“คงไม่มีใครมาหรอกเสี่ย ได้ข่าวว่ามันหมดตัวแล้วนี่ครับ” มันตอบเสียงสำรวม
“เห้ย!! ได้ไงวะ!! มันเป็นหนี้กูอยู่ไม่น้อย...ลูก เมียมันไม่สนใจเลยเหรอ?”
กวงตะคอก เขาไม่ยอมให้ทะนงแทงบัญชีเป็นศูนย์แน่ เงินที่เขาควรได้ จำนวนโขอยู่
“มีเมียสองคน ลูกสาวคน ลูกบุญธรรมอีกคน แต่ก็จนเหมือนกันหมดนั่นแหละเสี่ย!!”
มันตอบพร้อมกับรีบหลบตา เมื่อเสี่ยกวงยืนขึ้น ตะโกนลั่น
“ก็ไปจับเมีย จับลูกมันมาสิวะ ไม่ได้เงินเอาตัวมาขัดดอกก็ยังดี...” ความคิดชั่วชาติ ไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม คนเขี้ยวลากดินอย่างเสี่ยกวง ไม่ยอมให้ใครมาลูบคมง่ายๆ
ลูกน้องขาโหดทำหน้าปั้นยาก “เมียมันแก่หนังเหี่ยวเกรงว่าจะเอามาเสียเปล่าครับ ส่วนลูกสาวมัน...เออ”
มันพูดเสียงติดๆ ขัดๆ เสี่ยกวงใจร้อนจึงตะโกนถามเสียงขุ่น
“แต่...ส้นตีนอะไรของมึง ทำสะดิ้งอมพะนำเสียแบบนั้น”
“ลูกสาวไอ้ทะนงมันเป็นพยาบาล เห็นเดินเข้าเดินออกบ้านไอ้พี่น้องรูธ ผมก็เลยไม่กล้าฉุดมาให้เสี่ย”
คำตอบของมันทำให้หัวคิ้วเสี่ยกวงกระตุก ต่อมลองดีเต้นพล่าน หากอีนั่นเกี่ยวข้องกับคนบ้านนั้นสิดี เขาจะได้มีข้ออ้างในการ ‘กำจัด’ ไอ้ตัวมาร...เหมือนที่เคยทำกับไอ้คนน้อง จนพิกลพิการนอนแบ็บอยู่กับที่
“ฮ่าๆ ดีสิว่ะ ฉุดอีนั่นมันมาให้กู ถ้าใครขวางก็เก็บได้เลย...” เสี่ยใจโหดสั่งเสียงเหี้ยม เขาจะลองงัดข้อกับเด็กรุ่นลูก สักตั้ง...เป็นการประกาศอำนาจ หลังที่ทนนิ่งดูมันกอบโกยเงินทอง ที่ควรเป็นของเขามาหลายปี... “หากไอ้หนุ่มนั่นมันยื่นหน้ามาขวาง...ก็ดี กูจะได้มีข้ออ้าง เก็บมัน!!”
แต่...ก่อนที่ใครจะทันได้ทำอะไร วันวาดก็เดินทางมาถึง เธอยื่นความจำนงขอพบเสี่ยกวง และบรรดาลูกสมุนก็เปิดทางให้หล่อนเป็นอย่างดี
ห้องทำงานสีขรึม แอร์คอนนิชั่นทำงานสมประสิทธิภาพ...มันเย็นฉ่ำเสียจนวันวาดขนลุกชัน ผสมกับการมองของเสี่ยกวง ดวงตาเรียวรีเหมือนตางูนั่นน่าพรั่นพรึงเสียจนเธอแทบก้าวขาไม่ออก
“เธอเป็นลูกสาวของทะนง...ใช่ไหม?”
