Share

บทที่15.เซอร์ไพรส์สุดๆ 1

บทที่15.เซอร์ไพรส์สุดๆ

          รถยนต์รับจ้างแล่นมาจอดหน้าประตูบ้านพิศิษรุ่งเรือง สาวใหญ่ในชุดสีสันสะดุดตาก้าวเท้าลงมา สารถีคนขับรีบเปิดประตูลงมา เมื่อมีสัมภาระอยู่ที่ท้ายรถยนต์เป็นจำนวนมาก พิไลหอบกระเป๋าเสื้อผ้า และของใช้ส่วนตัวที่เหลืออยู่ กลับมายังบ้านหลังเดิม...เธอแช่งชักหักกระดูกพิไลลักษณ์มาตลอดทาง เมื่อหญิงสาวที่ตัวเองเฝ้าฟูมฟัก...ขับไล่เหมือนไม่เคยมีบุญคุณ

          เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นกับเธอจนแทบจะตั้งรับไม่ทัน ทั้งๆ ที่คิดว่าจะได้เสวยสุขบนกองเงินกองทอง หลังเสี่ยกวงหลงใหลพิไลลักษณ์ เขาเลี้ยงดูหล่อนแบบลับๆ และส่งเสียเงินทองให้ใช้จ่ายแบบไม่ขัดสน แต่เพราะเธอนั่นแหละ!! เพราะความอยากไม่มีที่สิ้นสุด ติดอบายมุขงอมแงม เธอเลยใช้ชื่อเสี่ยกวงในการกู้ยืม ในฐานะแม่ยาย แต่...ดันไปเจอตอเข้าแบบจังเบอร์!! เจ้หงส์หยกโกรธจัด ส่งคนมากำหลาบพิไลลักษณ์ ซึ่งหญิงสาวก็ยอมเพื่อความสะดวกสบายของตัวเอง พิไลลักษณ์โยนความผิดทั้งหมดให้กับพิไล...เธอขับไสพิไลออกจากบ้าน เมื่อพิไลคอยแต่จะสร้างปัญหา ไม่สนใจเสียงลำเลิกบุญคุณ ที่พิไลก่นด่า

          เมื่อไม่มีที่ไป สาวใหญ่จึงหอบสมบัติส่วนตัวกลับรังเดิม ยังไงเสียก็มีที่ซุกหัวนอน

          “เร็วๆ สิยะ นั่นก็เบาๆ ด้วย กระเป๋าใบหนึ่งไม่ใช่ถูกๆ”

          หล่อนชี้นิ้วสั่งยิก เสียงดังลั่น จนคนที่อยู่ด้านในได้ยิน รัชนีเดินออกมาดู มีทะนงเดินตามมาห่างๆ

          “หล่อนน่ะ เปิดประตูให้ฉันหน่อย แล้วก็ขนกระเป๋าพวกนี้ไปไว้ในห้องฉันให้ด้วย”

          พิไลเชิดหน้าขึ้น เธอร้องสั่งรัชนี อวดอำนาจและข่มรัชนีเหมือนทุกครั้ง

          “คุณค่ารถยังไม่จ่าย” สารถีคนขับท้วง เพราะผู้โดยสารเรื่องมากทำท่าจะเดินหนี

          “จ่ายเงินค่ารถให้ฉันด้วย...” นางหันมาสั่งรัชนีซ้ำ เมื่อหล่อนผู้นั้นกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ข้างกระเป๋าใหญ่ๆ หลายสิบใบ

          “ไม่ต้อง!! แม่นี... วางกระเป๋าพวกนั้นไว้ตรงนั้นแหละ หากคุณพิเขาอยากจะกลับมาอยู่ที่นี่ ก็ให้เขาขนเอง...”

