ไม่ว่าจะโซฟาในห้องโถง ระเบียงด้านนอกห้องยามท้องฟ้ามืดมิด หรือห้องน้ำเย็นฉ่ำ เตียงนอนนุ่มนิ่ม โจนาธานทำให้ทุกที่กลายเป็นสนามรบ เขาฟัดเธอแบบไม่คิดจะหยุดพัก วันแรกของเธอ...วันวาดสำรักความสุข หลายครั้ง จนนับไม่ทัน เธอหลับไปตอนไหนก็ไม่ทันได้รู้ตัว รู้แค่ว่า ทันทีที่ลืมตา...
เธอก็ทำได้แค่คราง... “อ่า....”
เพราะนอกจากความแข็งขึงของโจนาธานแล้ว เธอไม่เคยได้แตะต้องอะไรอีก
เขาบริการเธออย่างดี ไม่ต้องหยิบจับอะไร ไม่ว่าจะอาบน้ำ กินข้าว โจนาธานจัดให้
สิ่งเดียวที่โจนาธานไม่ทำ...คือเขาไม่ให้เธอใส่เสื้อผ้า กระเป๋าเดินทางของเธอกับของโจนาธาน ถูกวางไว้ที่เดิม...มันไม่ได้ถูกเคลื่อนที่ และก็ไม่ได้รับการเหลียวแล
วันที่2...ของทริปฮันนิมูล
เสียงคลื่นดังแว่วๆ อยู่ในหู วันวาดปรือตามอง เธอครางเสียงระโหย เมื่อรู้สึกระบมไปทั้งตัว กล้ามเนื้อเธอตึง แขนขา อ่อนแรง...เหมือนกระดูกทุกส่วนถูกป่นเป็นผง...
“อรุณสวัสดิ...ทูนหัว”
ใบหน้าระรื่นของสามีกับกลิ่นหอมของอาหารเช้าที่ลอยมาแตะตาแตะจมูก
ถาดใส่อาหารถูกวางลงบนผิวที่นอน วันวาดผงกศีรษะขึ้นมอง เธอย่นจมูกให้ เมื่อโจนาธานเกือบเปลือย เขาคาดผ้าเช็ดตัวไว้ที่เอวสอบ นอกนั้นไม่สวมอะไรเลย และคงไม่ต่างจากตัวเอง ที่ถูกลอกคราบจนหมด มีแค่ผ้าห่มคลุมกาย
“อ้าปาก...เร็ว ฉันป้อน”
ไส้กรอกรมควันถูกจิ้มด้วยช้อนส้อม ยื่นมาจ่อที่ปากของวันวาด ด้วยบริกรที่น่าจะทำได้มากกว่าการป้อนอาหาร
“ไม่หิวค่ะ...ขออาบน้ำแปรงฟันก่อนได้ไหมคะ?”
หญิงสาวหลุบเปลือกตาหลบ อายที่ตัวเองไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมเท่าไร ทำให้วันวาดปฏิเสธ
“เรื่องนั้น เราจะทำพร้อมกันจ้ะวาด แต่ตอนนี้ต้องทานก่อน”
ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ เขายกแก้วกาแฟขึ้นจิบ โดยที่มือที่จับส้อมยังค้างอยู่ตรงหน้าวันวาด
“ไม่เอาค่ะ วาดอาบเอง...วาดไม่ได้ป่วยหรือหมดแรงจนทำอะไรไม่ได้เสียหน่อย” เธอบ่นอุบ กับความเจ้ากี้เจ้าการของสามี เรื่องของเรื่องคืออาย
“อีกไม่นาน วาดก็จะหมดแรงจ้ะ และฉันอาสา ที่จะบริการทุกอย่าง...ด้วยตัวเอง”
น้ำเสียงติดเจ้าเล่ห์ ยังไม่ทำให้วันวาดสะท้านได้เท่า แววตาฉ่ำเยิ้มของสามี เธอรู้ในสมองของโจนาธานเวลานี้ เขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ว่า...เมื่อคืนเธอ...กับเขา...มีอะไรๆ กันหลายครั้ง...เขายังไม่พออีกเหรอ?
