Share

บทที่13.ควานหาคนร้าย 2

“จริงเหรอ...ไม่แน่หรอก...” แป้นแย้งยิ้มๆ เธอไม่ใช่สาวใส ที่ไม่รู้อะไรเลย หลายครั้งที่โจนาธานแสดงออก มันเกินกว่าคนป่วยกับพยาบาล แม้ไม่เคยเห็นฉากเด็ดๆ เหมือนที่เอกเห็นวันนี้ แป้นแน่ใจ มันต้องมีอะไรในกอไผ่แน่...หนุ่ม สาวอยู่กันสองต่อสอง...ไม่มีอะไรเชียวหรือ เจ้านายหนุ่มถึงจะป่วย แต่ก็เป็นผู้ชาย...

          หญิงสาวพยายามอยู่เงียบๆ หลังเอกเข็นวีแชร์พาโจนาธานมาส่งในห้องพัก...

          ชายหนุ่มไม่ยอมขึ้นเตียง เขาเปลี่ยนอิริยาบถ นั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง มีรีโหมตทีวีจอยักษ์อยู่ในมือ เขากดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ เมื่อรู้สึกเบื่อๆ ตาก็คอยแต่จะมองตามวันวาด เมื่อหล่อนทำตัวเหมือนยุ่งเหลือเกิน จนไม่มีเวลาหยุดนิ่งให้เขามีโอกาสได้แควะ!!

          “ม้าดีดไง? เดินเหมือนกลัวไม่ได้ออกแรง”

          แก้วน้ำเย็นเฉียบมีไอน้ำเกาะพราวรอบตัวแก้ว วันวาดเดินถือมาวางไว้ใกล้ๆ โจนาธานชายหนุ่มจึงถือโอกาส จัดให้หนึ่งดอก!!

          หล่อนไม่ได้ตอบ แต่นั่นเท่ากับทำให้พายุอารมณ์ของโจนาธานพัดกระพือขึ้น!!

          “พูดกับฉันเนี๊ยะ!! มันจะทำให้ดอกพิกุลหล่นจากปากเธอเหรอหะ!!” ชายหนุ่มตวาดเสียงแหลมปรี๊ด

          หญิงสาวถอนใจ เธอหมุนตัวเดินหนี แก้วน้ำใบนั้นเลยการเป็นที่ระบายอารมณ์ของโจนาธาน

          เพล้ง!

          โจนาธานสะบัดมือ ปัดแก้วน้ำโชคร้าย หล่นแตกละเอียดบนพื้น...เกร็ดน้ำแข็งเกลื่อนกระจายบนพื้นพรม น้ำกระเซ็นเปียกเป็นหย่อมๆ

          “อุ้ยตาย....อย่าค่ะ อย่าเข้ามา แป้นเอง แป้นจัดการเอง”

          ชายหนุ่มกำลังจะแผดเสียง แต่สาวใช้ตัวอวบรีบถลาเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน แป้นวิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามา ในมือหล่อนมีทั้งไม้กวาดและถังขยะ

          ท่ามกลางความวุ่นวาย มีสายตาสองคู่มองสบกัน ดวงตาคู่หนึ่งอ่อนเศร้า แต่ดวงตาอีกคู่เล่ากับขึงขัง แต่เมื่อดวงตาเศร้าๆ เบือนหนี ดวงตาทะมึงถึงขึงขังกลับสลดลง...ทำท่าเหมือนอยากจะขอโทษ แต่ปากหนักพูดไม่ออก ยิ่งเมื่อเขาเห็นเกร็ดน้ำตาเล็กๆ ที่บังเอิญเห็นแบบไม่ตั้งใจ เพราะหญิงสาวจงใจ เธอก้มหน้าลงยกมือกรีดน้ำตาทิ้งเร็วๆ

          ความโกรธมากมี มลายหายไปจนหมด...นึกอย่าตบปากตัวเองแรงๆ เพื่อเป็นการทำโทษ

          “เดี๋ยววาดมานะแป้น...ออกไปสูดอากาศหน่อย”

          ชายหนุ่มทำท่าเหมือนจะรั้งไว้ แต่สาวเจ้าเดินตัวปลิวออกไปแล้ว จึงได้แต่นั่งคอตก...

