ครู่ต่อมา
"ได้ยินว่าคุณจะหมั้น"
ลอเลนโซ่ขอตัวจะทุกคนมาคุยกับเคลี่ที่ลานOutdoorของโรงแรมเพราะตอนนี้ที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบเหมาะแก่การที่เขาจะเคลียร์ปัญหาหัวใจกับเธอที่เขาต้องรีบกลับมาที่นี่อย่างกะทันหันเพราะรู้ว่าเธอกลับมาเมืองไทยโดยที่ไม่บอกเขานั่นเอง
"ค่ะ... เมื่อเจอคนที่ใช่ฉันก็อยากจะใช้ชีวิตครอบครัว"
"แต่คุณกลับมาโดยไม่ได้บอกผมก่อนคุณจงใจหนีผมกลับมา"
ลอเลนโซ่พูดด้วยท่าทีน้อยใจ
"ฉันไม่ได้หนีค่ะแต่เราจบกันไปแล้วฉันจะไปไหนจะทำอะไรมันก็ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องรับรู้"
เคลี่เห็นว่าเรื่องนี้เธอไม่จำเป็นต้องบอกเขาเพราะเธอเลือกที่จะจบกับเขาตั้งแต่อยู่ที่เนเธอร์แลนด์แล้วและเธอก็ได้เจอคนที่เข้ากับเธอได้และเธอก็อยากสร้างครอบครัวร่วมกับเขา
"ผมมันด้อยกว่าคู่หมั้นคุณตรงไหนทำไมระยะเวลาหลายปีที่ผมคบกับคุณขอคุณแต่งงานครั้งแล้วครั้งเล่าคุณไม่เคยจะตกลงแต่กับคนอื่นคบไม่กี่เดือนกลับจะหมั้นกันเสียอย่างนั้น
ลอเลนโซสบถออกมาอย่างไม่ยอมรับความจริงและน้อยใจ
"ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าฉันจะไม่รักคุณนะคะแต่ฉันไม่เห็นว่าคนอย่างคุณจะมีความคิดที่โตพอจะเป็นหัวหน้าครอบครัวได้ฉันว่าฉันให้เวลาคุณมามากพอแล้วนะคะกับการพิสูจน์แต่คุณก็ยังไม่สามารถที่จะทำให้ฉันเห็นได้ดังนั้นตอนนี้เราจบกันด้วยดีดีกว่านะคะ"
ที่เธอเลือกจะจบกับเขาเพราะเธออยากจะเป็นเพื่อนกับเขาได้และอยากมองหน้ากันติดก่อนที่เธอจะทนจนมันระเบิดออกมา
ในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยสร้างหรือทำให้เธอเห็นว่าเขาสามารถเป็นผู้นำครอบครัวได้มีแต่เตร็ดเตร่และทำตัวเสเพลไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้นหากเขาไม่มีสมบัติมากมายและมีพี่ชายกับคุณย่าคอยหนุนหลังอยู่ตัวเขาเองก็เป็นผู้ชายที่ไม่มีอะไรเลยเหมือนกันเมื่อพูดจบหญิงสาวจึงเดินออกไปทันทีเพราะคิดว่าไม่มีอะไรที่ต้องอธิบายแล้ว
"....."
ลอเลนโซนั่งหน้าชาอยู่พักใหญ่ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ถูกที่เขากลับมาที่นี่เพราะเขาต้องการจะง้อเธอแต่ก็มาได้ยินข่าวว่าเธอจะหมั้นเสียก่อน
ชายหนุ่มหยิบกล่องแหวนในกระเป๋ากางเกงออกมาดูอย่างช้ำใจในมือของเขาเป็นแหวนที่เขาสั่งทำมาเพื่อเธอเพื่อที่จะขอเธอแต่งงานเพราะครั้งก่อนก่อนเขายังไม่มีของแทนใจอะไรให้เธอได้จะพูดปากเปล่าเท่านั้นแต่ตอนนี้ดูเหมือนที่เขาทำมามันจะไม่มีค่าอะไรแล้ว
"เราคุยธุระกัยเรียบร้อยแล้วค่ะคุณหมอ"
เคลี่เดินออกมาบอกหมอสาวที่ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าว่าเธอคุยธุระเสร็จแล้วให้หมอสาวเข้าไปดูแลคนไข้ของเธอได้
"อ๋อ..ค่ะ"
ลัลลลินพยักหน้ารับหญิงสาวพร้อมเดินออกไปที่ลาน Outdoorหาชายหนุ่ม
"..ทำไม.."