หนุ่มรุ่นเดอะร้องถาม เขาลุกมาจากหลังโต๊ะทำงาน เดินมาหยุดตรงหน้าหญิงสาวมองผู้หญิงตรงหน้าตาฉ่ำ
“ค่ะ... วาดมาเพราะอยากใช้หนี้แทนพ่อ พร้อมกับขอรับตัวพ่อกลับไปด้วยค่ะ”
หญิงสาวบังคับเสียงไม่ให้สั่น เธอรีบบอกความตั้งใจ ก่อนที่ความกลัวจะทำให้เธอไม่กล้าพูด
“เธอมี...เงินงั้นสิ!!” กวงไม่ได้ดูถูก แต่เงินที่ไอ้แก่นั่นเป็นหนี้ ไม่ใช่น้อยๆ
“ค่ะ...” หญิงสาวรับคำ เธอขยับถอยหลังเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกคุกคาม
“ดีเลย...นั่งรออยู่นี่แล้วกัน ฉันจะให้ใครไปตามพ่อเธอมา ระหว่างนี้เราก็มาเคลียร์หนี้กันดีกว่า เพราะหากมีส่วนต่างจะได้ตกลงกันได้”
กวงรีบพูด เขามองหญิงสาวแบบประเมิน ผิวพรรณหล่อนเกลี้ยงเกลา เค้าหน้าสวยหวาน และหากเดาไม่ผิดหล่อนน่ายังไร้เดียงสา เขาได้กลิ่นสาวบริสุทธิ์โชยมาจากร่างกายของหล่อน กวงบอกแบบหน้าด้านๆ เขาอยากได้หล่อนมาบำเรออารมณ์ หากมีช่อง กวงไม่รอช้าที่จะบีบหล่อนให้จนทาง ยอมตกเป็นเบี้ยล่างเขาแน่ๆ
สมุดเล่มใหญ่ที่ระบุจำนวนหนี้ เขากางให้วันวาดดู
หญิงสาวมองผ่านๆ เธอตระหนกจำนวนหนี้ที่เพิ่มขึ้นไวยิ่งกว่าดอกเห็ด 1 อาทิตย์ดอกเบี้ยพุ่งพรวดจากหมื่นจนเป็นเรือนแสน หากปล่อยเวลาไปอีกนิด ต้นทบดอก ดอกทบต้น จำนวนหนี้คงเพิ่มจนไม่อยากคิดคำนวณ
“พ่อเธอกู้เงินฉันไปสนุกกับเกม” วันวาดค่อนในใจ กวงเรียกการพนันพวกนั้นว่า ‘เกม’ “ฉันมันคนใจดี” เขายังพูดต่อโดยที่วันวาดแย้งในใจร่ำไป กวงไม่ได้ใจดี เขาเป็นคนหน้าเลือดและใจดำที่สุด เท่าที่เธอเคยรู้จัก “ก็เลยให้ยืมไป แต่พ่อเธอก็ผิดคำพูด เขาไม่มีเงินมาคืนฉัน ฉันเลยต้องกักตัวไว้ เธอเตรียมเงินมาพร้อมแล้วใช่ไหม...ทั้งหมดก็...แปดแสนพอดี ฉันลดให้แล้วนะ เศษๆ ฉันไม่คิด หากเธอมีมาไม่พอจะผ่อนผันก่อนก็ได้ ฉันมันใจดีกับคนสวยเสมอ...”
วันวาดอยากหัวเราะ!! เงินต้นแค่ไม่กี่หมื่น...ดอกโตไวยิ่งกว่าใส่ปุ๋ย เธออึ้งกับจำนวนหนี้ แต่หากชักช้าไปกว่านี้ จำนวนอาจจะเพิ่มขึ้นจนหมดปัญญาที่จะชดใช้...
“ค่ะ นี่ค่ะ วาดเตรียมพร้อมแล้วค่ะ”
หญิงสาวชักเงินสดออกมาหลายปึก นับคร่าวๆ ให้เท่ากับจำนวนหนี้ที่แจ้งไว้
กวงอึ้ง!! เขาหรี่ตามองหญิงสาวซ้ำ ผู้หญิงตัวเล็กๆ หอบเงินเรือนล้านมาจากไหน ไหนไอ้พวกนั้นบอกว่าหล่อนแทบจะเหลือแต่ตัว แล้วหล่อนไปเอาสตางค์จากไหนมา แม้จะได้เงินคืน แต่กวงเปลี่ยนใจแล้ว เวลานี้กวงอยากได้ผู้หญิงตรงหน้า หล่อนคงทำให้เขาบันเทิงใจ จนลืมความแก่ชราได้หมดใจ...
“วาด...”
ทะนงโทรมและสกปรก เขาดูแทบไม่ได้เนื้อตัวมีแต่กลิ่นเหม็นเปรี้ยวเมื่อถูกกักขังไว้ในห้องแคบๆ
ชายสูงวัยเหมือนได้เกิดใหม่ เขานอนหลับไปกับฝันร้าย เฝ้าวิงวอนพระเจ้า หากรอดกลับไป เขาจะกลับกลับใจ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขทุกชนิด และดูเหมือนพระเจ้ายังเห็นใจเขา ส่งคนมายื้อลมหายใจของเขาไว้ ทะนงไม่ได้ถามบุตรสาวสักคำถึงที่มาของเงิน เขาดีใจจนไม่สนใจอะไรเลย ขอเพียงให้ตัวเองรอด ช่างเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวจนน่าทุเรศ!!
