ชายหนุ่มไม่ได้ตอบ เขาแค่มีความหวังอีกครั้ง
ดังนั้นสายตาที่มองวันวาด จึงค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนไป
โจนาธานมองหล่อนดีขึ้น เมื่อวันวาดทำหน้าที่ของหล่อนได้อย่างดี หล่อนไม่ได้คอยแทะโลมเขา เหมือนพยาบาลสาวคนก่อนๆ อย่าว่าแต่แตะต้องตัวเขาเลย…หากจะแตะตัวเขา นั่นหมายความว่ามีบุคคลที่2 หรือ3 อยู่ด้วย เพราะหากอยู่กันตามลำพัง หล่อนจะอยู่ไกลๆ เขาเป็นวา ทำเหมือนกับว่า...หล่อนกลัวเขาปล้ำอย่างนั้นแหละ!!
ตกดึก โจนาธานมีอาการแปลกๆ ตัวเขาร้อน หายใจขัดๆ ลมหายใจสะดุด เหงื่อไหลออกมาจากรูขุมขนเหมือนน้ำตก เขาขยับตัว ครางฮือๆ แล้วจู่ๆ ก็มีผ้าเย็นๆ โป๊ะลงมาที่หน้าผาก ตามด้วยผ้าอีกผืนที่เปียกชื้นไม่แพ้กัน ลูบไปใต้ชายเสื้อพร้อมกับเสียงปลอบใจเบาๆ
“ไม่มีอะไรค่ะ คุณแค่ไข้ขึ้น คงเพราะคุณตากลมนาน เดี๋ยวก็หายค่ะ วาดเช็ดตัวให้แล้วอีกพักคงดีขึ้น หรือคุณจะทานยาคะ?”
โจนาธานกระพริบเปลือกตาปริบๆ กระบอกตาของเขาร้อนผ่าวเพราะพิษไข้ที่รุมเร้า
วัดวาดสอดมือเช็ดตามเนื้อตัวเขา ผิวของเขาร้อนระอุ ดวงตาของเขาหรี่ปรือ เธอตัดสินใจให้โจนาธานกินยาเพื่อลดไข้ ไม่อยากเห็นเขาทรมานมากไปกว่านี้ เมื่อเขาไม่ใช่คนปรกติเหมือนคนอื่น เขาเจ็บปวดมามากเกินพอ อุณหภูมิในร่างกายของเขาลดลง แต่วันวาดก็ยังไม่ไปไหนไกล เธอนั่งข้างเตียง คอยอังมือกับหน้าผากเขาเป็นระยะ เพื่อดูระดับความร้อนในร่างกาย ผ้าประคบเย็นถูกเปลี่ยนบ่อยๆ อาการของโจนาธานดีขึ้น ความร้อนของเขาค่อยๆ ลดลง...
ชายหนุ่มเผลอตัวหลับสนิท มาสะดุ้งตื่นอีกทีตอนเช้า เขารู้สึกดีขึ้น หายใจคล่องขึ้น โจนาธานปรือตามองฝ่าความมืด พระอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นทิวเขา แสงแดดสีส้มอ่อนเริ่มสาดส่องบนพื้นโลก เขาสูดลมหายใจแรง เหลียวมองหาพยาบาลจอมจุ้น หล่อนคงสาละวนเตรียมหาอาหารเช้าให้เขากิน
แต่ที่เขาเห็นคือ...วันวาดฟุบหลับ มือของหล่อนกุมมือเขาไว้ เขาเห็นแค่ศีรษะที่มีผมนุ่มๆ หล่อนคงเพลียเพราะอาการป่วยของเขา จนเผลอหลับไป
ชายหนุ่มถือโอกาสสำรวจหล่อน เมื่ออยู่ในระยะใกล้ขนาดนี้ ผิวหล่อนเนียนละเอียดจนมองไม่เห็นรูขุมขน แพขนตางอนยาวดำเป็นแพ เหมือนปีกผีเสื้อมันวาวระยับรับกับปลายจมูกโด่งแหลม ปากรูปกระจับปิดสนิท ใบหน้ายามหลับของวันวาดชวนมอง เขาไม่คิดว่าหล่อนจะมีเสน่ห์ จวบจนตอนนี้ โจนาธานแน่ใจ...เขาชักสายตากลับจากการมองหล่อนไม่ได้ เวลานี้เขารู้สึกแปลกๆ เป็นความผูกพันที่บอกไม่ถูกรู้แค่ว่า...อยากเห็นหล่อนเช่นนี้ ได้ต่อปากต่อคำกับหล่อนทุกวัน...