ลอเลนโซ่กำกล่องแหวนแน่นอย่างเจ็บใจ
"คุณ...ทำไมทำหน้าเป็นหมาหงอยอย่างนั้นล่ะ"
ลัลลลิลเห็นสีหน้าของชายหนุามดูท่าจะไม่สู้ดีนัก
"ออกไปข้างนอกกันเถอะ"
ลอเลนโซพาตัวเองออกไปจากตรงนี้เพื่อที่จะเข้าไปในงานด้วยสีหน้าหมดอาลัยตายอยาก
"....."
ลัลลลิลทำหน้างงเล็กน้อยที่ตอนนี้ชายหนุ่มไม่เถียงกับเธอเหมือนอย่างเดิมที่เคยทำจึงอยากรู้นักว่าเมื่อคู่ทั้งสองคุยอะไรกันถึงทำให้ชายหนุ่มนั้นดูช็อตได้ขนาดนี้
ด้านในของงาน
"ขอถ่ายรูปครอบครัวหน่อยนะคะ"
"ได้ครับ"
แชะๆๆๆๆ
นักข่าวหลายสำนักเมื่อรู้ว่าฟรานซิสนักธุรกิจหนุ่มอันดับหนึ่งที่ไม่ค่อยจะออกสังคมนักมาเปิดตัวภรรยาและลูกที่นี่ก็พากันรัวภาพไม่ยอมหยุดพักใหญ่
"นั่นคุณลอสนี่"
นักข่าวกลุ่มใหญ่เมื่อหันไปเห็นลอเลนโซนั่งอยู่บนรถเข็นก็รีบย้ายกันกูเข้าไปสัมภาษณ์ใช้นมอย่างรวดเร็ว
"ไม่ทราบว่าคุณลอสเป็นอะไรคะถึงได้ใส่เฝือกแขนขาแบบนี้"
"อุบัติเหตุจากการลองสนามแข่งน่ะครับก็แค่แขนขาหัก..พี่ๆมาสัมภาษณ์ผมพอดีเลยงั้นผมขอแจ้งข่าวดีให้พี่ๆทราบก็แล้วกันนะครับ"
"เรื่องอะไรคะ"
นักข่าวหลายท่านต่างก็ฮือฮากับคำบอกกล่าวของชายหนุ่มทั้งยังดีใจที่มางานวันนี้ท่าจะได้ข่าวไปหลายข่าวอยู่พอสมควร
"เอ่อ.."
ลัลลลิลตกใจเล็กน้อยที่จู่ๆลอเรนโซก็ดึงมือซ้ายเธอไปจับซะอย่างนั้น
"ผมกำลังจะแต่งงานกับหมอลินครับ"
"หา..."
นักข่าวต่างคนต่างตกใจไปตามๆกันคนที่ดูจะตกใจมากที่สุดก็ดูจะเป็นลัลลลิลที่ตอนนี้ตัวเกร็งทำอะไรไม่ถูกไม่คิดว่าชายหนุ่มจะพูดอะไรออกมาแบบนี้
"ยินดีด้วยนะครับแล้วทั้งสองรู้จักกันได้ยังไงคะ"
"เธอเป็นเพื่อนพี่สะใภ้ผมน่ะครับแล้วก็ตอนนี้ก็เป็นหมอประจำตัวคอยดูแลผมอยู่ตลอดด้วย"
"อะไรของคุณเนี่ย..."
