Share

บทที่15.เซอร์ไพรส์สุดๆ 4

ชายหนุ่มข่มความเจ็บแปลบ ทุกย่างก้าวเหมือนเดินบนก้อนกรวด มันเจ็บแปลบจนเหงื่อตก

          “วาดดีใจต่างหากล่ะคะ”

          หญิงสาวช้อนสายตามองเขายิ้มๆ เธอล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อให้ เมื่อเห็นเม็ดเหงื่อไหลรินข้างขมับของโจนาธานจนชุ่ม

          “ดีใจที่ฉันมารึ?” เสียงกระเซ้าพร้อมกับมุมปากที่ขยับยิ้ม

          “บ้า!! วาดดีใจที่คุณเดินได้ ไม่เกี่ยวกับการที่คุณมาเลย...เออ...ว่าแต่มาทำไมคะ หรือว่า...” หญิงสาวไม่อยากเดา เธอหวังว่าคงไม่ใช่เรื่องร้าย เมื่อประสบเรื่องร้ายๆ มามากเกินรับไหว

          “คิดอะไรน่ะ...ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอก ให้ผู้ใหญ่คุยกันก่อน เธอนะรู้ทีหลังดีแล้ว” ชายหนุ่มตอบกำกวม วันวาดขมวดคิ้ว เธอมึนไปหมด ไม่รู้เจตนาของโจนาธาน เขาไม่เคยแย้มพรายให้รู้สักนิด

          “ใครมากันล่ะวาด หน้าไม่คุ้น” ทะนงทัก เขาหยุดรอพร้อมกับภรรยาสองคนที่ยืนขนาบข้าง

          “สวัสดีค่ะคุณ อิฉันเป็นแม่ของโจเค้า...มาเรื่องของเด็กๆ ค่ะ” มาดามรินรำไพรีบแจ้งเจตนา เธอยิ้มหวานเป็นทัพหน้า และได้รับการตอบรับอย่างดี เมื่อคนที่โตๆ แล้วย่อมรู้ดี...เพราะการที่ผู้ใหญ่ฝ่ายชายมาบ้านของฝ่ายสาว คงไม่พ้นข่าวมงคล...

          “แหม!! คงต้องเลื่อนเวลากินข้าวออกไปก่อนนะแม่นี คุณพิ ดูเหมือนเขาจะรีบ”

          ทะนงเปรยยิ้มๆ เขาผายมือเชื้อเชิญอาคันตุกะไปยังห้องรับแขก แทนห้องครัวตามความตั้งใจ

          รัชนีให้เกียรติพิไลเสมอต้นเสมอปลาย “ฝากคุณพิพิจารณาด้วยนะคะ อิฉันจะไปเอาน้ำมาเสิร์ฟ” คนเป็นแม่พอเดาออก เลยเปรยบอกพิไลพร้อมกับอมยิ้ม ก่อนจะเดินเลี่ยงไปหลังบ้านเพื่อเตรียมขนม น้ำมารับแขกที่มาแต่เช้าตรู่

          สาวใหญ่รู้สึกสะท้อนใจ นับตั้งแต่รัชนีเหยียบย่างเข้ามาในบ้าน เธอกด และข่มจนเหมือนหล่อนด้อยค่า รัชนีไม่เคยปริปากบ่น ก้มหน้าก้มตายอมทน ไม่เคยทำให้สามีร้อนใจ เป็นความเจียมตัวเสมอต้น เสมอปลายจนเวลานี้นางรู้สึกละอายใจ คนดีที่มาทีหลัง เขาเจียมตัว เพราะว่าเขาเลือกไม่ได้ เมื่อดันทะลึ่งรักคนมีเจ้าของ จนใจจำต้องก้มหน้ายอม วันนี้พิไลยอมรับรัชนีเต็มหัวใจ การที่สามีปันความรักให้หล่อน ก็คงเป็นเพราะความดีของหล่อนเอง ดีจากเนื้อแท้...

