“ทำไมล่ะวาด เธอก็รู้สึกดีไม่ใช่หรือ?”
ชายหนุ่มถามกลับเสียงเคร่ง เขาไม่ค่อยเข้าใจความคิดของหญิงสาวเท่าใดนัก เมื่อหล่อนเองก็รู้สึกคล้อยตาม ความปรารถนาของหล่อนปรากฏขึ้นในดวงตาสีดำ...มันมีแววกังวลและละอายปนเปมาด้วย แต่นั่นก็ไม่อาจกลบความพุ่งพล่านในหัวใจได้...ไม่ใช่เหรอ?
“ไม่ค่ะ ไม่เลย”
หญิงสาวส่ายใบหน้าปฏิเสธ
“อย่าปฏิเสธตัวเองสิวาด...ฉันรู้ เธอรู้สึกไม่ต่างจากฉันหรอก... เราต้องการกันและกัน”
ปลายนิ้วแข็งแรงยกช้อนปลายคาง เขาคลึงผิวแก้มเนียนด้วยปลายนิ้วชี้ พร้อมกับยิ้มมุมปาก
“แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ถูก...นี่คะ” วันวาดยังพยายามท้วง เธอเสหลบสายตาร้อนแรงของโจนาธาน ความปรารถนามากล้นนั่น กำลังทำให้ใจอ่อน
“เธอใจแข็งมากกว่าที่ฉันคิดนะ”
โจนาธานทิ้งตัวลงนอนด้านข้าง แววตาอ่อนเศร้าของหล่อน...ทำให้หัวใจแข็งกระด้างของเขาอ่อนลง จึงยอมตัดใจเขารั้งหล่อนเข้าสู่อ้อมแขน ตรึงหญิงสาวไว้ด้วยอ้อมแขนแข็งแรง
“นอนนิ่งๆ น่า ฉันก็แค่อยากกอด ไม่ได้คิดทำอะไรเกินกว่านี้หรอก แต่ถ้าเธอดิ้น...ก็ไม่แน่...”
ชายหนุ่มแสร้งขู่ วันวาดฮึดฮัดนิดๆ แต่เมื่อหมดทางสู้ หล่อนจึงยอมนอนนิ่งๆ
“จะประจำหรือชั่วครั้ง เธอก็ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘เมีย’ ฉันนะวาด”
เสียงชายหนุ่มเปรยลอยๆ
“ถ้าคุณเรียกผู้หญิงที่คุณนอนด้วยว่า ‘เมีย’ คุณคงมีเมียไม่ต่ำกว่าร้อยคนค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงกระแทก เขาพูดแบบนี้ทำไม เธอไม่เห็นเข้าใจ
“ฮ่าๆ” โจนาธานหัวเราะร่า “100 คนน้อยไปทูนหัว สมัยที่ฉันแข็งแรง ฉันมั่นใจว่ามีเกินนั้น...แต่เธอจะเถียงฉันทำไมวาด การเป็นเมียฉันนี่ น่าอายงั้นเหรอ?”
“เปล่าค่ะ วาดกลัวคุณเสียชื่อ...วาดไม่อยากเอาชื่อคุณมาขาย คนอย่างคุณหาผู้หญิงดีๆ กว่าวาดได้เป็นร้อย”
วันวาดไม่ได้ประชด ถึงโจนาธานจะเดินไม่ได้ แต่ก็ยังมีสาวๆ อยากได้เขาไปเป็นสามีอยู่ดี เมื่อชายหนุ่มมีสมบัติพ่วงท้ายมาด้วย ไหนจะกิจการของเขา ถึงมันจะไม่ใคร่ดีในสายตาผู้คน แต่มันทำเงินให้เขาอย่างมหาศาล
“ร้อยคนนั่นฉันไม่ต้องการ เวลานี้ฉันต้องการ...เธอ”
ชายหนุ่มตอบเสียงสะบัด เขาหลุบเปลือกตาลงไม่อยากต่อความกับวันวาดให้อารมณ์เสีย ขอแค่เพียงเห็นเธอในสายตา ได้เห็นหญิงสาวเดินไป เดินมา และมีแต่รอยยิ้ม
“นอนเถอะ”
โจนาธานตัดบท เถียงกับวันวาดแล้วเพลียใจ เขาอยากเพลียแรงมากกว่า แต่เมื่อหญิงสาวไม่พร้อม เขาก็ไม่อยากหักหาญ
เช้าวันใหม่...