“เออ...”
แป้นเปิดประตูเข้ามา หล่อนมาพร้อมอาหารเช้า
“ชูว!!”
โจนาธานยกนิ้วขึ้นปิดปาก เขาส่งเสียงปรามสาวใช้ตัวอวบ หล่อนซุ่มซ่ามและชอบทำเสียงดัง เขาไม่อยากให้วันวาดตื่น หล่อนควรได้พักผ่อนบาง หลังอดนอนมาทั้งคืน
แป้นพยักหน้ารับ หล่อนจรดปลายเท้าเบากริบ ย่องเงียบนำถาดอาหารที่ประคองไว้ไปวางไว้ที่โต๊ะมุมห้อง
โจนาธานโบกมือเรียกสาวใช้ เขาสั่งแป้นด้วยภาษามือ เพื่อไม่ให้เกิดเสียงรบกวนคนหลับ
“โทร. ลางานให้วาด ห้ามส่งเสียงเรียกหล่อน จนกว่าหล่อนจะตื่นเอง...แกจะไปไหนก็ไป ฉันกินข้าวคนเดียวได้ ไม่ต้องช่วย รอหล่อนตื่นก่อน ฉันถึงจะอาบน้ำ ไม่ต้องเข้ามาอีกนะ”
ชายหนุ่มกระซิบผ่านไรฟัน เขาพยายามทำเสียงให้เบาที่สุด เพื่อไม่ให้คนหลับรู้สึกตัว หล่อนคงเพลียมากถึงหลับไม่รู้เรื่อง
แป้นพยักหน้ารับทราบ หล่อนเข็นโต๊ะอาหารมาชิดเตียง ทำแบบเบามือดั่งความต้องการของเจ้าของห้อง พร้อมกับแอบชำเรืองมองวันวาดบ่อยๆ นึกแปลกใจที่วันวาดขี้เซา มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นเมื่อคืนแน่ ไม่อย่างนั้นจอมโวยอย่างโจนาธาน คงไม่กะเกณฑ์เช่นนี้ เธอไม่ได้รู้สึกไปเอง...ความสัมพันธ์ระหว่างคนป่วยขี้โวยกับพยาบาลสุดเฮี๊ยบ ดีขึ้น!!
แป้นถอยหลังออกจากห้องพักฟื้นเจ้านายหนุ่ม แบบเงียบเฉียบที่สุด!!
“เดี๋ยวพี่เอก ห้ามเข้าห้องนะ...คุณสั่งไว้”
สาวอวบรั้งการ์ดหนุ่มเอาไว้ เขาเตรียมตัวจะเข้าไปด้านใน เมื่อถึงเวลาที่โจนาธานจะต้องทำความสะอาดตัว
“อะไรวะแป้น รั้งไว้ทำไมเดี๋ยวคุณบ่น”
“ไม่บ่นหรอก คุณห้ามเข้า คุณวาดยังไม่ตื่น”
แป้นกระซิบบอก หน้าตาหล่อนเจ้าเล่ห์พิกล
“อ้าว...สายป่านนี้แล้ว คุณวาดไม่ไปทำงานเหรอ?”
การ์ดหนุ่มยังไม่เข้าใจ วันวาดต้องไปทำงานแต่เช้า นี่จวนได้เวลา แต่แป้นกลับบอกว่าพยาบาลสุดขยันอย่างวันวาดยังหลับอุดตุ
“หลับฟุบข้างเตียงคุณโจ จับมือกันไม่ยอมปล่อย พี่เอกว่าแปลกมั้ย?”
แป้นทำเสียงเจ้าเล่ห์ หล่อนกระซิบถามเอก แต่ชายหนุ่มไม่มีคำตอบ ได้แต่ทำหน้าแปลกใจ
“ห้ามเข้าล่ะ คุณเบนมาก็กันไว้ด้วย ถ้าอยากโดนคุณโจโวย ก็ปล่อยคุณเบนเข้าไป คุณวาดตื่นล่ะเป็นเรื่อง!!”
