Share

บทที่8.ชนวนระเบิด... 2

หญิงสาวยิ้ม เธอหมุนตัวมามองเขาตรงๆ “เปล่าค่ะ วาดไม่ได้เบื่อคุณ แต่หากได้มืออาชีพตรงๆ มามันจะดีกับคุณมากกว่าค่ะ”

          “ไม่เบื่อก็ดี ฉันไม่เอาคนอื่น...เธอคิดว่าฉันอายไม่เป็นเหรอหะ? ก็น่าจะรู้ฉันไม่ชอบให้ใครมามองฉันแบบสมเพท...แค่เธอนั่นแหละพอแล้ว”

          หน้าโจนาธานบึ้ง หญิงสาวจึงเสเปลี่ยนเรื่อง

          “วาดอาบน้ำดีกว่า...ชักหิวแล้ว...ดีจังหยุดงานนอนชิลๆ แต่ได้สตางค์กินขนมเป็นแสน”

          หญิงสาวเปรยยิ้มๆ เธอเดินตัวปลิวจากไปหลังพูดจบ

          โจนาธานแยกเขี้ยวให้หล่อน เขาบ่นอุบแต่กลับมีรอยยิ้มมุมปากเสียอย่างนั้น “ยัยงก!!”

          “คุณโจจ้างผมหยุดแบบนั้นบ้างก็ได้นะครับ ผมจะได้พาเมียไปเที่ยว...แหมเงินค่าจ้างหยุดงานของคุณพยาบาล มากกว่าเงินเดินผมเป็นสิบเดือนเลย”

          เอกสัพยอก เพิ่งรู้ว่าเจ้านายตัวเองเป็นเจ้าบุญทุ่มก็ตอนนี้นี่เอง

          “เอาไป11เดือนเลยมั้ยล่ะ...แต่ไม่ต้องกลับมาให้กูเห็นหน้าอีก!!”

          โจนาธานเปรยลอยๆ เอกคอหด รีบปิดปากเงียบ เพราะดันทะลึ่งไปสะกิดต่อมโมโหของเจ้านายเข้าให้

          “กินอะไรดีคะคุณ...เดี๋ยววาดลงครัว...ไปแสดงฝีมือเอง...ไหนๆ ก็หยุดงานแล้ว ขอทำตัวมีประโยชน์สักหน่อย ไม่ใช่รับเงินแล้วนอนอย่างเดียว”

          หญิงสาวชวนคุยหลังจากอาบน้ำจนหน้าผ่อง และกลิ่นหอมฟุ้งของสบู่ลอยตลบอบอวล เธอหิวจนท้องร้อง แต่ไหนๆ ก็จะหาอะไรใส่ท้องตัวเอง มีน้ำใจทำมาเผื่อแผ่คนจ่ายสตางค์ให้คงไม่เสียเปล่า

          “กินแล้วไม่ท้องเสียนะ”

          ชายหนุ่มกล่าวหน้าตาย...

          “หึ!! ดูถูก...เห็นอย่างนี้วาดทำกับข้าวเป็นนะคุณ ถึงจะรสมือไม่เท่าแม่...แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่จนต้องเททิ้ง”

          หญิงสาวยกมือกอดอก พูดเสียงงอดแงด ตวัดตามองชายหนุ่มเหมือนจะค้อน

          โจนาธานอมยิ้ม เขาเสก้มหน้าลง “ลองทำมาซิ!! เดี๋ยวฉันจะเป็นหนูทดลองให้เอง... เอกมึงเตรียมยาแก้ท้องเสียไว้ให้กูที เพื่อฉุกเฉิน!!”

          เอกกลั้นยิ้มจนปวดแก้ม เจ้านายกับคุณพยาบาลหยอกกันแรงๆ แต่ฟังยังไงก็เหมือน... คู่รัก...กำลังหยอกเอินกัน เอ...มันยังไงกันหว่า...

          “หึ!! แล้วก็อย่ามาเรียกร้องให้วาดทำให้ทานแล้วกัน วาดมีครู ไม่ใช่มั่วทำค่ะ รับประกันกินแล้วไม่ท้องเสีย แต่ถูกปากคุณหรือเปล่า อันนั้นไม่รู้”

          หญิงสาวตอบเสียงขุ่น เกิดแรงฮึดที่จะลบคำสบประมาทของชายหนุ่ม วันวาดเดินตุปัดตุป่อง หายไปกว่า40 นาที กลับมาพร้อมกับถาดใบโตกับอาหารจานใหญ่ที่โจนาธานได้กลิ่นยังต้องกลืนน้ำลายเอือกๆ สีสัน...ผ่าน!! หน้าตาและการจัดแต่ง...ผ่าน!! ที่นี้ก็เหลือรสชาติ...ที่ต้องลิ้มลองเอง...