“เออ...เกิดอะไรขึ้นวะเอก?”
เบนเดินถอยหลังออกมาจากห้องน้องชาย เขากำลังมึนกับสิ่งที่เห็น โจนาธานกับวันวาด นอนอยู่ด้วยกันบนเตียง แม้เสื้อผ้าจะอยู่ครบแต่ความสนิทสนมแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น หากสองคนนั่นไม่ได้ใจตรงกัน
“แหะๆ ไม่ทราบครับ”
เบนปิดประตูห้องลงแบบมึนๆ เขาไม่ได้รังเกียจวันวาด แต่เรื่องมันเริ่มขึ้นตอนไหน?
“งั้นก็อย่าเข้าไป จนกว่าสองคนนั่นจะตื่น” เบนสั่ง...
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณวาดต้องไปทำงาน เบี้ยวงานมาสองวันแล้ว เธอสั่งหนูไว้”
แป้นแย้งเสียงอ่อยๆ เธออยากเห็นด้านในเหมือนกัน อะไรทำให้นายใหญ่ทำหน้าแปลกๆ
เบนละล้าละลัง “ไอ้เสือตื่นยังว่ะ?”
เขาแสร้งตะโกน ย่ำเท้าบนพื้นแรงๆ เหมือนเป็นการปลุกคนด้านในแบบอ้อมๆ
วันวาดสะดุ้ง!! เธอลืมตาขึ้น กระพริบเปลือกตาถี่ๆ ก่อนจะรีบกระโจนลงจากเตียง
“ไปไหนล่ะทูนหัวกำลังนอนสบายๆ”
โจนาธานโวยเสียงแผ่วๆ เขาซุกใบหน้าลงใต้หมอน มือแข็งแรงยกขึ้นโบกไปมา และพยายามรียกหญิงสาวให้กลับมานอนดั่งเดิม
“เช้าแล้วค่ะ คุณเบนมาด้วย”
วันวาดยกมือลูบหน้า เธอตอบโจนาธานเสียงสั่น รีบก้มสำรวจตัวเอง เมื่อเสื้อผ้ายังอยู่ครบ จึงถอนใจด้วยความ โล่งอก พอดีกับเบนโผล่หน้าเข้ามาพอดี
“พี่...ตื่นเช้าชิบหาย!! ผมกำลังนอนเพลินๆ”
เจ้าของห้องซึ่งเป็นคนป่วยบ่น เขาทรงตัวลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าหงิกงอ
“ฉันก็ตื่นเวลานี้ทุกวัน แกนั่นแหละที่ตื่นสาย นอนสบายมากเลยไงวะ?”
เบนเปรย เขาวางแก้วกาแฟในมือลงข้างตัว เหล่มองน้องชายสลับกับพยาบาลสาวที่ยืนตัวลีบอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง
“วาดขอตัวค่ะ วาดต้องไปทำงาน”
หญิงสาวรีบเลี่ยงหลบ เธอรู้สึกว่าเบนมองเธอแปลกไป
โจนาธานมองตามบั้นท้ายกลมกลึงของวันวาดไป ตาเขาปรอยจนเบนต้องกระเซ้า
“แกมองตูดยัยนั่นตาเป็นมัน แกคิดอะไรกับหล่อนหรือวะ?”
