โจนาธานอึ้ง หญิงสาวไม่เคยหยาบคาย หล่อนจะนิ่งๆ เฉยเมยเป็นส่วนใหญ่ นี่เป็นครั้งแรกที่หล่อนตอบโต้มาแบบแรงๆ
“คุณจะเป็นไอ้ง่อย จะเป็นไอ้อะไร มันก็เรื่องของคุณ จะเดินได้หรือไม่ได้ มันก็ตัวคุณ ไม่เกี่ยวกับวาดเลยค่ะ...อยากนอนเป็นผักเน่าให้คนรอบตัวเขาคอยสมเพทมันก็เรื่องของคุณ!! เมื่อคุณทำตัวเอง คุณกำหนดเองว่าจะเป็นแบบไหน ไม่มีใครว่าคุณได้หรอก แต่...วาดเสียดาย เสียดายที่คุณมีโอกาส แต่กลับไม่สู้ วาดทุเรศตัวเองแทนค่ะ!!”
หญิงสาวโพล่งยาว ความอัดอั้นในใจบีบบังคับให้เธอพูด ไม่ใช่ว่าเขามีปัญหาคนเดียว ไม่ใช่ว่าเขามีเรื่องทุกข์ใจคนเดียว คนอื่นๆ ก็มีปัญหาและภาวะอารมณ์ฉุนเฉียวเช่นกัน
“วาดขอโทษค่ะ ที่พูดไม่ดี...ขอตัวค่ะ”
หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ เธอรู้สึกผิดที่พูดแรงไป แต่ไม่ใช่ความผิดของเธอทั้งหมด โจนาธานกดดันจนเธอหลุด...หญิงสาวหมุนตัวเดินหนี เธอเปิดประตูห้องพักฟื้นของเขาออกไปสงบอารมณ์ด้านนอก น้ำตารื้นแทบจะล้นปริ่ม เธอจึงรีบยกมือขึ้น กรีดไล้เงาน้ำตาออกไป เธอไม่มีเวลาสำหรับการร้องไห้ เมื่อยังมีลมหายใจ...เธอจะไม่มีวันท้อ แม้ปัญหามากมายจะโถมเข้าใส่ไม่หยุด...
“บ้าชิบ!...”
โจนาธานสบถ เขาหงุดหงิดจนเผลอตัวระเบิดอารมณ์ใส่หล่อน แค่เห็นความสนิทสนมระหว่างวันวาดกับพี่ชาย เขาก็ทนไม่ได้เสียแล้ว เขารู้สึกประหนึ่งว่า หญิงสาวเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา เบนไม่มีสิทธิ์แตะต้องวันวาด แต่ความจริงเปล่าเลย วันวาดมีอิสระในตัวเอง หล่อนไม่ได้เป็นกรรมสิทธิ์ของใคร หล่อนเป็นแค่ ‘ลูกหนี้’
จริงสิ...หล่อนเป็น ‘ลูกหนี้’ หล่อนมีปัญหาเรื่องเงิน...และหากเขาจะเสนอตัวเป็นเจ้าหนี้ของหล่อนเพื่อปลดเปลื้องภาระที่หล่อนแบกไว้...หล่อนก็จะกลายเป็น ‘กรรมสิทธิ์’ ของเขาแต่เพียงผู้เดียว...
“คุณควรทานอะไรบ้างนะคะ”
วันวาดย้อนกลับมาหลังสงบอารมณ์กรุ่นๆ ให้คงที่ได้ เธอเปรยเสียงเรียบหลังจากปรับอารมณ์ตัวเองให้สงบดังเดิมได้
“ฉันรู้ว่าเธอกำลังมีปัญหา...ฉันช่วยเธอได้นะวาด!!”
เสียงเย็นชาติดดุเอ่ยถาม
มือเรียวบางชะงัก เธอช้อนสายตาขึ้นมองโจนาธานตรงๆ
“วาดไม่รู้ว่าคุณไปรู้อะไรมา...ปัญหาของวาดมีเยอะแยะ เยอะเกินกว่าที่ใครจะช่วยได้...”