          ทะนงอมยิ้ม สายตาของพิไลเปลี่ยนไปเมื่อมองตามหลังเมียรอง รอยอาฆาตจงชังจางหายไป เหลือแค่ความซาบซึ้งบวกความละอายใจ แค่นี้แหละ...ที่เขาต้องการ...จากนี้ไป พิศิษรุ่งเรืองคงสงบร่มเย็นได้สมใจ...

          “ไม่อ้อมค้อมเลยนะคะคุณพี่ น้องมาไกล อายุก็มากแล้ว ชักช้าเวลาที่จะอุ้มหลานมันจะเหลือน้อยลง”

          วันวาดเดินตามมารดาไป เธอทันได้ยินเสียงนุ่มหูของมาดามรินรำไพ แต่ยังไม่เข้าใจความหมายทั้งหมด

          “ผมก็แก่แล้วเหมือนกัน...ว่ามาเลยคุณนาย”

          “เรียกน้องรินก็ได้ค่ะ น้องน่าจะอ่อนกว่าคุณพี่ทั้งสอง...จะได้สนิทๆ กันไงคะ” มาดามรินรำไพไม่ถือตัว นางถือว่าทุกคนเท่าเทียมกัน จนรวย มีค่าความเป็นคนเสมอกัน

          “ก็ว่างั้น ว่ามาเลยน้องริน มีธุระอะไรกันล่ะมากันแต่เช้า...” ทะนงหัวเราะหึๆ เขารู้สึกไม่อึดอัด แม้จะตะขิดตะขวงใจ เรื่องระหว่างโจนาธานกับวันวาด

          “น้องเพิ่งมาถึงเมืองไทยเมื่อสักครู่นี้เองค่ะ ไอ้ลูกชายคนนี้สิคะใจร้อน ลากน้องมาที่นี่เลย เขาไม่อยากรอแล้ว...อยากมีเมีย” มาดามพูดแจ้วๆ นางตบมือลงบนหลังมือโจนาธาน เมื่อชายหนุ่มนั่งตัวเกร็ง

          “ออ...” ทะนงครางรับ เขาตกใจจนพูดไม่ออก

          “น้องเองก็อยากอุ้มหลาน ถ้าคุณพี่ทั้งสองไม่ขัดข้อง...เรากำหนดวันเลยมั้ยคะ?”

          สาวรุ่นน้องรวบรัด นางยิ้มหวาน มองหน้าประมุขของบ้านพิศิษรุ่งเรืองยิ้มๆ

          “เออ...ขอแทรกสักนิดนะคะ ลูกชายคุณน้อง ต้องการแต่งงานกับลูกสาวบ้านนี้ ถูกไหมคะ?” พิไลพูดแทรก เธอถามย้ำเพราะไม่อยากเชื่อหู สิ่งที่ได้ยินมันผิดคาด...

          “ถูกค่ะ น้องมาขอหนูวาดให้ตาโจ...สินสอดเท่าไรไม่เกี่ยง...จัดงานใหญ่แค่ไหนก็ได้ค่ะ ทางเราจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด คุณพี่แค่ยกหนูวาดให้ลูกชายน้องเป็นพอ...”

          ทะนงกับพิไลอึ้ง!! มองอาคันตุกะแบบคาดไม่ถึง เมื่อพอจะทราบฐานะความเป็นอยู่ของอีกฝ่ายดี

          รูธ!! เป็นครอบครัวมหาเศรษฐี...เขามีกาสิโนใหญ่โต สมบัติพัสถานมากมี แล้วทำไมเขาถึงมานึกชอบบุตรสาวคนระดับล่างอย่างวันวาด

          “ผมตอบเองไม่ได้หรอกครับ ต้องให้ลูกสาวตัดสินใจเอง...เดี๋ยวคงมาครับ”

