Share

บทที่3.ยุทธการอาบน้ำผู้ชาย...ป่วย...

บทที่3.ยุทธการอาบน้ำผู้ชาย...ป่วย...

          แป้นกลับมาอีกครั้งตามกำหนดเวลาที่วันวาดร้องขอไว้ มีผู้ชายตัวโตคนหนึ่งเดินตามมาด้วย เขาคือการ์ดที่ยืนเฝ้าหน้าห้องพักของโจนาธานนั่นเอง

          “พี่เอกยืนอยู่แถวๆ นี้ค่ะ คุณวาดอยากใช้อะไรโผล่หน้าออกไปเรียกได้เลยค่ะ”

          แป้นแนะนำตัว และเอกก็ยิ้มรับ เขาเหลือบมองโจนาธานแบบหวาดๆ กลัวใจกับฤทธิ์ของพ่อเจ้าประคุณจริงๆ

          แต่ที่เอกเห็นคือ คนฤทธิ์มานอนเอนๆ อยู่กลางเตียง ใบหน้าหงิกงอ ยับย่น มีรอยไม่พอใจเต็มหน่วยตา แต่กลับไม่มีเสียงโวย เหมือนเก่า

          “ดีเลย วาดอยากจับ ‘เค้า’ เช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ทำความสะอาดเตียงนั่นด้วย”

          คราบอาหารหกกระจายไปทั่ว แป้นอมยิ้ม กว่าคุณโจนาธานจะยอมรับประทานอาหาร คงออกฤทธิ์ไว้ไม่น้อย...

          “คุณวาดจัดการเช็ดตัวได้เลยค่ะ แป้นจะไปตามคนมาช่วยทำความสะอาดเตียง”

          “ที่ฉันพูดนี่ มีใครฟังมั้งมั้ย!! หรือว่าฟังภาษาคนไม่ออก ออกไป!! อย่ามาวุ่นวายกับฉัน...”

          เสียงแทรกจากกลางเตียง เมื่อโจนาธานเริ่มโวย

          “แป้นไปตามคนมาเถอะจ้ะ ทางนี้วาดกับพี่เอกคงพอรับมือไหว”

          หญิงสาวหันมาเจรจากับแป้น เธอพยักหน้าให้กับเอก คงต้องอุ้มโจนาธานออกจากเตียง เพื่อให้แป้นได้ทำความสะอาด เขาจะมานอนเน่าบนเตียงสกปรกแบบนี้ คงไม่เหมาะ

          “พี่เอกช่วยวาดหน่อยค่ะ วาดเห็นวีแชร์ อุ้มคุณเขาใส่วีแชร์เลย แล้วก็เข็นเข้ามาในห้องน้ำค่ะ วาดจะเตรียมน้ำรอ...ที่สำคัญ ไม่ต้องสนใจเสียงนก เสียงกา...พี่เอกมีหน้าที่แค่...อุ้มเขา แล้วเข็นรถนั่น ไปส่งให้วาด”

          วันวาดสั่ง เธอมองหน้าโจนาธานยิ้มๆ เขาถลึงตาจนโปน เธอส่ายใบหน้า ยกมือขึ้นโบกไปมา เหมือนเป็นการบอกชายหนุ่มอ้อมๆ เขาห้ามสิ่งที่เธอจะทำไม่ได้...

          “ไอ้เอก...อย่ามายุ่งกับกู!!”

          เสียงโจนาธานโวย วันวาดอมยิ้ม ผู้ชายคนนี้เหมือนเด็กป่วย เขาพยายามต่อต้าน แต่ไม่มีแรงมากพอ...

          “มึงปล่อยกูนะไอ้เอก ไม่อย่างนั้นกูจะไล่มึงออก ปล่อยกูซิโว้ย!!”

          ชายหนุ่มพยายามต้าน เขาอยากมีแรง เขาอยากขยับตัวได้เหมือนเดิม แต่สิ่งที่โจนาธานต้องการ...เขากลับไม่สามารถทำได้เลย มือของชายหนุ่มกำแน่น เขาชิงชังตัวเอง นึกเกลียดไปยังวันวาด หล่อนมาวุ่นวายกับเขาทำไม!!

          “ทางนี้ค่ะ”

          หญิงสาวผสมน้ำอุ่นๆ ไว้ เธอยกเก้าอี้มาจากด้านใน เพื่อใช้สำหรับการชำระล้างคราบเหงื่อบนร่างกายโจนาธาน เขาสกปรกเกินไป เธอจำเป็นต้องทำความสะอาดเขาให้ดูดีกว่านี้...