หญิงสาวไม่ได้หยิ่งที่บอกปัดความช่วยเหลือ แต่สำหรับเธอมันไม่จบลงแค่นี้แน่...เมื่อมีคนให้หยิบยืม ครั้งต่อไปจะตามมา และคนที่แบกรับไว้เต็มบ่า ก็คงไม่พ้นตัวเอง วันวาดเหนื่อย...เหนื่อยที่จะแบกรับปัญหาของบิดาไว้คนเดียว เธอไม่ได้เป็นคนสร้างแต่กลับต้องตามเช็ดล้าง ไม่รู้จักจบ
“เธอเลยยอมให้เบนช่วย เขาเสนออะไรให้เธอล่ะ...แต่ถ้าเธอสนใจข้อเสนอของฉันนะ ฉันรับประกันเลยวาด...เธอจะไม่ผิดหวัง”
เสียงกระแทกกระทั้น เพราะอารมณ์กรุ่นๆ ย้อนกลับมาอีกครั้ง
“อ้าปากค่ะ”
หญิงสาวไม่ได้ตอบ เธอรู้ว่าโจนาธานกำลังเข้าใจผิด...
“ฉันกับเบน มีสตางค์มากพอๆ กัน ถ้าเบนช่วยเธอได้ ฉันก็น่าจะช่วยเธอได้เหมือนกัน”
โจนาธานเอียงหน้าหนี เขาพูดต่อ มือแข็งแรงมีมีเรี่ยวแรงมากขึ้น ยกขึ้นจับมือของวันวาดไว้
“พี่ฉันมันต้องการอะไรล่ะ ‘ตัวเธอ’ หรือว่า...” สายตาดุดันกราดมองหญิงสาวตรงหน้า ด้วยสายตาเหยียดหยัน
หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ ผู้ชายรวยเป็นแบบนี้เกือบหมด เขาดูถูกเพศหญิง พยายามกดผู้หญิงให้ต่ำต้อย ทั้งๆ ที่ผู้หญิงเป็นเพศเดียวกับมารดาเขา
“เปล่าค่ะ คุณเบนไม่ได้ช่วย วาดไม่ต้องการความช่วยเหลือ...มันไม่มีประโยชน์”
เธอไม่ได้ตอบรับความหวังดีของเบนเพราะเกรงใจ เขาอนุโลมยกหนี้ของบิดาให้ นั่นก็มากเกินพอ หากเธอจะหยิบยืมเขา มันก็จะเป็นการเอาเปรียบเขาเกินไป...เมื่อจำนวนเงินไม่น่าจะน้อย ไม่อย่างนั้นเสี่ยกวงคงไม่จับตัวบิดาของเธอไว้หรอก
“ไอ้ปัญหานั่น มันเกี่ยวกับเรื่องที่พ่อเธอติดหนี้ไอ้กวงอยู่หรือเปล่าล่ะ?” โจนาธานเสี่ยงเดา แต่เขาดันเดาถูก
“คุณรู้” วันวาดผงะ
“มันเดาไม่อยากหรอก หากพ่อเธอจะเล่น มันก็มีแค่บ่อนฉัน กับบ่อนไอ้เสียเจ้าเล่ห์นั่น”
“มันก็จริงค่ะ แต่วาดปลงแล้ว...” หญิงสาวตอบ เธอไม่มีปัญญาช่วยบิดาได้หรอก เธอไม่มี ‘เงิน’
“เธอจะปล่อยให้ พ่อเธอตายงั้นสิ!!”