          “เอกๆ พาฉันออกไปนั่งที่ระเบียงที”

          ในห้องอึดอัดและร้อน โจนาธานนั่งไม่ติด เมื่อไม่เห็นวันวาดในสายตา

          เอกวิ่งหน้าตั้งเข้ามา เขาจัดการเข็นรถวีแชร์ที่จอดอยู่มุมห้อง พร้อมกับช่วยประคองนายหนุ่มขึ้นไปนั่งบนนั้น ก่อนจะเข็นออกรถวีแชร์ไปที่ระเบียง

          มันเป็นมุมโปรดหากอยู่ในช่วงที่โจนาธานอารมณ์ดี แต่เวลาเช่นนี้เขาหงุดหงิด จนแม้แต่ทิวทัศน์สวยๆ ยังดูขัดนัยน์ตา

          สายน้ำไหลเอื่อยๆ ทิวไม้เขียวขจี แต่ไม่สามารถลดอุณหภูมิร้อนๆ ในร่างกายเขาลงได้

          ชายหนุ่มทอดสายตาเหม่อลอย มองไปทั่ว ไม่ได้โฟกัสจุดใดจุดหนึ่ง...จนกระทั่งรถยนต์สปอร์ตหรูสีดำทะมึน ตีวงเลี้ยวเข้ามาจอดตรงโถงหน้าบ้าน รถยนต์คันนั้นคือรถยนต์คันโปรดของเบน

          พี่ชายของเขาเปิดประตูลงมายืนด้านข้างรถยนต์ ร่างสูงใหญ่ของเบนสูงสง่า หากเป็นเมื่อก่อนโจนาธานรู้สึกเฉยๆ แต่วันนี้กลับรู้สึกตรงกันข้าม เขารู้สึกขวางตากับความองอาจผึงผายของเบน...

          ไม่ไกลจากที่เบนยืนอยู่ วันวาดอยู่ตรงนั้น หล่อนกำลังเดินทอดน่อง...ปล่อยอารมณ์ไปกับธรรมชาติ

          เบนเปลี่ยนเป้าหมายเขาเดินไปหาวันวาด และนั่นทำให้คนที่กำลังมองแทบเต้น มือของโจนาธานกำแน่น...เขาจ้องมองทั้งสองคนตาโปน...รู้สึกเหมือนถูกบีบจนหายใจไม่ออก และยิ่งวันวาดหันมายิ้มให้กับเบน โจนาธานเจ็บจนจุก มันแปลบปราบไปทั้งหัวใจ...เหมือนมีเข็มนับพันเล่ม ทิ่มแทงอยู่ตรงนั้น

          เพราะโทสะ โจนาธานจึงคิดอคติ เบนมีคนอยู่ข้างกายตลอด เขาไม่เคยอยู่คนเดียว ด้านหลังเบน คือ...ไทย...

          เพลิงโทสะกัดกินจิตใจของโจนาธานจนมืดดำ...เขานั่งกัดฟันกรอดๆ มโนไปต่างๆ นา ทุกเรื่องที่คิดในหัวไม่มีเรื่องดีสักเรื่องเดียว

          ดังนั้นเมื่อวันวาดย้อนกลับมาอีกครั้ง...เธอคิดว่าโมหะของโจนาธานคงจางหายไป เมื่อเธอทอดเวลาไว้พอสมควร

          เปล่าเลย...เมื่อเธอเผลอตัวมองสบนัยน์ตาของชายหนุ่ม...ในดวงตาของโจนาธานมีแต่ความโกรธ หญิงสาวผ่อนลมหายใจ เธอเดินเลี่ยงหลบไปอยู่มุมห้อง พยายามสงบปากสงบคำ เพื่อไม่ให้ตัวเองกระตุ้นความโกรธของชายหนุ่มขึ้นอีก...

          คืนนั้นจึงเป็นคืนแรก...ที่ชายหนุ่มนอนพลิกตัวไปมา เขานอนไม่หลับตามันค้าง ไม่สามารถสลัดภาพของวันวาดที่ยืนเคียงกับเบนได้เลย

          เขากลัว...

          กว่าจะหลับลงได้ เวลาก็เลยวันใหม่ไปกว่า2 ชั่วโมง โจนาธานไม่รู้ วันวาดเองก็ไม่สบายใจ เธอนอนกระสับกระส่าย น้ำตาไหลปริ่ม...เจ็บหัวใจจี๊ดๆ แต่บอกใครไม่ได้ เมื่อเธอรู้ตัวเองดี...เธอเป็นแค่ผู้หญิงมีราคี...เป็นแค่ลูกหนี้ทำงานใช้แรง เป็นแค่นางบำเรอชั่วคราวที่ไม่มีสิทธิ์มีเสียง...

