บทที่12.สวรรค์มีตา...นรกมีจริง...
วันหยุดที่ธรรมดา วันวาดจะต้องกลับบ้านเพื่อพักผ่อนส่วนตัว แต่...วันนี้ โจนาธานร้องขอเอาไว้ และหญิงสาวเองก็เต็มใจที่จะอยู่ใกล้ๆ เขา ตามที่หัวใจลึกๆ สั่งการ รู้อยู่เต็มอกว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แต่หัวใจเจ้ากรรมดัน...ไม่ฟังเสียงสมองเสียแล้ว ความสุขเล็กๆ ของวันวาดที่พยายามไม่ให้ใครรู้ เธอดีใจทุกครั้งที่โจนาธานมีอาการดีขึ้น หญิงสาวอยากเห็นเขามีแต่รอยยิ้ม...
“จะไปไหนกันเหรอ? เห็นวุ่นวายกันแต่เช้า”
เบนร้องถาม เขาเห็นการ์ดกับสาวใช้หลายคนวิ่งวุ่น ตั้งแต่เช้าตรู่
แป้นหันมาตอบคำถามเจ้านายหนุ่มยิ้มๆ “คุณโจสิคะ จะออกไปข้างนอก”
เบนเลิกหัวคิ้วขึ้น เขายิ้มกว้างเมื่อเข้าใจความหมาย น้องชายของเขาเก็บตัวเงียบมาตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้น โจนาธานไอ้หนุ่มเจ้าสำราญหายไป ทิ้งไว้แค่ผู้ชายเจ้าอารมณ์ขี้วีน...กลายเป็นคนเก็บตัวเพราะมีปม!!
“จริงดิ!! ไปไหนกันล่ะ” เบนถามยิ้มๆ
“ไม่รู้ค่ะ...สงสัยอยากพาคุณวาดไปเดท...” แป้นกระซิบกระซาบ การเปลี่ยนแปลงของเจ้านายก็น่าจะเพราะคุณพยาบาลสุดสวย วันวาดสวยพิศ ยิ่งมองยิ่งชื่นใจ อยู่ใกล้แล้วพลอยสดชื่นไปด้วย ไม่แปลกหรอกที่ผู้ชายอย่างโจนาธานจะชอบ...เมื่อรอบตัวเจ้านายหนุ่มที่แป้นเคยเห็น มีแต่ผู้หญิงสมองกลวง หน้าอกตูมๆ กับมารยาปัญญาอ่อน ที่ผู้ชายชอบ แต่ผู้หญิงเห็นกลับหมั้นไส้แทน...แป้นสนับสนุน...หาก...เจ้านายจอมเหวี่ยง จะมีใจปฏิพัทธ์วันวาด...
“อืมมมม...ดีๆ”
เบนสนับสนุน เขาเดินกลับห้องไม่ได้ทักได้ทวง หากมันเป็นความสุขของน้องชาย และมาดามรินรำไพไม่ว่า...เบนคิดว่า มารดาไม่น่าจะแย้ง เพราะหลังโจนาธานผ่านความตายมาได้ มารดาสงบลงเยอะ จากที่เคยเคี่ยวเข็ญทั้งเขาและ โจนาธาน ดูจะลดลง...ไม่ค่อยพาผู้หญิงมาให้เขาดูตัว...และเบนไม่ต้องหาทางเลี่ยง...
“ยิ้มอะไรครับ...ท่าทางจะเป็นข่าวดี”
ไทย...การ์ดหนุ่มกึ่งเลขานุการของเบน เขาสองคนตัวติดกันเพราะงานในหน้าที่...แต่หารู้ไม่...ลับหลังสายตาทุกคน...ความสนิทสนมนั่น...แนบแน่นกว่าที่ใครรู้...
