสธอะไรเขาก็ยิ่งเข้าใจในสถานะตัวเองว่าต่อไปควรจะปฏิบัติตัวกับเธอเช่นไรคิดสงสัยตั้งแต่เห็นพราวพิ้งค์เป็นห่วงภคพลในครั้งก่อนแล้วว่ามันแปลกจากวิสัยของเธอที่แท้ก็เคยคุ้นเคยกันมาก่อนนั่นเอง“ผม..เข้าใจแล้ว”น้ำเสียงของพ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยอย่างแผ่วเบาแทบจะมีแต่เสียงลมก่อนจะเดินคอตกกลับไปที่รถและขับออกไปจากหน้าบ้านหญิงสาวไปอย่างรวดเร็วคีรินกลับไปได้พราวพิ้งค์ก็
“ไม่..คุณก็รู้ดีว่าผมชอบบรรยากาศช่วงเช้าๆแค่ไหน”“อื้ออ..”ว่าจบก็บดเบียดตัวตนสอดใส่ไปในช่องทางรักของพราวพิ้งค์จนสาวเจ้าหลับตาปี๋ส่งเสียงท้วงในลำคอเพราะจุกที่อีกฝ่ายสอดใส่โดยที่ไม่ทันตั้งตัวและแล้วบทรักอันเร่าร้อนในเช้าอันแสนสดใสก็ได้เริ่มขึ้นสมใจภคพล อาหารเช้าของวันนี้พราวพิ้งค์เห็นทีจะได้ไปหาซื้อตลาดในหมู่บ้านเพราะคงจะเตรียมไม่ทันอาทิตย์ต่อมาวันเวลาที่ภคพลมาอยู่บ้านของพราวพิ้งค์อย่างเป็นทางการเป็นเวลาอาทิตย์กว่าจนตอนนี้ผู้คนต่างก็รับรู้กันหมดแล้วว่าภคพลและพราวพิ้งค์เป็นอะไรกันทั้งสองไม่ต้องเปล่าประกาศให้ใครรู้ด้วยตัวเองเพียงแค่มีแขกไปใครมาที่บ้านของพราวพิ้งค์ก็จะรู้เรื่องของทั้งสองและเอาไปพูดต่อกันเองส่วนคีรินก็หายหน้าหายตาไม่ได้เข้ามาที่ไร่เหมวัตอีกเลยหากมีธุระก็จะให้คนสนิทมาจัดการแทนโดยให้เหตุผลว่าตนไม่ว่างแต่ทุกคนก็ดูออกว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นท่าจะอยู่ในอาการอกหักตกเย็นพราวพิ้งค์ปั่นจักรยานพายัยหนูพลอยขวัญมาดูคนเป็นพ่อที่เดินตรวจงานในไร่หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตไปจนหมดเมื่อวันก่อน“เหลืองานอะไรที่ต้องให้คนงานมาทำคะ”พราวพิ้งค์ปั่นจักรยานเข้ามาจอดใกล้ๆร่างสูงที่กำลังเดินสำรวจร่อง
“เมื่อกี้ปลาหวานนางแบบที่ผมจ้างเธอควงไปงานวันเกิดหมอเหนือ..เห็นเธอขยันทำงานเพราะจะเอาเงินไปจ่ายค่าเทอมผมเลยเสนอให้เธอเองไม่มีเรื่องชู้สาวสาบานได้”ภคพลไม่ได้มีแก่ใจพิศวาสปลาหวานแม้แต่น้อยตอนที่จะหาคู่ควงก็ติดต่อผ่านโมเดลลิ่งไม่ได้จ้างด้วยตัวเองด้วยซ้ำ“บอกทำไมคะ”พราวพิ้งค์เริ่มมีน้ำเสียงและท่าทีอ่อนลงทั้งที่ในใจก็ยังรู้สึกเชื่อคำพูดภคพลไม่เต็มร้อย“บอกให้เมียรู้ไงจะได้ไม่ต้องเข้าใจผิดคิดว่าผมมักมากอีก...ผมไปอาบน้ำก่อนและจะช่วยดูแลยัยหนูคุณจะได้ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง”ว่าจบก็เดินอมยิ้มอ่อนออกจากครัวไปอาบน้ำสบายใจที่ได้พูดความจริงให้หญิงสาวได้ฟังดูจากท่าทีเธอแล้วก็น่าจะมีแก่ใจเชื่อคำพูดเขาอยู่บ้างท้องฟ้าเกือบจะมืดฟองจันทร์ช่วยคนเป็นแม่ที่ไร่เสร็จก็ปั่นจักรยานมาหาคีรินที่บ้านหลังใหญ่ท้ายไร่ของชายหนุ่มที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเจ้าตัวมากนักเพื่อมาดูอาการของคีรินเพราะเห็นเขาเอาแต่เก็บตัวเงียบมาหลายวันหลังจากที่ทุกคนรู้เรื่องของภคพลและพราวพิ้งค์“พี่คีอยู่หรือเปล่าคะพี่นิ่ม”เมื่อปั่นจักรยานแม่บ้านคันสีชมพูมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ของคีรินได้ฟองจันทร์ก็เจอนารีแม่บ้านวัยสามสิบกว่าที่เข้ามาดูแ
“ได้...ผมดูคุณแทนก็ได้”“คุณพอล” ฟอดดร่างสูงลุกจากเก้าอี้ตวัดรวบอุ้มพราวพิ้งค์ขึ้นสาวเท้าสองสามก้าวไปวางเธอลงบนเตียงทาบทับร่างของเธอด้วยตัวของเขาก่อนจะกดหอมเข้าที่แก้มนวลฟอดใหญ่“ไม่กี่วันคุณพ่อจะมาที่นี่เพราะรู้เรื่องเราแล้ว..ท่านต้องการให้เราจดทะเบียนกันให้เร็วที่สุด”“คุณพอลแน่ใจเหรอคะว่าต้องการจะรับผิดชอบยัยหนูจริงๆ”ดวงตากลมโตหวานเหลือบจ้องมองเข้าไปนัยน์ตาสีฟ้าของชายหนุ่มเธอไม่เชื่อในตัวของภคพลสักเท่าไรว่าจะอยากรับผิดชอบภาระที่มีจริงๆกลัวว่าจะเห่อชั่วพักชั่วครู่เพราะอยากจะเอาชนะเธอมากกว่า“เคยเห็นผมพูดเล่นหรือไง...ถ้ายังไม่แน่ใจในตัวผม...ผมจะไม่พูดอะไรให้คุณเชื่ออีก.. ขอให้ใช้เวลาหลังจากนี้ดูการกระทำ..ขอแค่นั้น”พราวพิ้งค์เริ่มหลบสายตาอีกฝ่ายที่กำลังขอร้องเธอเสียงอ่อนในหัวสับสนไปหมดว่าจะเชื่อใจชายหนุ่มดีหรือไม่ดี ยังไม่ทันจะคิดตกริมฝีปากบางของเธอก็ถูกเขาครอบครองไม่ทันตั้งตัวและแล้วไม่นานนักคืนนี้ร่างบางก็ตกเป็นของคนเจ้าเล่ห์อีกคืนวันต่อมาวันนี้เป็นวันหยุดภคพลไม่ยอมอยู่เฉยเมื่อพราวพิ้งค์ทำอะไรเขาก็ตามติดเธอทุกที่และคอยช่วยเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่างโดยเฉพาะเวลาต้องทำอาหารให้ลูกรวมไป