ชายหนุ่มตะคอกถาม นี่วัดวาดใจดำถึงขนาดปล่อยให้บิดาตาย...เพราะไอ้เสียหน้าเลือดนั่นคงไม่มีวันปล่อยบิดาของวันวาดมีชีวิตรอดออกมา หากยังไม่มีเงินไปคืนมัน หล่อนไม่คิดช่วยทั้งที่มีหนทางช่วยได้เชียวเหรอ
“วาดไม่ได้ต้องการแบบนั้นหรอกค่ะ...” น้ำตารื่นที่หัวตา ความเจ็บปวดที่เธอแบกรับไว้มีใครรู้บ้าง เธอช่วยบิดาจนไม่รู้ว่าจะช่วยยังไง เธอเหนื่อยที่ต้องคอยวิ่งลอกหาเงินมาใช้หนี้ ทำงานแทบตาย แต่ตัวเองไม่เคยได้แตะต้องน้ำพักน้ำแรง เมล็ดเงินทุกบาททุกสตางค์เธอยกให้ท่านจนหมด แบบนี้เธอยังไม่ใช่ลูกที่ดีอีกเหรอ
“แต่เธอกำลังทำ”
“วาดมีทางเลือกเหรอไงคะ? แล้วทำไมวาดต้องแบกรับไว้คนเดียวด้วยล่ะ วาดเหนื่อยไม่เป็นหรือไง”
เธอปล่อยน้ำตาไหลเป็นทาง เจ็บปวดหัวใจ ทรมานทั้งร่างกาย เธอเหนื่อยสายตัวแทบขาด บิดาเคยรู้บ้างไหม ท่านดีแต่สร้างปัญหา ไม่เคยเลยที่จะแก้ปัญหาที่ก่อขึ้นไว้เอง บิดาคนเดิมตายจากไป...นับตั้งแต่วันที่ท่านเกษียณอายุจากการเป็นครู
“ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอเจออะไรมาบ้าง แต่ครั้งนี้...เธอต้องให้ฉันช่วย”
“ไม่”
“ทำไม!!”
เมื่อวันวาดปฏิเสธ โจนาธานก็ย้อนถามกลับทันควัน เขาไม่ได้พูดเล่นเพื่อหยั่งเชิง โจนาธานต้องการช่วยหล่อนเพื่อเป็นเจ้าหนี้หล่อนแต่เพียงผู้เดียว
“คุณไม่รู้หรอกว่าพ่อวาด...ก่อหนี้ไว้เยอะแค่ไหน แล้ววาดก็ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าเมื่อไรจะใช้คืนได้หมด เงินคุณจะมาจมอยู่กับวาดเสียเปล่าๆ”
“เงินฉัน...มันนอนสงบอยู่ในธนาคารตั้งแต่ฉันป่วย...มันมีมากพอที่ฉันจะจ่ายไหวและฉันไม่ต้องการเงินคืน...”
“แล้วคุณต้องการอะไรคะ?” หญิงสาวแปลกใจ เขาต้องการอะไรถึงคะยั้นคะยอให้เธอหยิบยืมเหลือเกิน
โจนาธานเหยียดยิ้ม “เธอ!! ฉันต้องการเธอ...บนเตียง” คำพูดของเขา เกือบทำให้วันวาดปรี๊ดแตก ที่เขาพยายามเกลี้ยกล่อมเธอนี่ เพราะสิ่งที่เขาต้องการคือ ‘ตัวเธอ’ อย่างนั้นเหรอ
“เหอะๆ ฮ่าๆ” เธอหัวเราะร่า ไม่ได้ขำขันโจนาธาน แต่ขำตัวเอง เธอมีค่าตัวแพงจนไม่อยากเชื่อ
“เธอกำลังคิดสิว่า... ไอ้ง่อยอย่างฉัน คงทำอะไรเธอไม่ได้สินะ” ชายหนุ่มพูดเสียงดัง ใช่เขาไม่มีความรู้สึกที่ขา แต่...ไอ้นั่นเขาไม่ได้พิการนี่หว่า
ใบหน้าวันวาดร้อนวูบ!! เธอไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย แค่กำลังขำตัวเอง ผู้หญิงอย่างเธอมีราคามากเหลือเชื่อ