“อืม...ดูเหมือนว่าโจจะชอบวาด...” เบนทิ้งตัวลงนั่ง เขาเอนกายลงนอน ศีรษะเกยอยู่บนตักไทย เพราะเขากำลังนอนเอนๆ พิงหัวเตียงอยู่พอดี เบนจับมือไทยวางไว้เหนืออก เขาลูบหลังมือการ์ดหนุ่มแผ่วๆ
“คุณไม่รังเกียจหล่อนใช่มั้ยครับ?” ไทยยิ้มอ่อน เขาถามเจ้านายหนุ่มเสียงแผ่ว
“ไม่เลย...ฉันชอบวาดนะ” เบนตอบ เขารู้สึกว่าไทยตัวเกร็ง จึงรีบพูดต่อ “ไม่ใช่แบบที่นายคิดน่าไทย...วาดกับฉันไม่มีอะไรในกอไผ่ นายก็รู้ใจฉันอยู่กับใคร!!” เบนช้อนสายตาหวานเชื่อมมองคู่รักหนุ่ม...ใช่...เบนไม่ชอบผู้หญิง เขาไม่มีความรู้สึกอื่นใดกับพวกหล่อนเลย ออกจะขยะแขยงด้วยซ้ำ ยามมีผู้หญิงมาแตะต้องตัว ความรู้สึกตื่นเต้น กระสันอยาก เกิดขึ้นกับเพศเดียวกัน เขารู้ตัวเองดี...ชีวิตนี้...เขาไม่มีทางปกติเหมือนคนอื่น ความลับนี่จะอยู่กับเขาไปจนตาย...เขาไม่อยากให้มารดาเสียใจ ที่บุตรชายวิปริตผิดธรรมชาติ เบนถอนใจเฮือกใหญ่ๆ “พ่อของวาด...ก็แค่ผู้ชายแก่ขี้เหงา และดูเหมือนว่าเวลานี้จะกลับตัวทัน นายก็รู้...ฉันไม่เคยมองคนที่สมบัติติดตัว...โจก็เหมือนกัน...ที่โจมันแรดๆ ไปทั่ว เพราะมันยังไม่เจอตัวจริง...หากโจจะรักผู้หญิงสักคน...ฉันก็คิดว่า...วาดเหมาะที่สุด”
เบนพูดจบ...เขายิ้มกริ่ม เอื้อมมือรั้งบ่ากว้างของไทย...จนไทยต้องใจอ่อน โน้มตัวลงมาใกล้ๆ เขารู้ดีว่าเจ้านายที่พ่วงตำแหน่งคู่รัก คิดจะทำอะไร...
วันวาดถอยหลังช้าๆ เธอปิดงับประตูห้องของเบนด้วยมือที่สั่นระริก เหงื่ออุ่นๆ ไหลซึมเต็มอุ้งมือ กับภาพที่เพิ่งเห็นแบบจะๆ ตา...ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ เธอไม่คิดว่า ผู้ชายที่ดูดุดัน และแข็งกระด้าง...ฉากหลังเขามีความลับซุกซ่อนอยู่ เธอไม่ได้รังเกียจแค่ตกใจ!!
หญิงสาวผงะซ้ำสอง!! เมื่อหมุนตัวกลับมาพบโจนาธาน เขานั่งอยู่บนวีแชร์...เธอถอนใจเบาๆ เมื่อมีแค่โจนาธานคนเดียว เพราะหากมีเอกด้วย ก็ย่อมมีคนรับรู้เรื่องลับๆ ของเบนเพิ่มขึ้น
“เบนล่ะ”
ชายหนุ่มถามหาพี่ชาย เขาไม่ได้เห็นอย่างที่วันวาดเห็น โจนาธานต้องการพบเบน เลยให้วันวาดมาตาม แต่เขาเกิดหวงขึ้นมาจับจิต ผู้หญิงสาว กับผู้ชายหนุ่มๆ ที่ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง แถมเบนเองก็หล่อพอฟัดพอเหวี่ยงกับเขา โจนาธานเลยรีบตามมา
“เออ...”
วันวาดตะกุกตะกัก...เธอละล้าละลัง...ไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไรดี รู้แค่ว่า เธอควรรั้งชายหนุ่มเอาไว้ก่อน ก่อนที่เขาจะเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น
“คุณเบนยังไม่ตื่นค่ะ”
เธอตอบเสียงดังๆ หวังให้คนในห้องได้ยิน เขาสองคนจะได้เตรียมตัวพร้อม...ไม่หลุดพิรุธให้คนนอกรู้...