แป้นย้ำ หล่อนมีหน้าที่สำคัญต้องไปทำ นั่นคือการโทร. ไปลางานให้หญิงสาว
แม้เอกจะยังไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมรับคำสั่งโดยดี ยืนขวางประตูเป็นยักษ์วัดแจ้ง เพื่อห้ามไม่ให้คนนอกเข้าไปยุ่มย่ามในห้อง และคงเป็นโอกาสเหมาะของโจนาธาน วันนี้เบนไม่ได้นึกอยากมาหาน้องชาย เขาออกไปทำงานตอนสายๆ โดยที่ไม่ได้แวะเวียนไปที่ห้องพักฟื้นโจนาธานเหมือนทุกวัน วันวาดจึงหลับยาวโดยไม่มีคนกวน
บทที่8.ชนวนระเบิด... วันวาดตื่นมาอีกทีตอนสายโด่ง!! เธอกระพริบเปลือกตาปริบๆ ขยับตัวและรีบขยับลุกขึ้นยืนอย่างไว และเมื่อมองเลยไปยังด้านนอก เธอต้องตาลีตาลานวิ่งเข้าห้องน้ำ โดยที่โจนาธานมองตามไป แบบขำๆ “วาดไปก่อนนะคะ สายแล้ว” 5นาทีสำหรับการล้างหน้าแปรงฟัน หญิงสาวจัดการตัวเองแบบเร่งด่วน เธอร้องบอกโจนาธานเสียงสั่น แต่เขากลับนิ่งเฉย “ไม่ต้องไปหรอกน่า ฉันให้แป้นโทร. ลางานให้เธอแล้ว” คำบอกเล่าของคนป่วยจอมโวย ตรึงปลายเท้าเธอไว้ เธอชะงักหมุนตัวกลับมามองเขาตาปริบๆ “แหะๆ วาดฟังผิดใช่ไหมคะ? คุณบอกว่า...ให้แป้นโทร.ลา ลางานให้วาดเหรอ” “ใช่!! ก็เธอนอนหลับ ฉันไม่อยากปลุก ก็เลยให้แป้นจัดการให้...” ชายหนุ่มตอบ สีหน้าเขานิ่งสนิท จนวันวาดไม่รู้ว่าลึกๆ เขาคิดอะไรอยู่ “เออ...” “เธอควรพัก...เพราะเธอตรากตรำติดๆ กันมาหลายวันแล้วนี่ วันนี้เธอควรอยู่พักที่นี่ ฉันจะไม่กวนถ้าเธอจะนอน” เหมือนโจนาธานจะใจดีเป็นพิเศษ “วาดเกรงใจเพื่อน คนทำงานมีน้อยค่ะ ถ้าหยุดไปคน คนที่เหลือก็จะแบกภาระเพิ่ม...” หญิงสาวพยายามอธิบา
หญิงสาวยิ้ม เธอหมุนตัวมามองเขาตรงๆ “เปล่าค่ะ วาดไม่ได้เบื่อคุณ แต่หากได้มืออาชีพตรงๆ มามันจะดีกับคุณมากกว่าค่ะ” “ไม่เบื่อก็ดี ฉันไม่เอาคนอื่น...เธอคิดว่าฉันอายไม่เป็นเหรอหะ? ก็น่าจะรู้ฉันไม่ชอบให้ใครมามองฉันแบบสมเพท...แค่เธอนั่นแหละพอแล้ว” หน้าโจนาธานบึ้ง หญิงสาวจึงเสเปลี่ยนเรื่อง “วาดอาบน้ำดีกว่า...ชักหิวแล้ว...ดีจังหยุดงานนอนชิลๆ แต่ได้สตางค์กินขนมเป็นแสน” หญิงสาวเปรยยิ้มๆ เธอเดินตัวปลิวจากไปหลังพูดจบ โจนาธานแยกเขี้ยวให้หล่อน เขาบ่นอุบแต่กลับมีรอยยิ้มมุมปากเสียอย่างนั้น “ยัยงก!!” “คุณโจจ้างผมหยุดแบบนั้นบ้างก็ได้นะครับ ผมจะได้พาเมียไปเที่ยว...แหมเงินค่าจ้างหยุดงานของคุณพยาบาล มากกว่าเงินเดินผมเป็นสิบเดือนเลย” เอกสัพยอก เพิ่งรู้ว่าเจ้านายตัวเองเป็นเจ้าบุญทุ่มก็ตอนนี้นี่เอง “เอาไป11เดือนเลยมั้ยล่ะ...แต่ไม่ต้องกลับมาให้กูเห็นหน้าอีก!!” โจนาธานเปรยลอยๆ เอกคอหด รีบปิดปากเงียบ เพราะดันทะลึ่งไปสะกิดต่อมโมโหของเจ้านายเข้าให้ “กินอะไรดีคะคุณ...เดี๋ยววาดลงครัว...ไปแสดงฝีมือเอง...ไหนๆ ก็หยุดงานแล
