Share

บทที่15.เซอร์ไพรส์สุดๆ 2

พิไลจึงหอบหิ้วกระเป๋าและของใช้ส่วนตัว เข้าบ้านด้วยตัวเอง นางค้อนประหลับประเหลือกให้สามี เขามองเฉย ไม่คิดจะช่วย นั่งดูรายการโปรดที่กำลังแสดงอยู่ในทีวีจอใหญ่กลางบ้าน เหมือนไม่เห็นหัวนางเลย

          “น้องนอนห้องเดิมนะคะคุณพี่” นางกระแทกเสียงถาม ลดความรุนแรงลงเกือบครึ่ง

          “ตามใจ” ทะนงตอบแบบไม่ใส่ใจ เขาเองก็ไม่ได้นอนที่บ้านใหญ่ เวลานี้ข้าวของของทะนง ย้ายไปอยู่บ้านหลังเล็กของรัชนีจนหมด เมื่อหญิงสาวเป็นคนเดียวที่ไม่ทอดทิ้ง เวลาที่ตัวเองลำบาก ไม่ปริปากบ่น แม้จะไม่เคยทำดีให้ สร้างแต่เรื่องเดือดร้อนด้วยซ้ำ

          พิไลเดินปัง!! นางลากกระเป๋าของตัวเองไปแบบทุลักทุเล แล้วก็ต้องแทบร้องกรี๊ดๆ เมื่อห้องนอนว่างเปล่า...นางยกมือขึ้นปิดปาก ทิ้งตัวลงนั่งขอบเตียงด้วยความอ่อนแรง...จะโทษใครล่ะ เพราะข้าวของเครื่องใช้ในห้องนี้นั้น นางขนออกไปจนหมด และมันก็แปรสภาพเป็นเงิน ให้นางไปละลายทิ้งในบ่อน...

          น้ำตานางไหลริน...

          แต่ก็ยังไม่วายแช่งชักหักกระดูกทุกคน...ทั้งสามี รัชนี หรือแม้แต่พิไลลักษณ์ ทุกคนทำให้นางมีสภาพเช่นนี้

          กว่าจะทำใจได้ก็ต่อเมื่อท้องร้องโครกคราก...เพราะมัววุ่นวายกับเรื่องตัวเอง ที่สำคัญเลย นางไม่มีสตางค์ติดตัวสักบาท จะให้ไปนั่งเชิดในร้านอาหารเพื่อหาอะไรใส่ท้องก็เกรงว่าจะถูกตะเพิดออกมาไม่ทัน มันตันหนทาง จนต้องกระเสือกกระสนกลับมาที่บ้านเดิม...แม้จะไม่รู้อนาคต แต่มันคือความหวังสุดท้าย...

          หิว...นางจะมัวมานั่งจมทุกข์ก็ไม่มีประโยชน์ ไหนๆ คืนนี้และวันต่อไปนางก็มีที่ซุกหัวนอน

          พิไลจึงเดินลงมาจากห้องนอน เพื่อหาอะไรกินรองท้อง

          นางเดินไปหลังบ้าน ส่วนที่เป็นครัว ที่ที่เดียวที่นางจะหาอะไรกินได้

          ทะนง รัชนี กำลังทำอะไรบางอย่าง พิไลจ้องมองก่อนจะเบ้ปาก เมื่อทั้งสามีและเมียเก็บของเขา กำลังหยิบขนมคุกกี้ชิ้นเล็กๆ ใส่ลงไปในถุง

          “หิวละสิ...ในตู้มีกับข้าวเหลืออยู่กินเสีย...พี่มีเรื่องต้องคุยกับคุณพิพอดี...”

          ทะนงเปรย เขาไม่ได้เหลือบมองภรรยา คงสาละวนทำงานตรงหน้าอย่างแข็งขัน

          รัชนีขยับตัว นางคิดจะลุกไปจัดแจงให้พิไลตามความเคยชิน แต่.