“วาดคิดว่าคุณแค่อยากล้อเล่น...” “ฉันจริงจัง เธอจะว่าไง...ถ้าตกลง ก็เดินขึ้นเตียงมาได้เลย หลังคืนนี้ผ่านไป...เธอจะได้ทุกอย่างที่เธอต้องการกลับคืนมา” โจนาธานท้าทาย เขาเห็นแววตาลังเลของหล่อน มีความเป็นไปได้สูงที่หล่อนจะตกลง เมื่อวันวาดกำลังเข้าตาจน “...” หญิงสาวก้มหน้าลง เธอกำลังตัดสินใจครั้งใหญ่... หญิงสาวไม่ได้มีทางเลือกมากนัก หากเธอตัดสินใจทำ... มันน่าอายเธอรู้ แต่มันจะช่วยได้หลายคน พ่อ แม่...บางทีบ้านที่เธอเกิด อาจจะไม่ตกเป็นของคนอื่น “เท่าไรคะ? ค่าตัววาด เท่าไร?” เธอกลั้นใจถามดวงตาแดงก่ำ กระบอกตาร้อนผ่าว “แล้วแต่เธอจะเรียก ฉันมีจ่าย!!” ชายหนุ่มตอบเสียงขุ่น เขาใจป้ำ กระเป๋าหนักพอ “เรื่องนี้จะเป็นความลับ...ต้องไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากเรานะคะ... เพราะวันใดที่มีคนรู้มากกว่าเราสองคน วาดจะไปจากที่นี่ทันที ทุกอย่างที่ตกลงกันไว้จะยุติ!!” เธอกันฟันพูด ยอมทิ้งศักดิ์ศรี เพื่อต่อลมหายใจให้ใครหลายคน โดยเฉพาะบิดา... “ตกลง...” โจนาธานตอบเสียงกระหึ่ม เขายิ้มมุมปาก ตอบตกลงโดยไม่ต
บราเซียตัวสวยถูกปลดออกด้วยมือที่สั่นระริก มันเป็นเพราะร่างกายของโจนาธานยังไม่แข็งแรงเหมือนคนปกติ แต่เขาก็ไม่ยอมถอย พยายามทำตามความเคยชิน สองแขนเรียวถูกรั้งลงจากเนินอก เผยให้เห็นเต่งเต้ากลมกลึงขาวผ่อง เนินอกอวบอิ่ม ปลายยอดหดเกร็งมีติ่งเล็กๆ สีแดงอ่อน เท่าผลเชอรี่สุกใหม่ๆ มือใหญ่รีบเคลื่อนที่เขาโอบประคอง จนคนตัวเล็กสะดุ้งโหย่ง เธอหลับตาปี๋ ขมวดคิ้วจนแน่น“กลัวเหรอวาด...มันไม่น่ากลัวหรอก ฉันรับรอง”เวลานี้โจนาธานอารมณ์ดี อารมณ์ดีเสียจนอดไม่ได้ที่จะยอกเย้าวันวาด หญิงสาวน่ารัก น่าใคร่ เขาเชื่อว่าเธอยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง เพราะปฏิกิริยาโดยรวมที่เกิดขึ้น มันเป็นเพราะเธอไม่คุ้นชินกับสถานการณ์เช่นนี้“...” วันวาดเผยอปาก เธอพ่นลมหายใจแรงๆ เมื่อรู้สึกตื่นเต้นจนหายใจ หายคอไม่ทัน“นอนลงเถอะ ฉันอยากชิมเธอแล้วล่ะ”สภาพร่างกายของตัวเองไม่พร้อมเท่าไร เขาเคลื่อนไหวได้แบบยากลำบาก โจนาธานไม่อยากให้มันติดขัด เขาวอนขอวันวาดด้วยน้ำเสียงแหบปร่า ใช้มือดันร่างเล็กบาง แบบไม่เร่งร้อน หญิงสาวกัดฟันแน่น เธอค่อยๆ ผ่อนร่างกายลงบนที่นอน มือเรียวขยุ้มกำผ้าปูที่นอนแน่น พร้อมกับเกร็งตัวจนแข็งเหมือนท่อนไม้“ฉันไม่ฆ่าเธอหรอก
