“วาดคิดว่าคุณแค่อยากล้อเล่น...”
“ฉันจริงจัง เธอจะว่าไง...ถ้าตกลง ก็เดินขึ้นเตียงมาได้เลย หลังคืนนี้ผ่านไป...เธอจะได้ทุกอย่างที่เธอต้องการกลับคืนมา”
โจนาธานท้าทาย เขาเห็นแววตาลังเลของหล่อน มีความเป็นไปได้สูงที่หล่อนจะตกลง เมื่อวันวาดกำลังเข้าตาจน
“...”
หญิงสาวก้มหน้าลง เธอกำลังตัดสินใจครั้งใหญ่...
หญิงสาวไม่ได้มีทางเลือกมากนัก หากเธอตัดสินใจทำ...
มันน่าอายเธอรู้ แต่มันจะช่วยได้หลายคน พ่อ แม่...บางทีบ้านที่เธอเกิด อาจจะไม่ตกเป็นของคนอื่น
“เท่าไรคะ? ค่าตัววาด เท่าไร?”
เธอกลั้นใจถามดวงตาแดงก่ำ กระบอกตาร้อนผ่าว
“แล้วแต่เธอจะเรียก ฉันมีจ่าย!!” ชายหนุ่มตอบเสียงขุ่น เขาใจป้ำ กระเป๋าหนักพอ
“เรื่องนี้จะเป็นความลับ...ต้องไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากเรานะคะ... เพราะวันใดที่มีคนรู้มากกว่าเราสองคน วาดจะไปจากที่นี่ทันที ทุกอย่างที่ตกลงกันไว้จะยุติ!!” เธอกันฟันพูด ยอมทิ้งศักดิ์ศรี เพื่อต่อลมหายใจให้ใครหลายคน โดยเฉพาะบิดา...
“ตกลง...”
โจนาธานตอบเสียงกระหึ่ม เขายิ้มมุมปาก ตอบตกลงโดยไม่ต้องคิด เขาไม่คิดจะบอกใครอยู่แล้ว แต่ทุกคนจะรู้ได้เอง หล่อนจะเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา และห้ามใครแตะต้อง!!
“แค่ครั้งเดียว!! วาดไม่พูด คุณไม่พูด ทุกอย่างจะเป็นความลับ”
ข้อแม้ของวันวาดเยอะเหลือเกิน แต่โจนาธานก็บ้าจี้ที่จะรับไว้ เขาขอแค่ได้ครอบครองหล่อน...
“หึ!!”
“เออ...วาดต้องทำอะไรบ้างคะ แล้ว...”
หญิงสาวกระดากปากที่จะถามหาค่าจ้าง เธอไม่ใช่ผู้หญิงบริการ แต่เพราะความจำเป็น จึงจำใจยอมทำ
“เช็คอยู่ที่เดิม...เธอหยิบมันมาให้ฉันสิ ฉันจะเซ็นชื่อไว้ให้ ส่วนตัวเลข เธอต้องการเท่าไร ก็กรอกจำนวนเงินเอาเองแล้วกัน” ชายหนุ่มพูดเหมือนไม่ยี่หระ เพราะต่อให้วันวาดเอาไปสัก10 ล้าน เงินในบัญชีเขาก็คงไม่ยุบลงสักเท่าไร
วันวาดกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เธอกำลังเดินเข้าประตูนรก นับจากนี้ไปจะเป็นตราบาป ติดตัวเธอไปจนวันตาย จะมีรอยราคีที่ร่างกายลบไม่ได้ไปตลอดชีวิต
หญิงสาวตัดใจ เธอกำมือแน่น หมุนตัวไปหยิบสมุดเช็คมายื่นให้โจนาธาน พยายามไม่สบนัยน์ตาเขา เพราะเธอกำลังอายจนหน้าชา...