บทที่9.เมียชั่วครั้ง... เป็นอีกวันที่โลกแทบจะถล่มตรงหน้า กับข่าวร้ายที่ได้รับรู้...“อีกแล้วเหรอคะ...อีกแล้วเหรอ?” วันวาดครางเสียงสั่น เธอไม่คิดว่าบิดาจะหวนกลับไปเล่นการพนันอีก ท่านสร้างหนี้ซ้ำ และครั้งนี้เธอก็หมดปัญญาจะช่วยได้... “ฉันอยากช่วยนะ แต่มันจะเป็นการก้าวก่าย บ่อนที่พ่อเธอเข้าไปเล่นมันเป็นบ่อนของเสียงกวง...ฉันยุ่งไม่ได้ด้วยสิ” เบนพูดเสียงแผ่ว เขาเวทนาวันวาด สองไหล่ของหล่อนดูเหมือนจะแบกรับความทุกข์ไว้ไม่ไหว เมื่อบิดาหล่อนยังไม่ยอมหยุดก่อเรื่องสักที “วาดเข้าใจค่ะ วาดเข้าใจ” หญิงสาวตอบเสียงเครือ ใครๆ ก็รู้กาสิโนสองที่ไม่ลงรอยกัน...เมื่อเป็นบ่อนการพนันขนาดใหญ่ทั้งคู่ เรื่องของเธอจะทำให้เขากลุ้มใจเปล่าๆ เมื่อมันอาจจะเป็นฉนวนเหตุทำให้เกิดเรื่องร้ายแรง หากเบนจะยื่นมือเข้ามาช่วย น้ำตาวันวาดไหลเอ่อ มันไหลกลิ้งผ่านร่องแก้ม ไหลพร่างพรูเหมือนทำนบพัง เธอกัดกระพุ้งแก้มกลั้นเสียงสะอื้น ร่างกายสั่นไหวจากภายใน จนเบนอดไม่ได้ที่จะเวทนา เขารั้งหล่อนเขามาโอบไว้หลวมๆ และวันวาดก็สะอื้นเงียบๆ เธอยกมือขึ้นกำชายเสื้อของเบน แต่คนที่
“เธอกับแม่จะไปไหนก็ไปนะวาด เจ้าของใหม่คงไม่ให้เธอกับแม่พึ่งใบบุญหร๊อก ใต้สะพาน หรือข้างถนนล่ะ ที่แม่เธอจะพาไป” พิไลลักษณ์หันมาพูดหยามวันวาด เมื่อสองแม่ลูกไม่มีสมบัติติดตัว แม้แต่ทองเส้นเท่าหนวดกุ้ง แบบนี้คงได้อาศัยศาลาวัดคุ้มหัว วันวาดไม่ได้เถียง เธอเสก้มหน้าหลบ ถอนใจแรงๆ เมื่อหนทางมืดแปดด้านเหมือนที่พิไลลักษณ์ปรามาส สองแม่ลูกเลยหมดความสนใจวันวาด หญิงสาวจึงเดินๆ หงอยๆ กลับไปยังบ้านพักตัวเอง พร้อมกับความหนักอึ้งที่แบกไว้ ไม่กล้าปริปากบอกใคร มีสายตาหยันๆ ของพิไลและพิไลลักษณ์มองตาม วันวาดสลดหดหู่ เธอไม่กล้าบอกข่าวที่เพิ่งรู้มา เพราะพิไลคงไม่สน เมื่อนางสาปส่งสามีของนางแล้วแบบนี้ หญิงสาวเดินลากขากลับบ้านหลังน้อยหลังถัดมา เธอเดินเข้าไปในบ้านด้วยความเลื่อนลอย... รัชนีเช็ดน้ำตา เธอกำลังแอบซุกมุมบ้านร่ำไห้กับความหายนะของครอบครัว เมื่อพิไลพูดเสียงดังปาวๆ ขนาดนั้น ไม่ว่าใครก็ได้ยิน “วาด...” นางพูดได้แค่นั้น น้ำตาก็ไหลริน ก้อนสะอื้นจุกอยู่ตรงคอ พูดไม่ออกและรู้สึกกังวลไปหมด... “แม่...เราจะไปอยู่ที่ไหนกันดีคะ?