บทที่10.เมียชั่วคืน ไม่ใช่ของตาย... โจนาธานอารมณ์ดีจนคนรอบข้างรู้สึก เขายิ้มกริ่ม ดวงตามีประกายสดใส แม้จะอิดออดช่วงที่วันวาดจะกลับ เขาพยายามรั้งหล่อนไว้ แต่หญิงสาวไม่ได้ตามใจ เธอกลับเมื่อถึงเวลาของเธอ “อารมณ์ดีอะไรครับคุณโจ” เอกลองแยบๆ ถาม ระหว่างเจ้านายกับพยาบาลสาว ต้องมีอะไรแน่ๆ เมื่อคนที่เคยพูดจ้อยๆ หุบปากแน่น คนที่เป็นจอมโวย กลับยิ้มแย้มเสียแบบนั้น “ไม่รู้สักเรื่องได้มั้ยว่ะ” ชายหนุ่มบ่น แต่ก็ยังยิ้มได้ “เห็นคุณโจสบายใจ ผมก็อดดีใจด้วยไม่ได้ แต่...ไม่บอกจริงๆ เหรอครับ” เอกสัพยอก เขากระโจนผลุง...หนีมือใหญ่ที่ฟาดผั๊วะลงมาข้างตัว เป้าหมายไม่ศีรษะก็ลำตัวเขา และหากเป็นเวลาที่โจนาธานปกติ มันอาจจะเป็นฝ่าเท้า หรือไม่ก็โดนยันโครมจนกระเด็น... “พากูไปสระทีเอก กูดูคลิบในยูทูบ เห็นหมอแนะนำการออกกำลังกายในน้ำ จะช่วยให้เขาฝึกการขยับตัวได้มากกว่าการเดินบนลู่ที่ใช้แรงเยอะ” ชายหนุ่มตั้งเป้าไว้ เขาต้องเดินให้ได้ในเร็ววันที่สุด!! นี่จะเป็นเซอร์ไพรส์ให้วันวาดรู้...คนสุดท้าย ช่วงเวลาที่เหมาะสุด ก็ตอนที่หล่อนไม่อยู่
“คงไม่มีใครมาหรอกเสี่ย ได้ข่าวว่ามันหมดตัวแล้วนี่ครับ” มันตอบเสียงสำรวม “เห้ย!! ได้ไงวะ!! มันเป็นหนี้กูอยู่ไม่น้อย...ลูก เมียมันไม่สนใจเลยเหรอ?” กวงตะคอก เขาไม่ยอมให้ทะนงแทงบัญชีเป็นศูนย์แน่ เงินที่เขาควรได้ จำนวนโขอยู่ “มีเมียสองคน ลูกสาวคน ลูกบุญธรรมอีกคน แต่ก็จนเหมือนกันหมดนั่นแหละเสี่ย!!” มันตอบพร้อมกับรีบหลบตา เมื่อเสี่ยกวงยืนขึ้น ตะโกนลั่น “ก็ไปจับเมีย จับลูกมันมาสิวะ ไม่ได้เงินเอาตัวมาขัดดอกก็ยังดี...” ความคิดชั่วชาติ ไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม คนเขี้ยวลากดินอย่างเสี่ยกวง ไม่ยอมให้ใครมาลูบคมง่ายๆ ลูกน้องขาโหดทำหน้าปั้นยาก “เมียมันแก่หนังเหี่ยวเกรงว่าจะเอามาเสียเปล่าครับ ส่วนลูกสาวมัน...เออ” มันพูดเสียงติดๆ ขัดๆ เสี่ยกวงใจร้อนจึงตะโกนถามเสียงขุ่น “แต่...ส้นตีนอะไรของมึง ทำสะดิ้งอมพะนำเสียแบบนั้น” “ลูกสาวไอ้ทะนงมันเป็นพยาบาล เห็นเดินเข้าเดินออกบ้านไอ้พี่น้องรูธ ผมก็เลยไม่กล้าฉุดมาให้เสี่ย” คำตอบของมันทำให้หัวคิ้วเสี่ยกวงกระตุก ต่อมลองดีเต้นพล่าน หากอีนั่นเกี่ยวข้องกับคนบ้านนั้นสิดี
