Share

บทที่15.เซอร์ไพรส์สุดๆ 5

สวนหย่อมข้างบ้าน มีพรรณไม้ประดับชูช่อสลอน กลีบดอกแย้มบานรับแสงอาทิตย์ที่ทอดแสงอ่อนๆ ลงมา บรรยากาศรอบตัวสดชื่น มีกลิ่นหอมๆ ของเกสรดอกไม้ลอยฟุ้ง ชายหนุ่มยืนตัวตรง เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ที่มีสีส้มๆ ปนเปอยู่ในระดับหนึ่ง อากาศตอนเช้าตรู่เย็นสบาย จนพลอยทำให้โจนาธานพลอยรู้สึกสดชื่นไปด้วย เสียงย่ำเท้าเบาๆ ของวันวาดดังขึ้น เมื่อหล่อนเดินมาถึง

          ชายหนุ่มเปรยเสียงขรึม... “เราสองคนเริ่มต้นไม่ดีเท่าไร แต่ฉันคิดว่า อนาคตต่อไปนี้ ฉันดูแลเธอแทนพ่อ แม่ได้แน่ หากเธอวางใจยอมตกลงปลงใจกับฉัน” แม้จะเป็นคำหวาน เมื่อเป็นคำร้องขอจากผู้ชายคนหนึ่งที่คิดจะปกป้องดูแลตัวเองนับจากวันนี้ จนถึงในอนาคต แต่...โจนาธานก็ยังเป็นโจนาธาน ในคำร้องขอนั่น ก็ยังมีความผยองปนอยู่ด้วย...

          วันวาดนิ่ง เธอก้มหน้าลงพร้อมกับคิดตาม..

          “ฉันไม่ใช่คนดีเท่าไรหรอก!! เป็นคนขี้โมโห เอาแต่ใจ...แต่ความจริงใจฉันมีเต็มเธอก็คงเห็นแล้ว ฉันไม่สัญญานะว่าปรับตัวให้ดีขึ้น สันดานฉันเป็นแบบนี้เอง แต่ฉันเชื่อว่าตัวเองเหมาะที่จะดูแลเธอที่สุด...เมื่อเราสองคน...” ชายหนุ่มหยุดพูด เขาหมุนตัวกลับมามองวันวาด

          “การที่คุณมา...เออ...ขอวาด เพราะอยากรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นเหรอคะ?” หญิงสาวเงยหน้ามอง เธอย้อนถามเสียงแผ่วๆ

          “เปล่า!! เธอก็รู้ฉันไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบผู้หญิงที่เคยนอนด้วย แต่กับเธอมันไม่เหมือนกัน ฉันๆ” โจนาธานพูดติดๆ ขัดๆ เขาไม่เคยรู้สึกกับใครเหมือนกับที่รู้สึกผูกพันกับวันวาด มันคือความรู้สึกแปลกๆ ที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ รู้แค่ว่าเขาอยากเห็นหล่อนอยู่ใกล้ๆ อยากปกป้อง อยากดูแล อยากให้หล่อนยิ้มและอยากเป็นคนที่หล่อนอยากอิงอกในเวลาที่หล่อนมีความทุกข์ เขาอยากเป็นคนๆ นั้น

          “แล้วคุณรู้สึกยังไงกับวาดล่ะคะ?” หญิงสาวถามกลับ เธอลุ้นระทึก หัวใจเต้นเหมือนกลองเพล

          “วันวาด...ต้องการให้พูดออกมาเลยใช่มั้ย!!” ใบหน้าโจนาธานแหยเก มันเป็นการยากที่จะเอ่ยคำๆ นี้

          หญิงสาวยิ้มอ่อน “ไม่พูดก็ได้ค่ะ วาดไม่ได้บังคับคุณนี่คะ แต่นี่จะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่วาดใช้ประกอบการตัดสินใจ” คำพูดเรียบๆ แต่ทำไมโจนาธานรู้สึกเหมือนถูกกดดัน

          “หึ...ยัยโหด!! ฉันมารักคนโหดๆ แบบเธอได้ยังไง...คนอะไรไม่รู้ เผด็จการ!!” ชายหนุ่มบ่น เขาเผลอตัวพูดความในใจออกมา

          วันวาดยิ้มค้าง เธออ้าปากเหวอ!! เปลือกตากระพริบปริบๆ ยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติที่ลอยคว้างเพราะคาดไม่ถึง

          “ไม่เชื่อดิ!!” ชายหนุ่มถอนลมหายใจแรงๆ คนอย่างเขานี่พูดอะไรเชื่อถือไม่ได้เลยหรือไง “มีแต่คนอยากเป็น ‘เมีย’ ฉัน มีเธอคนแรกล่ะวาดที่กระโจนหนี คนอะไรใจแข็งชะมัด... ฟันเค้าแล้วคิดจะชิ่ง!!” เสียงออดๆ บ่น เขาตวัดสายตาค้อนวันวาดขวับๆ