          “ทำงานของเธอไปเถอะแม่นี คุณพิเขามีมือ ถ้าแค่หาข้าวกินยังอาศัยคนอื่น ก็ปล่อยให้หิวตายไปเถอะ”

          ชายสูงวัยปราม เขาต้องทำตัวเป็นหลัก ต่อไปนี้จะไม่ทนมองให้รัชนีถูกกด ทุกคนมีค่าเท่ากัน มีมือมีเท้าที่ช่วยเหลือตัวเองได้ จะมาเอาเปรียบกันไม่ได้

          พิไลสะบัดหน้าพรึด!! นางหิวจึงลงให้ ครั้งต่อไปคงไม่ยอม เวลานี้ขอหาอะไรใส่ปากใส่ท้องก่อน เดี๋ยวค่อยมาจัดการทีหลัง

          นางนั่งกินข้าว สลับกับเหลือบมองสามีกับรัชนีไปด้วย...

          นางมองถุงขนมที่กองไว้ กับที่สามีกับรัชนีกำลังแพ็คใส่ถุง มีจำนวนเยอะเกินกว่าจะเก็บไว้กินเอง...

          “คุณพี่!! อย่าบอกนะว่าทำขนมขาย...” นางเบ้ปาก มองทั้งสองคนเหยียดๆ

          “แล้วมันผิดตรงไหนละคุณพิ ได้สตางค์ด้วย ดีกว่าหายใจทิ้งไปวันๆ เสียอีก ไม่มีเวลาว่างทำให้ฟุ้งซ่านด้วยนา”

          ทะนงเงยหน้าขึ้น เขาตอบภรรยาเสียงเรียบ...เมื่อก่อทะนงเองก็คิดเช่นนั้น ทำขนมเหนื่อยแทบตาย ได้ค่าตอบแทนนิดเดียว...แต่เมื่อตัวเองไม่มีรายได้ วันวาดเป็นคนเดียวที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง บุตรสาวต้องทำงาน24 ชั่วโมง ดังนั้น ทะนงจึงปรึกษากับรัชนี เขาจะทำงานเล็กๆ นี่ให้เป็นจริงเป็นจัง เมื่อตัวเองรู้จักคนเยอะ ทะนงเลยออกหาลูกค้า และได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี บรรดาคนที่เขาคิดว่าพวกเขาทอดทิ้งท่าน กลับยินดีช่วย ตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อนเก่าๆ ต่างต้อนรับ เขาเลยเพิ่งรู้ การที่ทุกคนเบือนหน้าหนี เพราะเขาทำตัวไม่ดี แต่เมื่อกลับใจได้ เพื่อนต่างก็ล้วนหันกลับมาต้อนรับ กิจการทำขนมของทะนงจึงมีกำไรมากกว่าที่เขาคิด จนร่ำๆ จะขยายงาน โดยการจ้างแม่บ้านว่างงานใกล้ๆ บ้าน รวมเป็นกลุ่มเพื่อสร้างรายได้ เรื่องนี้แค่รอวันวาดเห็นชอบ เพราะบุตรสาวสัญญาว่าจะออกทุนให้

          “หึ!!”

          พิไลกระแทกลมหายใจใส่...นางถือจานชามใช้แล้วไปทิ้งไว้ในอ่าง กำลังจะเดินหนี เสียงสามีก็ตะโกนบอก “ล้างเสียด้วยนะคุณพิ บ้านนี้ไม่มีขี้ข้า ใครทำสกปรกก็รู้จักทำความสะอาดเสียด้วย แล้วถ้ามีสำนึก มาช่วยกันทำงานตรงนี้ จะได้มีเงินซื้อข้าวของใช้”

          พิไลแทบกรี๊ด!! ทุกอย่างรอบตัวเปลี่ยนไปจนแทบตั้งรับไม่ทัน นางกำมือแน่น...กัดริมฝีปากจนเจ็บ แล้วจึงก้มหน้าล้างจานแบบกระแทกกระทั้น

          “คุณพี่คะ...จะดีเหรอ...” รัชนีท้วงเสียงอ่อน

          “ดีที่สุดแล้วละ คุณพิจะได้รู้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เธอคือเมีย คุณพิก็คือเมีย ทุกคนเสมอกัน จะมาทำตัวข่มกันแบบเมื่อก่อนไม่ได้...”