ชายหนุ่มสะดุ้ง เขาหันมายิ้มปูเลี่ยนๆ ให้พี่ชาย “ก็นิดหน่อย...” โจนาธานตอบแบบไม่คิดปิดบัง เขาไหวไหล่และมองเบนตาขวาง “บอกก่อนนะเบน คนนี้ผมจอง” เป็นอาการหวงก้างครั้งแรก เบนเลยงงนิดๆ โจนาธานไม่เคยแคร์ผู้หญิง หากหล่อนสะบัดก้นไปกับชายอื่น ความสัมพันธ์ของหล่อนกับโจนาธานก็จบลงเช่นกัน ไม่มีการยื้อ ไม่มีการรั้ง เบนจึงเริ่มสนใจ หรือว่า...น้องชายเขาจะมี ‘ความรัก’
“เออ...ฉันไม่สนหล่อนหรอกน่า แกสบายใจได้”
เบนตอบตรง เขาไม่เคยพิศวาสผู้หญิง และหากโจนาธานรู้ น้องคงเสียใจ เมื่อเขาไม่เหมือนคนอื่นๆ เขาไม่พิศวาสเพศตรงข้าม เบนลอบถอนใจ...
“ก็ดี...”
โจนาธานตอบแล้วจึงทิ้งตัวนอนต่อ เขายังไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันเพราะวันวาดตื่นสาย ไม่เป็นไร เขารวบยอดไปอาบน้ำทีเดียว รอส่งหล่อนไปทำงานก่อน เขาถึงจะจัดการตัวเอง
“แกดีขึ้นมากนะโจ...อีกไม่นานฉันคงได้น้องชายคนเดิมคืนมา”
“อืม...ผมกำลังพยายามอยู่ ใกล้แล้วล่ะ หลังจากเป็นปกติ ผมจะเริ่มสืบจริงๆ จังๆ ล่ะ ใครอยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุนั่น!! พี่ก็รู้ถึงผมจะขับรถเร็ว แต่ผมก็ไม่เคยประมาท...ไอ้ที่กลิ้งโค่โร่ไม่เป็นท่านั่น เพราะเบรกมันไม่ทำงาน และรถยนต์ผมถูกตรวจเช็คตลอด เป็นไปไม่ได้ที่มันจะเสีย มันต้องมีมือดีทำให้มันเป็นแบบนั้น”
โจนาธานพูดทั้งที่หลับตานิ่ง เป็นเรื่องเดียวที่ค้างอยู่ในใจ ตอนที่รู้ว่าตัวเองเดินไม่ได้ เขาสติแตก และไม่อยากอยู่ให้เป็นภาระใคร แต่เมื่อวันวาดก้าวเข้ามาในชีวิต ความคิดที่จะจบชีวิตเปลี่ยนไป หากเขาเดินได้ เขาจะกลับไปทวงคืน ไอ้คนที่ทำให้เขาเฉียดตาย
“ฉันสงสัยคนเดียว และน่าจะเป็นคนเดียวกับที่แกสงสัยนั่นแหละ”
เบนเปรย คู่แข่งที่ประกาศตัวชัดเจน มีแค่ตาแก่อ้วนขี้โกงคนนั้นคนเดียว เสี่ยกวง
“ขอให้เป็นมันเถอะ ผมจะเอาคืนให้เจ็บแสบที่สุด”
ชายหนุ่มพูดเสียงเหี้ยม เขาหุบปากสนิท เมื่อได้ยินเสียงวันวาด เขาไม่อยากให้หล่อนเป็นกังวล
“คุณอย่าลืมทานยานะคะ วาดจะย้ำแป้นอีกที...วาดไปทำงานนะคะ วาดไปนะคะคุณเบน”