โจนาธานอึ้ง หญิงสาวไม่เคยหยาบคาย หล่อนจะนิ่งๆ เฉยเมยเป็นส่วนใหญ่ นี่เป็นครั้งแรกที่หล่อนตอบโต้มาแบบแรงๆ “คุณจะเป็นไอ้ง่อย จะเป็นไอ้อะไร มันก็เรื่องของคุณ จะเดินได้หรือไม่ได้ มันก็ตัวคุณ ไม่เกี่ยวกับวาดเลยค่ะ...อยากนอนเป็นผักเน่าให้คนรอบตัวเขาคอยสมเพทมันก็เรื่องของคุณ!! เมื่อคุณทำตัวเอง คุณกำหนดเองว่าจะเป็นแบบไหน ไม่มีใครว่าคุณได้หรอก แต่...วาดเสียดาย เสียดายที่คุณมีโอกาส แต่กลับไม่สู้ วาดทุเรศตัวเองแทนค่ะ!!” หญิงสาวโพล่งยาว ความอัดอั้นในใจบีบบังคับให้เธอพูด ไม่ใช่ว่าเขามีปัญหาคนเดียว ไม่ใช่ว่าเขามีเรื่องทุกข์ใจคนเดียว คนอื่นๆ ก็มีปัญหาและภาวะอารมณ์ฉุนเฉียวเช่นกัน “วาดขอโทษค่ะ ที่พูดไม่ดี...ขอตัวค่ะ” หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ เธอรู้สึกผิดที่พูดแรงไป แต่ไม่ใช่ความผิดของเธอทั้งหมด โจนาธานกดดันจนเธอหลุด...หญิงสาวหมุนตัวเดินหนี เธอเปิดประตูห้องพักฟื้นของเขาออกไปสงบอารมณ์ด้านนอก น้ำตารื้นแทบจะล้นปริ่ม เธอจึงรีบยกมือขึ้น กรีดไล้เงาน้ำตาออกไป เธอไม่มีเวลาสำหรับการร้องไห้ เมื่อยังมีลมหายใจ...เธอจะไม่มีวันท้อ แม้ปัญหามากมายจะโถมเข้าใส่ไม่หยุด... “บ้
“วาดคิดว่าคุณแค่อยากล้อเล่น...” “ฉันจริงจัง เธอจะว่าไง...ถ้าตกลง ก็เดินขึ้นเตียงมาได้เลย หลังคืนนี้ผ่านไป...เธอจะได้ทุกอย่างที่เธอต้องการกลับคืนมา” โจนาธานท้าทาย เขาเห็นแววตาลังเลของหล่อน มีความเป็นไปได้สูงที่หล่อนจะตกลง เมื่อวันวาดกำลังเข้าตาจน “...” หญิงสาวก้มหน้าลง เธอกำลังตัดสินใจครั้งใหญ่... หญิงสาวไม่ได้มีทางเลือกมากนัก หากเธอตัดสินใจทำ... มันน่าอายเธอรู้ แต่มันจะช่วยได้หลายคน พ่อ แม่...บางทีบ้านที่เธอเกิด อาจจะไม่ตกเป็นของคนอื่น “เท่าไรคะ? ค่าตัววาด เท่าไร?” เธอกลั้นใจถามดวงตาแดงก่ำ กระบอกตาร้อนผ่าว “แล้วแต่เธอจะเรียก ฉันมีจ่าย!!” ชายหนุ่มตอบเสียงขุ่น เขาใจป้ำ กระเป๋าหนักพอ “เรื่องนี้จะเป็นความลับ...ต้องไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากเรานะคะ... เพราะวันใดที่มีคนรู้มากกว่าเราสองคน วาดจะไปจากที่นี่ทันที ทุกอย่างที่ตกลงกันไว้จะยุติ!!” เธอกันฟันพูด ยอมทิ้งศักดิ์ศรี เพื่อต่อลมหายใจให้ใครหลายคน โดยเฉพาะบิดา... “ตกลง...” โจนาธานตอบเสียงกระหึ่ม เขายิ้มมุมปาก ตอบตกลงโดยไม่ต
บราเซียตัวสวยถูกปลดออกด้วยมือที่สั่นระริก มันเป็นเพราะร่างกายของโจนาธานยังไม่แข็งแรงเหมือนคนปกติ แต่เขาก็ไม่ยอมถอย พยายามทำตามความเคยชิน สองแขนเรียวถูกรั้งลงจากเนินอก เผยให้เห็นเต่งเต้ากลมกลึงขาวผ่อง เนินอกอวบอิ่ม ปลายยอดหดเกร็งมีติ่งเล็กๆ สีแดงอ่อน เท่าผลเชอรี่สุกใหม่ๆ มือใหญ่รีบเคลื่อนที่เขาโอบประคอง จนคนตัวเล็กสะดุ้งโหย่ง เธอหลับตาปี๋ ขมวดคิ้วจนแน่น“กลัวเหรอวาด...มันไม่น่ากลัวหรอก ฉันรับรอง”เวลานี้โจนาธานอารมณ์ดี อารมณ์ดีเสียจนอดไม่ได้ที่จะยอกเย้าวันวาด หญิงสาวน่ารัก น่าใคร่ เขาเชื่อว่าเธอยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง เพราะปฏิกิริยาโดยรวมที่เกิดขึ้น มันเป็นเพราะเธอไม่คุ้นชินกับสถานการณ์เช่นนี้“...” วันวาดเผยอปาก เธอพ่นลมหายใจแรงๆ เมื่อรู้สึกตื่นเต้นจนหายใจ หายคอไม่ทัน“นอนลงเถอะ ฉันอยากชิมเธอแล้วล่ะ”สภาพร่างกายของตัวเองไม่พร้อมเท่าไร เขาเคลื่อนไหวได้แบบยากลำบาก โจนาธานไม่อยากให้มันติดขัด เขาวอนขอวันวาดด้วยน้ำเสียงแหบปร่า ใช้มือดันร่างเล็กบาง แบบไม่เร่งร้อน หญิงสาวกัดฟันแน่น เธอค่อยๆ ผ่อนร่างกายลงบนที่นอน มือเรียวขยุ้มกำผ้าปูที่นอนแน่น พร้อมกับเกร็งตัวจนแข็งเหมือนท่อนไม้“ฉันไม่ฆ่าเธอหรอก
บทที่10.เมียชั่วคืน ไม่ใช่ของตาย... โจนาธานอารมณ์ดีจนคนรอบข้างรู้สึก เขายิ้มกริ่ม ดวงตามีประกายสดใส แม้จะอิดออดช่วงที่วันวาดจะกลับ เขาพยายามรั้งหล่อนไว้ แต่หญิงสาวไม่ได้ตามใจ เธอกลับเมื่อถึงเวลาของเธอ “อารมณ์ดีอะไรครับคุณโจ” เอกลองแยบๆ ถาม ระหว่างเจ้านายกับพยาบาลสาว ต้องมีอะไรแน่ๆ เมื่อคนที่เคยพูดจ้อยๆ หุบปากแน่น คนที่เป็นจอมโวย กลับยิ้มแย้มเสียแบบนั้น “ไม่รู้สักเรื่องได้มั้ยว่ะ” ชายหนุ่มบ่น แต่ก็ยังยิ้มได้ “เห็นคุณโจสบายใจ ผมก็อดดีใจด้วยไม่ได้ แต่...ไม่บอกจริงๆ เหรอครับ” เอกสัพยอก เขากระโจนผลุง...หนีมือใหญ่ที่ฟาดผั๊วะลงมาข้างตัว เป้าหมายไม่ศีรษะก็ลำตัวเขา และหากเป็นเวลาที่โจนาธานปกติ มันอาจจะเป็นฝ่าเท้า หรือไม่ก็โดนยันโครมจนกระเด็น... “พากูไปสระทีเอก กูดูคลิบในยูทูบ เห็นหมอแนะนำการออกกำลังกายในน้ำ จะช่วยให้เขาฝึกการขยับตัวได้มากกว่าการเดินบนลู่ที่ใช้แรงเยอะ” ชายหนุ่มตั้งเป้าไว้ เขาต้องเดินให้ได้ในเร็ววันที่สุด!! นี่จะเป็นเซอร์ไพรส์ให้วันวาดรู้...คนสุดท้าย ช่วงเวลาที่เหมาะสุด ก็ตอนที่หล่อนไม่อยู่