          เมื่อก่อนทะนงอาจจะไม่ได้คิดแบบนี้ แต่ในเวลานี้เขาเปลี่ยนความคิดแล้ว หลังจากยอมพ่ายความดีของวันวาด และรัชนี สองหญิงที่ทุ่มเทให้ท่าน...โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ดังนั้น ท่านจะไม่ฝืนใจ ทำตามแบบที่ตัวเองต้องการ หากวันวาดไม่เล่นด้วย ต่อให้รวยล้นฟ้า ทะนงก็จะขอปฏิเสธ

          โจนาธานเหลียวหาวันวาด หญิงสาวเดินเข้ามาพร้อมมารดา ในมือเธอมีถาดใบใหญ่ มีแก้วน้ำเย็นเฉียบวางอยู่บนนั้น เธอยังไม่รู้ตัวว่าตกเป็นเป้าสาย วันวาดเดินก้มหน้า และย่อตัวลงเมื่อมาถึงทุกคน หญิงสาวประคองแก้วน้ำที่มีไอเย็นเสิร์ฟวางตรงหน้าแขกที่มาเยือน เธอพยายามไม่ชำเรืองมองคนป่วยในความดูแลของตัวเอง แล้วจึงค่อยๆ ถอยหลังเมื่องานตัวเองเสร็จเรียบร้อย

          “วาด...เดี๋ยวลูก พ่อมีเรื่องอยากถาม”

          ทะนงร้องเรียกเมื่อบุตรสาวเตรียมจะหันหลังกลับออกไป

          “คะ?” เธอชะงัก ช้อนสายตามองหน้าบิดาแบบสับสน

          “คุณ...เขามาขอหนู ลูกจะว่ายังไงล่ะ ชอบพอกับเขาเหรอเปล่าล่ะ”

          ทะนงเปรยพร้อมกับอมยิ้ม...

          วันวาดหันขวับ!! เธอเบิกตาโตมองโจนาธานแบบไม่อยากเชื่อ

          เขามาไม้ไหน? เมื่อไม่เคยพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ อีกอย่างเขาไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบเธอ เพราะครั้งนั้น...เขาจ่ายค่าตัวของเธอแล้ว วันวาดไม่คิดว่าโจนาธานจะทำเช่นนี้ เขาอยากได้อะไร เมื่อไม่เคยมีวี่แวว...

          ชายหนุ่มเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เขาหลิ่วตาเจ้าชู้ให้วันวาด โดยที่หล่อนยังทำหน้างงๆ

          “ว่าไงจ้ะหนู เซย์เยส หรือเซย์โน?” คนใจร้อนคงไม่พ้นมาดามรินรำไพ ไหนๆ ก็มีแววว่าจะได้ลูกสะใภ้ นางเลยไม่อยากเสียเวลารอ

          “เออ...วาด...วาด” หญิงสาวพูดติดๆ ขัด เธอไม่รู้ว่าควรตอบแบบไหนดี เมื่อไม่ใคร่แน่ใจความต้องการของคนเอาแต่ใจ เขาต้องการอะไรกันแน่ เมื่อแม้แต่...คำรัก...ยังไม่เคยได้ยินจากปากเขาสักที

          “ขอเวลาสักครู่ได้มั้ยครับ ผมอาจจะข้ามขั้น เพราะยังไม่เคยคุยเรื่องนี้กับวาดเขาสักครั้ง” ชายหนุ่มกล่าวขรึมๆ เขาทรงตัวลุกขึ้นยืน “ขอ10 นาที ผมขอคุยกับวาดก่อน” เป็นการขออนุญาตที่ไม่มีใครปฏิเสธ เมื่อเป็นเรื่องของหนุ่มสาว คนเป็นพ่อ แม่ได้แต่ฟัง เมื่อก้าวก่ายไป มันรังแต่จะยุ่งยาก

          หญิงสาวหยัดกายขึ้นยืน เธอเดินตามโจนาธานไปแบบงงๆ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status