บทที่4.เสือนิ่งอย่าคิดว่าเสือหลับ
5:00 นาฬิกา...
โครม!!
วันวาดสะดุ้ง!! เธอยกมือขยี้เปลือกตาแรงๆ มองหาต้นเหตุของเสียงดังๆ ที่ทำให้ตัวเองตกใจตื่น หลังจากฟุบหลับไปตอนหลังเที่ยงคืน เมื่อโจนาธานหลับไปเพราะฤทธิ์ยา...
หญิงสาวผุดลุกขึ้นยืนแบบกระฉับกระเฉง ยกมือตบหน้าเบาๆ ไล่ความสะลึมละลือ แล้วจึงเดินไปหยิบถาดที่หล่นบนพื้น สาเหตุคงเป็นเพราะคนไข้เจ้าอารมณ์ที่นั่งหน้ายับอยู่กลางเตียง
“คุณตื่นแล้ว...ทำไมไม่เรียกวาดล่ะคะ”
หญิงสาวเปรย “หิวน้ำ หรือต้องการทำธุระส่วนตัวคะ?” เธอถามต่อ
โจนาธานหน้ายับ เขาหิวน้ำ และไม่อยากปลุกหล่อน เรื่องเล็กน้อยที่เขาน่าจะทำได้ แต่...ไม่สามารถทำได้อย่างใจนึก มันน่าโมโหที่ช่วยเหลือตัวเองยังไม่ได้ แม้แต่เรื่องเล็กๆ
“ไม่!!” เขาตอบเสียงสะบัด หลุบเปลือกตาลง เพื่อปิดการสนทนา
แต่...แก้วน้ำสะอาดที่มีน้ำอยู่ครึ่งแก้ว ถูกยื่นให้ พร้อมกับหลอดสั้นๆ ที่ใส่ไว้ในแก้ว
“คุณหิวน้ำวาดรู้”
คนที่ตื่นนอนใหม่ๆ มักจะกระหายน้ำเหมือนกันทุกคน วันวาดจึงจัดแจงให้ โดยที่โจนาธานไม่ต้องเอ่ยปาก
เพล้ง!! ความหวังดีถูกปัดจนหล่นบนพื้น น้ำหกกระจายเกลื่อนพื้น แก้วใบสวยแตกละเอียด...
วันวาดก้มลงเก็บเศษแก้ว เธอไม่ได้ต่อว่า จนกระทั่งแน่ใจว่าเศษแก้วหมดไปจากพื้น จึงเดินไปล้างมือ และกลับมารินน้ำให้โจนาธานอีกแก้วหนึ่ง...ด้วยสีหน้าเรียบสนิท
มือผอมบางยกขึ้น ทำเหมือนจะปัดซ้ำ
วันวาดเบี่ยงแก้วหนี... “อย่าทำตัวเป็นเด็กค่ะ คุณโตเกินกว่าจะงอแง” เสียงเย็นเฉียบ กับแววตาจริงจังที่วันวาดใช้มอง ทำให้อารมณ์กรุ่นๆ ของโจนาธานเปลี่ยนเป็นความโกรธ
เขาเอื้อมมือมาข้างหน้า เหมือนจะยินยอมรับแก้วน้ำ เปล่าเลยเขาไม่ได้คิดทำแบบนั้น ทันทีที่ก้นแก้วแตะถูกปลายนิ้ว โจนาธานสะบัดมือ แก้วน้ำลอยหวือ!! กระแทกหางคิ้วของวันวาด ก่อนจะตกลงบนพื้น
เพล้ง!!