โจนาธานขมวดคิ้ว เขากดปุ่มที่เก้าอี้จนวีแชร์เคลื่อนที่เข้าไปใกล้ๆ ประตูห้องพี่ชาย
“เสียงดังทำไม...อยู่แค่เนี้ยะ!! ไงก็ได้ยิน....”
เบนเปิดประตูผั๊วะ!! เขาหน้าซีด ก่อนจะรีบปรับเปลี่ยนสีหน้า “มีไรวะโจ...บุกมาหาถึงห้อง...”
ชายหนุ่มคนน้องเหลือบมองวันวาด หน้าหล่อนซีดๆ พิกล ก่อนจะหันไปมองพี่ชายที่ดูตื่นๆ รนๆ ไม่ต่างกัน...ความหึงหวง ผุดขึ้นมากลางใจ สองคนนี่มีพิรุธ และเขาต้องรู้ให้ได้...
“เปล๊า!!” โจนาธานตอบเสียงกระชาก “แค่จะแวะมาบอกฉันจะออกไปข้างนอก กลัวพี่ไปหาแล้วไม่เจอ...”
“แค่นี้เอง...สั่งใครก็ได้นี่หว่า...แล้วจะไปไหนกันล่ะ ไปแต่เช้าเชียว...”
อากาศตอนเช้ามันเย็นฉ่ำ เบนกลัวว่าโจนาธานจะทรุด จึงพยายามท้วง
“จะไปกินข้าวเช้าที่ริมแม่น้ำเมย...สายๆ จะเข้าเมืองพายัยอวบกับวาดไปช็อป”
หนุ่มคนน้องตอบแบบเสียไม่ได้ เขาพยายามค้นหาพิรุธจากพี่ชายและคนใกล้ตัว...แต่กลับไม่พบอะไรเลย เพราะเบนกลบเกลื่อนสีหน้าตื่นๆ จนหมดสิ้น เหลือแต่แม่ตัวดีของเขานี่ละ ที่ยังมีริ้วรอยน่าสงสัย เอาเป็นว่า เขาจะเค้นเอาเอง...
“เป็นโปรแกรมที่ดี... แต่ฉันยุ่งว่ะ คงตามไปสมทบกับแกไม่ได้ ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะโจ ตอนนี้ยังจับมือใครดมไม่ได้ อย่าประมาท”
เบนเตือน ทั้งเขาและโจนาธานแน่ใจ อุบัติเหตุของโจนาธาน ต้องมีคนทำให้เป็น มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเครื่องยนต์ผิดปกติ แต่มันเกิดเพราะเจตนาคน...
วันวาดขมวดคิ้ว...เธอเหลือบมองชายหนุ่ม...พร้อมกับความกังวลลึกๆ หากมีคนปองร้ายเขา...ก็น่าจะเพิ่มการระวังตัวมากขึ้น
“อืม...ไม่ต้องห่วงเบน ถึงผมจะเดินไม่ได้ แต่มือผมก็ยังกระดิกไกปืนได้น่า”
โจนาธานตอบเสียงขรึม...รอให้เขาหายก่อนเถอะ เขาจะตามล่าหาคนร้าย จะจับมันมาเค้นคอ เพื่อหาคนบงการ ไอ้ลูกหมาใจเสาะที่ลอบกัดเขาข้างหลัง มันจะต้องได้รับผลตอบแทนคืน แบบไม่ยิ่งหย่อนกว่าที่เขาประสบ...