“เมื่อมีเงินก็กลับได้ บ่อนฉันยินดีต้อนรับนะทะนง หวังว่าเราคงได้เจอกันอีก”
กวงยิ้มเจ้าเล่ห์ หากทะนงหลงเข้ามาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาจะเล่นหนัก วันวาดจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม หล่อนมีบิดาเป็นผีพนัน...เพราะฉะนั้น เขายังมีหนทางเข้าถึงหล่อน
“พ่อคะ...บ้านติดจำนองกับใครคะ?” ระหว่างเดินทางกลับบ้าน วัดวานตัดสินใจถาม เรื่องนี้คือปัญหาที่เธอต้องแก้เป็นอันดับที่สอง ไหนๆ ก็เบี้ยวไม่ไปทำงาน วันวาดจึงขอขจัดปัญหากวนตัวทั้งหมด ให้จบลงในวันนี้ “ลูกรู้!!” ใบหน้าหมองเศร้า สลดเศร้าหนักกว่าเก่า ไหล่ลู่คอตก เขามันเป็นตัวหายนะชัดๆ “วาดอยากรู้ วาดจะไปขอเจรจากับเขา วาดจะไม่ยอมเสียบ้านให้ใคร...บอกวาดนะคะพ่อ” เธอขอร้องกึ่งวิงวอน บ้านที่เกิดและโตมา จะตกเป็นสมบัติของคนอื่น เธอกับแม่จะไปอยู่ที่ไหน “เออ...ญาติคุณพิเขานะ ใจดีอยู่ แต่พ่อไม่จ่ายดอกเขามานานแล้วล่ะ ต้นก็เอามาเต็มพิกัด คุณพิบอกว่าเขาจะมายึด” ทะนงพูดเสียงเครือ เขาทำชั่ว ทำเลว จนแม้แต่ที่ซุกหัวนอนยังไม่เหลือ “พ่อรู้จักบ้านเขาไหมคะ เราไปหาเขากัน วาดจะไถ่บ้านคืน” “วาดไปเอาเงินที่ไหนมาลูก มันไม่ใช่น้อยเลยนะ ไหนจะเงินที่มาไถ่ตัวพ่ออีก?!!” ทะนงเริ่มสงสัย บุตรสาวไม่มีทางมีเงินเก็บ เมื่อเขาฉกเงินเดือนวันวาดมาทุกเดือน แล้วก็เอาไปละลายในบ่อน การเป็นอยู่ลูกกับเมียเป็นอย่างไรไม่เคยสน ขอแค่ตัวเองมีสตาง
ชายหนุ่มกระแทกลมหายใจแรงๆ นี่หล่อนไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยเหรอ เขากับเธอผ่านค่ำคืนแสนหวานร่วมกัน แต่เมื่อฟ้าสว่าง ทุกอย่างกลายเป็นเพียงความทรงจำ เขาได้กลับคืนมาคือความเฉยชา“คุณออกกำลังกายหนักเกินไปนะคะ กล้ามเนื้อคุณตึงมาก ไม่ต้องรีบหรอกค่ะ ค่อยๆ ทำ อีกไม่นานคุณก็จะเดินได้เอง”กล้ามเนื้อที่ช่วงขาของโจนาธานตึงจนแข็ง วันวาดวางมือลงไปเธอกดผิวเนื้อจึงเอ่ยเตือนโจนาธานด้วยความหวังดีชายหนุ่มขมวดคิ้ว!! นี่หล่อนไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ใจคอหล่อนจะไม่ยอมเอ่ยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น...ใจเด็ดเกินไปแล้ว“เธอจริงจังกับงานเหลือเกินนะ คงอยากไปจากที่นี่เต็มทีละสิ”เสียงดังๆ แฝงการประชด วันวาดยิ้มเครียด เธอช้อนสายตาเฉยชามองเขา“เราตกลงกันแล้วนี่คะ เราจะไม่พูดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้ว”เธอทวงคำสัญญา แม้จะอายจนหน้าชากับแววตาดูแคลนของชายหนุ่ม“หึ!! ไม่เอาเปรียบฉันไปหน่อยเหรอวาด เธอโขกฉันเสียเยอะแยะ แต่ฉันได้...แค่ครั้งเดียว”วันวาดสะอึก เธอกรอกตัวเลขเสียเยอะแยะเพราะต้องการประชด แต่เมื่อใช้จ่ายจริงๆ เธอใช้ไม่ถึงครึ่งจนมานั่งเสียใจอยู่ตอนนี้“วาดคืนที่เหลือให้คุณก็ได้ค่ะ วาดไม่ต้องการมันอีกแล้ว”เธอเคลียร์หนี้ของบิดา ไถ