ชายหนุ่มยิ้มหยัน!! เขามองหยดเลือดที่ซึมออกมาจากบาดแผลบริเวณหางคิ้วของหล่อน ด้วยสายตาเฉยชา
วันวาดเม้มเรียวปากจนเป็นเส้นตรง เธอไม่ได้กรีดร้องหรือแม้แต่จะโวย เมื่อถูกคนป่วยทำกริยาไม่ดีใส่ เขาทำให้เธอเจ็บตัว หญิงสาวทำแค่... ก้มลงเก็บเศษแก้วจนหมด แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ล้างคราบเลือดที่หางคิ้ว แปะพาสเตอร์ปิดทับรอยแผลนั่น แล้วก็เดินออกมา พร้อมกับแก้วน้ำสะอาดอีกหนึ่งแก้ว
“คุณแค่กำลังหงุดหงิด ที่ทำอะไรไม่ได้อย่างที่คิดไว้ วาดจะไม่โกรธ เพราะวาดคิดว่าวาดเข้าใจคุณ”
วันวาดพูดเสียงเรียบ เธอวางแก้วน้ำไว้ และภาวนาให้โจนาธานยอมรับน้ำใจครั้งนี้ของเธอ
“หากคุณจะอาละวาดอีก อยากขว้างอะไรก็ได้...คุณต้องมีแรงมากกว่านี้ เริ่มต้นด้วยการกินข้าวและยา ให้ตรงเวลาก่อน”
หญิงสาวพูดต่อ เธอไม่ได้สอน แค่แนะนำ หากโจนาธานอยากทำอย่างที่เขาคิด เขาต้องฟื้นฟูตัวเองก่อน ไม่อย่างนั้น ที่เขาหวังไว้ ไม่มีทางทำได้สำเร็จ
“คนไข้ของวาดทุกคน มักจะเป็นแบบนี้ค่ะ ใครก็ตามที่เคยแข็งแรง...พออ่อนแอลง ก็มักจะรับตัวเองไม่ได้”
เธอหยิบแก้วเปล่า หลังโจนาธานยอมกินน้ำในแก้วนั่น หญิงสาวเดินเข้าไปในห้องน้ำ เธอเตรียมของบางอย่าง...
ยาสีฟัน ผ้าเช็ดตัว ตามด้วยภาชนะขนาดพอเหมาะ สำหรับให้เขาล้างหน้าแปรงฟัน
“วาดดูแลคุณแค่ตอนกลางคืน...นี่เหลือเวลาอีกประมาณ2 ชั่วโมง วาดจะต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน เพื่อไปทำงานที่โรงพยาบาล...ช่วงกลางวัน แป้นจะดูแลคุณ อย่าทำให้พวกเขาตกใจนักนะคะ เพราะเท่าที่วาดเห็น ไม่ว่าแป้น หรือพี่เอก ดูจะหวาดๆ คุณน่าดู”
หล่อนทำงานมือเป็นระวิง ในขณะที่ปากก็พูดไปเรื่อยๆ
แปรงสีฟันถูกยื่นมาให้โจนาธาน เขามองมันก่อนจะเมินหนี ไม่ได้รับมาเหมือนที่วันวาดต้องการ
“ให้วาดช่วยไหมคะ?”
หล่อนถามแบบไม่คิดอะไรเลย แต่โจนาธานคิด...เขาอายหล่อน แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ นี่ เขายังช่วยตัวเองไม่ได้
“ไม่ต้องอายวาดหรอกค่ะ ที่คุณรอดมานี่วาดก็นับถือคุณแล้วล่ะค่ะ เพราะจากประวัติการรักษาของคุณ วาดไม่คิดว่าคุณจะรอด อุบัติเหตุนั่น สาหัสมาก...แค่ตอนนี้คุณยังไม่ฟื้น...แต่อีกไม่นานหรอกค่ะ คุณน่าจะกลับเป็นเหมือนเดิม...หากคุณอยากลบคำสบประมาทของคนอื่นที่เคยดูถูก คุณก็ต้องทำให้สำเร็จสิคะ...อย่าทรมานตัวเอง เพราะความกลัว!!”
หญิงสาวพูดเหมือนนั่งอยู่กลางใจโจนาธาน หลายสิ่งที่หล่อนพูดมา มีส่วนจริง เขาเคยพยายามแล้ว แต่เมื่อไม่มีอะไรดีขึ้น เขาก็เลยท้อ... เขาไม่อยากให้ใครมองเขาแบบเวทนา แต่ทำไมเขาไม่ทำให้ตัวเองดีขึ้นล่ะ สายตาเหล่านั้นจะได้ไม่ย้อนกลับมามองที่เขาอีก
วันวาดช่วยโจนาธานแปรงฟัน เธอเพิ่งเห็น...ฟันเขาสวย ตาเขาสวย โครงหน้าเขา รวมๆ แล้วดูดีไม่ใช่เล่น หากสามารถกำจัดหนวด เครา รกๆ บนใบหน้านี่ได้ เขาคงดูดีขึ้นจม…สายตาของเขา ทำให้จังหวะหัวใจของเธอรวนผิดปกติ
“วาดจะหาอุปกรณ์เบาๆ สำหรับออกำลังกายให้คุณใช้ฝึกมือ...มันจะช่วยให้คุณมีแรงขึ้น วันหน้าคุณอาจจะทำได้มากกว่าปาแก้ว” หญิงสาวไม่ได้ประชดประชัน เธอหวังให้เขา..แข็งแรงขึ้นและทำอะไรได้อย่างใจคิด...จะได้ไม่ลมขึ้น...เวลาทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ...