“นี่ของเธอ แล้วก็ช่วยกรุณาขึ้นมาทำงานของเธอด้วย”
เสียงฉีกกระดาษ ตามด้วยกระดาษชิ้นเล็กๆ ชิ้นหนึ่งที่เขายื่นให้ตรงหน้าตัวเอง
วันวาดสูดลมหายใจลึกๆ เธอยื่นมือสั่นเทาไปรับกระดาษชิ้นนั้นมา แล้วจึงยัดใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงลวกๆ
ปุบๆ
โจนาธานตบฝ่ามือลงข้างตัว เขาส่งสัญญาณเรียกหล่อน นับจากนี้ไป วันวาดจะเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว
“ถอด...”
คำสั่งของเขา กดดันจนวันวาดเกือบหน้ามืด เธอช้อนสายตามองสบนัยน์ตาของเขาแววตาไหวระริก หวาดกลัวจนอยากเป็นลม
หญิงสาวกลั้นใจ แล้วจึงตัดใจยกมือขึ้นปลดกระดุมเสื้อ...ไม่ตายหรอกน่า แค่ ‘เสียตัว’ แต่มันจะช่วยต่อลมหายใจให้ทุกคน สิ่งที่เกือบหลุดมือ เธอจะยื้อคืนมาทั้งหมด มารดาจะมีความเป็นอยู่ดีขึ้น นับจากนี้ไปจะไม่เดือนร้อนอีกแล้ว ไม่ต้องระเห่เร่ร่อนหาที่คุ้มหัว เมื่อเธอจะซื้อบ้านคืนมา แม่จะได้ไม่ต้องทำงานหนักงกๆ ส่วนบิดาเธอ นับจากนี้ไป เธอจะขีดกรอบการดำเนินชีวิตให้ท่านเอง...
กระดุมเม็ดแรกหลุดออกจากกัน ตามด้วยกระดุมเม็ดที่สอง เธอปลดกระดุมช้าๆ ใช้เวลากว่า5 นาที กระดุมเสื้อจึงถูกปลดออกทั้งหมด
เสื้อสีขาวถูกทิ้งกองไว้ที่พื้น ช่วงบนของวันวาดเหลือแค่ซับในผ้าลูกไม้ที่ห่อหุ้มทรวงอกครัดเคร่งเอาไว้
“ขึ้นมาสิ!!”
เสียงของโจนาธานแหบปร่า เขาไม่ผิดหวังสักนิด วันวาดสวยเหมือนอย่างที่คิด ผิวหล่อนเนียน จนเขาอยากสัมผัสด้วยมือตัวเอง
วันวาดอายจนตัวชา ผิวกายของเธอขึ้นสีจัด ตัวเธอคงแดงเหมือนกุ้งต้มเมื่อรู้สึกร้อนวูบไปหมด หลังจากเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดถูกถอดออกไปจากร่างกาย สองมือหญิงสาวยกขึ้นประคองปิดเต่งเต้าอวบ เธอกอดตัวเองแน่นๆ อายจนอยากแทรกดินหนี
“ไม่มีอะไรน่าอายเลยคนสวย เธอสวยมาก สวยอย่างที่ฉันคิดไว้เลย”
โจนาธานพูดเหมือนละเมอ เขามองความงดงามตรงหน้าด้วยความชื่นชม ขนาดหล่อนแค่เปลือยช่วงบน อารมณ์กลัดมันที่สงบนิ่งมาตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้น วันนี้กลับลุกกระพือขึ้นมาแบบพรึ่บพรั่บ!!
