Share

บทที่9.เมียชั่วครั้ง... 4

“วาดคิดว่าคุณแค่อยากล้อเล่น...”

          “ฉันจริงจัง เธอจะว่าไง...ถ้าตกลง ก็เดินขึ้นเตียงมาได้เลย หลังคืนนี้ผ่านไป...เธอจะได้ทุกอย่างที่เธอต้องการกลับคืนมา”

          โจนาธานท้าทาย เขาเห็นแววตาลังเลของหล่อน มีความเป็นไปได้สูงที่หล่อนจะตกลง เมื่อวันวาดกำลังเข้าตาจน

          “...”

          หญิงสาวก้มหน้าลง เธอกำลังตัดสินใจครั้งใหญ่...

          หญิงสาวไม่ได้มีทางเลือกมากนัก หากเธอตัดสินใจทำ...

          มันน่าอายเธอรู้ แต่มันจะช่วยได้หลายคน พ่อ แม่...บางทีบ้านที่เธอเกิด อาจจะไม่ตกเป็นของคนอื่น

          “เท่าไรคะ? ค่าตัววาด เท่าไร?”

          เธอกลั้นใจถามดวงตาแดงก่ำ กระบอกตาร้อนผ่าว

          “แล้วแต่เธอจะเรียก ฉันมีจ่าย!!” ชายหนุ่มตอบเสียงขุ่น เขาใจป้ำ กระเป๋าหนักพอ

          “เรื่องนี้จะเป็นความลับ...ต้องไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากเรานะคะ... เพราะวันใดที่มีคนรู้มากกว่าเราสองคน วาดจะไปจากที่นี่ทันที ทุกอย่างที่ตกลงกันไว้จะยุติ!!” เธอกันฟันพูด ยอมทิ้งศักดิ์ศรี เพื่อต่อลมหายใจให้ใครหลายคน โดยเฉพาะบิดา...

          “ตกลง...”

          โจนาธานตอบเสียงกระหึ่ม เขายิ้มมุมปาก ตอบตกลงโดยไม่ต้องคิด เขาไม่คิดจะบอกใครอยู่แล้ว แต่ทุกคนจะรู้ได้เอง หล่อนจะเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา และห้ามใครแตะต้อง!!

          “แค่ครั้งเดียว!! วาดไม่พูด คุณไม่พูด ทุกอย่างจะเป็นความลับ”

          ข้อแม้ของวันวาดเยอะเหลือเกิน แต่โจนาธานก็บ้าจี้ที่จะรับไว้ เขาขอแค่ได้ครอบครองหล่อน...

          “หึ!!”

          “เออ...วาดต้องทำอะไรบ้างคะ แล้ว...”

          หญิงสาวกระดากปากที่จะถามหาค่าจ้าง เธอไม่ใช่ผู้หญิงบริการ แต่เพราะความจำเป็น จึงจำใจยอมทำ

          “เช็คอยู่ที่เดิม...เธอหยิบมันมาให้ฉันสิ ฉันจะเซ็นชื่อไว้ให้ ส่วนตัวเลข เธอต้องการเท่าไร ก็กรอกจำนวนเงินเอาเองแล้วกัน” ชายหนุ่มพูดเหมือนไม่ยี่หระ เพราะต่อให้วันวาดเอาไปสัก10 ล้าน เงินในบัญชีเขาก็คงไม่ยุบลงสักเท่าไร

          วันวาดกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เธอกำลังเดินเข้าประตูนรก นับจากนี้ไปจะเป็นตราบาป ติดตัวเธอไปจนวันตาย จะมีรอยราคีที่ร่างกายลบไม่ได้ไปตลอดชีวิต

          หญิงสาวตัดใจ เธอกำมือแน่น หมุนตัวไปหยิบสมุดเช็คมายื่นให้โจนาธาน พยายามไม่สบนัยน์ตาเขา เพราะเธอกำลังอายจนหน้าชา...

          “นี่ของเธอ แล้วก็ช่วยกรุณาขึ้นมาทำงานของเธอด้วย”

          เสียงฉีกกระดาษ ตามด้วยกระดาษชิ้นเล็กๆ ชิ้นหนึ่งที่เขายื่นให้ตรงหน้าตัวเอง

          วันวาดสูดลมหายใจลึกๆ เธอยื่นมือสั่นเทาไปรับกระดาษชิ้นนั้นมา แล้วจึงยัดใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงลวกๆ

          ปุบๆ

          โจนาธานตบฝ่ามือลงข้างตัว เขาส่งสัญญาณเรียกหล่อน นับจากนี้ไป วันวาดจะเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว

          “ถอด...”

          คำสั่งของเขา กดดันจนวันวาดเกือบหน้ามืด เธอช้อนสายตามองสบนัยน์ตาของเขาแววตาไหวระริก หวาดกลัวจนอยากเป็นลม

          หญิงสาวกลั้นใจ แล้วจึงตัดใจยกมือขึ้นปลดกระดุมเสื้อ...ไม่ตายหรอกน่า แค่ ‘เสียตัว’ แต่มันจะช่วยต่อลมหายใจให้ทุกคน สิ่งที่เกือบหลุดมือ เธอจะยื้อคืนมาทั้งหมด มารดาจะมีความเป็นอยู่ดีขึ้น นับจากนี้ไปจะไม่เดือนร้อนอีกแล้ว ไม่ต้องระเห่เร่ร่อนหาที่คุ้มหัว เมื่อเธอจะซื้อบ้านคืนมา แม่จะได้ไม่ต้องทำงานหนักงกๆ ส่วนบิดาเธอ นับจากนี้ไป เธอจะขีดกรอบการดำเนินชีวิตให้ท่านเอง...

