Share

บทที่14.แม่จ๋าอยากมีเมีย 1

บทที่14.แม่จ๋าอยากมีเมีย

          โจนาธานนั่งคอตกบนเตียง เขานึกแช่งชักตัวเอง มือใหญ่ๆ ยกขึ้นตบปากแรงๆ เมื่อปากเจ้ากรรมนี่แหละ ที่คอยแต่จะทำเรื่อง อยากพูดจาหวานหูกับวันวาด แต่ไม่รู้เป็นยังไง คอยแต่จะแควะหล่อน จนหญิงสาวต้องน้ำตาตกทุกที...

          “เป็นไรอีกวะโจ?” เบนเดินเข้ามาในห้องพักของน้องชาย กิจวัตรประจำวันที่เขาทำเป็นประจำ

          “เปล๊า!!” หนุ่มปากแข็งตอบเสียงสูง ช้อนสายตาขวางๆ มองพี่ชาย

          เบนทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่งข้างเตียง เขาตวัดขาขึ้นไขว่กัน เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ทอดสายตามองน้องชายตรงๆ

          “แก...หึง!! ฉันกับวาด...เหรอ?” คำถามจี้ใจดำ แต่คนปากแข็งหรือจะยอมรับ

          “บ้าสิพี่ ยัยพยาบาลกุ้งแห้งนั่น มีอะไรให้ผมหึง!!” โจนาธานแสร้งโวย เขาเสหลบตาเบน

          คนเป็นพี่อมยิ้ม เขาเอื้อมมือตบลงบนบ่าของน้องชาย

          “แกรู้ดีนี่ว่าพี่เป็นไง ถึงพี่ไม่บอกแกก็น่าจะเดาออก...ฉันไม่ชอบผู้หญิงว่ะ!!”

          เบนตัดสินใจพูดความจริง เขาไม่ควรมีความลับกับโจนาธาน เพื่อคลี่คลายความอึมครึมระหว่างน้องชายกับวันวาด...

          “เออ...ผม...”

          “แกตกใจสิ!! แต่มันคือเรื่องจริงว่ะ ผู้หญิงไม่ได้ทำให้ฉันมีอารมณ์ พวกหล่อนน่ารำคาญ ฉันชอบแบบตัวใหญ่ๆ ล่ำๆ มากกว่า”

          เบนเปรยพร้อมกับอมยิ้ม เขามองหน้าเหวอของโจนาธานแบบสบายใจ

          “ผมไม่ใคร่แน่ใจนัก แต่ไม่คิดว่าพี่จะเป็นแบบนั้น”

          ชายหนุ่มตอบกลับเสียงอ่อย เขาไม่ได้รังเกียจพี่ชายที่มีรสนิยมแบบนั้น เพียงแค่ตกใจและตั้งรับไม่ทัน

          “ช่างเถอะ!! ที่นี้แกก็เลิกระแวงฉันได้แล้ว เรื่องวาดกับฉันไม่มีทางเป็นไปได้”

          เบนพูดต่อ...การที่เขายอมคายความจริงก็เพื่อให้โจนาธานสบายใจ

          ชายหนุ่มหน้าร้อนวูบ ข้างแก้มมีริ้วแดงๆ ที่ถูกจับได้...ใช่!! เขาระแวงพี่ชาย เมื่อตัวเองไม่สมบูรณ์ เป็นแค่ไอ้เดี้ยงที่เดินไม่ได้

          “เออ...”

          “แกแข็งแรงขึ้นนะโจ แกเดินได้ยังวะ ฉันว่าแกปิดอะไรฉันไว้แน่...ขาแกมีความรู้สึกแล้วใช่มั้ย?”

          เบนคาดคั้น ผลการตรวจร่างกายของโจนาธานล่าสุด เขาแข็งแรงและดีขึ้นกว่าเก่า จนเบนคิดว่าโจนาธานน่าจะเคลื่อนไหวได้บ้างแล้ว เพียงแต่ไอ้น้องชายยังไม่คิดจะบอก

          คนป่วยจอมเหวี่ยงเงยหน้าขึ้นยิ้ม แต่แล้วเขาก็ต้องตาค้าง เมื่อมีใครบางคนเดินเข้ามาในห้อง

          “แม่!!”

          โจนาธานเรียกมารดาเสียงหลง เขาขมวดคิ้ว มองหน้านางแบบไม่อยากเชื่อตา

          “ยะ!! แม่เอง...ไงหนุ่มๆ พอจะมีข่าวดีให้แม่ดีใจบ้างได้ยัง”

          ทริปเที่ยวรอบโลกของมาดามรินรำไพยังไม่จบ แต่นางนึกเบื่อ บวกกับความคิดถึงบรรดาลูกชาย นางจึงขอยกเลิก แล้วเดินทางกลับ เมื่อพอจะทำใจได้กับการจากไปของสามี เวลาที่เหลือต่อไปนี้ นางขออุทิศให้บุตรชายทั้งสอง โดยเฉพาะโจนาธานที่ยังป่วยอยู่...