ลัลลลิลทนยืนอยู่ตรงนี้ไม่ไหวเพราะเธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มเล่นอะไรเธอจึงรีบวิ่งเข้าไปหาที่หลบทันที
"คุณลินคะ/คุณลินครับอยู่สัมภาษณ์ก่อนครับ"
จากที่นักข่าวยังตกใจกับข่าวมากลูกยังจะต้องตกใจกับอาการของลัลลลิลอีกครั้ง
"เอ่อพอดีเธอขี้อายน่ะครับเรื่องที่ผมจะบอกก็มีแค่นี้แหละครับ"
ลอเลนโซแก้ตัวน้ำขุ่นๆเขาจะทำให้เคลี่รู้ว่าคนอย่างเขาก็มีตัวเลือกเหมือนกันไม่ใช่มีเพียงเธอที่เลือกได้เพียงคนเดียว
"ทำไมคุณลอสบอกกับนักข่าวแบบนั้นล่ะคะ"
ปลายฝนเงยหน้ามาถามฟรานซิสยังไม่เข้าใจในการกระทำของลอเลนโซ
"นั่นน่ะสิ"
ฟรานซิสเองก็ยังอึ้งกับเรื่องเมื่อครู่เหมือนกันไม่อาจคาดเดาสาเหตุครั้งนี้ได้
"เดี๋ยวปลายขอไปดูลินก่อนนะคะ"
ปลายฝนคิดว่าตอนนี้เธอจะต้องไปดูเพื่อนเธอเสียก่อน
"อืม.."
ฟรานซิสพยักหน้าอนุญาต
"คุณครับมีคนฝากมาให้คุณ"
บริกรหนุ่มเดินถือกระดาษที่มีคนฝากมาให้ฟรานซิส
"กู..จะ..ฆ่า..ทั้ง..ลูก..แล้วก็..เมีย..มึง"
"คนที่ให้อยู่ที่ไหน"
เมื่อฟรานซิสได้เปิดอ่านข้อความทั้งหมดก็รีบทำบริกรหนุ่มว่าคนที่ส่งจดหมายให้เขานั้นอยู่ที่ไหน
"เค้าบอกให้คุณไปเจอที่ลานจอดรถครับ"
บริกรหนุ่มชี้ไปทางลานจอดรถด้านหลัง
"...."
เมื่อฟรานซิสรู้อย่างนั้นเขาก็รีบสาวเท้ายาวๆไปหาตัวต้นเหตุที่กล้ามาหยามคนอย่างเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจเอาเสียมากๆ
ห้องวีไอพี
"ทำไมไปพูดกับนักข่าวอย่างนั้นตาเล็กรู้รึเปล่าไปพูดแบบนั้นชีวิตหมอลินจะต้องเจอกับอะไร"
เฮเลนนั่งกุมขมับต่อว่าหลานชายคนเล็กของเธออย่างหัวเสียที่ทำอะไรไม่คิด
"....."ลอเลนโซยังคงนั่งนิ่งไม่ได้พูดอะไรเพราะเขาไม่มีอะไรจะปฏิเสธ"อย่าคิดว่าย่าไม่รู้ว่าแกต้องการจะประชดใครนะทำตัวเป็นเด็กแบบนี้คิดเหรอว่าจะมีใครเค้าเอาไปเป็นหัวหน้าครอบครัวหน่ะ"เฮเลนพอจะรู้ว่าหลานชายเธอทำไปด้วยเรื่องอะไรแต่ที่เธอโมโหมากๆก็คือไม่รู้ว่าทำไมหลานชายของเธอจะต้องดึงลัลลลิลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทั้งที่เธอก็ไม่รู้อิโหน่อิเหน่และผลที่มันจะตามมามันไม่ใช่ผลดีต่อลัลลลิลเลยสักนิดอีกหน่อยชีวิตของเธอก็ถูกจับตามองไปด้วยสื่ออีกอย่างหากวันนึงหลานชายเธอเปลี่ยนใจประกาศข่าวไม่แต่งงานหรือรักหรือเลิกอะไรกันก็เท่ากับว่าหญิงสาวเคยมีข่าวว่ามีแฟนแล้วแบบนี้ก็จะเป็นเหตุทำให้หญิงสาวเสียหายได้เธออยากจะรู้จริงๆว่าจะมีวันไหนที่หลานชายของเธอคิดอะไรที่มันรอบคอบสักนิดก่อนจะตัดสินใจทำอะไรลงไป"...."