“มาดามจะมาถึงไทย...ไม่น่าจะเกินสิ้นเดือนนี้”
มาดามรินรำไพ...มารดาของสองหนุ่ม เธอมีทริปท่องเที่ยวรอบโลก เพราะเบนกับโจนาธานไม่อยากให้ท่านกลุ้มใจ...เพราะนางเสียใจอย่างหนัก...หลังเสียสามี แล้วโจนาธานยังมาเกิดอุบัติเหตุ...ชายหนุ่มจึงแสร้งทำเข้มแข็งต่อหน้ามารดา เพื่อทำให้ท่านคลายใจ จนยอมออกเดินทางเพื่อพักตัวและใจ “เหรอ...ก็ดี” ชายหนุ่มตอบกดหมุนวีแชร์ เพราะอยากรีบออกเดินทาง อยากกินข้าวเช้ากับวันวาดตอนที่พระอาทิตย์สีส้มๆ สาดแสงอ่อนๆ กระทบผิวน้ำ มันคงเป็นบรรยากาศสุดโรมานซ์... เบนเป่าปากพรวดๆ เขารีบปิดงับประตูลงและกดล็อก... “เธอกับเบนมีอะไรกันมั้ย!!” วันวาดเดินตาม เธอช่วยประคองหลังรถวีแชร์ ระวังหลังให้คนป่วยจอมดื้ออีกทาง หญิงสาวสะดุ้ง!! “ไม่มีค่ะ...วาดจะมีอะไรกับคุณเบนล่ะคะ?” เธอรีบตอบ พร้อมกับย้อนถามเพื่อเปลี่ยนความสนใจของชายหนุ่ม “ไม่มีก็ดี...พี่ชายฉัน...ไม่ใช่แบบที่เธอคิด” แม้จะไม่รู้ทั้งหมด...โจนาธานแน่ใจ เบนมีเบื้องลึก แต่เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของพี่ เลยไม่อยากใส่ใจ แต่เมื่อเกี่ยวพันกับวันวาด เขาก็จำเป็นต้องรีบสกัด “ค่ะ” ทั้งสองคนเงียบงันไปหลังจากน
“แน่นะคุณโจ” แป้นยิ้มกริ่ม “แน่สิวะ...ถ้าทำได้เอาไปเลย...” โจนาธานตอบเสียงเบาๆ แต่หนักแน่น “แป้นจัดให้...” สาวใช้ตัวอวบรับคำ หล่อนเดินถลาเข้าไปหาวันวาด พร้อมกับรีบดุนหลังหญิงสาว กลับไปที่ราวแขวนผ้าเหมือนเดิม หลังจากนั้นก็เริ่มต้นกระบวนการโน้มน้าววันวาด สารพันที่แป้นงัดเอามาล่อ...จนวันวาดไม่สามารถปฏิเสธได้ ในที่สุดหล่อนก็ยอมใจอ่อน...หลวมตัวทดลองใส่ชุดที่แป้นเลือกมายัดใส่มือให้ “ลองเลยค่ะ เราลองได้ค่ะคุณวาด ไม่ซื้อเขาก็ไม่ว่าหรอก ลองเป็นเพื่อนแป้นหน่อย แป้นอยากลองแต่ไม่กล้า” เปลือกตากระพริบปริบๆ ผสมกับใบหน้าอวบๆ ที่ม่อยลงไปถนัดใจ วันวาดจึงยอมใจอ่อน ทดลอง ลองชุดสวยๆ เหล่านั้น แม้จะเกรงใจเจ้าของร้านที่คอยอำนวยความสะดวกให้ เมื่อเธอไม่คิดจะซื้อ...เพราะแค่เห็นราคา ยังสะดุ้ง!! สวย...นิยามคำนี้ แทบไม่ผิดเพี้ยน หลังวันวาดเดินตัวลีบออกมาจากห้องลองเสื้อ ผู้หญิงคนเดิม เปลี่ยนแค่เสื้อผ้าบนร่างกาย ไม่อยากเชื่อตาก็ต้องเชื่อ เธอเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด คำกล่าวของคนโบราณว่าไว้ไม่มีผิด คนงามเพราะแต่ง ไก่งามเพราะขนเป็นความจริงแท้แน่นอน