ชายหนุ่มเม้มปากแน่น เขาไม่ได้ตอบโต้ มีแค่ลูกนัยน์ตาเรืองรองที่บ่งบอกความไม่พอใจ...
6:00 นาฬิกา...
“วาดคงต้องขอตัว ถ้าคุณอยากอาบน้ำ คุณสามารถเรียกพี่เอกมาช่วยได้...เพราะถ้าวาดมาถึงที่นี่ตอนเย็นแล้วคุณยังไม่อาบน้ำเลย วาดจะลงมืออาบน้ำให้คุณเองค่ะ”
หญิงสาวกล่าว เธอฉวยกระเป๋าสะพายขึ้นมาคล้องไหล่ ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยนัก เพราะโจนาธานไม่ได้ฤทธิ์มากเหมือนที่กลัว แต่...มันอาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยา เธอจึงมีเวลาพักตาได้นานๆ มาผจญฤทธิ์อารมณ์ของเขาอีกครั้ง ตอนใกล้รุ่ง แต่ก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร
“แป้น นี่ตารางที่วาดเขียนไว้ พยายามทำให้ได้ตามนี้นะ เย็นวาดจะมาอีกครั้ง ตอนนี้คงต้องขอตัวไปอาบน้ำก่อน เหม็นตัวเองจะแย่...” วันวาดสั่งงานแป้น เมื่อสาวใช้ตัวอวบโผล่หน้ามาตอนที่เธอจะกลับพอดี “อ้อ!! บอกพี่เอกอาบน้ำให้คุณด้วยนะ...อย่าดองไว้ มันเหม็น!!” หญิงสาวพูดกับแป้น แต่ตามองไปยังคนไข้หน้าตึง ที่นอนนิ่งๆ อยู่บนเตียง...
แป้นอมยิ้ม...คนที่เคยโวยวาย เงียบกริบ นับเป็นนิมิตหมายที่ดี สำหรับพยาบาลคนใหม่ แม้แป้นจะแอบเห็นหางคิ้วของวันวาดมีพาสเตอร์ยาแปะติดอยู่ คงเป็นเพราะพายุอารมณ์ของเจ้านายจอมโวย
“สั่งๆ ทำยังกับฉันจะยอมทำนี่”
เสียงบ่นลอยๆ ของโจนาธาน ยิ่งทำให้แป้นอมยิ้ม ก็คนเอาแต่ใจอย่างโจนาธาน เขาเคยสนใจที่ไหน ชายหนุ่มมีแต่โวย กับโวย ต่อต้านสุดตัว...แต่ที่แป้นเห็น เขาก็ยอมดีๆ แม้จะมีฮึดฮัดบ้าง...
“คุณจะอาบน้ำก่อนทานข้าว หรือทานข้าวแล้วค่อยอาบดีคะ”
แป้นมองกระดาษที่วันวาดยัดใส่มือให้ ตารางการจัดการเรื่องของโจนาธานยาวเหยียด
“ยุ่ง!! ฉันไม่กิน แล้วก็ไม่อาบด้วย...อย่าสาระแนทำตามที่แม่นั่นสั่งนักเลย”
ชายหนุ่มตวาด เขาพูดเสียงขุ่น ตวัดตาทำท่าเหมือนค้อนให้วันวาด แม้เจ้าหล่อนจะไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว...
“คุณวาดบอกให้แป้นโทร. บอกค่ะ ถ้าคุณดื้อ!! เธอจะมาเองตอนพักเที่ยง”
แป้นตอบเสียงอ่อยๆ รีบหลบตาคมๆ ของโจนาธานเป็นพัลวัน
ชายหนุ่มแทบจะคำราม เขากำมือแน่น หล่อนยุ่งวุ่นวายกับเขาทำไมหนักหนา...