ลอเลนโซยอมรับว่าเรื่องเมื่อครู่เขาทำไปด้วยความสะใจและเพิ่งจะไตร่ตรองเรื่องปัญหาที่ตามมาของหญิงสาวได้เมื่อครู่นี้เอง"เราจะทำให้ย่าปวดหัวไปถึงไหนห้ะ"เป็นครั้งนี้ที่เธอดูจะโมโหหลานชายเธอเอามากๆเพราะไม่ได้สร้างปัญหาคนเดียวยังจะดึงคนอื่นมาเป็นปัญหาด้วยอีกปลายฝนเดินมาหาเพื่อนของเธอที่กำลังหลบมุมนักข่าวอยู่"
"ยังจะมาห่วงฉันอีกห่วงตัวเองก่อนเอาตัวมาบังแบบนั้นได้ยังไง"ฟรานซิสเอื้อมมือไปแตะใบหน้าของหญิงสาวเบาๆความรู้สึกของเขาตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงเธออย่างบอกไม่ถูกหากวันนี้เธอไม่ตื่นขึ้นมาจะเป็นอย่างไร"ฉันกลัวคุณตาย"ปลายฝนพูดตามความคิดของเธอในเวลานั้น"แล้วเธอไม่กลัวตัวเองตายหรือไง"ฟรานซิสเชื่อเธอเลยดูหญิงสาวพูดเข้าดูเธอเหมือนจะไม่ห่วงตัวเองเอาเสียเลย"ก็กลัว... แต่ตอนนั้นไม่ทันคิดนี่นา" ปลายฝนหลบสายตาลงเล็กน้อยเธอไม่ใช่ไม่กลัวแต่ตอนนั้นเธอเป็นห่วงเขามากกว่า"เธอเป็นแม่คนแล้วต้องคิดให้เยอะๆสิถ้าเธอเป็นอะไรไปต้นหนาวจะอยู่ยังไง""อยู่กับคุณไงคะ""ฉันไม่อยากเสียใครไปทั้งนั้นลูกฉันต้องมีแม่ฉันเป็นห่วงเธอนะคราวหน้าคราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกเข้าใจไหม"ฟรานซิสพูดด้วยท่าทีรู้สึกผิดที่ความบาดหมางของเขากับใครก็ยังไม่รู้มาทำให้เธอต้องโดนลูกหลงโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่"คุณเป็นห่วงฉันเหรอคะ"ปลายฝนถามด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ"อืม.. นอนพักผ่อนเถอะ"ฟรานซิสพยักหน้าทั้งสั่งให้เธอหยุดพูดเพราะอยากจะให้เธอพักผ่อนก่อนในตอนนี้"ต้นหนาวล่ะคะ"คนที่เธอจะอดห่วงไม่ได้ก็คือลูกชายของเธอนั่นเองจึงถามชายหนุ่มว่าตอนนี้ต้นหนาวนั้นอยู
ชั่วโมงต่อมาโกดังเก็บสินค้าปึ้กกกกกกก."ดูท่ามันจะเยาะเย้ยฉันมากเกินไปแล้ว"หลังจากที่มอแกนโทรมาบอกว่าโกดังเก็บสินค้าของบริษัทไฟไหม้กะทันหันเขาจึงมาดูที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วเมื่อสำรวจรอบรอบก็พบว่านี่ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดาแต่มีคนจงใจทำให้มันเกิดขึ้นและจงใจทิ้งร่องรอยให้เขาได้ดูต่างหน้าอย่างเย้ยหยันฟรานซิสเตะกระติกน้ำมันจนกระเด็นกระดอนอย่างโมโหเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เขารู้ว่าคนที่จงใจจะทำร้ายเขาไม่เกรงกลัวในอิทธิพลของเขาเลยสักนิด"กล้องวงจรใช้ไม่ได้เหมือนเหตุการณ์เมื่อคืนเลยครับนาย"อีธานและมอแกนช่วยกันตรวจสอบกล้องวงจรปิดเหมือนกับว่ากล้องที่โกดังนี้จะถูกทำลายก่อนที่เรื่องจะเกิดขึ้นทั้งที่ความปลอดภัยที่นี่ค่อนข้างจะแน่นหนาคนที่ทำแบบนี้ได้จะต้องเป็นคนมีฝีมือในระดับนึงเลยทีเดียว"สอบคนงานที่นี่ทุกคนว่าเห็นใครแปลกหน้าบ้างหรือเปล่า"ฟรานซิสคิดว่าเขาจะประมาทคนพวกนี้ไม่ได้เสียแล้วตอนนี้เขาต้องเพิ่มความปลอดภัยในทุกๆที่ของธุรกิจเขาและต้องจริงจังในการหาตัวคนที่มันคิดจะทำลายเขาให้ได้เร็วที่สุด"ครับ"สามวันต่อมาคฤหาสน์ฮันส์วันนี้เป็นวันที่ปลายฝนได้ออกจากโรงพยาบาลกลับมาพักอยู่ที่บ้านฟรานซิสให้
ครู่ต่อมา"คุณฟรานคะ"ปลายฝนเดินถือถุงกล่องอาหารเข้ามาในห้องทำงานของชายหนุ่มในช่วงพักกลางวัน"ฉันว่าแล้วว่าเธอต้องมา"ฟรานซิสยกยิ้มอย่างพอใจเขารู้ดีว่ายังไงเธอก็ต้องมาหาเขาอยู่ดีแต่แปลกใจว่าวันนี้ทำไมเธอถึงไม่พาลูกมาด้วย"มากินข้าวกลางวันกับคุณไงคะ""ต้นหนาวล่ะ""ตอนแรกก็จะพามาด้วยแต่คุณย่าสิคะท่าจะติดเหลนบอกว่าไม่อยากให้พาต้นหนาวออกมาข้างนอกบ่อยๆ""ดีแล้วล่ะตอนนี้ทางที่ดีอย่าพาลูกออกไปไหนมาไหนบ่อยเลย""ทำไมเหรอคะ"ปลายฝนทำหน้าสงสัยพร้อมเข้าไปนั่งตรงข้ามกับชายหนุ่ม"ก็...อืม...ช่วงนี้มลพิษค่อนข้างเยอะอยู่บ้านจะดีกว่า"ฟรานซิสยังไม่อยากบอกอะไรเธอตอนนี้หากได้จังหวะดีๆแล้วค่อยบอกเธอว่าทำไมเขาจึงอยากให้เธอระวังตัว"อ๋อ..เข้าใจแล้วค่ะ"หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจพร้อมแกะกล่องอาหารวางตรงหน้าของเขาพร้อมกับของเธอ"กินข้าวดีกว่านะคะ""ป้อนสิ"ฟรานซิสเลื่อนโต๊ะมานั่งฝั่งเดียวกับหญิงสาวทั้งยังทำสีหน้าออดอ้อนเธอให้ป้อนข้าวเขาอีกด้วย"คะ"ปลายฝนเอียงหน้าอย่างแปลกใจที่วันนี้ดูท่าเขาจะอ้อนเธอเป็นพิเศษ"อยากให้เธอป้อน""เดี๋ยวนี้อ้อนเก่งนะคะ"ปลายฝนหลี่ตาลงเล็กน้อยแต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะป้อนเขา"คนมีแฟนจ
"นี่คุณหยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ... คุณแม่คะไม่จริงนะคะเค้าโกหก""ยังไงคุณก็ต้องแต่งงานกับผม""หยุดเถียงกันทั้งคู่เลย.. โอ้ยแม่ปวดหัว""คุณแม่คะ""คุณลอสคุณให้ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายคุณรีบมาคุยให้เรียบร้อยเลย"ณฤดีคิดว่าคงไม่มีผู้ชายคนไหนจะอยากรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำที่เขาพูดมาทั้งหมดเธอจึงเชื่อและอยากจะให้ผู้ใหญ่ทางฝ่ายชายมาคุยกับเธอให้เร็วที่สุดเพราะเรื่องนี้คนในบ้านเธอรู้เรื่องจากคำพูดของชายหนุ่มหมดแล้วแถมสื่อก็จับตามองอย่างมากอีกด้วยหากไม่ทำอะไรให้มันเสร็จสิ้นก็คงจะเป็นขี้ปากคนอื่นไปทั่วไม่เว้นแม้แต่แม่บ้านเธอเอง"ครับ"ลอเลนโซแอบยกยิ้มเล็กน้อยที่ดูท่าแม่ของลัลลลิลจะเชื่อเขาเสียมากกว่า"คุณแม่ฟังหนูบ้างรึเปล่าคะ"ลัลลลิลมองหน้าแม่ของเธออย่างตัดพ้อ"นี่เราเชคตัวเองบ้างรึเปล่าเดี๋ยวจะท้องก่อนแต่งล่ะแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน"ตอนนี้สิ่งที่ณฤดีห่วงที่สุดก็กลัวว่าลูกเธอจะท้องก่อนแต่งคำพูดอะไรต่อมิอะไรเธอไม่ได้ยินรู้สึกหูอื้อตาลายไปหมดแล้ว"คุณแม่คะ!!"ลัลลลิลแทบจะร้องให้และอยากจะฉีกเนื้อคนที่มันสร้างเรื่องให้เธอเป็นชิ้นๆ"เอี้ยงพาฉันไปพักฉันปวดหัว"ณฤดีมิอาจทนอยู่ตรงนี้ต่อไปได้เธอจึงให้นกเอี้ยง
ครู่ต่อมาแกร๊กก"ต้นหนาวล่ะคะ"ปลายฝนเข้าห้องมาเห็นว่าฟรานซิสนอนอยู่ที่เตียงคนเดียวคิดว่าเขาจะไปรับต้นหนาวมาแล้วเสียอีก"คืนนี้ฉันฝากไว้กับคุณย่า"ฟรานซิสตอบหญิงสาวด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์"รบกวนคุณย่ารึเปล่าคะฉันไปพาต้นหนาวกลับมาดีกว่า""ไม่ต้องหรอก"ปลายฝนไม่อยากรบกวนอะไรคุณย่ามากนักเพราะกลัวว่าต้นหนาวจะงอแงตอนกลางคืนแล้วทำให้คุณย่าไม่ได้นอน"อื้อ...จ..จะทำอะไรคะ"ฟรานซิสเห็นว่าหญิงสาวกำลังจะเดินออกจากห้องไปเขาจึงรีบคว้าตัวเธอไว้ก่อนและใช้สองมือหนาขึงข้อมือหญิงสาวไว้กับผนังห้องจนเธอมีสีหน้าตกใจ"พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปจดทะเบียนสมรส"ฟรานซิสโน้มตัวลงมากระซิบจ้างหูหญิงสาวเบาๆ"คุณฟราน..พูดจริงเหรอคะ"ปลายฝนถึงกับยิ้มกว้างตาเป็นประกายดีใจที่เขาอยากจะจดทะเบียนกับเธอ"จริงสิ..ต้นหนาวจะได้เป็นลูกฉันถูกต้องตามกฏหมายซะที""ค่ะ"ปลายฝนพยักหน้าตอบเขาด้วยรอยยิ้ม"แล้วเธอก็ด้วยเธอจะได้เป็นเมียฉันถูกต้องตามนิตินัย...และ...คืนนี้..ก็...จะถูกต้องตามพฤตินัยด้วย"คำพูดนุ่มนวลแหบพร่าข้างๆหูของหญิงสาวตอนนี้ทำให้เธอตัวชาวาบทำอะไรไม่ถูกแต่รู้ว่าตอนนี้หน้าของเธอคงแดงก่ำเป็นลูกตำลึงแน่นอน"เอ่อ..อื้มมม.."ฟรานซ