ชายสูงวัยยิ้มเย้ย!! “สภาพแบบนี้ คิดจะกำแหงกับคนอย่างฉัน ไปหัดเดินก่อนดีกว่าไหมไอ้หนู!!” “ขาฉันเดินไม่ได้ก็จริงนะเสี่ย แต่คิดว่าฉันมีเขี้ยวเล็บแค่นี้เหรอ กับคู่ปรับที่เป็นผู้ชายแก่ๆ คนเดียว” โจนาธนตอบเสียงเย็น ถึงขาจะเดินไม่ได้ แต่มือของเขายังใช้การได้ และที่แน่ๆ เรื่องเหนี่ยวไกปืนเป็นงานถนัด ระยะเผาขนแบบนี้ เขาคิดว่าไม่มีทางพลาดเป้า พิไลลักษณ์มองโจนาธานตาวาว ถึงเขาจะนั่งอยู่บนวีแชร์ แต่ความหล่อเหลาก็ยังพุ่งทแยงตา องศาความหล่อเหนือชั้นกว่าเสี่ยกวงหลายร้อยเท่า เธอจึงมองอยู่ห่างๆ และจดจำรายละเอียดทุกเม็ด “มากไปไอ้หนู...ว่าแต่...เป็นไงบ้างละ หายหน้าไปเสียเป็นปีๆ เราก็นึกว่า...” ปากอูมๆ ขยับพูดแบบไม่มีเสียงแต่โจนาธานอ่านปากออก เขาเดือดจนแทบเต้น แต่จำเป็นต้องระงับอารมณ์เอาไว้... “ฉันไม่ตายง่ายๆ หรอกเสี่ย จนกว่าจะหาไอ้คนทำกับฉันเจอ รับประกันได้...มันจะได้ของสมนาคุณจากฉันคืน...แบบคาดไม่ถึง” ชายหนุ่มกล่าวเสียงเย็น เขามองสบนัยน์ตาหลุกหลิกของเสี่ยกวง เวลานี้โจนาธานฟันธง!! ไอ้เสี่ยอ้วนพุงพุ้ยนี่ อยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุร้ายแรงของเขาแน่ๆ
บทที่13.ควานหาคนร้าย วันวาดนั่งกอดอกนิ่งๆ ใบหน้าเธอฉาบไว้ด้วยความเฉยชา ดวงตาเหม่อมองออกไปด้านนอก ในขณะที่พาหนะสมรรถนะสูงวิ่งฉิว ตรงดิ่งกลับคฤหาสน์รูธ!! เรียวปากสีระเรื่อเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง... ปรายตามองถุงสารพัน...ที่กองแอ้งแม้งอยู่ด้านหลังด้วยความขุ่นเคือง... เธอเพิ่งจะทราบความจริง...ทุกชุดที่เธอทดลองสวมในร้านนั้น โจนาธานกวาดมาจนเกลี้ยง แถมยังจ้างแป้นทำร้ายพิไลลักษณ์ ถึงหล่อนจะสมควรโดนก็เถอะ แต่เธอไม่เห็นด้วยเรื่องการใช้กำลัง... “ใจคอจะไม่พูดกับฉันจริงๆ รึ?” ชายหนุ่มเปรย เขาอมยิ้มน้อยๆ จับตามองวันวาดทุกอิริยาบถ ไม่ว่าหล่อนจะทำอะไรก็ถูกตา ต้องใจไปหมด “วาดขอบคุณที่คุณออกตัวปกป้องวาด แต่...ไม่ต้องถึงขนาดนี้ก็ได้มั้งคะ” หญิงสาวตัดสินใจพูด เก็บไว้ในใจ คนที่เป็นทุกข์ก็คือเธอ “น้อยไปสิ...แม่นั่นบังอาจทำร้ายเธอ ดูสิ... แก้มเธอแดงก่ำแบบนี้ ฉันไม่สั่งเก็บก็บุญเท่าไรแล้ว...” ชายหนุ่มตอบ เขาไหวไหล่ ก่อนจะทิ้งตัวเองพิงเบาะนุ่มๆ “ป่าเถื่อน!!” “แหงอยู่แล้ว...ฉันไม่ใช่ลุคเจ้าชาย เ