“คงคิดอยู่ใช่ไหมล่ะ บอกแล้วนี่ วาดแกล้งฉัน...ปล่อยให้อดยากมาหลายเดือน...และช่วงนี้ฉันขอทวงคืน ต้นทบดอก ดอกทบต้น...แค่อาทิตย์เดียว ไม่รู้จะได้ต้นหมดหรือเปล่า...”
ชายหนุ่มเปรย เขาวางแก้วกาแฟ หยิบไส้กรอกรมควันชิ้นโตใส่ปาก ก่อนจะเคี้ยวแบบคนอารมณ์ดี
โดยที่วันวาดมองตาค้าง...
เธอยินยอมให้สามีหนุ่มป้อนอาหาร เพราะหากไม่รีบกินตอนนี้ คงอีกนานกว่าเธอจะมีอะไรตกถึงท้อง เมื่อสายตาคู่คมของโจนาธานบอกไว้แบบนั้น
อาหารเช้าจบลงในเวลาสั้นๆ วันวาดเข้าใจความคิดของคนไข้ที่ถูกเธอบังคับให้ทานอาหารแล้ว เมื่อเขาเหล่านั้นยังไม่มีความหิว แต่กลับถูกยัดเหยียดให้เหมือนตนเองในเวลานี้ แต่จะดื้อรั้นไป...ก็ไม่กล้าเสียด้วย เธอรีบเคี้ยว รีบกลืน ตบท้ายด้วยน้ำส้มคั้นสด หวานชื่นใจ
“อิ่มแล้วใช่ไหม เอาอะไรเพิ่มอีกไหมครับ”
โจนาธานถามเหมือนใจดี เขายกถาดออกไปจากเตียง เสือกไว้บนโต๊ะ ก่อนจะเดินกลับมาที่เตียงนอนซ้ำ
“ไม่แล้วค่ะ” หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ เธออิ่มจนเกือบจุก และอยากพักตาสักงีบ
“ไปอาบน้ำกัน...” โจนาธานพูดเอื่อยๆ
เขาเดินมาอิงสะโพกกับขอบเตียง ทอดสายตาหวานฉ่ำมองภรรยาหมาดๆ ด้วยแววตามีความหมาย
“คะ คุณ อาบก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยววาดอาบทีหลัง”
เสียงติดๆ ขัดๆ กับน้ำลายฝืด ที่เคลื่อนผ่านลำคอ
“ช้าอะ...พร้อมกันเลยดีกว่า”
โจนาธานตอบ เขาสอดมือกระตุกผ้าห่มที่คลุมร่างกายวันวาด ออกแรงกระตุก และรีบช้อนอุ้มหญิงสาว ก่อนที่เธอจะเปลี่ยนใจ
“ไม่เอา อย่าค่ะ” วันวาดร้องวี๊ดๆ เธอดิ้นรน แต่ไม่ได้ดิ้นแรง ยกมือขึ้นคล้องที่ลำคอ หลับตาปี๋ แต่ก็ยังไม่วายบ่น
“หึๆ” โจนาธานหัวเราะเบาๆ ในคอ เขาก้มมองภรรยาแสนสวย ที่ห่อตัวเพราะความอาย หล่อนพยายามซ่อนความเย้ายวนจากสายตาเขา ด้วยการแนบลำตัวเปล่าเปลือยกับแผ่นอกเขา แต่วันวาดไม่รู้ นั่นคือการกระตุ้นอย่างดี มีใครที่ไหนเอาหน้าอกอูมๆ มาถูไถลคนกำลังมีอารมณ์ เพราะนั่นเท่ากับเร่งให้เกิดปฏิกิริยามากขึ้น
ดังนั้นเมื่อเดินผ่านประตูห้องน้ำเข้ามาได้ ชายหนุ่มเอื้อมเปิดน้ำอุ่นๆ ก็จริง แต่เขาไม่ได้คิดที่จะจัดการอาบน้ำ เมื่อมีภารกิจอื่นน่าสนใจกว่า
ภารกิจทำลูก ใต้สายน้ำอุ่นจัด!!