          “เอ่อ...ถอดเสื้อผ้าคุณซิคะพี่เอก เราจะอาบน้ำให้คุณกัน”

          เอกอุ้มโจนาธานวางบนเก้าอี้นั่น ชายหนุ่มพยายามต้าน แต่เหมือนเดิม เขาทำไม่ได้ เมื่อไม่มีแรงพอ...เขาเหนื่อยจนหอบ แต่ก็สู้แรงของเอกไม่ได้ จนกระทั่งวันวาดสั่ง ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง!! นี่หล่อนจะอาบน้ำให้เขาจริงๆ เหรอ...บ้าสิ!! เขาไม่ยอมหรอก ใครรู้เขา...อายตายเลย

          โจนาธานจึงยอมอ่อนลง...

          “ออกไปสิ...ให้เอกจัดการก็พอ...เธอจะมายืนทำบ้าอะไรตรงนี้...”

          ชายหนุ่มตวาดเสียงอ่อยๆ เขาหลุบเปลือกตาลง ไม่อยากเห็นหล่อนหรืออะไรทั้งนั้น โจนาธานรู้ หล่อนน่าจะกำลังฉีกยิ้มแป้น...คงสาแก่ใจ ที่เขายอมลงง่ายๆ

          “พี่เอก โกนหนวดเป็นไหมคะ”

          “อย่าเยอะ!! ฉันยอมให้อาบน้ำ ไม่ใช่ยอมทั้งหมดนะ!!”

          ชายหนุ่มพูดแทรกเสียงแข็ง เขาแค่ยอมให้หล่อนอาบน้ำให้ ไม่ได้หมายความว่า... จะยอมให้หล่อนยุ่มย่ามกับเขาได้ทุกอย่าง

          “ตามใจค่ะ แค่นี้ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว วาดจะยอมถอยให้คุณก็ได้...แต่บอกไว้ก่อนนะคะ วาดโกนหนวดเก่งมาก...” หญิงสาวคุยฟุ้ง เธอเดินถอยหลังออกมา เพราะเอาเข้าจริงๆ เธอก็คงไม่กล้าที่จะอาบน้ำให้ผู้ชายเหมือนกัน เมื่อเคยทำแค่เช็ดเนื้อเช็ดตัว แต่คราบสกปรกบนตัวโจนาธาน แค่เช็ดตัวคงไม่สะอาดขึ้น

          “เสื้อผ้าชุดใหม่...วาดวางไว้ตรงนี้นะคะ”

          ชายหนุ่มกรอกตา เสียงของหล่อนลอยมาเข้าหู นี่แค่ไม่กี่ชั่วโมง เขาถูกหล่อนคุกคาม จนอยู่ไม่สุข

          “ผู้หญิงห่าอะไรวะ จุ้นชิบ!!”

          คนป่วยจอมเรื่องมากบ่นอุบ

          เอกอมยิ้ม นึกชอบความใจกล้าของพยาบาลคนใหม่ ถึงเธอตัวเล็กๆ แต่ใจเธอใหญ่น่าดู จนทำให้คนฤทธิ์มากอย่างเจ้านายถึงกับพ่าย แค่วันแรก เธอยังสามารถบังคับให้เจ้านายกินอาหาร กินยา แถมอาบน้ำด้วย หากเธอไม่ถอดใจก่อน เจ้านายคงจะเดินได้ในอีกไม่ช้า เมื่อดูเหมือนเธอเป็นมืออาชีพ ไม่ได้มาเพราะหวังอย่างอื่น...

         

          เบนเดินเข้ามาในห้องพักฟื้นของน้องชายหลังพระอาทิตย์ตกดิน...เขามองเห็นความผิดปรกติที่เกิด...มันเป็นนิมิตหมายที่ดี โจนาธานนั่งเม้มปากแน่นอยู่กลางเตียง หน้าหงิกเหมือนเคย แต่ไม่ได้โวยวายไล่วันวาดเหมือนที่เคยได้ยินกับพยาบาลคนก่อนๆ แถมสภาพของโจนาธานโดยรวมดูดีขึ้น...เตียงนอนสะอาดขึ้น กลิ่นเหม็นอับหายไป...

          “ไงไอ้เสือ...”

          เบนทิ้งตัวนั่ง เขาหนีบไวน์มา1 ขวด

          “ห้ามคนป่วยทานนะคะ ช่วงนี้ของด จนกว่าจะแข็งแรงขึ้นกว่านี้”

          วันวาดพูดแทรก เธอมองเห็นไวน์ขวดนั้น จึงลืมตัวเอ่ยปากห้าม...