หญิงสาวกล่าวบอกคนป่วยที่แสร้งหลับ เธอหันมาขอตัวกับเบน แต่เกือบหัวทิ่ม เมื่อคนที่ทำท่าว่าหลับ เอื้อมจับข้อมือเธอแล้วกระตุกแรงๆ
“สั่งจัง...รีบไปรีบกลับล่ะ อย่าให้ฉันรอนาน”
เขาพูดเสียงแผ่ว แอบเบ้ปากให้เบนที่นั่งมองตาวาว เป็นครั้งแรกที่โจนาธานอยากตะเพิดพี่ชาย เขาจะสั่งลาวันวาดด้วย ‘จูบ’ หวานๆ สักทีก็ไม่ได้ เมื่อเบนนั่งเป็นก้างขวางตาอยู่แบบนี้
“ไปด้วยดีกว่า...รู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกิน”
เบนกระเด้งตัวลุกขึ้นยืน เขายิ้มกว้าง แอบขยิบตาให้โจนาธาน โดยที่หญิงสาวคนเดียวในห้องไม่เห็น
“ปล่อยค่ะ เดี๋ยวคุณเบนสงสัย ปล่อยค่ะปล่อย”
หญิงสาวบิดข้อมือแรงๆ แต่ก็ไม่หลุดจากพันธนาการ โจนาธานแรงเยอะขึ้น เขาแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิมหลายสิบเท่า
“ช่างเบนสิ...เธอกลัวพี่ชายฉันงั้ย?”
“วาดเป็นลูกจ้างค่ะ ไม่กลัวนายจ้างแล้วจะให้กลัวใคร?”
“ผิดแล้ววาด...เธอเป็นลูกหนี้ฉันคนเดียว เบนไม่เกี่ยวนับตั้งแต่เมื่อคืนก่อน”
โจนาธานพูดยิ้มๆ เขากดจมูกข้างแก้มหล่อนแรงๆ ก่อนจะปล่อยมือ
วันวาดรีบเผ่น หัวใจเธอทำงานหนัก เมื่อคนป่วยที่เคยอ่อนแอทำท่าคุกคามเธอ เขาบุกลุกเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเธอ และทำท่าทางเหมือนเป็นเจ้าของ เขาทำเหมือนเป็นเจ้าชีวิตเธอเลยเชียวแหละ...
บทที่11.กรรมติดจรวด “คุณแม่คะ...คุณแม่ได้ข่าวคุณพ่อบ้างไหมคะ?” พิไลลักษณ์ถามมารดาเลี้ยงด้วยความกังขา หล่อนได้ยินข่าวที่ยังไม่ได้คัดกรอง แต่ก็น่าจะมีเค้าความจริง ถึงจะเป็นคำบอกเล่าปากต่อปาก... “ไม่...ป่านนี้โดนไอ้เสี่ยบ้านั่นฆ่าตายแล้วมั้ง”พิไลพูดแบบไม่ยี่หระ ความรักจืดจางลง ที่เหลือไว้คือความชิงชัง สามีที่เคยเป็นคนดี เปลี่ยนไปเหมือนหน้ามือกับหลังเท้า...ทะนงจะเป็นตายยังไงก็ช่าง!! เธอไม่ขอยุ่งเกี่ยวอีกแล้ว...“คุณพ่อยังไม่ตายหรอกค่ะ...เหมือนจะอยู่ดีมีสุข คุณแม่มาอยู่กับพิไล ไม่ได้ข่าวทางบ้านบ้างเลยเหรอคะ?”สาวโสภาทิ้งตัวลงนั่ง ทั้งสองคนอาศัยอยู่ในคอนโดเล็กๆ แห่งหนึ่ง หรูหราพอสมควรตามกำลังเงิน ความเป็นอยู่ไม่ได้สบายเหมือนเก่า เมื่อไม่ใคร่จะมีเงินทองจับจ่าย“ใครจะสน...”