“ขึ้นมาเถอะวาด อย่าทรมานฉันเลย”
กึ่งกลางร่างกายของเขาขยับขยายเหยียดตึง มันคงอยากออกมาอาละวาดพร้อมกับชื่นชมวันวาด โจนาธานร้องขอเสียงอ่อน เขานึกขัดใจตัวเอง หากเป็นเมื่อก่อนเขาจะโถมใส่หล่อน ไม่ปล่อยให้หล่อนยืนลังเลอยู่เช่นนี้
วันวาดกลั้นใจ เธอหลุบเปลือกตาลง เมื่อก้าวขึ้นไปบนเตียงคนป่วยช้าๆ
มือสั่นๆ วางทับบนหลังมือของเธอ เขาดึงมือเธอออกช้าๆ โดยที่เธอทำได้แค่หลุบเปลือกตาลง ปิดบังความอาย
ปลายนิ้วสั่นๆ ไล้ตามโครงหน้าของวันวาดโดยที่เธอหลับตาแน่น ตัวสั่นระริกจนเขารู้สึก ปลายนิ้วแข็งๆ เชยคางมนขึ้น โจนาธานโน้มตัวไปใกล้ๆ เขาทาบเรียวปาก กดจูบกลีบปากนุ่มอย่างแผ่วเบา อารมณ์โกรธที่ถูกเก็บกดตอนช่วงกลางวันทบรวมกับที่สะสมไว้อีกหลายวันมลายหายไปจนเกลี้ยง เพียงได้วันวาดมาอยู่ในอ้อมแขน
ชายหนุ่มไม่คิดว่าตัวเองจะมีอารมณ์พิศวาสกับใครได้อีก หลังอุบัติเหตุครั้งนั้น...
แต่เมื่อได้แตะต้องวันวาด อารมณ์หนุ่มเขาลุกฮือขึ้นมาจนแปลกใจตัวเอง เขาคงไม่ทำให้ตัวเองขายหน้าแน่ แม้จะทุลักทุเลไปสักหน่อย
บทพิศวาสที่ลางเลือน ถูกรื้อฟื้นได้แบบน่าอัศจรรย์ มือไม้ของโจนาธานไล้เรื่อย ไต่ดะแบบชำนิ ชำนาญ
ชายหนุ่มดื่มด่ำกับความหวานละมุนในอุ้งปาก เกี่ยวกวัดเรียวลิ้นเล็กๆ ด้วยความเสน่หา มีเสียงครางแผ่วๆ ในลำคอ จนวันวานหมดความพรั่นพรึง เธอคล้อยตามอารมณ์ปรารถนาของโจนาธานไปอย่างง่ายดาย ไม่แปลกหรอก... เมื่ออดีตเขาคือผู้ชายที่เธอแอบสนใจเงียบๆ ในความกร้าวกระด้างที่ชายหนุ่มฉาบหน้าไว้ มีความอ้างว้างและหวาดกลัว สอดแทรกอยู่ด้วย เธอรับรู้และสัมผัสความรู้สึกเช่นนั้น จึงพยายามทำใจ ไม่ใส่ใจความเกรี้ยวกราดที่ชายหนุ่มสาดใส่ เพราะลึกๆ แล้ว เขาไม่ได้เป็นเช่นนั้น ในเวลาที่โจนาธานเผลอตัว สายตาของเขามีความห่วงใยเธอเสมอ ช่วงหลังๆ มานี่ เขาผ่อนความรุนแรงลง ไม่ค่อยอาละวาดให้เธอเหนื่อยแรง พักผ่อนได้เหมือนนอนอยู่กับบ้าน ทั้งๆ ที่ต้องดูแลเขาเต็มเวลา
ความกริ่งเกรงเพราะความกลัว...เนื่องจากแรกเริ่มมันคือการจำยอม แบบจำใจ วันวาดไม่มีทางเลือก หรืออีกนัยหนึ่งเธอเลือกทางนี้เอง ความรู้สึกหวามไหวที่เกิดจากเขาเพียงผู้เดียว