“หึ!!”
แป้นละล้าละลัง...เธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี แต่คนที่ตัดสินใจแทนแป้น ก็โผล่หน้ามาช่วยในที่สุด
“อาบน้ำ กินข้าวเถอะวะโจ...หรือแกจะให้หล่อนมาเอง...”
เบนได้ยินที่แป้นพูดพอดี เขานึกชอบใจความถี่ถ้วนของวันวาด หล่อนทำงานดีใช้ได้
“เบน...เอายัยนั่นไปไกลๆ ผม...ผมรำคาญ”
โจนาธานพูดเสียงขุ่น...
“แกรำคาญหล่อน หรือขยาดที่หล่อนไม่กลัวแกวะ?” เบนย้อน เขาเดินไปทิ้งตัวนั่งบนโซฟา พรางเอนหลังพิงเก้าอี้พร้อมกับหลุบเปลือกตาลง มันเช้าเกินไปที่เขาจะตื่น แต่เพราะเป็นห่วงน้อง เลยรีบตื่นมาดู และเขาไม่ผิดหวังเลยกับการทำงานของวันวาด หนึ่งคืนที่หล่อนดูแลโจนาธาน...ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมคนพูดมากก็สงบลงเยอะ!!
“เบน!!”
“เออ...แกก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ พ่อหล่อนเป็นหนี้ฉัน ต่อให้ไม่จ่ายเงินเดือน...หล่อนก็ต้องมาดูแก...”
เบนบอกน้องชาย โจนาธานเบ้ปาก กรอกตามองบน แล้วก็บ่นพึมพำ แต่ไม่ได้โวยวาย เหมือนเคย
“แป้น ไปตามไอ้เอกมาซิ โจมันคงยอมอาบน้ำแล้วล่ะ เพราะไม่อย่างนั่น ยัยพยาบาลถึกนั่น คงมาอาบน้ำให้โจมันเอง ฉันว่าหล่อนทำได้ว่ะ...” เบนร้องสั่งสาวใช้ เขาอยากขำลั่น แต่ต้องกลั้นไว้ ไม่อย่างนั้นคนป่วยจอมโวย คงได้มีนอยเล็กๆ
“แกอยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ยล่ะ ฉันจะได้ให้คนครัวทำให้”
เบนถามต่อ เขาอมยิ้ม เมื่อคนป่วยหน้าหงิกมากกว่าเดิม แต่ไม่ยอมพูดอะไรเลย
“เท่าที่เห็น...ยัยนั่นเขียนไว้ ก็ละเอียดดีนะ แกน่าจะดีขึ้นว่ะ ถ้ายอมหล่อน”
โจนาธานเม้มปาก เขาสัญญากับตัวเองว่าจะไม่มีทางทำตามความต้องการของวันวาด ยัยผู้หญิงจอมจุ้นนั่น...ต้องได้รับการสั่งสอน เขาไม่ใช่ไก่อ่อน ที่จะยอมทำตามคำสั่งหล่อน...
แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างที่โจนาธานคิด สิ่งที่วันวาดจัดการไว้ให้ ก็เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับเขาทั้ง ชายหนุ่มถูกเอกพาไปอาบน้ำ มันทำให้เขาสดชื่นขึ้น แต่โจนาธานเลือกที่จะไม่พูดถึง อาหารมื้อเช้าเช่นกัน หล่อนเลือกอาหารอ่อนๆ ที่เขาสามารถกินได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องมีคนช่วย เนื่องจากเมื่อตอนค่ำ เขามีสารอาหารไปหล่อเลี้ยง จนทำให้มีแรงพอจะยกมือไหว และอาหารเหลวๆ นั่นก็ทำให้สะดวกในการรับประทาน
อย่างที่สอง หล่อนสั่งให้แม่สาวใช้ตัวอวบ เปิดเพลงคลาสสิคเบาๆ ไอ้อารมณ์หงุดหงิดนั่นดันทะลึ่งไม่มีเสียนี่ เขาชอบฟังเพลง...ใครๆ ก็รู้ แต่วันวาดก็ยังรู้ นี่น่าสงสัย มีอะไรเกี่ยวกับตัวเขาบ้างที่หล่อนไม่รู้บ้าง?