พิไลพ่นควันสีขาวๆ ออกมาจากปาก เดี๋ยวนี้หล่อนเป็นทั้งเหล้าและบุหรี่ เมื่อไม่มีอะไรทำในแต่ละวัน สิ่งเหล่านี้คือของแก้เซ็งที่เธอทำยามว่าง แถมช่วงนี้พิไลริอ่านหัดเล่น ‘ไพ่’ มันทำให้นางสนุกและหายเบื่อ“คุณแม่อย่าไปเสวนากับยัยป้าเจ้าของคอนโดนักรู้ไหมคะ แกนะผีการพนันเข้าสิง สักวันจะพาคุณแม่ไปมั่วในบ
หญิงสาวเปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น ไม่เคยทำที่ไหนทน...อาศัยหน้าตาเป็นใบเบิกทาง...หล่อนหวังตกถังข้าวสาร หากเจอเจ้านายใจป้ำ แม้จะเป็นบ้านเล็ก พิไลลักษณ์ก็ไม่เกี่ยง ขอให้มีสตางค์ตุงกระเป๋า แต่เป้าหมายที่หล่อนค้นหายังไม่เจอ ก็เท่านั้นเอง ส่วนมากคนมีฐานะมักจะเป็นคุณลุงแก่ๆ และกลัวเมียจับจิต ยังไม่มีหนุ่มใหญ่ใจถึงคนไหนเข้าตาเธอสักคน “แกก็หา ‘ผัว’ รวยๆ สักคนสิ จะได้ไม่ต้องทำงาน” พิไลแนะนำ หากบุตรบุญธรรมมีสามีรวย นางเองก็จะได้อาศัยใบบุญไปด้วย พิไลลักษณ์ยิ้มกร่อยๆ ใช่ว่าเธอไม่หาเสียเมื่อไร แต่คนมั่งมีสมัยนี้ก็ไม่ได้โง่ เขามองคนระดับเดียวกัน ส่วนเธอก็เป็นได้แค่ทางผ่าน “ค่ะ” “ฉันไปล่ะ คนมารับโทร. มาแล้ว” พิไลฉวยกระเป๋าสะพายข้างตัวมาคล้องไว้ที่แขนซ้าย นางผุดลุกขึ้นยืน เดินนวยนาดออกไปช้าๆ “ถ้าฉันเฮง!! ฉันจะโทร. มาให้แกไปรับนะพิไล ฉันไม่ไว้ใจคนพาไปเลย...ดูเจ้าเล่ห์พิกล” นางหันมากล่าวกับพิไลลักษณ์ ก่อนจะดันประตูออกไปด้านนอก สาวโสภาคลี่ยิ้ม เธอภาวนาให้มารดามือขึ้น จะได้ไม่ต้องจำกัดจำเขี่ย เรื่องกินเรื่องอยู่ สองสาวไม่ได้คิดถึงเรื่องอับจน
นางรีบตกปากรับคำ หันมาสั่งพิไลลักษณ์ซึ่งหญิงสาวก็พยักหน้ารับแบบงงๆ กวงเดินนำหน้า พิไลเดินตามหลัง และในห้องที่เย็นฉ่ำ ข้อเสนอของกวงทำให้พิไลอึ้ง!! แต่ก็รีบตกปากรับคำแบบไม่ต้องคิด พิไลลักษณ์ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไข เป็นหลานสาวของนางก็จริง!! แต่บุญคุณที่นางส่งเสริม เลี้ยงดูมา พิไลลักษณ์สมควรตอบแทนบ้าง...แม้มันจะดูน่ารังเกียจ...