          “ฉันก็ไม่คิดจะให้มันกินหรอก...” เบนเปรยเหมือนตอบ “เธอไม่คิดจะเปลี่ยนเสื้อผ้าหรืออาบน้ำเหรอไง ฉันดูไอ้เสือนี่ให้เอง...”

          วันวาดผ่อนลมหายใจยาวๆ เธอไม่ได้เตรียมพร้อม แม้จะรู้ว่าต้องลงมือทำ นี่เป็นวันแรกที่เธอต้องทำหน้าที่ดูแลคนป่วยคนหนึ่ง หญิงสาวพยักหน้า เธอคงไม่อาบน้ำ เมื่อมีของใช้ไม่ครบ ขอแค่ล้างตัว เช็ดหน้า พอให้หายเหนียวตัวเป็นพอ หญิงสาวเดนไปฉวยกระเป๋าสะพายของตัวเอง เพื่อไปทำธุระส่วนตัว ในห้องน้ำภายในห้องพักฟื้นของ โจนาธาน...

          “พี่ไปขุดยัยบ้านี่มาจากไหน?”

          คนป่วยพูดแบบใส่อารมณ์ เป็นครั้งแรกที่เขาฝืนไม่ได้ หล่อนไม่สนใจอาการเกรี้ยวกราดของเขาสักนิด ทำหน้ามึนใส่ แถมยังเจ้ากี้เจ้าการ

          “คนแถวนี้...พ่อเขาเป็นหนี้ฉัน...ก็เลยต้องทนคนเรื่องมากอย่างแก...ฉันบอกแกแล้ว หล่อนน่าจะถึกเหมือนควาย”

          เบนเปรย เขาเอื้อมมือเปิดปากขวด รินไวน์รสนุ่มลงในแก้วที่ถือมาด้วย

          “สักนิดมั้ย?”

          เบนยกแก้วไวน์ขึ้นชู เขาเห็นลูกกระเดือกของโจนาธานเคลื่อนที่ขึ้นลง คนเคยลิ้มรส คงอยากลอง

          สายตาคมดุของคนป่วย เหลือบมองประตูห้องน้ำแบบหวาดๆ

          “เอาน่า ฉันไม่บอกหล่อนหรอก...สักกรึบ!!”

          เบนกระเด้งตัวลุกขึ้นยืน เขาจ่อแก้วไวน์ที่ปากน้องชาย แล้วจึงยกก้นแก้วให้สูงขึ้น เพื่อให้น้ำสีแดงคล้ำไหลลงไปในอุ้งปากคนเจ็บ...

          “อ่าว์...”

          หลังรสชาติเฝื่อนๆ หวานๆ ไหลรินเข้ามาในปาก โจนาธานหลับตาพริ้ม...เขาดื่มด่ำกับความละมุนละไมที่ห่างหายไปนาน

          “ขอแค่แกเดินได้ ไม่ต้องเหมือนเดิมก็ได้...นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการ”

          เบนกล่าว...เขาเดินไปทิ้งตัวนั่งที่เดิม รินไวน์ใส่แก้ว ยกแก้วขึ้น กระดกเทใส่ปาก ลิ้มรสหวานอมเฝื่อนของไวน์รสเลิศ...

          “หึ!! นั่นคือความฝันเบน มันไม่มีทางเป็นจริงหรอก... เมื่อความจริงคือผมเป็นไอ้ง่อย ที่ขาสองข้างไม่มีความรู้สึก”

          โจนาธานพูด เขารู้ตัวเองดี ต่อให้หมอเทวดาก็คงไม่มีทางช่วยเขาได้ ขาสองข้างที่เคยแข็งแรง มันผอมลีบ และหมดความรู้สึกลงไปทีละนิด...

          “นั่นเพราะคุณดูถูกตัวเองค่ะ...มีคนป่วยอีกหลายคนที่เป็นแบบคุณ วาดเคยดูแลเขา แต่เขากลับมาเดินได้อีกครั้ง เพราะใจเขาสู้ คุณเองน่ะมีแรงอาละวาดคนอื่นได้นี่คะ ก็น่าจะมีแรงทำกายภาพบำบัดนะคะ”

          วันวาดพูดแทรก เธอเดินออกมาจากห้องน้ำ ใบหน้าผ่องใสขึ้น ผมถูกรวบตึงเป็นมวยอยู่หลังท้ายทอย กับเสื้อสีขาวบนตัวหล่อนหายไป หล่อนสวมเสื้อยืดสีเทาออกมาแทน

          “ยุ่ง!! อย่าสาระแนถ้าหล่อนไม่รู้จริง...ฉันมันแค่ไอ้ง่อย เธอไม่รู้ เท่าตัวฉันเองหรอก”

          ชายหนุ่มตวาดแหว!! หล่อนไม่มาเป็นเขา หล่อนไม่รู้หรอก...เขาเคยพยายามแล้ว แต่มันไร้ผล...ไม่มีอะไรดีขึ้น จนโจนาธานถอดใจ...