          ตอนเช้าโจนาธานคิดจะขอโทษวันวาด...แต่หน้าหมองๆ แววตาช้ำๆ ของหล่อน ก็ทำให้เขาเกิดโทสะซ้ำ

          “ที่นอนไม่หลับ พลิกไปพลิกมาจนฉันพลอยไม่หลับไปด้วยนี่เพราะคิดถึงผู้ชายอยู่สิ!!”

          ชายหนุ่มกัดฟันพูด เขาผลักถ้วยข้าวออกห่างตัว จนน้ำในแก้วกระฉอกออกมาจะเปรอะไปทั่วทั้งหน้าขา

          หญิงสาวเม้มปากแน่น เธอกลั้นน้ำตาสุดฤทธิ์ เอื้อมมือสั่นๆ ดึงกระดาษทิชชูในกล่องมาซับหยดน้ำที่ขาของ      โจนาธานโดยไม่พูดอะไรเลย

          “อย่างว่าละ...ของมันเคยเสียแล้ว...ถ้าอยากก็บอกฉันสิ ฉันช่วยสงเคราะห์ให้ ไม่คิดสตางค์ด้วย...ท่าจะคันจนกลั้นไว้ไม่อยู่ ถึงได้ไปคอยอ่อยเบน ส่งตาฉอเลาะพี่ชายฉัน เป็นไงล่ะ เบนมันชายตาแลเธอมั้ย!!”

          เสียงกร้าวที่ผ่านไรฟันออกมา เพราะโจนาธานกัดฟันกรอดๆ ขณะที่พูดเสียดสีหญิงสาว

          น้ำตาไหลปริ่มๆ เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาลวกๆ สูดจมูกแรงๆ กลั้นความเจ็บช้ำไว้ ก้มหน้าทำงานตรงหน้า พยายามไม่สนใจคำเสียดสีที่ชายหนุ่มพ่นออกมา แม้จะเจ็บร้าวไปทั้งหว่างอก

          “เธอเป็นใบ้งั้ย!!” ชายหนุ่มตะคอก เขาชักเหลืออดกับท่าทีเฉยชาของหล่อนแล้ว

          วันวาดเงยหน้าขึ้น น้ำตาเธอเอ่อ จวนเจียนจะหยด เธอเม้มปากแน่น

          “คุณอยากพูดอะไรก็เชิญเถอะค่ะ ถ้าคิดว่าสิ่งที่ทำออกมาแล้วสบายใจ วาดทนได้ แค่นี้คงไม่ถึงตาย”

          เธอตอบเสียงเรียบ แม้หางเสียงจะสั่นพร่า ไม่ตายหรอกแค่คำพูดเสียดสี แม้จะเจ็บร้าวไปทั้งใจ แต่...อีกสักพักเธอก็หาย...

          “ถ้าคุณอยากหาย...อยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ยากับอาหารจะเป็นส่วนช่วย วาดไม่ได้บังคับให้คุณกิน แต่คุณน่าจะคิดได้เอง ส่วนเรื่องที่คุณพ่นใส่หน้าวาด...เรื่องความ...อยากนั่น...วาดไม่ต้องการ วาดไม่ตายหรอก แค่เรื่องนั้น คุณนั่นแหละที่ทำท่าเหมือนจะตาย...หากต้องการมากขนาดนั้น บอกพี่เอกสิคะ พี่เอกคงสามารถช่วยคุณได้” เธอตอกกลับชายหนุ่ม ดันโต๊ะทานอาหารบนเตียงชิดตัวโจนาธานมากขึ้น พร้อมกับมองสบนัยน์ตาเขาแบบท้าทาย ดวงตาของวันวาดว่างเปล่า ไม่มีความขึ้งโกรธ โจนาธานเห็นแค่ฉาบน้ำตาที่เออคลอแค่นั้น

          “แป้น...ตารางเวลากินยา วาดวางไว้ตรงนั้นนะ อาหารกลางวันกับตอนเย็น วาดจดไว้แล้ว อย่าลืมละ”

          “ค่ะ...คุณวาด”

          เธอเดินผละไป แป้นเดินสวนเข้ามาอย่างรู้เวลา เมื่อวันวาดต้องกลับบ้าน ถึงเวลาที่เธอต้องไปทำงานที่โรงพยาบาล

          หญิงสาวเชิดหน้าเดินออกไปอย่างทระนง โดยมีสายตาละห้อยมองตามไปจนลับตา...

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status