เพราะเท่ากับว่านางเป็นคนผลักพิไลลักษณ์ลงไปสู่ขุมนรก เมื่อเสี่ยกวงไม่น่าจะใช่คนตัวเปล่า อายุอานามขนาดนี้ คงไม่แคล้วมีภรรยาเป็นตัวเป็นตน แต่ค่าตัวของพิไลลักษณ์ก็น่าสนใจ เท่ากับนางปลดหนี้ของเสี่ยกวง แถมยังได้เงินมาต่อทุนด้วย “ตกลงค่ะ...” นางรับคำ หยิบเงินสดฟ่อนใหญ่มายัดใส่กระเป๋าแบบไม่แคร์สิ่งใด บางทีสิ่งที่นางทำ พิไลลักษณ์อาจจะชอบใจก็ได้ เมื่อบุตรบุญธรรมของนางเองก็กำลังมองหาความสะดวกสบายอยู่เช่นกัน... “ยัยพิไล...ฉันขายแก่ให้เสี่ยกวงเขาแล้วนะ...แกก็ไปกับเขาเถอะ นึกว่าทดแทนข้าวแดงแกงร้อนของฉันที่เลี้ยงแกจนโตก็แล้วกัน” นางเปรยเสียงเย็น เมื่อเดินออกมาจากห้องทำงานเสี่ยกวงแล้วเจอพิไลลักษณ์ซึ่งยืนรออยู่ด้านนอก
วันวาดอ้าปากหวอ “ดึกแล้วค่ะ คุณควรพัก...” หญิงสาวแย้ง พยายามลดเสียงลง ระวังคำตอบของตัวเอง เพราะไม่อยากไปกระตุ้นให้โจนาธานโกรธขึ้นมาอีก เขาฉุนเฉียวง่ายๆ พักนี้ เธอตามอารมณ์ไม่ทัน นับตั้งแต่วันต่อมา ที่เขาขอ...นอน...กับเธออีกครั้ง แต่วันวาดละอายใจ เธอไม่ใช่ผู้หญิงบริการ วันนั้นเธอจำเป็น มันมีเหตุบีบบังคับที่เธอต้องจำใจทำ และมันจะเป็นแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เธอจึงตอบปฏิเสธไปอย่างชัดๆ จนเป็นที่มาของความบาดหมาง...เธอรู้โจนาธานไม่พอใจ!! แต่เขาเลือกที่จะเก็บงำไว้“ฉันจะนอนหรือไม่นอน ไม่ใช่เรื่องของเธอนะวาด...แต่เธอ!!” ชายหนุ่มชี้นิ้วมาที่วันวาด เขาแค่นพูดประชดประชัน “เธอควรอยู่ไม่ห่างฉัน เธอมีหน้าที่ดูแลฉัน ไม่ใช่อยากจะออกไปแต่ข้างนอกนั่นเพื่อไป...อ่อย...ผู้ชาย”ข้างนอกนั่น มีการ์ดของเขากับพี่เป็นสิบคน...หากหล่อนอยากได้ผู้ชาย...เขาอยู่นี่ และพร้อมที่จะสนองอารมณ์หล่อนให้แบบเต็มที่ ไม่จำเป็นต้องออกไปหาเศษหาเลยข้างนอกนั่นเลย...หญิงสาวไม่ตอบ เธอเดินกลับไปทรุดนั่งที่เดิม และเสก้มหลบสายตาเขา มีแต่ความเงียบแทนคำตอบ ปล่อยให้โจนาธานนั่งฮึดฮัดเพียงคนเดียว“พรุ่งนี้เธอหยุดนี่”เสียงถามลอยตามลมมา...วันวา
บทที่12.สวรรค์มีตา...นรกมีจริง... วันหยุดที่ธรรมดา วันวาดจะต้องกลับบ้านเพื่อพักผ่อนส่วนตัว แต่...วันนี้ โจนาธานร้องขอเอาไว้ และหญิงสาวเองก็เต็มใจที่จะอยู่ใกล้ๆ เขา ตามที่หัวใจลึกๆ สั่งการ รู้อยู่เต็มอกว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แต่หัวใจเจ้ากรรมดัน...