"อยากได้กี่คนล่ะครับเดี๋ยวผมทำให้"ฟรานซิสตอบคุณย่าของเขาทั้งวางหญิงสาวลงเพื่อยืนคุยกับคุณย่าของพวกเขาดีๆ"คุณ.."ปลายฝนยกมือเรียวตีไปที่ลำแขนแกร่งชายหนุ่มแก้เขินเบาๆ"อย่าทำเป็นคุยโวไปหน่อยเลยเราน่ะ... แล้วนี่จะไปไหนกันแต่เช้า""อ๋อ.. ออกไปธุระข้างนอกสักพักน่ะครับต้นหนาวล่ะครับ""ไปเล่นกับพวกบอดี้การ์ดอยู่ในสวนที่บ้านเล็กโน่นแหละเดี๋ยวย่าดูให้เองเราสองคนจะไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ""ครับคุณย่า"เมื่อคุยกับคุณย่าจบชายหนุ่มก็อุ้มหญิงสาวออกไปเหมือนเดิม"นี่คุณฉันเดินเองได้""ก็จะอุ้มไง""...."เฮเลนอมยิ้มตามหลังหลานๆของเธอเมื่อเห็นแบบนี้แล้วคิดว่าไม่นานเธอคงจะได้อุ้มเหลนเร็วๆนี้แน่สำนักงานเขต"ยินดีกับพวกคุณทั้งสองด้วยนะครับ""ค่ะ.. /ครับ"ตอนนี้ฟรานซิสและปลายฝนก็ได้ทะเบียนสมรสมาเรียบร้อยจึงรีบขึ้นรถกลับกันทันทีด้วยท่าทีมีความสุขเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่ใครเห็นก็ต้องอิจฉา"เรียบร้อยซะทีนะ"ฟรานซิสนั่งกอดหญิงสาวอยู่บนรถตู้คันหรูตั้งแต่ออกจากบ้านมาเขายังไม่ปล่อยให้เธอห่างตัวเลย"ทำไมต้องให้ฉันนั่งบนตักคุณด้วยคะ"ปลายฝนซบหัวอยู่ที่อกแกร่งเล่นอย่างสบายอารมณ์"ฉันไม่อยากให้เธอเจ็บ...ฉันมีอะไรจะใ
"ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะฉันเอาตัวรอดเก่ง"ปลายฝนหันหน้าไปบอกกับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้ม"ให้มันเก่งอย่างที่พูดก็แล้วกันรู้ไหมคนร้ายที่มันทำร้ายฉันที่โรงแรมวันนั้นมันขู่ว่าจะเล่นงานเธอกับลูกทำให้ฉันใจไม่ดีซะเลยหากสู้กันซึ่งๆหน้าฉันจะไม่กลัวเลยสักนิด"เรื่องนี้ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องบอกให้เธอรู้เพราะเธอเองก็จะได้ระวังตัว"แบบนี้สินะคะฉันถึงเห็นคุณเครียดอยู่บ่อยๆ"สิ่งที่คาใจของปลายฝนมานานวันนี้ก็ได้กระจ่างเสียทีเพราะเธอเห็นเขาชอบนั่งเครียดอยู่บ่อยๆแต่ก็ไม่ได้อยากถามอะไรออกไป"สังเกตด้วยเหรอ"ฟรานซิสเอียงคอถามคนที่นอนอยู่บนแขน"ค่ะ.. ถ้าคุณเป็นห่วงขนาดนี้ฉันจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้คุณสบายใจนะคะ"หากชายหนุ่มเป็นห่วงเธอ..เธอเองก็ไม่อยากทำให้เขากังวลต่อไปนี้เธอจะเชื่อฟังเขาทุกอย่างและจะไม่ทำให้เขาไม่สบายใจอีก"ดีแล้ว...อ้ะ"ฟรานซิสพูดพร้อมพลิกตัวมาอยู่บนตัวของหญิงสาวจนเธอร้องตกใจเบิกตาโพรง"คืนนี้มีความสุขกันอีกนะ"ชายหนุ่มกระซิบข้างหูหญิงสาวเบาๆด้วยน้ำเสียงแหบพร่า"แต่ว่าฉันยัง..."ปลายฝนหน้าเจื่อนเล็กน้อยเธอไม่ได้อยากปฏิเสธแต่เธอยังรู้สึกว่าส่วนนั้นของเธอยังไม่หายระบมดีสีกเท่าไร"ฉันจะไม่รุนแรงสัญ