          “สเต็กปลาแซลมอนค่ะ ดีต่อสุขภาพและมีประโยชน์กับร่างกายคุณโดยตรง”

          จานใบใหญ่กับอาหารกลิ่นชวนลองชิมถูกวางบนโต๊ะและถูกเข็นมาชิดเตียงโดยคนทำเมนูนี้

          “ผักวาดเลือกใช้ผักโขมเพราะผักชนิดนี้อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี แมกนีเซียม สังกะสี โฟเลต ธาตุเหล็ก แคลเซียมและอร่อย” หญิงสาวชี้แจงยิ้มๆ เหมือนกำลังสอนคนไม่รู้ ให้รู้เพิ่มขึ้น “ตอนแรกวาดว่าจะอบชีส แต่กลัวคุณรอนาน เลยทำแค่ผัดเนยทานคู่กับสเต็กปลาแก้เลี่ยน...”

          “คงไม่ถึงตายมั้งว่ะเอก กลิ่นผ่าน หน้าตาผ่าน แต่จะ...ได้ไหมต้องลอง”

          ชายหนุ่มยังไม่วายสัพยอก เขาหยิบมีดกับซ้อมขึ้นมาถือไว้ แสร้งทำเป็นกล้าๆ กลัวๆ ที่จะลิ้มลอง จนวันวาดอดไม่ได้ที่จะหมั้นไส้

          “ป้าสมบอกว่าอร่อย คุณอย่ามาดิสเครดิตวาด ด้วยการสบประมาทก่อนที่จะลองชิมคะ วาดไม่กลัว”         

          หญิงสาวยืดอก คุยโอ่!! เมื่อคนการันตีความอร่อยคือแม่ครัวของบ้านหลังนี้ เพราะหากฝีมือไม่ไหวจริงๆ นางคงไม่ปล่อยผ่านให้วันวาดนำมาเสิร์ฟเจ้านาย

          ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ เขาลงมือชิม โดยมีหญิงสาวยืนลุ้นอยู่ข้างๆ

เอกเลี่ยงออกไปจากห้อง เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นส่วนเกิน เขาแอบเชียร์วันวาดในใจ หากหญิงสาวจะทำให้เจ้านายมีกำลังใจ จนสามารถผลักดันให้เจ้านายฮึดสู้ และอาจจะกลับมาเดินได้อีกครั้ง เอกก็ยินดีสนับสนุน

“อ้าว!! ออกมาทำไมพี่เอก คุณโจอาบน้ำแล้วเหรอ?”

ออกแรงจนเหงื่อโซม โจนาธานคงอยากอาบน้ำ เมื่อเห็นเอกเดินหลบฉากออกมา แป้นเลยถาม

“คุณวาดอยู่!!”

การ์ดหนุ่มตอบเรียบๆ เขาเดินไปนั่งประจำที่ ชำเรืองมองประตูห้องพักฟื้นเจ้านายยิ้มๆ

“อ๋ออออ...”

แป้นยิ้มแป้นสมชื่อ หล่อนเดินกลับไปทำงานอื่น เมื่อวันวาดอยู่...ดูเหมือนคนอื่นๆ จะหมดประโยชน์ ไม่ได้รับความสนใจจากโจนาธาน เมื่อวันวาดกลายเป็นคนสำคัญ ผิดกับวันแรกๆ ที่เจ้านายหนุ่มจ้องแต่จะเสือกไส ไล่ส่ง...

“เป็นไงคุณ ถ้าไม่อร่อยก็อย่าฝืน...วาดรับได้ค่ะ” หญิงสาวยิ้มแหยๆ พูดเสียงอ่อยๆ เมื่อโจนาธานกินเงียบๆ ไม่ปริปากบ่นเหมือนเคย

ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น เขามองหล่อนก่อนจะคลี่ยิ้มมุมปาก

“ก็ไม่ได้แย่นักหรอกน่า... แต่ถ้าจะให้ชมว่าอร่อย ยังไม่ได้ มีข้อแม้ว่า... เธอต้องทำมาให้ฉันชิมบ่อยๆ จนกว่ารสมือจะดีกว่านี้”

หญิงสาวเป่าปาก เธอตวัดค้อนให้ชายหนุ่ม เขาจงใจแกล้งให้เธอใจเสีย แล้วก็ตลบหลังด้วยคำชมที่ฟังแปร่งๆ

“วาดจะเอาเวลาไหนมาทำให้คุณชิม นานๆ ครั้งพอได้ค่ะ แต่บ่อยๆ คงไม่ไหว”

หญิงสาวตอบพร้อมกับแอบเบ้ปาก ในหนึ่งวันเธอทำงานแทบไม่มีเวลาพัก ไม่มีช่วงเวลาว่างๆ พอที่จะทำแบบที่เขาพูด

“ฉันรอได้...”