          “แม่...มาได้ยังไงครับ เวลานี้แม่น่าจะอยู่ที่โรม”

          เบนเองก็ตกใจไม่แพ้โจนาธาน เขากระเด้งตัวลุกขึ้นยืนโผไปรวบกอดร่างเล็กๆ ของมารดาเต็มอ้อมแขน

          “โรมรั้งแม่ไว้ไม่อยู่หรอก เมื่อแม่คิดถึงลูกทั้งสองคน...ไงโจ อยากกอดแม่บ้างไหม เดินลงมาจากเตียงสิลูก”

          นางกระเซ้าบุตรชาย เขานั่งทำตาปริบๆ แต่เมื่อโจนาธานขยับตัว ทำท่าเหมือนจะลงจากเตียงจริงๆ นางกลับร้องโวยวาย

          “เดี๋ยวๆ โจ อย่าใจร้อนลูก ใจเย็นๆ”

          เบนเลิกคิ้วขึ้นสูง เขาเห็นน้องชายทำกายภาพบำบัดอย่างหนัก และมันน่าจะสัมฤทธิ์ผล แต่โจนาธานกลับไม่บอกข่าวดีนี่กับใคร

          ชายหนุ่มกัดฟันกรอดๆ เขาเบี่ยงปลายเท้าลงจากเตียง ฝ่าเท้าสัมผัส้พื้นครั้งแรก และพยายามทรงตัว ท่ามกลางการลุ้นระทึกของทั้งเบนและมาดามรินรำไพ

          “ข่าวดีนี่หว่า...” เบนหัวเราะร่า เขามองโจนาธานที่ยืนทรงตัวนิ่งๆ ด้วยความปลาบปลื้ม

          “โจ...โจ...แม่ดีใจ” เสียงมารดาสั่นพร่า นางน้ำตาคลอ ไม่นึกเสียใจที่ทิ้งทริปท่องเที่ยวนั่น เพื่อกลับมาหาบุตรชาย

          “ผมมีเรื่องอยากขอร้องแม่...” ไหนๆ มารดาก็ยืนอยู่ตรงหน้า ท่านอยากให้เขามีครอบครัว หลังจากคิดหลายตลบ เขาคิดว่าคงถึงเวลาแล้ว

          “ได้สิ...ให้แม่บุกน้ำ ลุยไฟยังได้ แค่โจดีขึ้นแบบนี้ แม่ก็สุดจะปลื้ม”

          สาวใหญ่เดินเขาไปประคองบุตรชาย ถึงเขาจะยืนด้วยขาตัวเองได้ แต่ก็ยังไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็น คงต้องทำกายภาพบำบัดอีกนานกว่าจะฟื้นตัวเต็มร้อย...

          “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ แค่...” ชายหนุ่มหยุดพูด เขาเสหลบหน้ามารดา ก่อนจะพูดอุบๆ อิบๆ ในคอ “อยากมีเมีย”

          ปุ๊บ!! เบนยกมือขึ้นตบเข่า เขายิ้มกริ่ม กลั้นหัวเราะจนปวดแก้ม พอแข็งแรงยืนได้ สิ่งแรกที่โจนาธานต้องการคือ ‘เมีย’ แต่ใครล่ะ...คือผู้หญิงผู้โชคร้ายคนนั้น?

          “จริงๆ นะ ไม่โกหกแม่นะ ลูกสาวบ้านไหนล่ะโจ... แม่จะได้รีบไปจัดการให้เลย”

          นางกล่าวเสียงกระตือรือร้น...มองสบนัยน์ตาบุตรชายคนเล็กด้วยความยินดี

          “เห้ย!! ไอ้เสือ...อย่าบอกนะที่ปึงปังใส่กันนะ เพราะมีซัมติงกันแล้ว”

          โจนาธานไม่ใคร่จะแคร์ผู้หญิง เขาไม่เคยใส่ใจพวกหล่อน แต่กับวันวาด ไม่รู้เป็นไงสิ เดี๋ยวก็ดีกัน เดี๋ยวก็ทะเลาะกัน หน้าหงิกหน้างอทุกวัน...แต่ไม่ยักกับไล่หล่อนออก เหมือนที่เคยทำกับพยาบาลสาวคนอื่นๆ

          “อะไรตาเบน...ซัมตง ซัมติงอะไร ใครที่ไหน แม่รู้จักไหม?”

          มาดามรินรำไพหันขวับมาถามบุตรชายคนโต เมื่อจู่ๆ เบนก็โพล่งทะลุขึ้นมากลางปล้อง

          “พี่อยู่เฉยๆ น่า...อย่าชักใบให้เรือเสียสิ...” คนป่วยขาโวยบ่นอุบ กำลังจะเข้าเรื่อง เบนก็มาเปลี่ยนประเด็นเสียแล้ว

          “โอเคๆ ฉันไม่ยุ่งเรื่องของแกก็ได้วะ...ไปทำงานดีกว่า ผมรักแม่นะครับ...ไว้เจอกันตอนมื้อค่ำ ขอสตูว์นะแม่ อยากกินฝีมือแม่ชะมัด”

          เบนเอียงหน้ากดปลายจมูกกับผิวแก้มของมาดามรินรำไพ เขาวอนขอเสียงหวาน กับมื้ออาหารที่ทุกคนอยู่พร้อมหน้า และฝีมือปรุงของมารดาไม่มีเชฟคนไหนเทียบได้ เมื่อนางใส่ใจขั้นตอนการทำ แถมยังใช้ใจทำ อาหารเมนูพิเศษสำหรับคนในครอบครัว

          “ได้จ้ะ แต่แม่ไม่รับปากนะเบน...ว่าจะเป็นมื้อเย็นวันนี้ เพราะแม่อาจจะยุ่งจนไม่มีเวลาก็ได้”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status