          กระดุมเม็ดแรกหลุดออกจากกัน ตามด้วยกระดุมเม็ดที่สอง เธอปลดกระดุมช้าๆ ใช้เวลากว่า5 นาที กระดุมเสื้อจึงถูกปลดออกทั้งหมด

          เสื้อสีขาวถูกทิ้งกองไว้ที่พื้น ช่วงบนของวันวาดเหลือแค่ซับในผ้าลูกไม้ที่ห่อหุ้มทรวงอกครัดเคร่งเอาไว้

          “ขึ้นมาสิ!!”

          เสียงของโจนาธานแหบปร่า เขาไม่ผิดหวังสักนิด วันวาดสวยเหมือนอย่างที่คิด ผิวหล่อนเนียน จนเขาอยากสัมผัสด้วยมือตัวเอง

          วันวาดอายจนตัวชา ผิวกายของเธอขึ้นสีจัด ตัวเธอคงแดงเหมือนกุ้งต้มเมื่อรู้สึกร้อนวูบไปหมด หลังจากเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดถูกถอดออกไปจากร่างกาย สองมือหญิงสาวยกขึ้นประคองปิดเต่งเต้าอวบ เธอกอดตัวเองแน่นๆ อายจนอยากแทรกดินหนี

          “ไม่มีอะไรน่าอายเลยคนสวย เธอสวยมาก สวยอย่างที่ฉันคิดไว้เลย”

          โจนาธานพูดเหมือนละเมอ เขามองความงดงามตรงหน้าด้วยความชื่นชม ขนาดหล่อนแค่เปลือยช่วงบน อารมณ์กลัดมันที่สงบนิ่งมาตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้น วันนี้กลับลุกกระพือขึ้นมาแบบพรึ่บพรั่บ!!

          “ขึ้นมาเถอะวาด อย่าทรมานฉันเลย”

          กึ่งกลางร่างกายของเขาขยับขยายเหยียดตึง มันคงอยากออกมาอาละวาดพร้อมกับชื่นชมวันวาด โจนาธานร้องขอเสียงอ่อน เขานึกขัดใจตัวเอง หากเป็นเมื่อก่อนเขาจะโถมใส่หล่อน ไม่ปล่อยให้หล่อนยืนลังเลอยู่เช่นนี้

          วันวาดกลั้นใจ เธอหลุบเปลือกตาลง เมื่อก้าวขึ้นไปบนเตียงคนป่วยช้าๆ

          มือสั่นๆ วางทับบนหลังมือของเธอ เขาดึงมือเธอออกช้าๆ โดยที่เธอทำได้แค่หลุบเปลือกตาลง ปิดบังความอาย

ปลายนิ้วสั่นๆ ไล้ตามโครงหน้าของวันวาดโดยที่เธอหลับตาแน่น ตัวสั่นระริกจนเขารู้สึก ปลายนิ้วแข็งๆ เชยคางมนขึ้น โจนาธานโน้มตัวไปใกล้ๆ เขาทาบเรียวปาก กดจูบกลีบปากนุ่มอย่างแผ่วเบา อารมณ์โกรธที่ถูกเก็บกดตอนช่วงกลางวันทบรวมกับที่สะสมไว้อีกหลายวันมลายหายไปจนเกลี้ยง เพียงได้วันวาดมาอยู่ในอ้อมแขน

ชายหนุ่มไม่คิดว่าตัวเองจะมีอารมณ์พิศวาสกับใครได้อีก หลังอุบัติเหตุครั้งนั้น...

แต่เมื่อได้แตะต้องวันวาด อารมณ์หนุ่มเขาลุกฮือขึ้นมาจนแปลกใจตัวเอง เขาคงไม่ทำให้ตัวเองขายหน้าแน่ แม้จะทุลักทุเลไปสักหน่อย

บทพิศวาสที่ลางเลือน ถูกรื้อฟื้นได้แบบน่าอัศจรรย์ มือไม้ของโจนาธานไล้เรื่อย ไต่ดะแบบชำนิ ชำนาญ

ชายหนุ่มดื่มด่ำกับความหวานละมุนในอุ้งปาก เกี่ยวกวัดเรียวลิ้นเล็กๆ ด้วยความเสน่หา มีเสียงครางแผ่วๆ ในลำคอ จนวันวานหมดความพรั่นพรึง เธอคล้อยตามอารมณ์ปรารถนาของโจนาธานไปอย่างง่ายดาย ไม่แปลกหรอก... เมื่ออดีตเขาคือผู้ชายที่เธอแอบสนใจเงียบๆ ในความกร้าวกระด้างที่ชายหนุ่มฉาบหน้าไว้ มีความอ้างว้างและหวาดกลัว สอดแทรกอยู่ด้วย เธอรับรู้และสัมผัสความรู้สึกเช่นนั้น จึงพยายามทำใจ ไม่ใส่ใจความเกรี้ยวกราดที่ชายหนุ่มสาดใส่ เพราะลึกๆ แล้ว เขาไม่ได้เป็นเช่นนั้น ในเวลาที่โจนาธานเผลอตัว สายตาของเขามีความห่วงใยเธอเสมอ ช่วงหลังๆ มานี่ เขาผ่อนความรุนแรงลง ไม่ค่อยอาละวาดให้เธอเหนื่อยแรง พักผ่อนได้เหมือนนอนอยู่กับบ้าน ทั้งๆ ที่ต้องดูแลเขาเต็มเวลา

ความกริ่งเกรงเพราะความกลัว...เนื่องจากแรกเริ่มมันคือการจำยอม แบบจำใจ วันวาดไม่มีทางเลือก หรืออีกนัยหนึ่งเธอเลือกทางนี้เอง ความรู้สึกหวามไหวที่เกิดจากเขาเพียงผู้เดียว

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status