          ทะนงยิ้ม ตบหลังมือรัชนีเบาๆ เขาพยายามเข้มแข็งเป็นหลักของบ้าน ทำตัวเป็นกลางและให้ความยุติธรรมกับทุกคน ไม่เอาหูไปนา เอาตาไปไร่เหมือนเมื่อก่อน ลูกเมียจะได้สงบสุข ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ...

          สาวใหญ่คลี่ยิ้มอ่อนๆ น้ำตานางซึม...ในที่สุดความพยายามของนางก็เกิดผล...แต่รัชนีก็เจียมตัว ยังไงเสียนางก็มาทีหลัง นางให้เกียรติพิไลเสมอมา...

เช้าวันใหม่...

          เป็นเหมือนเดิมทุกวัน วันวาดจะกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าตอนสายๆ แล้วก็จะเลยไปทำงาน รถยนต์ของหล่อนก็ยังเป็นจักยานยนต์คันเก่าๆ เหมือนเดิม แม้ในบัญชีของวันวาดจะมีเงินเกือบ5 ล้าน

          หญิงสาวจอดรถจักรยานยนต์ไว้ข้างบ้านใหญ่ ถอนใหญ่เฮือกใหญ่ๆ ด้วยความหนักอก วันนี้เธอกลับมาพร้อมกับความไม่สบายใจ ผู้ชายปากกล้าคนนั้น เสียดสีเสียจนเธอน้ำตาตก...หญิงสาวถอนใจแรงๆ สะบัดความกลัดกลุ้มทิ้งเตรียมตัวจะเดินกลับบ้านหลังเล็กเพื่อจัดการกับตัวเอง หญิงสาวอ้าปากหาวๆ หวอดๆ แล้วจึงชะงัก เมื่อมองเห็นพิไลยืนขวางทางอยู่ ใบหน้าพิไลตึงเปรี๊ยะ!!

          “แม่วาด...มีเงินให้ฉันสักหน่อยมั้ย...ฉันจะไปธุระ”

          นางตะคอก จ้องมองวันวาดตาเขม็ง

          หญิงสาวยกมือขึ้นทำความเคารพเอ่ยทักเสียอ่อนๆ “คุณพิมาตั้งแต่เมื่อไรคะ?”

          “ฉันจะมาตอนไหนก็ช่างฉันเถอะ เอาเงินมาสิ ฉันต้องใช้”

          นางกรรโชกเสียงขุ่น มองวันวาดตาขวางๆ

          “วาดไม่มีสตางค์ติดตัวค่ะ” หญิงสาวตอบตามจริง เธอไม่พกสตางค์ติดตัวเยอะ พกแค่พอใช้ดังนั้นเธอจึงไม่มีให้พิไลในตอนนี้

          “อย่ามากำแหงใส่ฉันนะยะ...อีวาด!! เอาเงินมา ไม่อย่างนั้นก็เฉดหัวออกไปจากบ้านฉันเลย”

          เป็นเช่นนี้ทุกครั้งหากพิไลอยากข่มลูกเลี้ยง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม วันวาดเงยหน้าขึ้นมอง เธอคลี่ยิ้มอ่อนๆ

          “คุณพิอาจจะเข้าใจผิด...บ้านนี้เปลี่ยนมือ เปลี่ยนเจ้าของแล้วค่ะ ที่นี่ไม่ใช่บ้านพ่อเหมือนเก่า แต่เป็นบ้านของแม่วาด...วาดจะไม่ไปไหนถ้าคนไล่ไม่ใช่แม่”

          สาวใหญ่สะอึก...นางกำมือแน่น...

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status