สาม...ลูกบอลนุ่มๆ ขนาดพอดีมือ โจนาธานเผลอขยำเล่น ในขณะที่ชมภาพยนตร์ และก็เป็นวันวาดอีกนั่นแหละที่เจาะจงไว้ให้ เขาเพลินจนเย็นย่ำ...และใกล้ถึงเวลามื้อค่ำ แต่ยัยนั่น...ยังไม่โผล่หน้ามาสักที
บทที่5.คืนที่2 สำหรับการอยู่กับผู้ชายลำพัง... คนที่โจนาธานแอบรอ...เธอกำลังอาบน้ำและเตรียมเสื้อผ้าสำหรับการไปค้างอ้างแรมทั้งคืน ตอนเช้าเธอจะได้ไม่ต้องกระวีกระวาดกลับมาบ้าน ไหนๆ ที่นั่นก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เธอเตรียมเสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัวติดไปด้วย...ประหยัดหลายทางทั้งค่าน้ำมัน และเรื่องความปลอดภัย... “เขาเป็นคนยังไงมั้งล่ะวาด?” รัชนีเปิดปากถามเสียงอ่อนๆ เธอห่วงบุตรสาว ถึงจะเป็นคนป่วย แต่เขาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชาย “เป็นคนเจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจตัวเอง และรั้นมากค่ะแม่...กว่าเขาจะยอมลงให้วาด คงต้องใช้เวลาอีกซักระยะ” หญิงสาวตอบ มือก็จับเสื้อยืด กางเกงวอร์มยัดลงในกระเป๋า เธอสำรองไว้ หลายๆ ชุด จะได้ไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมา “แม่หมายถึงอาการป่วยของเขา...พอมีทางหายไหม?” รัชนีถาม เพราะอยากรู้ว่าระยะเวลาที่วันวาดต้องลำบากลำบน นั่นจะอีกนานแค่ไหน “พูดยากจ้ะแม่...เท่าที่เห็นเขาก็เข้าขั้นหนัก คุณเขาไม่กินยา ไม่ทำกายภาพบำบัดตามหมอสั่ง กล้ามเนื้อที่ขาเล็กและลีบมาก ต้องฟื้นฟูอีกนาน” วันวาดอธิบาย เธออ่อนใจกับความเยอะข
โจนาธานออกปากขับไล่หล่อนเหมือนทุกครั้ง... “คุณไล่วาดได้ วาดไม่ว่า... แต่วาดจะไปไหม นั่นมันอีกเรื่อง” พายุอารมณ์ที่คนป่วยมักจะสาดใส่พยาบาล เนื่องจากภาวะอารมณ์ของเขาไม่คงที่ เกิดจากภาวะจิตใจ คนที่เคยเคลื่อนไหวด้วยตัวเองได้ ไม่เคยต้องให้ใครช่วย จู่ๆ ก็ต้องนอนนิ่งๆ เป็นคนป่วย รอรับความช่วยเหลือจากคนอื่น....เป็นธรรมดาที่ไม่มีใครทนได้ เขามักจะแสดงความกราดเกรี้ยวออกมา...และนั่นเป็นสิ่งที่วันวาดผจญมาแล้ว ทุกรูปแบบ เพราะฉะนั้นแค่การรับมือกับคนป่วยเพียงคนเดียว...เธอคิดว่า...ตัวเองไหว!! “หน้าด้าน!!” “เปล่าเลยค่ะ เพราะหากเป็นคนธรรมดา เขาน่าจะเดินหนีคุณ แต่วาด...วาดทำแบบนั้นไม่ได้ ไหนจะด้วยอาชีพและหนี้สินที่เป็นตัวบังคับ วาดต้องอยู่ และทนรับสิ่งที่คุณโยนใส่...ให้ได้” หญิงสาวอธิบาย “คุณทานยาก่อนอาหารหรือยังคะ?” เธอมองเวลาที่นาฬิกาเรือนเล็ก บนข้อมือ แล้วจึงถามโจนาธาน “ฉันไม่กิน!!” ชายหนุ่มตอบเสียงสะบัด วันวาดยิ้ม ท่าทีต่อต้านแบบนี้ก็แสดงว่า ยาก่อนอาหารคนป่วยจอมดื้อยังไม่กิน เธอจึงเดินไปจัดยาพร้อมกับกดกริ่งเรียกสาวใช้ เพราะหลังกินย