“พ่อคะ...บ้านติดจำนองกับใครคะ?” ระหว่างเดินทางกลับบ้าน วัดวานตัดสินใจถาม เรื่องนี้คือปัญหาที่เธอต้องแก้เป็นอันดับที่สอง ไหนๆ ก็เบี้ยวไม่ไปทำงาน วันวาดจึงขอขจัดปัญหากวนตัวทั้งหมด ให้จบลงในวันนี้ “ลูกรู้!!” ใบหน้าหมองเศร้า สลดเศร้าหนักกว่าเก่า ไหล่ลู่คอตก เขามันเป็นตัวหายนะชัดๆ “วาดอยากรู้ วาดจะไปขอเจรจากับเขา วาดจะไม่ยอมเสียบ้านให้ใคร...บอกวาดนะคะพ่อ” เธอขอร้องกึ่งวิงวอน บ้านที่เกิดและโตมา จะตกเป็นสมบัติของคนอื่น เธอกับแม่จะไปอยู่ที่ไหน “เออ...ญาติคุณพิเขานะ ใจดีอยู่ แต่พ่อไม่จ่ายดอกเขามานานแล้วล่ะ ต้นก็เอามาเต็มพิกัด คุณพิบอกว่าเขาจะมายึด” ทะนงพูดเสียงเครือ เขาทำชั่ว ทำเลว จนแม้แต่ที่ซุกหัวนอนยังไม่เหลือ “พ่อรู้จักบ้านเขาไหมคะ เราไปหาเขากัน วาดจะไถ่บ้านคืน” “วาดไปเอาเงินที่ไหนมาลูก มันไม่ใช่น้อยเลยนะ ไหนจะเงินที่มาไถ่ตัวพ่ออีก?!!” ทะนงเริ่มสงสัย บุตรสาวไม่มีทางมีเงินเก็บ เมื่อเขาฉกเงินเดือนวันวาดมาทุกเดือน แล้วก็เอาไปละลายในบ่อน การเป็นอยู่ลูกกับเมียเป็นอย่างไรไม่เคยสน ขอแค่ตัวเองมีสตาง
ชายหนุ่มกระแทกลมหายใจแรงๆ นี่หล่อนไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยเหรอ เขากับเธอผ่านค่ำคืนแสนหวานร่วมกัน แต่เมื่อฟ้าสว่าง ทุกอย่างกลายเป็นเพียงความทรงจำ เขาได้กลับคืนมาคือความเฉยชา“คุณออกกำลังกายหนักเกินไปนะคะ กล้ามเนื้อคุณตึงมาก ไม่ต้องรีบหรอกค่ะ ค่อยๆ ทำ อีกไม่นานคุณก็จะเดินได้เอง”กล้ามเนื้อที่ช่วงขาของโจนาธานตึงจนแข็ง วันวาดวางมือลงไปเธอกดผิวเนื้อจึงเอ่ยเตือนโจนาธานด้วยความหวังดีชายหนุ่มขมวดคิ้ว!! นี่หล่อนไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ใจคอหล่อนจะไม่ยอมเอ่ยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น...ใจเด็ดเกินไปแล้ว“เธอจริงจังกับงานเหลือเกินนะ คงอยากไปจากที่นี่เต็มทีละสิ”เสียงดังๆ แฝงการประชด วันวาดยิ้มเครียด เธอช้อนสายตาเฉยชามองเขา“เราตกลงกันแล้วนี่คะ เราจะไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้ว”เธอทวงคำสัญญา แม้จะอายจนหน้าชากับแววตาดูแคลนของชายหนุ่ม“หึ!! ไม่เอาเปรียบฉันไปหน่อยเหรอวาด เธอโขกฉันเสียเยอะแยะ แต่ฉันได้...แค่ครั้งเดียว”วันวาดสะอึก เธอกรอกตัวเลขเสียเยอะแยะเพราะต้องการประชด แต่เมื่อใช้จ่ายจริงๆ เธอใช้ไม่ถึงครึ่งจนมานั่งเสียใจอยู่ตอนนี้“วาดคืนที่เหลือให้คุณก็ได้ค่ะ วาดไม่ต้องการมันอีกแล้ว”เธอเคลียร์หนี้ของบิดา ไถ