“ทำไมล่ะวาด เธอก็รู้สึกดีไม่ใช่หรือ?” ชายหนุ่มถามกลับเสียงเคร่ง เขาไม่ค่อยเข้าใจความคิดของหญิงสาวเท่าใดนัก เมื่อหล่อนเองก็รู้สึกคล้อยตาม ความปรารถนาของหล่อนปรากฏขึ้นในดวงตาสีดำ...มันมีแววกังวลและละอายปนเปมาด้วย แต่นั่นก็ไม่อาจกลบความพุ่งพล่านในหัวใจได้...ไม่ใช่เหรอ? “ไม่ค่ะ ไม่เลย” หญิงสาวส่ายใบหน้าปฏิเสธ “อย่าปฏิเสธตัวเองสิวาด...ฉันรู้ เธอรู้สึกไม่ต่างจากฉันหรอก... เราต้องการกันและกัน” ปลายนิ้วแข็งแรงยกช้อนปลายคาง เขาคลึงผิวแก้มเนียนด้วยปลายนิ้วชี้ พร้อมกับยิ้มมุมปาก “แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ถูก...นี่คะ” วันวาดยังพยายามท้วง เธอเสหลบสายตาร้อนแรงของโจนาธาน ความปรารถนามากล้นนั่น กำลังทำให้ใจอ่อน “เธอใจแข็งมากกว่าที่ฉันคิดนะ” โจนาธานทิ้งตัวลงนอนด้านข้าง แววตาอ่อนเศร้าของหล่อน...ทำให้หัวใจแข็งกระด้างของเขาอ่อนลง จึงยอมตัดใจเขารั้งหล่อนเข้าสู่อ้อมแขน ตรึงหญิงสาวไว้ด้วยอ้อมแขนแข็งแรง “นอนนิ่งๆ น่า ฉันก็แค่อยากกอด ไม่ได้คิดทำอะไรเกินกว่านี้หรอก แต่ถ้าเธอดิ้น...ก็ไม่แน่...” ชายหนุ่มแสร้งขู่ วันวาดฮึ
บทที่11.กรรมติดจรวด “คุณแม่คะ...คุณแม่ได้ข่าวคุณพ่อบ้างไหมคะ?” พิไลลักษณ์ถามมารดาเลี้ยงด้วยความกังขา หล่อนได้ยินข่าวที่ยังไม่ได้คัดกรอง แต่ก็น่าจะมีเค้าความจริง ถึงจะเป็นคำบอกเล่าปากต่อปาก... “ไม่...ป่านนี้โดนไอ้เสี่ยบ้านั่นฆ่าตายแล้วมั้ง”พิไลพูดแบบไม่ยี่หระ ความรักจืดจางลง ที่เหลือไว้คือความชิงชัง สามีที่เคยเป็นคนดี เปลี่ยนไปเหมือนหน้ามือกับหลังเท้า...ทะนงจะเป็นตายยังไงก็ช่าง!! เธอไม่ขอยุ่งเกี่ยวอีกแล้ว...“คุณพ่อยังไม่ตายหรอกค่ะ...เหมือนจะอยู่ดีมีสุข คุณแม่มาอยู่กับพิไล ไม่ได้ข่าวทางบ้านบ้างเลยเหรอคะ?”สาวโสภาทิ้งตัวลงนั่ง ทั้งสองคนอาศัยอยู่ในคอนโดเล็กๆ แห่งหนึ่ง หรูหราพอสมควรตามกำลังเงิน ความเป็นอยู่ไม่ได้สบายเหมือนเก่า เมื่อไม่ใคร่จะมีเงินทองจับจ่าย“ใครจะสน...”พิไลพ่นควันสีขาวๆ ออกมาจากปาก เดี๋ยวนี้หล่อนเป็นทั้งเหล้าและบุหรี่ เมื่อไม่มีอะไรทำในแต่ละวัน สิ่งเหล่านี้คือของแก้เซ็งที่เธอทำยามว่าง แถมช่วงนี้พิไลริอ่านหัดเล่น ‘ไพ่’ มันทำให้นางสนุกและหายเบื่อ“คุณแม่อย่าไปเสวนากับยัยป้าเจ้าของคอนโดนักรู้ไหมคะ แกนะผีการพนันเข้าสิง สักวันจะพาคุณแม่ไปมั่วในบ
หญิงสาวเปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น ไม่เคยทำที่ไหนทน...อาศัยหน้าตาเป็นใบเบิกทาง...หล่อนหวังตกถังข้าวสาร หากเจอเจ้านายใจป้ำ แม้จะเป็นบ้านเล็ก พิไลลักษณ์ก็ไม่เกี่ยง ขอให้มีสตางค์ตุงกระเป๋า แต่เป้าหมายที่หล่อนค้นหายังไม่เจอ ก็เท่านั้นเอง ส่วนมากคนมีฐานะมักจะเป็นคุณลุงแก่ๆ และกลัวเมียจับจิต ยังไม่มีหนุ่มใหญ่ใจถึงคนไหนเข้าตาเธอสักคน “แกก็หา ‘ผัว’ รวยๆ สักคนสิ จะได้ไม่ต้องทำงาน” พิไลแนะนำ หากบุตรบุญธรรมมีสามีรวย นางเองก็จะได้อาศัยใบบุญไปด้วย พิไลลักษณ์ยิ้มกร่อยๆ ใช่ว่าเธอไม่หาเสียเมื่อไร แต่คนมั่งมีสมัยนี้ก็ไม่ได้โง่ เขามองคนระดับเดียวกัน ส่วนเธอก็เป็นได้แค่ทางผ่าน “ค่ะ” “ฉันไปล่ะ คนมารับโทร. มาแล้ว” พิไลฉวยกระเป๋าสะพายข้างตัวมาคล้องไว้ที่แขนซ้าย นางผุดลุกขึ้นยืน เดินนวยนาดออกไปช้าๆ “ถ้าฉันเฮง!! ฉันจะโทร. มาให้แกไปรับนะพิไล ฉันไม่ไว้ใจคนพาไปเลย...ดูเจ้าเล่ห์พิกล” นางหันมากล่าวกับพิไลลักษณ์ ก่อนจะดันประตูออกไปด้านนอก สาวโสภาคลี่ยิ้ม เธอภาวนาให้มารดามือขึ้น จะได้ไม่ต้องจำกัดจำเขี่ย เรื่องกินเรื่องอยู่ สองสาวไม่ได้คิดถึงเรื่องอับจน
นางรีบตกปากรับคำ หันมาสั่งพิไลลักษณ์ซึ่งหญิงสาวก็พยักหน้ารับแบบงงๆ กวงเดินนำหน้า พิไลเดินตามหลัง และในห้องที่เย็นฉ่ำ ข้อเสนอของกวงทำให้พิไลอึ้ง!! แต่ก็รีบตกปากรับคำแบบไม่ต้องคิด พิไลลักษณ์ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไข เป็นหลานสาวของนางก็จริง!! แต่บุญคุณที่นางส่งเสริม เลี้ยงดูมา พิไลลักษณ์สมควรตอบแทนบ้าง...แม้มันจะดูน่ารังเกียจ...เพราะเท่ากับว่านางเป็นคนผลักพิไลลักษณ์ลงไปสู่ขุมนรก เมื่อเสี่ยกวงไม่น่าจะใช่คนตัวเปล่า อายุอานามขนาดนี้ คงไม่แคล้วมีภรรยาเป็นตัวเป็นตน แต่ค่าตัวของพิไลลักษณ์ก็น่าสนใจ เท่ากับนางปลดหนี้ของเสี่ยกวง แถมยังได้เงินมาต่อทุนด้วย “ตกลงค่ะ...” นางรับคำ หยิบเงินสดฟ่อนใหญ่มายัดใส่กระเป๋าแบบไม่แคร์สิ่งใด บางทีสิ่งที่นางทำ พิไลลักษณ์อาจจะชอบใจก็ได้ เมื่อบุตรบุญธรรมของนางเองก็กำลังมองหาความสะดวกสบายอยู่เช่นกัน... “ยัยพิไล...ฉันขายแก่ให้เสี่ยกวงเขาแล้วนะ...แกก็ไปกับเขาเถอะ นึกว่าทดแทนข้าวแดงแกงร้อนของฉันที่เลี้ยงแกจนโตก็แล้วกัน” นางเปรยเสียงเย็น เมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานเสี่ยกวงแล้วเจอพิไลลักษณ์ซึ่งยืนรออยู่ด้านนอก
