Share

บทที่5.คืนที่2 สำหรับการอยู่กับผู้ชายลำพัง...3

หญิงสาวตักอาหารในโถนั่นใส่ลงในถ้วยเล็ก แล้วจึงเดินไปวางบนโต๊ะตัวเมื่อวาน เข็นมาชิดเตียง โดยไม่พูดอะไรอีก...กลิ่นหอมๆ นั่น ทำให้ต่อมหิวของโจนาธานทำงาน ความจริงเขาอยากต่อต้าน แต่มาคิดอีกที...ให้เขาอาละวาด โวยวาย วันวาดก็คงไม่สนใจ หล่อนดึงดันจะทำสิ่งที่หล่อนควรทำ และเขาก็จะเหนื่อยเปล่า

          แป้นเลี่ยงออกไปนอกห้อง ปล่อยให้วันวาดกับเจ้านายขี้โมโห อยู่กันตามลำพัง สาวใช้ตัวอวบอมยิ้มเล็กๆ เมื่อเหตุการณ์วุ่นวายที่เคยเกิดขึ้น หากมีใครก็ตามพยายามให้โจนาธานทำในสิ่งที่เขาไม่อยากทำ กลับสงบราบเรียบ...ไม่มีเสียงตะโกน ไม่มีข้าวของเสียหาย หล่อนภาวนาในใจ ขอให้โจนาธานสิ้นฤทธิ์ และยอมปฏิบัติตัวตามหมอสั่ง เพราะนั่นคือผลดีกับตัวเขาเอง...

          ข้าวต้มเละๆ แต่ก็ไม่ถึงกับละเอียดยิบเหมือนเมื่อวันก่อน ข้าวเม็ดหยาบขึ้น มีสีสันของผักสีเขียว สลับกับเนื้อกุ้งหรือหมูชิ้นเล็กๆ

“ฉันไม่กินผัก!!” ชายหนุ่มตะคอก

“เพราะอะไรคะ...คุณไม่ทานผัก เพราะว่ามันเหม็นเขียว หรือเพราะฝังใจ?” หญิงสาวย้อนถาม

“ช่างฉัน!!”

“ไม่ได้หรอกค่ะ ผักทุกชนิดมีประโยชน์ มีสรรพคุณช่วยรักษาฟื้นฟูได้ คุณแค่กลั้นใจกิน...เด็ก3 ขวบยังกินได้ แล้วคุณน่ะ อายุก็ไม่น้อย จะยอมแพ้เด็กๆ หรือไงคะ?”

ชายหนุ่มเบ้ปาก เขาอยากปัดถ้วยข้าวทิ้ง

“คุณหิว...วาดรู้ ทานไปเถอะค่ะ อย่าฝืนเลย”

โจนาธานตัดใจ เขาพยายามไม่แสดงอาการสั่นๆ ออกมา ค่อยๆ หยิบช้อน และตักอาหารใส่ปาก...มีอาหารหกเลอะเทอะในบางครั้ง จนเขานึกโมโหตัวเอง!! มีสายตาให้กำลังใจของพยาบาลจอมจุ้นคอยลุ้น คนป่วยจอมยโสไม่อยากอายหล่อน เขาจึงพยายามเกร็งมือ ทำให้ดีขึ้น ช่วงหลังๆ ก่อนที่ข้าวต้มในถ้วยจะหมด เขาสามารถตักอาหารใส่ปากโดยที่ไม่มีการหกหล่น...

          วันวาดชำเรืองมองคนป่วยจอมหยิ่งบนเตียงบ่อยๆ เขานั่งเอนๆ มีหมอนใบใหญ่หนุนหลัง และพยายามช่วยเหลือตัวเองโดยไม่คิดร้องของความช่วยเหลือ เธอแอบชื่นชมเขาในใจ...หากตัดอารมณ์ขี้โมโหนั่นทิ้ง โจนาธานก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ดูดีจนใจเธอกระตุก วันละหลายๆ รอบ

          “คุณอยากอาบน้ำอีกมั้ยคะ?”

          ถ้วยยาใบเดิมถูกส่งให้ชายหนุ่ม ในนั่นมียาจำนวนเท่าเดิม แต่ต่างสี เขาเอื้อมหยิบเม็ดยาโยนใส่ปากโดยไม่พูดอะไร ตัดบทให้หล่อนด้วยการโบกมือไล่...