“ทำไมล่ะวาด เธอก็รู้สึกดีไม่ใช่หรือ?” ชายหนุ่มถามกลับเสียงเคร่ง เขาไม่ค่อยเข้าใจความคิดของหญิงสาวเท่าใดนัก เมื่อหล่อนเองก็รู้สึกคล้อยตาม ความปรารถนาของหล่อนปรากฏขึ้นในดวงตาสีดำ...มันมีแววกังวลและละอายปนเปมาด้วย แต่นั่นก็ไม่อาจกลบความพุ่งพล่านในหัวใจได้...ไม่ใช่เหรอ? “ไม่ค่ะ ไม่เลย” หญิงสาวส่ายใบหน้าปฏิเสธ “อย่าปฏิเสธตัวเองสิวาด...ฉันรู้ เธอรู้สึกไม่ต่างจากฉันหรอก... เราต้องการกันและกัน” ปลายนิ้วแข็งแรงยกช้อนปลายคาง เขาคลึงผิวแก้มเนียนด้วยปลายนิ้วชี้ พร้อมกับยิ้มมุมปาก “แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ถูก...นี่คะ” วันวาดยังพยายามท้วง เธอเสหลบสายตาร้อนแรงของโจนาธาน ความปรารถนามากล้นนั่น กำลังทำให้ใจอ่อน “เธอใจแข็งมากกว่าที่ฉันคิดนะ” โจนาธานทิ้งตัวลงนอนด้านข้าง แววตาอ่อนเศร้าของหล่อน...ทำให้หัวใจแข็งกระด้างของเขาอ่อนลง จึงยอมตัดใจเขารั้งหล่อนเข้าสู่อ้อมแขน ตรึงหญิงสาวไว้ด้วยอ้อมแขนแข็งแรง “นอนนิ่งๆ น่า ฉันก็แค่อยากกอด ไม่ได้คิดทำอะไรเกินกว่านี้หรอก แต่ถ้าเธอดิ้น...ก็ไม่แน่...” ชายหนุ่มแสร้งขู่ วันวาดฮึ
บทที่11.กรรมติดจรวด “คุณแม่คะ...คุณแม่ได้ข่าวคุณพ่อบ้างไหมคะ?” พิไลลักษณ์ถามมารดาเลี้ยงด้วยความกังขา หล่อนได้ยินข่าวที่ยังไม่ได้คัดกรอง แต่ก็น่าจะมีเค้าความจริง ถึงจะเป็นคำบอกเล่าปากต่อปาก... “ไม่...ป่านนี้โดนไอ้เสี่ยบ้านั่นฆ่าตายแล้วมั้ง”พิไลพูดแบบไม่ยี่หระ ความรักจืดจางลง ที่เหลือไว้คือความชิงชัง สามีที่เคยเป็นคนดี เปลี่ยนไปเหมือนหน้ามือกับหลังเท้า...ทะนงจะเป็นตายยังไงก็ช่าง!! เธอไม่ขอยุ่งเกี่ยวอีกแล้ว...“คุณพ่อยังไม่ตายหรอกค่ะ...เหมือนจะอยู่ดีมีสุข คุณแม่มาอยู่กับพิไล ไม่ได้ข่าวทางบ้านบ้างเลยเหรอคะ?”สาวโสภาทิ้งตัวลงนั่ง ทั้งสองคนอาศัยอยู่ในคอนโดเล็กๆ แห่งหนึ่ง หรูหราพอสมควรตามกำลังเงิน ความเป็นอยู่ไม่ได้สบายเหมือนเก่า เมื่อไม่ใคร่จะมีเงินทองจับจ่าย“ใครจะสน...”พิไลพ่นควันสีขาวๆ ออกมาจากปาก เดี๋ยวนี้หล่อนเป็นทั้งเหล้าและบุหรี่ เมื่อไม่มีอะไรทำในแต่ละวัน สิ่งเหล่านี้คือของแก้เซ็งที่เธอทำยามว่าง แถมช่วงนี้พิไลริอ่านหัดเล่น ‘ไพ่’ มันทำให้นางสนุกและหายเบื่อ“คุณแม่อย่าไปเสวนากับยัยป้าเจ้าของคอนโดนักรู้ไหมคะ แกนะผีการพนันเข้าสิง สักวันจะพาคุณแม่ไปมั่วในบ