ไม่ฟังเสียงสมองเสียแล้ว ความสุขเล็กๆ ของวันวาดที่พยายามไม่ให้ใครรู้ เธอดีใจทุกครั้งที่โจนาธานมีอาการดีขึ้น หญิงสาวอยากเห็นเขามีแต่รอยยิ้ม... “จะไปไหนกันเหรอ? เห็นวุ่นวายกันแต่เช้า” เบนร้องถาม เขาเห็นการ์ดกับสาวใช้หลายคนวิ่งวุ่น ตั้งแต่เช้าตรู่ แป้นหันมาตอบคำถามเจ้านายหนุ่มยิ้มๆ “คุณโจสิคะ จะออกไปข้างนอก” เบนเลิกหัวคิ้วขึ้น เขายิ้มกว้างเมื่อเข้าใจความหมาย น้องชายของเขาเก็บตัวเงียบมาตั้งแต่อุบัติเหตุครั้งนั้น โจนาธานไอ้หนุ่มเจ้าสำราญหายไป ทิ้งไว้แค่ผู้ชายเจ้าอารมณ์ขี้วีน...กลายเป็นคนเก็บตัวเพราะมีปม!! “จริงดิ!! ไปไหนกันล่ะ” เบนถามยิ้มๆ “ไม่รู้ค่ะ...สงสัยอยากพาคุณวาดไปเดท...” แป้นกระซิบกระซาบ การเปลี่ยนแปลงของเจ้านายก็น่าจะเพราะคุณพยาบาลสุดสวย วันวาดสวยพิศ ยิ่งมองยิ่งชื่นใ
มาดามรินรำไพ...มารดาของสองหนุ่ม เธอมีทริปท่องเที่ยวรอบโลก เพราะเบนกับโจนาธานไม่อยากให้ท่านกลุ้มใจ...เพราะนางเสียใจอย่างหนัก...หลังเสียสามี แล้วโจนาธานยังมาเกิดอุบัติเหตุ...ชายหนุ่มจึงแสร้งทำเข้มแข็งต่อหน้ามารดา เพื่อทำให้ท่านคลายใจ จนยอมออกเดินทางเพื่อพักตัวและใจ “เหรอ...ก็ดี” ชายหนุ่มตอบกดหมุนวีแชร์ เพราะอยากรีบออกเดินทาง อยากกินข้าวเช้ากับวันวาดตอนที่พระอาทิตย์สีส้มๆ สาดแสงอ่อนๆ กระทบผิวน้ำ มันคงเป็นบรรยากาศสุดโรมานซ์... เบนเป่าปากพรวดๆ เขารีบปิดงับประตูลงและกดล็อก... “เธอกับเบนมีอะไรกันมั้ย!!” วันวาดเดินตาม เธอช่วยประคองหลังรถวีแชร์ ระวังหลังให้คนป่วยจอมดื้ออีกทาง หญิงสาวสะดุ้ง!! “ไม่มีค่ะ...วาดจะมีอะไรกับคุณเบนล่ะคะ?” เธอรีบตอบ พร้อมกับย้อนถามเพื่อเปลี่ยนความสนใจของชายหนุ่ม “ไม่มีก็ดี...พี่ชายฉัน...ไม่ใช่แบบที่เธอคิด” แม้จะไม่รู้ทั้งหมด...โจนาธานแน่ใจ เบนมีเบื้องลึก แต่เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของพี่ เลยไม่อยากใส่ใจ แต่เมื่อเกี่ยวพันกับวันวาด เขาก็จำเป็นต้องรีบสกัด “ค่ะ” ทั้งสองคนเงียบงันไปหลังจากน