คำตอบของโจนาธานทำเอาวันวาดอึ้ง!! เธอได้ยินแล้วรู้สึกร้อนหน้าวูบ มันเหมือนคำสัญญายังไงพิกล หญิงสาวรีบสะบัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไป...เมื่อมันเป็นไปไม่ได้หรอก...คนแบบโจนาธานมีตัวเลือกเยอะแยะ หากเขาเดินได้ปกติ เธอก็จะกลายเป็นแค่...คนเคยรู้จัก มีผู้หญิงสาวๆ สวยๆ เข้าแถวรอให้เขาเลือก แล้วคนมีฐานะอย่างเขาหรือ จะมาเสียเวลามองคนไม่มีอะไรเลยอย่างเธอ ตอนนี้ชายหนุ่มแค่เหงาตามวิสัยผู้ชาย อดไม่ได้ที่จะหยอกเอินคนใกล้ตัว หากเธอหลงลมปากเขา คนที่เสียใจ...คือตัวเอง วันวาดมั่นใจว่าตัวเองมีภูมิคุ้มกัน แต่พอได้ใกล้ชิดโจนาธานเขาจริงๆ ปราการนั่น กลายเป็นกำแพงแก้วเสียอย่างนั้น...มันเปราะบางหมิ่นแหม่...บอบบางจนน่าใจหาย เพราะหากมันแตกหักลงมา เธอคงไม่มีอะไรป้องกันตัว และอาจกลายเป็นเหยื่อของเขา ในที่สุด!!

‘ไม่ได้รู้สึกไปเองนะ’ วันวาดคิดในใจ หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เธอคิดว่าคนป่วยจอมโวยวาย สงบลง เขาไม่ค่อยโวยเหมือนเก่า คำพูดคำจาก็เปลี่ยนไป ไอ้ที่เคยดุ เคยแอบจิกกัด แทบไม่มีให้ได้ยิน แถมยังขยันทำกายภาพอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งพัฒนาการของเขาดีขึ้น เริ่มมีความรู้สึกที่ขา เป็นข่าวดีที่เธอร่วมยินดีด้วย

แถมยังมีคำพูดแปลกๆ ให้เธอเอาเก็บไปคิด ความพูดแฝงความนัยที่ทำให้หัวใจเต้นแรง

แววตาวาวๆ ซ่อนบางอย่างที่วันวาดไม่กล้าค้นหาไว้ เพราะกลัวที่จะแปลภาษาในความนัยนั่นได้

และมันจะเป็นอันตรายกับก้อนเนื้อที่เรียกว่า ‘หัวใจ’ ของตัวเอง

หญิงสาวสงบเสงี่ยมลง แต่โจนาธานกับเป็นฝ่ายรุกเสียเอง เธอจึงพยายามวางเฉย รักษาที่มั่นของตัวเองไว้อย่างเหนียวแน่น พยายามไม่ใส่ใจกับความหมายในดวงตาของโจนาธาน เพื่อตัวเองจะได้ไม่หวั่นไหวมากขึ้น

“ดีขึ้นนี่หว่าไอ้เสือ”

เบนก็ยังเป็นเบน เป็นพี่ชายที่ห่วงและคอยเป็นกำลังใจ เขาจะแวะมาหาโจนาธานทุกเช้าก่อนไปทำงาน

“แหงล่ะ ผมนะ ‘รูธ’ ไม่ใช่ไอ้แหย เจ็บได้ หายเป็นนะพี่”

ชายหนุ่มตอบยิ้มๆ เขามีกิจกรรมทำทั้งวัน ช่วงเวลาที่รอวันวาดมาคอยดูแล

“แกเปลี่ยนไปว่ะ!! ไอ้มนุษย์เจ้าอารมณ์คนนั้นไปไหนหว่า? แหมๆ ใครนะทำให้แกเปลี่ยนความคิด หรือว่า...”

เบนสัพยอก หากวันวาดทำให้น้องชายเขาดีขึ้น เขาก็ไม่ได้คิดขัดขวาง...แม้หล่อนจะมีแต่ตัว

“ผมทำเพื่อตัวเองไม่ได้เหรอ? จะมีใคร๊!!”

ชายหนุ่มตอบเสียงสูงปรี๊ด เถลจนสีข้างแทบถลอก เขาหลบสายตาพี่ชาย อายจนหน้าร้อนวูบ ที่ดันทะลึ่ง เกิดความรู้สึกแปลกๆ กับคนดูแลที่แรกเริ่มเขาตั้งป้อมรังเกียจ!!

          “เหรออออ...”

          เบนลากเสียงยาวๆ เขาไม่ได้แซ็วต่อ ทำเป็นรู้ไม่ชี้ ชวนคุยสัพเพเหระ จนได้เวลาไปทำงาน

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status