บราเซียตัวสวยถูกปลดออกด้วยมือที่สั่นระริก มันเป็นเพราะร่างกายของโจนาธานยังไม่แข็งแรงเหมือนคนปกติ แต่เขาก็ไม่ยอมถอย พยายามทำตามความเคยชิน สองแขนเรียวถูกรั้งลงจากเนินอก เผยให้เห็นเต่งเต้ากลมกลึงขาวผ่อง เนินอกอวบอิ่ม ปลายยอดหดเกร็งมีติ่งเล็กๆ สีแดงอ่อน เท่าผลเชอรี่สุกใหม่ๆ มือใหญ่รีบเคลื่อนที่เขาโอบประคอง จนคนตัวเล็กสะดุ้งโหย่ง เธอหลับตาปี๋ ขมวดคิ้วจนแน่น“กลัวเหรอวาด...มันไม่น่ากลัวหรอก ฉันรับรอง”เวลานี้โจนาธานอารมณ์ดี อารมณ์ดีเสียจนอดไม่ได้ที่จะยอกเย้าวันวาด หญิงสาวน่ารัก น่าใคร่ เขาเชื่อว่าเธอยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง เพราะปฏิกิริยาโดยรวมที่เกิดขึ้น มันเป็นเพราะเธอไม่คุ้นชินกับสถานการณ์เช่นนี้“...” วันวาดเผยอปาก เธอพ่นลมหายใจแรงๆ เมื่อรู้สึกตื่นเต้นจนหายใจ หายคอไม่ทัน“นอนลงเถอะ ฉันอยากชิมเธอแล้วล่ะ”สภาพร่างกายของตัวเองไม่พร้อมเท่าไร เขาเคลื่อนไหวได้แบบยากลำบาก โจนาธานไม่อยากให้มันติดขัด เขาวอนขอวันวาดด้วยน้ำเสียงแหบปร่า ใช้มือดันร่างเล็กบาง แบบไม่เร่งร้อน หญิงสาวกัดฟันแน่น เธอค่อยๆ ผ่อนร่างกายลงบนที่นอน มือเรียวขยุ้มกำผ้าปูที่นอนแน่น พร้อมกับเกร็งตัวจนแข็งเหมือนท่อนไม้“ฉันไม่ฆ่าเธอหรอก
บทที่10.เมียชั่วคืน ไม่ใช่ของตาย... โจนาธานอารมณ์ดีจนคนรอบข้างรู้สึก เขายิ้มกริ่ม ดวงตามีประกายสดใส แม้จะอิดออดช่วงที่วันวาดจะกลับ เขาพยายามรั้งหล่อนไว้ แต่หญิงสาวไม่ได้ตามใจ เธอกลับเมื่อถึงเวลาของเธอ “อารมณ์ดีอะไรครับคุณโจ” เอกลองแยบๆ ถาม ระหว่างเจ้านายกับพยาบาลสาว ต้องมีอะไรแน่ๆ เมื่อคนที่เคยพูดจ้อยๆ หุบปากแน่น คนที่เป็นจอมโวย กลับยิ้มแย้มเสียแบบนั้น “ไม่รู้สักเรื่องได้มั้ยว่ะ” ชายหนุ่มบ่น แต่ก็ยังยิ้มได้ “เห็นคุณโจสบายใจ ผมก็อดดีใจด้วยไม่ได้ แต่...ไม่บอกจริงๆ เหรอครับ” เอกสัพยอก เขากระโจนผลุง...หนีมือใหญ่ที่ฟาดผั๊วะลงมาข้างตัว เป้าหมายไม่ศีรษะก็ลำตัวเขา และหากเป็นเวลาที่โจนาธานปกติ มันอาจจะเป็นฝ่าเท้า หรือไม่ก็โดนยันโครมจนกระเด็น... “พากูไปสระทีเอก กูดูคลิบในยูทูบ เห็นหมอแนะนำการออกกำลังกายในน้ำ จะช่วยให้เขาฝึกการขยับตัวได้มากกว่าการเดินบนลู่ที่ใช้แรงเยอะ” ชายหนุ่มตั้งเป้าไว้ เขาต้องเดินให้ได้ในเร็ววันที่สุด!! นี่จะเป็นเซอร์ไพรส์ให้วันวาดรู้...คนสุดท้าย ช่วงเวลาที่เหมาะสุด ก็ตอนที่หล่อนไม่อยู่