หญิงสาวตักอาหารในโถนั่นใส่ลงในถ้วยเล็ก แล้วจึงเดินไปวางบนโต๊ะตัวเมื่อวาน เข็นมาชิดเตียง โดยไม่พูดอะไรอีก...กลิ่นหอมๆ นั่น ทำให้ต่อมหิวของโจนาธานทำงาน ความจริงเขาอยากต่อต้าน แต่มาคิดอีกที...ให้เขาอาละวาด โวยวาย วันวาดก็คงไม่สนใจ หล่อนดึงดันจะทำสิ่งที่หล่อนควรทำ และเขาก็จะเหนื่อยเปล่า แป้นเลี่ยงออกไปนอกห้อง ปล่อยให้วันวาดกับเจ้านายขี้โมโห อยู่กันตามลำพัง สาวใช้ตัวอวบอมยิ้มเล็กๆ เมื่อเหตุการณ์วุ่นวายที่เคยเกิดขึ้น หากมีใครก็ตามพยายามให้โจนาธานทำในสิ่งที่เขาไม่อยากทำ กลับสงบราบเรียบ...ไม่มีเสียงตะโกน ไม่มีข้าวของเสียหาย หล่อนภาวนาในใจ ขอให้โจนาธานสิ้นฤทธิ์ และยอมปฏิบัติตัวตามหมอสั่ง เพราะนั่นคือผลดีกับตัวเขาเอง... ข้าวต้มเละๆ แต่ก็ไม่ถึงกับละเอียดยิบเหมือนเมื่อวันก่อน ข้าวเม็ดหยาบขึ้น มีสีสันของผักสีเขียว สลับกับเนื้อกุ้งหรือหมูชิ้นเล็กๆ“ฉันไม่กินผัก!!” ชายหนุ่มตะคอก“เพราะอะไรคะ...คุณไม่ทานผัก เพราะว่ามันเหม็นเขียว หรือเพราะฝังใจ?” หญิงสาวย้อนถาม“ช่างฉัน!!”“ไม่ได้หรอกค่ะ ผักทุกชนิดมีประโยชน์ มีสรรพคุณช่วยรักษาฟื้นฟูได้ คุณแค่กลั้นใจกิน...เด็ก3 ขวบยังกินได้ แล้วคุณน
บทที่6.ความรู้สึกที่แปลกไป เป็นอีกวันที่โจนาธานรู้สึกแปลกๆ เขาลืมตาขึ้นมาก็เห็นหล่อนฟุบหลับอยู่ที่เดิม...เหมือนเมื่อวาน ร่างเล็กๆ นั่นดูเล็กบางและไร้พิษสง ใครจะรู้ล่ะ ทันที่ที่หล่อนลืมตา หล่อนก็มักจะทำตัวเป็นมนุษย์จอมพลัง ทำนั่นนี่ไม่หยุด เหมือนกับว่ากลัวเวลาจะผ่านไปแบบไร้ค่า... ร่างเล็กๆ ของวันวาดขยับตัวนิดๆ ชายหนุ่มจึงแสร้งหลับ แต่เขาเฝ้าฟังเสียงการเคลื่อนไหวของหล่อน สิ่งแรกที่หล่อนทำ คือเดินเข้ามาดูเขาที่เตียง มือเล็กๆ นั่น แตะต้องตัวเขา เธออังมือกับผิวกายของเขา แล้วจึงผละจากไป โจนาธานปรือเปลือกตาขึ้นมอง เขาเห็นหล่อนหายลับไปในห้องน้ำตัวเอง หลังจากนั้นไม่เกิน10 นาที หล่อนก็ออกมากับใบหน้าผ่องใสขึ้น กับกลิ่นหอมๆ ของสบู่...นี่หล่อนใช้เวลาแค่นั้นในการชำระร่างกาย...เหลือเชื่อ...เขาไม่คิดว่าผู้หญิงจะใช้เวลาในการอาบน้ำแค่สั้นๆ แค่นั้น วันวาดเป็นคนแรกที่ทำให้เขาทึ่ง!! “รู้สึกยังไงบ้างคะ?” เสียงหล่อนถาม หล่อนคงรู้สิว่าเขาตื่นแล้ว โจนาธานไม่ได้ตอบ เขาเลือกที่จะปิดปากนิ่ง เสียงหล่อนทำอะไรก็ไม่รู้ดังกุกกัก และเขาก็ต้องสะดุ้ง เมื่อผ้าเป