          “มะ ไม่ใช่อย่างนั้นคะ วาดแค่งง...เราทะเลาะกัน ฮึมฮัมใส่กันตลอด วาดไม่ใช่แบบที่คุณชอบด้วย...” หญิงสาวก้มมองหน้าอกแบนๆ ของตัวเอง จากภาพฉาวในอดีตของโจนาธาน ข้างตัวเขามีแต่ผู้หญิงหุ่นนาฬิกาทราย อกเป็นอก ก้นเป็นก้น เธอน่ะ...ตรงกันข้าม และไม่เคยฉอเลาะเขาด้วย แล้วผู้ชายเพียบพร้อมอย่างเขาจะมองเธอทำไม

          “หึ!! พวกนั้นน่ะคู่ควง เธอน่ะคู่ชีวิต ฉันไม่ได้ต้องการผู้หญิงหน้าอกดูมๆ มาเป็นเมียนี่ เมียฉันแค่มีหน้าอก มีนมให้ลูกฉันกินก็พอ และฉันคิดว่าเธอมีคุณสมบัติการเป็นแม่ที่ดีนะ น่าจะเป็นเมียที่ยอดเยี่ยมด้วย”

          “เออ...”

          “ว่าไงวาด ตกลงมั้ย หรือต้องให้ฉันคุกเข่าต่อหน้า อยากได้แบบนั้นเหรอ?”

          ชายหนุ่มถามเสียงแข็ง หากวันวาดต้องการแบบนั้น เขายังคิดไม่ออก ตัวเองจะทำจริงเหรอ เมื่อมันเป็นเรื่องน่าอาย

          หญิงสาวอมยิ้ม เธอช้อนสายตาพราวฉ่ำมองสบนัยน์ตาคมดุ “ก็ลองดูสิคะ เผื่อวาดจะใจอ่อน” ไม่อยากนึกถึงภาพนั้นเลย แต่เมื่อเผลอมโนในใจ มันก็น่าจะเป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งในชีวิตลูกผู้หญิง หากมีใครคนหนึ่ง ลงทุนคุกเข่าวอนขอ...

          “ยัยบ้า!!” โจนาธานกรอกตามองบน หล่อนไม่ได้นึกถึงสภาพร่างกายของเขาเลย เรื่องน่าอายเช่นนั้น ยังบีบบังคับให้เขาทำ...ชายหนุ่มถอนลมหายใจแรงๆ...ร่างใหญ่หนา ทรุดลงไปนั่งที่พื้นหญ้า หัวเข่าสองข้างวางแนบยอดหญ้าสีเขียว เขาเงยหน้าขึ้น มองสาวเจ้าตรงหน้า “วาด... Please marry me?” เสียงของโจนาธานสั่น เขายื่นมือแบไว้ตรงหน้า รอให้หญิงสาวตัดสินใจ เธอจะเดินไปพร้อมเขา หรือว่าจะถอยหลังหนี

          วันวาดน้ำตาคลอเธอยกมือขึ้นปิดปาก...ก่อนที่มือบางที่สั่นเทา จะยื่นลงมาวางประกบกับฝ่ามือใหญ่ที่หงายรอ

          “ค่ะ...วาดจะแต่งงานกับคุณ”

          เธอตอบรับทั้งน้ำตา...แล้วก็ต้องหัวเราะกิ้ก!! เพราะชายหนุ่มร้องโอดครวญ เธอลืมไปได้ยังไงว่าโจนาธานเพิ่งจะเดินได้ เขายังไม่แข็งแรงพอ

          “พยุงฉันยืนหน่อยสิวาด ฉันอยากกอดเธอ”

          “ค่ะ..อิๆ”

          หญิงสาวสอดมือใต้รักแร้ของชายหนุ่ม ประคองให้เขายืนแบบทุลักทุเล เนื่องจากโจนาธานในตอนนี้ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ไม่ผอมบางเหมือนเมื่อแรกเจอ

          มือแข็งแรงสอดกอดเอวบาง เขากดแผ่นหลังวันวาดจนร่างกายแนบชิดกัน พร้อมกับเสียงบ่นพึม!!

          “อย่าบอกใครเชียวนะเรื่องนี้ อายเขาตายเลย ฉันนี่นะลงทุนคุกเข่า โคตรน้ำเน่า...”

          หญิงสาวแนบแก้มกับอกอุ่น!! เธออมยิ้มก่อนจะพริ้มเปลือกตาหลุบลง...ไม่อยากคิดเลยว่าเธอจะมีวันนี้ นับตั้งแต่วันที่ยอมทำเรื่องน่าอดสู วันวาดคิดว่าตัวเองคงจะเหี่ยวเฉาไปจนตาย เมื่อร่างกายแปดเปื้อน เธอคงไม่มีวันได้มีความสุข ผู้หญิงที่เคยใช้ร่างกายแลกเงิน เป็น ‘เมียพาร์ทไทม์’ ที่หากใครรู้ก็จะดูถูก

          หญิง3 ชาย1 ถอยหลังกลับเข้าไปในห้องรับแขกเหมือนเดิม ทุกคนมีแต่รอยยิ้มบนใบหน้า เมื่อเรื่องวุ่นวายลงเอยด้วยความยินดี

          นับจากนี้ไปคงมีแต่ความสุข บ้านพิศิษรุ่งเรืองคงจะฟื้นกลับมาเหมือนเก่า มีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ทะนงยิ้มเต็มหน้า ในขณะที่เมียทั้งสองคนของเขากลับนั่งน้ำตาคลอ...