“คงไม่มีใครมาหรอกเสี่ย ได้ข่าวว่ามันหมดตัวแล้วนี่ครับ” มันตอบเสียงสำรวม “เห้ย!! ได้ไงวะ!! มันเป็นหนี้กูอยู่ไม่น้อย...ลูก เมียมันไม่สนใจเลยเหรอ?” กวงตะคอก เขาไม่ยอมให้ทะนงแทงบัญชีเป็นศูนย์แน่ เงินที่เขาควรได้ จำนวนโขอยู่ “มีเมียสองคน ลูกสาวคน ลูกบุญธรรมอีกคน แต่ก็จนเหมือนกันหมดนั่นแหละเสี่ย!!” มันตอบพร้อมกับรีบหลบตา เมื่อเสี่ยกวงยืนขึ้น ตะโกนลั่น “ก็ไปจับเมีย จับลูกมันมาสิวะ ไม่ได้เงินเอาตัวมาขัดดอกก็ยังดี...” ความคิดชั่วชาติ ไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม คนเขี้ยวลากดินอย่างเสี่ยกวง ไม่ยอมให้ใครมาลูบคมง่ายๆ ลูกน้องขาโหดทำหน้าปั้นยาก “เมียมันแก่หนังเหี่ยวเกรงว่าจะเอามาเสียเปล่าครับ ส่วนลูกสาวมัน...เออ” มันพูดเสียงติดๆ ขัดๆ เสี่ยกวงใจร้อนจึงตะโกนถามเสียงขุ่น “แต่...ส้นตีนอะไรของมึง ทำสะดิ้งอมพะนำเสียแบบนั้น” “ลูกสาวไอ้ทะนงมันเป็นพยาบาล เห็นเดินเข้าเดินออกบ้านไอ้พี่น้องรูธ ผมก็เลยไม่กล้าฉุดมาให้เสี่ย” คำตอบของมันทำให้หัวคิ้วเสี่ยกวงกระตุก ต่อมลองดีเต้นพล่าน หากอีนั่นเกี่ยวข้องกับคนบ้านนั้นสิดี
“พ่อคะ...บ้านติดจำนองกับใครคะ?” ระหว่างเดินทางกลับบ้าน วัดวานตัดสินใจถาม เรื่องนี้คือปัญหาที่เธอต้องแก้เป็นอันดับที่สอง ไหนๆ ก็เบี้ยวไม่ไปทำงาน วันวาดจึงขอขจัดปัญหากวนตัวทั้งหมด ให้จบลงในวันนี้ “ลูกรู้!!” ใบหน้าหมองเศร้า สลดเศร้าหนักกว่าเก่า ไหล่ลู่คอตก เขามันเป็นตัวหายนะชัดๆ “วาดอยากรู้ วาดจะไปขอเจรจากับเขา วาดจะไม่ยอมเสียบ้านให้ใคร...บอกวาดนะคะพ่อ” เธอขอร้องกึ่งวิงวอน บ้านที่เกิดและโตมา จะตกเป็นสมบัติของคนอื่น เธอกับแม่จะไปอยู่ที่ไหน “เออ...ญาติคุณพิเขานะ ใจดีอยู่ แต่พ่อไม่จ่ายดอกเขามานานแล้วล่ะ ต้นก็เอามาเต็มพิกัด คุณพิบอกว่าเขาจะมายึด” ทะนงพูดเสียงเครือ เขาทำชั่ว ทำเลว จนแม้แต่ที่ซุกหัวนอนยังไม่เหลือ “พ่อรู้จักบ้านเขาไหมคะ เราไปหาเขากัน วาดจะไถ่บ้านคืน” “วาดไปเอาเงินที่ไหนมาลูก มันไม่ใช่น้อยเลยนะ ไหนจะเงินที่มาไถ่ตัวพ่ออีก?!!” ทะนงเริ่มสงสัย บุตรสาวไม่มีทางมีเงินเก็บ เมื่อเขาฉกเงินเดือนวันวาดมาทุกเดือน แล้วก็เอาไปละลายในบ่อน การเป็นอยู่ลูกกับเมียเป็นอย่างไรไม่เคยสน ขอแค่ตัวเองมีสตาง