“เรียกวาดเฉยๆ ก็ได้ค่ะคุณหมอ...วาดอยู่โรงพยาบาลเล็กๆ เลยไม่เคยได้เจอกับหมอใหญ่มีชื่ออย่างคุณหมอไงคะ” “ถ้าให้ผมเรียกวาดแบบนั้น วาดก็เรียกผมว่าพี่หมอก็พอ...” หนุ่มใหญ่พูดพร้อมกับอมยิ้ม “ค่ะ พี่หมอ...” คนไข้หนุ่มนั่งมองตาขวาง เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนคุยกัน แต่รู้สึกไม่ชอบแค่นั้นเอง เพราะเมื่อวันวาดอยู่กับเขา หล่อนพูดมากก็จริง แต่ไม่เคยยิ้มละไมแบบนี้ “เอกๆ พากูออกไปข้างนอกที กูเลี่ยน!!” ชายหนุ่มตะโกนลั่น ความจริงโจนาธานไม่ต้องตะโกนก็ได้เมื่อเอกก็อยู่ในห้องด้วย แต่เพราะความหงุดหงิด ชายหนุ่มจึงแสร้งตะโกนเพื่อขัดจังหวะคนทั้งสองคน การ์ดหนุ่มที่ไม่รู้อะไรเลย เข็นวีแชร์มาเทียบข้างเตียง เขาเตรียมตัวจะอุ้มโจนาธาน แต่ถูกปัดด้วยมือใหญ่ แม้จะทุลักทุเล ในที่สุดโจนาธานก็ย้ายตัวเองลงไปนั่งบนวีแชร์ได้ด้วยตัวเอง เขายิ้มกว้าง ยกมือขึ้นมองใกล้ๆ เขามีแรงขนาดพาตัวเองขึ้นไปนั่งบนวีแชร์โดยที่ไม่ต้องให้ใครช่วย เป็นความน่ายินดีจนอยากจะอวด เขาเหลือบมองวันวาด และหญิงสาวก็กำลังมองมาที่เขาเช่นกัน มุมปากได้รูปกระตุกยิ้ม ก่อนจะแสร้งเบือนหนี เมื่
“หล่อขึ้นจมเลยคุณโจ” เอกชมเปราะ เขาเอียงคอมองผลงานตัวเอง “แหงล่ะ กูหล่อมาตั้งแต่เกิด ไม่ใช่เพิ่งมาหล่อโว้ย!!” โจนาธานคุยเขื่อง เขาอาบน้ำปะแป้งหน้าผ่องขึ้นเพราะไร้ทั้งหนวดและเครา... “ฮูว์!! พระเอกหนังที่ไหนคะนี่ หล่อโคตรๆ” แป้นแซ็วยิ้มๆ เธอหอบหนังสือกองโตมาวางไว้ข้างเตียง โจนาธานขมวดคิ้ว เขามองกองหนังสือนั้นตาเขม็ง “คุณวาดให้เอามาค่ะ เธอบอกว่าหนังสือพวกนี้จะทำให้คุณโจผ่อนคลาย” แป้นตอบเสียงหวาดๆ หนังสือเหล่านี้ วันวาดค้นไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เพื่อให้โจนาธานใช้แก้เบื่อ “เอามาสักเล่มสิ!!” ไหนๆ ก็ไม่มีอะไรทำ รายการทีวีก็เหมือนเดิม ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ก็ดูซ้ำวนไปวนมาจนเอียน ลองอ่านหนังสือเพื่อพักตาบ้างคงดี “คุณโจจะออกไปข้างนอกมั้ยคะ? คุณวาดบอกว่าหากคุณอยากออกไปนั่งที่ระเบียงก็ออกไปได้” ชายหนุ่มนิ่งไปหนึ่งอึดใจ ก่อนจะพยักหน้ารับ เอกจึงต้องเป็นคนมาช่วย เขาปล่อยให้โจนาธานลองช่วยเหลือตัวเองก่อน โดยมีเขาช่วยประคอง เจ้านายหนุ่มฮึดฮัดหน่อยๆ แต่เมื่อทำสำเร็จ มีรอยยิ้มแต้มมุมปาก มันเป็นความภูมิใจ