          “วาดเป็นพยาบาลค่ะ วาดเจอมากับตัว ยิ่งกว่าคุณเขายังกลับมาเดินได้เลย ถึงไม่ปกติเท่าเก่า แต่ก็ดีกว่านอนนิ่งเป็นผักเน่าบนเตียง คุณยังหนุ่ม ยังแน่น...เจอแค่นี้...จะถอยแล้วหรือคะ?”

          หญิงสาวเปรยเสียงเรียบ เธอสูดจมูกฟุตฟิต เมื่อเดินเข้าใกล้โจนาธานแล้วได้กลิ่นแอลกอฮอล์

          “ที่สำคัญ ต้องเคร่งครัดกับคำสั่งของหมอด้วยค่ะ...” หญิงสาวย้ำ เธอปรายตามองชายหนุ่มแบบตำหนิเล็กๆ

          “หึ!! จุ้น”

          คนเดินไม่ได้แสร้งกระแทกเสียงใส่ ปกปิดความผิดที่ตัวเองเพิ่งกระทำไป

          หญิงสาวเหลือบมองเวลา...ยังไม่ดึกนัก เธอจึงไม่ว่าเบน ที่นั่งขวางตา ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ตรงนั้น

          “วันวาดจะมาดูแลแก แค่ตอนกลางคืนนะโจ...หล่อนทำงานที่โรงพยาบาล ตอนกลางวันแกต้องทนยัยแป้นไปก่อน”

          เบนกล่าวเหมือนบอกเล่า

          โจนาธานนึกทึ่ง!! ผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่ง ทำงาน 24 ชั่วโมงเลยเหรอ เขาอยากรู้จริงๆ หล่อนจะทนอยู่กับเขาได้สักกี่น้ำ หากต้องเจอฤทธิ์เดช ของเขาทุกวัน

          “เปิดทีวีให้หน่อยสิ”

          โจนาธานร้องขอ เขามองวันวาดด้วยสายตามีอำนาจ หญิงสาวพยักหน้ารับ เดินไปกดรีโหมตเปิดทีวีจอยักษ์ที่แขวนไว้ข้างพนังให้แบบไม่เกี่ยงงอน

          หญิงสาวเดินเอารีโหมตอันนั้นมาส่งให้คนไข้ เขาอยากดูอะไรก็ตามสบาย เธอขอไปจัดการร่างแผนงานไว้ให้แป้น ช่วงกลางวันโจนาธานจะต้องกินข้าว กินยา และปฏิบัติตัวตามหมอสั่ง เพราะหากเขาไม่พยายาม ความฝันที่จะเดินได้ คงไม่มีหวัง...

          “ที่บ่อนยุ่งมั้ยพี่?”

          “ไม่หรอก...อยู่ตัวแล้ว...ไม่ต้องเป็นห่วงไป ฉันคนเดียวยังไหว...มันไม่เหมือนเมื่อก่อน เราไม่ต้องระแวง เมื่อสิ่งที่น่าหวั่น ฉันกับไทย จัดการล้างบางไปแล้ว”

          “แล้วไอ้นั่น!!”

          โจนาธานเปรย เบนยิ้มรับ “ไอ้เสี่ยนั่นเหรอ...มันยังเงียบอยู่ คงชะล่าใจคิดว่าแกปางตาย...โจ...แกจะอยู่แบบนี้ ปล่อยให้มันลอยนวลจริงๆ เหรอ?”

          โจนาธานถอนใจแรงๆ เขาก้มมองตัวเอง เอ่ยเสียงแผ่วๆ “ผมจะทำอะไรได้ล่ะพี่ ขนาดตัวเองยังนอนแบ็บ”

          สองหนุ่มคุยกันเบาๆ เบนลากเก้าอี้เข้าไปนั่งใกล้ๆ โจนาธาน

“แกก็ต้องสู้สิ!! คนอื่นเขายังทำได้เลย อย่างที่วาดบอกไง...แย่กว่าแกยังหาย ทำไมแกไม่ลอง พรุ่งนี้หมอมา แกลองคุยกับหมอดูสิ เปอร์เซ็นหายแกมีต้อง 50% พี่อยากให้แกลอง” เขายินดีมากที่โจนาธานมีโอกาสที่ดีขึ้น หากวันวาดทำได้จริง เขายินดีมอบเงินจำนวนหนึ่งเป็นของกำนัล นอกเหนือจากหนี้ที่ทะนงยืมไป...

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status