ชายหนุ่มกระแทกลมหายใจแรงๆ นี่หล่อนไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยเหรอ เขากับเธอผ่านค่ำคืนแสนหวานร่วมกัน แต่เมื่อฟ้าสว่าง ทุกอย่างกลายเป็นเพียงความทรงจำ เขาได้กลับคืนมาคือความเฉยชา“คุณออกกำลังกายหนักเกินไปนะคะ กล้ามเนื้อคุณตึงมาก ไม่ต้องรีบหรอกค่ะ ค่อยๆ ทำ อีกไม่นานคุณก็จะเดินได้เอง”กล้ามเนื้อที่ช่วงขาของโจนาธานตึงจนแข็ง วันวาดวางมือลงไปเธอกดผิวเนื้อจึงเอ่ยเตือนโจนาธานด้วยความหวังดีชายหนุ่มขมวดคิ้ว!! นี่หล่อนไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ใจคอหล่อนจะไม่ยอมเอ่ยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น...ใจเด็ดเกินไปแล้ว“เธอจริงจังกับงานเหลือเกินนะ คงอยากไปจากที่นี่เต็มทีละสิ”เสียงดังๆ แฝงการประชด วันวาดยิ้มเครียด เธอช้อนสายตาเฉยชามองเขา“เราตกลงกันแล้วนี่คะ เราจะไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้ว”เธอทวงคำสัญญา แม้จะอายจนหน้าชากับแววตาดูแคลนของชายหนุ่ม“หึ!! ไม่เอาเปรียบฉันไปหน่อยเหรอวาด เธอโขกฉันเสียเยอะแยะ แต่ฉันได้...แค่ครั้งเดียว”วันวาดสะอึก เธอกรอกตัวเลขเสียเยอะแยะเพราะต้องการประชด แต่เมื่อใช้จ่ายจริงๆ เธอใช้ไม่ถึงครึ่งจนมานั่งเสียใจอยู่ตอนนี้“วาดคืนที่เหลือให้คุณก็ได้ค่ะ วาดไม่ต้องการมันอีกแล้ว”เธอเคลียร์หนี้ของบิดา ไถ
“ทำไมล่ะวาด เธอก็รู้สึกดีไม่ใช่หรือ?” ชายหนุ่มถามกลับเสียงเคร่ง เขาไม่ค่อยเข้าใจความคิดของหญิงสาวเท่าใดนัก เมื่อหล่อนเองก็รู้สึกคล้อยตาม ความปรารถนาของหล่อนปรากฏขึ้นในดวงตาสีดำ...มันมีแววกังวลและละอายปนเปมาด้วย แต่นั่นก็ไม่อาจกลบความพุ่งพล่านในหัวใจได้...ไม่ใช่เหรอ? “ไม่ค่ะ ไม่เลย” หญิงสาวส่ายใบหน้าปฏิเสธ “อย่าปฏิเสธตัวเองสิวาด...ฉันรู้ เธอรู้สึกไม่ต่างจากฉันหรอก... เราต้องการกันและกัน” ปลายนิ้วแข็งแรงยกช้อนปลายคาง เขาคลึงผิวแก้มเนียนด้วยปลายนิ้วชี้ พร้อมกับยิ้มมุมปาก “แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ถูก...นี่คะ” วันวาดยังพยายามท้วง เธอเสหลบสายตาร้อนแรงของโจนาธาน ความปรารถนามากล้นนั่น กำลังทำให้ใจอ่อน “เธอใจแข็งมากกว่าที่ฉันคิดนะ” โจนาธานทิ้งตัวลงนอนด้านข้าง แววตาอ่อนเศร้าของหล่อน...ทำให้หัวใจแข็งกระด้างของเขาอ่อนลง จึงยอมตัดใจเขารั้งหล่อนเข้าสู่อ้อมแขน ตรึงหญิงสาวไว้ด้วยอ้อมแขนแข็งแรง “นอนนิ่งๆ น่า ฉันก็แค่อยากกอด ไม่ได้คิดทำอะไรเกินกว่านี้หรอก แต่ถ้าเธอดิ้น...ก็ไม่แน่...” ชายหนุ่มแสร้งขู่ วันวาดฮึ