บทที่7.เสียงกระซิบในหัวใจ ไม่น่าเชื่อว่าวันวาดจะดูแลคนป่วยที่แสนดื้อคนนี้ ได้เกือบ2 เดือน นับจากวันแรกจนถึงปัจจุบัน โจนาธานดีขึ้นมาก ร่างกายเขาดีขึ้น เริ่มมีเนื้อหนัง และฤทธิ์ก็ยังมากเหมือนเดิม ถึงจะไม่ค่อยโวย แต่ชายหนุ่มก็ใช้ปากให้เกิดประโยชน์ เขาแควะ จิก กัด แต่พยาบาลสาว กลับทำหน้ามึน...หล่อนทำงานอย่างแข็ชงขัน เสมอต้น เสมอปลาย จนความรู้สึกต่อต้านลดลง... สายตาคู่คมชำเรืองมองวันวาดบ่อยๆ เธอนอนหลับสนิท บนโซฟา โจนาธานนึกอยากช่วย หล่อนน่าจะนอนดีๆ แต่เขาทำอะไรไม่ได้มากกว่านอนมอง...เมื่อตัวเองยังแทบเอาตัวไม่รอด นอนนิ่งเป็นผักเน่าอยู่เช่นนี้ ชายหนุ่มนอนมองหล่อนจนหลับไปตอนไหนไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีก็สะดุ้งตื่นตอนที่มีผ้าเปียกๆ มาลูบไปทั่วใบหน้า ‘เช้าแล้วเหรอ’ “ตื่นเช้าจังนะ...เธอนี่มันหุ่นยนต์หรือไง ไม่รู้จักหลับจักนอน” โจนาธานประชด เขารับแปรงสีฟันมาถือไว้ เขาช่วยเหลือตัวเองได้ตั้งแต่สองวันแรก ถึงจะยังไม่คล่องแคล้ว ก็ยังดีกว่าให้หล่อนทำให้ เขารู้สึกเหมือนตนเองเพิ่งหัดคลาน ซึ่งเขาไม่ใช่... ถึงเขาป่วยก็แค่ขาช่วงล่าง ช่วงบนยังทำ
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบ เขาแค่มีความหวังอีกครั้ง ดังนั้นสายตาที่มองวันวาด จึงค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนไป โจนาธานมองหล่อนดีขึ้น เมื่อวันวาดทำหน้าที่ของหล่อนได้อย่างดี หล่อนไม่ได้คอยแทะโลมเขา เหมือนพยาบาลสาวคนก่อนๆ อย่าว่าแต่แตะต้องตัวเขาเลย…หากจะแตะตัวเขา นั่นหมายความว่ามีบุคคลที่2 หรือ3 อยู่ด้วย เพราะหากอยู่กันตามลำพัง หล่อนจะอยู่ไกลๆ เขาเป็นวา ทำเหมือนกับว่า...หล่อนกลัวเขาปล้ำอย่างนั้นแหละ!! ตกดึก โจนาธานมีอาการแปลกๆ ตัวเขาร้อน หายใจขัดๆ ลมหายใจสะดุด เหงื่อไหลออกมาจากรูขุมขนเหมือนน้ำตก เขาขยับตัว ครางฮือๆ แล้วจู่ๆ ก็มีผ้าเย็นๆ โป๊ะลงมาที่หน้าผาก ตามด้วยผ้าอีกผืนที่เปียกชื้นไม่แพ้กัน ลูบไปใต้ชายเสื้อพร้อมกับเสียงปลอบใจเบาๆ “ไม่มีอะไรค่ะ คุณแค่ไข้ขึ้น คงเพราะคุณตากลมนาน เดี๋ยวก็หายค่ะ วาดเช็ดตัวให้แล้วอีกพักคงดีขึ้น หรือคุณจะทานยาคะ?” โจนาธานกระพริบเปลือกตาปริบๆ กระบอกตาของเขาร้อนผ่าวเพราะพิษไข้ที่รุมเร้า วัดวาดสอดมือเช็ดตามเนื้อตัวเขา ผิวของเขาร้อนระอุ ดวงตาของเขาหรี่ปรือ เธอตัดสินใจให้โจนาธานกินยาเพื่อลดไข้ ไม่อยากเห็นเขาทรมานมากไปกว่านี