มือแข็งแรงยกดันแก้มก้นแน่นๆ ของวันวาด ชิดกับพนังห้องน้ำเย็นฉ่ำ เขาดันตัวแนบชิด ก้มลงบดจูบแบบดุดัน เมื่อภรรยาแสนสวยแหงนเงยขึ้นมารับจุมพิตแบบรู้งาน
สายน้ำอุ่นซ่านพร่างพรมลงมา เหมือนดั่งสายฝนที่หล่นจากท้องฟ้า แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เลือดที่เดือดระอุลดความร้อนแรงลง
ไหล่กว้างเป็นที่ยึดอย่างดีของวันวาด หญิงสาวกดเล็บลงไปในผิวเนื้อที่ลาดไหล่สามี เธอแหงนเงยใบหน้าขึ้น เผยอปากครางแผ่วๆ เมื่อ โจนาธานแทรกความแข็งขึง ลึกเขามาในกายสาว
จังหวะรักที่เริ่มต้นช้าๆ เปลี่ยนเป็นรัวเร็ว และแรง ตามพายุอารมณ์ที่โหมกระพือ...
ตับๆ
ผิวกายเปียกชื้นที่หน้าขา กระทบกันดังก้อง ผสมกับเสียงครางกระเส่าของหญิงสาวที่เพิ่งเดินผ่านประตูวิวาห์มาไม่ถึงสองวัน วันวาดได้รับความสุขล้น จนแทบสำลัก เมื่อสามีหนุ่มจอมบ้าพลัง ซัดใส่แบบเต็มเหนี่ยว
กว่าจะอาบน้ำเสร็จ เธอต้องผจญกับความหวามไหว ของโจนาธานอีกหลายระลอก วันวาดไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะกักเก็บความกระหายไว้มากมายเพียงนี้
และเธอก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน ว่าตนเองได้รับความหฤหรรษ์นั่นแบบเปี่ยมล้น...
“อืมมม...” พยาบาลสาวครางเสียงแผ่วๆ เธอเอียงหน้าหนี เมื่อมีใครบางคนพยายามยัดอะไรใส่ปากเธอ
“กินหน่อยทูนหัว...” เสียงโจนาธานนั่นเอง...เธอปรือเปลือกตาขึ้นมอง...ก่อนจะรีบหยีตา เมื่อแสงแดดสาดส่องเข้าใส่ดวงตา จนตาพร่า “เที่ยงแล้วเหรอคะ?” หญิงสาวถามเสียงแห้ง เธอจำได้ว่าเธอเพิ่งจะกินอาหารเช้า ก่อนที่สามีจอมป่วนจะพาไปอาบน้ำ หลังจากนั้นวันวาดก็ไม่รู้อะไรอีกเลย ร่างกายเธอปิดสวิทช์ เพราะต้องการพักผ่อน หลังจากเสียกำลังไปมากมาย กับภารกิจห้องน้ำเดือด..