“จริงเหรอ...ไม่แน่หรอก...” แป้นแย้งยิ้มๆ เธอไม่ใช่สาวใส ที่ไม่รู้อะไรเลย หลายครั้งที่โจนาธานแสดงออก มันเกินกว่าคนป่วยกับพยาบาล แม้ไม่เคยเห็นฉากเด็ดๆ เหมือนที่เอกเห็นวันนี้ แป้นแน่ใจ มันต้องมีอะไรในกอไผ่แน่...หนุ่ม สาวอยู่กันสองต่อสอง...ไม่มีอะไรเชียวหรือ เจ้านายหนุ่มถึงจะป่วย แต่ก็เป็นผู้ชาย... หญิงสาวพยายามอยู่เงียบๆ หลังเอกเข็นวีแชร์พาโจนาธานมาส่งในห้องพัก... ชายหนุ่มไม่ยอมขึ้นเตียง เขาเปลี่ยนอิริยาบถ นั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง มีรีโหมตทีวีจอยักษ์อยู่ในมือ เขากดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ เมื่อรู้สึกเบื่อๆ ตาก็คอยแต่จะมองตามวันวาด เมื่อหล่อนทำตัวเหมือนยุ่งเหลือเกิน จนไม่มีเวลาหยุดนิ่งให้เขามีโอกาสได้แควะ!! “ม้าดีดไง? เดินเหมือนกลัวไม่ได้ออกแรง” แก้วน้ำเย็นเฉียบมีไอน้ำเกาะพราวรอบตัวแก้ว วันวาดเดินถือมาวางไว้ใกล้ๆ โจนาธานชายหนุ่มจึงถือโอกาส จัดให้หนึ่งดอก!! หล่อนไม่ได้ตอบ แต่นั่นเท่ากับทำให้พายุอารมณ์ของโจนาธานพัดกระพือขึ้น!! “พูดกับฉันเนี๊ยะ!! มันจะทำให้ดอกพิกุลหล่นจากปากเธอเหรอหะ!!” ชายหนุ่มตวาดเสียงแหลมปรี๊ด หญิงสาวถ
บทที่14.แม่จ๋าอยากมีเมีย โจนาธานนั่งคอตกบนเตียง เขานึกแช่งชักตัวเอง มือใหญ่ๆ ยกขึ้นตบปากแรงๆ เมื่อปากเจ้ากรรมนี่แหละ ที่คอยแต่จะทำเรื่อง อยากพูดจาหวานหูกับวันวาด แต่ไม่รู้เป็นยังไง คอยแต่จะแควะหล่อน จนหญิงสาวต้องน้ำตาตกทุกที... “เป็นไรอีกวะโจ?” เบนเดินเข้ามาในห้องพักของน้องชาย กิจวัตรประจำวันที่เขาทำเป็นประจำ “เปล๊า!!” หนุ่มปากแข็งตอบเสียงสูง ช้อนสายตาขวางๆ มองพี่ชาย เบนทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่งข้างเตียง เขาตวัดขาขึ้นไขว่กัน เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ทอดสายตามองน้องชายตรงๆ “แก...หึง!! ฉันกับวาด...เหรอ?” คำถามจี้ใจดำ แต่คนปากแข็งหรือจะยอมรับ “บ้าสิพี่ ยัยพยาบาลกุ้งแห้งนั่น มีอะไรให้ผมหึง!!” โจนาธานแสร้งโวย เขาเสหลบตาเบน คนเป็นพี่อมยิ้ม เขาเอื้อมมือตบลงบนบ่าของน้องชาย “แกรู้ดีนี่ว่าพี่เป็นไง ถึงพี่ไม่บอกแกก็น่าจะเดาออก...ฉันไม่ชอบผู้หญิงว่ะ!!” เบนตัดสินใจพูดความจริง เขาไม่ควรมีความลับกับโจนาธาน เพื่อคลี่คลายความอึมครึมระหว่างน้องชายกับวันวาด... “เออ...ผม...” “แกตกใจสิ!! แต่มันคื