“แน่นะคุณโจ” แป้นยิ้มกริ่ม “แน่สิวะ...ถ้าทำได้เอาไปเลย...” โจนาธานตอบเสียงเบาๆ แต่หนักแน่น “แป้นจัดให้...” สาวใช้ตัวอวบรับคำ หล่อนเดินถลาเข้าไปหาวันวาด พร้อมกับรีบดุนหลังหญิงสาว กลับไปที่ราวแขวนผ้าเหมือนเดิม หลังจากนั้นก็เริ่มต้นกระบวนการโน้มน้าววันวาด สารพันที่แป้นงัดเอามาล่อ...จนวันวาดไม่สามารถปฏิเสธได้ ในที่สุดหล่อนก็ยอมใจอ่อน...หลวมตัวทดลองใส่ชุดที่แป้นเลือกมายัดใส่มือให้ “ลองเลยค่ะ เราลองได้ค่ะคุณวาด ไม่ซื้อเขาก็ไม่ว่าหรอก ลองเป็นเพื่อนแป้นหน่อย แป้นอยากลองแต่ไม่กล้า” เปลือกตากระพริบปริบๆ ผสมกับใบหน้าอวบๆ ที่ม่อยลงไปถนัดใจ วันวาดจึงยอมใจอ่อน ทดลอง ลองชุดสวยๆ เหล่านั้น แม้จะเกรงใจเจ้าของร้านที่คอยอำนวยความสะดวกให้ เมื่อเธอไม่คิดจะซื้อ...เพราะแค่เห็นราคา ยังสะดุ้ง!! สวย...นิยามคำนี้ แทบไม่ผิดเพี้ยน หลังวันวาดเดินตัวลีบออกมาจากห้องลองเสื้อ ผู้หญิงคนเดิม เปลี่ยนแค่เสื้อผ้าบนร่างกาย ไม่อยากเชื่อตาก็ต้องเชื่อ เธอเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด คำกล่าวของคนโบราณว่าไว้ไม่มีผิด คนงามเพราะแต่ง ไก่งามเพราะขนเป็นความจริงแท้แน่นอน
ชายสูงวัยยิ้มเย้ย!! “สภาพแบบนี้ คิดจะกำแหงกับคนอย่างฉัน ไปหัดเดินก่อนดีกว่าไหมไอ้หนู!!” “ขาฉันเดินไม่ได้ก็จริงนะเสี่ย แต่คิดว่าฉันมีเขี้ยวเล็บแค่นี้เหรอ กับคู่ปรับที่เป็นผู้ชายแก่ๆ คนเดียว” โจนาธนตอบเสียงเย็น ถึงขาจะเดินไม่ได้ แต่มือของเขายังใช้การได้ และที่แน่ๆ เรื่องเหนี่ยวไกปืนเป็นงานถนัด ระยะเผาขนแบบนี้ เขาคิดว่าไม่มีทางพลาดเป้า พิไลลักษณ์มองโจนาธานตาวาว ถึงเขาจะนั่งอยู่บนวีแชร์ แต่ความหล่อเหลาก็ยังพุ่งทแยงตา องศาความหล่อเหนือชั้นกว่าเสี่ยกวงหลายร้อยเท่า เธอจึงมองอยู่ห่างๆ และจดจำรายละเอียดทุกเม็ด “มากไปไอ้หนู...ว่าแต่...เป็นไงบ้างละ หายหน้าไปเสียเป็นปีๆ เราก็นึกว่า...” ปากอูมๆ ขยับพูดแบบไม่มีเสียงแต่โจนาธานอ่านปากออก เขาเดือดจนแทบเต้น แต่จำเป็นต้องระงับอารมณ์เอาไว้... “ฉันไม่ตายง่ายๆ หรอกเสี่ย จนกว่าจะหาไอ้คนทำกับฉันเจอ รับประกันได้...มันจะได้ของสมนาคุณจากฉันคืน...แบบคาดไม่ถึง” ชายหนุ่มกล่าวเสียงเย็น เขามองสบนัยน์ตาหลุกหลิกของเสี่ยกวง เวลานี้โจนาธานฟันธง!! ไอ้เสี่ยอ้วนพุงพุ้ยนี่ อยู่เบื้องหลังอุบัติเหตุร้ายแรงของเขาแน่ๆ