          “ส่งลูกถึงฝั่ง จะร้องไห้ทำไมแม่นี” ท่านกระเซ้าภรรยาคนที่สอง “คุณพิอีกคน...เป็นไปกับแม่นีด้วย...” เมื่อมองภรรยาคนแรก พิไลไม่ต่างจากรัชนีเลย นางเองก็นั่งน้ำตาคลอ เด็กสาวที่นางจงชัง กลับเป็นคนพลิกฟื้น ทำให้พิศิษรุ่งเรืองกลับมามีหน้ามีตา นางช่างตาต่ำเสียจริง มองดอกบัวเป็นกงจักร มองกงจักรเป็นดอกบัว

          “คุณพี่ก็ น้องดีใจแทนแม่นี มีลูกแสนดีแบบนี้ เสียดายที่น้องไม่มีลูกให้คุณพี่ได้ชื่นชมบ้าง...” พิไลเปรยเสียงเศร้า

          “ยัยวาดก็ลูกสาวคุณพิค่ะ แกนับถือคุณพิ และชื่นชมเอาคุณพิเป็นแบบอย่าง...” รัชนีเอ่ยเบาๆพิไลเป็นผู้หญิงเข้มแข็ง ผิดกับตัวเองที่หัวอ่อน...

          “น้องฝากตาโจด้วยนะคะ น้องได้หนูวาดมาเป็นลูกสาว คุณพี่ก็ได้ตาโจไปเป็นลูกชาย แต่...ลูกชายคนนี้ คงต้องกำหลาบเยอะหน่อย พ่อฤทธิ์มากจริงๆ”

          มาดามรินรำไพพูดยิ้มๆ ดังนั้นเสียงหัวเราะจึงดังประสานกัน จนสองหนุ่มสาวที่เดินกลับเขามาในห้อง มองแบบงงๆ

          ชีวิตคนเราสั้นนัก...วันนี้มีความทุกข์ หากไม่ท้อ...วันพรุ่งนี้เราก็จะผ่านมันไปได้ ไม่มีมนุษย์คนไหนบนโลก ไม่เคยทำผิด ทุกคนล้วนแล้วก็พลาดได้ มันขึ้นอยู่กับว่าจะแก้ไขอย่างไร จงใช้สติในการหาทางแก้ การพนันไม่เคยทำให้ใครรวย...เมื่อมันคือหายนะในชีวิต หากใครเผลอก้าวเดินไปในเส้นทางนั้น จากที่เคยร่ำรวย...ก็อาจจะไม่เหลืออะไรเลย...

          ในขณะที่สองครอบครัวกำลังวุ่นวายกับการเตรียมงานวิวาห์ ข่าวร้ายในเช้าวันหนึ่ง ถึงกับทำให้พิไลสลด นางนั่งนิ่งๆ เมื่อกางหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวันนี้ออกอ่านข่าวตามปกติ...แต่ที่ไม่ปรกติคือข่าวพาดหัว แม้จะกรอบเล็กๆ แต่ก็สะดุดตา เมื่อเป็นโศกนาฏกรรมที่หญิงสาวผู้หนึ่งลงมือ ปลิดชีวิตฝ่ายชาย ‘เมียเก็บเสี่ยใหญ่ยิงเสี่ยดับคาเตียงนอนของเมียเก็บอีกคน’ หากเป็นชาวบ้านร้านตลาดก็คงอ่านไปก่นด่าไป สมเพทกับชะตาชีวิตที่แสนทุเรศของหล่อน แต่เมื่อเป็นพิไล นางอ่านแล้วรู้สึกสลดเศร้า เมื่อหญิงคนร้าย คือเด็กสาวที่ท่านเคยฟูมฟักมากับมือ ส่งเสียเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ แม้พิไลลักษณ์จะเนรคุณท่าน แต่ตัวเองก็มีส่วนผลักดันให้หญิงสาวต้องเดินบนเส้นทางนี้

          “เป็นอะไรเหรอคุณพิ หน้าซีดๆ” ทะนงเปรย เขาเดินถือแก้วกาแฟมาทรุดนั่งข้างๆ หลังกินมื้อเช้ากันเสร็จ

          “คุณพี่คะ!!”

          นางดันหนังสือพิมพ์ให้ทะนงแทนคำตอบ...หน้าหนังสือกางหรา และทะนงก็สะดุดตากับข่าวนั่นพอดี

          “พิโธ่!! พิไลเอ๋ย...ไม่น่าเลย...” ท่านฉวยหนังสือขึ้นมาอ่านจริงๆ จังๆ ก่อนจะครางเสียงระโหย

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status