นางตอบบุตรชายคนโต ก่อนจะหมุนตัวไปมองจ้อง บุตรชายคนเล็ก ที่ยืนเฉยเหมือนหุ่นยนต์ “เมื่อไรก็ได้ครับ ยังไงแม่ก็อยู่ที่นี่แล้ว ผมยอมให้โจวันหนึ่ง” เบนกล่าวเสียงร่าเริง เขาเดินผิวปากออกไปจากห้อง นึกอยากเห็นหน้าวันวาด หากโจนาธานจะพามารดาไปเซอร์ไพรส์!! แต่เช้าตรู่!! “เอาล่ะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า แม่อยากรู้ทำไมโจถึงเร่งร้อนนัก ก็เราน่ะยังไม่แข็งแรงเลยนี่” นางหันมาซักบุตรชายคนเล็ก โจนาธานหวงความโสด เขามีแต่คู่ซ้อม ซึ่งนางพยายามเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ไม่ใส่ใจสาวๆ คู่ควงเหล่านั้น เมื่อบุตรชายยังไม่มีทีท่าว่าจะลงเอยกับใคร แต่วันนี้...โจนาธานร้องของ มันจึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น เมื่อสิ่งเดียวที่นางเฝ้ารอคอย คือการเห็นบุตรชายทั้งคู่ มีครอบครัวที่ดี มีคนไว้ใจได้ยืนอยู่ข้างกาย... โจนาธานเบ้ปาก เขาบิดปากไปมา เหตุผลข้อเดียวที่อยากมี ‘เมีย’ คือเขาไม่อยากอยู่ห่างจากหล่อน เมื่อสิ่งที่วันวาดทำกับเขา คือความเหินห่าง...เธอยืนกรานหนักแน่น ค่ำคืนนั้นคือคืนเดียวที่หล่อนยอมอยู่ใต้ร่างเขา เป็นแค่เมียพาร์ทไทม์จ้างรัก...ไม่มีวันเป็นเมียจริงๆ แต่...เขานี่ล่ะ ที
บทที่15.เซอร์ไพรส์สุดๆ รถยนต์รับจ้างแล่นมาจอดหน้าประตูบ้านพิศิษรุ่งเรือง สาวใหญ่ในชุดสีสันสะดุดตาก้าวเท้าลงมา สารถีคนขับรีบเปิดประตูลงมา เมื่อมีสัมภาระอยู่ที่ท้ายรถยนต์เป็นจำนวนมาก พิไลหอบกระเป๋าเสื้อผ้า และของใช้ส่วนตัวที่เหลืออยู่ กลับมายังบ้านหลังเดิม...เธอแช่งชักหักกระดูกพิไลลักษณ์มาตลอดทาง เมื่อหญิงสาวที่ตัวเองเฝ้าฟูมฟัก...ขับไล่เหมือนไม่เคยมีบุญคุณ เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นกับเธอจนแทบจะตั้งรับไม่ทัน ทั้งๆ ที่คิดว่าจะได้เสวยสุขบนกองเงินกองทอง หลังเสี่ยกวงหลงใหลพิไลลักษณ์ เขาเลี้ยงดูหล่อนแบบลับๆ และส่งเสียเงินทองให้ใช้จ่ายแบบไม่ขัดสน แต่เพราะเธอนั่นแหละ!! เพราะความอยากไม่มีที่สิ้นสุด ติดอบายมุขงอมแงม เธอเลยใช้ชื่อเสี่ยกวงในการกู้ยืม ในฐานะแม่ยาย แต่...ดันไปเจอตอเข้าแบบจังเบอร์!! เจ้หงส์หยกโกรธจัด ส่งคนมากำหลาบพิไลลักษณ์ ซึ่งหญิงสาวก็ยอมเพื่อความสะดวกสบายของตัวเอง พิไลลักษณ์โยนความผิดทั้งหมดให้กับพิไล...เธอขับไสพิไลออกจากบ้าน เมื่อพิไลคอยแต่จะสร้างปัญหา ไม่สนใจเสียงลำเลิกบุญคุณ ที่พิไลก่นด่า เมื่อไม่มีที่ไป สาวใหญ่จึงหอบสมบัติส่วนตัวกลับรังเดิม ยังไงเสียก็