          “ไม่...ฉันอยากนอน...”

          วันวาดพยักหน้ารับ เธอเข็นโต๊ะไปเก็บที่เดิม เดินหายลับเข้าไปในห้องน้ำกลับออกมาพร้อมกับกาละมังขนาดย่อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กๆ พาดไว้ที่หัวไหล่

          “วาดจะเช็ดหน้ากับมือให้คุณ คุณจะได้นอนสบายๆ”

          หญิงสาวบอกลอยๆ เธอทำอย่างที่ตัวเองควรทำ และคนป่วยบนเตียงไม่คิดจะพูดอะไรเลย

          โจนาธานรู้สึกดีขึ้น คราบเหนอะหนะมุมปากหายไป

          “พ่อเธอเล่นการพนันเหรอ?”

          เป็นคำพูดลอยๆ จากคนที่หลับตาพริ้ม วันวาดชะงัก เธอผ่อนลมหายใจยาวเหยียดก่อนตอบ “ค่ะ กาสิโนพี่คุณ กับอีกหลายๆ ที่”

          หญิงสาวไม่ได้พูดประชด ความจริงเป็นเช่นนั้น

          “ทำไมไม่ห้ามล่ะ”

          ชายหนุ่มเอ่ยปากถาม เขาปรือตาขึ้นมอง...

          “นั่นคือการแก้ที่ปลายเหตุหรือเปล่าล่ะคะ ความจริง... ถ้าไม่มีบ่อน พ่อก็คงไม่ถลำเข้าไป...” นั่นคือความคิดของเธอ การห้ามไม่ให้คนโลภเข้าไปเสี่ยงโชค มันยากกว่าไม่ใช่เหรอ หากไม่มีสถานที่เหล่านี้ล่ะ...ถ้าไม่มีนักธุรกิจหัวใสอย่างคนตรงหน้าเธอ ก็คงไม่มีคนโง่ หรือคนโลภกลายเป็นเหยื่ออบายมุข

          “นั่นคืองานของฉันนะ ช่วยไม่ได้นี่”

          ชายหนุ่มตอบแบบไม่ยี่หระ!! เขากดยิ้มมุมปาก เพราะความโลภของมนุษย์ พวกเขาจึงกลายเป็นเหยื่อ เงินร้อนจากการพนัน มันอยู่ไม่นาน มีสิ่งยั่วตา ล่อใจ พวกเข้าก็จะถลาเข้ามาเพื่อหวังกอบโกย แต่กลับต้องเอาเงินที่หามาอย่างยากลำบากมาทิ้งไว้แทน

          “ค่ะ...พ่อวาดโง่เอง โง่ที่คิดว่าจะร่ำรวยเพราะการเสี่ยงโชคได้ ทั้งๆ ที่ไม่มีความเป็นไปได้เลย”

          หญิงสาวไขเตียงลง เธอปล่อยให้คนไข้จอมป่วนนอนสบายๆ และพยายามสะกดความไม่พอใจเนื่องจากสิ่งที่เขาทำ เพราะคนอย่างพวกเขานี่ไง ที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมกับหลายครอบครัว มีแต่ความฉิบหาย ล่มจม หลังสถานที่อุบาทนั่นถูกปลูกสร้างขึ้น

          “มันช่วยไม่ได้น่ะ คนโง่ ก็ยังเป็นคนโง่...วันยังค่ำ”

          โจนาธานกล่าว เขาไม่ได้เยาะหยันคนเหล่านั้น ก็เพราะมีคนโลภ เพราะมีคนหวังความร่ำรวยนี่ไงล่ะ เขากับพี่ถึงมีที่ทำกิน มันช่วยไม่ได้นี่ พวกเขาไม่มีสมองเอง มีใครบ้างล่ะร่ำรวยเพราะการพนัน นอกจากเจ้าของบ่อน...