“เที่ยงครับ” โจนาธานตอบ แต่เขาไมได้ขยายความ มันเป็นเที่ยงของอีกวัน วันวาดหลับยาว หลังอาหารมื้อเช้าเมื่อวาน เขาสูบความหวานจากเรือนกายของหล่อนตั้งแต่เช้าจนบ่ายคล้อย และผลที่ได้คือภรรยาป้ายแดง ที่เคยอึด ถึก สลบเหมือดคาอกกว้าง หล่อนหลับยาว จนเขาต้องปลุก ไม่อย่างนั้น คนที่รอแล้วรอเล่าอย่างเขา คงทรมานน่าดู “ง่วงจังเลยค่ะคุณ วาดอยากนอน แล้วก็นอน” เธออ้าปากงับสเต็กปลาที่โจนาธานป้อน พร้อมกับบ่น ดวงตาหรี่ปรือ ทำท่าจะหลับเหมือนที่พูด “ทานก่อนทูนหัว เดี๋ยวค่อยนอน” ชายหนุ่มตัดเนื้อปลาด้วยมีดหั่นสเต็ก ใช้ช้อนส้อมจิ้ม ก่อนจะยกป้อนให้กับวันวาด ดวงตาเขาพราวฉ่ำ เมื่อมองปากแดงๆ น่าจูบของหล่อนตาปรอย “ไม่ไหวแล้วค่ะ วาดๆ” เสียงสะเทิ้นอายกล่าวแผ่วๆ เธอเสหลบสายตาร้อนแรงนั่น แต่จะไปไหนพ้น เมื่อเธอไร้เรี่ยวแรง นอนอยู่บนเตียงโดยมีเขาคอยบริการ ไม่ต่างอะไรจากครั้งแรกที่เจอกัน “วาดไม่ได้ทำอะไรนี่ครับ ไปเพลียอะไรมาเหรอ?” โจนาธานกระเซ้า เขาอมยิ้ม เมื่อสายตาคมๆ ของวันวาด ตวัดขึ้นมองเหมือนจะค้อน “วาดไม่ได้บ้าพลังเหมือนคุณนะคะ จะได้มานั่งหน้าระรื่นอยู่ได้ ทั้ง
บทนำ... บ้านสีขาวหลังใหญ่ ล้อมรั้วด้วยต้นตีนตุ๊กแก พันธุ์ไม้เลื้อยสีเขียวที่ไต่ไปตามกำแพงปูนก่อไว้เป็นฐาน มันเติบโตปกคลุมเนื้อปูนจนมองแทบไม่เห็น ที่เห็นจากสายตาหากมองผ่านๆ คือรั้วต้นไม้สีเขียวครึ้ม ด้านในบ้านมีเนื้อที่กว้างขวางพอสมควรทีเดียว มีบ้านสองหลังถูกปลูกสร้างบนที่ดินผืนนี้ บ้านสวยหลังนี้เป็นบ้านของคนมีอันจะกินครอบครัวหนึ่งในย่านนี้ เจ้าของบ้านเคย...มีหน้ามีตา เพราะเป็นคนของหลวง ท่านรับราชการเป็นครู มีอาชีพอันทรงเกียรติ แต่เมื่อหมดวันทำงาน เกษียณอายุตามกำหนด ความนับหน้าถือตาก็ลดหย่อนลง หากเป็นเมื่อสมัยเก่าก่อน มักจะมีลูกศิษย์ ลูกหาแวะเวียนมาเยี่ยม มาหาไม่เคยขาด แต่...คงเป็นเพราะอำนาจบารมีที่เคยมีลดลง...คนเหล่านั้นจึงหายหน้าหายตาไป และนี่เอง...เป็นต้นกำเนิดให้ เกิดการพลิกผันครั้งใหญ่กับครอบครัว ‘พิศิษรุ่งเรือง’ ทะนง พิศิษรุ่งเรือง เป็นหัวหน้าครอบครัว ปัจจุบันท่านอายุ63 ปีเต็มทะนงเป็นชายร่างใหญ่ ค่อนไปทางท้วมนิดๆ สุขภาพแข็งแรงตามอายุ และดูไม่แก่ หากเทียบกับคนรุ่นเดียวกัน วันเวลา...ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเคยทรงภูมิทรุดโทรมลง กาลเวลาทำให้คนที่เคยมีสติ เพราะใช้สมอ