          ทะนงกล่าว เขามองภรรยาตัวเองตาขวาง

          “เอะ!! คุณพี่นี่ยังไง มันขนกระเป๋าให้น้องก็ถูกแล้วนี่คะ เมื่อบ้านนี้ไม่มีคนใช้ มันทำก็ถูกแล้วนี่”

          นางหันมาตวาดสามี

          “จะทะเลาะกัน จะตกลงอะไรกันก็ช่างเถอะครับ เอาค่ารถผมมาก่อน ผมจะได้ไปที่อื่นต่อ อย่าโยกโย้น่าคุณนาย”

          สารถีหน้าดุพูดแทรก ผัว-เมีย จะทะเลาะตบตีกัน เขาไม่เกี่ยว เขาต้องการแค่สตางค์ค่าโดยสาร นอกนั้นใครจะทำอะไรก็ช่าง

          “จ่ายสิยะ ยืนบื้ออะไรอยู่” พิไลหันไปตะคอกรัชนี

          มารดาวันวาดจึงสอดมือล้วงในกระเป๋ากางเกงเพื่อควานหาสตางค์

          “หมดตัวมาเลยเรอะคุณพิ ได้ข่าวมาแว่วๆ ว่าคุณพิริอ่านเดินตามรอยฉันหรือ?”

          ทะนงเปรย เขาถอนใจเฮือก มองภรรยาที่เคยมีสติด้วยสายตาทดท้อ

          “น้องก็แค่ฝึกสมอง...เหมือนที่คุณพี่เคยอ้างไงคะ”

          พิไลตอบเสียงแผ่ว เธอเสก้มหน้าหลบสายตาสามี

          รัชนีจัดการจ่ายเงินค่าโดยสารแทนพิไล เพราะดูแล้วพิไลคงไม่มีสตางค์ติดตัว สภาพของภรรยาตีทะเบียนของสามีแทบดูไม่ได้ จากคนที่เคยแต่งตัวเฉิดฉาย ใบหน้าเนียนใสเพราะเครื่องสำอาง บัดนี้ทรุดโทรมแทบจะไม่เหลือเค้าเดิม รอยยับย่นตรงหางตาและเหนือหน้าฝากมีให้เห็นมากขึ้นกว่าเดิมจนน่าตกใจ

          “เหอะ!! แต่ที่ฉันรู้มา มันไม่ใช่แบบนั้นสิคุณพิ”

          เป็นครั้งแรกที่ทะนงเสียงแข็งใส่ภรรยา

          “จะอะไรกันนักคะคุณพี่ น้องก็แค่หัดเล่น” สาวใหญ่เถียงกลับ หล่อนแสร้งทำปั้นปึ่งใส่ “แม่นี!! ฉันมาก็นานล่ะ ไม่คิดจะหาน้ำหาท่ามาให้กินกระกระหายบ้างรึ?” นางหันไปตวาดรัชนี เพราะหญิงสาวเป็นลูกไล่ และสามีไม่เคยว่า เมื่อเกรงอกเกรงใจ ในฐานะที่รัชนีเป็นเมียรอง

          “มือ เท้า ก็มี เดินไปหากินเองสิคุณพิ...บ้านนี้ไม่มีคนรับใช้ ต้องช่วยตัวเอง”

          และเป็นอีกครั้งที่ทะนงออกรับแทนภรรยารอง พิไลหันมามองสามีตาขุ่น

          “อะไรกันคะ!! น้องเคยใช้มันนี่ ทำไมจะใช้ไม่ได้”

          นางถามเสียงเขียว

          ทะนงสูดลมหายใจแรงๆ เขามองสบตาภรรยาแต่ง “นั่นมันเมื่อก่อน เวลานี้คือปัจจุบัน และรัชนีเป็นเจ้าบ้าน ไม่ใช่พี่หรือเธอนะคุณพิ” ชายสูงวัยตอบ เขายิ้มอ่อนๆ มุมปาก เมื่อท่าทางของพิไลน่าขัน หล่อนอ้าปากหวอ หันขวับไปมองรัชนีที่ยืนอยู่เยื้องๆ ตาโปน

          “อะ อะไรกัน น้องไม่เชื่อ...ทำไมคะ ทำไม!!”

          สาวใหญ่ถามกลับเสียงหลง

          “ก็อย่างที่รู้ บ้านหลังนี้พี่เอาไปจำนองไว้กับญาติคุณพิ...แต่เวลานี้รัชนีเขาไปถ่ายคืนมาแล้ว ดังนั้นบ้านหลังนี้ก็เป็นของเขาไปโดยปริยาย ที่นี้คิดจะทำอะไรก็เกรงใจเจ้าของบ้านเขาด้วย หากรัชนีเขาไม่พอใจ จะไล่คุณพิออกจากบ้าน พี่ก็คงช่วยไม่ได้”

          ทะนงอธิบายรายละเอียด โดยที่รัชนีส่ายหน้า นางไม่เห็นด้วยกับความคิดของสามีเลย บ้านก็ยังเป็นบ้านของทะนงเช่นเดิม ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แล้วทำไมสามีถึงบอกกับภรรยาแต่งของเขาแบบนั้น

          “น้องไม่เชื่อ!! แม่นี่จะมีเงินได้ยังไง ไม่ใช่น้อยๆ คุณพี่โกหกน้องเพราะไม่อยากให้น้องข่มมันสิ”

          นางยิ้มเย้ย รัชนีอยู่แต่ในบ้าน ยอมเป็นที่รองมือ รองเท้านาง งานการก็ไม่ได้ทำ ทำตัวประหนึ่งสาวใช้มาตั้งแต่เดินเข้ามาอยู่ใต้ชายคาพิศิษรุ่งเรือง...แล้วคนอย่างรัชนีจะมีสมบัติพัสถานได้ยังไง...

          “ไม่เชื่อก็กลับไปถามญาติคุณพิสิ เราไปไถ่บ้านคืนมาหรือยัง...”

          ทะนงไหวไหล่ เขาหันไปพยักหน้าให้รัชนี “ไปเขาบ้านกันเถอะแม่นี แดดตรงนี้ร้อน...ทำงานค้างอยู่ไม่ใช่รึ” ท่านมองเลยไปยังพิไลด้วยสายตาอ่อนเศร้า หล่อนกับเขาที่มีทั้งคุณวุฒิ และวัยวุฒิ แต่กลับไม่มีสามัญสำนึก หลงใหลอบายมุขจนครอบครัวเกือบล่มสลาย โชคดีที่มีบุตรเป็นอภิชาตบุตร วันวาดเป็นลูกกตัญญูโดยแท้ ทั้งๆ ที่ท่านก็ไม่ได้โอบอุ้มเลี้ยงดูมาอย่างดี แต่คนที่ยื่นมือเข้าช่วยกับเป็นบุตรสาวที่ท่านไม่ได้ใส่ใจ ผิดกับลูกบุญธรรมที่เคยหวังฝากผี ฝากไข้ ถนอมกล่อมเกลี้ยงมาอย่างดี กลับเนรคุณได้อย่างหน้าไม่อาย

          พิไลยืนคว้าง...เธอกระทืบปลายเท้าบนพื้นแรงๆ ขัดอก ขัดใจไปหมด ไม่คิดว่าเรื่องมันจะกลับตาลปัดได้แบบนี้

          จากนี้ไปเธอจะทำอย่างไรกับชีวิตดี ไม่มีที่ไป เหลือแค่ที่นี่เท่านั้น แต่จะให้ยอมลงให้รัชนี มันก็สุดแสนจะลำบากใจ...แต่จะทำไงได้ เวลานี้นางไม่มีที่ไปจริงๆ

          นางจึงก้มลงยกกระเป๋านับสิบใบด้วยตัวเอง ปากก็บ่นพึมพำไปด้วย เพราะรัชนีคงไม่ยอมช่วยนาง ตามคำสั่งของสามี

          “เวรกรรมของฉัน หึ!! เพราะไอ้บ่อนเวรนั่นแท้ๆ เชียว มันโกงฉัน...ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ตกต่ำขนาดนี้หร๊อก!! อีลูกเวร!! อีกคน เลี้ยงมากับมือแท้ๆ แต่ไม่สำนึกบุญคุณกันเลย ฉันจะสาปแช่งแกให้ไม่มีความสุข...ให้ตกนรกหมกไหม้ ไม่มีที่ซุกหัวนอนเหมือนฉัน”

          คำของแม่ เป็นเหมือนประกาศิต ถึงแม้จะไม้อุ้มท้องมา คำสาปแช่งนั่นก็มีผล...

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status