วันวาดอ้าปากหวอ “ดึกแล้วค่ะ คุณควรพัก...” หญิงสาวแย้ง พยายามลดเสียงลง ระวังคำตอบของตัวเอง เพราะไม่อยากไปกระตุ้นให้โจนาธานโกรธขึ้นมาอีก เขาฉุนเฉียวง่ายๆ พักนี้ เธอตามอารมณ์ไม่ทัน นับตั้งแต่วันต่อมา ที่เขาขอ...นอน...กับเธออีกครั้ง แต่วันวาดละอายใจ เธอไม่ใช่ผู้หญิงบริการ วันนั้นเธอจำเป็น มันมีเหตุบีบบังคับที่เธอต้องจำใจทำ และมันจะเป็นแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เธอจึงตอบปฏิเสธไปอย่างชัดๆ จนเป็นที่มาของความบาดหมาง...เธอรู้โจนาธานไม่พอใจ!! แต่เขาเลือกที่จะเก็บงำไว้“ฉันจะนอนหรือไม่นอน ไม่ใช่เรื่องของเธอนะวาด...แต่เธอ!!” ชายหนุ่มชี้นิ้วมาที่วันวาด เขาแค่นพูดประชดประชัน “เธอควรอยู่ไม่ห่างฉัน เธอมีหน้าที่ดูแลฉัน ไม่ใช่อยากจะออกไปแต่ข้างนอกนั่นเพื่อไป...อ่อย...ผู้ชาย”ข้างนอกนั่น มีการ์ดของเขากับพี่เป็นสิบคน...หากหล่อนอยากได้ผู้ชาย...เขาอยู่นี่ และพร้อมที่จะสนองอารมณ์หล่อนให้แบบเต็มที่ ไม่จำเป็นต้องออกไปหาเศษหาเลยข้างนอกนั่นเลย...หญิงสาวไม่ตอบ เธอเดินกลับไปทรุดนั่งที่เดิม และเสก้มหลบสายตาเขา มีแต่ความเงียบแทนคำตอบ ปล่อยให้โจนาธานนั่งฮึดฮัดเพียงคนเดียว“พรุ่งนี้เธอหยุดนี่”เสียงถามลอยตามลมมา...วันวา
บทที่12.สวรรค์มีตา...นรกมีจริง... วันหยุดที่ธรรมดา วันวาดจะต้องกลับบ้านเพื่อพักผ่อนส่วนตัว แต่...วันนี้ โจนาธานร้องขอเอาไว้ และหญิงสาวเองก็เต็มใจที่จะอยู่ใกล้ๆ เขา ตามที่หัวใจลึกๆ สั่งการ รู้อยู่เต็มอกว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แต่หัวใจเจ้ากรรมดัน...ไม่ฟังเสียงสมองเสียแล้ว ความสุขเล็กๆ ของวันวาดที่พยายามไม่ให้ใครรู้ เธอดีใจทุกครั้งที่โจนาธานมีอาการดีขึ้น หญิงสาวอยากเห็นเขามีแต่รอยยิ้ม... “จะไปไหนกันเหรอ? เห็นวุ่นวายกันแต่เช้า” เบนร้องถาม เขาเห็นการ์ดกับสาวใช้หลายคนวิ่งวุ่น ตั้งแต่เช้าตรู่ แป้นหันมาตอบคำถามเจ้านายหนุ่มยิ้มๆ “คุณโจสิคะ จะออกไปข้างนอก” เบนเลิกหัวคิ้วขึ้น เขายิ้มกว้างเมื่อเข้าใจความหมาย น้องชายของเขาเก็บตัวเงียบมาตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้น โจนาธานไอ้หนุ่มเจ้าสำราญหายไป ทิ้งไว้แค่ผู้ชายเจ้าอารมณ์ขี้วีน...กลายเป็นคนเก็บตัวเพราะมีปม!! “จริงดิ!! ไปไหนกันล่ะ” เบนถามยิ้มๆ “ไม่รู้ค่ะ...สงสัยอยากพาคุณวาดไปเดท...” แป้นกระซิบกระซาบ การเปลี่ยนแปลงของเจ้านายก็น่าจะเพราะคุณพยาบาลสุดสวย วันวาดสวยพิศ ยิ่งมองยิ่งชื่นใ