          วันวาดชะงัก ช้อนที่กำลังตักข้าวต้มสุดอร่อยหยุดกึก คำพูดของเขาเหยียบกลางแสกหน้าเธอ เขาพูดถูก แต่หากไม่มีนักธุรกิจหัวใสอย่างพวกเขา คนโง่ๆ ที่เขาพูดถึง ก็คงไม่ถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัว... หญิงสาวพยายามกลืนอาหารลงไปในลำคอ เธอยังต้องใช้แรงอีกมากในการมีชีวิตอยู่บนโลก คำพูดของเขาทำให้เธอเจ็บปวด แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอถึงตาย หญิงสาวข่มความโกรธลง เธอกลืนอาหารคำสุดท้ายลงไปในคอ แล้วจึงตัดสินใจยุติการรับประทาน เมื่อลำคอตีบตัน จนไม่สามารถกลืนอาหารลงไปได้อีก

          วันวาดล้างมือในอ้าง เธอมองตัวเองผ่านกระจกเงา ภาพสะท้อนที่เห็นนั้น คือภาพตัวเองที่ใบหน้ามีแต่ความทุกข์ทน หลายปีมานี่... เธอแทบจะยิ้มไม่ออก จริงอยู่...ชีวิตของเธอต้องฝ่าฟันมาตั้งแต่เด็ก แต่มันเทียบไม่ได้เลยช่วง3ปีมานี่ นับตั้งแต่วันที่บิดาเดินทางไปพักผ่อนด้วยการเข้าบ่อนกาสิโนครั้งแรก

          เธอจำได้ดี...วันนั้นท่านกลับมาพร้อมกับความยินดี มีแต่เสียงหัวเราะลั่นบ้าน แม้แต่แม่ของเธอก็ยังได้ของกำนัล แต่วันวาดกลับไม่ได้รู้สึกยินดีสักนิด เค้าลางความวุ่นวายกำลังจะตามมา เธอไม่เชื่อหรอกว่า...บิดาจะไม่ไปอีก แล้วก็เป็นอย่างที่เธอหวั่นกลัว...3วันหลังจากนั้น บิดาก็กลับมาบ้าน หลังจากหายไปพร้อมกับเงินก้อนใหญ่ที่ท่านคุยฟุ้ง!! ว่าเป็นเงินที่ชนะการเดิมพัน...

          เป็นอย่างที่วันวาดคิด...ครั้งที่สองของการไปพักผ่อนในบ่อน...ท่านกลับมาพร้อมกับใบหน้าหมองๆ กับอารมณ์กราดเกรี้ยว...

          หลังจากนั้นบิดาก็เดินทางไปกลับ ระหว่างบ่อนการพนัน กับบ้านเป็นว่าเล่น เธอได้แต่เฝ้ามองอย่างเป็นกังวล...และความหายนะก็คืบคลานเข้ามาประชิดบ้านพิศิษรุ่งเรือง...

          “...” เธอสูดลมหายใจลึกๆ จะโทษเขาทั้งหมดก็ไม่ได้ เขาเป็นนักธุรกิจ อันไหนที่ทำกำไรให้ตนเอง ไม่แปลกหรอกที่คนอย่างพวกเขาจะรีบคว้าเอาไว้...ต้องโทษความโง่ของเราเอง หวังรวยทางลัด...สุดท้ายก็กลายเป็นเหยื่อ...

          โจนาธานเฝ้ามองยัยจอมจุ้น...หล่อนเงียบไปหลังการสนทนานั่น คำพูดของเขาคงกระทบใจหล่อน คนพูดมากชั่งสอนอย่างหล่อน ถึงได้หุบปากเงียบ

          “คุณจะนอนเลยมั้ยคะ? วาดจะได้หรี่แสงไฟ”

          แต่หล่อนก็ยังทำหน้าที่ตัวเอง คอยดูแลเขา เพียงแต่ดวงตาคู่นั้นของหล่อน พยายามที่จะเลี่ยง ไม่มองสบนัยน์ตาเขาเหมือนเคย...สงสัยเขาต้องรู้เรื่องของหล่อนเสียบ้าง จะได้รู้ว่าหล่อนมีปมอะไรนักกับกาสิโน หล่อนถึงมีปฏิกิริยาเช่นนั้น ตอนที่เขาเอ่ยถึง...

          ไฟฟ้าถูกปิด เมื่อโจนาธารควรได้พักเต็มที่ วันวาดนั่งอยู่ประจำที่เดิม หล่อนทำงานของหล่อนไป จนกระทั่งคนป่วยหลับ หญิงสาวจึงถือโอกาสพักตา...

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status