บทที่1.เจ้าหนี้ขาโหด เบน อัคเดช รูธ เศรษฐีหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษ เขากำลังเฟื่องสุดขีด หลังประมูลเปิดกาสิโนได้ในประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีอาณาเขตติดประเทศไทย ธุรกิจทำเงินที่ทำให้เขาร่ำรวยมหาศาลมีอาณาจักรทำเงินที่เก็บกินได้ตลอดชั่วชีวิต หากยังมีแมลงเม่าบินเข้ากองไฟเรื่อยๆ ก็รู้ทั้งรู้ว่าไฟมันร้อน แต่แมลงหน้าโง่นั่น ก็ยังบินถลาล่อ จนกระทั่งถูกเปลวไฟเผาปีกอันบางเบาจนมอดไหม้…ก่อนจะตายตกไปตามๆ กัน “ท่านครับคุณโจนาธานมาถึงแล้วครับ” การ์ดหนุ่มเดินเข้ามานอบตัวรายงาน เบนคลี่ยิ้ม สถานที่แปลกตาอาจทำให้น้องชายของเขามีพัฒนาการที่ดีขึ้น โจนาธาน อัครัก รูธ น้องชายสุดรักที่เคยร่วมหัวจมท้ายมาด้วยกัน สองพี่น้องบุกเบิกอาณาจักรกาสิโนมาด้วยกัน เพียงแต่โจนาธานโชคร้าย เขาประสบอุบัติเหตุร้ายแรง จากผู้ชายที่เคยเป็นที่ปรารถนาของผู้หญิงทั่วโลก เวลานี้โจนาธานไม่ต่างอะไรกับผักเน่า เขานอนนิ่งไม่ไหวติง...เบนทุ่มเทหาวิธีรักษา ไม่ว่าแพทย์แขนงไหนที่ว่าดี เขาลองมาหมด…จนโจนาธานเกิดความเบื่อหน่าย เขาเบื่อที่จะต้องฝืนสังขาร การทำกายภาพที่แสนโหด แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น เขายังคงเป็นชายพิการที่ช่วยเหลือตั
“วาดขอประวัติคนป่วยไปศึกษาด้วยค่ะ จะได้หาวิธีตั้งรับและวิธีทำให้เขาดีขึ้นด้วย” ไหนๆ ก็ตกลงปลงใจรับงานนี้มาทำ วัดวาดจึงจำเป็นต้องรู้จักคนป่วยคนนี้ เพื่อตัวเองและบิดา “ได้...” เบนพยักหน้ารับ “ไทย เอาประวัติน้องชายฉันให้หล่อนดูสิ” เบนสั่ง เขาออกเดินหน้าตั้ง เมื่อเวลาที่โจนาธานมาถึงกระชั้นเต็มที...เขาส่งโจนาธานไปตรวจร่างกายที่อเมริกา และวันนี้คือกำหนดกลับของน้องชาย แฟ้มสีน้ำตาลไหม้ ไทยหยิบจากโต๊ะทำงานของเบน มายัดใส่มือวันวาดพร้อมกับกระซิบเสียงเคร่งๆ “หากอยากอยู่จนปลดหนี้ให้พ่อเธอได้...อย่าพยายามอ่อย คุณโจ!!” ไทยเดินตามเจ้านายไปติดๆ เขาเป็นการ์ดกึ่งเลขา ทำงานทุกหน้าที่แล้วแต่เบนจะสั่ง...เป็นลูกน้องที่รู้ใจเบนสุดๆ วันวาดถอนใจแรงๆ “กลับบ้านกันเถอะค่ะพ่อ วาดต้องไปศึกษาคนป่วยคนนี้” หญิงสาวรีบประคองทะนง เขาอ่อนแรงมาก แม้แต่แรงยืนยังไม่ค่อยมี ที่วันวาดไม่เข้าใจ ทะนงอ่อนเปลี้ยขนาดนี้ เขานั่งหลังขดหลังแข็งในบ่อนได้ยังไงเป็นวันๆ “วาด...พ่อเหลือแค่วาดนะลูก” ระหว่างทาง ทะนงย้ำแล้วย้ำอีก หากวันวาดหนี นั