บทที่11.กรรมติดจรวด “คุณแม่คะ...คุณแม่ได้ข่าวคุณพ่อบ้างไหมคะ?” พิไลลักษณ์ถามมารดาเลี้ยงด้วยความกังขา หล่อนได้ยินข่าวที่ยังไม่ได้คัดกรอง แต่ก็น่าจะมีเค้าความจริง ถึงจะเป็นคำบอกเล่าปากต่อปาก... “ไม่...ป่านนี้โดนไอ้เสี่ยบ้านั่นฆ่าตายแล้วมั้ง”พิไลพูดแบบไม่ยี่หระ ความรักจืดจางลง ที่เหลือไว้คือความชิงชัง สามีที่เคยเป็นคนดี เปลี่ยนไปเหมือนหน้ามือกับหลังเท้า...ทะนงจะเป็นตายยังไงก็ช่าง!! เธอไม่ขอยุ่งเกี่ยวอีกแล้ว...“คุณพ่อยังไม่ตายหรอกค่ะ...เหมือนจะอยู่ดีมีสุข คุณแม่มาอยู่กับพิไล ไม่ได้ข่าวทางบ้านบ้างเลยเหรอคะ?”สาวโสภาทิ้งตัวลงนั่ง ทั้งสองคนอาศัยอยู่ในคอนโดเล็กๆ แห่งหนึ่ง หรูหราพอสมควรตามกำลังเงิน ความเป็นอยู่ไม่ได้สบายเหมือนเก่า เมื่อไม่ใคร่จะมีเงินทองจับจ่าย“ใครจะสน...”พิไลพ่นควันสีขาวๆ ออกมาจากปาก เดี๋ยวนี้หล่อนเป็นทั้งเหล้าและบุหรี่ เมื่อไม่มีอะไรทำในแต่ละวัน สิ่งเหล่านี้คือของแก้เซ็งที่เธอทำยามว่าง แถมช่วงนี้พิไลริอ่านหัดเล่น ‘ไพ่’ มันทำให้นางสนุกและหายเบื่อ“คุณแม่อย่าไปเสวนากับยัยป้าเจ้าของคอนโดนักรู้ไหมคะ แกนะผีการพนันเข้าสิง สักวันจะพาคุณแม่ไปมั่วในบ
หญิงสาวเปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น ไม่เคยทำที่ไหนทน...อาศัยหน้าตาเป็นใบเบิกทาง...หล่อนหวังตกถังข้าวสาร หากเจอเจ้านายใจป้ำ แม้จะเป็นบ้านเล็ก พิไลลักษณ์ก็ไม่เกี่ยง ขอให้มีสตางค์ตุงกระเป๋า แต่เป้าหมายที่หล่อนค้นหายังไม่เจอ ก็เท่านั้นเอง ส่วนมากคนมีฐานะมักจะเป็นคุณลุงแก่ๆ และกลัวเมียจับจิต ยังไม่มีหนุ่มใหญ่ใจถึงคนไหนเข้าตาเธอสักคน “แกก็หา ‘ผัว’ รวยๆ สักคนสิ จะได้ไม่ต้องทำงาน” พิไลแนะนำ หากบุตรบุญธรรมมีสามีรวย นางเองก็จะได้อาศัยใบบุญไปด้วย พิไลลักษณ์ยิ้มกร่อยๆ ใช่ว่าเธอไม่หาเสียเมื่อไร แต่คนมั่งมีสมัยนี้ก็ไม่ได้โง่ เขามองคนระดับเดียวกัน ส่วนเธอก็เป็นได้แค่ทางผ่าน “ค่ะ” “ฉันไปล่ะ คนมารับโทร. มาแล้ว” พิไลฉวยกระเป๋าสะพายข้างตัวมาคล้องไว้ที่แขนซ้าย นางผุดลุกขึ้นยืน เดินนวยนาดออกไปช้าๆ “ถ้าฉันเฮง!! ฉันจะโทร. มาให้แกไปรับนะพิไล ฉันไม่ไว้ใจคนพาไปเลย...ดูเจ้าเล่ห์พิกล” นางหันมากล่าวกับพิไลลักษณ์ ก่อนจะดันประตูออกไปด้านนอก สาวโสภาคลี่ยิ้ม เธอภาวนาให้มารดามือขึ้น จะได้ไม่ต้องจำกัดจำเขี่ย เรื่องกินเรื่องอยู่ สองสาวไม่ได้คิดถึงเรื่องอับจน