บทที่2.เผชิญหน้ากับคนป่วยจอมแสบ “แกจะทรมานตัวเองไปเพื่ออะไรว่ะ พี่ถามหน่อย?” เบนถามโจนาธานเสียงเคร่ง ไอ้น้องตัวแสบไม่ยอมแตะทั้งยาและอาหาร จนร่างกายซูบเซียว ใบหน้าหล่อเหลาผอมซูบจนมองเหมือนผีตายซากเข้าไปทุกวันหลังจากผลการตรวจอย่างละเอียดออกมา เขามีเปอร์เซ็นเดินได้แค่50% “ปล่อยผมตายเถอะพี่ อยู่แบบนี้มันก็เหมือน ผมตายทั้งเป็นอยู่แล้วนี่” โจนาธานพูดเสียงเรียบ จะให้เขานอนเป็นผักเน่าแบบนี้ถึงเมื่อไร เขาเบื่อจนเอียน เขาทนมองเห็นตัวเองเป็นแบบนี้ไม่ไหว มันทุเรศตัวเองเหลือเกิน “แกจะหมดหวังได้ยังไงว่ะ หมอบอกแล้วนี่หว่า แกมีสิทธิหาย... ถ้าแกแข็งแรงกว่าตอนนี้ และยอมทำกายภาพบำบัด...” เบนพยายามโน้มน้าว ความหวังจะสัมฤทธิ์ผลก็ต้องมีกำลังใจเป็นแรงผลัก แต่นี่...อะไร!! ยังไม่ทันสู้ก็ท้อถอยเสียแล้ว แบบนี้เมื่อไรโจนาธานจะกลับมาเดินได้เหมือนเดิม... อีกอย่าง... เบนทำเพื่อตัวเองด้วย รูธมีแค่เขากับน้อง หากโจนาธานเป็นอะไรไป คงได้สิ้นทายาท เพราะเบนเอง...คงไม่สามารถสืบสกุลได้...เขาไม่ได้เป็นหมัน แต่... โจนาธานไม่ได้ตอบกลับ เขาเบือนหน้ามองเหม่อไป
ก็อกๆ “พยาบาลที่คุณเบนต้องการตัว มาแล้วครับ” เขาเคาะเบาๆ ก่อนจะเปิดประตูห้อง ยื่นหน้าเข้าไปภายพรางส่งเสียงบอก “ให้เข้ามาซิ” เสียงแหบห้าวตะโกนสวน เบนกำลังอารมณ์ไม่ดี เมื่อวันนี้น้องชายตัวแสบ ประท้วง...โจนาธานไม่แตะอะไรเลยแม้แต่น้ำ...จนคนดูแลวิ่งวุ่น เมื่อคนที่เคยอาละวาดปึงปังกลับนิ่งเฉย...แต่กลับทำให้อาการของเขาทรุดลง... “มาก็ดีแล้ว...ไปกันเถอะ เธอจะได้เจอคนป่วยจอมป่วนเสียที” วันวาดยังอยู่ในชุดทำงาน ใบหน้าหล่อนมันแพรบเพราะยังไม่แวะล้างคราบไคล แต่ในภาวะเร่งร้อนเช่นนี้ เบนไม่สนใจความสวยงามเท่าใด เขาต้องการใครก็ได้...ที่สามารถปราบพยศโจนาธานได้สักคน... วันวาดเดินตามผู้ชายหน้าดุแบบงงๆ เขาดูเร่งร้อน การเดินของเขาก็เช่นกัน ช่วงขายาวๆ นั่นเดินฉับๆ จนเธอต้องรีบซอยเท้าถี่ๆ ไม่อย่างนั้นคงตามไม่ทัน ลิฟต์ขาลง ดูดีกว่าลิฟต์ที่เธอโดยสารขึ้นมาลิบลับ ตัวลิฟต์ใหม่เอี่ยม กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยฟุ้ง ผิวลิฟต์มันปราบ เพราะการเช็ดถูทำความสะอาดเป็นประจำ เธอยืนเงียบๆ ด้านข้างเขา พยายามสำรวมสายตา โฟกัสแค่ปลายเท้า เสียงถอนหายใจแร
โจนาธานตวาดลั่น เขาชี้นิ้วสั่นๆ ไปยังประตู ขับไล่ผู้หญิงแปลกหน้าแบบไม่สนใจ “เสียใจด้วยค่ะ วาดมาทำงาน พี่คุณจ้างวาดมาดูแลคุณ วาดเป็นพยาบาลอาชีพ วาดชื่อวันวาดค่ะ นับจากนี้ไป คุณต้องฟังที่วาดพูด...ไม่ทราบวันนี้คุณได้ทานอาหารบ้างมั้ยคะ?” หญิงกล่าวแนะนำตัว เธอเดินเข้าไปใกล้ๆ โจนาธาน ไม่สนใจสายตาขวางๆ ของเขา เธอเชื่อว่าชายหนุ่มหมดแรงเพราะปลายนิ้วที่ยกค้างไว้ของเขา สั่นจนเธอมองเห็น เขาออกฤทธิ์อะไรเอากับเธอไม่ได้มากกว่านี้หรอก เมื่อเขาใช้แรงที่มีขวางหมอนใส่เธอจนหมด... หญิงสาวปรายตามองถาดอาหาร...ไม่มีรอยยุบ อาหารอ่อนๆ นั่นเต็มถ้วย วันวาดมองคนป่วยตรงหน้า ด้วยสายตาตำหนิเล็กๆ “ดูจากปริมาณข้าว...คุณไม่น่าจะมีอะไรตกถึงท้อง...และถ้าคุณอยากมีฤทธิ์ เพื่อจะโวยวายล่ะก็... วาดแนะนำ คุณควรทานอาหารเหล่านี้นะคะ” หญิงสาวเปรยลอยๆ เธอยกถาดอาหารนั่น เดินไปที่ประตู เธอต้องการให้ใครก็ได้นำไปอุ่น เธอจะจัดการให้คนป่วยกินอาหารเหล่านี้เอง ปึก!! เบนผงะ เมื่อมีใครบางคนดันประตูให้เปิด เขาเดินถอยหลังเปิดทางให้คนๆ นั้น “วาดต้องการอาหารชุดใหม่ค่ะ ของเก่ามันเย็นชืด
บทที่3.ยุทธการอาบน้ำผู้ชาย...ป่วย... แป้นกลับมาอีกครั้งตามกำหนดเวลาที่วันวาดร้องขอไว้ มีผู้ชายตัวโตคนหนึ่งเดินตามมาด้วย เขาคือการ์ดที่ยืนเฝ้าหน้าห้องพักของโจนาธานนั่นเอง “พี่เอกยืนอยู่แถวๆ นี้ค่ะ คุณวาดอยากใช้อะไรโผล่หน้าออกไปเรียกได้เลยค่ะ” แป้นแนะนำตัว และเอกก็ยิ้มรับ เขาเหลือบมองโจนาธานแบบหวาดๆ กลัวใจกับฤทธิ์ของพ่อเจ้าประคุณจริงๆ แต่ที่เอกเห็นคือ คนฤทธิ์มานอนเอนๆ อยู่กลางเตียง ใบหน้าหงิกงอ ยับย่น มีรอยไม่พอใจเต็มหน่วยตา แต่กลับไม่มีเสียงโวย เหมือนเก่า “ดีเลย วาดอยากจับ ‘เค้า’ เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ทำความสะอาดเตียงนั่นด้วย” คราบอาหารหกกระจายไปทั่ว แป้นอมยิ้ม กว่าคุณโจนาธานจะยอมรับประทานอาหาร คงออกฤทธิ์ไว้ไม่น้อย... “คุณวาดจัดการเช็ดตัวได้เลยค่ะ แป้นจะไปตามคนมาช่วยทำความสะอาดเตียง” “ที่ฉันพูดนี่ มีใครฟังมั้งมั้ย!! หรือว่าฟังภาษาคนไม่ออก ออกไป!! อย่ามาวุ่นวายกับฉัน...” เสียงแทรกจากกลางเตียง เมื่อโจนาธานเริ่มโวย “แป้นไปตามคนมาเถอะจ้ะ ทางนี้วาดกับพี่เอกคงพอรับมือไหว” หญิง